ความคิดเห็นที่ 1 บาเซิลเป็นเมืองโบราณ มีพรมแดนติดต่อทั้งฝรั่งเศสและเยอรมัน เดินออกจากสถานีรถไฟมา ตรงมาเรื่อยๆ เข้าสู่ Aschenplatz เลี้ยวซ้าย เราก้อจะมาเจอถนนย่านเมืองเก่าค่ะ จากคุณ : PRESTO เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 52 19:08:39

ความคิดเห็นที่ 2 เดินมาพบโบสถ์ Kunsthalle เลยแวะเข้าไปชมกัน วันนี้ อากาศขมุกขมัวอีกแล้วค่ะ แอบอารมณ์เสีย ...ทำไมต้องเป็นวันที่เรามาก้อไม่รู้เนอะ จากคุณ : PRESTO เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 52 19:11:07

ความคิดเห็นที่ 3 เข้าไปชมข้างในกันนะคะ จากคุณ : PRESTO เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 52 19:11:49

ความคิดเห็นที่ 4 ปกติ ในโบสถ์ส่วนใหญ่จะเป็นม้านั่งยาว แต่ที่นี่ เป็นเก้าอี้ เป็นตัวๆ ดูพนักพิงสิคะ ไม่เหมือนกันเลย แกะลายเป็นแบบโกธิค จากคุณ : PRESTO เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 52 19:13:28

ความคิดเห็นที่ 5 ช่วงนี้คนรีวิว สวิสเยอะจิงๆๆ อยากไปโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย จากคุณ : vsjmu เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 52 19:16:14

ความคิดเห็นที่ 6 สวดมนต์ทำบุญให้วันนี้แดดออก ถ่ายรูปสวยๆแล้ว เดินต่อกันเถอะค่ะ ผ่านถนนแคบๆตามสไตล์เมืองโบราณ แต่ชั้นล่าง เป็นร้านค้าขายของทันสมัยไปหมดแล้วค่ะ จากคุณ : PRESTO เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 52 19:16:19

ความคิดเห็นที่ 7 ตามมาเที่ยวด้วยกันสิคะ คุณ vsjmu ตอนที่ 1-3 มีลิงค์อยู่ด้านบนค่ะ เดินตรงไปเรื่อย ตามถนน Gerber Grasse ก้อจะมาเจออาคารขนาดใหญ่ สีแดงสด วาดภาพหลากสีสันบนผนังตึก ที่นี่คือ ศาลากลางค่ะ จากคุณ : PRESTO เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 52 19:21:52

ความคิดเห็นที่ 8 ตามไปด้วยคนครับ จากคุณ : the Sixth Floor เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 52 19:23:01

ความคิดเห็นที่ 9 ด้านหน้า เป็นจตุรัส มีตลาดนัด กลิ่นชีสคลุ้งมาตามอากาศ ดอกไม้ พรรณไม้นานา ทำให้ลานนี้ มีชีวิตชีวาและสีสันอีกโขค่ะ จากคุณ : PRESTO เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 52 19:30:45

ความคิดเห็นที่ 10 มาชมตึกใกล้ๆ กับร้านดอกไม้ค่ะ จากคุณ : PRESTO เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 52 19:32:08

ความคิดเห็นที่ 11 ตัวอาคาร เป็นแบบเบอร์กันเดียนกอธิค ประดับธงสีต่างๆ นาฬิกาด้านบนเล็กๆ ทำจากช่างฝีมือท้องถิ่น มีอายุหลายร้อยปี แก้ไขเมื่อ 26 ต.ค. 52 19:38:15 จากคุณ : PRESTO เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 52 19:35:50

ความคิดเห็นที่ 12 เดินไปริมน้ำกันนะคะ จริงๆแล้ว เมืองบาเซิลมีสองฝั่งค่ะ คือฝั่งซ้ายของแม่น้ำไรน์ ที่ตั้งของวิหารมึนสเตอร์และสถานีรถไฟที่เราเดินออกมากัน คือ เกรตบาเซิล อีกฝั่งคือลิตเติลบาเซิลค่ะ รูปนี้ฝั่งเกรตค่ะ จากคุณ : PRESTO เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 52 19:42:54

ความคิดเห็นที่ 13 เดินมาอีกหน่อยก้อฝนตกปรอยๆอีกแล้วค่ะ เบื่อจังเลย ถ่ายรูปมาได้เท่านี้ค่ะ พยายามที่สุดแล้ว  รูปสะพานที่เราเดินข้ามมาค่ะ จากคุณ : PRESTO เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 52 19:44:07

