ความคิดเห็นที่ 1 ทำไมต้องซื้ออประกันการเดินทาง? เพราะคุณไม่มีทางทราบได้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับคุณ โดยที่หลักๆประกันการเดินทางจะครอบคลุมดังนี้ 1.การเจ็บป่วยและอุบัติเหตุ 2.ความช่วยเหลือฉุกเฉิน 3.ความรับผิดต่อบุคคลที่ 3 4.PA 5.กระเป๋าหรือทรัพสินสูญหาย 6.การยกเลิกการเดินทาง 7.เครื่องบินล่าช้า 8.ความล่าช้าของกระเป๋าเดินทาง 9.การสุญหายของเงินสดส่วนตัว 10.การสูญหายของเอกสารเดินทาง การซื้อประกันเป็นการซื้อความเสี่ยงที่ยังไม่เกิดขึ้น บางคนอาจจะซื้อแล้วเที่ยวแล้วกลับมาไม่ได้เคลมก็คิดว่าจะเปลืองเงินไปทำไม จริงๆต้องดีใจนะคะที่เหตุการณ์ที่ว่ามาข้างบนไม่ได้เกิดขึ้นกับคุณเลยซักเหตุการณ์ จากคุณ : Queen_of_Rain เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 13:30:09

ความคิดเห็นที่ 2 ขอออกตัวก่อนเลยว่า ไม่ได้มาแก้ต่างแทนบ.ที่โดนกล่าวถึง แต่ขอพูดในฐานะคนทำเคลมบริษัทประกัน ที่มีความไม่สบายใจที่มีผู้เข้าใจผิดเกี่ยวกับประกันพอสมควร จากการที่ได้อ่านกระทุ้ที่อ่านๆมา จึงขออธิบายเผื่อให้หลายๆคนได้เอาประโยชน์ตรงนี้ไปใช้ จะช่วยตอบคำถามถ้ามีคำถาม เท่าที่จะตอบได้ จากคุณ : Queen_of_Rain เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 13:32:40

ความคิดเห็นที่ 3 การเคลมประกันเดินทางส่วนใหญ่ลูกค้าจะต้องสำรองจ่ายไปก่อนแล้วนำมาตั้งเบิกทีหลัง โดยเอกสารที่ต้องประกอบหลักๆคือ 1.ใบเคลม ซึ่งเป้นถ้อยแถลงของผู้เอาประกันว่า เกิดอะไรขึ้น ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร และยินยอมให้เปิดเผยประวัติ 2.ใบแจ้งความ ในกรณีที่เป็นคดีความ เช่น โดนชิงทรัพย์ โดนจี้ ปล้น 3.จดหมายจากสารการบิน ในกรณีที่เครื่องบินล่าช้า กระเป๋าเดินทางชำรุด/หาย ในความรับผิดชอบของสายการบิน 4.ใบเสร็จรับเงิน (ต้องเป้นตัวจริงหรือไม่ขึ้นอยู่กับบริษัท) เรื่องใบเสร็จนี่ดูจะเป็นประเด็นที่สุด เพราะมักจะเจอว่า ไม่ได้เก็บ ปัญหาคือ ไม่ได้เก็บแล้วประกันจะจ่ายคืนอย่างไร? เลยเจอลูกค้าที่บอกว่าทำ laptop หายบนเครื่องบิน 5 เครื่อง ปากกาอะไรซักอย่างด้ามละหมื่น (อันนี้ไม่ได้พูดถึงจขกท.ที่แตกมานะคะ ขอเล่าประสบการณ์ใฟ้ฟังละกัน) อยากจะแนะนำทุกคนเลยว่าเก็บเถอะค่ะใบเสร็จ เคยเจอลูกค้าทำสูทอามานี่และเน็คไทหาย (กระเป๋าหายไปทั้งใบจากการเดินทางโดยเครื่องบิน) เค้าเก็บใบเสร็จไว้ตั้งแต่ปี 2006 เอามาเคลมก็ได้ไป (แต่พวกเสื้อผ้าจะต้องได้ลดลงไปตามส่วน ถ้าจะบอกว่าของซื้อปี 2006 มาถึงปี 2009 มูลค่าคงไม่เต็มแล้วค่ะ) จากคุณ : Queen_of_Rain เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 13:39:48

