ความคิดเห็นที่ 1 ทริปนี้ จขกท.บินเดี่ยวมาหาเพื่อนที่เรียนอยู่ที่เมือง Milwaukee (มิลวอคกี้) รัฐวิสคอนซิน ไหนๆก็อุตส่าห์มาถึงวิสคอนซิน บ้านเกิด Frank Lloyd Wright สถาปนิกชื่อดังทั้งทีแล้ว ก็ต้องมาเที่ยวบ้านของเฮีย Wright สิชิมิฮะ Taliesin คือชื่อของบ้านและสตูดิโอของ Frank Lloyd Wright ซึ่งอยู่ที่เมือง Spring Green ที่อยู่ห่างจาก Milwaukee ไป 2 ชั่วโมงนิดๆค่ะ เผอิญเพื่อนของ จขกท.ก็ไม่เคยมาเที่ยว Taliesin เสียด้วย เธอเลยกระดี๊กระด๊าใหญ่ แถมยังลากน้องชายและแฟนสาวชาวโคลัมเบียของคุณน้องมาเป็นสารถี เพื่อบริการผู้มาเยือนที่เอาแต่ใจอย่าง จขกท.ด้วย (ขอบคุณนะก๊า ) ถ้าจะทัวร์ Taliesin ก็ต้องไปแวะที่ visitor center ที่เห็นอยู่นี่ก่อนนะคะ เพราะต้องขึ้นรถ shuttle จากตรง visitor center ค่ะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 10:49:10

ความคิดเห็นที่ 2 ข้างในมีคาเฟ่ไว้ให้บริการด้วย เพดานเท่จริงๆพับเผื่อย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 10:49:30

ความคิดเห็นที่ 3 พวกเราเลยได้ฝากท้องกันที่คาเฟ่นี่ซะเลย ตอนนั้น จขกท.หิวมั่กๆ เลยซัดเบอร์เกอร์ชิ้นเบ้งเข้าไปซะเต็มคราบ อาหย่อย หม่ำข้าวเสร็จ เราก็ไปรอประชุมทัวร์ตรงใน Museum Store ทัวร์ Taliesin มีเยอะแยะมากมาย สามารถเลือกชมรายละเอียดได้ที่นี่ค่ะ http://www.taliesinpreservation.org/visitorsguide/tours.htm อุตส่าห์ขับมาตั้ง 2 ชม.ทั้งที พวกเราเลยควบมันทั้ง Hillside tour แล้วก็ House Tour ซะเลย หุหุ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 10:50:10

ความคิดเห็นที่ 4 Taliesin มี 2 สาขาค่ะ ทั้งสองแห่งเป็นทั้งบ้าน,สตูดิโอ และโรงเรียนของ Frank Lloyd Wright ซึ่งตั้งชื่อโปรแกรมซะกิ๊บเก๋ว่า Taliesin Fellowship (แต่นอกจากจะไม่มีทุนให้แล้วยังเก็บตังค์อีก -_-) สาขาดั้งเดิมคือที่วิสคอนซิน อีกสาขาอยู่ในรัฐอริโซน่า เลยมีชื่อว่า Taliesin West จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 10:51:18

ความคิดเห็นที่ 5 เราประเดิมรายการด้วย Hillside Tour ซึ่งเป็นอาคารเรียนของ Fellowship กับเจ๊ไกด์ในภาพก่อนนะฮะ มาถึงเจ๊ไกด์ก็อธิบายถึงคอนเซ็ปต์ของ Organic Architecture ของ Wright ว่ามีหลัก 3 ประการ ได้แก่ 1. อาคารมีปฏิสัมพันธ์และสอดคล้องกลมกลืนกับสภาพแวดล้อม อย่างอาคาร Hillside ที่เห็นอยู่นี่ ก็ออกแบบมาให้เข้ากับทำเลที่ตั้งของมันโดยเฉพาะ ไม่สามารถก็อปแบบอาคารไปตั้งไว้กลางเมืองได้ (อันนี้เข้าใจว่าเป็นการประชด International Style หรือตึกกล่องกระดาษของ Gropius หรือ Mies van der Rohe ที่ว่าตึกระฟ้าของพวกท่าน สามารถเอาไปตั้งที่ไหนก็ได้ในโลก) 2. ใช้วัตถุดิบที่มีในท้องถิ่น อย่างหินสีเหลืองๆที่เห็นนี่ ก็ Made in Wisconsin นะฮะ สิบอกไห่ 3. การออกแบบโดยคำนึงถึงความต้องการของผู้อยู่อาศัย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 10:51:56

ความคิดเห็นที่ 6 จากนั้นเจ๊ไกด์ก็เล่าต่อถึงความเป็นมาของ Hillside school ว่าแต่เดิมเป็นของตระกูล Lloyd-Jones ญาติทางฝั่งแม่ของ Frank Lloyd Wright ซึ่งเปิดกิจการโรงเรียนประจำ Hillside school ขึ้นมา แต่ตอนหลังโรงเรียนก็ปิดตัวลง อาคารโรงเรียนเลยกลายเป็นมรดกที่ตกทอดมาถึงมือเฮีย Wright แกเลยดัดแปลงอาคารให้เป็นโรงเรียนของ Fellowship ซึ่งไม่ได้ใช้สอนแค่ภาคทฤษฎีเท่านั้น มันยังกลายเป็นสนามฝึกฝีมือของบรรดานักเรียนอีกด้วย เพราะ Hillside ที่เห็นอยู่นี่ สร้างด้วยหยาดเหงื่อแรงงานเด็กนักเรียนล้วนๆเจ้าค่ะ ตึ่งโป๊ะ! (หลอกใช้งานเด็กชัดๆ -_-) จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 10:52:42

ความคิดเห็นที่ 7 *** เนื่องจากด้านในเขาห้ามถ่ายรูป จขกท.เลยจิ๊กภาพภายในอาคารทั้งหมดมาจากในเน็ตนะขอรับ *** เดินเข้ามาก็เจอห้องโถงของโรงเรียนก่อนเลย ตรงกลางเป็น Atrium รูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน เท่สุดๆ (image source: flickr.com) จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 10:53:32

ความคิดเห็นที่ 8 แถมลายบนเพดานยังกุ๊กกิ๊กได้ใจมาก หนูชอบบบบบ เห็นแล้ว จขกท.แทบจะลงไปกลิ้งๆกับพื้น ด้วยความหื่นอยากถ่ายรูป บวกกับกิเลส อยากได้บ้านแบบนี้มั่งอ่า จะอาวๆๆๆๆๆ >_< จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 10:54:00

