ความคิดเห็นที่ 1 นครพนมเป็นบ้านเกิดของแม่แฟนเรา ดังนั้นญาติ ๆ ที่นี่จึงเยอะมาก ไปแล้วไม่มีอด จึงไม่ต้องสงสัยว่าทำไมเวลา ของเราทริปนี้จึงมีจำกัดนัก เพราะแค่แวะไปบ้านโน้นบ้านนี้ก็แทบจะไม่มีเวลาไปแวะเที่ยวที่อื่นเลย   เราออกเดินทางเช้าวันศุกร์ที่ 25 ก.ย. ก่อนหน้าที่จะมีงานไหลเรือไฟ เพราะถ้าไปช่วงนั้นที่พักคงเต็ม ร้านอาหารคงแน่น แผนการเดินทางจึงต้องล่วงหน้าไปก่อนและกลับก่อน ก่อนไปเราก็หาข้อมูลของ จังหวัดนครพนมจากเว็บต่าง ๆ มาอ่านก่อนค่ะ เพราะเมื่อก่อนตอนยังไม่เข้าห้อง bp เราไปเที่ยวแบบ ไม่มีข้อมูลของสถานที่นั้น ๆ เลย สักแต่ว่าได้ไป แม้จะไปนครพนมเป็นครั้งที่ 3 แล้ว แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ที่เราจะได้ศึกษาข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวอย่างจริงจัง  ขอบคุณแหล่งข้อมูลในเว็บต่าง ๆ ที่ให้เราได้ศึกษา หาความรู้เพิ่มเติมได้มากมายเลยค่ะ จากคุณ : igreenbody เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 22:23:23

ความคิดเห็นที่ 2 ขออนุญาตให้รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของจังหวัดนครพนม ค่ะ นครพนม  เป็นจังหวัดที่มีบันทึกทางประวัติศาสตร์มาแต่โบราณกาล ในฐานะเมืองเก่าเคียงคู่อยู่กับอาณาจักรศรีโคตรบูรณ์ ซึ่งแต่แรกเริ่มเดิมทีนั้นมีพื้นที่อยู่ทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง และต่อมาก็ได้ย้ายมาอยู่ฝั่งขวาตำนานแห่งประวัติศาสตร์ได้จารึก ไว้ว่า  เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชตีกรุงเวียงจันทน์ได้ ชื่อของดินแดนนี้ได้ถูกเปลี่ยนเป็น มรุกขนคร  และต่อมาได้โปรดฯให้เป็น  นครพนม เพื่อความเหมาะสมตามสภาพพื้นที่ด้วยเป็นเมืองที่มีพื้นที่ติดต่อ กับเทือกเขา มากมาย ด้วยความเป็นอาณาจักรที่เคยเจริญรุ่งเรืองมาเก่าก่อนประกอบกับแม่น้ำโขงเป็นแหล่งวัฒนธรรมของ มนุษย์ชาติ ดังนั้น นครพนมจึงมีโบราณสถานและมีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม และประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์อยู่มาก เราเดินทางถึงอำเภอเมืองประมาณ 5 โมงเย็น และเดินทางต่อไปยังอำเภอบ้านแพงอีก  93 กิโลเมตร ระหว่างทาง เจอฝนหนักตอนลงจากภูพานเท่านั้นเองค่ะ น้ำตกละลานตา    สวนยาเขียวขจี     มะเขือเทศพันธุ์ดี    ถิ่นนี้คือบ้านแพง แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 52 22:42:25 จากคุณ : igreenbody เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 22:41:17

