ความคิดเห็นที่ 1 รวมลิงค์รีวิวทริปเกาหลี&ไต้หวัน ++PRE-REVIEW Taiwan++ ทำวีซ่าไต้หวันง่ายนิดเดียว http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8229874/E8229874.html ++PRE-REVIEW Korea++ แนะนำของถูก ของดี และของฟรี สำหรับเพื่อนๆ ที่เตรียมตัวไปเที่ยวเกาหลี http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2009/09/E8289484/E8289484.html ++REVIEW Korea&Taiwan++ DAY1: Fly me to Seoul http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8394173/E8394173.html ++REVIEW Korea&Taiwan++ DAY2: Everland่, in Love http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8403465/E8403465.html ++REVIEW Korea&Taiwan++ DAY2.5: Finally (ถึงเสียที), Everland http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2009/10/E8409087/E8409087.html ++REVIEW Korea&Taiwan++ DAY3: Secret in the Palace http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8442812/E8442812.html ++REVIEW Korea&Taiwan++ DAY3.5: From Art to Seoul http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8450026/E8450026.html ++REVIEW Korea&Taiwan++ DAY4: Dream of the King http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8473089/E8473089.html ++REVIEW Korea&Taiwan++ DAY4.5: Fortress of My Heart http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8479167/E8479167.html ++REVIEW Korea&Taiwan++ DAY5: To the Top of Seoul http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8483153/E8483153.html ++REVIEW Korea&Taiwan++ DAY5.5: To the Shops of Seoul http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8488175/E8488175.html ++REVIEW Korea&Taiwan++ DAY6: Saranghaeyo, Korea http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8497801/E8497801.html ++REVIEW Korea&Taiwan++ DAY6.5: The Next Flight to Taipei http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8516682/E8516682.html ++REVIEW Korea&Taiwan++ DAY7: The Frame of Two Men http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8526956/E8526956.html ++REVIEW Korea&Taiwan++ DAY7.5: National Treasure http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8544477/E8544477.html ++REVIEW Korea&Taiwan++ DAY8: Goodbye Taiwan, Goodbye My Love http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8555901/E8555901.html แก้ไขเมื่อ 18 พ.ย. 52 09:10:25 แก้ไขเมื่อ 03 พ.ย. 52 05:28:37 แก้ไขเมื่อ 28 ต.ค. 52 11:51:44 แก้ไขเมื่อ 28 ต.ค. 52 11:50:15 จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 18:07:10

ความคิดเห็นที่ 2 โปรแกรมเดินทางในวันนี้ DAY4 อาทิตย์ 27กันยายน 06.00 ตื่นนอน 07.00 ทานอาหารเช้าที่โรงแรม 08.00 ออกเดินทางไปยังเมืองซูวอน Suwon (subway) 09.30 ถึงซูวอน เดินทางไปชม Hwaseong Haenggung 12.00 ทานอาหารกลางวัน 13.30 เดินทางไปยัง Korean Folk Village 14.00 เข้าชม Korean Folk Village 16.30 เดินทางกลับจากเมืองซูวอน 17.30 ทานอาหารเย็นที่ตลาดปลา Noryangjin 19.30 ไปชอปปิ้งที่ Lotte Mart 21.30 กลับโรงแรม พักผ่อนที่ Doulos Hotel จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 18:08:28

ความคิดเห็นที่ 3 หลังจากในรีวิวตอนที่แล้ว DAY4 Dream of the King ผมได้พาเพื่อนๆ มาเที่ยวที่เมืองซูวอน Suwon โดยมีโปรแกรมไปชมพระตำหนักฮวาซอง แฮงกุง Hwaseong Heanggung ในตอนเช้า จากนั้นก็ไปทานข้าวกันที่ชั้นบนของห้าง AK Plaza บนสถานีรถไฟซูวอน ตอนนี้ก็เป็นเวลาบ่ายโมงพอดีครับ ผมมีนัดไปขึ้นรถ Shuttle Bus ไปเที่ยวหมู่บ้านวัฒนธรรมเกาหลี Korean Folk Village ตอนบ่ายโมงครึ่ง แล้วเย็นนี้จะพาไปทานมื้อเย็นกันที่ตลาดปลา Noryangjin ในกรุงโซล ปิดท้ายด้วยการช้อปปิ้งในซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ใหญ่ที่สุดในโซล Lotte Mart ตามไปเที่ยวกันต่อนะครับ --------------------------------------- หลังจากที่ทานมื้อกลางวันเสร็จแล้วก็แวะทำธุระที่ห้องน้ำเสียก่อน โชคดีที่ห้องน้ำนั้นอยู่ตรงข้ามกับร้านอาหารพอดี ก็เลยไม่ต้องไปเสียเวลาเดินหา จากนั้นผมก็กดลิฟท์ลงมาชั้นล่างแล้วก็เดินมายัง Tourist Information Center เพื่อมารอขึ้นรถ รถ Shuttle Bus ที่จะนั่งไป Korean Folk Village นี้ขึ้นข้างๆ Tourist Information Center นี่เองครับ อยู่ข้างๆ สถานีซูวอนเลย เดินมาไม่กี่ก้าวก็ถึงแล้ว รถคันนี้ขึ้นฟรีทั้งไปและกลับครับ แต่จะต้องซื้อตั๋วเข้าชม Korean Folk Village ที่ Tourist Information Center นี้เสียก่อน ------------------------------------------- ตารางรถ Korean Folk Village Shuttle Bus ขาไป Suwon Station --> Korean Folk Village 10.30 11.30 12.30 13.30 14.30 ขากลับ Korean Folk Village --> Suwon Station 14.00 16.00 17.00 17.30(เฉพาะ weekend) *ใช้เวลาเดินทาง 30 นาที แก้ไขเมื่อ 27 ต.ค. 52 21:09:09 แก้ไขเมื่อ 27 ต.ค. 52 18:21:39 จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 18:13:08

ความคิดเห็นที่ 4 รถออกจากลานจอดรถด้านข้าง Tourist Information Center ก็ตรงยาวรวดเดียวแบบไม่จอดป้าย นั่งมา 30 นาทีก็ถึงแล้วครับ รถจอดใกล้ๆ กับประตูทางเข้าหมู่บ้านวัฒนธรรมเกาหลีเลย มีตั๋วอยู่ในมือแล้วก็เลยไม่ต้องไปซื้อตั๋วอีก เดินเข้าไปพร้อมกันเลยครับ ----------------------------------------- ข้อมูลทั่วไป Korean Folk Village เวลาเปิดปิด เปิดทุกวัน 9.00-17.00 *วันเสาร์เปิดถึง 17.30 *เข้าก่อนเวลาปิดอย่างน้อย 1 ชั่วโมง ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 12,000 วอน เด็ก 8,000 วอน *ค่าเข้าชมไม่รวม Global Folk Museum, Folk Museum, Haunted House วิธีการเดินทาง Shuttle Bus: ฟรี / 30 นาที Public Bus: สาย 10-5 จาก Suwon Station / 1,000 วอน / 60 นาที Taxi: 16,000 วอน / 30 นาที เวปไซต์ http://www.koreanfolk.co.kr/folk/english/main.html แก้ไขเมื่อ 27 ต.ค. 52 18:30:58 จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 18:24:47