ความคิดเห็นที่ 9 จากตรงห้องโถง เดินไปหน่อยเราก็จะเห็น dining room ที่อยู่ชั้นล่างด้วยค่ะ สวยกรี๊ดสลบอีกแล้ว ให้อารมณ์ญี่ปุ๊น ญี่ปุ่นดีไหมฮะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 10:54:36

ความคิดเห็นที่ 10 จขกท.ติดใจเจ้าโคมไฟที่ห้อยลงมาจากเพดานจัง เปรี้ยวปาดขาดใจเหลือหลาย >_< จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 10:55:03

ความคิดเห็นที่ 11 ถัดมาก็จะเป็น drafting and design studio ของนักเรียน Fellowship Wright ออกแบบสตูดิโอให้ใช้แสงจากธรรมชาติมากที่สุด ประหยัดไฟเบอร์ห้ามั่กๆอ่า เจ้าคานสามเหลี่ยมที่เห็นอยู่นี่ ทำให้สตูดิโอดูเท่ขึ้นมาอีกหลายขีดจริงๆ ขนาด Wright ยังตั้งชื่อเล่นให้สตูดิโอนี้ว่า "Abstract Forest" จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 10:55:31

ความคิดเห็นที่ 12 ตอนเราไป เจอนักเรียนกำลังนั่งปั่นโปรเจ็คต์ด้วยค่ะ เจ๊ไกด์บอกว่าตอนนี้ Taliesin ใช้เป็นแคมปัสของ Frank Lloyd Wright School of Architecture ซึ่งเปิดสอนทั้งปริญญาตรี-โท ปีๆนึงรับนักเรียนไม่กี่สิบคน ตอนหน้าร้อนก็จะได้มาอยู่ที่ Taliesin ที่วิสคอนซิน ส่วนหน้าหนาวก็ต้องอพยพไป Taliesin West ซึ่งตั้งอยู่กลางทะเลทรายที่อริโซน่า เพราะ Hillside school ที่วิสคอนซินไม่มีฮีตเตอร์ -_- จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 10:56:05

ความคิดเห็นที่ 13 จากนั้นเจ๊ไกด์ก็พาเราเดินผ่านห้องจัดแสดงโมเดลและ drawing ของเฮีย Wright ด้วย จขกท.แอบติดใจเก้าอี้ตัวนี้มาก เพราะมันคลอดมาจากความช่างคิดของ Wright ว่าจะสร้างเก้าอี้จากไม้แค่ 1 แผ่นได้ยังไง เลยออกมาเป็น Origami chair (origami = ศิลปะการพับกระดาษของชาวญี่ปุ่น) ที่เห็นนี่เจ้าค่ะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 10:57:06

ความคิดเห็นที่ 14 ออกมาสูดอากาศข้างนอกกันบ้าง ที่เห็นเป็นคลื่นมาเลยนี่ ก็คือหลังคาของสตูดิโอที่เราได้ชมไปเมื่อตะกี๊นั่นเอง จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 10:57:33

ความคิดเห็นที่ 15 นั่นก็กังหัน Romeo & Juliet ซึ่งก็เป็นฝีมือของ Wright เช่นกันค่ะ โดยโรมิโอก็คือหออันสูงที่มีกังหันปักอยู่ ส่วนจูเลียตก็คือหออันเตี้ยที่ช่วยโอบล้อมและประคองโรมิโออยู่ แค่กังหันก็ยังอุตส่าห์จินตนาการไปถึงไหนๆได้ ดีกรีความเพ้อเจ้อไม่ธรรมดาจริงๆ กร๊ากกกกกก จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 10:58:17

ความคิดเห็นที่ 16 อาคารถัดมาที่เราจะได้ดูก็คือ Hillside Theatre ซึ่งอยู่ด้านหลัง Dining Room ที่เราดูไปเมื่อตะกี๊อีกที จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 10:58:48

ความคิดเห็นที่ 17 ได้อึ้งกิมกี่กันตั้งแต่ทางเข้าเลยเชียว เล่นเสียบคานเข้าต้นไม้กันดื้อๆแบบนี้เลยเรอะ Organic กว่านี้มีอีกมั๊ย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 10:59:09

ความคิดเห็นที่ 18 แล้วทำไมเพดานถึงได้เตี้ยได้ใจยังงี้ล่ะคะพี่ขา >_< เจ๊ไกด์บอกว่าเพราะ Wright ออกแบบโดยใช้ความสูง 175cm ของตัวเองเป็นมาตรฐาน (พูดง่ายๆคือเตี้ยแล้วพาลนี่เอง ) โดยความเตี้ยของเพดานยังลามไปถึงบริเวณทางเข้าด้านในอาคารด้วยค่ะ แต่อันนี้เจ๊ไกด์ว่าพอเราเดินจากที่แคบๆบีบๆมา พอมาเจอพื้นที่เปิดโล่งแล้วมันจะ dramatic รู้สึกว้าว อาคารโล่งดีจัง อะไรทำนองนี้ อีกทั้งเป็นการบังคับทางอ้อม ให้พวกที่ชอบยืนเกาะแกะอยู่ตรงประตู ให้เดินชิดในเข้ามาอีกด้วย (ขสมก.จะเอามุขนี้ไปใช้บ้างมั๊ยฮะ กร๊ากกก) จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 11:00:09

ความคิดเห็นที่ 19 โรงละครมีหน้าตาเช่นนี้แล ชะแว้งงงงงง เสียอย่างเดียว ตอนจขกท.ไป เขาเอาผ้าม่านลายสุดกุ๊กกิ๊กที่เห็นในรูปไปซัก ความน่ารักหายไปหลายขีดเลย เซ็งเป็ด -_- จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 11:00:36

ความคิดเห็นที่ 20 จขกท.ว่าโรงละครนี้ออกแบบได้เก๋ดี แทนที่เวทีจะเป็นพื้นยกระดับ กลายเป็นยกระดับที่นั่งไปแทน แถมที่นั่งยังล้อมเวทีไว้อีกตะหาก แบบนี้ทำให้เห็นเวทีชัดดีนะฮะ ช่างคิดจริงๆ เจ๊ไกด์ว่า Frank Lloyd Wright ต้องการให้นักเรียน Fellowship มี presentation skill โดยให้มาพรีเซ็นต์งานกันในโรงละครนี่แหล่ะ อีกทั้งเฮีย Wright นั้นเป็นคนรักดนตรีมาก ใน Taliesin มีแกรนด์เปียโนไม่รู้ตั้งกี่ตัว (ที่ จขกท.นับได้ เกิน 5 แน่นอน) แกเลยบังคับให้นักเรียนหัดเล่นดนตรี แล้วก็จัดเแสดงคอนเสิร์ตในโรงละครนี้ซะเลย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 11:01:10

