ความคิดเห็นที่ 1 "วนอุทยานเขาหลวง" พี่ ป. มาทำงานวิจัยอยู่ในพื้นที่นี้อีกสองสามเดือนก็จะครบปี แต่ตอนนี้เหลือเวลาที่จะอยู่ที่นี่อีกเพียง "หนึ่งเดือน" คิดแล้วก็ใจหาย เพราะกว่าอะไรจะเข้าที่เข้าทาง ทั้งกาย และใจ ก็ใช้เวลานานมากเหมือนกัน ช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดของการมาทำงานที่นี่ หนึ่ง - เห็นป่าเขาที่นี่เขียวชะอุ่ม อุดมสมบูรณ์ ทรัพยากรต่างๆที่พรางกายไว้ในหน้าแล้ง ก็ถึงเวลาแสดงตัว สอง - เริ่มรู้จักน้ำจิตน้ำใจคนรอบๆเขา มีแตกต่างกันไป มีทั้งอยากเข้าใกล้ และอยากหนีไปไกลๆ ฯลฯ คำเชยๆ ที่หลายคนมักพูดอยู่บ่อยๆ อย่าง งานเลี้ยง ย่อมมีวันเลิกลา ยังคงเป็นจริงเสมอ เวลาอีกแค่เพียงหนึ่งเดือนนับจากวันนี้ คิดอีกทีก็ใจหาย แต่ก็ดีใจที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่ แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 52 20:10:31 แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 52 16:22:36 จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 16:21:31

ความคิดเห็นที่ 2 เข้ามาลงชื่อไว้ก่อน เดี๋ยวกลับบ้านจะเข้ามาดูอย่างจริงจัง จากคุณ : khewbaa เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 16:28:09

ความคิดเห็นที่ 3 โห รูปสวยเชียวนะคะพี่ ป. ไปอัดเป็นพีซีร่อนมาทางนี้มั่งจิ หรือว่าจะรอรับอย่างเดียวอ่า จากคุณ : poppiko เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 16:28:22

ความคิดเห็นที่ 4 ไหนๆก่อนจาก พี่ ป. ก็อยากให้เพื่อนๆ ได้รู้จักกับ วนอุทยานเขาหลวง เผื่อว่าวันหนึ่ง มีโอกาส จะได้แวะมาเยี่ยมเยือน เทือกเขาลูกเล็กๆ ไม่ได้ยิ่งใหญ่ในสายตาเจ้านายในกรม แต่กลับมีคุณค่าต่อคนที่อยู่รอบเขา อย่างปฏิเสธไม่ได้ .................................................................. หุบขาคีม วนอุทยานเขาหลวง วนอุทยานเขาหลวง มีสภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาที่อยู่ใกล้เมืองนครสวรรค์มากที่สุด มียอดเขาหลวง เป็นยอดสูงสุด คือ สูง 772 เมตรจากระดับน้ำทะเล นับว่าเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารไหลหล่อเลี้ยงชุมชุนโดยรอบหลายหมู่บ้าน ในเขต 5 อำเภอ 2 จังหวัด คือ จังหวัดนครสวรรค์และจังหวัดอุทัยธานี  พื้นที่ยังคงอุดมด้วยทรัพยากรที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ  มีพรรณไม้ที่มีคุณค่า และเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด ภูเขาหลวงมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าสนใจหลายแห่ง โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณน้ำตกโกรกซ่า-โกรกกระแป๋ง ซึ่งอยู่บริเวณด้านทิศตะวันออกของพื้นที่วนอุทยานเขาหลวง ในอดีตชาวบ้านเรียกขานพื้นที่แห่งนี้ว่า "หุบขาคีม" ตามรูปลักษณะภูมิประเทศที่มีรูปร่างคล้ายขาคีม ในบริเวณดังกล่าว มีน้ำตกซึ่งไหลในช่วงฤดูฝนที่สวยงามอย่างน้อย 3 แห่ง ได้แก่ น้ำตกโกรกซ่า น้ำตกโกรกกระแป๋ง และน้ำตกโกรกเสลา มีธรรมชาติที่สวยงามและคงความอุดมสมบูรณ์อยู่มาก โดยเฉพาะเป็นแหล่งพืชสมุนไพรหลากหลายชนิด มีศักยภาพที่จะสามารถพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สำคัญของท้องถิ่นและจังหวัดนครสวรรค์ได้ แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 52 21:09:53 แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 52 17:37:59 จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 16:29:55

ความคิดเห็นที่ 5   ธรรมชาติ  ชวนน่าหลงไหลจริงๆๆ อิอิ  หรือว่าจาหลงป่าไปซะแล้ว แวะมาชมภาพสวยๆๆ จากคุณ : kanun (mydearja) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 16:38:49

ความคิดเห็นที่ 6 ทำงานมาจนเกือบจะปิดโครงการ เราถึงเพิ่งได้เริ่มกระบวนการจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชนขึ้น ความจริงแล้ว โดยรอบวนอุทยานเขาหลวงมีพื้นที่ที่มีศักยภาพหลายแห่ง สวยงามกว่า "หุบขาคีม" ก็หลายที่ แต่กระบวนการทำงาน การพัฒนาแบบมีส่วนร่วม จำเป็นที่จะต้องอาศัยปัจจัยหนึ่งซึ่งมีความสำคัญ นั่นก็คือ "คน" คนที่หุบขาคีม หนองตายาย มีอะไรหลายอย่าง ที่ทำให้คณะวิจัยเลือกพื้นที่นี้ในการทำงาน ตอนนี้กระบวนการจัดการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์โดยชุมชน กำลังก้าวไปทีละก้าว อนาคต "เรา" ยังมีอะไรที่ต้องเรียนรู้อีกมาก และสิ่งหนึ่งที่เรารอจาก "ท่าน" คือ "การเรียนรู้ร่วมกัน" ตอนนี้ ต่างคนต่างช่วยกัน ชาวบ้านก็เตรียมงาน คณะวิจัยก็เตรียมหลักวิชาการ พี่ ป. ก็ช่วยเต็มที่ในส่วนที่ทำได้ เมื่อทุกอย่างพร้อม พี่ ป. ก็อยากให้เพื่อนๆมาเยี่ยมที่นี่ หรือตามล่าตราประทับ(สวยๆ)ที่นี่บ้าง ถ้าใครเป็นแฟนคลับ(อันน้อยนิด)ของพี่ ป. ก็ถือว่าไม่ควรพลาด เพราะตราประทับที่นี่ ฝีมือพี่ ป. ............................................................................................. (ต่อ) แต่เนื่องจากข้อจำกัดของทางราชการโดยวนอุทยานเขาหลวง ที่มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานไม่เพียงพอต่อการบริหารจัดการพื้นที่เพื่อการท่องเที่ยว เครือข่ายราษฎรบ้านหนองตายาย หมู่ 3 และหมู่ 8 ตำบลบางประมุง อำเภอโกรกพระ จังหวัดนครสวรรค์ จึงได้รวมตัวกันและร่วมมือกับเทศบาลตำบลบางประมุงและวนอุทยานเขาหลวง จัดการท่องเที่ยวเชิงนิเวศขึ้นมา โดยมุ่งเน้นให้นักท่องเที่ยวเกิดจิตสำนึกต่อการอนุรักษ์ มีการเรียนรู้ร่วมกัน และรับผิดชอบต่อแหล่งท่องเที่ยว ทั้งทางธรรมชาติและวัฒนธรรม ร่วมกับทางชุมชน การจัดการท่องเที่ยวเชิงนิเวศหุบขาคีม (วนอุทยานเขาหลวง) โดยชุมชนบ้านหนองตายาย มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการทำงานด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่น และเสริมสร้างรายได้ ยกระดับคุณภาพชีวิต ตลอดจนการนำผลตอบแทนที่ได้รับกลับมาบำรุงรักษาและจัดการแหล่งท่องเที่ยวท้องถิ่น อันจะก่อให้เกิดประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจและสังคมต่อชุมชนทั้งทางตรงและทางอ้อมอย่างยั่งยืน ข้่อมูล - หัวหน้าณัฐธชัย อดีต - หัวหน้าวนอุทยานเขาหลวง ปัจจุบัน - หัวหน้าสวนรุกขชาติ 100 ปี กรมป่าไม้ (ซับสมบูรณ์) ไพศาลี นครสวรรค์ / คณะวิจัย แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 52 21:08:59 จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 16:44:00