ความคิดเห็นที่ 5 มาเป็นกำลังใจให้ค่ะ  .. เพราะกระทู้มิตติ้งป้าก็หาย  ข้อความหายไปหมด  ร้อยกว่าคห.  ค่ะ   .. จากคุณ : ป้าเกษ (inhouse) เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 18:32:31

ความคิดเห็นที่ 6 ก่อนอื่นมาดูแผนผังของหมู่บ้านวัฒนธรรมเกาหลีกันก่อน ทางเข้าและทางออกจะอยู่จุดเดียวกันคือตรงลูกศรที่อยู่ด้านซ้ายนะครับ จากนั้นผมจะเดินไปตามด้านบนจนสุดแล้วข้ามสะพานลงมาด้านล่าง จากนั้นก็จะเดินทางด้านล่างกลับมายังด้านหน้า วนเป็นวงกลมเลย จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 18:32:54

ความคิดเห็นที่ 7 หัวอกเดียวกันเลยครับป้าเกษ ---------------------------------- เดินผ่านประตูเข้ามาก็จะเจอกับร้านขายของที่ระลึกก่อนเลย จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 18:34:03

ความคิดเห็นที่ 8 มีร้านให้แต่งตัวด้วยชุดเกาหลีโบราณด้วย นี่ถ้ารู้มาก่อนว่าข้างในจะสวยเหมือนที่ดูในหนังเกาหลี ผมจะยอมลงทุนแต่งตัวเป็นจอมยุทธเข้าไปเลย จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 18:36:14

ความคิดเห็นที่ 9 ที่นี่เคยใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำหนังและละครเกาหลีหลายเรื่องเหมือนกัน ผมเองก็ไม่ค่อยรู้จักมาก ใครที่เป็นแฟนละครเกาหลีช่วยผมด้วยนะครับ แถวบนจากทางซ้ายมือคือละครเรื่องซินยุนบก ที่กำลังออนแอร์ทางช่อง 3 อยู่ตอนนี้ ถัดมาเป็นหนังเรื่อง The King and the Clawn ภาพยนตร์สุดฮือฮาที่ถูกเสนอชื่อส่งชิงออสการ์ในปีที่เข้าฉาย ถัดมาก็ไม่รู้แล้ว แต่ขวามือสุดเป็นแดจังกึม อันนี้มั่นใจ แถวล่าง Portrait of a beauty หนังที่เป็นเรื่องราวของซินยุนบกเหมือนกันแต่ตีความต่างจากในละคร บ้านเรามี DVD ขายแล้ว เรื่องนี้ติดเรต 18+ ถัดมาเป็น ละครเรื่อง ฮงกิลดอง จอมโจรจอมใจ ที่เคยฉายทางช่อง 7 ถัดมาก็ไม่รู้แล้ว แหะ แหะ จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 18:40:43

ความคิดเห็นที่ 10 เดินอยู่ในนี้ให้ความรู้สึกกับผมอยู่สองอย่างครับ อย่างแรกคือรู้สึกเหมือนกำลังย้อนยุคกลับไปยังสมัยโบราณ อีกอย่างคือกำลังอยู่ในฉากของหนังเกาหลีที่เคยดู จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 18:42:40

ความคิดเห็นที่ 11 บางมุมก็เหมือนกับในละครทีวี จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 18:43:29

ความคิดเห็นที่ 12 อย่างนึงที่จะต้องมีแน่ๆคือพวกร้านขายขนมสมัยโบราณ เห็นอยู่หลายร้านตลอดทาง จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 18:44:46

ความคิดเห็นที่ 13 ฮือๆๆ เสียดายแทน ไม่ลองส่งเมล์หาพันทิป ให้กู้คืนก่อนหรอค่ะ จากคุณ : sueko เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 18:46:03

ความคิดเห็นที่ 14 สู้ๆค่ะ ทำใหม่ก็มาชมใหม่่ จากคุณ : anyarat_postharvestcmu เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 18:46:12

ความคิดเห็นที่ 15 เห็นคุณป้ากำลังคั่วเกาลัดแล้วคิดถึงความลับในรีวิวตอน DAY3: Secret in the Palace จังเลย คุณป้าจะเคยโดนบ้างมั๊ยน๊า จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 18:46:20

ความคิดเห็นที่ 16 ติดตามคะ จากคุณ : cry_mandy เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 18:47:41

ความคิดเห็นที่ 17 ได้ลองส่งอีเมลล์ไปสอบถามกับทางพันธ์ทิพย์แล้วครับ แต่ยังไม่ได้ตอบกลับมา คิดว่าคงจะกำลังยุ่งกับระบบอยู่ก็เลยไม่อยากกวนเค้าครับคุณ sueko ขอบคุณที่แนะนำนะครับ ไม่อยากให้รีวิวค้างอยู่อย่างนั้น ก็เลยคิดว่าลงใหม่ก็ละกัน ขอบคุณคุณ anyarat_postharvestcmu ที่แวะมาชมใหม่ครับ ------------------------------------------------- เดินมาถึงที่ว่าการอำเภอครับ จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 18:49:17

ความคิดเห็นที่ 18 โชคดีจังที่หน้าไม่เหมือนกับในรูปที่ติดประกาศไว้ 5555 จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 18:50:08

ความคิดเห็นที่ 19 โอ่งฮังการิ โอ่งประจำชาติ นอกจากจะใช้หมักกิมจิกับซอสแล้ว ยังใช้ปลูกต้นไม้ก็ได้ด้วย จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 18:50:47

ความคิดเห็นที่ 20 ตอนนี้ผมกำลังข้ามสะพานลงมาด้านล่างในแผนผังด้านบน จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 18:51:25

ความคิดเห็นที่ 21 เจอเสาหินสองต้นเหมือนเป็นพี่น้องกันเลย คนนึงสูงคนนึงเตี้ย เห็นเสาหินแบบนี้บ่อยๆตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ น่าจะเป็นวัฒนธรรมโบราณของชาวเกาหลี ใครรู้ว่าหมายถึงอะไรช่วยมาเล่าให้ฟังด้วยนะครับ คุณ virgolove (virg_ph) เข้ามาให้ความรู้ว่าเรียกว่า เสาปิศาจ อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่คคห.ที่ 39 ขอบคุณนะครับ แก้ไขเมื่อ 27 ต.ค. 52 21:12:43 จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 18:52:46

