ความคิดเห็นที่ 1 สัมภาษณ์วันศุกร์ เลือกรอบ 08.30 แต่ตื่นสายไปถึงสถานทูต 09.00 ครับ ไปถึงก็ต่อๆแถว เช็คชื่อ ฝากมือถือ ตรวจระเบิด ถึงจะได้เข้าไปด้านในครับ ต่อมาก็ตรวจเอกสารทั้งหมดครับ สาวๆที่สถานทูตทำงานได้รวดเร็วเป็นระบบและใจเย็นมากๆครับ เค้าจะเอาเอกสารที่เราเตรียมไปทั้งหมดใส่แฟ้มเท่าที่จำเป็นครับที่เหลือเราก็ถือไว้ครับ หากคนสัมภาษณ์ขอดูเพิ่มค่อยให้ครับ เสร็จแล้วไปซื้อซองครับ 75 บาท จ่าหน้าซองถึงตัวเองครับทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย หรือใครจะไปรับเองที่ ปณ.รองเมือง ก็เขียนเฉพาะชื่อและนามสกุล(ไทยและอังกฤษ) เท่านั้นนะครับ แล้วเอาให้ จนท.ปณ. ปั้มให้ว่า รอจ่าย ไปรษณีย์รองเมือง ครับของผมไปรับเองที่ไปษณีย์รองเมืองครับ สะดวกเพราะมหาวิทยาลัยใกล้ครับ อยู่ที่ ถ.บรรทัดทอง เองครับอีกอย่างเปิดบริการถึง 6 โมงเย็น ครับหากวีซ่าใครผ่าน ที่สัมภาษณ์ตอนเช้าประมาณ 05 โมงเย็นของวันเดียวกัน วีซ่าก็มาถึงปณ.แล้วครับรวดเร็วทันใจจริงๆ โทรเช็คได้กับปณ.รองเมืองเลยครับ ------------------------------------------------------------------ แก้ไขเมื่อ 08 พ.ย. 52 01:30:36 จากคุณ : ป่านปั๊น เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 52 01:06:44

ความคิดเห็นที่ 2 แล้วไงต่อ ตื่นเต้นแทนอ่ะ.... จากคุณ : thaiMBA เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 52 01:11:01

ความคิดเห็นที่ 3 ตอนสัมภาษณ์ภาษาไทย หรือังกฤษค่ะ แล้วเขาถามว่าอะไรบ้าง มีคนไม่ผ่านเยอะไหมค่ะ จากคุณ : iampatama เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 52 01:15:47

ความคิดเห็นที่ 4 เสร็จจากซื้อซองก็มาต่อคิว Screen อีกรอบพร้อมรับบัตรคิวครับ ช่องรับบัตรคิว จะมีทั้งหมด 3 ช่องแต่วันศุกร์เปิด 2 ช่องเองครับ ไปถึงจะมี จนท.ถามคำที่ผมโดนดังนี้นะครับ ว่าเคยมีวีซ่าUSไหม๊ / ไม่เคย ขอวีซ่าไปเพื่ออะไร / ไปเที่ยว แล้วก็พิมพ์นิ้วครับ พิมพ์ 4 นิ้วยกเว้นนิ้วโป้ง กดลงไปให้แรงๆและนิ่งๆนะครับของผมตื่นเต้นมาก นิ่วสั่น ก็ไม่ได้ครับ ให้ลายนิ้วมือชัดๆเครื่องจะ Scan ลงไปอ่าครับมี Score ความชัดเท่าไรที่สำคัญนิ้วห้ามเปียก (บางคนตื่นเต้นเหงื่อที่มืออกเยอะ) เด็ดขาดนะครับต้องแห้งอาจจะเช็ดกับเสื้อหรือกางเกงก่อน Scan ก็ได้ครับ เสร็จแล้วพี่เค้าจะเเนบบัตรคิวมาให้ครับ แล้วพี่จนท.เค้าอวยพรให้ด้วยว่า โชคดีค่ะ บัตรคิวเป็นเลข 3 หลัก เวลาเรียกไม่เรียกตามเลขที่ครับ ผมเดาเอานะครับว่านะจะเรียกจาก เคส ง่ายไปหา ยาก นะครับ เช่น เคยมีวีซ่ามาแล้วจะได้สัมภาษณ์ก่อนเพราะเท่าที่ดูพวกที่สัมภาษณ์ก่อนจะเป็นพวกเคยไป อเมริกามาแล้วทั้งนั้น ---> พวกที่ไปหาหมอที่โน่นเห็นบางคนถือแฟ้ม Card รพ.ชื่อดังมาเพียบ พวกนี้ก็ได้สัมภาษณ์ก่อน ----> พวกที่มาขอกันหลายๆคน มากับเพื่อนบ้าง พ่อแม่ลูก บ้าง กลุ่มนี้จะโดนเรียกเร็วและเสร็จเร็วมากๆครับ ส่วนผมนั้นก็ไม่ช้าไม่เร็วครับพอดีพอดีนั่งรอประมาณ 30 นาทีได้ครับ จากคุณ : ป่านปั๊น เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 52 01:27:21

