 |
As Empire Falls. "The Great Wall" Stand.....
|
|
ในที่สุดวันที่ไม่มีใครในกิจการการบินอยากให้เกิดขึ้น ก็ได้อุบัติขึ้นแล้ว หลังจาก World Trade Organization หรือ WTO ได้แถลงผลการสอบสวนคำร้องเรื่องการ ช่วยเหลือ แอร์บัส โดยกลุ่มประเทศในสหภาพยุโรป ที่ผ่านมานั้น "ไม่ชอบธรรม" และ เจ้าหน้าที่สอบสวนของ WTO ได้แถลงสรุปผลแล้วเมื่อวันที่ 4 ก.ย. ที่ผ่านมา ว่า.........
"European loans for Airbus were illegal subsudies under World Trade rules"
แปลได้ว่า "ผิดกฎหมาย"
และไม่ได้ผิดธรรมดาๆ แต่ผิดกฎการค้าเสรีระหว่างประเทศ และ สหภาพยุโรป ก็โดนหางเลขด้วยว่า รู้เห็นเป็นใจให้กระทำผิด ซึ่งมันหมายถึงการผูกขาดทางการค้าของ....."ยุโรป"
สิ่งที่ผิดก็คือ... แอร์บัสรับเงินทุนช่วยเหลือจากประเทศสมาชิก EU โดยตรง ซึ่งนี่คือ ผิดกฎหมาย เนื่องจาก แอร์บัส เป็นบริษัทลูกของ EADS ซึ่งเป็นองค์กรในลักษณะ "หน่วยงานราชการระดับเหนือชาติ" เพราะงั้น หากแอร์บัส ต้องการเงินทุน ต้องให้ EADS เป็นคนใส่เงินเข้ามา ไม่สามารถไปรับเงินได้โดยตรง ในทุกกรณี นี่คือข้อที่หนึ่ง
ข้อที่สอง แอร์บัส ดันเข้าเทรดในตลาดหุ้น.....มันจะไม่ผิดเลย หาก การเข้าเทรดนั้น ยังคงมีรายชื่อผู้ที่ถือหุ้น เป็น "ประเทศ" และ ฝรั่งเศส กับ เยอรมัน ยังคงถือหุ้นฝ่ายละ 40 เปอร์เซนต์ อยู่เหมือนเดิม แต่การณ์กลับไม่ใช่ เนื่องจากปัจจุบัน ฝรั่งเศส และเยอรมัน ต่างเหลือสัดส่วนหุ้นของตนเพียงแค่ฝ่ายละ 20 เปอร์เซนต์เท่านั้น ซึ่งรวมกันแล้ว มันยังไม่ถึงครึ่งหนึ่งของหุ้นทั้งหมดแล้วที่เหลือล่ะ มันไปไหน
ก็ส่วนที่เหลือ มันถูกเทรดออกไปให้กับ ผู้ลงทุนเอกชน ธนาคาร สถาบันการเงิน และที่ลืมไม่ได้ คือ บริษัทประกัน ไงล่ะครับ ซึ่งนี่ก็คือความผิดขั้นร้ายแรงที่ ฝรั่งเศส และเยอรมันต้องรับผิดชอบ เพราะอะไร
ก็เพราะว่า เมื่อเริ่มต้น EADS มีผู้ถือหุ้นคือประเทศหลายๆ ประเทศ เงินลงทุนล้วนมาจากเงินภาษีประชาชนของประเทศนั้นๆ แต่เมื่อมีเอกชนมาถือหุ้น นั่นทำให้ เอกชนมีสิทธิเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเงินภาษีของประชาชน และผลประโยชน์ของประเทศลดหายไปจากที่ควรจะเป็น นอกจากนั้น ตลอดระยะเวลาเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา เงินทุนที่แอร์บัสใช้ในการคิดค้น ผลิต และพัฒนาอากาศยานนั้น มันกลายเป็น "เงินกู้" ที่ต้องหามาใช้คืน แองค์กรที่ แอร์บัส ต้องใช้หนี้คืน ก็คือ......ธนาคารและสถาบันการเงินเอกชน
และเงินที่แอร์บัสได้รับ มันก็ถูกใส่เข้าไปในบริษัทที่เป็นของแอร์บัสทั้งหมด รวมทั้ง บริษัท Partners ที่สำคัญๆ และก็บริษัทพาร์ทเนอร์ที่สำคัญเหล่านี้ ดันเป็นบริษัทที่แอร์บัสมีหุ้นอยู่ด้วย และก็ดันรับงานจากโบอิ้งด้วย เช่น Northrop Grumman หรือ Alenia ของอิตาลี เป็นต้น นั่นหมายความว่า ที่ผ่านมา โบอิ้ง เองก็ต้องจ่ายเงินให้ แอร์บัส ด้วยเช่นกัน
แน่นอนครับว่า โบอิ้ง ก็ตอกกลับ แอร์บัส ด้วยการเขมือบองค์กรต่างๆ ในอเมริกามาไว้ที่ตัวให้หมด และตัดการรับช่วงงานกับบริษัทในยุโรป ด้วยเช่นกัน นั่นก็ทำให้ แอร์บัส ขาดห่วงโซ่ ไปหลายห่วงเหมือนกัน ตามที่ผมทยอยเอามาฝากในช่วงที่ผ่านมา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับโปรเจกต์ อีช้างล้มอย่าง A-380 ที่แอร์บัสต้องหาเงินมาใช้คืนเงินกู้เกือบ 1 แสนล้านดอลล่าร์
