.-**-..-**-..พากันเตรียมตัวไปเที่ยวรัสเซีย - มอสโคว์ค่ะ..-**-..-**-..

มาเริ่มกันดีกว่า สำหรับการเตรียมตัวไปเที่ยวรัสเซีย

เตรียมกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว (ดูกระทู้ "เดินทางไปอินเดีย" )

มีเปลี่ยนเสื้อผ้าบ้างนิดหน่อย...

- ให้หนาขึ้นพวกแขนยาว คอเต่า
- เสื้อกันหนาว 1 ตัว
- เสื้อกันลม เสื้อโค้ชธรรมดา (แนะนำให้ยาวปิดก้นนะคะ ไม่ต้องเหนือเอวเพราะร่างกายเรายังไม่ชินกับอากาศที่นั่นค่ะ) ไว้กันลมกันฝน เอาแบบมีฮู๊ดด้วย (อันนี้ติดเท่ห์ค่ะ แต่พอลมมาก็ต้องสวมทันที มันช่วยกันลมเข้าหูได้นะคะ)
-ผ้าพันคอ
-ถุงเท้านักฟุตบอล - ไม่งั้นผิวตรงข้อเท้าและหน้าแข้งจะแตกระแหงค่ะ อันนี้ได้ผลจริงที่สิกขิมค่ะ ตอนไปปีนเขาอุ่นดีจริงๆ (จิกของพี่ชายมา 3 คู่ อิอิ)
-ถุงมือ แบบสิงห์นักบิดไปเลย หรือจะแบบที่ไว้จับหูหม้อ (แต่ขอให้แยกนิ้วมือนะนะ เอานุ่มๆ แบบนั้นเพราะมันอาจจะต้องเลอกบ้างนะคะ)
-หมวก ไม่เอาแบบหมวกเด็กแร็ปที่เหมือนที่ครอบครึ่งศีรษะ จากการที่ทดลองกับตูน มันจะบีบข้างขมับมากที่สุด เวลาปีนเขาจะปวดขมับจริงๆ เพราะใส่ทั้งวัน

แนะนำนะคะ ควรเลือกแบบหมวกไหมพรมค่ะ ของตูนไปเจอหมวกแบบเนปาลไหมพรม (เรียกไม่ถูก) มีแบบปิดใบหูด้วยนะคะ เลยไปคว้ามาได้ค่ะ เปลี่ยนอันไปเลย ใส่เดินเล่นใรเมืองมอสโคว์ไปเลย ไม่อายค่ะ แม้ว่ามันดูปาดเดียวก็รู้ว่า "เอเชียแน่ๆ " แต่ตูนไม่สน ในเมื่อ "เขา" บริการใออุ่นหัวเรานี่คะ

-รองเท้าบู๊ท และรองเท้าผ้าใบ เอาไปเปลี่ยนบนเครื่องค่ะ  เดินทางนาน 9 ชั่วโมง แหงกอยู่ในบู๊ทตลอดไม่ไหวค่ะ พยายามให้เท้าสบายไว้เพราะเรานั่งกดกระดูกสันหลังมาตลอด จะลุกจะออกต้องเกรงใจคนข้างเคียงค่ะ

-กระเป๋าสะพายข้างขนาดเล็ก
ไม่แนะนำกระเป๋าเป้แบบ Jansport หรือ Outdoor นะคะ สถานที่ในรัสเซียแทบไม่อนุญาตให้นำเข้าไปค่ะ กฏหมายเขาแรกจริงค่ะ เขาไม่สนใจเลย คุณต้องฝากไว้ที่ "รับฝากสัมภาระ" เท่านั้น
ไม่แนะนำให้ไว้ใจนะคะ เพราะเงิน หนังสือเดินทาง และเอกสารสำคัญทั้งนั้น ถ้าหายในประเทศรัสเซีย และถ้าถูกตำรวจตรวจสอบด้วยภาษารัสเซีย... สถานฑูตไทยค่ะ วิ่งไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้
ที่พิพิธภัฑณฑ์พุชกิ้น ห้ามกระเป๋าขนาดเกิน 25 x 30 ถ้าจำไม่ผิดนะคะ เพราะเขาจะมีกระดาษแข็งมาทาบกระเป๋าเลยค่ะว่าใหญ่เกินหรือไม่...



งบ... (สิ่งที่ขาดไม่ได้)

ตั๋วเครื่องบิน ห้ามรวมในงบนะคะ ล่าสุดเพิ่งกลับมาเมื่อวันที่ 10 ตค 52 ราคาตั๋วของสายการบินแอร์โรฟลอต อยู่ที่ 29270 บาท.

ค่าอาหารต่อมื้อ ต่อคน อยู่ที่ 600 บาท (โดยประมาณ)
คำนวนจากร้านอาหารญี่ปุ่นล่าสุดที่เพิ่งไปทานมานะคะ เช่น ซูปมิโซ ราคา 90 รูเบิ้ล อาหารหลังต่ำสุดราคา 230 รูเบิ้ล เป็นเหมือนคล้ายผัดไทยทะเลวุ้นเส้น  (กระเพาะคนไทยผู้หญิง "อิ่ม" ค่ะ)
ชา กาละ 120 รูเบิ้ล (350 ml) ประมาณ 3 ถ้วยชาค่ะ

ถ้าอาหารถูกๆ กว่านี้ก็ McD ค่ะ ชุดแฮ็ปปี้ ราคา 130 รูเบิ้ล มีMc ไก่ , Mc เนื้อ และนักเก็ต 4 ชิ้น ให้เลือก, น้ำอัดลมแก้วเล็ก (เท่าบ้านเรา) และ เฟรมชฟรายส์ห่อเล็ก (เท่าบ้านเราอีก) กับของเล่น
ซอสมะเขือเทศ ซองละ 4 รูเบิ้ล (บ้านเราเบิ้ลตลอด) ไม่ว่าจะทานที่ร้าน หรือกลับบ้าน ไม่มีบริการซอสมะเขือเทศค่ะ