ความคิดเห็นที่ 7 มาแอบดู จากคุณ : ไข่มุกน้อย เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 16:49:12

ความคิดเห็นที่ 8 สวัสดีทุกท่าน ขออนุญาตไปทักทายตอนท้ายนะครับ ตอนนี้ขอไปแบบเรื่อยๆ ................................................................................................................ นอกจากตราประทับสวยๆ พี่ ป. ยังวางแผนจัดทำของที่ระลึกไว้อีกหลายรายการ เพื่อนำผลประโยชน์เหล่านั้นมาเป็นสวัสดิการให้กับเครือข่ายอาสาสมัครที่เสียสละดูแลรักษาป่า กว่าจะมาถึง การจัดการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์โดยชุมชน เราก็ทำงานในพื้นที่นี้หลายเรื่อง ทั้งกิจกรรมป้องกันและดับไฟป่า ซึ่งคณะวิจัยของเราจัดกิจกรรมรอบเขาหลวง 35 หมู่บ้าน สาหัสเหมือนกันครับ แต่ชุมชนหนองตายาย ก็เป็นชุมชนหนึ่งที่ร่วมปฏิบัติงานดูแลป่าบริเวณหุบขาคีมอย่างเข้มแข็ง และโดดเด่นมากอีกชุมชนหนึ่ง เราทำกระบวนการ ทั้งจัดฝึกอบรมดับไฟป่า ประชาสัมพันธ์ ปฏิบัติงานเมื่อเกิดไฟไหม้จริงๆ และประชุมติดตามประเมินผลกันอย่างใกล้ชิด แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 52 16:55:49 จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 16:54:52

ความคิดเห็นที่ 9 จัดค่ายฝึกอบรมเครือข่ายเยาวชน เพื่อสร้างและปลูกฝังจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์ จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 16:58:31

ความคิดเห็นที่ 10 เพราะเด็กในวันนี้ คือผู้ใหญ่ในวันหน้า ที่จะเข้ามาทำหน้าที่พิทักษ์ป่า แทนเรา จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 16:59:39

ความคิดเห็นที่ 11 จัดกิจกรรมปลูกป่า ทั้งในพื้นที่ป่าชุมชนเดิม จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 17:01:51

ความคิดเห็นที่ 12 และปลูกในพื้นที่ใหม่ ที่เคยถูกบุกรุกพื้นที่ป่าเพื่อทำการเกษตร วันนี้เราเริ่มกันใหม่ ทั้งเด็ก ทั้งผู้ใหญ่ จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 17:03:30

ความคิดเห็นที่ 13 จากสภาพป่าที่แห้งแล้ง ถูกบุกรุกทำลาย ถูกไฟไหม้ทุกปี จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 17:05:49

ความคิดเห็นที่ 14 เมื่อได้รับการดูแลรักษา ก็ดีขึ้น จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 17:06:29

ความคิดเห็นที่ 15 และเมื่อฝนฟ้า เทวดาเป็นใจ ประทานฝนมาให้ ก็กลับมาเขียวชะอุ่ม ชุ่มชื้น จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 17:07:37

ความคิดเห็นที่ 16 เมื่อธรรมชาติมีความงดงามเต็มที่ เราจึงถือเอาช่วงเวลาดีๆนี้ จัดกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ขึ้น เพื่อให้คน "ภายนอก" ได้รู้ว่า ป่า "หุบขาคีม" ของเรามีของดี มีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์เพียงใด เชิญมาชื่นชม และเรียนรู้ร่วมกัน และเพื่อให้คน "ในชุมชน" ได้รู้สึกภาคภูมิใจ ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการเรียกความอุดมสมบูรณ์กลับคืนมา "ดอกตะแบก พรรณไม้เอกลักษณ์ของวนอุทยานเขาหลวง" จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 17:14:21

ความคิดเห็นที่ 17 ถ้าคุณรักษ์ป่า ....โปรดอย่าลืมรักปุ๊ จากคุณ : gotland เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 17:14:56

ความคิดเห็นที่ 18 ป่าคือเพื่อนชีวิต  ทิดคือเพื่อนชีวา แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 52 20:15:13 จากคุณ : gotland เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 17:15:43

ความคิดเห็นที่ 19 เราทำงานร่วมกับชาวบ้านอย่างใกล้ชิดในทุกๆกิจกรรม มีการประชุมหารือกัน เป็นการพัฒนา การวิจัยที่อาศัยการทำงานร่วมกัน แรกเริ่มเดิมที เราจะสร้างอาคารศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและดับไฟป่าขึ้นในพื้นที่ป่าชุมชนของหมู่บ้าน จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 17:17:36

ความคิดเห็นที่ 20 แต่ใช่ว่าอะไรๆ จะง่ายไปทุกสิ่ง งานทุกงานมักมีอุปสรรคเสมอ แต่เมื่อยึดมั่น เอาอุดมการณ์ ผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง เรื่องอื่นเป็นเรื่องรองแล้ว ปัญหาต่างๆ ก็ค่อยๆคลายไป ทุกฝ่ายช่วยกันลงหลักและปักเสาแห่งการอนุรักษ์ อนาคตจะมีปัญหาอะไร เราก็จะช่วยกันแก้ไข จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 17:21:49