ความคิดเห็นที่ 4 บางบริษัทไม่คุ้มครองการลักทรัพย์ค่ะ ต้องเป็นจี้ชิงทรัพย์หรือมีการงัดแงะห้องเท่านั้น เพราะการที่บอกว่าโดนล้วงกระเป๋า หรือ ทำหล่นเอง อันนี้มันพิสูจน์ยากค่ะ แต่ถ้าจี้ชิงทรัพย์อันนี้มันมีพยาน (อย่างน้อยก็คนจี้) และการงัดแงะ อันนี้มักจะมีหลักฐานทั้งจากโรงแรมและตำรวจค่ะ จริงๆอยากจะบอกว่าประกันแบบนี้ช่องโหว่ในการเคลมเยอะค่ะ แต่ไม่ขอชี้โพรงให้กระรอกแล้วกันนะคะ ขอให้คนที่เดือดร้อนจริงๆเถอะค่ะ จากคุณ : Queen_of_Rain เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 13:43:23

ความคิดเห็นที่ 5 ทำไมเคลมช้า? ต้องเข้าใจว่าเจ้าหน้าที่เคลมไม่ได้กินวุ้นแปลภาษาของโดเรมอนมานะคะ บางเคลมส่งเข้ามาเป็นภาษาที่ไม่ใช่ภาษากลางอย่างอังกฤษ เยอรมัน หรือฝรั่งเศส อันนี้มันก็ต้องใช้เวลาค่ะ กว่าจะส่งแปล กว่าจะได้คืนมา ไหนจะตองสืบข้อมูลอีก หายจริงไม๊ หายที่ไหน หายอย่างไร อย่าลืมนะคะว่า ไม่ใช่ทุกคนเป็นคนดี และมีคนไม่ดีอีกเป็นจำนวนหนึ่งที่พยายามจะเอาเงินที่เค้าไม่สมควรจะได้จากประกัน และลูกค้าบางคนก็ส่งเอกสารไม่ครบแถมให้ประกันไปตามเอง(อย่างพวกใบรับรองแพทย์) ถ้าเป็นบริษัทเรา เราก็ตามเองให้หมดเลยนะ เว้นแต่หาไม่ได้ หรือที่ที่เราขอไปเค้าต้องให้ผู้เอาประกันมาขอเอง ถ้าอย่าง flight delay นี่ก็จ่ายง่ายหน่อย เพระเอกสารที่ใช้มีไม่มาก ขอเคลมฟอร์ม บอร์ดดิ้งพาส(เพื่อยืนยันว่าไปจริง) จดหมายจากสายการบินก็จ่ายได้แล้ว จากคุณ : Queen_of_Rain เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 13:48:14

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณครับที่ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ หากไม่ได้เก็บใบเสร็จรับเงินไว้ ทางบริษัทก็น่าจะมีข้อมูลตรงนี้อยู่แล้วนี่ครับ การปฏิเสธไม่ยอมจ่ายเงินเพียงเพราะว่าลูกค้าไม่ได้เก็บใบเสร็จรับเงินไว้นี่เข้าข่ายฉวยโอกาสได้หรือเปล่า ที่ต่างๆ ที่เกิดขึ้นคงจูงใจให้คนทำประกันการเดินทาง และอาจรวมถึงประกันประเภทอื่นๆ ลดลง จากคุณ : บันลือ เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 13:55:45