ความคิดเห็นที่ 5 ภาษาที่สัมภาษณ์ของผมเลือกภาษาอังกฤษครับแต่เท่าที่ดู เจ้าหน้าการทูต คนที่เป็นคนสัมภาษณ์ทุกคนพูดไทยได้หมด ผมคิดว่าพูดภาษาอังกฤษน่าจะได้คิวเร็วกว่าภาษาไทยครับ เพราะคนนัดสัมภาษณ์ภาษาไทยจะมากกว่าภาษาอังกฤษ อ่าครับ(เดาเอานะครับ) ไม่ต้องรอเรียกนาน จากนั้นก็นั่งดูคนนั่้นคนนี้ไปเรื่อยๆ มีทั้งได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่เท่าๆที่ฟังดูคนที่เค้าสัมภาษณ์ แล้วไม่ได้เค้าจะพูดประมาณไปหาเพื่อนหรือคนรู้จักที่โน่นกันทั้งนั้นอ่าครับ (ซึ่งเป็นมารยาทที่ไม่ค่อยดีนะครับไปฟังคนอื่นคุยกันแต่เสียงไมค์ดังลอดออกมาอ่าครับ) ในขณะที่รอในสถานทูตก็มีโปสเตอร์ แนวๆขู่ว่า อย่าใช้วิซ่าปลอมเด็ดขาด หากโดนจับได้ประตูคุกที่อเมริกา พร้อมเปิดต้อนรับคุณได้เสมอ และคุณจะได้อยู่อเมริกาตลอดไป (แต่อยู่ในคุกแทน) ภาพประกอบน่ากลัวเว่อร์เลยครับ แก้ไขเมื่อ 08 พ.ย. 52 01:48:27 แก้ไขเมื่อ 08 พ.ย. 52 01:47:18 จากคุณ : ป่านปั๊น เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 52 01:45:51

ความคิดเห็นที่ 6 รอฟังๆครับ กำลังจะขอวีซ่า นักเรียน เหมือนกันครับ ไปเรียน ภาษา สัก 1 ปี จากคุณ : mm_takky เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 52 02:23:18

ความคิดเห็นที่ 7 โอ้โห ..เหลือเฟือเลยนะคะ  ยินดีด้วยค่ะ จากคุณ : ลอร่า อิงกัลส์ ~* เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 52 02:35:25