ความคิดเห็นที่ 21 พี่ ป. ออกแบบ เจ้าหน้าที่ไม่ติดขัด ชาวบ้านเสียสละไม้ในสวนสัก ลงมือ และลงแรง จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 17:23:24

ความคิดเห็นที่ 22 ปาดพี่ป. ปรวนแปร เพื่อขวัญและกำลังใจ จากน้องป. แปรเปลี่ยน จากคุณ : เสี่ยวเอี้ยน เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 17:26:13

ความคิดเห็นที่ 23 แต่หลายๆอย่างมันก็ไปไกลเกินกว่าที่เราจะสกัดกั้นไว้ได้ เมื่อท้องถิ่นอยากเข้ามามีส่วนร่วม แฝกที่อยู่ในหัวของพี่ ป. และคณะวิจัย ก็กลายมาเป็นกระเบื้องสีเขียว เอ้า ไม่ว่ากัน เรียนรู้ร่วมกัน และรับผิดชอบร่วมกัน ก็ได้แต่ขอให้มันเก่าเร็วๆ รา ตะไคร่ ไลเค่น ช่วยกันมาเกาะไวๆนะ จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 17:26:31

ความคิดเห็นที่ 24 เมื่อเราได้อาคารศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและดับไฟป่ามาแล้ว แต่ก็อีกตั้งนานกว่าเราจะได้ทำงานด้านไฟในปีหน้า ขอยืมมาเป็นศูนย์ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์โดยชุมชน ก่อนนะ จะจัดกิจกรรมท่องเที่ยวในช่วงเวลาปลายฝน-ต้นหนาว แม้จะเพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆเพียง 4 เดือน แต่การวางแผน หลักวิชาการ เป็นสิ่งที่เราทิ้งไม่ได้ สำหรับชุมชนที่เพิ่งเริ่มจะเรียนรู้ในเรื่องนี้ สิ่งไหนที่ชาวบ้านควรรู้ เราไม่รอช้า หาคนเก่ง คนดีมีฝีมือ มาวางแผน มาฝึกอบรมให้ แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 52 17:32:23 จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 17:31:10

ความคิดเห็นที่ 25 นักวิชาการ คณะวิจัย และชาวบ้าน ร่วมกันออกสำรวจพื้นที่ในหุบขาคีม เพื่อหาของดีที่ซ่อนอยู่ในป่า บางอย่างเรารู้ ชาวบ้านไม่รู้ หลายอย่างชาวบ้านรู้ เราไม่รู้ มีอีกหลายๆอย่าง ที่ทั้งเรา และชาวบ้านไม่รู้ เราจึงอยากเชิญชวนท่านที่มีความรู้ มาร่วมเรียนรู้ "ร่วมกัน" กับเรา จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 17:35:34

ความคิดเห็นที่ 26 เราจึงได้เส้นทางศึกษาธรรมชาติที่น่าสนใจ สำหรับเด็กโตไปจนถึงผู้ใหญ่ เดินไกลประมาณกิโลกว่าๆ ใช้เวลาประมาณครึ่งวัน ขึ้นเขา ลงห้วย ผจญภัย ได้เหงื่อ และได้ความรู้ แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 52 17:51:35 จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 17:44:33

ความคิดเห็นที่ 27   จัดได้ดี น่าเรียนรู้ จะเป็นประชาสัมพันธ์ให้นะจ๊ะ จากคุณ : Memory in my Heart เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 17:50:29

ความคิดเห็นที่ 28 เราได้ออกแบบกิจกรรมต่างๆ สำหรับช่วงเวลา 4-5 เดือน ดังนี้ รูปแบบและกิจกรรมท่องเที่ยว 1. กิจกรรมเดินป่าศึกษาธรรมชาติ "เส้นทางน้ำตกโกรกซ่า-โกรกกระแป๋ง" (โปรแกรมท่องเที่ยว 1 วัน) 1.1) ระยะทางเดินป่า 1-2 กิโลเมตร ใช้เวลาการเดินทาง ประมาณ 3-4 ชม.(โดยออกเดินทางจากศูนย์ท่องเที่ยวโดยชุมชนหุบขาคีม เวลาประมาณ 10.00 น. และเดินทางกลับถึงศูนย์ท่องเที่ยวฯ เวลา 14.00 น.) 1.2) จุดเด่นที่น่าสนใจระหว่างเส้นทาง อาทิ ระบบนิเวศป่าเบญจพรรณ-ระบบนิเวศป่าดิบแล้ง-ฝายชะลอน้ำตามแนวพระราชดำริ-ความหลากหลายของพืชสมุนไพร-ต้นละหุ่งป่า-ต้นไม้ไดโนเสาร์-ดงเสือโคร่ง-น้ำตกโกรกกระแป๋ง-ดงกระแต-ทุ่งหงส์เหิร-จุดชมวิว-น้ำตกโกรกซ่า-ต้นไม้ยักษ์ เป็นต้น 1.3) มีราษฎรอาสาสมัครบริการนำเที่ยว ในกรณีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเป็นหมู่คณะๆละ 10-15 คน ต่ออาสาสมัครนำเที่ยว 2 คน รวมถึงมีบริการรับสั่งอาหารพื้นบ้านเพื่อนำไปรับประทานในระหว่างเส้นทาง (อาหารที่บรรจุในวัสดุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม) 1.4) ช่วงการให้บริการท่องเที่ยว 3 เดือน คือ ระหว่างช่วงเดือนสิงหาคม-ตุลาคม ของทุกปี โดยอาสาสมัครนำเที่ยวจะให้บริการประจำในวันหยุดสุดสัปดาห์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ กรณีหากนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในช่วงตรงกับวันราชการ จะต้องติดต่อกับเครือข่ายอาสาสมัครฯ ล่วงหน้า 2. กิจกรรมพิชิตยอดเขาหลวง เป็นกิจกรรมเดินป่าเพื่อพิชิตยอดเขาหลวง ที่ความสูง 772 เมตรจากระดับน้ำทะเล ศึกษาธรรมชาติ แหล่งวัฒนธรรม และพักค้างแรมบนยอดเขาหลวง ช่วงเวลาให้บริการ คือ ระหว่างช่วงเดือน พฤศจิกายน-ธันวาคม ของทุกปี 3. กิจกรรมเข้าค่ายพักแรม (ค่ายอนุรักษ์ฯ, ค่ายลูกเสือ) เป็นกิจกรรมที่มุ่งส่งเสริมกิจกรรมด้านการอนุรักษ์สำหรับสถานศึกษาและเยาวชน รวมไปถึงหน่วยงานต่างๆที่สนใจทำกิจกรรมใกล้ชิดธรรมชาติ แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 52 21:19:22 จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 17:50:37

ความคิดเห็นที่ 29 เชื่อว่าสมาชิกคงจะทริปไปเยี่ยมเยือนแน่ๆ เลยค่ะ ว่าแต่ไปเที่ยวนี่ต้องทรหดไหมคะ ประเภทเดินป่า ปีนเขา นอนเต้นท์หรือเปล่าคะ จากคุณ : Manifestation เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 17:57:00

