ความคิดเห็นที่ 1 ก่อนอื่น ขอกางแผนผังในงานให้ดูก่อน ว่า บู๊ทหุ่นยนต์นี้อยู่ตรงไหน มองเข้าไปในภาพข้างล่าง อ้อ..อยู่มุมบนซ้าย คือ Hall 8 นั่นเอง จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 13:10:07

ความคิดเห็นที่ 2 ซึ่งจากความเดิม ผมได้เดินผ่าน บู๊ท DigitalWorld ไปแล้ว ถึงจะพบ บู๊ทหุ่นยนต์ครับ โอ้โฮ...ทำฉากหน้าเสียยิ่งใหญ่ เลย และมองเห็นเจ้าหุ่นยักษ์ ออฟตรา บอทยืนตระหง่าน มองเห็นได้แทบจากบู๊ทด้านหน้าเลย จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 13:14:33

ความคิดเห็นที่ 3 ตรงเข้าไปดูหุ่นยนต์ยักษ์ก่อนเลยนะครับ ที่มา ของหุ่นตัวนี้ ถูกสร้างเพื่อโปรโมทภาพยนต์เรื่อง ทรานฟอร์มเมอร์ภาค 2 สร้างโดย บริษัทรถยนต์ เชฟโรเลต ร่วมกับ โรงภาพยนต์ในเครือ "เอสเอฟ"  ได้สร้าง 2 ตัวคือ AVEO Bot กับ OPTRA Bot  แต่ได้นำมาแสดงเฉพาะ ตัว OPTRA Bot อย่างที่เห็นในรูป เพราะในภาพยนต์ภาคนี้ ได้เพิ่มหุ่นขึ้นมาจาก โมเดล ขอรถเชพโรเลต อีก 5 ตัว  จึงเป็นที่มาของการจัดสร้างหุ่นยนต์ แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 52 15:11:34 จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 14:37:45

ความคิดเห็นที่ 4 และนี่ก็เป็นรถยนต์คันตัวอย่างที่ คาดว่าจะกลายร่างเป็น หุ่นยนต์ได้  ลองดูให้ดีๆ อาจแปลงร่างได้จริงๆ ในงานนี้.....ฮา แหม..นับเป็นการโฆษณารถยนต์ไปได้อีกต่อหนึ่งเลยนะครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 14:40:46

ความคิดเห็นที่ 5 ลองเข้าไปดูหุ่นยนต์ใกล้ๆ หน่อยซิ ว่าจะมีชิ้นส่วนอะไรของรถยนต์ ต้นแบบบ้าง.... เริ่มจากเท้าก่อน พบล้อครับล้อ เป็นแบบเดียวกับที่รถยนต์ใช้ และโช๊คอัพ แต่ดูยาวเกินไปหน่อย นอกนั้นเป็นฝาครอบที่ ไม่เหมือนกับของรถยนต์ เพียงแต่มีสีคล้ายกันครับ แหม..เข้าใจคิด ล้อก็ควรอยู่ข้างล่างคือเท้า แต่ไม่ได้ใช้วิ่งนะครับ เพราะมี เหมือนนิ้วเท้า(กีบ) ใหญ่ๆ ข้างละ 3 นิ้วใช้ยันพื้นแทนอยู่ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 14:49:28

ความคิดเห็นที่ 6 มองสูงขึ้นไปอีกหน่อย เป็นช่วงลำตัว และขาท่อนบน จะพบ โช๊คอัพอีก  นอกจากนี้จะมีแตรเล็กๆ อยู่ตรงลิ้นปี่พอดี กับ สายไฟเส้นโตๆ ตรงช่วงแขนครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 15:00:16

ความคิดเห็นที่ 7 ส่วนบน ก็มี กระจังหน้ารถ อยู่ตรงหน้าอกหุ่นยนต์พอดี ตามด้วย กันชน อยู่ถัดลงมาเล็กน้อย และหลอดไฟหรี่ ตรงกันชน ก็ย้ายไปอยู่ที่ ตา หุ่นยนต์ และที่ไม่ลืมก็คือ โลโก้ยี่ห้อรถ อยู่ตรงหัวใจของหุ่นยนต์พอดีเลย จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 15:10:13

ความคิดเห็นที่ 8 ด้านหลังของหุ่น(ในส่วนบน) ก็มีล้ออีก 2 เส้นที่เหลือ เกจ์วัด (มองเห็นไม่ชัด) และแม่ปั้มไฮดรอลิค(คิดว่าน่าจะใช่ สำหรับพวงมาลัยเพาเวอร์ หรือเบรค)   ต้องขออภัย ที่รูปไม่ชัด เพราะแสงด้านบนนั้นน้อย ไม่ได้ใช้ขาตั้งกล้อง (ไม่รู้ว่าเขาห้ามหรือเปล่า เพราะไม่เห็นมีใครนำเข้าไปเลย) ก็เลยต้องใช้วิธีการตั้งเวลากดชัตเตอร์ 2 วินาที แทนครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 15:19:00