ความคิดเห็นที่ 22 วันนี้เป็นวันอาทิตย์ มีคนมาเที่ยวที่นี่พอสมควร ส่วนมากเป็นชาวเกาหลี มีกรุ๊ปทัวร์คนไทยมาลงด้วย จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 18:53:27

ความคิดเห็นที่ 23 ทางเดินข้ามลำธารในสมัยโบราณ เหมือนในหนังเปี้ยบเลย ลองใช้วิชาตัวเบาเดินข้ามน้ำดู งานนี้เปียกเป็นเปียก จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 18:54:12

ความคิดเห็นที่ 24 มาให้กำลังใจจ้าาา กระทู้เราก็เดี้ยงไปอันหนึ่งเหมือนกัน แงๆๆๆ เดี๋ยวค่ำๆรีวิวตอนต่อไปเป็นเพื่อนเกาหลี คิคิ จากคุณ : virgolove (virg_ph) เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 18:54:43

ความคิดเห็นที่ 25 ถ้าไม่ได้เดินมากลางลำธาร ก็คงไม่มีโอกาสได้ถ่ายรูปนี้ จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 18:54:49

ความคิดเห็นที่ 26 ต้นไม้ที่นี่เพิ่มเริ่มจะเปลี่ยนสีเอง ถ้ามาช่วงเดือนตุลาสงสัยคงจะสวยกว่านี้ จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 18:55:50

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณคุณ cry_mandy และคุณ virgolove (virg_ph) ที่มาให้กำลังใจครับ -------------------------------------------- ตอนที่ไปนี่ต้นไม้ส่วนใหญ่ยังเหลืองๆเขียวๆอยู่เลย จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 18:57:04

ความคิดเห็นที่ 28 เห็นสะพานนี้แล้วนึกถึงโปสเตอร์ละครเรื่องซินยุนบก แต่จริงๆก็ไม่ได้เหมือนหรอกนะครับ คิดถึงเฉยๆ จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 18:57:55

ความคิดเห็นที่ 29 แพนี้เหมือนที่เคยดูในหนังเกาหลีเลย จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 18:58:29

ความคิดเห็นที่ 30 เดินมาเกือบจะสุดทางก็มาเจอส่วนของสวนสนุก จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 18:58:57

ความคิดเห็นที่ 31 มีการจัดนิทรรศการละครอิงประวัติศาสตร์ Historical Drama Exhibition ด้วย ภายในก็จะมีการบอกว่ามีละครเรื่องไหนมาถ่ายทำที่นี่บ้าง จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 18:59:58

ความคิดเห็นที่ 32 ก็จะมีรูปหนังเรื่องต่างๆให้ดู รวมทั้งมีทีวีฉายฉากต่างๆด้วย จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 19:00:30

ความคิดเห็นที่ 33 ทายซิครับว่านี่คือเรื่องอะไร จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 19:01:13

ความคิดเห็นที่ 34 แล้วนี่ล่ะ เรื่องอะไร จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 19:01:37

ความคิดเห็นที่ 35 เดินออกมาก็มาเจอกับเก้าอี้ตัวนึง เห็นแล้วก็นึกถึงใครบางคน เสียดายไม่ได้มานั่งเก้าอี้ตัวนี้แล้วถ่ายรูปด้วยกัน จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 19:02:20

ความคิดเห็นที่ 36 เดินข้ามสะพานนี้ก็จะไปยังทางออกแล้ว จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 19:02:45

ความคิดเห็นที่ 37 ตอนที่กำลังเดินข้ามสะพาน มองเห็นจอมยุทธท่านหนึ่งกำลังพายเรืออยู่ จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 19:03:21

ความคิดเห็นที่ 38 ภาพปิดท้ายของหมู่บ้านวัฒนธรรมเกาหลีแห่งนี้ จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 19:03:58

ความคิดเห็นที่ 39 “เสาปีศาจ” (Devil pole) คือเสาสัญลักษณ์ที่ชาวเกาหลีเรียกกันว่า “ชังซึง” (Jangseung) เป็นสัญลักษณ์แห่งความพิทักษ์ปกป้องชาวบ้านให้พ้นจากเคราะห์ร้าย และวิญญาณชั่วร้าย บางทีจะสร้างเป็นเดี่ยวๆ เป็นคู่ หรือเป็นกลุ่มก็ได้ค่ะ ส่วนใหญ่จะสร้างเป็นไม้ แต่มีบางหมู่บ้านนิยมสร้างจากหินจ้า ***ค้นมาให้จากในเนตจ้า ตอนไกด์อธิบายไม่ค่อยฟังเลยจำไม่ได้ จำได้แต่ว่าถ้ามีรูปแท่งหินนี้บนขวดน้ำส้มละก็ น้ำส้มยี่ห้อนั้น(มาจากเกาะเจจู) จะอร่อยกว่ายี่ห้ออื่นคะ อันนี้ลองซื้อมาชิมเพื่อเปรียบเทียบกันแล้ว อิอิ จากคุณ : virgolove (virg_ph) เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 19:07:40

ความคิดเห็นที่ 40 โดยรวมแล้วผมชอบที่นี่นะครับ บรรยากาศร่มรื่น มีมุมสวยๆให้ถ่ายรูปเยอะเลย ไม่แปลกใจเลยที่หนังหลายเรื่องมาถ่ายทำที่นี่ เสียดายที่ตอนที่ฝนตกปรอยๆ แต่ก็ยังพอเดินเที่ยวได้ และฝีมือถ่ายรูปของผมไม่สวยก็เลยได้รูปอย่างที่เห็น ถ้าเป็นเพื่อนๆคงถ่ายรูปได้สวยกว่านี้มาก และอีกจุดที่ชอบคือความสะอาดครับ ที่นี่รักษาความสะอาดได้ดีมาก ขยะข้างทางนี่ไม่เจอเลย จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 19:07:44

ความคิดเห็นที่ 41 ขอถามหน่อยนะคะ คุณ ilovesassygirl แท็กซี่ในเกาหลีนั่งได้กี่คนค่ะ ^_^ จากคุณ : adazeus_k เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 19:12:10