ความคิดเห็นที่ 30 การทำงานของคณะวิจัย และชาวบ้าน ปรับเปลี่ยนไปตามปัจจัยต่างๆที่เกิดขึ้น มีทั้งการทำงานในแบบที่ตั้งรับ และเมื่อสบโอกาส เราก็เริ่ม "รุกฆาต" กันทันที ก่อนหน้านี้ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม คณะวิจัยได้รับโอกาสที่ดี ได้ช่วงเวลาในการจัดรายการวิทยุออกอากาศทาง สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดนครสวรรค์ ในช่วงของ "นครสวรรค์สัมพันธ์" รายการของเราชื่อ "ชุมชนคนรักษ์ป่า" ดำเนินรายการโดย "ลุงหวานกับหลานปุ๊" แรกๆติดขัดเพราะยังเป็นมือใหม่ หลังๆก็เริ่มคล่อง แม้จะจัดเพียงเดือนละครั้ง แต่เราก็มีแฟนคลับเหนียวแน่น จำนวนเท่าไร? ไม่กล้าบอก แต่แค่นี้ก็ปลื้มแล้วครับ แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 52 20:07:36 จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 17:59:37

ความคิดเห็นที่ 31 แรกๆเราก็จัดเกี่ยวกับชุมชนต่างๆที่ทำการรักษาป่า หลังๆ เราเริ่มรุกเรื่องท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เพราะฤดูแห่งความอุดมสมบูรณ์ของป่าวนอุทยานเขาหลวงมาถึงแล้ว และช่วงเวลานี้ก็เพียงสั้นๆเท่านั้นเอง เราเชิญเครือข่ายมาร่วมประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวในรายการ "ชุมชนคนรักษ์ป่า" หลังๆ ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก กระจายไปสู่รายการ "ปฏิทินท่ิองเที่ยว" และหวังว่า จะได้รับการบอกต่อ จากผู้ที่มีจิตใจรักธรรมชาติและป่าเขา ให้แพร่หลายออกไป จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 18:03:47

ความคิดเห็นที่ 32 แต่ปีนี้ ฝนที่นี่ไม่ค่อยดี ฤดูกาลท่องเที่ยวที่เราวางแผนไว้ จึงล่าช้าออกไป ฝนไม่ค่อยมี น้ำตก ซึ่งเป็นไฮไลท์ของเส้นทางท่องเที่ยวศึกษาธรรมชาติของเรา จึงยังไม่มีน้ำ หลายวันมานี้ เริ่มมีฝนตกลงมาแล้ว เมื่อวาน วันอาทิตย์ พี่ ป. กับชาวบ้านจึงได้วางแผนกันขึ้นไปสำรวจเส้นทาง เพื่อเก็บภาพพรรณไม้เพื่อมาจัดทำนิทรรศการที่อาคารศูนย์ท่องเที่ยวฯ ก่อนออกเดินทาง เราเตรียมอะไรสนุกๆ ขึ้นไปเล่นกันด้วย ตามดูนะครับ ว่าเราจะขึ้นไปทำไมกัน จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 18:09:57

ความคิดเห็นที่ 33 เราออกเดินทางกันบ่ายแก่ๆ ฝนทำท่าเหมือนจะตก แต่จริงๆเพิ่งตกไปเมื่อช่วงสาย  หวังว่าฝนจะไม่ตกลงมาตอนที่เราอยู่บนเขา เพราะเมื่อตอนเที่ยง ชาวบ้านที่เข้าไปทำงานที่ศูนย์บอกว่า มีชาวบ้านที่อยู่อีกฟากเขาสองคนหลงป่ามา ตุลัดตุเหล่มาโผล่ตรงศูนย์ฯ พอดี อากาศร้อน ฝนตก ทำให้มีความชื้น เห็ดก็เลยออกจนเกลื่อนเขา ชาวบ้านฟากโน้นซึ่งขึ้นมาเก็บเห็ด เพลิดเพลินกับการเก็บเห็ด แบบลุยไปข้างหน้าไม่แหงนมองป่ามองทิศมองทาง มารู้ตัวอีกที ก็หลงป่าซะแล้ว เราสันนิษฐานกันเล่นๆว่า เขาอาจจะเผลอข้าม "เครือเถาหลง" มา เพราะชาวบ้านล่ำลือว่า ใครข้ามเครือไม้ชนิดนี้ หลงป่ากันทุกราย ฉะนั้น ใครที่คิดจะเดินป่า ควรทำความรู้จักกับเครือเถาหลงกันไว้ให้ดี พี่ ป. เองก็ยังไม่เคยเห็น ไว้ถ้าเจอ จะถ่ายรูปมาให้ชมกัน ปล. รูปนี้ ไม่ใช่คณะของพี่ ป. แต่เป็นคณะสำรวจป่าของหัวหน้าณัฐธชัย เมื่อหลายปีก่อน ยืมมาประกอบคำบรรยาย แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 52 21:24:06 จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 18:16:49

ความคิดเห็นที่ 34 ฝายชะลอน้ำตามแนวพระราชดำริ บ่อมงคล เป็นอีกจุดหนึ่งที่อยู่ในเส้นทางศึกษาธรรมชาติของเรา รูปนี้ถูกบันทึกไว้ ตอนที่ท็อปฟอร์ม จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 18:19:54

ความคิดเห็นที่ 35 เราเดินไปเรื่อยๆ ผ่านอีกหลายสถานี แต่ก็ผ่านไป ใครอยากรู้ว่าเราผ่านอะไรไป ต้องมาชมเอง เพราะวันนี้เรามาเก็บข้อมูลบางอย่าง และไปในที่ที่ พี่ ป. ยังไม่เคยไปมาก่อน และนี่คือเส้นทางชักลากไม้โบราณ สมัยที่การตัดไม้ทำลายป่าเฟื่องฟู เขาลากกันจนดินและหินสึกเป็นร่องเป็นรางกันเลยทีเดียว เด็กๆสมัยใหม่ต้องมาดู ขนาดว่าเด็กเมื่อสมัยก่อนอย่างพี่ ป. ก็เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก เป็นบุญตาจริงๆ ไม่รู้ว่ามีต้นไม้ผ่านร่องชักไม้นี้ กี่หมืนกี่แสนต้น แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 52 18:25:49 จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 18:25:02

ความคิดเห็นที่ 36   มาดูคนทำดี กับกิจกรรมดีๆ จ้า จากคุณ : ยาโยยจัง เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 18:25:19

ความคิดเห็นที่ 37 แล้วเราก็มาถึงจุดชมวิวกัน เร็วนะครับ เพราะลัดเส้นทางอื่นมา อากาศดีๆ จะมองเห็นถึงตัวเมืองปากน้ำโพ หรือบึงบอระเพ็ดเลยทีเดียว จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 18:28:10