ความคิดเห็นที่ 7 ความคิดเห็นที่ 6     ขอบคุณครับที่ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ หากไม่ได้เก็บใบเสร็จรับเงินไว้ ทางบริษัทก็น่าจะมีข้อมูลตรงนี้อยู่แล้วนี่ครับ การปฏิเสธไม่ยอมจ่ายเงินเพียงเพราะว่าลูกค้าไม่ได้เก็บใบเสร็จรับเงินไว้นี่เข้าข่ายฉวยโอกาสได้หรือเปล่า ที่ต่างๆ ที่เกิดขึ้นคงจูงใจให้คนทำประกันการเดินทาง และอาจรวมถึงประกันประเภทอื่นๆ ลดลง จากคุณ : บันลือ   เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 13:55:45     ข้อมูลของอะไรล่ะคะ? ถ้าใบเสร็จที่ซื้อประกันไม่เป็นไรค่ะ เพราะเรามี copy แต่ที่บอกไปหมายถึงใบเสร็จของที่จะเคลมค่ะ เหมือนที่ยกตัวอย่างไป ว่าเคลมปากกาด้านละหมื่น จากคุณ : Queen_of_Rain เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 14:04:27

ความคิดเห็นที่ 8 แล้วถ้าเดินทาง ซื้อของ และโดนงัดห้อง เอาของไปพร้อมใบเสร็จ แปลว่า.. ทำอะไรไม่ได้เลยใช่มั้ยคะ? จากคุณ : MaNgKoOd เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 14:09:37

ความคิดเห็นที่ 9   ได้เท่าไหร่ก็ไม่คุ้มครับ ไม่รู้จะทำทำไม จากคุณ : tanbali เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 14:11:26

ความคิดเห็นที่ 10   ไม่เข้าข่ายฉวยโอกาสครับ แต่เข้าข่าย ความน่าจะเป็นและโอกาสการทำเงินบนพื้นฐานการเข้าใจผิดของลูกค้า บ.ประกันก็เหมือน ศรีธนชัย ครับ เขียนหลอกล่อ ลับลวงพราง ให้คนอ่านเข้าใจไปอีกแบบหนึ่ง แต่ความหมายจริง ๆ นั้นอีกแบบหนึ่ง จากคุณ : kongpair เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 14:24:39

ความคิดเห็นที่ 11 อ้อ เข้าใจแล้วครับ ใบเสร็จรับเงินที่ว่าคือใบเสร็จรับเงินของสิ่งที่จะเคลม ก็สมเหตุผลครับ ขอถามเพิ่มนิดหนึ่ง ว่าเรื่องกระเป่ามีล้อไม่มีล้อนั่นเกี่ยวข้องอย่างไรครับ จากคุณ : บันลือ เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 14:29:39

ความคิดเห็นที่ 12 ความคิดเห็นที่ 8     แล้วถ้าเดินทาง ซื้อของ และโดนงัดห้อง เอาของไปพร้อมใบเสร็จ แปลว่า.. ทำอะไรไม่ได้เลยใช่มั้ยคะ? จากคุณ : MaNgKoOd     เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 14:09:37     ถ้าเป็นของที่เพิ่งซื้อมาแล้วใบเสร็จไม่อยู่กับตัวก็เสียใจด้วยค่ะ แต่ถ้าเป็นของที่ซื้อจากเมืองไทย เอาไปด้วย แล้วโดนงัดห้อง ของโดนเอาไป อันนี้เอาใบเสร็จมาเคลมได้ค่ะ ให้ตำรวจลงไว้เป้นหลักฐานด้วยนะคะว่าอะไรหายบ้าง เพราะเรายึดใบแจ้งความด้วยค่ะ ถ้าลืมแจ้งแล้วกลับมาเอาใบเสร็จมาเคลมก็ไม่ได้ค่ะ ให้รอบคอบด้วยค่ะ ถ้าเป็นพวกตํวเดินทางที่ต้องออกใหม่ หรือพาสปอต อันนี้เคลมค่าออกใหม่ได้ค่ะ แต่ค่าเดินทางไปออกใหม่ไม่ได้นะคะ จากคุณ : Queen_of_Rain เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 14:41:56