ความคิดเห็นที่ 8 ป้าหนิงก็ 10 ค่ะ เงินไม่เยอะเลยด้วย  แถมหนี้เยอะต่างหาก  อิอิ มีคนเขาบอกว่า   จนท. จะดูว่ามีความผูกพัน ภาระ ต่างๆที่ต้องกลับมาเมืองไทยแค่ไหน ถ้าใครที่ดูเสมือนว่าไปแล้วจะไม่กลับ เขาก็ไม่ให้อ่ะค่ะ คงไม่เกี่ยวกับ statement เงินแล้วหละค่ะ อย่างกรณีคุณน้อง ก็เพราะเรียนปีสี่แล้วไง  ยังไม่จบ   ยังไงก็คงจะต้องกลับมาเรียนให้จบ  อิอิ   นิสิตจุฬา แหงๆเลย ความน่าเชื่อถือว่า จะไม่ไปเป็นโรบินฮู้ดในเมืองเขาไงคะ ประกอบกับ การไปท่องเที่ยวประเทศอื่นๆมาเพียบ   เขาก็ไม่คิดว่าคุณน้องจะไปปักหลักแย่งคนประเทศเขาทำงานหรอกค่ะ จากคุณ : my_tabo เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 52 09:07:21

ความคิดเห็นที่ 9 ประมาณที่ คคห 8 ว่าน่ะค่ะ เค้าถามวัตถุประสงค์ของเราว่าไปทำไม แล้วก็ดูเอกสารประกอบว่าน่าจะจริงหรือเปล่า ถ้าพาสปอร์ตว่างเปล่า แล้วบอกว่าไปเที่ยว ไปเยี่ยมเพื่อน อันนี้อาจต้องสงสัยไว้ก่อนว่าน่าจะเป็นโรบินฮู้ด จากคุณ : ฉันเกิดวันศุกร์ (ฉันเกิดวันศุกร์) เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 52 09:41:20

ความคิดเห็นที่ 10 จากนั้นก็ถึงคิวสัมภาษณ์ของผมแล้วครับเย้ๆ ขึ้นเขียงแล้วครับ (ย้ำอีกครั้งบัตรคิวไม่เรียกตามเลขที่นะครับ) ผมได้สัมภาษณ์กับจนท.ฝรั่งผู้ชายครับ ผม : Hello Good morning สวัสดีครับ ไหว้งามๆ 1 ครั้ง จนท : Can you speak English ? ผม : Yes , A little bit จนท : เค้าจะถามข้อมูลที่กรอกใน DS-156 / DS-157 ครับ อ่านๆท่องๆมาให้ดีครับ กับข้อมูลส่วนตัวนิดหน่อยครับ ***** แต่สำหรับผม ผมคิดว่าสิ่งที่สำคัญ เค้าถามคนที่ผมจะไปด้วยมากกว่า ในข้อ 28 ใน DS-156 ที่ถามว่า Who will pay for your trip ? กับข้อ 34 ที่ถามว่า Name and Relationships of Person Traveling with you นี่แหละที่ ผมคิดว่าสำคัญ เพราะผมตอบว่าไปกับน้าครับ ที่นี้ถามใหญ่เลย น้าทำอาชีพอะไร น้ามีวีซ่า US ไหม๊?? ซึ่งน้าผมมี 10 ปี ครับ พอถามเสร็จ จนท.ก็คีย์ข้อมูลในคอมพ์ครับ พอเสร็จแล้วถามว่า ผมจะไปดิสนีย์แลนด์เหรอ?? ผมก็ตอบว่า ใช่ครับไปดิสนีย์กับ ยูนิเวอร์เเซล เค้าก็บอกว่า Have a nice trip ครับ คุณรอรับวีซ่าที่ปณ.รองเมืองพรุ่งนี้ได้เลย ดีใจมากๆๆๆๆครับ ทุกอย่างมันผ่านไปเร็วมากๆ ครับประมาณ 7 นาทีได้มั้งครับ ในการสัมภาษณ์ จากคุณ : ป่านปั๊น เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 52 10:59:36