EADS คือ SupraNational Corporations หรือ องค์การเหนือชาติ ดังนั้น เขาไม่มีสิทธิกู้เงิน และ EADS ก็ไม่เคยกู้เงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเอกชน ดังนั้น แอร์บัส ยิ่งไม่มีสิทธิ ทำอะไรเข้าไปใหญ่
รวมๆ แล้ว แอร์บัส ได้รับการอัดฉีดเงินเข้ามาทั้งหมด 250,000 ล้านเหรียญ
แล้วผมถามท่านว่า องค์กรเหล่านี้ใครตั้งขึ้น ไม่ใช่พวกเค้าเหรอ เห็นไหมว่า หรั่ง ไม่ใช่พระเจ้า พวกมันก็เลวเหมือนกัน แต่มันใช้วิธีคอรัปชั่นเชิงนโยบาย คือสร้างกรอบกฎหมายขึ้นมาเพื่อสร้างความชอบธรรมให้แก่ตนเอง แล้วก็ทำตามนั้น นั่นแหล่ะ ที่หรั่งมันชอบอ้างอยู่เสมอว่า
"Goo ทำตามกฎหมายทุกอย่างเกี่ยวกับการค้า การลงทุน"
และวันนี้ กรอบของกฎหมายที่มันสร้างขึ้น ก็กำลังย้อนกลับมาทิ่มหัวใจด้วยฝีมือตนเอง
ชอบมั้ยครับกับ Capitalism...... ร่ำรวยๆๆๆๆ เงินๆๆๆๆ
นอกจากนั้นครับ ผลการสอบสวนของ WTO ในครั้งนี้ ทำให้การดำเนินธุรกิจอากาศยานระหว่างยุโรป กับ ชาติอื่นๆ เปิดกว้างมากขึ้น เพราะ ผลออกมานั่นหมายความว่า
Baroness Ashton ถ้าเรียกแบบไทยๆ ก็คือ ท่านผู้หญิง แอชตัน (หรือเปล่า) ประธานคณะกรรมการการค้าของ EU หรือ EU Trade Commissioner แถลงว่า สหภาพยุโรป ยอมรับผลการสอบสวนในครั้งนี้ และพร้อมเปิดเจรจากับ อเมริกา และชาติอื่นๆ ในด้านการดำเนินกิจการการบิน ที่จะเห็นได้ชัดๆ คือ......
บราซิล รัสเซีย อินเดีย และจีน.......คุ้นๆ มั้ยครับ ก็ BRIC ไงครับ และประเทศเหล่านี้ทั้งหมด ต่างก็มีความสามารถที่จะผลิตอากาศยาน เพื่อครองอากาศด้วยไงล่ะครับ
Brazil Russia India China = BRIC อ่านว่า บริก ก็แสลงแปลมาเป็นก้อนอิฐ ถ้าเอาก้อนอิฐมาวางซ้อนกันได้อะไรครับ ก็จะได้ "กำแพง" ไงครับ ก็เหมือนกับที่ กลุ่มประเทศเหล่านี้กำลังทำอยู่ เขาเรียก "BRIC Wall" และถ้าแสลงออกมาอีกทีมันจะแปลได้ว่า...............
Gold Bricks = ทองคำแท่ง.....ไงล่ะท่าน
ผมเตือนท่านแล้วนะครับ เรื่องทองคำแท่ง นี่คือ สินทรัพย์ และเป็นการออม เป็นการค้ำประกันชีวิตคุณ ชีวิตผม และอนาคตของพวกเรา เพียงอย่างเดียวที่เหลืออยู่นะครับเพราะมันคือ "Wall" ที่จะช่วย Defense
ไม่จบแค่ ออนซ์ละ 1 พันเหรียญ แน่นอนครับ
วันหลังผมจะมาขยายความต่อครับ ว่า แอร์บัส จะไปเกี่ยวกับ BRIC ยังไง.... แล้วทำไม ยุโรป ต้องยอม และยุโรปจะต้องทำไง
แต่หลายๆ คนที่เคยได้เสียสละเวลาอ่านกระทู้ผม คงจะพอทราบบ้างแล้วล่ะมั้ง........
************************************************
......" CHANGE ไม่ได้เกิดขึ้นสำหรับพวกเรา แต่ทำเพื่อ "ลูกหลาน" ของเรา อยู่ที่ "คุณ" ว่าจะ "เสียสละ" หรือ "เห็นแก่ตัว "........
บารัค ฮุสเซน โอบามา, เทพเจ้าปธน. แห่งสหรัฐอเมริกา (เดี๋ยวนี้เป็นงี้จริงๆ)
************************************************ ผมยังคงยืนยันเหมือนเดิมว่า วันข้างหน้า กิจการการบินจะเป็นของประชาชน ดูแลโดยรัฐ ประชาชนปฏิบัติการบนเส้นทางจาก "หลากเมือง" สู่ภูมิภาค และจากภูมิภาคสู่ภูมิภาค โดยกิจการการบินของภูมิภาค และต้องไม่มี เอกชน ธนาคาร สถาบันการเงิน หรือแม้แต่ประกันเข้ามาเกี่ยวในทุกกรณี รัฐจะเป็นผู้ประกันความปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สิน และอาชีพ เงินรายได้ทุกเม็ดจะเข้ารัฐ เงินเดือน หรือเบี้ยเลี้ยงจะมาจากเงินภาษี เพื่อมอบอำนาจให้ "ผู้โดยสาร"
************************************************
จากคุณ |
:
เด็กคน
|
เขียนเมื่อ |
:
9 ก.ย. 52 15:10:41
|
|
|
|  |