ความคิดเห็นที่ 3 เมื่อเข้าเขตอำเภอบ้านแพง สัญลักษณ์ที่เราเห็นก็คือ อุทยานแห่งชาติภูลังกา  เป็นเทือกเขายาวขนานไปกับถนน ที่มุ่งสู่อำเภอบ้านแพง  ครอบคลุมพื้นที่อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม และอำเภอเซกา จังหวัดหนองคาย มีเนื้อที่ประมาณ 50 ตารางกิโลเมตร หรือ 31,250 ไร่   ภูลังกา   เป็นภูเขาที่กั้นเขตแดนระหว่าง อ.บึงโขงหลง จ.หนองคาย กับ อ.บ้านแพง  จ.นครพนม สภาพเป็น ภูเขาหินทราย ความสูงจากระดับน้ำทะเล  บริเวณเชิงเขาด้านวัดพระธาตุภูลังกา บ้านดงชมพู อ.บึงโขงหลง จ.หนองคาย วัดได้ประมาณ 220 เมตร ในสภาพอุณหภูมิประมาณ 30 c ความสูงยอดภูที่ตั้งองค์พระธาตุ สูงจากระดับน้ำทะเล ประมาณ 530 เมตร   อุณหภูมิประมาณ 27.9 c ด้านทิศตะวันออก และทิศใต้ ติด อ.บ้านแพง  จ.นครพนม ทิศเหนือและทิศตะวันตก ติดอำเภอบึงโขงหลง จังหวัดหนองคาย ทางขึ้นเขาทางทิศตะวันตก บริเวณวัดพระธาตุภูลังกา บ้านดงชมพู อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดหนองคาย จะมีบันไดปูนขึ้นไป ประมาณ 1,300 ขั้น เดินขึ้นแบบไม่รีบใช้เวลาแบบสบาย ๆ ประมาณ 4 ชั่วโมง เวลาลงถ้าลงเร็วมาก ๆ จะปวดหน้าขามาก ด้านบนเป็นลานหินกว้างมีองค์พระธาตุภูลังกา ตั้งอยู่บนยอดสูงสุด ถ้าในช่วงปลายฝนต้นหนาวจะมีดอกไม้ป่าสวยงาม เหมาะกับการถ่ายภาพ จากคุณ : igreenbody เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 22:44:24

ความคิดเห็นที่ 4 6 โมงเย็นแล้วค่ะ ก่อนแวะเข้าไปทานข้าวที่บ้านญาติแฟน เราแวะเช็คอินท์ที่พักที่จองไว้ก่อนค่ะ โรงแรม เจ บี เพลส  โรงแรมใหม่เอี่ยมของอำเภอบ้านแพง  เป็นโรงแรมสไตร์บูติก  วิวห้องพักเห็นภูลังกาเต็ม ๆ ราคาก็แสนถูก สนใจหาข้อมูลในเว็บดูนะคะ ถนนเส้นนี้เป็นทางไปหนองคายค่ะ จากคุณ : igreenbody เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 22:46:07

ความคิดเห็นที่ 5 ห้องพักใหม่  สะอาดสะอ้านดีค่ะ (เตียงยับไปนิด โดดลงไปนอนแล้วนึกได้ว่ายังไม่ได้ถ่ายรูปอะ) ขออภัย ๆ จากคุณ : igreenbody เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 22:47:51

ความคิดเห็นที่ 6 ตอนเช้าออกมาเก็บภาพรอบ ๆ บริเวณโรงแรมก่อนเช็คเอ้าส์ค่ะ จากคุณ : igreenbody เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 22:50:05

ความคิดเห็นที่ 7 อาหารเช้ารวมในค่าห้องพักซึ่งแสนถูกแล้ว ก็มีกาแฟ ชา ขนมปังให้ สั่งอย่างอื่นทานจ่ายเงินเพิ่มค่ะ   จากคุณ : igreenbody เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 22:51:32

ความคิดเห็นที่ 8 ลืมรูป จากคุณ : igreenbody เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 22:52:16

ความคิดเห็นที่ 9 บริเวณโดยรอบอีกรูปค่ะ จากคุณ : igreenbody เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 22:53:04

ความคิดเห็นที่ 10 9 โมงเช้าไปตั้งหลักที่บ้านญาติก่อน เตรียมเดินทางไปวัดเพื่อนำพระไตรปิฏกไปค่ะ เลยเก็บภาพบ้านเค้ามานิดหน่อย จากคุณ : igreenbody เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 22:55:38