ความคิดเห็นที่ 21 จบ Hillside Tour กันที่ Hillside Theatre นี่แหล่ะค่ะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 11:01:29

ความคิดเห็นที่ 22 จากนั้นเราก็นั่งรถ shuttle กลับไปยัง visitor center เพื่อรอทัวร์บ้านตัวจริงเสียงจริงกันต่อ ระหว่างทางก็นั่งรถผ่านเจ้าน้ำตกขำๆอันนี้ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 11:01:50

ความคิดเห็นที่ 23 Taliesin จ๋า หนูมาแย๊ว ญาติทางฝั่งแม่ของ Frank Lloyd Wright เป็นชาวเวลส์ค่ะ แกก็เลยตั้งชื่อบ้านว่า Taliesin ซึ่งเป็นภาษาเวลส์ที่แปลว่า The Shining Brow (เข้าใจว่า brow ในที่นี้หมายถึงยอดหน้าผานะฮะ ถ้าแปลว่าหน้าผากคงฮาพิลึก - Taliesin ผู้ซึ่งหน้าผากมันจนเปล่งประกาย -_-) (image source: taliesinpreservation.org) จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 11:02:19

ความคิดเห็นที่ 24 ด้านหน้าบ้านมีไร่ไวน์เล็กๆด้วย กรี๊ดดดดดด จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 11:02:45

ความคิดเห็นที่ 25 เปลี่ยนทัวร์ทีก็เปลี่ยนไกด์ด้วย เป็นคุณป้าไกด์คนนี้แทน จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 11:03:08

ความคิดเห็นที่ 26 Home sweet home จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 11:03:33

ความคิดเห็นที่ 27 มาพร้อมสวนหย่อมน่าเอ็นดู จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 11:03:56

ความคิดเห็นที่ 28 ที่ Taliesin นี่มีโบราณวัตถุเอเชียให้เห็นเป็นหย่อมๆ ซึ่งเป็นงานที่ Wright ไปสอยมา ตอนที่แกไปออกแบบ Imperial Hotel ที่โตเกียว (แต่ตอนนี้โรงแรมโดนทุบทิ้งไปแหล่ว -_-) จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 11:04:47

ความคิดเห็นที่ 29 แอบมาฟังเลคเชอร์อยู่มุมห้อง แอบมาฮาเล็กๆกับ เตี้ยแล้วพาลค่ะ อิๆๆ และแอบรอดูรูปต่อไปอย่างเงียบบบบ ... จากคุณ : แพนเค้กอุ่นๆ เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 11:04:56

ความคิดเห็นที่ 30 #หวัดดีค่าคุณแพนเค้ก เอร๊ย เล็คช่งเล็คเชอร์ไรค๊า น้ำทั้งนั้น เด๋วปั่นทู้นี้เสร็จแล้วอิฉันจะไปเที่ยวเกาหลีกับคุณแพนเค้กเน้อ อิอิ :P Wright นั้นภาคภูมิใจกับความสามารถอันเอกอุของตนมาก ว่าข้านี่แหล่ะ บิดาแห่งสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ (ในสมัยโน้น) แกคิดว่า หน้าที่ของสถาปนิกคือการออกแบบ space ของอาคาร ไม่ใช่ออกแบบผิวหน้า ประเภทปะลาย โปะเสา เติมตุ๊กตุ่นตุ๊กตา ดังนั้นตอนที่แกอ่านหนังสือปรัชญาลัทธิเต๋าที่ท่านทูตญี่ปุ่นเอามาให้เป็นของขวัญ แล้วเจอว่า คอนเซ็ปต์การออกแบบ space นั้น คนเอเชียเขาคิดได้มาเป็นร้อยปีแล้วเพ่ เล่นเอา Frank Lloyd Wright ถึงกับเสียเซลฟ์ไปหลายขีดเลยเชียว อันนี้เป็นระฆังค่ะ ป้าไกด์เคาะให้ฟังด้วยว่าเสียงยังกังวานใช้ได้อยู่ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 11:07:08

ความคิดเห็นที่ 31 ส่วนนี่รูปปั้นอะไรก็ไม่ทราบ สวยดี จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 11:07:44

ความคิดเห็นที่ 32 หลังจากพาเดินชมรอบๆ Taliesin แล้ว ป้าไกด์ก็เริ่มเล่านิทานถึงที่มาของ Taliesin ไว้ดังนี้... ในปี 1909 Frank Lloyd Wright สถาปนิกชื่อดัง สร้างความอื้อฉาวด้วยการทิ้งเมียและลูก 6 คนไว้ที่ชิคาโก ก่อนจะเผ่นไปยูโรปพร้อมกับ Mamah Cheney (ในภาพ) ซึ่งเป็นเมียของลูกค้าของแกอีกที! ตามความคาดหมาย งานนี้ Wright โดนด่าเปิดเปิง งานก็เริ่มร่อยหรอเพราะโดนลูกค้าแอนตี้ (โสนะหน้า -*-) จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 11:08:23

ความคิดเห็นที่ 33 และแน่นอนว่าพอกลับมาอเมริกาแล้ว Wright ก็ไม่สามารถบากหน้าอยู่ชิคาโกต่อไปได้ แกเลยมาซื้อที่ดินตรง Spring Green ซึ่งเป็นถิ่นของตระกูล Lloyd-Jones ญาติทางฝั่งแม่ ก่อนจะสร้าง Taliesin เพื่อเป็นรังรักของแกและสร้างบ้านใหม่ให้คุณแม่ไปด้วยในตัว แต่ดังนรกชังหรือสวรรค์แกล้ง วันที่ Wright ออกเดินทางไปหาลูกค้าที่ชิคาโกในเดือนสิงหา ปี 1914 เด็กรับใช้ผิวดำเกิดสติแตก เอาขวานไล่เฉาะกระโหลกคนในบ้าน ซึ่งรวมทั้ง Mamah Cheney และลูกๆที่เกิดกับสามีเก่าของเธอ ก่อนจะลงมือเผา Taliesin จนเหี้ยนเป็นตอตะโก แน่นอนว่าโศกนาฎกรรมครั้งนี้ทำเอา Wright แทบล้มทั้งยืน แต่แกก็บำบัดความเศร้าเสียใจ ด้วยการลุกขึ้นมาสร้าง Taliesin version 2.0 ให้ใหญ่กว่า เจ๋งกว่าของเก่าอีก นี่แหน่ะ! แก้ไขเมื่อ 02 พ.ย. 52 12:06:01 จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 11:09:23

