ความคิดเห็นที่ 1 วันนี้ตื่นเช้ามา มีโปรแกรมว่าจะไปซื้อของ และเตรียมตัวกลับบ้านค่ะ ตื่นมาแบบไม่รีบร้อน ก่อนออกจากที่พัก แวะกินอาหารเช้าของโรงแรม และออกเดินทางสู่ห้างที่เปิด 24 ชั่วโมง ห้างมุสตาฟาค่ะ อันนี้เป็นรูประหว่างทางค่ะ จากคุณ : leo_natty เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 18:17:50

ความคิดเห็นที่ 2 ภายในห้างมีของมากมาย ส่วนใหญ่ที่เพื่อนๆแนะนำ คือให้มามองหาช็อคโกแลต และน้ำหอม เป็นห้างที่มีของมากมาย จัดรวมกันอยู่แบบปนๆ งง ๆ เราจับจ่ายซื้อช็อคโกแลตและ ได้กระเป๋าเดินทางใบยักษ์ ที่ลดราคามาสองใบ ถือว่าถูกมาก กว่าจะออกมาจากห้างได้ ก็ประมาณสิบเอ็ดโมงครึ่ง เดินทางกลับไปที่โรงแรม ibis bugis แล้วฝากของไว้ที่โรงแรมก่อน ออกมาเดินดูของแถว bugis ตอนแรกเรากะว่าจะออกจากโรงแรมไปสนามบินตอนเที่ยงครึ่งเพราะ ต้องไปขึ้นเครื่องเวลา 15.05 ซึ่งเป็นเวลาที่บอกเอาไว้ใน E-thicket จากคุณ : leo_natty เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 18:24:04

ความคิดเห็นที่ 3 ย่าน shopping แถว bugis คนค่อนข้างมากทีเดียวค่ะ เนื่องจากเมื่อวานโดนรองเท้ากัดเข้าให้ และรู้สึกเจ็บมากๆๆ เดินผ่านร้านรองเท้า เลยได้ รองเท้าใส่สบายอีกคู่มาแทน (เมื่อหวนกลับมานึกถึงแล้วรู้สึกว่าตัดสินใจถูกมาก ไม่งั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อไป มีหวังแย่แน่ๆ) จากคุณ : leo_natty เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 18:26:21

ความคิดเห็นที่ 4 มีร้าน sex shop หลายร้านค่ะ ซึ่งเราไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ แต่เพื่อนร่วมทางนี่สิ สนใจมากกกกกกกกกก จากคุณ : leo_natty เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 18:27:48

ความคิดเห็นที่ 5 เดินไปเดินมา เลยเที่ยวครึ่งมาแล้ว เริ่มเร่งคุณแฟนยิกๆว่าไปเหอะ เดี๋ยวสายนะ แต่ยังไม่เป็นผล คุณชายยังคงเมามันในการจับจ่ายซื้อของ ของฝากแถวนี้ราคาแพงกว่าที่ china town นะเราว่า จากคุณ : leo_natty เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 18:34:56

ความคิดเห็นที่ 6 เดินไปดูบันไดวนที่ใครๆก็ไปกัน จากนั้นเป็นเวลาบ่ายโมงกว่าแล้ว เราเริ่มร้อนใจ และเร่งแฟนอีกครั้งว่าไปกันได้แล้ว คุณแฟนบอกว่าจะไปละแต่ขอแวะร้านอีกร้านก่อน เราเลยบอกว่างั้นเราไปรอที่โรงแรมก่อนแล้วกัน แล้วเดินล่วงหน้าไปก่อน รูปแอบเบี้ยว เพราะถ่ายแบบรีบๆ จากคุณ : leo_natty เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 18:38:50

ความคิดเห็นที่ 7 ฮือๆๆๆๆ แต่รอเท่าไหร่คุณแฟนก็ยังไม่กลับมาซะที เวลาตอนนั้นคือ 13.45 แล้ว และต้องขึ้น MRT ไปอีก จากคุณ : leo_natty เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 18:40:56