ความคิดเห็นที่ 11 เดินทางไปยังวัดธำรงค์ธรรม  ต.โพนทอง   อยู่ไม่ไกลจากที่พักค่ะ  เข้าซอยตรงหัว  ภูลังกา  พอดิบพอดี จากคุณ : igreenbody เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 22:56:54

ความคิดเห็นที่ 12 วัดนี้ไม่มีแม้แต่อุโบสถค่ะ  บริเวณวัดมีที่ประกอบศาสนกิจเท่านี้เองค่ะ  จอดรถแล้วพวกเราก็ช่วยกันลำเลียง ลังพระไตรปิฏกเข้าไปในกุฏิที่มีลักษณะเหมือนบ้าน จากคุณ : igreenbody เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 22:58:55

ความคิดเห็นที่ 13 หลังจากนั้นเราก็อำลา ภูลังกา เดินทางไปยัง อ.นาหว้า  เพื่อไปกราบนมัสการ พระธาตุประสิทธิ์   พระธาตุประจำคนเกิดวันพฤหัสบดี ประวัติ  พระธาตุประสิทธิ์  เดิมเป็นเจดีย์เก่าแก่ชำรุดทรุดโทรม มีเถาวัลย์ปกคลุม  ภายในอุโมงค์มีพระพุทธรูป เก่าแก่หลายองค์ผู้ค้นพบได้แก่ชนเผ่าญ้อ ซึ่งหนีภัยสงครามการรบพุ่งระหว่างอาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์ กับพม่า และอาณาจักรเชียงใหม่ในสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาเมื่อ พ.ศ. 2112  ได้พร้อมกันบูรณะครั้งแรก และให้นามว่า พระธาตุประสิทธิ์   ในปี พ.ศ. 2283  เจ้าผู้ครองนครศรีโคตรบูรณ์ พระนามว่าพระเจ้าขัติยวงศาราชบุตรมหาฤาไชย ไตรทศฤาเดช เชษฐบุรีศรีโคตรบูรณ์หลวง ได้บูรณะเสริมยอดสูงประมาณ 30เมตร   แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 52 23:01:45 จากคุณ : igreenbody เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 23:00:10

ความคิดเห็นที่ 14 พ.ศ. 2436 พระเจดีย์ชำรุดทรุดโทรมมากจนยอดเจดีย์หักลงมา  ท่านพระประสิทธิ์ ศึกษาธิการเจ้าอาวาส ในขณะนั้น ได้บูรณะซ่อมแซมพระเจดีย์ได้สวยงามยิ่งขึ้น หลักฐานพระธาตุประสิทธิ์ได้รับการบูรณะ โดยเลียนแบบพระธาตุพนม ลักษณะรูปทรงสี่เหลี่ยมกว้าง 7.20 เมตร วัดโดยรอบ 20.80 เมตร แต่ละด้าน รวมทั้งเชิงบันไดได้ด้านละ 10 เมตร สูง 28.52 เมตร  มีประตูเปิดปิด 2 ด้าน   พ.ศ. 2515 ได้นำพระบรมสารีริกธาตุและอรหันต์รวม 7 องค์ มาบรรจุไว้ในองค์พระธาตุพระธาตุประสิทธิ์ มีความศักดิ์สิทธิ์เป็นโบราณสถานเก่าแก่ที่ควรเคารพบูชา  ในวันขึ้น10 ค่ำ ถึงวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 4 จะมีเทศกาลนมัสการพระธาตุประสิทธิ์เป็นประจำทุกปี จากคุณ : igreenbody เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 23:04:17