ความคิดเห็นที่ 34 และนั่นก็ไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่ Wright ต้องสร้าง Taliesin ขึ้นมาใหม่ เพราะบ้านไหม้วายวอดอีกหนในปี 1925 เนื่องจากไฟฟ้าลัดวงจร แต่งวดนี้ Frank Lloyd Wright กำลังอยู่ในช่วงวิกฤติวัยทอง อเมริกาอยู่ในช่วง depression โปรเจ็คต์ใหม่ก็ไม่มี หนี้ก็บานตะเกียงด้วยนิสัยใช้เงินมือเติบของพี่ท่าน แถมยังเจอเมียคนที่สองที่ Wright หน้ามืด แต่งงานด้วยหลังจาก Mamah Cheney ตาย ก่อนที่จะแยกทางกันภายในเวลารวดเร็ว ก็มาฟ้องขอค่าเลี้ยงดูสารพัด หลังจากที่เธอทราบว่า Wright หันมาคบแม่ม่ายลูกติดสาวสวยที่อิมพอร์ตจากมอนเตเนโกร นามว่า Olgivanna ในภาพนี่ก็คือ Olgivanna กับ Frank Lloyd Wright ค่ะ น่าเสียดายที่หารูปตอนสาวๆของเธอในเน็ตไม่ได้ เพราะว่า Olgivanna ตอนสาวๆนั้นสวยหยาดเยิ้มจริงๆ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 11:11:09

ความคิดเห็นที่ 35 ก่อนมาเที่ยว Taliesin จขกท.ได้อ่านหนังสือ The Fellowship เล่มนี้ไปหน่อยนึงค่ะ หนังสือเชื่อว่าเพราะความที่ Wright กำลังถังแตกได้ที่นี่เอง ทำให้แกตัดสินใจเปิดโรงเรียน Fellowship ขึ้นมา เพราะนอกจากจะใช้ชื่อเสียงของตัวเอง ดึงดูดนักเรียนจากทุกสารทิศมาจ่ายค่าเทอมราคามหาโหดได้แล้ว ยังได้แรงงานฟรีจากการโขกสับใช้งานเด็กอีกด้วย เพราะตามคอนเซ็ปต์ของแก Fellowship ไม่ใช่แค่โรงเรียน แต่เป็น community เศรษฐกิจพอเพียง นักเรียนของแกเลยต้องทำงานบ้าน ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ไปด้วย -_- เผอิญ จขกท.อ่านหนังสือจบไปได้แค่ 200 หน้าจาก 600 หน้าฝ่าๆค่ะ แหะแหะ แต่เท่าที่อ่านก็น้ำเน่าสะใจเหลือรับประทาน จนน่าเอาชีวิตแกไปสร้างเป็นหนังจริงๆ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 11:12:10

ความคิดเห็นที่ 36 แต่เพราะความที่อ่านไม่จบ เลยไม่ทราบว่าทำไม Iovanna (ในภาพ) ลูกคนเดียวของ Wright กับ Olgivanna ตอนนี้ถึงไปอยู่ในโรงบาลบ้าได้ล่ะเนี่ย -_- ใครทราบช่วยเฉลยทีเน้อ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 11:12:37

ความคิดเห็นที่ 37 ขออภัยนอกเรื่องไปหน่อย -_- กลับเข้ามาดูในบ้านกันต่อ *** เช่นเคย เนื่องจากด้านในเขาห้ามถ่ายรูป จขกท.เลยจิ๊กภาพมาจากในเน็ตนะขอรับ *** อันนี้ก็ drafting studio ด้านในบ้าน Taliesin ฮ่ะ น่ารักกุ๊กกิ๊กดีไหมฮะพี่น้อง จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 11:12:58

ความคิดเห็นที่ 38 และที่กุ๊กกิ๊กไม่แพ้ตัวห้องก็คือ เจ้าโคมไฟสุดแนวที่อยู่ซ้ายมือของรูปข้างบนเนี่ยแหล่ะค่ะ รูปนี้ จขกท.แอบถ่ายมาจาก Museum Store สนนราคาโคมก็เหนาะๆ $1,025 เท่านั้นเอ๊ง >_< จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 11:13:41

ความคิดเห็นที่ 39 จขกท.ติดใจลายบนเพดานมาก ทำเอาห้องเท่ขึ้นอีกหลายขีดจริงๆ (แต่ผู้รับเหมาคง ) อิฉันชอบบ้านของ Frank Lloyd Wright อยู่อย่าง ตรงที่มัน flow จากห้องนึงไปอีกห้องนึงดีค่ะ เพราะโดยเฉพาะบริเวณห้องนั่งเล่น ห้องกินข้าว ที่จะไม่มีผนังหรือประตูมากั้นกลาง หนังสือวิเคราะห์ว่าเพราะตอนเด็กๆพ่อแม่ของ Wright ทะเลาะบ้านแตกกันเป็นเรื่องปกติ ทำให้พอโตมา แกเลยออกแบบบ้านที่ส่งเสริมให้ครอบครัวได้ปะหน้า และมีกิจกรรมร่วมกันให้มากที่สุด ป้าไกด์เล่าว่า Wright ไม่ชอบให้แขวนภาพเขียนในบ้าน ยกเว้น Japanese prints ที่แกสะสม แต่ภาพวาดนี้เป็นข้อยกเว้นเจ้าค่ะ ให้ทายซิใครเอ่ย คำเฉลยก็คือหม่าม๊าของเฮีย Wright นี่เอง จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 11:14:41

ความคิดเห็นที่ 40 ส่วนนี่ก็ Loggia จำบ่ได้แล้วว่าแปลว่าอะไร แต่ประมาณเป็นห้องรับรองค่ะ ห้องจริงสวยสุดๆ สีน้ำเงินโดดเด่นได้ใจมาก เพราะห้องที่เหลือจะออกโทนแดงๆน้ำตาลๆหน่อย รูปญี่ปุ่นเยอะจริงๆบ้านนี้ นี่ขนาดโดนขายไปเยอะมากตอนแกถังแตก แถมที่เหลือก็โดนไฟไหม้ไปไม่น้อย (ถ้าจำไม่ผิด จะเห็นเศษเครื่องดินเผาญี่ปุ่นที่รอดจากโดนไฟไหม้ โปะแทรกอยู่ตามผนังอิฐประชดชีวิตอีกด้วย เอิ๊ก) จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 11:16:20

ความคิดเห็นที่ 41 นี่ก็ห้อง Living Room สำหรับนั่งเล่นชิลๆ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 11:17:20