ความคิดเห็นที่ 13 ความคิดเห็นที่ 11     อ้อ เข้าใจแล้วครับ ใบเสร็จรับเงินที่ว่าคือใบเสร็จรับเงินของสิ่งที่จะเคลม ก็สมเหตุผลครับ ขอถามเพิ่มนิดหนึ่ง ว่าเรื่องกระเป่ามีล้อไม่มีล้อนั่นเกี่ยวข้องอย่างไรครับ จากคุณ : บันลือ   เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 14:29:39     อันนี้ตอบแทนอีกบริษัทไม่ได้จริงๆค่ะ จากคุณ : Queen_of_Rain เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 14:44:56

ความคิดเห็นที่ 14 ความคิดเห็นที่ 10     ไม่เข้าข่ายฉวยโอกาสครับ แต่เข้าข่าย ความน่าจะเป็นและโอกาสการทำเงินบนพื้นฐานการเข้าใจผิดของลูกค้า บ.ประกันก็เหมือน ศรีธนชัย ครับ เขียนหลอกล่อ ลับลวงพราง ให้คนอ่านเข้าใจไปอีกแบบหนึ่ง แต่ความหมายจริง ๆ นั้นอีกแบบหนึ่ง ไม่เหมือนหรอกค่ะ เพราะตั้งแต่ทำงานมา อะไรที่บอกว่าต้องจ่ายคือต้องจ่าย ไม่ต้องจ่ายคือไม่ต้องจ่ายค่ะ มันอยู่ที่ว่าลูกค้าบางคนตีความไปเอง เข้าใจไปเอง ไม่ได้สอบถามก่อน และบางครั้งทั้งๆเงื่อนไขบอกว่าไม่จ่าย ก็จะให้จ่ายให้ได้ค่ะ (เช่นใบรับรองแพทย์ระบุชัดว่าเป็นการตรวจสุขภาพ ซึ่งเป้นข้อยกเว้นก็จะให้จ่ายค่ะ) จากคุณ : Queen_of_Rain เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 14:47:59

ความคิดเห็นที่ 15 ความคิดเห็นที่ 9     ได้เท่าไหร่ก็ไม่คุ้มครับ ไม่รู้จะทำทำไม จากคุณ : tanbali   เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 14:11:26   อันนี้แล้วแต่มุมมองค่ะ ได้เท่าไหร่ก็ไม่คุ้ม อันนี้ก็จริงนะคะ เพราะเวลาที่คุณเดินทาง ทุกๆสิ่งที่ไม่ได้คาดฝันที่มันเกิดขึ้น มันไม่คุ้มทั้งนั้นค่ะ ทั้งเสียเวลา ทั้งหมดสนุก ยกตัวอย่าง ลูกค้าคนที่ทำสูทหายที่เคยยกไปค่ะ กระเป่าหาย หายทั้งใบ อย่างไร้ร่องรอย สายการบินเวลาชดเชยคิดเป็นกิโลกรัมค่ะ สูทอามานี่กับเน็คไทเส้นนึง คิดว่าหนักเท่าไหร่คะ เคสนี้ได้คืนมาพันกว่าบาท ส่งมาเคลมต่อที่เรา อย่างที่บอกไปว่ามีใบเสร็จ แต่หักค่าเสื่อมซึ่งลูกค้าก็ยอมรับ ก็ได้คืนไปหลายพันอยู่จากหมื่นกว่าบาท แต่ถ้าไม่ได้ซื้อประกันเลย ไม่ได้อะไรคืนเลยนะคะ นอกจากเงินจากสายการบิน อันนี้ยังไม่นับว่าคุณไปเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บต่างแดน ที่ค่าใช้จ่านสูงกว่าเมืองไทยมาก โดยที่ประกันเดินทางเสียค่าเบี้ยไม่กี่ร้อย อยากให้ลองคิดใหม่ดูค่ะ เพราะไม่อยากให้คิดไปแต่ว่าทำไปก็ไม่คุ้ม อะไรที่มันยังไม่เกิด คุณก็ไม่รู้หรอกค่ะ จากคุณ : Queen_of_Rain เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 14:52:43