ความคิดเห็นที่ 15 อำเภอนาหว้า  ประกอบ ด้วยชนเผ่า 5 เผ่า ได้แก่ ไทภูไท ไทแสก ไทญ้อ ไทกะเลิง และไทอิสาน ซึ่งส่วนใหญ่ จะเป็นเผ่าญ้อที่อพยพมาจากตอนเหนือของเมืองหลวงพระบาง ส.ป.ป. ลาว  เมื่อ ประมาณปี พ.ศ.2112 และอีกส่วนหนึ่งอพยพมาจากอุบลราชธานี  โดยแรกเริ่มได้ตั้งบ้านเรือนอยู่บริเวณที่ตั้งบ้านนาหว้าในปัจจุบัน เพราะเป็น ที่ราบลุ่มติดกับแม่น้ำ (ลำน้ำอูน) เหมาะแก่การทำนา  ประกอบกับในบริเวณพื้นที่มีต้นหว้าอยู่เป็นจำนวนมาก ชาวบ้านจึงตั้งชื่อ หมู่บ้านว่า " บ้านนาหว้า" สืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 52 23:06:57 จากคุณ : igreenbody เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 23:05:39

ความคิดเห็นที่ 16 คำขวัญอำเภอนาหว้า   พระธาตุประสิทธิรวมใจ  ผ้ามุกไหมงามตา  อาชีพปริศนา  พัฒนาหัตถกรรมไทย แวะต่อที่ ศูนย์หัตถกรรมและจำหน่ายสินค้าพื้นบ้าน อ.นาหว้า ตั้งอยู่ในอาณาเขตเดียวกับวัดพระธาตุประสิทธิ์ เห็นสินค้าผ้าไหม ผ้าฝ้ายและผลิตภัณฑ์ต่างๆ แล้ว ก็ต้องหอบหิ้วกลับบ้าน เคยได้ยินคำร่ำลือของผ้ามุกนครพนม ก็ไม่รอช้ารีบปฏิบัติการช้อปฯ จากคุณ : igreenbody เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 23:09:16

ความคิดเห็นที่ 17 ในที่สุดมีผ้าไหม ผ้าฝ้าย ผ้าพันคอติดไม้ติดมือกลับบ้านกันคนละหลายๆผืน เพราะผ้าที่นี่คุณภาพดี และสีสันสวยงามเนื่องจากศูนย์หัตถกรรมบ้านนาหว้านั้นเป็นกลุ่มศิลปาชีพแห่งแรก ที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โปรดเกล้าฯ ให้ก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นการส่งเสริมอาชีพแก่ชาวบ้านนาหว้า   ต่อมาจึงพัฒนาเป็นศูนย์หัตถกรรม จึงได้มีการพัฒนาฝีมือการทอผ้า รูปแบบและสีสันให้สวยงามถูกใจคนซื้อ จากคุณ : igreenbody เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 23:10:55

ความคิดเห็นที่ 18 ลืมรูปค่ะ จากคุณ : igreenbody เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 23:11:42

ความคิดเห็นที่ 19 วัดต่อไปที่เราเดินทางไปก็คือ   วัดอรัญญานาโพธิ์   ซึ่งเป็นวัดที่หลวงปู่สนธิ์ เขมิโย เป็นเจ้าอาวาสและจำวัดอยู่ ซึ่งท่านเป็นพระเกจิดังที่มีผู้คนเคารพนับถือ และศรัทธามากมาย วัดนี้ตั้งอยู่บ้านท่า  อำเภอศรีสงคราม ถ้าจะไปกราบท่านควรจะไปเช้า ๆ หน่อย ส่วนใหญ่ท่านจะลงมาทานจังหันเช้า แล้วพบญาติโยม ช่วงไม่เกิน 9.00 น. แล้วท่านจะพักผ่อน จนช่วงบ่าย ๆ  ท่านอายุเยอะมากแล้ว (เกือบ 100 ปี) เลยอยู่คุยกะญาติโยมนานไม่ได้ ที่วัดนี้ไม่ได้ถ่ายรูปมาค่ะ  ขออนุญาตยืมรูปท่านใน www.udon108.com  มาให้ชมกัน ขออนุญาตนะคะ ^_^ จากคุณ : igreenbody เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 23:13:56