ความคิดเห็นที่ 38 แล้วเราก็มาเริ่มลงมือ "เล่น" กับของที่เราเตรียมมาดีกว่า เอ้า ยิงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 18:30:39

ความคิดเห็นที่ 39 ไม่ใช่ยิงนก ยิงกระรอก กระแต นะครับ แต่เด็กๆ กำลังช่วยกันปลูกป่า เอาเมล็ดไม้ มาปั้นกับดินเป็นก้อนกลมๆ ใช้แทนกระสุน แล้วยิง ยิง ยิง และก็ยิงครับ นี่เป็นอีกหนึ่งกิจกรรม ที่เราจะจัดเตรียมไว้ให้กับเยาวชนที่มาศึกษาธรรมชาติที่นี่ มาเอาความรู้ แล้วต้องช่วยกันปลูกต้นไม้ด้วยนะครับ แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 52 18:37:41 จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 18:32:23

ความคิดเห็นที่ 40 แต่เดี๋ยวก่อน ก่อนขึ้นเขามา นอกจากเด็กๆ จะต้องฟังกติกาการเดินป่าจากเจ้าหน้าที่ และไหว้ศาลเจ้าพ่อเขาหลวงแล้ว ก็ยังต้องช่วยกันโยนหินทำฝายด้วยนะครับ ฝายเมื่อปีก่อนๆ ช่วยชะลอน้ำให้อยู่กับป่าได้นานขึ้นเป็นเดือนๆ แต่ในขณะเดียวกัน ก็ยังดักตะกอนดินไว้ด้วย สงสัยต้องช่วยกันลุฝาย เอาดินออกบ้างแล้วหล่ะ ฮ่าๆๆ จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 18:36:47

ความคิดเห็นที่ 41 มีกี่ฝาย ทรายก็เต็มทุกฝายเลย แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 52 18:39:26 จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 18:38:38

ความคิดเห็นที่ 42 อากาศชื้น เห็ดเยอะจริงๆ มีทั้งแบบที่กินไม่ได้ จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 18:40:42

ความคิดเห็นที่ 43 และที่กินได้ เพราะลองมาแล้ว มื้อเย็นเมื่อวานเลยครับ ผัดกับน้ำมัน เห็ดชนิดนี้ ชาวบ้านแถบนี้เรียกว่า "เห็ดผาก" เพราะขึ้นอยู่ตามป่าผาก ซึ่งเป็นไผ่ชนิดหนึ่ง ดอกใหญ่ รสชาดดี แต่เหนียวไปหน่อย ถ้าเอามาเผาไฟ แล้วทำเป็นลาบ ท่าทางจะอร่อยเหาะ ที่สำคัญ ปีหนึ่ง งอกครั้งเดียว พลาดก็อดเลย แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 52 21:28:36 จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 18:43:03

ความคิดเห็นที่ 44 นอกจากเห็ดแล้ว เฟิร์นต่างๆ ก็อุดมสมบูรณ์ ทั้งพวกก้านดำ ที่เขาเรียกว่า เฟิร์นใบองุ่น จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 18:44:27

ความคิดเห็นที่ 45 พวกกระแตทั้งหลาย ทั้งที่ไต่ไม้ ไต่หิน จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 18:45:27

ความคิดเห็นที่ 46 ที่นี่ก็มีดอกเข้าพรรษา ชนิดนี้เรียกว่า "หงษ์เหิร" จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 18:46:55

ความคิดเห็นที่ 47 มีกันเป็น "ดง" เลยหล่ะ จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 18:47:35

ความคิดเห็นที่ 48 นี่คืออะไร หน้าตาแปลกๆ มันคือ "เห็ดร่างแห" เกิดมาก็เป็นครั้งแรกที่ พี่ ป. มีโอกาสได้เห็น เชื่อว่าเด็กๆและผู้ใหญ่หลายๆคนไม่เคยเห็นมาก่อน จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 18:50:28

ความคิดเห็นที่ 49 สำรวจกันที่พื้นดินแล้ว ก็แหงนมองดูข้างบนกันหน่อย นี่คือพืชผักพื้นบ้านอีกชนิด ที่นับวันจะหากินยาก "มะแขว่น" หรือ "กำจัดต้น" ผลและใบเอามาเป็นเครื่องเทศและยา กลิ่นหอมเหมือนมะกรูดเลยครับ จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 18:53:57

ความคิดเห็นที่ 50 พรรณไม้เยอะแยะครับ พูดกันไม่มีวันหมด เหนื่อยจัง ในที่สุดเราก็มาถึง น้ำตกโกรกกระแป๋งครับ เดินมาจนเหนื่อย แต่นี่แค่ลูกๆโกรกกระแป๋งครับ ต้องเดินกันต่ออีกหน่อย อย่างที่บอกครับ ฝนมีน้อย น้ำในน้ำตกเลยมีน้อย จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 18:56:24

ความคิดเห็นที่ 51 เดินไปตามธารน้ำตก เหนื่อยก็วักน้ำในน้ำตกกิน อร่อยดีครับ จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 18:57:44

ความคิดเห็นที่ 52 โครงการนี้ดีจัง เห็นป่าเขียว ๆ แล้วชุ่มชื่นหัวใจค่ะ แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 52 18:58:43 จากคุณ : Zineทราย เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 18:58:22

ความคิดเห็นที่ 53 ใกล้แล้วครับ ดูโขดหินสิครับ ถ้าน้ำมากๆ จะสวยขนาดไหน จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 18:59:12

ความคิดเห็นที่ 54 ถึงแล้วครับ แต่ไม่สุดนะครับ คณะทัวร์ขอจบทัวร์น้ำตก โกรกกระแป๋ง แค่ตรงนี้ เพราะต่อจากนี้ ต้องปีนหน้าผาชัน อันตรายครับ เพราะแค่นี้ก็ลื่นล้มกันบ่อยๆแล้ว ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 19:02:37

ความคิดเห็นที่ 55 ถ่ายได้แค่นี้ เพราะกล้องกระป๋องเลนส์คร่อดจะว๊าย วายเลย อีกอย่างถอยอีกไม่ได้ จะตกก้อนหินเอา อย่างที่บอกหนะครับ น้ำน้อย เพราะอะไร ลองกลับไปคิดดูนะครับ ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล ป่าที่ถูกทำลายจนโล่งเตียนเพิ่งจะฟื้นตัวเอง ชาวบ้านบอกว่า เมื่อก่อนน้ำไหลตลอดปี เสียงน้ำตกไหลดังกึกก้องตั้งแต่อยู่แค่ชายป่านั่นหล่ะครับ จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 19:06:43