ความคิดเห็นที่ 42 ขอบคุณคุณ virgolove (virg_ph) ที่มาให้ความรู้เรื่องเสาปิศาจนะครับ ผมเองก็เพิ่งทราบเหมือนกัน --------------------------------------------------- ผมใช้เวลาเดินเที่ยวอยู่ภายในหมู่บ้านวัฒนธรรมเกาหลีประมาณชั่วโมงครึ่ง ออกมาประมาณบ่ายสามโมง ปรากฏว่ารถ Shuttle Bus ที่จะกลับไปยังสถานีซูวอนคันต่อไปออกตอน 4 โมงเย็น รอตั้งชั่วโมงนึง เป็นความผิดของผมเองที่ไม่เช็คเวลารถขากลับไว้ก่อน ปาป๊าผมไม่ยอมรอครับ บอกว่าอุตสาห์มาเที่ยวแล้วจะมานั่งรอเป็นชั่วโมงได้ยังไง แล้วถ้ารอถึงสี่โมง กลับไปก็คงจะเย็นแล้ว ซึ่งปาป๊าก็พูดถูกแหละครับ ทางเลือกของผมตอนนี้ก็มีอยู่สองทางก็คือ 1. นั่งรถเมล์สาย 10-5 กลับไปยังสถานีซูวอน คนละ 1,000 วอน แต่ใช้เวลา 1 ชั่วโมง (โอ้ว แม่เจ้า อย่างนั้นนั่งรอรถ Shuttle Bus อยู่ที่นี่ดีกว่า ถึงพอๆกัน) 2. โบกรถแท๊กซี่กลับไป จากโพยที่จดมา ใช้เวลา 30 นาที แต่ค่ารถนี่สิเลือดซิบ 15,000-18,000 วอน = 400-500 บาท สุดท้ายก็เลือกทางเลือกที่สองครับ เป็นแท๊กซี่ที่แพงที่สุดในทริป บทเรียนที่ไม่ยอมเช็คเวลาขากลับให้ดีดี จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 19:13:18

ความคิดเห็นที่ 43 .. สู้ๆครับ ... ช่วงนี้พันทิปยังป่วยไม่หาย เล่นช่วงกลางวันต้องลุ้นระทึกน่าดู - - .. จากคุณ : POGGHI เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 19:15:37

ความคิดเห็นที่ 44 รถแท๊กซี่เกาหลีนั่งได้ 4 คนครับ หน้า 1 หลัง 3 ผมยังไม่เคยเห็นใครนั่งเยอะกว่านั้นนะ คุณ adazeus_k แต่ถ้ามาคนเยอะกว่านั้นมีรถแท๊กซี่แบบมินิแวนนั่งได้ 6 คน แต่ต้องโทรเรียกครับ บนถนนนี่ไม่เห็นมีเลย ----------------------------------------------- นั่งรถแท๊กซี่มาเจอรถติดบ้าง ติดไฟแดงบ้าง มิเตอร์มันก็ขึ้นเอา ๆ พี่โชเฟอร์ก็พาไปส่งที่ Paldalmun Gate ถึงจุดหมาย 30 นาทีเป๊ะตรงตามตำรา ค่ามิเตอร์ 16,000 วอน = 440 บาท แท๊กซี่ที่เกาหลีนี่มี GPS กันเกือบทุกคันครับ ที่ผมนั่งตลอดทริปก็ไม่เห็นคันไหนที่ไม่มี คิดว่าอีกไม่นานน่าจะเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถยนต์บ้านเราบ้าง จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 19:16:57

ความคิดเห็นที่ 45 ขอบคุณที่ให้กำัลังใจครับคุณ  POGGHI --------------------------------------- ที่ผมนั่งมาลงที่ Paldalmun Gate นี้ก็เพราะในคู่มือและเวปไซต์ต่างๆ บอกเอาไว้ว่า ถ้าจะเริ่มเที่ยว Hwaseong Fortress ให้มาเริ่มที่ Paldalmun Gate Paldalmun Gate หรือประตูทางทิศใต้ อยู่กลางวงเวียนคล้ายๆอนุสาวรีย์เลยครับ ตอนที่ผมนั่งแท๊กซี่ไป Hwaseong Heanggung ตอนเช้าก็ผ่านไปครั้งนึงแล้ว จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 19:19:30

ความคิดเห็นที่ 46 ป้อมฮวาซอง หรือ Hwaseong Fortress คือกำแพงขนาดมหึมาและยาวเหยียดที่ล้อมรอบเมืองซูวอนเอาไว้ สร้างขึ้นโดยพระเจ้าจองโจหรือลีซานนี่แหละครับ ได้รับการบันทึกให้เป็นมรดกโลกในปี 1997 อีกด้วย ดูจากแผนที่ด้านล่าง Paldalmun Gate นั้นอยู่ตรงตำแหน่ง A ส่วนพระตำหนักฮวาซอง แฮงกุง Hwaseong Heanggung นั้นอยู่ตรงตำแหน่ง B แก้ไขเมื่อ 27 ต.ค. 52 19:22:23 จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 19:21:39

ความคิดเห็นที่ 47 จาก Paldalmun Gate ผมก็เดินเข้าซอยเล็กๆทางซ้ายมือในแผนที่ตามที่พี่โชเฟอร์ชี้บอก ไปหา Tourist Information Center ที่ตัว "i" เดินเข้าซอยไปนิดเดียวก็ถึงแล้วครับ ไม่เกิน 50 เมตร Tourist Information Center อยู่ทางขวามือของรูป จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 19:24:17

ความคิดเห็นที่ 48 มาปูเสื่อระประสาลูกทัวร์นอนดึก จากคุณ : BAHAMAS เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 19:27:49

ความคิดเห็นที่ 49 จากแผนที่จะเห็นว่าป้อมฮวาซองเป็นกำแพงยาวเหยียดเลย ถ้าให้อาอี๊ของผมเดินนี่สงสัยว่าคงจะสลบไปเสียก่อน ผมวางแผนตั้งแต่ก่อนมาแล้วว่า จะให้ลูกทัวร์ของผมเที่ยวด้วยเจ้านี่ครับ Hwaseong Trolley หรือรถไฟหัวมังกร ตามศัพท์ของบริษัททัวร์ ซึ่งจะวิ่งไปรอบๆ ป้อมฮวาซอง จะเลือกลงตรงไหนก็ได้ ลงปลายทางหรือย้อนกลับมาที่เดิมก็ได้ ------------------------------------------- ข้อมูลทั่วไป Hwaseong Trolley เวลาให้บริการ 10:00-17:50 ทุกวันยกเว้นวันจันทร์ *ยกเว้นวันที่ฝนตกหรือหิมะตก ค่าโดยสาร ผู้ใหญ่ 1,500 วอน เด็ก 700 วอน เส้นทาง Mt. Paldalsan (General Gang Gam Chan Statue) - Hwaseomun Gate - Jangan Park - Janganmun Gate - Hwahongmun Gate - Yeonmudae (3.2 ก.ม.) *มีทั้งหมด 2 ขบวน วิ่ง 12 เที่ยวต่อวัน *จากต้นทางถึงปลายทางใช้เวลา 30 นาที เวปไซต์ http://shfes-eng.suwon.ne.kr/html/sub3_3_1.asp รูปจากในอินเทอร์เน็ต ขอบคุณครับ แก้ไขเมื่อ 27 ต.ค. 52 19:34:54 จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 19:30:57