ความคิดเห็นที่ 11 จากนั้นก็ไหว้ท่านจนท.ที่สัมภาษณ์ งามๆ ขอบคุณท่านอีกครั้งนึง ครับ เย็นวันนั้นโทรไปถามที่ไปรษณีย์เลยครับ ประมาณ ห้าโมงเย็น วีซ่าก็มาถึงไปษณีย์รองเมืองแล้วครับ เร็วทันใจวัยรุ่นมากๆ จากนั้นไปรับวีซ่าให้นำใบเสร็จค่าซอง 75 บาท + บัตรประชาชน ไปรับได้ที่ ปณ.รองเมืองครับ รับเสร็จ ฉีกซองเหลืองออกมา ว๊าววววภายในมี Passport กับ กระดาษ 2 ใบ ครับ จากสถานทูต บอกไว้ว่า วีซ่าที่ได้ของผมคือ แบบไหน ชนิดอะไร ชื่อ นาม สกุล ถูกหรือไม่ หากชื่อนามสกุล ไม่ถูกต้อง อีเมลล์ไปบอกสถานทูตภายใน 1 ปีครับเพื่อทำการแก้ไข้ มิเช่นนั้น จะต้องขอใหม่ ครับ ส่วนกระดาษ อีกใบเป็นข้อความยินดีจากทางสถานทูต ครับ ประมาณว่าวิธีใช้วีซ่า ในการเข้าเมืองครับ แต่เหนือสิ่งอื่นใด ผมอยากขอบคุณ จนท.ที่สัมภาษณ์ผมมากๆครับ ท่านใจดีมากๆ เอกสารที่เตรียมไปไม่ได้ขอดูเพิ่มเลยครับ(เชื่อใจกันสุดๆ) เอกสารที่ใช้ก็น้อยกว่าตอนไปขอที่ สถานทูตญี่ปุ่น(ครั้งแรก) หรือ ออสเตรีย ซะอีก (ประกันการเดินทางก็ไม่ต้องใช้) ครับ ผมสัญญาว่าจะไม่ไปเป็น " ฮู้ " ที่อเมริกา แน่นอนครับ สุดท้ายใครที่คิดว่าจะไปขอครับ ไปขอเลยครับ 1 - 2- 3 ลุย เลยครับ ไม่ลองไม่รู้นะครับ อยากให้ลองไปเลยครับได้ไม่ได้ก็คิดเสียว่าเราได้ทำเต็มที่แล้วครับ สู้ๆนะครับ ทุกคน แก้ไขเมื่อ 08 พ.ย. 52 11:17:37 จากคุณ : ป่านปั๊น เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 52 11:13:36

ความคิดเห็นที่ 12 Passport ไม่ได้ขาวมากจนน่าเกลียด ประเทศที่เคยไปมา Hongkong 6 ครั้ง Macua 1 ครั้ง Vietnam 1 ครั้ง Japan 3 ครั้ง Korea 1 ครั้ง Turkey 1 ครั้ง Russia 1 ครั้ง China 1 ครั้ง และมี Schengen 1 ครั้ง(ตอนไป Austria & Czech ) ---------------------------------------------------------------------------- อันนี้ยังเรียกว่าไม่ขาวมากอีกเหรอครับ ตาย ๆ ๆ ผมมีแค่ร่องรอยอารยธรรมของญี่ปุ่นครั้งเดียวเอง เหอ ๆๆ จากคุณ : SuperTee (itCrazy) เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 52 11:17:59