ความคิดเห็นที่ 9 และนี่เป็นรูปด้านหลังของหุ่น เมื่อมองไปทางข้างหน้า จะเห็นบรรยากาศในงาน ที่มีคนมาเดินชมกันแน่น ทั้งๆ ที่เป็นวันสุดท้ายครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 15:22:31

ความคิดเห็นที่ 10 ใกล้ๆ กันนั้นจะมี บู๊ทโชว์หุ่นเย็นเล็กๆ อยู่ มีชื่อให้พร้อมเสร็จ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 15:26:28

ความคิดเห็นที่ 11 คิดว่าเป็นหุ่นที่มีจำหน่ายในท้องตลาดนะครับ เพราะดูๆ แล้วก็เหมือนของเล่น แต่ชอบเจ้าตัวหุ่นไดโนเสาร์ PLEO ที่ค่อยๆ ส่ายหัวไปมาอย่างช้าๆ และนุ่มนวลมาก "น่ารัก...มากครับ" จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 15:30:46

ความคิดเห็นที่ 12 ถัดมาใกล้ๆ ก็เป็นบู๊ทของหุ่นยนต์ช่วยในทางการแพทย์ครับ ซึ่งจะช่วยในการวิเคราะห์โรค และดูอวัยวะภายใน โดยทางไกลผ่านทางจอภาพได้ครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 15:46:32

ความคิดเห็นที่ 13 จากที่มาแสดงให้ดู จะเป็นหุ่นยนต์ที่มีแขนใหญ่ๆ คล้ายในโรงงานอุตสาหกรรม 2 ตัว คอยใช้เครื่องมือแพทย์ กับหุ่นโมเดลศึกษาคนไข้  ทำให้แพทย์(เฉพาะทาง)ไม่ต้องเดินทางมาผ่าตัดเอง สามารถใช้ระบบสื่อสารทางไกล ควบคุมหุ่น ที่โรงพยาบาลอีกแห่งได้   ซึ่งถ้าหากเป็นคนละประเทศ คนละทวีป แล้วละก็ เหมือนฝันเลยนะครับ ที่ เราสามารถให้แพทย์ อเมริกามาผ่าตัดในไทย โดยไม่ต้องเดินทางมาด้วยตัวเอง ทางปฏิบัติ อาจเป็นการช่วยอำนวยการผ่าตัด เช่น ตรวจหาจุดอวัยวะบกพร่อง ให้คำปรึกษากับคณะแพทย์ ที่อยู่หน้างาน ก็เป็นได้  เพราะแพทย์เก่งๆ เฉพาะทาง นี่ก็หาได้ไม่ยาก และท่านมักจะมีงานยุ่งมากอยู่แล้วครับ จะว่าไปแล้ว ก็เข้าใกล้กับในภาพยนต์ไซไฟ เลยนะครับ ที่ห้องผ่าตัดอาจมีหุ่นยนต์มาทำงานแทน สะอาด ไม่ติดเชื้อ และแม่นยำในเรื่องตำแหน่ง จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 15:54:34

ความคิดเห็นที่ 14 และนี่ก็เป็นหน่วยงานที่ดูแล ทำเรื่องนี้อยู่  ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน เหมือนในภาพยนต์แล้ว และที่สำคัญ เป็นของคนไทย เริ่มเข้ามาใกล้ตัวเรามากขึ้นแล้วนะครับ  "คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล" ใครสนใจลองเข้าไปแวะชมในเว็บไซต์ http://www.bartlab.org ได้เลยครับ (คำว่า bart ย่อมาจาก Biomedical and Robotics Technology) แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 52 16:27:19 จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 16:02:47

ความคิดเห็นที่ 15 ถัดเข้าไปข้างใน ก็จะเป็นสนามเตะฟุตบอลขนาดจิ๋ว ของหุ่นยนต์เล็ก  แต่น่าเสียดายที่ ยังไม่ถึงเวลาแสดง (ตอนนั้นเวลา 14:52) ถ้าจะดู คงต้องรออีกกว่าครึ่งชั่วโมง (ผมจึงไปที่บู๊ทอื่นเลย)  ก็เลยถ่ายภาพ หุ่นขณะที่นั่งรอแสดงให้ชมแทนนะครับ ต้องชมเชยว่าเขาเก่งมากจริงๆ ที่สามารถทำให้หุ่นมีอิริยาบทเหมือนคนได้ นั่งได้ยืนได้ แถมตีลังกาได้อีก ที่สำคัญก็คือ ตัวเล็กอีกต่างหาก ไม่รู้ว่าเขาสามารถยัดเครื่องจักเข้าไปในตัวเล็กๆ นี้ได้อย่างไรกัน ช่างอัศจรรย์จริงๆ ตอนวัยเด็กถึงวัยรุ่น ผมก็ฝันว่าจะสร้างหุ่นยนต์ หรือทำงานเกี่ยวกับหุ่นยนต์ แต่พอผ่านมาๆ ก็พบว่า หุ่นยนต์ในประเทศเราหายาก ไม่ก้าวหน้า มีราคาสูง งานวิจัยพัฒนาก็น้อย หาทุนยาก ผมเลยไม่ได้ทำงานด้านนี้ แต่ไปทำงานด้านคอมพิวเตอร์ แทน แต่ก็ไม่แน่นะ...ถ้าหากมีเงินเหลือบ้าง มีเวลาเหลืออาจ ลองซื้อหาโมเดล วิจัย ที่มีวางขาย ที่บ้านหม้อมาลองเล่นเป็นงานอดิเรกก็ได้.... จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 16:10:11