ความคิดเห็นที่ 8 ตามคุณ leo_natty มาเที่ยวสิงคโปร์พร้อมขอกลับเชียงใหม่ด้วยค่ะ จากคุณ : anyarat_postharvestcmu เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 18:41:22

ความคิดเห็นที่ 9 กว่าคุณชายจะกลับมาก็เกือบสองโมง เดินทางไป MRT เพื่อไปยังสนามบิน และเหมือนสวรรค์กลั่นแกล้ง ต้องรอรถทุกสายเป็นเวลานาน เวลาก็ล่วงเลยไปเรื่อยๆ ฮือๆๆๆ คิดผิดน่าจะไป taxi มากกว่า จากคุณ : leo_natty เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 18:43:21

ความคิดเห็นที่ 10 หวัดดีค่ะคุณ anyarat_postharvestcmu ตอนนี้ไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่ ซึ่งเกิดจากความผิดพลาดของเราเองค่ะ จากคุณ : leo_natty เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 18:44:46

ความคิดเห็นที่ 11 เราลุ้นแบบกระวนกระวายมากๆๆค่ะ ในที่สุดก็ถึงสนามบินchangi เมื่อเวลา 14.30 (เครื่องออก 15.05) แงๆๆๆ เมื่อเงยหน้ามองจองมอนิเตอร์ ยิ่งshock เพราะขึ้นว่า เครื่องflight เรา final call แล้ว แต่เรายังไม่ได้check in เลย แงๆๆๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : leo_natty เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 18:48:06

ความคิดเห็นที่ 12 จากนั้นก็โกยแนบไปที่ counter check in ค่ะ พนักงานภาคพื้นต้อนรับด้วยดี ถามว่าเราจะไปไหนคะ ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แต่พอเราบอกว่าเราจะไปเชียงใหม่ (กลับ silk air บินตรงกลับเชียงใหม่เลย) เท่านั้นแหล่ะ จากสีหน้ายิ้มแย้มเหมือนนางฟ้า ก็กลายร่างเป็นนางยักษ์ในบัดดล หันไปเรียกพนักงานข้างๆ คุยปรึกษากัน และถามเราเสียงเครียดทันที why do you late ??? ส่วนเรา : .................. (แงๆๆๆๆๆ โดนด่าแน่เลย) จากคุณ : leo_natty เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 18:52:13

ความคิดเห็นที่ 13 จากนั้นพนักงานก็ส่งภาษา ที่เราฟังไม่ออกสักพัก ก่อนจะหันมาบอกเราว่า พนักงาน :คุณอาจขึ้นเครื่องทันอยู่ แต่ชั้นไม่สัญญากับคุณหรอกนะ ว่ากระเป๋าคุณจะไปถึงที่หมายพร้อมกับคุณน่ะ เพราะ กระเป๋าของผู้โดยสารคนอื่นไปถึงเครื่องหมดแล้ว ปิดประตูแล้ว และไม่รู้ว่ากระเป๋าเราจะส่งไปถึงเครื่องทันก่อนที่จะออกหรือไม่  ถ้าไม่ทันคุณก็รอเครื่องรอบถัดไปนะ กระเป๋าจะไปกับflight นั้นแล่ะ(คืออีกสองวันต่อมาค่ะ) เรา :...........(อึ้งๆๆ   ) คุณแฟน:.....................(จ๋อยสนิท) จากนั้นก็ยื่น boarding pass ที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนให้เราเซนต์ชื่อ (เป็นกระดาษเปล่า เขียนชื่อเรา ชื่อ flight หมายเลขที่นั่ง เป็นลายมือคุณเธอทั้งหมด ) อ้อ เวลาขึ้นเครื่อง  14.45 , เครื่องออก 14.55 ขณะนั้นเวลา 14.38 แงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ หลังจากเราเซนต์ชื่อเสร็จ พนักงานคนเดิมก็เก็บ boarding pass กลับไปถือไว้ แล้วบอกให้เราเดินตามคุณเธอไป ก่อนเราจะออกจาก counter ก็มีคุณลุงคนนึงเข็นรถมารับกระเป๋าของเราและค่อยๆเข็นอย่างช้าๆจากไป (ย้ำว่าช้ามากๆ ในความรู้สึก) เราเดินตามคุณพนักงานไปจนถึงบริเวณ ตม. คุณเธอพาเราไปยังด้านซ้ายมือสุด (ที่ไม่ใช่ชองทางปกติ เหมือนประมาณ เป็น counter หัวหน้ามั้ง เราก็ไม่รู้เหมือนกัน) จากนั้นก็ส่งภาษาที่เราฟังไม่ออก อีกละ แต่เดาว่าต้องนินทาเราชัวร์ จากนั้นตม.ก็หยิบ passport เราและคุณแฟนไปดูพร้อมประทับตรา แล้วถามเราสองคนว่า ในสิบนาที คุณวิ่งได้ระยะทางเท่าไหร่ และหันไปหัวเราะกับคุณพนักงานสาวและถามเธอว่า คุณคิดว่าพวกเค้าจะทันเครื่องมั้ย แล้วนินทาเราต่ออีกหลายประโยคแต่ภาษาไรไม่รู้เราฟังไม่ออก เรา อึ้ง และ จ๋อยสนิท ไม่มีสิทธิ์เถียง จากคุณ : leo_natty เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 19:06:00