ความคิดเห็นที่ 56 พี่ปอ ไม่ได้อยากมาขัดจังหวะ แต่อยากบอก พี่ปอ เป็นคนโชคดีจริงๆ ที่ได้เจอชีวิตหลายอย่างมาก สนับสนุน กะ การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ หลายๆที่ของเมืองไทย ถูกปรับเปลี่ยนไป จนขาดเสน่ห์ เก็บกดจากเรื่องงานมั๊ง เบื่อจิงๆค่ะ กะ รีเควสของชาวต่างชาติที่ทำตัวจะเป็นพระเจ้ามากเกิ๊น ทำตัวง่ายๆ กันหน่อยก้อไม่ได้ อ่านเรื่องราวของพี่ ปอ ต่อ ดีกว่า จากคุณ : พี่ไก่อ้วน (ป้อแป้) (แม่คะนิ้ง) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 19:07:48

ความคิดเห็นที่ 57 นี่ครับ จุดที่ยืนถ่าย ถอยไป ก็เจอกันชาติหน้าครับ นี่คือต้นมะกัก เป็นญาติกับมะกอก ต้นโตโดดเดียว รอดพ้นการตัดของพรานในอดีตมาได้ คาดว่าแรกๆรากคงหยั่งลงในซอกหิน พอโตมากๆ ก็ดันซะจนหินแตกเลยครับ อเมซิ่งมากๆ จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 19:10:14

ความคิดเห็นที่ 58 นี่ครับ ลูกมะกัก ถ้าเล็กกว่านี้สักหน่อย จะเก็บไว้ให้เด็กๆ เอาไปยิงซะให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็ใหญ่เกิ๊น ปล. มันวางอยู่ในซอกหินอย่างนี้เองนะครับ ไม่ได้จัดฉากเน้อ คาดว่าอดีตของต้นแม่ต้นใหญ่ ก็คงคล้ายๆลูกๆสองเม็ดนี้แน่ๆ จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 19:13:49

ความคิดเห็นที่ 59 ชาวบ้านบอกว่า ยิ่งขึ้นสูงไปเรื่อยๆ ก็ยิ่งสวย ใครที่ชอบเดินป่าต้องชอบแน่ๆ ถึงจะไม่สูงเป็นพันเมตรจากระดับน้ำทะเล ถึงจะไม่ยาวไกลเป็นห้าหกกิโล แต่เส้นทางก็วิบาก กว่าจะขึ้นถึงยอดเขาก็ใช้เวลาเป็นวันๆ รายการ "เนวิเกเตอร์" ของพี่ติ๊ก เจษฯ ก็เคยมาถ่ายทำการพิชิตยอดเขามาแล้ว บนยอดเขานอกจากธรรมชาติที่งดงามแล้ว ยังมีแหล่งวัฒธรรมอีกด้วย เพราะอดีตเคยเป็นแหล่งขุดทอง และหลวงพ่อจ้อย พระเกจิชื่อดังของนครสวรรค์ ก็เคยขึ้นมาปฏิบัติธรรมถึงบนยอดเขาบ่อยๆ ไว้หนาวนี้ ผมจะต้องขึ้นพิชิตยอดเขาหลวงให้ได้ ใครอยากมาปีนป่ายด้วยกัน กระซิบมานะครับ นั่งมอง พระอาทิตย์ตกที่ยอดเขาหลวง ฝั่งอุทัยธานี สักวันนะ...สักวัน แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 52 21:48:24 จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 19:21:02

ความคิดเห็นที่ 60 ตื่นๆๆๆๆๆ ได้เวลาเดินลงแล้ว เพราะเหมือนฝนกำลังจะตก นอกจากพืชพันธุ์แล้ว ที่นี่ยังมีนกนาๆชนิด พอดีพี่ ป. ไม่เชี่ยวชาญเรื่องนกสักเท่าไร แต่คนที่รู้เรื่องนี้ดี เคยมาเที่ยว บอกว่าที่นี่มีนกหลายชนิด ถ้านั่งอยู่ที่ศูนย์ จะได้ยินเสียงนกโหวกเหวกโวยวายดังสนั่นอยู่ในหุบเขา แม้บางทีจะหนวกหูบ้าง ฮ่าๆๆ แต่ก็ดีกว่าเงียบนะครับ ปล. นกในป่าท่าจะล้น ฮ่าๆๆ เลยหนีมาเกาะอยู่ตามสายไฟ เชิงเขา จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 19:27:57

ความคิดเห็นที่ 61 วันนี้ไปไม่ถึงน้ำตกโกรกซ่า วันหน้าเราจะมาเดินกันใหม่ ขาลงสวนทางกับสาวๆ ที่มาเที่ยวน้ำตก แม้น้ำจะน้อย แต่คนก็ยังมาเที่ยวกันวันละเป็นร้อย เพราะอย่างนี้หล่ะครับ เราจึงต้องจัดการ ดูแลกันอย่างจริงๆจังๆ เมื่อก่อนนักท่องเที่ยวกินเหล้าเมา ตีกัน ทิ้งขยะ ทิ้งขวด อะไหล่รถหาย หนุ่มสาวมาใช้ป่าเขาเป็นเรือนหอ ปล่อยไว้อย่างนี้ไม่ดีใช่ไหมครับ ต้องจัดการให้เป็นระบบ ไม่ได้อยากจัดท่องเที่ยวให้โก้เก๋อะไรหรอก .................................................................................................... กติกาการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ หุบขาคีม (วนอุทยานเขาหลวง) 1. ลงทะเบียนนักท่องเที่ยวที่ศูนย์ท่องเที่ยวหุบขาคีมทุกครั้งก่อนเดินทางเข้าท่องเที่ยวในพื้นที่ป่า 2. เชื่อฟังคำแนะนำของเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครนำเที่ยวโดยเคร่งครัด 3.  ห้ามเดินออกนอกเส้นทางที่กำหนดไว้ เพราะอาจเหยียบย่ำพืชพรรณ และสัตว์ขนาดเล็กได้ 4. ไม่ส่งเสียงดัง เพราะอาจรบกวนนักท่องเที่ยวอื่น และทำให้สัตว์ป่าตกใจ ทำให้พลาดโอกาสได้เห็น และสัมผัสธรรมชาติอย่างแท้จริง 5. ห้ามเก็บหาพันธุ์พืช สมุนไพร กล้วยไม้ป่า ของป่ารวมถึงทรัพยากรธรรมชาติอื่นๆออกนอกพื้นที่โดยเด็ดขาด 6. ห้ามพกพาอาวุธทุกชนิดเข้ามาในพื้นที่ป่า และไม่กระทำการใดๆเป็นการล่าสัตว์ป่าหรือทำลายแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า 7. ช่วยรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หลีกเลี่ยงการกระทำทุกชนิดที่เป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 8. ช่วยรักษาความสะอาด โดยลงทะเบียนขยะที่ศูนย์ท่องเที่ยวหุบขาคีมทุกครั้ง และนำขยะทุกชนิดทุกประเภทที่นำเข้าไปออกมาจากป่าทุกครั้ง ห้ามทิ้งในป่าโดยเด็ดขาด เพราะอาจเป็นอันตรายต่อสัตว์ป่า 9. กรณีที่ต้องการเดินป่าทางไกลเพื่อพักค้างแรมบนยอดเขาหรือต้องการพักค้างแรมในพื้นที่ป่าให้ติดต่อเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครนำเที่ยวก่อนทุกครั้ง แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 52 22:02:14 แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 52 21:37:33 แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 52 21:34:58 จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 19:30:54