ความคิดเห็นที่ 16 เข้ามารับฟังครับ แต่ผมว่าปัญหาทุกอย่างแก้ไขได้ ถ้าพนักงานรับเรื่อง จะอธิบายให้ลูกค้า อย่าง คุณจขกท. เคสดังกล่าว ก็เจอพนักงาน... xxx การอธิบายและแสดงท่าทีช่วยเหลืออย่างเต็มใจ แม้ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร แต่ก็ยังได้ใจลูกค้าครับ ปล. ผมก็ทำบ้างนะ แต่ก็ไม่ได้หวังอะไรกับการเคลม เพราะก็คิดเหมือนที่คุณว่าไว้ คือ ได้คืนบ้าง ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย จากคุณ : freestyler เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 16:48:45

ความคิดเห็นที่ 17   "เข้าข่าย ความน่าจะเป็นและโอกาสการทำเงินบนพื้นฐานการเข้าใจผิดของลูกค้า" อันนี้ล่ะตรงประเด็น จากคุณ : kongpair เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 17:40:15

ความคิดเห็นที่ 18   ถ้าเราเอาเครื่องอัดเสียงไปขออัดเวลาตกลงทำประกัน แล้วซักถามข้อสงสัย และขอดูเอกสารทั้งหมดก่อนตัดสินใจทำ จะสามารถเอามาเป็นหลักฐานเรียกร้องสิทธิเวลาเคลมได้ไหมคะ เพราะว่าเจอมาเหมือนกัน   ว่าตัวแทนพูดอีกอย่าง พอเจ้าหน้าที่เคลมก็อีกอย่าง จากคุณ : yo (yohan hye) เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 17:43:24

ความคิดเห็นที่ 19 การซื้อประกันเป็นเรื่องดีคะ เพราะเราไม่รู้ว่าวินาทีต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น แต่ก่อนซื้อควรสอบถามกับ จนท. ให้แน่ใจก่อน ปกติถ้าเราจะซื้อประกัน เราจะติดต่อซื้อผ่านบริษัทฯโดยตรง พระสามารถสอบถาม พนง. ได้ทุกเรื่อง...(+สบายใจกว่า) เคยจัดเที่ยวกับเพื่อนอยู่ครั้งนึง...ในประเทศนี่แหละ... ก็ซื้อประกันเดินทางไว้...เพื่อขับ มอเตอร์ไชด์แล้วรถเสียหลัก เจ็บหนัก...ก็เคลมประกันได้...ไม่ต้องเสียเงินเลยซักบาท... เราเองก็เห็นข้อดีตรงนี้นี่แหละ...ทุกครั้งที่เดินทาง (ทั้งในและนอก) ก็จะซื้อประกันเอาไว้ อุ่นใจกว่าคะ  เป็นอะไรคนข้างหลังจะไม่ต้องลำบาก จากคุณ : กาแฟผสมโอวัลติน เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 18:29:55

ความคิดเห็นที่ 20 ปัญหาแบบ คห 18 จะเจอกันบ่อย สองฝ่ายพูดไม่ตรงกัน คนที่ซวย คือ ลูกค้า เสียเงินค่าเบี้ย เสียเงินเรื่องถูกโจรกรรม แล้วยังต้องมาวุ่นวายเรื่องเคลม แล้วก็พบว่า ...เป็นเรื่องที่เซลล์เข้าใจผิด... แป่ว... จากคุณ : *Cookies* เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 18:30:15

ความคิดเห็นที่ 21   นั่นสิคะ อยากให้เจ้าของกระทู้มาตอบจัง รอคอยนะคะ กำลังจะเดินทางครั้งใหญ่ สนใจจะทำอยู่พอดี จากคุณ : yo (yohan hye) เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 19:11:52