ความคิดเห็นที่ 14 ตามติด ติดตาม จากคุณ : aonlin เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 19:09:33

ความคิดเห็นที่ 15 หลังจากผ่านตม.โดยไม่ต้องเข้าคิว คุณพนักงานก็บอกย้ำถึง gate ที่เราต้องไป บอกทางเสร็จสรรพ และย้ำหลายครั้งว่าอย่าไปผิด gate เด็ดขาด จากนั้นเหรอเราก็โกยอ้าว ไม่ได้มีเวลาชื่นชมซักนินดว่า สนามบินที่ดีที่สุดในโลกมีอะไนมั่ง duty free ที่ใฝ่ฝันก็ไม่เห็นซักกะร้าน เพราะไม่ได้หยุดดู ตอนนี้แอบดีใจที่ได้ซื้อรองเท้ามาใหม่ ทำให้วิ่งได้อย่างกระฉับกระเฉง ถ้าเป็นคู่เก่าต้องแย่แน่ๆๆๆ เพราะมันกัดเจ็บมากก เรามาถึงgate ตอนที่เค้ากำลัง boarding ขึ้นเครื่องกันพอดี ไม่มีเวลาทำอะไรทั้งสิ้น นอกจากเดินขึ้นเครื่องทันที ไปนั่งหอบแฮก อยู่ในเครื่องต่อ จากคุณ : leo_natty เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 19:10:44

ความคิดเห็นที่ 16 ตื่นเต้นค่ะ จากคุณ : anyarat_postharvestcmu เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 19:18:00