ความคิดเห็นที่ 13 ตอนได้วีซ่าอเมริกา สิบปี ก็มีความรู้สึกเดียวกับ จขกท เลย อึ้งๆนิดหนึ่งเค้าส่งมาให้ที่บ้าน ว่าจะโทรไปหาเค้าถามว่า เค้าพิมพ์ผิดหรือเปล่า แต่เพื่อนห้ามไว้ก่อน ตอนสัมภาษณ์ ผมเลือกภาษาอังกฤษเหมือนกัน แต่เจ้าหน้าที่พูดไทยชัดถามกลับมาเป็นภาษาไทย ผมเลยเอ๊าไทยก็ไทย ถามแค่แป๊บเดียวเอง ไม่เกินห้าคำถามครับ ตอนไปขอยังเรียนอยู่เลย มีเงินในบัญชีน้อยนิด หกหมื่นบาท ตอนนั้นถ้าจำไม่ผิด(สามสี่ปีที่แล้ว) ตอนนั้นน่าจะมีประวัติแค่ ไปสิงคโปร์ หนึ่งครั้ง ฮ่องกง หนึ่งครั้ง ญี่ปุ่นหนึ่งครั้ง เท่านี้แหละครับ เค้าก็ยังกล้าให้ผมนะ..... อิๆๆๆ (^_^) เค้าว่ากันว่า วีซ่าอเมริกาให้ยาก เจ้าหน้าที่เข้มงวด(จริงหรือเปล่าไม่รู้แต่ว่าผมได้มาแบบง่ายๆเลยไม่รู้สึกอะไร)  มีพี่คนหนึ่งไปพร้อมกับผม ตอนออกมา เค้าบอกว่าไม่ได้ เพราะว่าเจ้าหน้าที่คืนพาสปอร์ตให้ตอนนั้นเลย ส่วนของผมเก็บไว้ (เจอกันกับพี่คนนี้ที่สถานทูต ไม่รู้จักกันมาก่อนเลยไม่รู้ว่าทำไมเค้าไม่ได้) ผมว่าที่ยากสำหรับความรู้สึกผมในการขอวีซ่าคือ อังกฤษครับ ที่ว่ายากเนี๊ย ตอนแรกผมได้ หกเดือน แต่ว่ามีแพลนจะบินไปอังกฤษเพื่อเที่ยวยุโรปด้วยทุกๆปี เลยตัดสินใจขอวีซ่าสิบปี (ในครั้งที่สองนี่เอง) เห็นราคาแล้วอึ้ง สองหมื่นกว่าบาท สำหรับวีซ่าสิบปี ถ้าไม่ได้ก็ไม่คืนเงินให้ (เท่าตั๋วเครื่องบินไปกลับยุโรปเลยนะนั่น) ลุ้นอยู่หนึ่งอาทิตย์ กินไม่ได้นอนไม่หลับ กลัวเสียเงินฟรีๆ แต่ท้ายที่สุดก็ได้มาครับ สิบปี จากคุณ : MedicinePath เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 52 11:18:11

ความคิดเห็นที่ 14 อืมมมมมม เหมือจจะไม่มีอะไรแต่ อืมมม ก็ยากอยู่ดี  = = จากคุณ : 7sins เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 52 11:20:05

ความคิดเห็นที่ 15 มีเรื่องตลกจากการของ visa America มาโม้ ผมเคยได้ visa ของเขามาก่อนหน้านี้แล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรก 1 ปี ครั้งที่ 2 10 ปี พอปีสิ้นปีนี้ผมจะไปแล้ว visa ก็ดันมาหมดซะ จึงต้องไปขอใหม่ ตอนสัมภาษณ์ ผมขี้เกียจพูดภาษาอังกฤษ เขาก็ถามผมมาว่า พูดภาษาอังกฤษได้หรือไม่ ผมก็เลยตอบเขาไปอย่างเต็มปากเลยว่า ผมพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ โดยเขาตอบกลับมาเป็นภาษาอังกฤษว่า เขาไม่เชื่อเพราะ ตอนที่ขอครั้งที่ 2 เขามี record ว่าสัมภาษณ์ผมเป็นภาษาอังกฤษ แล้วก็เปลี่ยนมาพูดกับผมเป็นภาษาไทยว่า ไม่ต้องกลัวว่าจะขอไม่ได้หลอก (จริงๆไม่ได้กลัวเลย มั่นใจว่าได้แน่ๆ ไม่ได้เตรียมหลักฐานอะไรไปด้วยซ้ำ แค่ขี้เกียจพูดอังกฤษ) ยังต่ออีกว่า คุณเข้าออกตรงเวลาทุกครั้ง ไม่จำเป็นต้องกลัว เสร็จเขาก็คือ passport เล่มเก่ากลับมา แล้วก็ไม่พูดอะไร keyๆๆๆๆๆ แล้วก็ตอบมาเป็นภาษาอังกฤษว่าแล้วเราจะส่ง passport กลับไปให้ท่าน(sir.) ใน 1-2 วัน งานนี้หน้าแตกครับ จากคุณ : ILoveBP เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 52 11:20:47