ความคิดเห็นที่ 50 ลูกทัวร์นอนดึกของผมมาแล้ว อิอิ วันนี้ฉายหนังซ้ำนะครับ ขอบคุณคุณ BAHAMAS ครับ -------------------------------------------------- แต่แผนของผมก็ต้องพังลงเมื่อผมถามเจ้าหน้าที่ว่า Hwaseong Trolley ขึ้นที่ตรงไหน เธอชี้นิ้วขึ้นไปบนนี้ครับ โอ้ว แม่เจ้า บันไดยังกะจะปีนกำแพงเมืองจีน จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 19:34:00

ความคิดเห็นที่ 51 พอเอาความกลับมาเล่าให้ลูกทัวร์ของผมฟัง อาอี๊ของผมร้องเสียงหลงเลย ยังไงก็จะไม่ปีนขึ้นบันไดนี้เด็ดขาด สุดท้ายก็ตัดสินใจพากันกลับครับ ผมเลยไม่มีโอกาสขึ้นไปเที่ยวบน Hwaseong Fortress ด้วยประการฉะนี้ จึงได้แต่เก็บ Hwaseong Fortress เอาไว้ในใจ ถ้ามีโอกาสกลับมาเกาหลีใหม่ต้องขึ้นไปชมข้างบนนั้นให้ได้ (อันเป็นที่มาของชื่อตอนรีวิวตอนนี้ Fortress of My Heart อิอิ) แต่ก่อนจะกลับ ผมให้อาอี๊แชะรูปคู่กับบันไดนี้ก่อน อาอี๊รีบชูสองนิ้วประหนึ่งว่าปีนบันไดกำแพงเมืองจีนสำเร็จ แค่นี้สบายมาก (รู้แล้วอย่าไปบอกใครนะครับ จุ๊ จุ๊) จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 19:39:17

ความคิดเห็นที่ 52 พอไม่ได้ขึ้นไปเที่ยว Hwaseong Fortress เวลาก็เหลือสิครับ ตอนนี้ก็เพิ่งจะสี่โมงเย็นเอง แผนที่จะทานข้าวเย็นสั่งลาที่ซูวอนก็ต้องล้มเลิกเช่นกัน (อย่างที่บอกล่ะครับว่าวันนี้โปรแกรมเปลี่ยนไปตลอด) สุดท้ายก็ตกลงกันว่าจะนั่งรถแท๊กซี่กลับไปยังสถานีซูวอนแล้วนั่งรถไฟกลับไปยังกรุงโซล ไปตายเอาดาบหน้าที่กรุงโซล เจอร้านขายหมึกกระทะอยู่ด้านหน้าทางขึ้นเลย แต่เสียดายที่มาผิดเวลา จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 19:42:31

ความคิดเห็นที่ 53 สุดท้ายเราก็นั่งรถแท๊กซี่กลับมายังสถานีซูวอนครับ นั่งมา 2-3 นาทีก็ถึงแล้ว ถ้ามีโอกาสกลับไปเที่ยวเกาหลีอีกครั้ง ผมคงต้องหาเวลากลับมาที่ Hwaseong Fortress ให้ได้ จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 19:44:06

ความคิดเห็นที่ 54 จากนั้นพวกเราก็นั่งรถไฟกลับไปยังกรุงโซลครับ ขากลับนี่ไม่ต้องเปลี่ยนขบวนที่สถานี Guro เหมือนตอนขามาแล้ว นั่งรวดเดียวกลับไปยังกรุงโซลได้เลย ผมก็สงสัยว่าตอนขามาถ้าผมขึ้นถูกขบวน รถไฟอาจจะมาทางซูวอนโดยไม่ต้องไปเปลี่ยนขบวนก็ได้เหมือนกัน แต่พอดีว่าอ่านไม่ออก พอรถไฟมาก็ขึ้นเลย และขบวนที่มาก็มุ่งไปทางอินชอน Incheon คนละทางกัน ก็เลยต้องไปเปลี่ยนขบวนอย่างที่เคยเล่าให้ฟังไปแล้ว ---------------------------------------- และแล้วการผิดแผนก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้งหนึ่ง แต่คราวนี้เกิดจากผมเอง จริงๆแล้ว ผมวางโปรแกรมไปตลาดปลา Noryangjin เอาไว้ในวันถัดไปครับ แต่จู่ ๆ ก็วูบขึ้นมาเองว่า ไหนๆ รถไฟก็จะถึงสถานี Noryangjin แล้ว ทำไมไม่ไปเสียวันนี้เลยล่ะ พรุ่งนี้จะได้ไม่ต้องเสียเวลามาที่นี่อีก แถมยังได้เวลาทานข้าวเย็นพอดี เมื่อตัดสินใจดังนั้น ก็เลยบอกให้ทุกคนลงที่สถานี Noryangjin เลย ทำเอามาม๊างอนไปเลยที่ไม่บอกให้รู้ตัวล่วงหน้า ก็มันเพิ่งคิดได้วูบเดียวตอนรถไฟจะจอดเลยนี่ครับ ขอโทษนะครับ จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 19:48:55

ความคิดเห็นที่ 55 แผนผังเส้นทาง Subway Line 1 ที่นั่งจากสถานีซูวอนกลับกรุงโซล จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 19:50:03

ความคิดเห็นที่ 56 ก่อนที่จะเดินทางมาเกาหลี ผมได้มองหาตลาดปลา Noryangjin จาก Google Map รู้สึกว่าจะอยู่ติดกับสถานีเลย แต่ไม่รู้ว่าจะต้องออกทางไหน พอมาถึงที่สถานีนี้จริงๆก็ถึงบางอ้อว่า สถานีนี้มีทางออกเดียว จะเข้าจะออกก็ต้องเดินผ่านตรงนี้ พอเดินออกไปเสร็จก็เลี้ยวขวาข้ามสะพานลอยข้ามรางรถไฟไปฝั่งตรงข้าม ก็จะถึงเลยครับ มีทางเชื่อมต่อจากตลาดปลา Noryangjin มายังสถานีรถไฟเลย จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 19:52:18

ความคิดเห็นที่ 57 เดินลงบันไดนี้ไปก็ถึงแล้วครับ จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 19:53:04