ความคิดเห็นที่ 16 นี่เป็นภาพด้านข้างของหุ่นยนต์ ซึ่งเท่าที่เห็นก็มีวางไว้ 3 ตัว คือ  1 ตัวตรงประตู ทำหน้าที่เป็นโกผู้รักษาประตู อีก 2 ตัวเป็นตัวยิงลูกบอล ในรูปผมพยายามจะถ่ายภาพกลไกให้เห็นชัดๆ แต่แสงในห้องนั้นน้อย ทำให้ภาพที่ได้ค่อนข้างไหว ยิ่งซูมแล้วก็ยิ่งมัว....  ต้องไปดูด้วยตาตัวเองจะดีกว่า(เอาไว้งานปีหน้า ถ้าเพื่อนๆ สนใจ ก็ลองแวะไปชมได้นะครับ) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 16:16:18

ความคิดเห็นที่ 17 และนี่ก็เป็น โฉมหน้าทีมงาน ผู้นำหุ่นยนต์ชุดนี้มาแสดงให้ชมกัน ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงพัก  คงจะรู้สึกเบื่อกันไม่น้อย เพราะงานได้เปิดมา 14 วันแล้ว (เป็นเราก็คงรู้สึกเช่นนั้นเหมือนกัน เพราะต้องทำอะไรซ้ำๆ มาเป็นร้อยครั้งแล้ว ไปไหนก็ไม่ได้ติดอยู่ที่งาน 2 สัปดาห์) อุ๊บ..ขอโทษ โพสผิดภาพครับ แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 52 16:19:49 จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 16:19:15

ความคิดเห็นที่ 18 รูปอยู่นี่ครับ ขอให้เครดิตเขาหน่อย "สถาบันวิทยาการหุ่นยนต์วิทยาการภาคสนาม  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (บางมด)" มีเว็บลิ้งค์คือ http://fibo.kmutt.ac.th สนใจเข้าไปคลิ๊กดูได้ครับ แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 52 16:25:36 จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 16:21:25

ความคิดเห็นที่ 19 เดินถัดเข้าไปอีก ก็จะเป็นหุ่นยนต์ตีกลองครับ ตีได้ถึง 3 ใบด้วย! แหม..งานแบบนี้ สมควรมาคนเดียว และใช้เวลาเต็มๆ วัน เพื่อรอคอยดูการแสดงในแต่ละรอบถึงจะคุ้มครับ ผมมีเวลาแค่ 3 ชั่วโมง มากันทั้งครอบครัว เลยอดดูการแสดงหุ่นยนต์ ทุกแบบเลย.....เฮ้อ.. จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 16:34:59

ความคิดเห็นที่ 20 ลองใช้กล้องซูมเข้าไปดูใกล้ๆหน่อยซิ จะได้เห็นไส้เครื่องใน เอ๊ย..แผ่นวงจร และกลไกว่าทำได้อย่างไร  (ตรงนี้แสงเยอะ เลยถ่ายภาพได้ชัดหน่อย)  หุ่นตัวนี้ น่าจะนำไปพัฒนาทำอะไรในบ้านเรือนได้เยอะนะครับ  เพราะวิ่งได้ มีแขนให้ทำงานได้ตามต้องการ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 16:40:36

ความคิดเห็นที่ 21 สภาพสนามก็มีเล่นระดับด้วย เจ๋งจริงๆ ที่ไม่ล้ม (น่าเสียดายที่ไม่ได้เห็นการแสดง) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 16:44:52

ความคิดเห็นที่ 22 ใกล้ๆกัน ก็ยังมีหุ่นลักษณะคล้ายๆกันอีกหลายตัว เป็นของมหาวิทยาลัยอีกหลายแห่งที่นำหุ่นมาเข้าร่วมแสดง ในรูป เป็นกลุ่มด้านขวาของบู๊ท สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง, วิทยาลัยเทคนิคฉะเชิงเทรา และ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี พระจอมเกล้าธนบุรี จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 16:51:24