ความคิดเห็นที่ 42 ปิดท้ายกันที่ห้องนอน ประดับด้วยฉากญี่ปุ่นอีกแระ ดูจบอิฉันกลับชอบ Hillside school มากกว่าตัวบ้านอีกฮ่ะ คงเพราะเคยเห็น Fallingwater มาแล้ว และการตกแต่งภายในบ้านสองหลังนี้ดันออกมาคล้ายกันซะอีก -_- แก้ไขเมื่อ 02 พ.ย. 52 11:25:35 จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 11:21:05

ความคิดเห็นที่ 43 โห้ข้อมูลแน่นดีทีเดียวค่ะ คุณ ha-meow เหมือนตอนเข้าแลคเชอร์สมัยเรียนเลยค่ะ แต่เรื่องนี้สนุกกว่า ขอบคุณนะค่ะที่ทำรีวิวให้ชม รูปสวยมากค่ะ จากคุณ : ps_2a เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 11:25:43

ความคิดเห็นที่ 44 หมดแล้วค่า ทัวร์ Taliesin ของเรา ชมสวนหย่อมสวยๆให้ชื่นใจก่อนจาก จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 11:26:00

ความคิดเห็นที่ 45 #ขอบคุณค่าคุณ ps_2a เจอเด็ก'ถาปัดตัวจริงแล้วมั๊ยละตู ถ้าเด็ก'ถาปัดตัวปลอมอย่าง จขกท.ปล่อยไก่อะไรออกไปก็ช่วยชี้แนะด้วยเน้อ แหะ แหะ รูปส่วนมากโดยเฉพาะในบ้าน อิฉันก็ไปจิ๊กเขามาอีกทีอ่ะค่ะ เพราะข้างในห้ามถ่ายรูป -_- จบจาก Taliesin คณะทัวร์ของเราก็แวะมายังเมือง Madison ซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐวิสคอนซิน เราแวะไป Monana Terrace ที่ออกแบบโดย Frank Lloyd Wright เจ้าเก่า แต่เรามุ่งขึ้นหลังคาไปชมวิวทะเลสาปยามเย็นแทน เลยบ่ได้ถ่ายรูปด้านหน้ามา ขออภัย -_- จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 11:28:49

ความคิดเห็นที่ 46 จากนั้นก็ได้เวลาหาข้าวหม่ำแล้ว โอ้ ตรง State Capital คนเยอะโพดๆ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 11:29:23

ความคิดเห็นที่ 47 กลายเป็นว่าวันนั้นเขามีงาน Taste of Madison ค่ะ มีร้านอาหารมาออกซุ้มเยอะแยะเลย มีคนมาเดินชูป้าย Free Hugs ด้วย ซึ่่งเหยื่อก็จะได้รับอ้อมกอดฟรีๆไม่คิดตังค์จากหนุ่มน้อยเสื้อขาวในภาพ แต่อิฉันไม่ได้ใช้บริการกอดฟรีหรอกนะเคอะ เพราะสงสารเด็ก กลัวน้องเขาจะฝันร้าย กร๊ากกกกกก จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 11:30:03

ความคิดเห็นที่ 48 คณะทัวร์เราตอนนั้นกำลังเหนื่อยได้ที่ เลยขี้เกียจฝ่าฝูงชน ต่อคิวซื้อข้าวกินในงาน เลยตัดสินใจไปหาร้านนั่งกินสบายๆดีกว่า จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 11:30:38

ความคิดเห็นที่ 49 เราเลยได้มาแหมะที่ร้าน Tutto Pasta Cucina Italiana นี่แทน พาสต้าเขาก็อร่อยใช้ได้ ราคาก็กำลังดีอีกด้วยนะฮะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 11:31:04

ความคิดเห็นที่ 50 จากนั้นเราก็นั่งรถกลับ Milwaukee กันค่ะ แต่ก่อนเข้าบ้านก็แวะไปฟาดมื้อดึกกันต่อที่ร้าน Kopps' ซึ่งเป็นร้าน Frozen Custard เจ้าดัง ร้านนี้มีแค่รสหลักวานิลลา-ช็อคโกแลต แต่จะมี special อีกวันละ 2 รส ซึ่งจะหมุนเวียนกันไปไม่แน่นอน ในเว็บของร้านก็เลยมีพยากรณ์รสไอติมล่วงหน้า 3 วันไว้ด้วย กร๊ากกกกก แถมมี hotline สายด่วนให้ลูกค้าโทรเข้าไปเช็คว่าวันนี้มีรสอะไรอีก ฮาร์ดคอร์ได้สุดตรีนมาก อิฉันชอบ >_< จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 11:32:12

ความคิดเห็นที่ 51 Frozen Custard รสชาติก็เหมือนไอติมอ่ะฮ่ะ แต่เนื้อมันจะแน่นๆเนียนๆกว่า จขกท.สั่ง Chocolate Almond 2 ลูก เห็นถ้วยแล้วก็อึ้ง สองลูกบ้านป๊ามันเด่ะ ถ้วยเบ้อเร่อเลย >_< สรุปรสชาติก็อร่อยนุ่มเนียนสมคำร่ำลือค่ะ แต่ จขกท.กินไปประมาณครึ่งถ้วยก็ต้องยกธงขาว -_- จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 11:33:24

ความคิดเห็นที่ 52 จบทัวร์วันนี้ด้วยความอิ่มเอิมและอิ่มพุง ตอนหน้าจะพาเที่ยว Milwaukee ขำๆนะขอรับ แฟนๆฮาร์เลย์และ Santiago Calatrava โปรดติดตามชม จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 11:38:11

ความคิดเห็นที่ 53 แปะลิงค์ทู้ Fallingwater ของเฮีย Frank Lloyd Wright ที่ จขกท.ไปเที่ยวเมื่อปีที่แล้วมาด้วยค่ะ เผื่อใครสนใจ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7021498/E7021498.html จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 11:41:54

ความคิดเห็นที่ 54 เลคเชอร์จบแล้วหรอคะคุณครู หนูยังอยากอ่านต่อเลย ไม่รู้ว่าจะมีสอบป่าวคะ จะได้ไปเตรียมตัวอ่านหนังสือมา จริงๆอยากสอบแบบภาคสนามมากกว่าค่ะ ให้คุณครูพาไปชมสถานที่จริง หนูจะได้เข้าถึงจิตวิญญาณคุณปู่แฟรงค์ได้มากกว่านี้ ถ้าจะให้ดีสุดๆ คุณครูต้องพาหนูไปหม่ำหนมกะไอติมอร่อยๆด้วยนะคะ ถึงจะครบสูตรคุณครู อิๆๆ คุณครูนี่เขียนอะไรก็สนุกไปหมดนะคะ อ่านแล้วเพลินในอารมณ์จริงๆ จากคุณ : แพนเค้กอุ่นๆ เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 11:50:12