ความคิดเห็นที่ 62 น้ำมีน้อย ก็เล่นน้ำกันแบบพอเพียงครับ จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 19:32:02

ความคิดเห็นที่ 63 ลงมาถึงที่ศูนย์ วันนี้เราเตรียม "กลิ้งกลางดง" มาปล่อยในป่าชุมชนครับ "กลิ้งฯ" เป็นพืชสมุนไพร ที่ใช้รักษาโรคเกี่ยวกับข้อ กระดูก และอาการปวดเมื่อยต่างๆ มันโตง่าย แค่โยนๆหัวเข้าไปในป่า ได้ความชื้นมันก็แตกยอดออกเลื้อยพันต้นไม้ซะสวยเลย พี่ ป. เคยถือหัวกลิ้งฯ ไปกรุงเทพฯ แล้ววางไว้ในกระถางกรวดที่ระเบียง ตอนนี้เลื้อยไปชนเพดานแล้ว ตากับหลาน ช่วยกันกลิ้ง.... อิอิ จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 19:36:40

ความคิดเห็นที่ 64 สาวๆ กลับจากเล่นน้ำตก เราก็เลยเชิญมา "กลิ้ง" ด้วยกัน ซึ่งกิจกรรมเดินศึกษาธรรมชาติ ลงมาจากเขาแล้ว ก่อนกลับ เด็กๆต้องช่วยกันปลูกต้นไม้ด้วยนะครับ ไม่งั้นไม่ให้กลับบ้าน อิอิ แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 52 19:39:17 จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 19:37:35

ความคิดเห็นที่ 65 หุบขาคีม วันนี้เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อน แน่นอน ไม่มีอะไรหยุดนิ่งอยู่ที่เดิมตราบนานเท่านาน ถนนสายเล็กๆที่เคยนำเราเข้าสู่อ้อมกอดของขุนเขา วันนี้เทศบาลเอาเครื่องจักรเข้าขยายถนน อนาคตอาจจะลงหินคลุก หรืออาจจะเลยเถิดไปเป็นลาดยาง ต้นสะเดาต้นนี้ ต้นที่ผมเคยบอกพี่ไก่ให้หยุดรถ แล้วลงไปยืนมองความงามของมันเมื่อวันแรกที่เราเข้ามาที่นี่ วันนี้ถูกโค่นลง จนไม่เหลือร่องรอยแล้ว อะไรๆก็เปลี่ยนไป ทั้งสิ่งที่เป็นรูปธรรมและนามธรรม เราทำได้แค่ยกมือ แสดงความคิดเห็นในที่ประชุม เวทีประชาคม ตามสิทธิ์ที่ได้ เฝ้ามองมันเปลี่ยนไป มีรอยยิ้ม เจ็บปวด และเรียนรู้ไปกับมัน แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 52 21:39:58 แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 52 20:39:25 แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 52 19:48:20 จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 19:46:49

ความคิดเห็นที่ 66 เหนือยอดไม้ ใต้แสงจันทร์ สีเขียวที่มองเห็นแม้ในความมืด ความงามในหว่างอ้อมกอดหุบขาคีม ความรักที่เบ่งบานทานทน...อยู่ในใจที่หมดหวัง พี่ ป. 31 สิงหา 52 / 19.51 น. จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 19:53:35

ความคิดเห็นที่ 67 การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ หุบขาคีม (วนอุทยานเขาหลวง) จะเปิดตัว และ "เริ่มเรียนรู้" ร่วมกับทุกท่านอย่างเป็นทางการวันที่ 10 กันยายน 2552 นี้ สนใจท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์หุบขาคีม วนอุทยานเขาหลวง สามารถติดต่อได้ที่ ที่ทำการเครือข่ายท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์หุบขาคีม (วนอุทยานเขาหลวง) หมู่ 3 บ้านหนองตายาย ตำบลบางประมุง อำเภอโกรกพระ จังหวัดนครสวรรค์ หรือติดต่อที่เทศบาลบางประมุง หรือที่ทำการวนอุทยานเขาหลวง แล้วคงจะประสานงานกันอีกที ไม่อยากลงเบอร์โทรศัพท์เจ้าหน้าที่ประสานงานของชุมชนไว้ ถ้าอยากได้จริงๆ ขอเชิญติดต่อ (PM.) กับผมเป็นการส่วนตัว ตอนนี้เรากำลังเตรียมความพร้อมกันอยู่ครับ อาจจะขลุกขลักเมื่อเริ่มต้น แต่ก็พร้อมที่เรียนรู้ครับ แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 52 20:17:26 จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 20:01:16

ความคิดเห็นที่ 68 อีกนิดนึง หน้าหนาว เข้าป่า ปีนผา พิชิตยอดเขาหลวง สามารถกางเตนท์นอนดูดาวหนาวเหน็บ ได้ทั้งบนยอดเขา และเชิงเขาครับ มีน้ำ แต่(ปกติ)ไม่มีไฟ มีลูกหาบให้พอประมาณ เรายังเหลือเวลาเตรียมการกิจกรรมนี้อีกสองเดือน ก่อนลมหนาวจะพัดมาครับ ปล. เตนท์ตอนจัดค่ายเยาวชนฯ หกเจ็ดรุ่นที่ผ่านมาครับ ปั่นไฟใช้ ข้างล่างมีห้องน้ำ แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 52 20:41:40 แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 52 20:27:10 จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 20:25:29

ความคิดเห็นที่ 69 จบแล้วครับ เดี๋ยวจะแวะมาพูดคุยด้วย สวัสดีครับ จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 20:44:35

ความคิดเห็นที่ 70 ปล ขัดใจ คห หกสิบเก้า ที่หล่อ นะ เรย์ ใช่ป่ะ จากคุณ : พี่ไก่อ้วน (แม่คะนิ้ง) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 21:25:52

ความคิดเห็นที่ 71 เอ่อ... หล่อน่ะ แต่ไม่แสดงออก ไม่ใช่พี่ป. ไม่กล้าพูดนะเนี่ย จากคุณ : Zineทราย เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 22:19:17

ความคิดเห็นที่ 72   จ้า พ่อหล่อหลบ ใน 555 ช่างกล้า... ดีนะเป็นเรย์ ยกป้าย คริๆ จากคุณ : ยาโยยจัง เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 22:50:14