ความคิดเห็นที่ 17 ในที่สุดเราก็มาทันเครื่อง แต่กระเป๋าเราล่ะ จะมาทันมั้ย เรานั่งมองทางหน้าต่างตลอดเวลาว่าจะมีรถนำกระเป๋าเรามาส่งหรือไม่ แต่ก็ไม่มีซักคัน กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด ในที่สุดเครื่องก็ออกเดินทางเวลา 14.55 เป๊ะ โดยไม่มีความคิดว่าจะ delay แต่ใน E-thicket มันออกเวลา 15.05 น้าาาาาาาาา นั่งสงบสติอารมณ์ซักพัก แฟนนั่งจ๋อยสนิท และยอมรับผิดแต่โดยดี ไม่มีข้อโต้แย้ง และแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง โดยไม่เถึยง ไม่บ่นต่อคำดุว่าของเรา จากนั้นเราก็เริ่มปรับทุกข์กัน และเริ่มฉุกใจคิดขึ้นมาได้ เราถามว่ากุญแจรถอยู่ที่ไหน(เราจอดรถทิ้งไว้ที่สนามบินค่ะ) แฟนเริ่มเอากระเป๋ามารื้อค้น ปรากฏว่าไม่มี ไม่ได้เอาติดตัวมาด้วย แต่อยู่ในกระเป๋าที่โหลดใต้เครื่อง ฮือๆๆๆๆ ยัง.. ยังไม่หมด เราเกิดคำถามต่อไป แล้วกุญแจบ้านของเราล่ะ อยู่ที่ไหน คำตอบเดิมๆๆ ก็กระเป๋าที่อยู่ใต้เครื่องไง (ใต้เครื่องลำนี้ป่าวก็ไม่รู้) เซ็ง ทำไงล่ะทีนี้ ไม่มีกระเป๋า ก็ไม่มีกุญแจรถ ไม่มีกุญแจบ้าน แล้วทำไงล่ะ เพื่อนๆๆที่ไปเชียงใหม่น่าจะพอรู้ว่าจากสนามบินเข้าเมืองจะหารถค่อนข้างยาก นอกจากรถของสนามบินที่ราคาแพง บางคนอาจสงสัยว่าเราไม่มีกุญแจสำรองเหรอ อ๋อ มีค่ะ กุญแจบ้านสำรองของเราอยู่ในรถ(ที่ยังไม่มีกุญแจรถ) กุญแจรถสำรองก็อยู่ในบ้าน(ที่ไม่มีกุญแจบ้าน) ทำไงล่ะทีนี้ แงๆๆๆอีกรอบ จากคุณ : leo_natty เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 19:20:59

ความคิดเห็นที่ 18 ระหว่างนั่งเศร้าอาหารก็มา ขอกินแแก้เครียดก่อนละกัน (ยังกินลงเสมอ) เป็นข้าว กับผัดเผ็กปลา อร่อยดีทีเดียวค่ะ จากคุณ : leo_natty เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 19:22:28

ความคิดเห็นที่ 19 ตามลุ้นด้วยคนครับ  ตื่นเต้นๆๆ จากคุณ : [Cha] เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 20:02:32

ความคิดเห็นที่ 20 หลังจากนั่งห่อเหี่ยวมาซักระยะ ฝนก็ตกค่ะ กัปตันประกาศให้ทุกคนรัดเข็มขัดอยู่กับที่ อากาศแปรปรวนมาก และก็เจอหลุมอากาศ และลม เครื่องสั่นสะเทือนไปหมด และโครงบวกเหวี่ยงไปมา คนในเครื่องร้องกันเต็มเลยค่ะ เราเองกลัวมากเหมือนกัน เพราะตั้งแต่ขึ้นเครื่องมาไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน ดีที่ว่าเป็นช่วงสั้นๆๆค่ะ หลังจากนั้นก็แค่สั่นๆเล็กน้อยพอทนได้ ในที่สุด 3 ชั่วโมงก็ผ่านไป กลับถึงเชียงใหม่โดยสวัสดิภาพ ..... แต่กระเป๋าของเราล่ะ มากับเราด้วยป่าว พอผ่านตม.มาได้คุณแฟนก็รีบจ้ำอ้าว โดยไม่รอกันเลย เพราะห่วงกระเป๋ามากกว่า (ก็แน่สิ) จากคุณ : leo_natty เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 20:12:51