ความคิดเห็นที่ 16 อาจารย์เก่งอ่า ได้วีซ่าอังกฤษตั้ง 10 ปี สุดยอดๆๆๆๆๆ สงสัยเค้าคิดว่ากล้าขอก็กล้าให้มั้งครับ หากไปบ่อยๆค่าวีซ่า ก็จะถูกลงเรื่อยๆ ไงครับอิอิ จากคุณ : ป่านปั๊น เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 52 11:42:18

ความคิดเห็นที่ 17 ยินดีกับเจ้าของกระทู้ค่ะ วีซ่าอเมริกาเป็นอะไรที่เกินความคาดหมายค่ะ (ฟังมาจากหลาย ๆ ท่าน และหลาย ๆ ที่) แม่ของน้องที่ทำงาน เคยไปอเมริกามาแล้ว กี่ครั้งจำไม่ได้ แต่ไม่ใช่ครั้งเดียว เพราะว่าแม่เขา (ยายของน้องที่ทำงาน) อาศัยอยู่ในอเมริกา ไปกี่ครั้งก็กลับ เข้า-ออก ตรงตามกำหนดทุกครั้ง แต่ล่าสุด ไปขอวีซ่ามาก็ไม่ได้ซะงั้น  ไปขอมา ๒ รอบ โดนปฏิเสธทั้ง ๒ รอบ อีกเคสที่เคยอ่าน ๆ มา คือ หน้าที่การงานดี เคยไปต่างประเทศมาแล้ว ยื่นหลักฐานทุกอย่างครบ แต่ไม่ได้วีซ่าท่องเที่ยวซะงั้น เรากับแม่เราก็เคยโดนปฏิเสธวีซ่ามาแล้ว แต่ว่าเกือบ ๑๐ ปีแล้วแหล่ะค่ะ ตอนนั้นเราเฉย ๆ นะ แม่กึ่งบังคับให้ไปขอ ไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย ข้อมูลอะไรก็ไม่มี เพราะว่าเพื่อนจะไปเยี่ยมพี่สาวที่เรียนอยู่ที่นู่น แม่เลยจะให้เราไปด้วย (แม่เราเป็นข้าราชการ เรากำลังเรียนมหาวิทยาลัย) อ้อ  ก่อนหน้านั้นเราเคยไปอังกฤษมาแล้วกับแม่ เรากับแม่เราดันเจอป้าช่อง ๘ ผู้โด่งดังในสมัยนั้น (มาเจอกิตติศัพท์จากห้องไกลบ้าน) เราสแกนนิ้วมือไม่ได้สักที แม่เราก็บอกว่า "ให้กดดี ๆ" ป้าแกพูดออกมาเลยว่า "ไม่ต้องบอกเขาหรอกค่ะ เพราะคุณเองก็ทำไม่ได้เช่นกัน" (พูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดีนะคะ กึ่งดุ กึ่งตะคอก) คิดดูเอาเถอะค่ะ แม่เราอึ้งเลย หน้าชา ทำอะไรไม่ถูก เพราะว่าเขาพูดออกไมค์ จากนั้นก็ถามคำถามอะไรนิดหน่อย แล้วก็โดนปฏิเสธวีซ่าค่ะ เราน่ะเฉย ๆ นะ  เพราะว่าไม่เคยคิดอยากจะไปอเมริกาเลย ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน เฉย ๆ กับประเทศนี้มาก จากคุณ : อารีรัตน์ เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 52 12:20:31

ความคิดเห็นที่ 18 โอว ยินดีด้วย และเที่ยวให้สนุกนะครับ จากคุณ : pukkhom เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 52 14:00:53

ความคิดเห็นที่ 19 จขกท คะ ทำไมเค้าถึงรุ้ว่าคุณจะไปดิสนี่แลนด์คะ  ต้องบอกด้วยหรือว่าต้องไปไหนบ้าง จากคุณ : แฟนหึงขั้นเทพ เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 52 15:04:06