ความคิดเห็นที่ 23 ส่วนอีกด้านก็เป็น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี พระจอมเกล้าพระนครเหนือ กับ วิทยาลัยการอาชีพ กบินทร์บุรี  แหม..นี่ถ้าหากผมยังเรียนอยู่ เชียงใหม่ละก็ คงขอทำวิจัยสักชิ้นมาประกวดกับเขาแล้ว...ว่าเข้าไปนั่น.... จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 16:55:18

ความคิดเห็นที่ 24 เสร็จบู๊ทหุ่นยนต์แล้ว ใกล้ๆ กันก็คือ เวทีกลาง(Main Stage) ของงาน  ซึ่งกำลังมีพิธีมอบรางวัลอยู่พอดีครับ แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 52 19:44:08 จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 19:15:32

ความคิดเห็นที่ 25 ตอนนี้ พิธีกรคนสวยกำลังขึ้นเวทีครับ เข้าใจคิด ทำจอภาพบนฉากเวทีเลย ดูกลมกลืนดีครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 19:38:12

ความคิดเห็นที่ 26 มุมกล้องด้านข้างเวที ก็มองเห็นบริเวณการจัดงานด้านข้างบ้าง  พอดี กำลังมีพิธีการอยู่ ครับ วันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายของงานด้วย คงจะเป็นพิธีปิดงานนะครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 19:42:07

ความคิดเห็นที่ 27 ถัดจาก เวทีกลางเข้ามาในงาน (จากรูปแผนผังในคห.1 คือ ด้านขวามือ) ก็เป็นบู๊ทของ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะผ่านโครงกระดูก เจ้าไดโนเสาร์คอยาวตัวนี้ก่อน จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 19:58:16

ความคิดเห็นที่ 28 ตามด้วย เจ้าปากใหญ่ แขนเล็กตัวนี้  แหม..ถ้าเห็นในป่า ก็มีหวังไม่รอดแน่ๆ ดูน่ากลัวกว่าเสือ หมี สิงห์โต เสียอีก จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 20:00:16

ความคิดเห็นที่ 29 ไดโนเสาร์ตัวข้างบนนี้ มีนามกรว่า "สยามโมไทรันนัส อีสานเอนซิส" โอ้โฮ..นี่ชื่อไทยโดยเฉพาะเลยนะนี่  แสดงว่าพบเห็นได้ที่ประเทศไทย เท่านั้น แหล่งที่พบ คือ อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น  ซึ่งเราพบกระดูกสะโพก และกระดูกสันหลัง มีอายุกว่า 125 ล้านปี ลำตัวยาว 6.5 เมตร คาดว่าเป็นบรรพบุรุษของ ไดโนเสาร์ พัน ไทรันโนซอรัส เจ้าแห่งการล่า ที่ตัวใหญ่ และเป็นที่คุ้นตา เพราะได้เป็นตัวเอกในภาพยนต์เรื่องจูราสสิคปาร์ค จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 20:14:12

ความคิดเห็นที่ 30 ถัดไปก็เป็นเจ้าตัวเล็ก ที่เคยขุดค้นพบในประเทศไทย ที่ อ.ภูเวียง  พันธุ์ "กินรีมิมัส" อุบ๊ะ....ชื่อไทยอีกแล้วซี  ชื่อแบบไม่เป็นทางการคือ ไดโนเสาร์นกกระจอกเทศ ความยาวก็ไม่น้อยประมาณ 3 เมตร กินได้ทั้งพืชและสัตว์ โครงกระดูกที่พบมีอายุ 130 ล้านปี นี่ถ้ามาเจอในป่า ก็วิ่งกันป่าราบอีกเช่นกัน ให้ดูปาก ดูตา ซีครับ ไม่น่าไว้วางใจเลย จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 20:22:13

ความคิดเห็นที่ 31 และแล้วก็มาพบเจ้าตัวหัวโจก ตัวใหญ่กินเนื้อที่น่ากลัวที่สุด เขาคือ "ไทรันโนซอรัส" นั่นเอง  แต่ยังดีที่เป็นแค่โครงกระดูก ไม่รู้ว่าจำลองมาจากภาพยนต์เรื่อง "Night at the Musium" หรือเปล่า... อยู่ๆ โผล่มาแบบนี้ ผมว่าขาเราเองพาลจะวิ่งไม่ออกเอาดื้อๆ ครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 20:27:29

ความคิดเห็นที่ 32 มองด้านข้างก็ยังน่ากลัว ดูแล้วคิดว่าเป็นโครงกระดูกจำลอง เพราะดูเรียบๆ มนๆ อย่างไรชอบกลครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 20:30:39

ความคิดเห็นที่ 33 แต่ส่วนเท้านี่ซิ ทำได้เหมือนมาก เบ้อเริ่มเทิ่มเลย จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 20:33:09