ความคิดเห็นที่ 55 ^ ^ จริงๆครูยังโม้ได้เยอะกว่านี้อีกค่ะนักเรียน เพราะเบื้องหลังเบื้องลึกของ Fellowship นี่มันดราม่าซับซ้อนจริงๆ แต่หน้าที่ครูก็คือสรุปมาแต่ใจความนะคะ ที่เหลือให้นักเรียนไปอ่านให้ฉ่ำปอด 600 หน้ากันเอาเอง กร๊ากกกกก ส่วนข้อสอบ เด๋วคุณครูจะส่งนักเรียนไปสอบภาคสนามที่ Oak Park ชิคาโกนะคะ อิอิ สำหรับขนมอร่อยๆ วิชานี้เรายังไม่เน้นมากค่ะ ต้องรอดูจากวิชา New York City 101 ขอบคุณนะค๊าที่แวะมาทักทาย ให้กำลังใจ คุณครูจะสู้ตาย (จนจะหมดตรูดแล้วเนี่ย -_-) นะเคอะ!! จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 12:14:28

ความคิดเห็นที่ 56 โห สวยมั๊กๆ น่ากินอีกตะหาก จากคุณ : mumu_i เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 12:30:22

ความคิดเห็นที่ 57 โห ชีวิตเฮียแกดราม่ามั่กมาก รีวิวไป เมาท์ไปนี่สนุกดีกว่าตอนนั่งเรียนตั้งเยอะ เวลาเรียนแต่เนื้อหามันเป็นอารั้ย เรียนไปก็ลืม พอแทรกเรื่องชาวบ้านแล้วจำได้จำดี 5555 ยังไงเฮียแกก็ยังคงเป็นตำนานให้ลูกหลานเรียนกันได้ต่อไปเรื่อยๆแหละเนาะ ปล. เจ๊เหมียวอ่านหนังสือ 600 หน้านั้นจบแล้วกรุณามาเมาท์ต่อด้วย อยากรู้ 555 จากคุณ : bangkok dream เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 14:03:57

ความคิดเห็นที่ 58 รออ่านตอนต่อไปนะคะ จากคุณ : Teru Teru Bozo เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 14:44:12

ความคิดเห็นที่ 59 ถ้าคุณ ha-meow เปิดวิชาภาคสนามล่ะก็ จะขอไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์ คอยยกสัมภาระอาจารย์เดินตามต้อยๆเป็นหมูน้อยเชื่องๆเลยค่ะ แต่ลูกศิษย์คนนี้จะสมองแย่หน่อยนะคะ อาจจะสอนอะไรไม่ค่อยจำ อย่าง Calatrava นี่เห็นชื่อแล้วแค่คุ้นๆ พอเห็นรูปด้วยถึงจะอ๋อ เฮียสเปนสุดเฟี้ยวคนนั้นเอง^^ จากคุณ : yuki_shimi เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 18:00:20

ความคิดเห็นที่ 60 รอเรียนวิชา New York City 101 นะคะ ส่วนอีตาแฟรงค์เนี่ย อยากเป้นเห็นมา 20 ปีแล้ว ป่านนี้ก็ยังไม่ได้ไป ก็เลยหวนคิดถึงบิลเบาว่าตรุจะได้ไปเมื่อไหร่ฟะเนี่ย เล่าได้สนุกเช่นเคยค่ะ แค่ตามทัวร์ทางตัวหนังสือก็ฮาแล้ว ชอบจริงๆ จากคุณ : เจ๊มาเองจ้ะ เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 19:14:04

ความคิดเห็นที่ 61 จากคุณ : khuanclub เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 21:28:47

ความคิดเห็นที่ 62 #ขอบคุณทุกท่านที่แวะเวียนมาอ่านนิยายน้ำเน่าเคล้าสถาปัตยกรรมของปู่แฟรงค์นะค๊า #คุณ mumu_i: โอย แค่พิมพ์ไปก็ลูบพุงไปด้วย เค้าอยากกินติมง่า #คุณ bangkok dream: แหม แบบนี้คณะ'ถาปัดน่าจะเปิดวิชา "นินทาสถาปนิก" นะฮะ สอนทฤษฎี + architecture history + เรื่องราวเข้มข้น คนโน้นกัดกับคนนี้ ตีกับคนนั้น รับรองวิชานี้ นักเรียนเข้าเรียนตรึม ไม่มีใครโดด กร๊ากกกก เท่าที่เคยอ่านมาเหมือนกับว่าปู่แฟรงค์แกไม่กินเส้นกับชาวบ้านไปทั่ว โดยเฉพาะ Philip Johnson กับ Gropius นี่แทบจะเป็นคู่อาฆาตเลย มันส์พะยะค่ะ #คุณ Teru Teru Bozo: ได้เลยค่า #คุณ yuki_shimi: แน่ใจเหรอฮะคุณ yuki_shimi เพราะปกติอิฉันจะเที่ยวแบบเฉินหลง ประเภทเดี๋ยวหลง เดี๋ยวหลง ตลอด กั่กๆ ไปเดินเล่นใน milwaukee คนเดียวในทู้หน้า ก็เดินจนขาลากเลย แอบดีใจที่คุณเพื่อนไม่ได้ออกมาเที่ยว (และหลง -*-) กับอิฉันด้วย โอ้ย แค่เห็นภาพตึกแล้วจำได้ว่าเป็น Calatrava ก็เอาไปเลยค่า  A  ("หนูทำได้!" ตี่ดิ๊ด ตี่ดิ๊ด ) อย่างว่าเนอะ งานของแกมันช่างแนวเป็นเอกลักษณ์ดีจริงๆนี่หว่า #คุณเจ๊มาเองจ้ะ : ได้เรยฮะ แต่วิชา NYC 101 นี่เน้นกินหน่อยนะฮะ สาระไม่ค่อยมี -_- บ้านของ Frank Lloyd Wright เนี่ย อิฉันไปมา 3 บ้านแล้ว อันดับหนึ่งในดวงใจก็ยังเป็น Fallingwater อยู่ดี ขออวยพรให้คุณเจ๊ฯได้มาเที่ยวบ้านของแกไวๆนะคะ เพราะบ้านแกเนี่ย สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นฮ่ะ ให้ได้ไปบิลเบาไวๆด้วยเน้อ ขอบคุณที่ติดตามผลงานการโม้ของเดี๊ยนด้วยค่า :D #คุณ khuanclub: ด้วยคนฮะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 10:12:38