ความคิดเห็นที่ 14 ตรงฝั่งลิตเติลบาเซิล ริมแม่น้ำ มีรูปปั้นเทวีเอเธนน่า นั่งเปลื้องเครื่องเกราะและอาวุธ กลุ้มใจค่ะ เพราะเลือกว่าฝั่งไหนสวยกว่ากันไม่ได้ เลยไม่รู้ว่าจะไปฝั่งไหนดี จากคุณ : PRESTO เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 52 19:48:15

ความคิดเห็นที่ 15 มุมฝั้งลิตเติลบาเซิลค่ะ ที่แม่น้ำ จริงๆ จะมีเรือลำเล็กๆชื่อ ลอย พาข้ามฟากกันด้วยนะคะ แต่ไม่ได้ขึ้นค่ะ อากาศไม่ค่อยดี จากคุณ : PRESTO เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 52 19:50:04

ความคิดเห็นที่ 16 เดินย้อนกลับขึ้นมาทาง วิหารมึนสเตอร์ กันนะคะ ผ่านร้านขายดอกไม้ ดิชั้นถ่ายรูป เพราะชอบค่ะ ดอกสีขาว ขึ้นแถบเทือกเขาแอลป์ จำได้ว่าเป็นดอกไม้ประจำชาติออสเตรีย ชื่ออะไรไม่ทราบ ใครทราบ เท็จจริงเป็นอย่างไร รบกวนบอกด้วยนะคะ ส่วนดอกที่เป็นสีๆ ชื่อ ไซคลาเมนค่ะ ออกดอกเฉพาะฤดูใบไม้ร่วง เคยซื้อมาปลูกค่ะ ขึ้นสวรรค์ไปเรียบร้อย..... จากคุณ : PRESTO เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 52 19:54:36

ความคิดเห็นที่ 17 เอาล่ะค่ะ มาถึงวิหารหินทราบสีแดง ที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้าเรา มึนสเตอร์ค่ะ สร้างตั้งแต่ คศ.ที่ 13 แต่แผ่นดินไหวทลายลง สร้างใหม่อีก ปี 1356 ยาวนานมาจนทุกวันนี้ค่ะ จากคุณ : PRESTO เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 52 19:59:12

ความคิดเห็นที่ 18 วิหารนี้ถูกห้อมล้อมไปด้วยสวนต้นเชสนัทหรือเกาลัด ร่มรื่น เหมาะแก่การพักเหนื่อย จากคุณ : PRESTO เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 52 20:01:48

ความคิดเห็นที่ 19 ภายในวิหาร มีสุสานของนักคิดยุคเรเนสซองชื่อ อีรีมัส รวมถึงนักการเมืองและผู้มีชื่อเสียงของเมืองบาเซิล จากคุณ : PRESTO เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 52 20:03:24

ความคิดเห็นที่ 20 ด้านในค่ะ จากคุณ : PRESTO เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 52 20:04:26

ความคิดเห็นที่ 21 อีกซักรูปนะคะ ก่อนเดินออก หลังคามีสีสันสวยงาม จากคุณ : PRESTO เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 52 20:05:51

ความคิดเห็นที่ 22 ก่อนกลับซูริค ดิชั้นแวะชมแกลลอรี่ของเมือง สวยนะคะ มีภาพวาดของนักเขียนดังๆหลายท่าน เช่น ปิซาโร่ เรอนัว แวนโกะ โมเน่ต์ แต่ห้ามถ่ายรูปค่ะ ถือสวิสพาส ฟรี จากคุณ : PRESTO เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 52 20:09:39

ความคิดเห็นที่ 23 เดี๋ยวมาต่อนะคะ เหงาปาก หาไรกินก่อน จากคุณ : PRESTO เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 52 20:10:15

ความคิดเห็นที่ 24 ได้เลย จขกท.รีบไปรีบมานะคะ กองทัพต้องเดินด้วยท้องเนอะ เป็นที่ที่ดิฉันไปแล้วก็อยากไปอีก ดูรูปแล้วก็คิดถึงวันที่เคยไปมา เดี๋ยวจะติดตามภาพสวยๆต่อนะคะ จากคุณ : Party_Rainny เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 52 20:28:11

ความคิดเห็นที่ 25 นั่งรถไฟกลับมาซูริคกันนะคะ เดี๋ยวพาไปเที่ยวก่อนกลับเมืองไทยกัน จากคุณ : PRESTO เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 52 20:56:30

