ความคิดเห็นที่ 1 |
ก่อนอื่นก็ขอเกริ่นที่มาที่ไปของฟองดูกันหน่อยค่ะ
มองย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์แล้ว ว่ากันว่า ตำหรับอาหารแนวๆนี้มีมาตั้งแต่โบร่ำโบราณทีเดียว โดย หลักฐานที่เก่าแก่ที่สุดคือ เรื่องราวมหากาพย์อีเลียดของโฮเมอร์ ที่มีการกล่าวถึงการทำซอสจากพรามนอสไวน์ ชีสนมแพะและแป้ง ไว้ด้วย (Scroll 11; lines 629-645)
ส่วนฟองดูแบบที่รู้จักกันในปัจจุบันนั้น สันนิษฐานว่าเกิดขึ้นมาจากการที่ขนมปังหรือชีสนั้นเมื่อเก็บไว้นานๆเข้าก็ กลายเป็นก้อนแข็ง ทานลำบาก จึงมีคนคิดทำฟองดูขึ้น จากชีสที่แข็งโป๊ก เมื่อนำมาอุ่นกับไวน์แล้ว ก็จะละลายเป็นซอสเข้มข้น ขนมปังที่แห้งผากจนแทบกลืนไม่ลงนั้น เมื่อจุ่มลงในซอส ก็จะนุ่มชุ่มฉ่ำ เมนูนี้จึงเป็นที่นิยมเรื่อยมา
เนื่องจากลักษณะการรับประทานเป็นการทำอาหารในหม้อกลางที่ทุกๆคนทำอาหารไปร่วมกันจึง มักจะรับประทานกันครั้งละหลายๆคน ยิ่งทานกันในฤดูหนาวก็เป็นโอกาสอันดีที่จะได้มานั่งล้อมวงผิงไฟคลายหนาว ทานฟองดูอุ่นๆ และสรวสเสเฮฮากัน
เวลารับประทานนั้นจะใช้หม้อดินที่เรียกว่า caquelon ตั้งบนเตาไฟเล็กๆ หรือ rechaud การ ทำฟองดูนั้นง่านนิดเดียว เพียงใช้ส้อมจิ้มอาหารลงจุ่มในซอสหรือน้ำมันหรือซุปร้อนๆในหม้อ อาหารที่นิยมนำมาจิ้มมักจะเป็นขนมปังต่างๆ ตลอดจนเนื้อสัตว์ ส่วนซอสนั้นที่นิยมก็คือการใช้ชีสชนิดต่างๆมาละลายจนข้นเหนียว ส้อมที่นิยมใช้ก็คือส้อมที่มีการออกแบบพิเศษ เป็นส้อมเล็กๆ มีด้ามจับยาว เพื่อให้สะดวกกับการจุ่มลงไปในหม้อร้อนๆที่ตั้งอยู่กลางโต๊ะ
รูปเจ้าส้อมที่ว่า
แก้ไขเมื่อ 20 ก.ย. 52 23:50:39
จากคุณ |
:
Mnemosyne
|
เขียนเมื่อ |
:
20 ก.ย. 52 14:02:40
|
|
|
|