ความคิดเห็นที่ 20 หมดวันไปอย่างอิ่มเอิบ และอ่อนเพลีย วันนี้เราเดินทางเข้าตัวเมืองและพักในเมืองอีก 1 คืน และที่พักของเรา ในคืนนี้ก็ไม่พ้นโรงแรมใหม่ของจังหวัดนครพนมอีกโรงแรมคือ  I-Hotel ที่เค้าว่ากันว่าเป็นญาติกับโรงแรม เจบี เพลส ที่บ้านแพง การตกแต่งคล้ายคลึงกัน แถมยังราคาแสนถูกเหมือนกันอีก  เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งในนครพนม หากใครจะเดินทางไปแล้วอยากได้ความใหม่+ประหยัดเงิน  ที่นี่ตอบโจทย์ได้ดีทีเดียว แต่ถ้าอยากได้วิวแม่น้ำโขง เห็นทีต้องพักที่โรงแรมริเวอร์วิว หรือวิวโขง เหมือนเดิมค่ะ จากคุณ : igreenbody เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 23:15:22

ความคิดเห็นที่ 21 ลืมรูปหน้าโรงแรมค่ะ จากคุณ : igreenbody เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 23:16:08

ความคิดเห็นที่ 22 คนเรื่องมากกับที่พักอย่างเราพอใจทีเดียวกับห้องพัก ไม่หรูหรา แต่ใหม่ สะอาด และทันสมัย แน่นอนสุดคือประหยัดเงินไว้ทานข้าวได้เยอะเลย จากคุณ : igreenbody เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 23:17:27

ความคิดเห็นที่ 23 ห้องน้ำเป็นแบบ shower  ที่เก๋ไก๋อีกอย่างคือขวดแชมพู และครีมอาบน้ำ เป็นขวดพลาสติกใส ดูดีน่าใช้ จากคุณ : igreenbody เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 23:18:36

ความคิดเห็นที่ 24 คืนนี้แม้จะเพลียแสนเพลีย แต่ก็ต้องเลาะเลียบริมน้ำโขงเพื่อไปชมวิว และทานอาหารริมน้ำโขงตามธรรมเนียม วันนี้เจ้าถิ่นซึ่งเป็นเจ้าภาพด้วย เลือก  ร้านเรือนริมน้ำ  เป็นสถานที่สังสรรค์ทานข้าวและดริ๊งค์ อาหารอร่อยใช้ได้ วิวสวย พอดีเราไปตอนท้องฟ้ามืดสนิทจึงเห็นแต่ความมืดของอีกฟากฝั่งแม่น้ำโขง ชวนให้เหงา ๆ เวิ้งว้าง แต่คลาสสิคเหลือเกิน  ยิ่งดึกลมเย็น น้ำค้างลง จนเราต้องผ้ามาคลุมกันลม แถมยังเผลองีบหลับไปบนโต๊ะอาหาร อีกต่างหาก  โห เดินทางทั้งวันยังนั่งอยู่ได้ก็บุญโขแล้ว   .... แต่ยังคืนนี้ของเรายังอีกยาวนาน กลุ่มนักดื่มที่สูงวัยกันพอควรก็ไม่ยอมแพ้ต่อสังขาร ย้ายนิวาสสถานไปดื่มกันต่อ ที่  ร้านรุ่งเจ้าพระยา ป็นร้านข้าวต้มเก่าแก่ของนครพนม  เมนูที่ไม่ควรพลาดคือ จับฉ่ายปลาโจก จากคุณ : igreenbody เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 23:20:00

ความคิดเห็นที่ 25 และแม้เมื่อคืนเราจะได้นอนเพียงแค่ 5 ชม. ก็ตามที เช้านี้ก็ต้องเช็คเอ้าส์ออกจากโรงแรม  8 โมงครึ่ง เพื่อเดินทางไปทานอาหารเช้าที่ร้านเก่าแก่อีกร้านหนึ่ง  คือ  ร้านพรเทพ  ตั้งอยู่บนถนนศรีเทพ จากคุณ : igreenbody เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 23:22:24

ความคิดเห็นที่ 26 ร้านนี้มีอาหารเช้าที่ขึ้นชื่อ  คือ ต้มเส้นก๋วยจั๊บญวน โจ๊กหมู  ไข่กระทะ  กาแฟ  ขนมปัง  ฯลฯ  อร่อยทุกอย่าง     จากคุณ : igreenbody เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 23:22:57