ส่วน "มันทอด" และ "เฟรนฟรานซ์" สั่งให้ถูกนะคะ เพราะเขามี 2 แบบ บ้านเราเรียก " Skinny Potato" นะคะ

ค่าเดินทาง ราคารถไฟใต้ดิน หรือ เมโทร ถูกค่ะ ขึ้นกับการเดินทางว่าจะไปที่ไหนนะคะ
ถ้าอยู่เฉพาะใมอง แนะนำให้ซื้อแบบ 20 ครั้ง ค่ะ ไม่คิดระยะทาง จะคิดเป็นจำนวนการเข้าค่ะ ทุกสถานีมีจุดเชคค่ะว่าเหลืออีกกี่ครั้ง  เดินทางทุกเส้นทางแต่เข้าครั้งเดียวก็จ่ายราคาเดิมค่ะ ไม่ต้องวิตก แต่ถ้าลงผิดจุดแล้วเผลอเดินออก ต้องเข้าอีกครั้งก็จะต้องถูกชาร์ทนะคะ  ห้ามลืม ดูช่องทางให้ดีๆ ค่ะ มีปุ่ม SOS ทุกสถานีช่วงเปลี่ยนเส้นทางค่ะ ไม่หลงๆ...


เช่น ค่ารถไฟไปที่เซอร์กิเยฟ โพซาด ราคา 120 รูเบิ้ลต่อเที่ยวต่อคน แล้วเดินแค่ 2 ป้ายรถเมล์บ้านเขา (1 ป้ายรถเมล์บ้านเราค่ะ ไม่ไกล...)

ค่ารถไฟจากสนามบินเซเรเมเยโว (เปล่า จำไม่ได้ สะกดยาก...) ราคา 250 รูเบิ้ล สำหรับเข้าเมือง พอถึงปุ๊บ ก็ออกมาต่อรมไฟใต้ดินได้เลยค่ะ

ส่วนมากจะเตรียมบะหมี่กึ่งสำหร็จรูป และปลากระป๋อง หมูหยอง น้ำพริกกุ้งเสียบ น้ำพริดปลาดุกฟู ปลาแห้งกรอบ และเครกเกอร์กับปลาแซลมอน
หม้อต้มน้ำ ถ้วยพลาสติก กับช้อนนะคะ

ตามสถานีมีพวกร้านฮอทดอกกับขนมปังด้วยนะคะ คิดว่าน่าจะทุ่นลงไปได้เยอะ แล้วก็พายค่ะอันละ 20 รูเบิ้ล

อัตราล่าสุด 30 รูเบิ้ล คือ 1 ดอลล่าห์ค่ะ  (ใกล้เคียงกับบ้านเรา แต่ค่าครองชีพสูงกว่าค่ะ)

ช่วงเวลาที่น่าเที่ยว

เมษา - พฤษภา - มิถุนา  3 เดือนนี้เท่านั้น
เหตุผล มีฝนบ้างเล็กน้อย (จริงๆ ) อากาศอบอุ่นไม่มีลม และยังเป็น Low Season ด้วยนะคะ


วีซ่า...

ไม่มีค่ะ

เกี่ยวโยงกับด่านตรวจคนเข้าเมือง (มีขั้นตอนดังนี้)

ตูนลงที่สนามบิน เชเรเมเยโว (สะกดขอให้ถูกเถอะ สนามบินแรกนะคะ)
ลงจากเครื่อง ออกทางประตู  เลี้ยวซ้าย (บังคับ) เดินไป 5 ก้าว เจอด่าน ทรานซิส  ผ่านไปอีก 5 ก้าว เจอขั้นบันได เดินลงไปค่ะ ต่อเที่ยวเพื่อรอรับ "ตราตรวจคนเข้าเมือง"

ยืนเฉยๆ ค่ะ เขาไม่ถามอะไรเลย บอกแต่ว่า "มาจากประเทศไทยเหรอ" ตูนแค่พยักหน้าแล้วก็ยิ้ม แล้วก็ผ่านค่ะ ไม่ถึง 5 นาที รวดเร็วทันใจ
ออกมายืนรอกระเป๋า โชคดีอีก (จริงๆ) เป็นกระเป๋าใบที่ 3  (ปกติไปไหนๆ นี่เกือบใบท้ายๆ เลย...)
ลากกระเป๋าออกมา กลับหลังหันมองด้านซ้ายมือ จะเจอเจ้าสแกนกระเป๋าอีกรอบ กระเป๋าจองตูนเป็นล้อลากเลยไม่ต้องตรวจอีกครั้ง ออกมาข้างนอกให้เลี้ยวซ้ายค่ะ เพื่อรอรถเมล์

อีกลิงค์ตามนี้เลยค่ะ

http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=siricartoon

สอบถามเพิ่มได้นะคะ คิดว่าเอาออกมาจากความประทับใจหมดแล้วค่ะ เรื่องการเดินทางตอนต่อไปจะรีบเอามาลงค่ะ

ที่โน่นมีใบไม้เปลี่ยนสีเหมือนกันค่ะ คิดว่าไม่เยอะเท่าญุ่ปุ่นะคะ เพราะส่วนมากมีแต่สีทอง สีเหลืองค่ะ

จากคุณ	: ColdOut
เขียนเมื่อ	: 16 ต.ค. 52 00:58:49