ความคิดเห็นที่ 34 ออกมาจากบู๊ทไดโนเสาร์แล้ว ก็มาถึงบู๊ทสำคัญ อันหนึ่ง ก็คือบู๊ท "ความหลากหลายทางชีวภาพ" มีชื่อภาษาอังกฤษว่า "Biodiversity" ครับ  บู๊ทนี้มีสิ่งที่น่าสนใจคือ หุ่นแมลงเคลื่อนที่ได้ครับ เด็กๆ ชอบมาก บู๊ทนี้แตกต่างจากบู๊ททั้งหลายที่ผ่านมา คือ ไม่สามารถเข้าไปชมได้ทันทีครับ ต้องเข้าคิวรอ ครับ รอทำไม เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะมาต่อนะครับ ตอนนี้แอบถ่ายจากข้างนอกไปก่อนครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 21:02:13

ความคิดเห็นที่ 35 มาต่อกันละครับ กับบู๊ทแห่งความหลากหลายทางชีวภาพ นี้มีป้ายใหญ่โตกว่าใครๆ  พูดง่ายๆ ก็คือ เรื่องของชีววิทยา นั่นเอง จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 15:22:21

ความคิดเห็นที่ 36 บู๊ทนี้ ลูกผมทีแรกไม่อยากเข้า เพราะต้องนั่งรอก่อนเข้า กลัวว่าจะเสียเวลานาน เนื่องจากเริ่มรู้สึกหิวมาบ้างแล้ว บางที แกก็กลัวว่าจะถูกให้เล่นเกมส์ ทำอะไรสักอย่าง ไม่เป็นอิสระเหมือนบู๊ทอื่นๆที่ผ่านมา จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 15:29:30

ความคิดเห็นที่ 37 คือตรงทางเข้านั้นจะมีเต้นท์สีขาวกางขวางอยู่ ไม่สามารถเข้าทางอื่นได้ (มีทางออกได้ทางเดียว ตรงในรูปคห.34)   ทางเจ้าหน้าที่เขาจะให้ผู้ชมนั่งเรียงกันเป็นแถวๆ เรียงกันไม่เกินแถวละ 8 - 10 คน(ทีแรกก็ไม่รู้ ดันไปอยู่ข้างหลังเกือบไม่ได้เข้าแล้ว  รู้อย่างนี้ ก็ให้ไปเริ่มตั้งแถวใหม่เลยจะดีกว่า เพราะตอนแรกๆ เข้าไป มีแค่ 3 แถวเอง แต่ต่อมาได้มีแถวมาเพิ่มเป็นสิบ ถ้าหากใครโดนตัดทิ้งปลายแถว ก็มักจะอดดูในรอบนี้เลย เพราะไปต่อแถวอื่นไม่ทันแล้ว) นั่งรอสักพัก ก็มี พิธีกรออกมาบรรยายสั้นๆ และถามปัญหาให้ตอบเกี่ยวกับ ชาร์ล ดาวิน (คนมีเคราขาวๆ ในรูปด้านหลังพิธีกร) พร้อมให้รางวัลเล็กๆน้อยๆ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 15:35:09

ความคิดเห็นที่ 38 นี่แหละครับ รูปชัดๆ ของคุณชาร์ล ดาวิน นักวิทยาศาสตร์ชื่อดัง เกี่ยวกับทฤษฎีทางชีววิทยา ที่ชื่อว่า "ทฤษฎีวิวัฒนาการ"  หลายคนคงเคยเรียนมาในวิชาชีววิทยา ชั้นม.ปลาย นะครับ ลองดูประวัติของท่านคร่าวๆหน่อยนะครับ  ท่านเป็นคนอังกฤษ เกิดเมื่อปี พ.ศ.2352 (ก่อนกรุงรัตโกสินทร์ 27 ปี)  บิดาของท่านเป็นแพทย์ ก็อยากให้ท่านเป็นแพทย์เหมือนท่านจึงบังคับให้ท่านเรียนจนจบ  ในขณะที่ท่านเองชอบธรรมชาติ ยิงนก ตกปลา ไล่จับแมลงต่างๆ ไปตามเรื่อง  จนราชนาวีอังกฤษ ได้ออกสำรวจ ชายฝั่ง มหาสมุทรแอตแลนติคใต้ และมหาสมุทรแปซิฟิค ก็ได้มีคนไปบอกดาร์วินให้ไปช่วยสำรวจด้วย ซึ่งทีแรก พ่อของท่านก็ไม่ยอมให้ไป จนมีคนมาขอร้องพ่อของท่าน จนอนุญาตให้ท่านไปร่วมสำรวจได้ เป็นระยะเวลานานถึง 5 ปี ท่านชอบมากที่สุดคือ หมู่เกาะกาลาปากอส อันเป็นแรงบันดาลใจให้ท่านสร้างทฤษฎีขึ้นมาได้ ซึ่งเมื่อท่าน ดาร์วิน กลับมาก็ได้ศึกษาจัดทำหมวดหมู่ ซากพืชซากสัตว์ที่เก็บมา และได้พิมพ์หนังสือ "A Naturalist's Voyage Around the World" ที่มีเนื้อหาเล่าถึงการเดินทางสำรวจของท่าน ท่านได้เขียนอีกหลายเล่ม จนท่านเสียชีวิตไปในปี พ.ศ.2425 แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 52 16:02:20 จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 16:00:31