ความคิดเห็นที่ 63 คุณครูขา...หนูอดใจรอเรียนวิชาNew York City 101ไม่ไหวแล้วค่ะ เริ่มเรียนเลยได้ป่าวคะ อยากเรียนจนลิ้นเต้น พุงเต้นแล้วค่ะ จริงๆแล้ว วิชานี้ก็ควรมีภาพสนามนะคะ เป็นการฝึกต่อมรับรสของหนูว่าจะดีมากน้อยแค่ไหน หนูขอสอบภาคสนามวิชานี้แทนได้มั้ยคะ เอาเป็นสอบปฏิบัตินะคะ อิๆๆ จากคุณ : แพนเค้กอุ่นๆ เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 22:42:15

ความคิดเห็นที่ 64 #11 #12   นี่มีใครหัวโขกแง่ไม้เข้ามั่งมั้ยนั่น ซุ่มซ่ามอย่างอิชั้นไม่น่ารอด #17 นี่ท้าสุภาษิตไทย "อย่าปลูกเรือนคร่อมตอ" มากๆเลยฮ่ะ แต่อาจเป็นได้ว่า  ต้นไม้ส่วนนี้มันไม่สูงมากต่อปีก็น่าจะได้ ที่เห็นๆ ฝ้าก็แบะออกมาแล้วนะเนี่ย #20 ถ้าเล่นห่วยก็หนีไม่รอดนะคะ จะดีรึ  -___-' นู๋ผิดหวังจริงๆฮ่ะ ทั่นประธานยอมแพ้ไอติมคัสตาร์ดได้ ไหนว่ายอมตายเพื่อของหวาน ทั่นปประธานหลอกดาว   ดาวอุตสาห์หลงเชื่อมาตลอด ว่าทั่นประธานเป็นทายาทชูชก   ปล. ไม่กล้าเดาเลยฮ่ะ ว่าทำไมภรรเมียน้าแฟรงค์ถึงไปอยู่โรง'บาลได้ แต่ถ้าเป็นเดี๊ยน บ้าไปตั้งแต่กวาดถูแล้วฮ่ะ บ้านอะไรฟระ แง่ มุม ฃั้น เยอะฃิป !!! แค่โคมไฟใน #38 ปัดฝุ่น เช็ด ขัดเงา ก็ขอหย่าแล้วฮ่ะ   จากคุณ : ป้าหนอน เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 23:40:00

ความคิดเห็นที่ 65 ^ ^ เหตุผลเพราะประโยคสุดท้ายเลยใช่มั้ยฮะป้า กร๊ากกกกกกก ขออภัยที่มาช้านะฮะทั่นประธาน งานเข้า+เน็ทพัง ขั้นเทพ ให้ตาย -_- หุหุ เฮีย Wright นี่ แค่เห็นหลังคาก็จำได้แล้วอ่ะ ติดใจจาก Fallingwater ปานนั้นเลยนะนิ อุอุอุ โหวววว~ เบอร์เกอร์ #3 กินหมดฤๅ เบ้งมั่กๆอ่าาา~ >w< สตูดิโอห้องเรียนอย่างเท่ห์โฮก นี่แหล่ะจะได้ทำงานเสร็จเร็วๆไง กรี๊ดดดด~ เอาคานเสียบไปในต้นไม้ ช่างคิดได้นะจ๊ะเนี่ย เมี้ยวววววว~ -*- ช่างทำไปได้จริงๆ (แถมเอาจริงด้วยนะนั่นอ่ะ!!!!!!) แต่เอาเหอะ น้ำตกไหลผ่านบ้านยังมีแล้ว แค่นี้ชิลเดรนมั่กๆ Taliesin ผู้ซึ่งหน้าผากมันจนเปล่งประกาย -_- >> กร๊ากกกกกกกก ทั่นประธาน แปลไปด้ายยยยยยยย~ #26 เห็นโคมไฟ #38 แล้วอยากจะกรี๊ดดดดดดดด~ แร้งงงงงงงง~ ได้อีกนิ แนวพี่แกจริงๆเลยวุ้ย หุหุ หลังนี้เค้าว่าดูญี่ปุ่นกว่า Fallingwater นะ อาจคล้ายกันอยู่ แต่รวมๆแล้วเค้ายังชอบ FW มากกว่า อาจเป็นเพราะความประทับใจก็ได้นุ >w< #47 แหม้~~ ไม่เป็นเดี๊ยนหน่อยเหอะ  ฮี่  ฮี่  ฮี่   อิพวกเด็กๆพวกเบบี๋มันน่ามีงี้มั่งนะทั่น ขายดีชัวร์ป้าด (แม่ยกนี่หล่ะ ไปก่อนเลย กร๊ากกกกกกกกกก) สุดท้าย อยากกินติมอ่ะ >w< รอตอนต่อไปนะฮ้าาาาา~ จากคุณ : yokoyuki เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 23:49:41