ความคิดเห็นที่ 21 พอเราเดินตามหลังมาถึงจุดรับกระเป๋า ก็เห็นคุณแฟนยืนยิ้มแ๋ฉ่ง(เป็นรอยยิ้มแรก นับตั้งแต่สนามบินchangi) แล้วเราสองก็หัวเราะ แล้วร้องเย้กันสองคนค่ะ เราไปเที่ยวกันมาและกลับถึงโดยสวัสดิภาพ กระเป๋าเราไม่หายไป เรามีรถกลับบ้าน เราเข้าบ้านได้ เย้้เย้ เมื่อคิดย้อนกลับไป เรานึกขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่สนามบิน changi สมแล้วที่เป็นสนามบินอันดับหนึ่ง(ถ้าไม่ได้กระเป๋าคืนจะคิดงี้มั้ยเนี่ย) เพราะช่วงเวลาที่เราผ่านตม.ทางด่วนและวิ่งไปที่gate เป็นแค่ช่วงสั้นมากๆๆๆ แต่คุณลุงที่สนามบินเข็นรถที่มีกระเป๋าเรา และลำเลียงไปส่งที่เครื่องทันเวลา เราขอบคุณมากๆๆ เลยค่า ยังคิดกันเล่นๆว่าถ้าเกิดเหตุขึ้นที่ประเทศไทย กระเป๋าเราจะเป็นยังไงบ้าง แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 52 20:47:03 แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 52 20:45:12 จากคุณ : leo_natty เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 20:19:25

ความคิดเห็นที่ 22 ขออำลากระทู้นี้ไปก่อนนะคะ จบด้วยภาพที่ชอบมากแล้วกันค่ะ จากคุณ : leo_natty เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 20:27:03

ความคิดเห็นที่ 23 เรานึกภาพถ้าต้องโกยให้ถึงภายใน 10 นาทีนี่คิดถาพตัวเองไม่ออกเลยค่ะ แต่ก็จบลงด้วยดี แอบขำบอร์ดิ้งพาสอันที่เขียนด้วยลายมือ ^^ จากคุณ : aonlin เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 20:30:27

ความคิดเห็นที่ 24 ดีใจด้วยจ้า บริหารกล้ามเนื้อหัวใจดีเนาะ ตื่นเต้นๆ จากคุณ : Title_boy เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 20:35:16

ความคิดเห็นที่ 25 หวัดดีค่ะคุณ[Cha] เราก็ตื่นเต้นมากๆๆค่ะตอนนั้นกลัวมากว่าจะตกเครื่องและกลัวไม่ได้กระเป๋าด้วย  ลืมบอกไปว่าคุณแฟนที่น่ารักเอากล้องโหลดใต้ท้องเครื่องด้วย หมายความว่าถ้า กระเป๋าหาย กล้องหายและรูปทั้งหมดหาย(เหลือแต่รูปในกล้องเราที่ถ่ายแต่บนเครื่อง) ไม่อยากจะคิดต่อเลยค่ะ แต่ดีใจที่จบลงด้วยดีค่ะ หวัดดีค่ะคุณaonlin เราก็ขำค่ะ ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย เป็นลายมือของพนักงานลืมถ่ายรูปเก็บเอาไว้(แต่ตอนนั้น มึน ขำไม่ออก) จากคุณ : leo_natty เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 20:37:13

ความคิดเห็นที่ 26 คุณTitle_boy หัวใจจะวายเอาอ่ะค่ะ จำไปจนวันตายเลย จากคุณ : leo_natty เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 20:41:25

ความคิดเห็นที่ 27 ลุ้นแทน จะว่าไปแล้ว ขากลับสนามบิน ต้องเผื่อเวลาเยอะๆๆค่ะ สมัยก่อน เคยนั่งจาก orchard ไปลง Tampinese แบบเปบี่ยนรถที่ city hall แล้วจับอีกสายไป Tampinese สุดสายแค่นี้ เดินออกมาก็จะไม่ทันแล้ว แท๊กซีก็ไม่มี กลัวไปไม่ทันมาก ตอนนั้นของอยู่สนามบินหมดแล้ว เพราะเอาไปฝากไว้ตอนเที่ยง เข้าใจอารมณ์เลยค่ะ ว่า ถ้านั่งแท๊กซี่มา 25นาทีก็ถึงแล้ว จากคุณ : kizz_j เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 22:14:37

ความคิดเห็นที่ 28 หวัดดีค่ะคุณkizz_j ทริปนี้ยอมรับเลยค่ะว่าผิดอย่างไม่มีข้อแก้ตัวที่ไปสาย ฮือๆๆ จากคุณ : leo_natty เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 22:21:14