ความคิดเห็นที่ 22 ถ้าก่อนขึ้นเครื่องเราเอากล้องมาถ่ายรูปตัวเอง กับข้าวของมีค่าทั้งหมดที่จะติดตัวไป จะเป็นตัวช่วยเวลาหาหลักฐานอ้างอิงมั้ยคะ --- แต่เห็นด้วยกับ เจ้าของกระทู้นี้นะ พวกนิยมโกงประกันก็มีเยอะซะด้วยสิ คนธรรมดาไม่คิดคดโกงใคร ต้องมาลำบากเวลาเดือดร้อนไปด้วยเลย จากคุณ : sanzokung เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 20:19:12

ความคิดเห็นที่ 23 แบบนี้ทางบริษัทประกัน น่าจะมีเอกสารแนบกับใบสมัครว่าต้องใช้เอกสารอะไรบ้างในการเคลม เพราะ คนซื้อจะได้รู้ตัวเลยว่า ถ้าไม่มีเอกสารการเคลม ตัวเองทำประกันไปก็ไม่เกิดประโยชน์อยู่ดี ถ้าตัวเองมีเอกสารครบก้อทำประกันได้ อย่างที่ว่าการทำประกันคือการป้องกันความเสี่ยง แต่ทางบริษัทประกันก้อควรแจ้งข้อมูลลูกค้าการเครมให้ครบก่อนทำประกัน  แนบไว้ด้วยกัน แต่ลูกค้าจะอ่านรึไม่อ่านก้ออยู่ที่ตัวลูกค้าตัดสินใจ เพราะก้อถือว่าทางบริษัทแจ้งเงื่อนไขการเคลมไว้แล้ว จากคุณ : Memory Lane เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 52 10:29:15

ความคิดเห็นที่ 24 ความคิดเห็นที่ 18     ถ้าเราเอาเครื่องอัดเสียงไปขออัดเวลาตกลงทำประกัน แล้วซักถามข้อสงสัย และขอดูเอกสารทั้งหมดก่อนตัดสินใจทำ จะสามารถเอามาเป็นหลักฐานเรียกร้องสิทธิเวลาเคลมได้ไหมคะ เพราะว่าเจอมาเหมือนกัน   ว่าตัวแทนพูดอีกอย่าง พอเจ้าหน้าที่เคลมก็อีกอย่าง จากคุณ : yo (yohan hye)   เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 17:43:24   อย่างที่บอกไปนะคะ คำว่าตัวแทนนี่มันมีหลายช่อทางค่ะ ตัวแทนที่มาจาก broker ตัวแทนที่เป็น sub-agent ตัวแทนที่เป็น agent ตัวแทน sale ของบริษัทเอง ซึ่งตัวแทนดีๆก็มีเยอะซึ่งเรายังเชื่อว่ามีมากกว่าคนที่ไม่ดี แต่ตัวแทนที่ทำไม่ดีซักเคส จะเป้นที่กล่าวขานทั่วไป วกเข้ามาตอบคำถาม ขอดูเอกสารก่อนได้ค่ะ สามารถขอดูได้เลย บอกเค้าไปว่าขอดูเงื่อนไขทั้งหมดเพื่อศึกษาค่ะ แต่อยากจะแนะนำว่า การศึกษากรมธรรม์มีประโยชน์มากกว่าการอัดเสียงค่ะ เพราะว่าการคนขายประกันมันก็เหมือนกับ sale ที่ขายของอื่นๆแหละค่ะ ไม่ว่าจะบ้าน คอนโด สินค้าอื่นๆ หลายคนก็อยากจะได้ยอด ยอมโกหกทุกอย่าง แล้วคนที่ปวดหัวก็คือแผนกสินไหมแบบเราค่ะ เพราะเค้าขายไปแล้วรับคอมไปแล้ว ปัญหาตกกับที่เรา ดดนลูกค้าด่าว่าทำไมเคลมไม่ได้ ทั้งๆที่คนขายบอกอีกอย่าง ก็อย่างที่บอกไปนะคะ ว่าบางครั้งตัวแทนไม่ใช่คนของเรา เป็นคนของบริษัทอื่นๆ เราก็พยายามคุมคุณภาพแล้ว แต่บางครั้งแต่แทนเค้าไม่สนใจภาพลักษณ์บริษัทเราหรอกค่ะ เพราะไม่ใช่ของเค้า เค้าแค่ขายเอาคอม ไม่ได้กินเงินเดือนเราค่ะ จากคุณ : Queen_of_Rain เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 52 11:00:39