ความคิดเห็นที่ 27 ได้เวลาเดินทางกลับกรุงเทพฯ กันแล้ว  ระหว่างทางเราก็แวะวัดอีก ไปกับผู้สูงอายุก็ไม่มีทางห่างวัดแน่นอนค่ะ และวัดแรกของเช้านี้ก็ใกล้ ๆ นี้เลย    วัดศรีเทพ   วัดศรีเทพประดิษฐาราม  ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมือง ถนนศรีเทพ เยื้องโรงเรียนชุมชนเทศบาล 3 สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2402 ภายในโบสถ์มีจิตรกรรมฝาผนังรูปพุทธประวัติที่สวยงาม และยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญ คือ พระแสง   ตำนานเล่าว่าสร้างขึ้นพร้อมกับพระสุกและหลวงพ่อพระใส (วัดโพธิ์ชัย จังหวัดหนองคาย)  ข้างๆโบสถ์มีเจดีย์บรรจุอัฐิของหลวงปู่จันทร์ (พระเทพสิทธาจารย์) พระเกจิอาจารย์ที่ชาวนครพนมเคารพนับถือ แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 52 23:26:43 จากคุณ : igreenbody เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 23:25:20

ความคิดเห็นที่ 28 ส่วนรูปปั้นนั้นจะอยู่ในตึกเทพสิทธาราม และที่น่าชมอีกอย่างหนึ่งคือ อาคารที่สร้างขึ้นใน พ. ศ. 2464 ซึ่งได้รับรางวัลอนุรักษ์ศิลปสถาปัตยกรรมในด้านปูชนียสถานและวัดวาอาราม จากสมาคมสถาปนิกสยามฯ (สองรูปแรกเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีรูปปั้นอยู่ค่ะ) สำหรับสองภาพด้านล่างนั้นเป็นรูป  วัดพระธาตุมหาชัย  ประดิษฐานอยู่บ้านมหาชัย ตำบลมหาชัย ห่างจาก ตัวจังหวัดประมาณ 39 กิโลเมตร ตามเส้นทางนครพนม-สกลนคร ทางเข้าวัดเป็นถนนคอนกรีต องค์พระธาตุสูง 37 เมตร เป็นปูชนียสถานที่สำคัญยิ่งแห่งหนึ่ง เพราะเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันต์สารีริกธาตุ ภายในพระอุโบสถนอกจากพระประธานคือ พระพุทธไชยสิทธิ์แล้วยังมีพระพุทธรูปปางห้ามญาติสลักจากไม้ ต้นสะเดาหวานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ภาพเขียนบนฝาผนังอุโบสถแสดงพุทธประวัติ มีลวดลายศิลปกรรมที่งดงามมากในภาคอีสานพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จ พระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีบรรจุพระบรม สารีริกธาตุไว้ที่พระธาตุ มหาชัย เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2518 ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ซึ่งเป็นวัน วิสาขบูชา และที่วัดนี้ยังเป็นที่จำพรรษาของพระสุนทรธรรมากร (หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ) พระเกจิอาจารย์ สายวิปัสนาที่สำคัญองค์หนึ่ง ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวนครพนมและชาวอีสานทั่วไป พระธาตุมหาชัย  เป็นพระธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันพุธ เชื่อว่าผู้ที่ไปนมัสการจะได้รับอานิสงส์ ประสบชัยชนะในชีวิต สิ่งของบูชา ข้าวตอก น้ำอบ ข้าวเหนียวปิ้ง ดอกบัว ธูป 17 ดอก เทียนขาว 2 เล่ม จากคุณ : igreenbody เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 23:28:28

ความคิดเห็นที่ 29 และวัดสุดท้ายที่เราจะเดินทางไปนมัสการก็คือ  วัดป่าสุทธาวาส ที่ตั้งอยู่ในเทศบาลเมืองสกลนคร อยู่ตรงข้างทางเข้าศูนย์ราชการ จากคุณ : igreenbody เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 23:30:06