ความคิดเห็นที่ 20   ยินดีด้วยค่า ป.ล. เราว่าพาสปอร์ตก็คงมีส่วนนะคะ เพราะอย่างเราตอนไปขอ เราไปแบบงงๆค่ะ พอดีน้องเราจะไปเที่ยวอเมริกากับเพื่อน 2 คน ขอวีซ่ามาเรียบร้อยแล้ว และใกล้วันเดินทางแล้วด้วย แต่แม่เราไม่ให้ไปค่ะ ต้องให้เราไปเป็นเพื่อน เราเลยต้องรีบไปขอค่ะ มีเวลาเตรียมเอกสาร 2-3 วันเอง เงินก็ไม่ได้มีมากมาย แถมตอนนั้นเพิ่งทำงานที่ใหม่ได้ไม่นานเองด้วยค่ะ แต่พาสปอร์ตเราเดินทางบ่อย (ถึงแค่ในเอเชียก็ตามค่ะ) มีญี่ปุ่น มาเก๊า ฮ่องกง จีน อย่างละหลายๆรอบ เราเลือกสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษค่ะ เค้าก็ถามว่าเราจะไปอเมริกาทำไม เราก็บอกเค้าตรงๆว่าแม่ให้ไปเป็นเพื่อนน้องสาว เค้าก็เหมือนไม่เข้าใจ ว่าทำไมต้องไปเป็นเพื่อน เราเลยต้องอธิบายเพิ่มค่ะ ว่าน้องเราจะไปกับเพื่อนอีกคนซึ่งเป็นผู้ชาย แล้วแม่เป็นห่วง ก็เลยให้เราไปด้วย เค้าก็พยักหน้าเข้าใจ และเค้าก็ถามว่าทำไมเราเดินทางเยอะจัง เราก็บอกว่าเราชอบท่องเที่ยว แล้วเค้าก็ถามว่า แล้วทำไมไปจีนบ่อย (เรามีวีซ่าจีนเป็น 10 ครั้ง) เราก็บอกว่าเราชอบประเทศจีน เคยไปเรียนเมืองจีน แล้วฝรั่งที่สัมภาษณ์ก็พูดกับเราเป็นภาษาจีนค่ะ เราแอบเหวอไปเลย แต่ก็ตอบเค้าเป็นภาษาจีนนะคะ ก็คือเค้าถามอะไร เราก็ตอบค่ะ ตอบแบบชัดเจน ไม่กลัว ไม่เกร็ง แล้วก็ตอบตรงๆทุกอย่างค่ะ ทั้งๆที่บางเหตุผลที่เราตอบไป เราว่าโกหกเป็นอย่างอื่นอาจดูดีกว่าด้วยซ้ำค่ะ แต่เคือใจราไม่ได้อยากไปไงคะ คือแม่ให้ไปเป็นเพื่อนน้อง เราก็ไป เลยคิดว่าได้ไปก็ไป ไม่ได้ก็ไม่ไป เท่านั้นเอง แล้วเราก็ได้มา 10 ปีค่ะ ทั้งที่เงินในบัญชีไมได้ตัวเลขสวยงามเลย จากคุณ : ลิปดา - พิลิปดา (Lipda - Pilipda) เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 52 18:54:23

ความคิดเห็นที่ 21 โชคร้ายจัง ได้มา 10 ปีเหมือนกัน นี่กำลังงก ๆ เก็บเงินเตรียมไปรอบ 2  อาจมี 3- 4   ได้ 10 ปี จะไปครั้งเดียวก็เกรงใจคนออกวีซ่าให้  :-() จากคุณ : สะหวอย7 เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 52 22:07:56

ความคิดเห็นที่ 22 ยินดีด้วย เที่ยวให้สนุกค่ะ แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 52 00:08:18 แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 52 00:07:45 จากคุณ : Ganit เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 52 22:51:51

ความคิดเห็นที่ 23 เราเคยได้วีซ่าไปอเมริกาตอนสมัยเรียนเหมือนกัน work&travel ได้ประสบการณ์มากมาย...สนุกสนาน ถ้าเป็นไปได้ก้อยากกลับไปเที่ยวอีก ขอให้เที่ยวให้สนุกนะค่ะ.....คงได้ไปหลายรอบแน่เลย จากคุณ : ZhuZhuJoopJoop เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 52 09:44:11