ความคิดเห็นที่ 25 ความคิดเห็นที่ 22     ถ้าก่อนขึ้นเครื่องเราเอากล้องมาถ่ายรูปตัวเอง กับข้าวของมีค่าทั้งหมดที่จะติดตัวไป จะเป็นตัวช่วยเวลาหาหลักฐานอ้างอิงมั้ยคะ --- แต่เห็นด้วยกับ เจ้าของกระทู้นี้นะ พวกนิยมโกงประกันก็มีเยอะซะด้วยสิ คนธรรมดาไม่คิดคดโกงใคร ต้องมาลำบากเวลาเดือดร้อนไปด้วยเลย จากคุณ : sanzokung     เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 20:19:12     ปัญหามันอยู่ที่มูลค่าทรัพย์สินที่จะเคลมค่ะ อย่างคุณเอากล้องมาถ่ายกระเป๋าเดินทางของคุณ เรารับทราบว่ามีของชิ้นนั้น แต่ปัญหาคือเราจะทราบมูลค่าของทรัพย์สินของคุณได้อย่างไร ในกรมธรรม์ไม่ได้มีระบุว่ารูปถ่ายสามารถใช้เคลมได้ค่ะ แต่ถ้าตอบในฐานะคนทำเคลมมันเป็นข้อมูลเสริมค่ะ ถ้ามีใบเสร็จกระเป๋า และของที่ซื้อมา แล้วคุณแนบรูปถ่ายมาให้เราสบายใจด้วยว่าคุณเอามันไปเที่ยวกับคุณจริงๆนะ หลักฐานทั้งหมดก็จะมีน้ำหนักมากขึ้น แต่จริงๆแล้ว มีเอกสารจากสายการบิน(สมมติว่ากระเป๋ากลับมาไม่ครบ) ยืนยันว่าเค้าทำของคุณหาย check in มา 4 มาถึงสุวรรณภูมิเหลือ 3 ใบที่หายไปคุณมีใบเสร็จของของที่เพิ่งซื้อมาในกระเป่า พร้อมใบเสร็จของของอื่นๆในกระเป่า มันก็เคลมได้ค่ะ (จะดีมากถ้าใบเสร้จมาจากร้านค้าที่เชื่อถือได้ แบบ print ออกมา และดีที่สุดคือมีชื่อคุณด้วย เคยเจอลูกค้าเอา statement บัตรเครดิตมาประกอบใบเสร็จที่ไม่มีชื่อกำกับ อันนี้อบคอบมาก) จากคุณ : Queen_of_Rain เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 52 11:06:36