ความคิดเห็นที่ 26 มาแล้วค่ะ อิอิ.........ซูริค เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยผู้คน วัฒนธรรม ความบันเทิงยามราตรี และเมืองสวยๆ ออกจากสถานีรถไฟซูริคมา เดินมาตามถนนนะคะ ชื่อ Bahnhof ซึ่งเต็มไปด้วยร้านหรูๆ จากนั้น เลี้ยวซ้ายข้ามสะพาน จะเจอตึกรามบ้านช่องเขตเมืองเก่าริมน้ำ สวยงามนักหนา ยิ่งแดดออก อากาศดีด้วยแล้ว ไม่อยากจะจากไปเลยค่ะ จากคุณ : PRESTO เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 52 21:04:54

ความคิดเห็นที่ 27 อ๊ะ ...เดี๋ยว อย่าเพิ่งไปเดินที่ไหนซะก่อน หลังจากข้ามสะพานมาแล้ว ให้เดินตรงขึ้นไปบนเนินเขา สุดเนินเขานั้น จะเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัย หันหลังกลับมา จะเจอวิวอันตื่นตาของเมืองซูริคค่ะ จากคุณ : PRESTO เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 52 21:07:07

ความคิดเห็นที่ 28 แบบนี้ค่ะ จากคุณ : PRESTO เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 52 21:07:48

ความคิดเห็นที่ 29 จากนั้น เดินเรียบไปสู่ปากแม่น้ำ ที่ไหลลงทะเลสาบซูริคค่ะ ผ่านถนนเก่าแก่ ให้อารมณ์แบบอิตลียังงัยไม่รู้ จากคุณ : PRESTO เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 52 21:09:24

ความคิดเห็นที่ 30 ผ่านอาคารบ้านเรือน และโบสถ์เฟรามึนสเตอร์ค่ะ จากคุณ : PRESTO เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 52 21:11:12

ความคิดเห็นที่ 31 อากาศดี แดดออก ผู้คนออกมาเดินเล่นกันเต็มเมืองเลยค่ะ จากคุณ : PRESTO เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 52 21:12:30

ความคิดเห็นที่ 32 พ่อแม่ลูกพากันมาให้อาหารน้องหงส์ ซึ่งมีเป็นร้อยๆตัวรอบทะเลสาบซูริค จากคุณ : PRESTO เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 52 21:13:31

ความคิดเห็นที่ 33 เป็นเมืองที่มีความเป็นเมืองจริงๆ แต่ความสวยงามแบบโบราณของเมืองยังอยู่ครบ ทั้งธรรมชาติ บ้านเรือน เป็นเมืองที่ไม่มากเกินและไม่น้อยเกินอยากอยู่ที่นี่จังค่ะ จากคุณ : PRESTO เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 52 21:16:03

ความคิดเห็นที่ 34 ซูริคค่ะ เป็นหนึ่งในเมืองที่ดิชั้นชอบที่สุด โบสถ์เฟรามึนสเตอร์ทางซ้ายมือ และโกรสมึนสเตอร์ทางขวา เชื่อมด้วยสะพานระหว่างกัน จากคุณ : PRESTO เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 52 21:17:57

ความคิดเห็นที่ 35 จากการสำรวจของหนังสือที่ได้อ่านมาเล่มนึง เมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดในโลกคือ........ที่นี่ค่ะ....ซูริค ขนาดน้องหงส์ยังได้เริงร่าอยู่บนน้ำใสๆในทะเลสาบ จากคุณ : PRESTO เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 52 21:20:05

ความคิดเห็นที่ 36 และเมืองที่ค่าครองชีพแพงที่สุดล่ะคะ ในโลกนะคะ.......ก้อที่นี่อีกเช่นกัน....ซูริค....แต่ดิชั้น ก้อยังยืนยันที่อยากจะอยู่ที่นี่ ถึงจะแพงแล้วต้องอดอยาก แต่ขอตื่นมาทุกเช้า เจอขุนเขาอันสวยงาม ท้องฟ้าสดใส เดินไปตามบ้านช่องที่เต็มไปด้วยสเน่ห์ บนถนนอันสอาดสะอ้าน คนเดินจูงมือ อาบแดด นักดนตรีเล่นเพลงแจ๊ส คนแก่คู่คุณตาคุณยายเต้นรำกัน ริมทะเลสาบ บ้างพาลูกมาเดินเล่น โอบจูบ  พักจิบกาแฟซักหน่อย อื่มใจเหลือเกิน.......เป็นเมืองที่ควรจะเป็นเมืองจริงๆ จากคุณ : PRESTO เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 52 21:26:35

ความคิดเห็นที่ 37 ไม่มีอะไรจะบรรยายแล้วค่ะ ปล่อยตัวปล่อยใจให้เดินไปเรื่อยๆ จากคุณ : PRESTO เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 52 21:27:38