ความคิดเห็นที่ 39 ตอนนี้ก็ได้เวลาเข้าไปชมแล้ว เต็นท์ก็ได้เปิดม่านให้ทะยอยเข้าไปทีละแถวครับ  ผู้ที่รออยู่ข้างนอก ก็ต้องลุ้นกันหน่อยว่า เต้นท์จะเต็มก่อนถึงตัวเองหรือไม่...ฮิฮิ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 16:16:59

ความคิดเห็นที่ 40 ผมโชคดีที่ ยืนอยู่ในแถวไม่เกินที่เขากำหนด เลยได้เข้ารอบนี้  ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้จัดให้คนเข้ามาจนเต็มเต็นท์เลย แล้วเริ่มฉายภาพยนต์ ให้ดู จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 16:21:24

ความคิดเห็นที่ 41 ทีแรกนึกว่าหนังการ์ตูนสนุกๆ  อ้อ.. คือชีวประวัติของ ชาร์ล ดาวิน นั่นเอง แต่ทำเป็นการ์ตูน ให้ดูที่กระทู้ของ คุณแม่ซากานะ เพราะได้บรรยายไว้ค่อนข้างละเอียดครับ บรรยากาศมืด เลยไม่ค่อยได้ถ่ายภาพ ครับ (แถมนั่งข้างล่าง เลยมีคนบังอีกด้วย) http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8210528/E8210528.html#12 จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 16:42:35

ความคิดเห็นที่ 42 ดูภาพยนต์สั้นจบแล้ว ก็ออกมาจากเต้นท์อีกด้านหนึ่ง เหลือบมาเห็น ผู้ชมอีกกลุ่มที่ยังรออยู่ข้างนอก..... อ้อ..นี้คือสาเหตุที่ต้องรอ ก็คือรอชมภาพยนต์บรรยายก่อน ที่จริงก็ไม่จำเป็นต้องให้ชมก็ได้ เพราะเนื้อหาไม่ได้เกี่ยวข้องกับ เรื่องราวในบู๊ทเลย  เพียงแต่ถ้าหากใครสนใจก็เข้าไปฟังภาพยนต์ได้..... แต่ ทางผู้จัดอาจอยากให้ผู้เข้าชมได้ร่วมสนุกมากกว่านะครับ  ดีกว่าต่างคนต่างดูกันไป เพราะสำหรับคนที่มีเวลาน้อย ก็คงไม่สามารถรอดูได้ อย่างเช่นกลุ่มผม ซึ่งเลยไม่ได้เข้าไปดูภาพยนต์ ที่บู๊ท ดาราศาสตร์เลย จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 17:05:08

ความคิดเห็นที่ 43 เข้าไปปุ๊บก็เจอกับตู้ปลาจิ๋ว หลากหลายพันธุ์ปลาในช่องเล็กๆ นี่ก่อนเลย ใครชอบดูปลาเล็กๆ ก็มาชมกันที่นี่ครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 17:15:35

ความคิดเห็นที่ 44 เข้าไปดูใกล้ๆ ตรงช่องใส่ปลากันเลย ลูกผมคงรู้สึกอยากกัดปลา บ้างเข้าแล้วนะครับ เพราะเห็นมีแต่ปลากัดเต็มไปหมด...ฮา จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 17:24:00

ความคิดเห็นที่ 45 ด้านนี้เป็น แมงกระพรุนหัวกลับ สีขาวๆ เมื่อต้องแสงไฟอุลตราไวโลเอ็ต ก็ดูสวยงามแปลกตาดีครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 17:33:31