ความคิดเห็นที่ 58 โชโย ผมเขียนถึงภาพสุดท้ายที่ลงเอาไว้ในรีวิวที่เสียไปแล้วครับ ------------------------------------------------- ตลาดปลา Noryangjin หรือ Noryangjin Fish Market นี้เป็นตลาดสดอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุดในกรุงโซล มีประวัติความเป็นมาไม่ธรรมดาเพราะเป็นตลาดโบราณมาตั้งแต่สมัยโชซอน แต่เริ่มต้นที่พ.ศ.ไหนก็มิอาจทราบได้ ปัจจุบันเป็นอาคารคอนกรีต 2 ชั้น ชั้นบนมีร้านอาหารสิบกว่าร้าน ชั้นล่างเป็นร้านขายสัตว์น้ำ ปลา ปู หมึก หอย กุ้ง ฯลฯ คล้ายกับที่บ้านเรา ที่นี่เปิดทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ภาพนี้ขอยืมมาจาก wikipedia นะครับ ลืมถ่ายมุมนี้มา คิดว่าเป็นมุมที่เห็นภาพของที่นี่ได้ชัดเจนก็เลยนำมาลงให้ชม ขอบคุณ wikipedia ครับ แก้ไขเมื่อ 28 ต.ค. 52 05:13:10 แก้ไขเมื่อ 27 ต.ค. 52 20:00:39 จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 19:59:29

ความคิดเห็นที่ 59 ยังไม่ต้องลงไปถึงชั้นล่าง ผม ปาป๊า ก็อู้หู กับบรรดาสัตว์น่ารักทั้งหลายที่วางขาอยู่บนแผงแล้ว จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 20:01:27

ความคิดเห็นที่ 60 กุ้งตัวโตโต๊โต ดูไปก็อ้าปากค้างกันไปว่ามื้อนี้เราจะกินอะไรกันดี แก้ไขเมื่อ 27 ต.ค. 52 20:06:15 จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 20:02:15

ความคิดเห็นที่ 61 หมึกยักษ์ จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 20:03:00

ความคิดเห็นที่ 62 เข้ามาชมและให้กำลังใจครับ จากคุณ : Civict2003 เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 20:04:17

ความคิดเห็นที่ 63 ปาป๊าเห็นปูของโปรดแล้วตาเป็นประกาย ปูตัวใหญ่ๆ ส่วนแผงด้านซ้ายมือสงสัยว่าจะเป็นกระเบน จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 20:04:52

ความคิดเห็นที่ 64 ขอบคุณคุณ Civict2003 ครับ ตามมาดูปูด้วยกัน ลืมบอกไปว่าที่นี่ เราสามารถเลือกซื้อของสดจากชั้นล่างแล้วหิ้วขึ้นไปให้ร้านชั้นบนทำให้ทานได้ครับ จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 20:05:50

ความคิดเห็นที่ 65 ปาป๊าผมไม่ลังเลที่จะเลือกปูตัวใหญ่ที่สุดขึ้นไป 1 ตัวครับ เวลาซื้อต้องระวังนิดนึง เพราะเวลาแม่ค้าตักปู แม่ค้าจะใช้กล่องโฟมจ้วงปูขึ้นมาพร้อมกับน้ำ เวลาชั่งต้องบอกเค้าให้เทน้ำออกด้วย ไม่งั้นแม่ค้าอาจได้ตังค์เพิ่มขึ้นถ้าเราไม่ทันระวัง จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 20:08:25

ความคิดเห็นที่ 66 ต่อมาก็เป็นกุ้งครับ งานนี้ปาป๊าสั่งลุย จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 20:09:41

ความคิดเห็นที่ 67 แต่มาม๊าสั่งเบรค ไ่ม่เอาตัวใหญ่เพราะซังกุงลงความเห็นว่าเนื้อจะแข็งไม่อร่อย เอากุ้งแชบ๊วยที่อยู่ด้านบนสุดสีแดงๆดีกว่า งานนี้เลยต้องตามใจมาม๊าครับ ถ้ามาคราวหน้าอยากลองชิมเจ้าตัวใหญ่ๆ ดูบ้างเหมือนกัน แก้ไขเมื่อ 27 ต.ค. 52 20:12:20 จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 20:11:20

ความคิดเห็นที่ 68 เสร็จแล้วเราก็เดินขึ้นชั้นสองไปมองหาร้านอาหารครับ ปรากฏว่าร้านที่นี่ภาษาอังกฤษไม่ได้เลย ก็ได้แต่ส่งภาษาใบ้ไปให้ รู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง มารู้ตัวอีกทีก็มานั่งอยู่ในร้านแล้ว เลือกร้านที่คนเยอะสุดอ่ะครับ ------------------------------ จริงๆแล้วมาเห็นทีหลังว่ามีร้านที่มีป้าย English Menu Available อยู่ด้านหลัง เสียดายที่เจอตอนอิ่มแล้ว ถ้าไงลองเดินดูให้ทั่วๆก่อนก็ได้นะครับ ผมใจร้อนรีบเลือกร้านเร็วไป แก้ไขเมื่อ 27 ต.ค. 52 20:15:00 จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 20:13:51

ความคิดเห็นที่ 69 มาแล้ว กุ้งแชบ๊วย ที่มาม๊าเลือก โดนเผาหน้าตาแห้งๆ ยังไงไม่รู้ เนื้อก็แห้งๆ ครับ ฝีมือเผาห่างจากกุ้งเผาอยุธยาหลายขุม ที่เห็นนี้ 1/2 ก.ก. นะครับ ขนาดตัวก็กลางๆ ไม่ใหญ่ไม่เล็ก แก้ไขเมื่อ 28 ต.ค. 52 05:15:04 จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 20:16:12

ความคิดเห็นที่ 70 ไฮไลท์ของมื้อนี้มาแล้ว จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 20:17:04

ความคิดเห็นที่ 71 ก้ามใหญ่ๆ จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 20:17:36

ความคิดเห็นที่ 72 ขาปู จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 20:18:39