ความคิดเห็นที่ 30 โบสถ์หลังนี้สร้างหลังจากงานพระราชทานเพลิงศพของท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เสร็จเรียบร้อย โดยสร้างครอบเชิงตะกอนที่ฌาปนกิจศพของท่าน รูปแบบทางสถาปัตยกรรม ทำหลังคาซ้อน ๒ ชั้น มีมุขยื่นออกมาทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทำลานล้อมรอบตัว อาคาร มีเสารองรับที่เชิงชายล้อมทั้งตัวอาคารพื้นยกสูง ด้านข้างมีหน้าต่าง มีประตูทางเข้าทั้งด้านหน้าและหลัง   หลังคาด้านบนมีช่อฟ้าใบระกา หางหงส์ คันทวย มีรวงผึ้ง ลวดลายเป็นดอกประดับผนังด้านนอกและตามเสา ส่วนภายในโบสถ์ ทำเรียบง่ายทำเพดานสูง เพื่อการระบายอากาศและเวลาพระภิกษุสวดมนต์ เสียงจะไม่สะท้อน และก้อง ภายในประดิษฐานพระประธาน มีชื่อว่าพระพุทธสุโขทัยธรรมาธิราชองคาพยพศรีอยุธยามหามุนี วัดป่าสุทธาวาสในปัจจุบันกลายสภาพเป็นวัดป่ากลางเมือง เป็นสำนักเรียนสำคัญของพระภิกษุสงฆ์ในสกลนคร ปูชนิยสถานสำคัญภายในวัดนอกจากอุโบสถและพิพิธภัณฑ์หลวงปู่มั่นแล้ว ก็ยังมี "จันทสารเจติยานุสรณ์" เจดีย์ พิพิธภัณฑ์หลวงปู่หลุย จนฺทสาโรอีกด้วย โดยเจดีย์นี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงมีพระราชกระแสว่า "ควรสร้างเจดีย์ที่วัดป่าสุทธาวาส อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร ที่วัดนี้ มีอัฐิธาตุของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ ท่านจะได้อยู่ใกล้กัน" และยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ร่างแบบเจดีย์องค์นี้ ด้วยพระองค์เองพระราชทาน แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 52 23:31:42 จากคุณ : igreenbody เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 23:31:02

ความคิดเห็นที่ 31 หมดสิ้นภารกิจ เดินทางกลับกรุงเทพฯ อย่างอิ่มเอมใจ ตลอดเวลาที่เดินทางไปอากาศเป็นใจมาก เราไม่เจอฝนตกหนัก น้ำท่วม อย่างที่กลัวมาแต่แรก แม้จะไม่มีโอกาสได้มาชมประเพณีไหลเรือไฟที่ขึ้นชื่อของนครพนม แต่เราก็ได้ชื่นชมกับวัดวาอารามเก่าแก่และสถาปัตยกรรมอันสวยงามของจังหวัดนี้ อย่างไม่มีวันเลือน   และรอวันจะได้เดินทางไปเยือนนครพนมอีกครั้งหนึ่ง แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 52 23:34:13 จากคุณ : igreenbody เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 23:33:40

ความคิดเห็นที่ 32 ปิดท้ายด้วยภาพน้องแมวภาคอีสานที่เป็นเจ้าบ้านต้อนรับด้วยไมตรีจิต เช่นเดียวกันรอยยิ้มและน้ำใจของชาวนครพนมทุกท่านค่ะ จากคุณ : igreenbody เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 23:35:55

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบคุณสำหรับรีวิวพาเที่ยวนครพนมนะครับ จากคุณ : tataweb เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 23:46:47

ความคิดเห็นที่ 34 ถ้าไปดูไหลเรือไฟที่นครพนม   ก็อดดูบั้งไฟพญานาคที่หนองคาย  ทำไมงานมาตรงกันอย่างนี้เลือกไม่ถูกเลย จากคุณ : ทุ่งสีกัน เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 23:49:06