ความคิดเห็นที่ 46 เข้าไปถ่ายใกล้ๆ แบบแมคโครกันหน่อย แสงน้อย แมงกระพรุนไม่ค่อยอยู่นิ่งอีก ภาพเลยมัว... นี่ถ้าเห็นด้วยตาจะสวยมากครับ แมงกระพรุนหัวกลับ มีชื่อเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า "Upside Down Jelly Fish" จะพบได้ทั่วไป ปกติจะชอบเอาหัวลงติดกับพื้นทราย และปล่อยให้หนวดที่อยู่ด้านบนคอยจับสัตว์น้ำเล็กๆ กินเป็นอาหาร  ซึ่งหนวดเหล่านี้จะมีเข็มพิษเล็กๆ อยู่  มีพิษแตกต่างกันตามชนิดของแมงกระพรุน ซึ่ง สำหรับแมงกระพรุนไฟ จะมีพิษแรงมาก ถ้าหากโดนต้องรีบขึ้นฝั่ง แล้วล้างด้วยน้ำทะเลออกให้มากที่สุด ห้ามขัดถูบริเวณที่โดน  จากนั้นใช้น้ำส้มสายชูราดลงไป แล้วใช้น้ำอุ่นค่อนข้างร้อน(เท่าที่ทนได้)ประคบลงบนจุดที่โดน  ถ้าหากมีผักบุ้งทะเลมาตำให้ละเอียด(ทั้งใบ ยอด ก้าน) โปะแผลจะดีมาก ถ้าหากยังเจ็บปวดอยู่ ก็ทานยาแก้ปวดและรีบนำส่งแพทย์ ครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 17:46:02

ความคิดเห็นที่ 47 หันไปอีกด้านหนึ่งจะเห็นคนมุงกันอยู่ จนแทบไม่เห็นหุ่นยนต์แมลงเลยสักตัวเลยครับ เดี๋ยวเราจะเข้าไปดูใกล้ๆกัน ว่าเป็นอย่างไร เหมือนมากแค่ไหน จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 17:52:09

ความคิดเห็นที่ 48 ผมขอแหวกคนเข้าไปดูบ้าง  โอ้โฮ.. เหมือนจริงมาก กับหุ่นตัวแรก คือ แมงมุมยักษ์ครับ ดูสีหน้าเด็กซีครับ ยังรู้สึกเสียวๆ เหมือนจะเร่งให้พ่อช่วยถ่ายรูปเร็วๆหน่อย บรื๊อย์..... จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 17:55:53

ความคิดเห็นที่ 49 ลองถ่ายแบบเต็มตัวกันหน่อย  น่ากลัวและน่าขยะแขยงจริงๆ ครับ ต่อให้ตัวเล็กเท่าใดก็ยังไม่น่าพิศวาส เลย ดูแล้วก็เหมือนกับ แมงมุมในเรื่องลอร์ด ออฟ เดอะริงค์ เลยครับ ชื่อของเขามีนามกรว่า "ทารันทูร่า เป็นแมงมุมที่มีมาแต่โบราณ แล้ว มีพิษมาก  การล่าเหยื่อของเขา ไม่ได้ใช้ใยเหนียวๆ เหมือนกับแมงมุมทั่วไป เขาจะออกล่าเหยื่อด้วยตัวเอง โดยการตะปบ ใช้เขี้ยวแทงไปในเหยื่อ ทำให้เหยื่อชา เป็นอัมพาตทั้งตัว แล้วปล่อยน้ำย่อยมาดูดกินเหยื่อ ทั้งที่เหยื่อยังหายใจอยู่(แต่ไม่รู้สึกเจ็บ)  บรื๊อย์... ฟังแล้วขนลุก  คล้ายกับแมงมุมยักษ์ในเรื่องลอร์ดฯ จริงๆ ที่ใช้เขี้ยวแทงพระเอก (โฟรโด้) ในบ้านเราก็มีแมงมุมมีขนแบบนี้เช่นกัน เรียกกันว่า "บึ้ง" คนอีสานนำมาปิ้ง ย่างกินได้ เอื้อก!.... ไม่รู้ว่าทานไปได้อย่างไรกัน  ตอนเด็กๆ ที่ผมอยู่ต่างจังหวัดยังเคยเห็น แมงมุมขามีขน แล้วยังรู้สึกแขยงมากๆ...ยิ่งกว่า ตุ๊กแกเสียอีก จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 18:12:30

ความคิดเห็นที่ 50 นี่เป็นภาพการตะปบเหยื่อ โดยใช้ขาหน้ายกขึ้นแบบนี้  น่ากลัวจริงๆ  ผู้สร้างเข้าใจทำมาก  เล่นยกขาทีละ 2 คู่ เลย......  เป็นกลไกอัตโนมัติครับ จากรูปข้างล่างนี้ ตำแหน่งเขี้ยวพิษจะอยู่ตรงด้านหน้า บริเวณปาก ซึ่งแตกต่างจากแมงมุมในภาพยนต์เรื่องลอร์ด ออฟ เดอะริงค์ ที่เขี้ยวพิษไปอยู่ที่ก้น เวลาแทงต้องกระแทกก้นลงมาที่เหยื่อ  จนทำให้ แซม เพื่อนโฟรโด้ ได้ใช้มีดตั้งไว้บนพื้น(โดยบังเอิญ) จนแมงมุม กระแทกก้นมาโดนมีด เข้าไป จึงทำให้รอดกลับมาได้  ทั้งๆ ที่แซมพยายามแทงแมงมุมยักษ์ แล้วไม่เข้า เพราะแรงไม่เพียงพอ แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 52 18:39:11 จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 18:20:57