ความคิดเห็นที่ 24 ครับยินดีด้วย จริงๆเขาคงดูความไว้ใจว่าจะไม่โดดนะ ผมไปเมื่อดูเอกสารแล้วไม่ได้เข้าห้องสัมภาษณ์ เลยครับ เจ้าหน้าที่น่าจะเป็น Mexican ที่เคาวเตอร์ตรวจเสร็จบอกให้มารับวีซ่าได้เลย มีคนรอสัมภาษณืตั้งเยอะ กลับเลยแล้วได้จริงๆ จากคุณ : amrit เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 52 12:50:46

ความคิดเห็นที่ 25 ดีใจด้วยค่ะ มาเก็บข้อมูลด้วยคนค่ะ จากคุณ : โอลีพ แม่น้องเซ้นต์ (olives) เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 52 13:25:09

ความคิดเห็นที่ 26 แอบอิจฉาเล็กน้อยยย... อยากไปบ้างอะไรบ้างง แต่อยู่ปี 1 เองงง เอาไว้ก่อนและกัน ^^ จากคุณ : BPeterpan-17 เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 52 19:14:35

ความคิดเห็นที่ 27 ขอแชร์ประสบการณ์นิดนึงค่ะ เราเคยขอตอนเรียนเหมือนกัน ครั้งแรกตอนปี 2 ไป work and travel ได้สัมภาษณ์เป็นคนสุดท้ายเลย ไปโครงการนี้ วีซ่าไม่น่ายาก เราเลยไม่ค่อยตื่นเต้น แต่ครั้งที่สองนี่สิ ขอตอนปี 4 เหมือนจขกท. ตื่นเต้นชะมัดเลย พาสฟอร์ตเราขาวกกว่าจขกท. อีกค่ะ เคยไปแค่ฮ่องกง อเมกา ญี่ปุ่น อย่างละรอบ แต่สุดท้ายได้มาสิบปีเหมือนกัน น่าจะเป็นเพราะ 1. เคยไปแล้วครึ่งนึง 2. ยังเรียนไม่จบ น่าจะกลับมาเรียนต่อ 3. เวลาสัมภาษณ์ พูดจาฉะฉาน ชัดถ้อยชัดคำ แสดงความมั่นใจ 4. บอกเค้าไปเลยว่า มีเพื่อนอยู่ที่นั่นจะไปอยู่กับเพื่อน เพื่อเป็นการแสดงความจริงใจค่ะ แต่จนถึงปัจจุบัน ยังไมได้ใช้วีซ่าอันที่สองนี้เลย แหม..ได้มาตั้งสิบปี จะไปเมื่อไหร่ก็ได้เนอะ ^^ แก้ไขเมื่อ 10 พ.ย. 52 03:58:00 จากคุณ : chocolateสอดไส้มิ้นต์ผสมถั่ว เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 52 03:53:21

ความคิดเห็นที่ 28 แชร์ด้วยคน ตอนที่ไปขอไม่มีอะไรยุ่งยากเลยค่ะ ถามแค่ว่าไปทำอะไร ไปทัวร์มั้ย พอดีเราไปกับทัวร์ก็บอกวันที่เค้าแล้วก็ชื่อบริษัททัวร์ เรื่องวันเดินทางค่อนข้างเร่งรีบด้วยซ้ำ เค้าก็ให้นะคะ ได้มา 10 ปีเหมือนกัน / ใครจะไปขอไม่ต้องกังวลนะคะ ลองหาโปรแกรมทัวร์มา Refer ซะหน่อย น่าจะง่ายกว่าบอกว่าไปเอง เค้าไม่ขอดุเอกสารหลักฐานการเดินทางกับทัวร์แต่อย่างใดเลยคะ มาแชร์แค่นี้เผื่อเป็น Trict ให้ใครได้บ้าง ขอให้เที่ยวให้สนุกกันนะคะ แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 52 10:25:04 จากคุณ : ttaero เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 10:24:18