ความคิดเห็นที่ 73 สวัสดีคนถูกใจให้กิ๊บ / Chanyanath P., khewbaa, Manifestation, เรือใบลำน้อย, iloveham, จืดจ๋า~, ยุง บิน ชุม, a dear, เสี่ยวเอี้ยน, Zineทราย เขว / หวัดดีจ้า ป่านนี้คงอ่านจนหมดแล้วนะ ป็อป / อีกไม่นานนี้ คงได้ "ส่ง" อีกครั้งแล้วหล่ะจ้า ใจเย็นนิดนึง kanun / ครับ ใกล้หลงแล้ว อิอิ นก / มาแอบดู "นก" ใช่เปล่า พี่ ย.ส.ร. / รักวัวให้ผูก รักลูกให้ดุ รักปุ๊ให้ตังค์ อิอิ ป่าคือเพื่อนชีวิต  ติสท์หาเพื่อนกินชีวาสสสส อิอิ ปลา / น้อง ป. เปิดเปิง ม๊างงงงงงง อิอิ Memory in my Heart / ขอบคุณมากครับ เคยเชิญหน่วยงานส่งเสริมการท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องมาร่วมเวทีด้วย ในเวทีก็เหมือนเข้าใจแนวคิดของเราดีครับ แต่พอติดต่อเรื่องที่จะช่วยประชาสัมพันธ์ให้ กลับกลายเป็นว่า จูนไม่ตรงกัน แต่ไม่เป็นไรครับ เราไม่ได้เน้นที่ปริมาณนักท่องเที่ยว บอกกับชาวบ้านว่า เรายังมีสื่ออีกหลายช่องทาง วันหนึ่งถ้าเราทำสำเร็จ หน่วยงานราชการ ก็คงเดินเข้ามาหาเราเอง Manifestation / เส้นทางศึกษาธรรมชาติหนึ่งวัน ความวิบากก็แค่เบาะๆครับ ส่วนโปรแกรมพิชิตยอดเขา ก็น่าดูทีเดียว ต้องเดินถึก นอนเตนท์ ตอนช่วงหน้าหนาวนั่นหล่ะครับ พี่จอย / ไม่คิดไม่ฝันว่าคนสวยจะมาเมนท์กระทู้นี้ อิอิ Zineทราย / เสียดายเหมือนกันครับ ที่โครงการดีๆจะต้องปิดโครงการไป โอกาสหน้าเก่งกล้าสามารถจะพยายามเขียนขอทุนมาทำโครงการแบบนี้อีกครับ พี่ ก.อ. / ตอนนี้เพิ่งรู้ครับ ว่าตัวเองโชคดี ช่วงมาแรกๆ เป็นโรคหลักสี่ซิกครับ อยากจะกลับแต่บ้าน พี่ ก.อ. คุณทราย พี่จอย / ก็คนมันมั่นใจในตัวเองนี่คร๊าบบบบบ ฮ่าๆๆๆ จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 23:33:39

ความคิดเห็นที่ 74 เห็นภาพลุงหวาน กะ หลานปุ๊ ในห้องส่ง สวท.แล้ว พาลให้คิดถึงอดีต ของตัวเอง จากคุณ : prettyguide เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 23:54:50

ความคิดเห็นที่ 75 กิจกรรมดีจัง จากคุณ : น้องหนูพันธุ์ดุ เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 02:22:34

ความคิดเห็นที่ 76 กิจกรรมดีๆ....สนับสนุนครับ.......... จากคุณ : ถนนสายนี้เปรี้ยว เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 07:52:15

ความคิดเห็นที่ 77 เข้ามาชม จากคุณ : manatto เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 09:26:15

ความคิดเห็นที่ 78 ^ ^ ^ ^ ^ ^ ถามคนข้างบนว่าจะจัดทริปไปหุบขาคีมเมื่อไหร่ จะตามไปด้วยค่ะ จากคุณ : สิเนหก เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 10:48:35

ความคิดเห็นที่ 79 ชื่นชมการทำงานของทิด จากใจจริง จากคุณ : สิเนหก เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 10:49:46

ความคิดเห็นที่ 80 เพิ่งรู้ว่าเสี่ยวไปทำงานหยังที่โน่น ฮุฮุ ขอบคุณสำหรับเรื่องเล่าเด้ จากคุณ : บ๊อบ (BobJims) เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 11:28:07

ความคิดเห็นที่ 81 กิจกรรมดีแบบนี้ขอยกิ้วให้ค่ะ...^_^ จากคุณ : Nookae_pooh เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 11:36:10

ความคิดเห็นที่ 82 คห 43 คนดอยแถวนี้เรียก  กือหว่าโกะ  กินประจำเพราะออกเยอะ จากคุณ : venroute เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 52 19:16:56

ความคิดเห็นที่ 83 พี่นุศ / สวัสดีครับพี่นุศ วันก่อนข้าราชกรมประชาสัมพันธ์ที่อยู่ทางใต้ก็โทรมา บอกว่าถ้ามีปัญหาอะไรเกี่ยวกับการจัดรายการวิทยุ ให้บอก อิอิ น้องผึ้ง / ครับ กิจกรรมดี แต่คนจัดกำลังหัวหมุน งานรุม ถนนสายนี้เปรี้ยว / สวัสดีครับ ดีใจจังครับ พี่แมน / เข้ามาเที่ยว ด้วยสิครับ พี่สุ / ขอนำคำชื่นชมไปมอบแด่ทีมงานทุกๆคนครับ ก้องหล้า / เมื่อไรเราจะได้เจอกันหว่า อ้วนขึ้นเปล่า อยากกอดแน่นๆซักที เอิ๊กๆๆ หนูเก๋ / เป็นงัย สอบตำรวจติดไหม น้อง ส. แสนรัก / สถานการณ์ที่แม่สะเรียงเป็นอย่างไรบ้าง เป็นห่วงเน้อ แล้วคุยกันครับ จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 18:10:30

ความคิดเห็นที่ 84 อ่านทู้นี้ของ  พ่อหล่อหลบใน... ได้ชื่อต้นไม้แปลกๆอีกหลายต้นเลย  ขอบคุณคับ จากคุณ : บุหลันลอยฟ้า เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 21:03:30

ความคิดเห็นที่ 85 สวัสดีแม่นกครับ แหม นี่ขนาดหล่อหลบในนะครับ ฮ่าๆๆ จริงๆ มีต้นไม่อีกเยอะแยะเลยครับ น่าสนใจทั้งนั้น อย่าง คงคาเดือด ใครจะคิดว่า มีคนเอาเปลือกมาแช่น้ำ แล้วเอาน้ำไปซักผ้า ไม่รู้เพราะว่าแช่แล้วมันมีฟองแบบแฟ๊บ หรือว่ามีสรรพคุณในการขจัดคราบก็ไม่รู้ ต้องลอง จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 52 01:03:18