ความคิดเห็นที่ 26 ความคิดเห็นที่ 23     แบบนี้ทางบริษัทประกัน น่าจะมีเอกสารแนบกับใบสมัครว่าต้องใช้เอกสารอะไรบ้างในการเคลม เพราะ คนซื้อจะได้รู้ตัวเลยว่า ถ้าไม่มีเอกสารการเคลม ตัวเองทำประกันไปก็ไม่เกิดประโยชน์อยู่ดี ถ้าตัวเองมีเอกสารครบก้อทำประกันได้ อย่างที่ว่าการทำประกันคือการป้องกันความเสี่ยง แต่ทางบริษัทประกันก้อควรแจ้งข้อมูลลูกค้าการเครมให้ครบก่อนทำประกัน  แนบไว้ด้วยกัน แต่ลูกค้าจะอ่านรึไม่อ่านก้ออยู่ที่ตัวลูกค้าตัดสินใจ เพราะก้อถือว่าทางบริษัทแจ้งเงื่อนไขการเคลมไว้แล้ว จากคุณ : Memory Lane   เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 52 10:29:15     อันนี้เป็นที่ถกเถียงตลอดค่ะ เพราะว่าเราแนบไปแล้ว ชี้แจงไปแล้ว พอเคลมจริงๆก็ไม่มีเอกสารตามที่ขอ ก็มาโทษค่ะว่าบริษัทให้ข้อมูลไม่ครบ แล้วก็เอาไปบอกต่อๆ อย่างพวกข้อยกเว้นก็แจ้งไปทางวาจา และกำชับว่ากรุณาอ่านรายละเอียดทั้งหมดอีกครั้ง ก็เคยเจอลูกค้าที่บอก โอ๊ย ชั้นไม่อ่านหรอกตัวหนังสือเยอะแยะ - -' อย่างนี้เจ้าหน้าที่จะทำยังไงดีล่ะคะ จากคุณ : Queen_of_Rain เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 52 11:08:54

ความคิดเห็นที่ 27 มีประโยชน์มากครับ จากคุณ : จบชลชายรุ่นไฟใหม้น้ำถ่วม เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 52 11:40:48

ความคิดเห็นที่ 28 ขอถามเพิ่มครับ กรณีต้องการใบเสร็จจริง บางแห่งเดี๋ยวนี้ออกใบเสร็จเป็นกระดาษร้อน เก็บไว้ไม่นานก็เลือนหายไปหมด ถ้าเป็นเช่นนี้ก็ใช้ไม่ได้ใช่ไหมครับ อีกอย่าง เรื่องใบเสร็จนั้นน่าจะมีการแจ้งและย้ำให้ลูกค้าทราบตั้งแต่ตอนที่คิดจะซื้อประกัน หากลูกค้าซื้อไปแล้วแต่ไม่ได้อ่านตรงนี้ ซึ่งก็ไม่แปลกนักเพราะเอกสารที่ให้รับทราบมักจะมีมากเกินกว่าคนทั่วไปจะมีเวลามาอ่านได้หมด แต่ตรงนี้เป็นเรื่องสำคัญอย่างที่คุฯว่ามา คนที่ขายน่าจะย้ำเตือนให้ลูกค้าทราบไว้ จากคุณ : บันลือ เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 52 11:50:42

ความคิดเห็นที่ 29 ถ้าอยากเที่ยวให้สบายใจ มีไว้ก็ดีกว่าไม่มีละครับ จากคุณ : pukkhom เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 52 16:06:09

ความคิดเห็นที่ 30 อืม...ม เคยดูโฆษณาที่เห็นพนักงานบริษัทประกันเป็นแมลงสาบไหมครับ น่าจะหาสาเหตุว่าทำไมคนทั่วไปถึงมองแบบนั้น จากกระทู้ดังกล่าวเป็นสาเหตุหนึ่งครับ รวมถึงความกะล่อน หมกเม็ดต่างๆ ของผู้ขายหรือตัวแทน ที่อยากขายอย่างเดียว ซึ่งไม่เกี่ยวกับบริษัท จริงๆแล้วประกันหลายๆอย่าง ดีและเหมาะสม หากเลือกประกันให้ถูกประเภท จากคุณ : Speedfilter เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 52 17:30:50

ความคิดเห็นที่ 31 อีกคำถามนะคะ คาใจจากกระทู้เดิม และจากข้อเสนอจากบริษัทประกันภัย ตรงข้อ "การส่งกลับภูมิลำเนา" ถ้าเราเป็นอย่างกรณีเจ้าของกระทู้ที่แล้ว คือ หมดตัว ไม่มีเงินหรือของมีค่าที่จะนำมาซึ่งหนทางการเดินทางกลับบ้านได้เลย บริษัทประกันภัย จะช่วยเหลือเรื่องค่าใช้จ่ายในการส่งกลับบ้านหรือไม่คะ จากคุณ : sanzokung เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 01:10:51