ความคิดเห็นที่ 38 แต่แล้ว โชคชะตาของดิชั้น ก้อเดินมาให้บรรจบกับถนน บานโฮฟเส้นเดิม รู้สึกตัวว่า ถนนเส้นนี้ พากลับมาสู่สถานีรถไฟ ที่ที่จะพาดิชั้นกลับโรงแรม เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับ สู่ที่ที่ดิชั้นเดินทางจากมา สู่โลกแห่งความเป็นจริง แต่ฝันดิชั้นยังคงอยู่ เพื่อที่จะได้เดินทางต่อไป เห็นโลกรอบๆตัว และต้องกลับมาที่นี่อีกครั้ง...สวิตเซอร์แลนด์......สวยเหลือเกิน จากคุณ : PRESTO เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 52 21:33:51

ความคิดเห็นที่ 39 สวยงามจริง ๆ ครับ จากคุณ : Civict2003 เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 52 21:46:25

ความคิดเห็นที่ 40 ดิชั้น ขอปิดกระทู้ใบไม้เปลี่ยนสีที่สวิตเซอร์แลนด์ด้วยรูปนี้ค่ะ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม สวยบ้างไม่สวยบ้าง แต่ก้อหวังว่า จะมีความสุขกับภาพของดิชั้นนะคะ อย่าลืมออกไปเที่ยวนะคะ จะเมืองไทยเมืองนอก ถือว่าเติมความทรงจำดีๆให้ชีวิต.... ดิชั้นคิดเสมอค่ะว่า ตายไป เอาเงินไปไม่ได้ นอกจากเหลือให้ลูกหลานใช้ แล้วเค้าไปซื้อแบ๊งกงเต๊กปึกละ 70 บาท 30 ใบ ใบละ สิบล้านมาเผาให้ดิชั้น เงินที่หามาล่ะคะ 70 บาทยังไม่ได้ใช้ด้วยซ้ำไป.....แต่....เราเอาความทรงจำดีๆ และความสุขไปกับเราได้ แบ่งเงินเดือน ไว้เก็บ กิน ให้พ่อแม่ และ เที่ยวค่ะ มีความสุขทุกท่านนะคะ...... แก้ไขเมื่อ 26 ต.ค. 52 21:51:53 จากคุณ : PRESTO เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 52 21:50:18

ความคิดเห็นที่ 41   อยากรู้ว่าอุณหภูมิเท่าไรครับ จากคุณ : tink_dee เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 00:45:58

ความคิดเห็นที่ 42 nxt time i'll show you more about Basel nakub there are 2 Basels Baselcity...in yr pics Baselland..country side Baselcity is the smallest province in swizz and the 3rd largest city (population) after zurich and geneva but if baselcity/basellland are together they are not too far from zurich จากคุณ : vacheron เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 05:15:16

ความคิดเห็นที่ 43 โบสถ์ in pic 2-4 everymoths there is a party kub i was there once..snook dee you also missed the Vangoh exhibition at Kunstmuseum...eh eh Basel is city of fairs , Museums and world phamacies (novartis,roche) จากคุณ : vacheron เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 05:22:17

ความคิดเห็นที่ 44 1 thing from Basel and veryyyyyyyyyy famous is.... จากคุณ : vacheron เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 05:24:15

ความคิดเห็นที่ 45 the biggest and oldest funfairs started last saturday..this year 539 the Herbstmesse...Autum Fair...http://www.basel.ch/en/kultur/highlights/herbstmesse-3.htm แก้ไขเมื่อ 27 ต.ค. 52 05:31:34 จากคุณ : vacheron เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 05:26:08

ความคิดเห็นที่ 46 ขอบคุณนะคะ ที่ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในสวรรค์เลยค่ะ ประเทศในฝัน  โอ้วววววววววววว จากคุณ : ขออภัยในความสวย (//JaE_PhUn) เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 52 16:58:46

ความคิดเห็นที่ 47 ตามมาเที่ยวสวิสฯต่อกับคุณ PRESTO...คะ ท่าทางอากาศจะหนาว แต่มีแดด ฟ้าใสๆ ก็น่าเดินไปอีกแบบนะคะ.. ชอบ คห.29 >>> อากาศหนาวๆ กับเก้าอี้สีหวานๆ น่านั่ง.. ถ้ามีโกโก้ร้อนซักแก้ว คงดีไม่น้อย... คห.36 >>> อยากไปซูริคคะ คุณ PRESTO ถ่ายภาพนี้ ได้บรรยากาศเมืองมากๆๆ คะ ( แต่แอบมีเครนสีแดงด้านหลัง ทำให้มุมมองในเมืองด้อยไปนิดเลย ว่าไหมคะ ) ขอบคุณสำหรับ รีวิวภาพสวยๆ กับเมืองน่ารักๆ คะ จากคุณ : ยายปุก เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 52 22:22:33