สรุปทริปภูสอยดาว
"ความภูมิใจที่ไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงิน"
ตั้งแต่เริ่มเดินทางจนถึง กว่าจะเดินเท้าทีละก้าวขึ้นไปยอดภูอย่างช้าๆ กว่าจะผ่านเนินมรณะไปได้ ทำให้ทราบว่าควร "แบกเป้ขึ้นภู ตอนมีแรงเหลืออยู่" (ยืมคำพูดของป้าฉินหมิงเหยามา) ไปเที่ยวเถอะครับ ถ้ายังมีกำลังใจ+ แรงกายเหลือ ก่อนที่เราจะแก่เกินไปหรือเข้าสู่วัยทำงาน แล้วจะได้ไม่เสียดายทีหลังว่าทำไมตอนหนุ่มตอนวัยเรียนแล้วเราถึงไม่ไปเที่ยวที่นั้นที่นี้กัน...
ตลอดระยะเวลาหลายวันที่ได้ไปเที่ยวแบบแคมปิ้งทำอาหารเองครั้งแรก เดินขึ้นภู ทำให้ได้ประสบการณ์ในการท่องเที่ยวแบบใหม่ ที่ต้องอาศัยการวางแผน และการแบ่งหน้าที่เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังได้มิตรภาพระหว่างการเดินทางอีกด้วย
ถ้าเทียบกับภูกระดึงแล้ว ภูสอยดาวอาจจะมีอะไรให้ทำน้อยกว่า + สถานที่ไปเที่ยวต่างๆไม่มากเหมือนภูกระดึง แต่ก็ยังคงความเป็นธรรมชาติมากกว่า ซึ่งแล้วแต่ความชอบของแต่ละคนว่าชอบแบบไหน สงบ ๆธรรมชาติ หรือความสะดวกสบาย
สรุปค่าใช้จ่าย
ตอนแรกว่าจะทำแบบละเอียดๆ แต่ช่วงหลังๆ ไม่ได้จดไว้ครับ + ทริปนี้เป็นทริปหารเฉลี่ยซึ่งทุกคน 4 คนหารเท่ากันหมด สรุปเงินที่ใช้คนละ 1964 บาท / คน (ตอนแรกตั้งงบไว้ไม่เกินคนละ 2000 บาท)
ข้อแนะนำเล็กน้อย
- ถ้านั่งรถไฟชั้น 3 หรือรถทัวร์ป.2 จะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ครับ
- การเดินทางไปภูสอยดาว เดินทางไปยากเนื่องจากอยู่ไกลมาก แนะนำให้เหมารถจากพิษณุโลกไป หรือเหมาจากชาติตระการก็ได้ครับ ขากลับจะได้สะดวก
- รองเท้า เน้นเป็นรองเท้าที่มีดอกมากๆ เป็นรองเท้าหุ้มข้อก็ดี
- ไม้เท้าช่วยเดินขาขึ้นได้ดี
- แก๊สกระป๋องผมเอาไป 3 กระป๋อง ใช้จริงเพียง 2 กระป๋องครับ (แ ต่คิด ซะว่าเหลือดีกว่าขาด)
- อย่าลืมผ้าใบ ที่ใช้กางเป็น flysheet + ไว้กันความชื้นจากดินสู่เต้นท์
- สามารถประหยัดค่าลูกหาบได้ โดยเฉพาะขาลงจากภู ของผมขาขึ้น 735 ขาลง 600 บาท
- ถ้ามีโอกาสเจออะไรสวยๆ รีบถ่ายรูปเลยครับ เดี๋ยวจะพลาดพระอาทิตย์ตกเหมือนพวกผม เนื่องจากคิดว่าวันที่ 2 ก็จะเห็น เสียดายมาก T T
- มาวันธรรมดาคนน้อยมากครับ วันเสาร์อาทิตย์คนเยอะ
- ผงเหลือแร่ผสมน้ำ + ของกินขบเคี้ยว (พลังข้าวเหนียว+ ไก่ย่าง)ไว้กินตอนขาขึ้นช่วยได้เยอะครับ
- หาสเปรย์กันแมลง โดยเฉพาะตัวคุ่นไปให้ดีครับ พวกมันทำผมแสบมาก (ขาลายเลย)
- เป๊บซี่ น้ำอัดลม ซื้อแล้วแบกขึ้นภูไปกินหลังขึ้นถึงเลย ผมว่าร้อยทั้งร้อยขึ้นถึงยอดแล้วอยากกินแน่นอน (เอาไปแช่ในลำธารก่อนกินจะได้เย็นชื้นใจ)
- แผ่นยางไว้เป็นต้นเพลิงเพราะที่นั้นมันชื้น เศษไม้แห้งเปียกหมด
- หาที่เก็บฟื่นและถ่านให้ดี ไม่ให้ชื้นใส่ถุงแล้ว เก็บไว้ในเต้นท์ก็ดีครับ
- ลงมาถึงตีนภูแล้วสามารถขอเจ้าหน้าที่อุทยานชาร์ทกล้องที่อาคารสำนักงานได้
ขอจบการรีวิวภูสอยดาวเพียงแค่นี้ครับ หวังว่าคงมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยครับ ไว้เจอกันใหม่โอกาสหน้า ขอบคุณที่ติดตามมากครับ ^ ^ (กระทู้+ รูปจะเยอะไปไหน)
แก้ไขเมื่อ 24 ต.ค. 52 01:33:44
แก้ไขเมื่อ 24 ต.ค. 52 01:32:38
แก้ไขเมื่อ 24 ต.ค. 52 01:31:40
แก้ไขเมื่อ 24 ต.ค. 52 01:30:01
แก้ไขเมื่อ 24 ต.ค. 52 01:19:04