ความคิดเห็นที่ 73 เทียบขนาดกับมือของมาม๊าดู ------------------------------ รสชาติของเนื้อปูอาจจะไม่หวานเหมือนกับปูม้าบ้านเรา แต่มันเป็นความรู้สึกดีดีที่ได้ทานปูตัวใหญ่ๆ กัดทีนึงเต็มคำ เสียดายที่ไม่ได้พกน้ำจิ้มซีฟู้ดไปด้วยแต่ซอสพริกเกาหลีที่เรียกว่าโคชูจัง ที่ร้านให้มา ก็พอจะกล้อมแกล้มไม่ให้เลี่ยนเกินไปได้ มาม๊าให้คะแนนมื้อนี้ 8 ปาป๊าบอกพรุ่งนี้ให้มาใหม่ ส่วนผมก็ให้ 8 เท่ากับมาม๊าเลย คือมันไม่ได้อร่อยที่รสชาติมากแต่ได้ความรู้สึกดีที่ได้ทานปูตัวใหญ่ๆน่ะครับ ทานเสร็จก็ยิ้มปริ่มกันทุกคน อ้อ ลืมบอกไปเรื่องนึง แกะปูทานที่นี่แทบไม่มีกลิ่นคาวปูเหมือนกับทานที่บ้านเราเลย แปลกดีเหมือนกันไม่รู้ทำไม ----------------------------------- ลืมลงราคา มื้อนี้ของผมซื้อปูกับกุ้งต่างหาก แล้วเอาขึ้นมาให้ร้านอาหารที่ชั้นสองทำ เค้าก็คิดค่าทำ ค่าข้าว อีกทีหนึ่ง ค่าปู ปูตัวนี้ซื้อมา 41,000 วอน = 1,127 บาท น้ำหนัก 1.7 ก.ก. หารกลับเป็นโลละ  700 บาท ค่ากุ้ง 11,000 วอน = 300 บาท น้ำหนัก 1/2 ก.ก. หารกลับเป็น โลละ 600 บาท ค่าทำกับค่าข้าวโดนไป 24,000 วอน = 660 บาท แพงสำหรับที่เกาหลีหรือเปล่าไม่รู้ แต่ถ้าเป็นที่เมืองไทยแพงแน่ ทันทีที่รู้ราคามาม๊ารีบบอกถ้าเป็นเมืองไทยคิดอย่างละ 40 บาทเอง ก็มันคนละเมืองกันเนอะที่นี่ค่าครองชีพเขาแพงกว่าต้องทำใจ เบ็ดเสร็จมื้อนี้ 76,000 วอน *รู้สึกว่าปูกับกุ้งไม่แพง แพงที่ค่าทำ ถ้ามาคราวหน้าแล้วได้มาอยู่ที่พักแบบมีครัวเบ็ดเสร็จ อยากซื้อกลับไปทำที่ที่พักเองดู *เพื่อนๆที่อยากจะแวะมาทานที่นี่ ก่อนเข้าร้านก็อย่าลืมถามราคาดูก่อนนะครับ และมองหาหลายๆร้าน มีบางร้านด้านหลังแปะป้าย English Menu Available ไ้ว้ด้วย แก้ไขเมื่อ 31 ต.ค. 52 22:00:18 แก้ไขเมื่อ 28 ต.ค. 52 05:16:47 แก้ไขเมื่อ 28 ต.ค. 52 05:09:14 แก้ไขเมื่อ 28 ต.ค. 52 05:05:51 แก้ไขเมื่อ 27 ต.ค. 52 21:56:22 แก้ไขเมื่อ 27 ต.ค. 52 20:22:27 จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 20:21:11

ความคิดเห็นที่ 74 ทานเสร็จแล้วก็เดินข้ามสะพานลอยกลับมาที่สถานี Noryangjin คืนนี้มีโปรแกรมช้อปปิ้งต่อที่ห้าง Lotte Mart จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 20:24:18

ความคิดเห็นที่ 75 หลังจากที่เืมื่อคืนผมได้ถามกับรีเซฟชันโรงแรมว่าซุปเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ๆ ใกล้โรงแรมอยู่ที่ไหน เธอก็ได้แนะนำมาที่ Lotte Mart ซึ่งอยู่ด้านหลังสถานี Seoul Station จากแผนผัง Subway Line 1 ในรูปที่ 55 ต้องนั่ง Subway มาอีก 3 สถานีลงที่ Seoul Station ได้เลย รูปนี้ถ่ายบนรถไฟฟ้ามาหานะเธอ ภาพอธิบายได้ชัดเจนกว่าคำบรรยายใดๆ อิอิ จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 20:27:09

ความคิดเห็นที่ 76 สถานี Seoul Station เป็นสถานีขนาดใหญ่กลางกรุงโซล เดินออกทาง exit 3 เลยครับ จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 20:32:58

ความคิดเห็นที่ 77 ระหว่างทางที่เดินมาก็เจออาเจ๊คนนึงมีความสามารถในการวางของไว้บนศรีษะมากครับ กดเอทีเอ็มก็ได้ด้วย จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 20:33:40

ความคิดเห็นที่ 78 พอขึ้นบันไดเลื่อนออกมาจากสถานีก็ถึงแล้วห้าง Lotte Mart จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 20:34:16

ความคิดเห็นที่ 79 มุมไกลๆอีกมุมนึง ซุปเปอร์มาร์เก็ตแบ่งออกเป็นสองชั้นคล้ายๆ โลตัสใหญ่ๆบ้านเราเลยครับ ชั้นล่างขายอุปโภคบริโภค ของกิน อาหาร ส่วนชั้นบนเป็นเสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า แก้ไขเมื่อ 27 ต.ค. 52 20:38:54 จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 20:34:40

ความคิดเห็นที่ 80 หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมผมถึงพาที่บ้านมาช้อปปิ้งที่ซุปเปอร์มาเก็ต ก็ผมรู้สึกว่ามันเดินสบายดีครับ ของส่วนใหญ่ก็น่าจะราคาถูกคล้ายโลตัส บิ๊กซีบ้านเรา เหมาะกับคนที่ไม่รู้ราคาของมาก่อนอย่างพวกผมมาก ไม่ต้องไปต่อราคาให้วุ่นวายใจ ราคาก็เท่า ๆ กับที่คนเกาหลีเค้าซื้อเลย แถมยังรูดการ์ดได้อีก ปรากฏว่าเข้าทางมาม๊าผม ช้อปกระจายจนลืมไปว่ายังต้องแบกของไปเที่ยวไต้หวันต่ออีก แก้ไขเมื่อ 27 ต.ค. 52 20:43:24 แก้ไขเมื่อ 27 ต.ค. 52 20:37:53 จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 20:36:52

ความคิดเห็นที่ 81 รอดูไต้หวันครับ จากคุณ : Speedfilter เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 20:43:34

ความคิดเห็นที่ 82 ที่นี่ขนมเพียบเลย ใครชอบขนมคงถูกใจ แต่ผมไม่ได้ซื้อกลับนะครับ ไปปิ๊งชิมราเมียน Shim Ramen หรือ Shin Ramyun มาม่าเกาหลียอดนิยม ขายลังละ 18,000 วอน = 495 บาท 1 ลังมี 30 ซอง ตกซองละ 16.50 บาทเท่านั้นเอง ที่บ้านเรารู้สึกจะขายซองละ 36-37 บาท พอบอกมาม๊าปุ๊ป เท่านั้นแหละ มาม๊าขนลงรถเข็นทันที 4 ลัง จริงๆกะจะเอา 5 ลัง แต่พอนึกได้ว่าจะต้องแบกไปไต้หวันด้วยเลยเอาออกไปลังนึง (นี่ขนาดนึกแล้วนะ) -------------------------------- ใครที่ยังไม่เคยทานมาก่อน หน้าตาซองก็เป็นแบบนี้แหละครับ เดี๋ยวนี้ก็เข้าซุปเปอร์ใหญ่ๆ ที่บ้านเราหมดแล้ว สำหรับผมอร่อยมากๆ น้ำซุปเข้มข้น เผ็ดกำลังดี เส้นใหญ่หนานุ่ม เป็นขวัญใจมาม่าของผมมานานหลายปี เสียแต่บ้านเราขายแพงไปหน่อย และต้องเป็นยี่ห้อนี้เลยนะครับถึงจะอร่อยทะลุชาม ถ้าเป็นยี่ห้ออื่นที่หน้าตาคล้ายๆกันอร่อยสู้ไม่ได้ แก้ไขเมื่อ 28 ต.ค. 52 05:25:06 แก้ไขเมื่อ 27 ต.ค. 52 22:02:51 แก้ไขเมื่อ 27 ต.ค. 52 20:49:00 จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 20:47:50