ความคิดเห็นที่ 51 ถัดมาก็เป็น หุ่น แมงป่องยักษ์ ครับ  กำลังจับเหยือ ที่ดูคล้ายกับ กิ้งก่า  แมงป่องชนิดนี้มีชื่อว่า แมงป่องจักรพรรดิ์ ครับ มีถิ่นกำเนิดที่ แอฟริกา  อาจมีขนาดใหญ่ได้ถึง 8 นิ้ว และมีอายุยาวถึง 8 ปี  แม้ว่าแมงป่องจะมี ตามากหลายคู่ แต่ก็แทบจะไม่ได้ประโยชน์ เพราะรับรู้เรื่องแสงได้ช้ามาก  แต่แมงป่องกลับใช้ขนในการรับรู้เสียงได้ดีมาก แมงป่องจะออกหากินตอนกลางคืน กลางวันจะหลบอยู่ในรู ใต้ก้อนหิน หรือขอนไม้ต่างๆ  ตามลำตัวจะสะท้อนแสง อุลตราไวโอเล็ต จนดูเรืองแสงได้ ก็เพราะผิวชั้นนอก ชาวจีนนิยมนำแมงป่องมาปิ้ง ย่าง หรือดองเหล้า เพื่อใช้เป็นยาขับพิษต่างๆ ได้ดี บรื๊อย์...นี่ก็กินไม่เว้นเลย คนเรานี่ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 18:35:20

ความคิดเห็นที่ 52 รูปนี้เป็น การเคลื่อนไหวของหุ่น ที่กำลังใช้เขี้ยวพิษที่หาง แทงเหยื่อ อย่างโหดเหี้ยมครับ ผู้ออกแบบช่างเก่งจริงๆ ที่สามารถทำให้หางหุ่นแมงป่อง ค่อยๆ โค้งลงมาได้โดยไม่มีเชือก ใดๆ ดึงไว้เลย จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 18:48:16

ความคิดเห็นที่ 53 ถ่ายซูมเข้าไปใกล้ๆ ตรงบริเวณเขี้ยวพิษ  ทำได้เหมือนของจริงมากเลยครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 18:54:48

ความคิดเห็นที่ 54 หุ่นแมลงยักษ์ตัวถัดมาก็คือ ตั๊กแตนครับ แม้จะเป็นสัตว์ที่ไม่มีพิษ แต่ก็ทำให้พืชไร่ของชาวเกษตรกรเราเสียหายได้มาก จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 19:03:47

ความคิดเห็นที่ 55 ตอนนี้ ตั๊กแตนกำลังจะยืนครับ ต้องยกก้นก่อน..เอ้าฮึ้บ!.... แต่น้องหนูในรูป ไม่รู้สึกกลัวเลย จับหนวดเล่นอีกต่างหาก...เฮ้อ..เสียสถาบันแมลงยักษ์ไปเลยนะนี่ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 19:10:31

ความคิดเห็นที่ 56 ตอนนี้ยืน ยืดอกเต็มที่ (พร้อมกางปีกให้ดูด้วย)  ใครหญ่ายในบู๊ทนี้...บ้าง...ฮ่า..... ยืนแล้วสูงเกินหัวคนเยอะเลยครับ แน่จริงๆ..นาย จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 19:15:21

ความคิดเห็นที่ 57 ส่วนรูปนี้ ลูกผมขอสักแช๊ะ เพื่อจะได้เป็นที่ระลึกว่าได้มาดู หุ่นแมลงยักษ์แล้วครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 19:47:42

ความคิดเห็นที่ 58 ก่อนออกจากบู๊ทแมลงยักษ์นี้ ขอภาพหน้าเต็ม โตๆ สักภาพของเจ้าตั๊กแตนยักษ์นี้หน่อยครับ  ไม่ใช่ภาพจากกล้องขยายนะครับ  ทางผู้สร้างทำได้เหมือนจริงๆ เลยครับ ดูๆ ไปก็คล้ายกับมดแดง 3 หรือที่นิยมเรียกว่า มดเขียววี 3 นั่นแหละ  ซึ่งค้นจากประวัติมดแดง ก็พบว่ามาจาก ตั้กแตน ไม่ใช่มดแดง แต่คนไทยกลับมองว่าเป็นมดแดง ซึ่งไปสอดคล้องกับ พิษสงของมดแดง เข้าทำนองว่า  ตัวเล็กแต่พิษกัดต่อยแรง ครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 19:53:08

ความคิดเห็นที่ 59 วันนี้ก็ได้ฤกษ์มาต่อกันในภาคที่สามครับ  มาช้าดีกว่าไม่มาเลยครับ เชิญติดตามที่ลิ้งค์ข้างล่างนี้ได้เลยครับ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8297418/E8297418.html จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 17:12:55