ความคิดเห็นที่ 29 ผมเคยคล้ายจขกท.ที่นาริตะเหมือนกัน ใส่เท้าสุนัขโกยตับแล่บ.... ส่วนที่ชางฮี เดือนก่อนไฟล์กลับสามทุ่ม พี่หางแดงแถมให้เป็นเที่ยงคืน.....เหลือ ๆ  อันนี้ตรงข้าม จขกท.เลยครับ เดินชมวนแล้ววนอีกจนเอียน................... ว่าแต่ภาพสุดท้ายสวยดีครับ จากคุณ : จุ๋มกรู๋ เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 23:58:49

ความคิดเห็นที่ 30 โห คุณแฟนนี่ ถ้าผมทำอย่างนี้ มีเจ็บตัวไปแล้ว ปกติผู้ชายจะไวและไม่ติดช็อปปิ้งนะครับ งานนี้มาแปลก ไม่รักษาเวลาอีกตะหาก แล้วอีกอย่างขอเตือนครับ ของมีค่าห้ามโหลดเด็ดขาด ไม่หายก็อาจเสียหายได้ จากคุณ : boy next door เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 52 01:33:42

ความคิดเห็นที่ 31   อ่านไป ลุ้นไปด้วย ตื่นเต้นจริงๆ จากคุณ : BANBONDOI เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 52 09:44:54

ความคิดเห็นที่ 32 เราก็เคยเจอเหตุการณ์คล้ายๆๆกันแต่เราดูเวลาแอร์เอเชียผิด แต่ดีที่เช็คอินไปล่วงหน้า ก็เลยทำให้รอด เพราะเหลือแค่ 40 นาที พอไปผ่านตม.เองแบบปกติ ตม.ก็พูดว่าวิ่งให้เร็วเกจไกลนะ ความรู้สึกก็คงเหมือนเจ้าของกระทู้ เพราะวิ่ง วิ่ง แล้วก็มองดูร้านพวกนั้นโดยไม่ได้เข้า แต่ก็ทันพอดี จากคุณ : chookey (chookeykiku) เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 52 09:46:24

ความคิดเห็นที่ 33 อ่านแล้วนึกภาพออกเลย วันหลังอย่าชะล่าใจน่ะค่ะ เรากลัวเรื่องแบบนี้มาก จะเผื่อเวลาไว้เว่อๆ สำหรับเราตกเครื่องไม่คุ้มมากๆเลย เรายอมไปนั่งเล่นในสนามบินนานๆดีกว่า จากคุณ : เหล้าปั่น เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 52 12:16:09

ความคิดเห็นที่ 34 หวัดดีค่ะ คุณจุ๋มกรู๋ : อ่า่ค่ะเคยต้องวิ่งที่นาริตะเหมือนกันค่ะ เพราะไปกับเพื่อนหลายคน รอกันไปรอกันมา แต่ตอนนั้นอยู่แถวduty free กระเป๋าโหลดเรียบร้อย ไม่เหมือนครั้งนี้ คุณboy next door : คือจริงๆก็อยากจะทำอะไรแรงๆเหมือนกันค่ะ ให้สาสมกับความผิด แต่เห็นหน้าจ๋อยๆ พร้อมยอมรับผิดแบบไม่มีข้อโต้แย้งแล้วก็ไดด้แต่ปลงค่ะ คุณBANBONDOI : ยอมรับว่าลุ้นมากๆเลยค่ะ คุณchookey (chookeykiku) : เราไม่ได้มองร้านข้างทางเลยค่ะ มองไปข้างหน้าหาgate อย่างเดียว เสียดายมากๆๆ คุณเหล้าปั่น : จริงๆแล้วเราก็เหมือนคุณนะคะ ชอบไปถึงสนามบินก่อนเวลา เดินเล่นดูนั่นดูนี่ แม้จะนานก็ไม่ค่อยเบื่อ(โดยเฉพาะต่างบ้านต่างเมือง) แต่ก็นะ....เกิดเร่องจนได้ จากคุณ : leo_natty เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 52 13:22:02