ความคิดเห็นที่ 66 #คุณแพนเค้กอุ่นๆ: นักเรียนขา อย่าเพิ่งใจร้อนค่ะ แผ่นใส (หรือสมัยนี้จะเป็น Powerpoint แล้วฟะ -_-) ของครูนี่ ต้องใช้กำลังภายในปั่นนานค่ะ ไม่ใช่ซีร็อกซ์จาก textbook มาดื้อๆนะเคอะ ส่วนข้อสอบ ไม่ต้องห่วงค่ะ ครูติวบทไหน ข้อสอบออกบทนั้นค่า ไม่มีการสับขาหลอกแบบอาจารย์ท่านอื่น กร๊ากกก อีกอย่าง วิชา NYC 101 ของครู เป็นขั้นเบสิคค่ะ ไม่ซับซ้อน ท่องไม่ปวดหัว สอนแค่กฎ 3 ข้อในการเที่ยวนิวยอร์คค่ะ 1. กินข้าว 2. เที่ยวมิวเซียม 3. กินหนม #ป้าหนอน: กร๊ากกก ไม่เคยคิดถึงเรื่องการทำความสะอาดบ้านเลยนะนี่ กั่กๆ สมกับเป็นแม่บ้านทหารบก ขวัญใจน้องโมโตจริงๆค่ะป้าหนอนขา อิอิ เอ่อ...คือหนูฟาดพาสต้าจานมหึมาเป็นข้าวเย็น แถมกว่าจะไปถึงร้านติมก็เกือบจะห้าทุ่มแล้วนะฮะคุณป้าขา จะให้หนูกลิ้งไปรอบๆ milwaukee แทนเดินเหรอป้า "อย่าปลูกเรือนคร่อมตอ" >> แปลว่าไรง่ะ แบบว่าตกภาษาไทย -_- เห็นเจ๊ไกด์บอกว่าทุก 2-3 ปี เขาต้องมาเลื่อยไม้(หรือตัวหลังคาหว่า จำบ่ได้แล้ว)ออกด้วยอ่ะป้า แนวไม่เข้าเรื่องเจงๆปู่เนี่ย #คุณ yokoyuki: ไม่เป็นไรเลยค่ะ ถ้าลำบากก็ไม่ต้องเมนต์ก็ได้ค่า แค่เข้ามาดูก็ชื่นใจแล้ว (อย่าเพิ่งอ้วก) กร๊ากกกก ไม้ทิ่มหลังคา น้ำตกไหลใต้บ้าน นี่ถ้าปู่แกอายุยืนกว่านี้หน่อย อาจได้มีบ้านไปโผล่บนปากปล่องภูเขาไฟ จะได้ ดิน-น้ำ-ลม-ไฟ ครบสูตรไงฮะท่านเลขาฯ อิอิ เนอะท่านเลขาฯ บ้านนี้ดูญี่ปุ๊นญี่ปุ่น อย่างว่าแหล่ะ ปกติโลก ฝรั่งบ้าเอเชีย เอเชียดันบ้าฝรั่งซะได้ เห็นด้วยฮะ ว่าชอบ Fallingwater มากกว่า มาคิดๆดู อาจเพราะบ้านมันเล็กกว่า การตกแต่งดูเป็นหนึ่งเดียวมากกว่าด้วยมั๊ง #47 อิอิ ทำจริงไม่กลัวนังคริเซติจจะโดนรุมทึ้งจนเยินเหรอฮะท่าน กร๊ากกกกก จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 52 10:33:52

ความคิดเห็นที่ 67 หน้าอย่างมันอ่ะนะจะโดนรุมทึ้ง (คนแรกๆเลยสิไม่ว่า ) แต่ไม่หรอกทั่น เจอหน้าพวกแม่ยกเข้าไป ก็ไม่มีใครกล้ามาหามันอีกแล้ว กร๊ากกกกกกกกก อิอิ ไม่ลำบากเลยฮะ เรื่องเม้าท์แตกอย่างงี้ไม่เข้าใครออกใคร ยังไงก็ทำได้ โฮะ โฮะ (น่าภูมิใจมั้ยนี่?? -_-) ดิน-น้ำ-ลม-ไฟ ... ไฟที่ว่าหน่ะ Taliesin 1.0 ใช่มั้ย เกร๊ยยยยย~ เออจริงด้วย ว่าจะถามป้าเรื่อง "อย่าปลูกเรือนคร่อมตอ" เหมือนกันอ่ะ เน็ทพังเลยลืมเลย >w< หมายความว่าอะไรเหยอ?? จากคุณ : yokoyuki เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 52 11:11:36

ความคิดเห็นที่ 68 ปลูกเรือนคร่อมตอ =  แปลตามสุภาษิต ก็คืออย่าไปก้าวก่ายสิทธิผู้อื่น ประดุจเห็นตอไม้ อย่าปลูกบ้านทับ เพราะไม่รู้ว่าไม้นั้นตายหรือเปล่า ไปขวางการงอกเค้า เผลอๆ ตอจะดันบ้านพัง (เหมือนเค้าต่อสู้กลับมานั่นเอง) บ้านของน้าไรท์ แกทิ่มคาคบเข้าไปต้องขยับแน่ค่ะ เพราะไงๆ ต้นไม้ก็จะสูงขึ้นอ่ะ แบบนี้เรือนไทยเราแก้ปัญหา ด้วยการปลูกระเบียงแล้วเจาะให้ต้นไม้โผล่มา ตรงกลาง เอาเป็นที่นั่งเล่นใต้ต้นไม้ได้อีก ไม่จริงค่ะ ทั่นประธานถล่มตัวชัดๆ อิชั้นเข้าใจมาตลอด ว่าลูบพุงสามที แล้วจะมีที่ว่าง (ท้องคนนะ ไม่ใฃ่ตะเกียงวิเศษ  อิอิ) เคยอ่านว่าน้าแฟรงค์แกยังมีบ้านอีกหลังใช่มั้ยคะ แต่ไม่แนวเท่า 2 หลังนี่ ซึ่งปัจจุบัน ทั้งหมดเข้าในโครงการมูลนิธิน้าแกหมด อยู่ในรูปแบบการทัวร์ เอาบ้านน้าแกเป็นบทเรียนดีนะคะท่านประธาน เพราะแกมีงานก่อสร้างที่ มีชื่อเสียง 300+ ได้ ดูกันยันแก่ อิอิ จากคุณ : ป้าหนอน เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 52 22:45:05

ความคิดเห็นที่ 69 #67 ดิน-น้ำ-ลม-ไฟ ... ไฟที่ว่าหน่ะ Taliesin 1.0 ใช่มั้ย เกร๊ยยยยย >> จริงล่วย กร๊ากกกกก #68 โอ้ ขอบคุณป้าหนอน ที่สอนภาษาไทยให้ศิษย์อย่างข้าน้อยด้วยนะฮะ (-/|\-) กั่กๆ เรื่องเรือนต้นไม้เนี่ย จริงด้วยอ่ะ สงสัยไม่มีใครส่งหนังสือบ้านเรือนไทยให้แกอ่านมั๊งฮะป้าหนอน เอิ๊ก บ้านของปู่แฟรงค์ที่ว่า ใช่บ้าน/สตูดิโอที่ Oak Park ชิคาโกป่าวฮะ อันนั้นหนูยังบ่เคยไปเลย แต่มันเป็นงานยุคแรกๆ ไม่บ้าพลังเหมือน Taliesin หรือ Fallingwater ยังไงต้องถ่อไปดูให้ได้ อยากดู Unity Temple โบสถ์ใน Oak Park ผลงานของแกด้วยอ่ะ นอกจากนี้ แกยังออกแบบบ้านที่แอลเออีกเพียบด้วยนะฮะ ออกมาหน้าตาเหมือนอาณาจักรอินคา -_- แต่ไม่ทราบเหมือนกันว่าเขาเปิดให้เข้าชมหรือเปล่าดิ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 52 13:20:45

ความคิดเห็นที่ 70 ขออภัยตามมาเข้าห้องสายไปหน่อย แต่ไม่เคยผิดหวัง กับข้อมูลและภาพประกอบ เอ!! หรือจะเป็นภาพสวยๆและข้อมูลประกอบ  ฮ่า ฮ่า ฮ่า จากคุณ : prsty เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 52 08:12:25