ความคิดเห็นที่ 35 ...ตามมาเที่ยวนครพนมด้วยคนนะคะ ^-^ จากคุณ : ปลายฟ้าที่ภูตะวัน เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 23:50:06

ความคิดเห็นที่ 36 ขอตามมาเที่ยวด้วยคนนะครับ ^^ จากคุณ : P.S. i love you เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 52 09:48:25

ความคิดเห็นที่ 37 เราเป็นคนนครพนมแท้ๆ ยังไม่ได้ไปเที่ยวแบบ จขกท เลย กลับบ้านครั้งหน้าคงต้องตามรอยซะแล้ว ขอบคุณนะคะ ที่ทำให้รู้ว่าจังหวัดบ้านเรามีอะไรดีๆ อีกเยอะ จากคุณ : ป๋าเป เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 52 13:35:45

ความคิดเห็นที่ 38 ตามมาให้กำลังใจ จขกท. กำลังอยากไปนครพนมค่ะ จากคุณ : snowpok เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 52 14:21:58

ความคิดเห็นที่ 39 บ้านยายอยู่ อ.บ้านแพง แต่ติดริมแม่น้ำโขง ชื่อบ้านดอนแพง แถวนั้นจะปลูกมะเขือเทศและใบยาสูบหน้าหนาว ไม่ได้กลับไปหลายปี คิดถึงจริงๆ ขอบคุณ จขกท มากเลยที่เอาภาพมาฝาก ปล.เพิ่งรู้ว่าบ้านแพงมีโรงแรมใหญ่ขนาดนี้ แจ่มไปเลย จากคุณ : love_utada เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 52 17:35:41

ความคิดเห็นที่ 40 เมื่อคืนผมนอนที่ I HOTEL เหมือนกันครับ มาทีไรพักที่นี่ทุกที แก้ไขเมื่อ 09 ต.ค. 52 18:07:51 แก้ไขเมื่อ 09 ต.ค. 52 18:06:57 จากคุณ : puk ka bee เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 52 18:01:45

ความคิดเห็นที่ 41 ขอบคุณที่พาเที่ยวนะค้า.. แต่ไปวัดได้หรอ... จากคุณ : rakpama07 เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 52 21:12:31

ความคิดเห็นที่ 42 เนื้อหาเยอะดี... ท่าทางจะว่างนะเจ๊... อิอิ ปล. ยังไม่เคยไปเลย นครพนม จากคุณ : ทอมฮะ ผมเป็นทอม (ทอมฮะ ผมเป็นทอม) เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 52 14:09:21

ความคิดเห็นที่ 43 คิดถึง อดีต จังเลย บรรจุครั้งแรก ที่นครพนม แล้วโดนย้ายไปอยู่ที่บ้านแพง แล้วให้ออกไปทำงานที่ อ.นาทม อีก ตอนนั้น ยังเป็นกิ่งอำเภอ อยุ่เลย คิดฮอดๆ ไม่รุ้ว่าไหลเรือไฟสมัยนี้จะเหมือนสมัยก่อนไหมน้อ ต้องไปๆ ปีนี้ ไม่พลาดๆ ขอบคุณเจ้าของกระทุ้นะครับ จากคุณ : คนโคราช เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 53 17:28:26

ความคิดเห็นที่ 44 กลับมานั่งดูทู้ตัวเองอีกครั้ง ปีนี้จะเดินทางไปวันที่ 6-9 พ.ย. นี้ค่ะ งานบุญเหมือนเคย แต่คราวนี้ตั้งใจจะพักที่สกลนคร 1 คืน แล้วไปพักที่เจบีเพลส บ้านแพง 2 คืน  ตั้งใจจะเที่ยวบ้านแพงให้คุ้มเลยค่ะ คราวนี้อยากไปภูลังกา และไปชมบรรยากาศตลอดเช้าที่บ้านแพงด้วย แล้วจะมารีวิวให้ชมกันต่อค่ะ รอชมนะคะ จากคุณ : igreenbody เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 53 21:44:11