ความคิดเห็นที่ 83 ที่ซื้อเยอะๆ อีกอย่างก็ลูกอมโสมครับ บอกพนักงานขายว่า Ginseng Toffee ไม่มีใครเข้าใจ ต้องเดินหาดูเอง มีอยู่หลายยี่ห้อที่ชั้นวางทอฟฟี่รวม มาม๊าจะเลือกโดยวิธีการดมที่ห่อดูว่าอันไหนหอมสุด ยี่ห้อที่เลือกมาแพงกว่ายี่ห้ออื่นแต่มาม๊าว่าอันนี้หอมสุด ห่อนึง 5,250 วอน = 145 บาท มีประมาณ 100 เม็ด (ถ้าจำไม่ผิดนะครับ) ขออภัยที่ไม่ได้ถ่ายรูปมาครับ ----------------------------------------- รถเข็นของที่นี่ไม่ได้ไปถึงก็ลากกันเลยเหมือนที่บ้านเรานะครับ ต้องเอาเหรียญ 100 วอนหยอดที่รถด้วยถึงจะลากมาได้ และที่แปลกกว่าบ้านเราก็คือเค้าไม่มีถุงให้สุรุ่ยสุร่ายเหมือนที่บ้านเราครับ คือจริงๆ แล้วก็คือไม่มีถุงเลย พอซื้อเสร็จถ้าอยากแพคก็มีลังกระดาษวางให้แต่ต้องโชว์ฝีมือแพคกันเอาเองนะครับ อยากได้ลังขนาดไหนก็เลือกหากันเอาเอง มีพลาสติกที่เหนียวพอเป็นเชือก กับกระดาษกาวให้ อุปกรณ์ก็มีกรรไกรอยู่บนโต๊ะ จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 20:54:28

ความคิดเห็นที่ 84 ขอบคุณคุณ Speedfilter ครับ ไต้หวันต้องรอนิดนึงนะครับ เที่ยวเกาหลีเสร็จก็จะไปไต้หวันต่อ -------------------------------------------- กว่าจะแพคมาม่า 4 ลังพร้อมกับอย่างอื่นเสร็จก็ใช้เวลาอยู่ซักพักใหญ่ๆ คือจริงๆ มาม่ามันก็เป็นลังอยู่แล้วน่ะครับ แต่มาม๊าอยากรวมให้เป็นลังใหญ่ 1 ลังใส่มาม่า 2 ลังเล็ก ก็เลยต้องหากล่องขนาดที่ลงตัว แถมมาม๊ายังให้พันด้วยกระดาษกาวจนจะกลายเป็นมัมมี่อีก ระหว่างที่มัดไปคนเกาหลีหลายคนก็มามุงดูอยู่ด้วย คงจะไม่เคยเห็นมัมมี่ห่อลัง และมีแอบสนใจเล็ก ๆ กับวิธีมัดเชือกให้มีมือจับด้วยของมาม๊า ไม่ได้ถ่ายรูปมานะครับ มัวแต่พันมัมมี่อยู่ แก้ไขเมื่อ 27 ต.ค. 52 21:00:23 จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 20:59:24

ความคิดเห็นที่ 85 ซื้อของและห่อของเสร็จก็สามทุ่มแล้วครับ จะให้หิ้วลังมาม่านั่ง Subway กลับโรงแรมคงไม่ไหว งานนี้คงต้องขอตัวช่วยนั่งรถแท๊กซี่อย่างเดียว แท๊กซี่ใจดี พอยื่นนามบัตรโรงแรมปุ๊ปก็นำทางพาเรามาส่งให้ที่หน้าประตูโรงแรมเลย ค่าแท๊กซี่ตามมิเตอร์ 4,100 วอน = 112 บาท แต่ให้ไป 5,000 วอน เพราะทุกคนดีใจมากที่ถึงโรงแรมโดยไม่ต้องมีภาระแบกลังอันหนักอึ้งอีก (ทีตอนซื้อละลืมตัวกันหมด) แท๊กซี่ที่นี่ไม่ชาร์จสัมภาระที่ใส่ด้านหลังรถเหมือนกับฮ่องกงหรือมาเก๊าด้วย พวกเรามาถึงโรงแรมประมาณสามทุ่มครึ่ง เป็นอันจบภารกิจไปอีกหนึ่งวัน ผมขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านรีวิวยาวๆ ของผมมาโดยตลอด และท่านที่ได้อ่านรีวิวไปเมื่อช่วงบ่ายที่ได้พังไป โชคดีที่ผมได้อ่านครบทุกคอมเม้นต์ของเพื่อนๆ และทุกท่านที่เป็นกำลังใจให้ผมเขียนรีวิวใหม่อีกครั้ง ขอบคุณในทุกๆคอมเมนต์และกำลังใจ จะกลับมาเขียนตอนต่อไปให้เร็วที่สุดนะครับ i sassygirl แก้ไขเมื่อ 27 ต.ค. 52 22:01:47 แก้ไขเมื่อ 27 ต.ค. 52 21:25:58 จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 21:06:54

ความคิดเห็นที่ 86 มาเป็นกำลังใจให้นะครับ มีความมุ่งมั่นเต็มเปี่ยมมากๆ เพราะการมาทำรีวิวซ้ำของเดิมที่เขียนไปแล้วไม่ใช่เรื่องง่าย ขอชื่นชมจากใจ ขอบคุณมากๆอีกครั้ง สำหรับรีวิวดีๆนะครับ จากคุณ : ตงเหลงฉ่า เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 21:10:32

ความคิดเห็นที่ 87 ฮ่าๆ เข้าใจได้ค่ะเรื่องลูกทัวร์เดินไม่ไหว เพราะตอนเราไป Petra ลูกทัวร์เราก็เดินไม่ไหวเหมือนกัน ยังอยากเดินดูจนหมด แต่ก็ต้องเดินกลับ -_-' เกาหลี ยังพอกลับไปไหว แต่จอร์แดนคงไม่ไหวล่ะค่ะ อิอิ ปูตัวใหญ่ได้ใจมากกกกกกกก กินกะน้ำจิ้มซีฟู้ดบ้านเราคงสุดยอด กะโคจูจังก็งั้นๆ ฮ่าๆๆ รอรีวิวอันต่อไปนะคะ =D จากคุณ : อานาตะโออาอิชิมัตสึ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 21:18:30