ความคิดเห็นที่ 1 คอยอ่านค่ะ เพราะจะไปกะแฟน 2 คนเหมือนกัน(แฟนคนเดียวเช่นกันค่ะ) จองแอร์เอเซียไว้ 1 ธค.ส่วนวันกลับกะจะกลับนครชัยเหมียนกัลล์ จากคุณ : saijaik เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 52 21:39:40

ความคิดเห็นที่ 2 คืนที่1 -- ผมขึ้นรถทัวร์จากหมอชิตรอบ 21.30 ไปถึงอุบลฯ ประมาณ 6 โมงเช้านิดๆ วันที่ 1 คืนที่ 2 จากอุบลฯ รวดเดียวไปดอนเดด     ตอนแรกกะว่าจะนั่งรถทัวร์ของ บขส. ที่วิ่งจากอุบลฯ ไปลงปากเซ แต่รถรอบแรกมีตอน 09.30 น. ขี้เกียจรอ เดินไปเดินมาก็เจอกับรถตู้อุบลฯ - ช่องเม็ก จอดอยู่ที่ช่อง 19-20 ค่ารถคนละ 100 บาท รถออกรอบแรก 06.30 ก็เลยไปรถตู้เลย     ถึงช่องเม็กราว 8 โมง ทำเรื่องออกฝั่งไทย (ไม่มีค่าใช้จ่าย) ทำเรื่องเข้าฝั่งลาวที่ด่านบ้านวังเต่า เจ้าหน้าที่ลาวคิดเงิน 80 บาท (แต่พี่คนไทยอีกคนที่เจอกันที่ด่านโดนไป 100 บาท เข้าใจว่าแล้วแต่อารมณ์ของเจ้าหน้าที่)     ที่วังเต่าจะมีคนบาวที่ให้บริการรถตู้แบบประจำทางมารอดักอยู่หลายเจ้า เดี๋ยวเขาก็เข้ามาคุยกับคุณเอง ราคาคนละ 80 บาท แต่ต้องเดินไปขึ้นรถนอกเขตด่าน (เิดินไปประมาณ 200 เมตร)รถวิ่งประมาณ 40 นาทีถึงในตัวเมืองปากเซ รถจะจอดให้ลงข้างๆ ตลาดดาวเฮือง ตรงนี้จะมีคนขับสามล้อเข้ามารุมล้อมและพยายามขูดราคานักท่องเที่ยว ให้เดินหนีออกมาไปทางหน้าตลาด จะมีคิวสามล้อที่นั่น เรียกสามล้อไปลงสถานีขนส่งที่หลักแปด (ก.ม. 8) ราคาคคนละ 10,000 กีบ     อ้อ อีกอย่างคือสามารถแลกเงินที่ร้านทองในตลาดได้ ผมก็มาแลกที่นี่ ได้ที่ 1 บาท = 250 กีบ โดนหั่นราคานิดหน่อย     พอลงรถที่หลักแปดก็จะมีคนมาถามคุณทันทีว่าไปนากะสังไหม (เพราะเขาเห็นว่าเป็นนักท่องเที่ยว) รถสองแถวที่นี่ออกไม่เป็นเวลาแต่ถ้ามาช่วงเ้ช้าก็จะมีรถถี่หน่อย จะออกตอนคนเต็ม ราคาคนละ 30,000 กีบ นั่งยาว 4 ชั่วโมงถึงนากะสัง ระหว่างทางมีจอดแวะให้แม่ค้ามาล้อมรถขายปิ้งไก่อยู่จุดหนึ่งและนั่นก็เป็นจุดเดียวที่คุณจะหาของกินระหว่างทางได้ เพราะฉะนั้นทางที่ดีเตรียมน้ำและอาหารติดไปบ้างก็ดีครับ     รถสองแถวทุกคันจะต่อเติมเป็นสามแถว มีแถวกลางด้วย รถจะเบียดกันแน่นเอี้ยด ร้อนและกินฝุ่นตลอดทาง     ถ้าคุณกะจะพักที่ปากเซก่อนสักคืน แนะนำให้เดินหาบริษัททัวร์ก่อน พวกนี้จะมีตั๋วรถตู้ปากเซไปนากะสัง ขายเป็นแพ็คเก็จคู่กับตั๋วเรือนากะสังไปดอนเดด ดอนคอน ราคาอยู่ที่ 50,000 - 55,000 กีบ (พอๆ กับเดินทางเอง) รถที่นั่งจะเป็นรถตู้สภาพดีหน่อย มีแอร์ ไม่ร้อนแต่ก็ไม่เย็น ที่สำคัญคือไม่ต้องกินฝุ่นและไม่เบียด ผมมารู้วิธีนี้ที่หลังเพราะเดินทางรวดเดียวไปนากะสังเลย เลยทำให้มีไม่มีเวลาเดินดูตั๋วแพ็คคู่แบบนี้     ก่อนถึงนากะสัง รถสองแถวอาจจะจอดรับส่งคนที่ดอนโขง อย่าเผลอลงไปผิดที่นะครับ     เมื่อถึงนากะสัง สองแถวจะส่งคุณลงก่อนถึงท่าเรือเล็กน้อย คุณต้องเดินต่อนิดหน่อย ก่อนลงเรือให้ซื้อตั๋วเรือจากซุ้มที่อยู่ด้านขวามือเสียก่อน คนละ 15,000 กีบ นั่งเรืออีกประมาณ 20 นาทีก็จะถึงดอนเดด จากคุณ : จร หมอนหมิ่น เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 52 21:44:05

ความคิดเห็นที่ 3 ที่พักบนดอนเดด จะแบ่งเป็น 2 โซนนะครับ คือโซนพระอาทิตย์ขึ้นและโซนพระอาทิตย์ตก ถ้าขึ้นเรือมาแล้วคุณเลือกเดินไปทางซ้ายก็จะไปโซนพระอาทิตย์ขึ้น ผมเลือกที่จะนอนโซนนี้เพราะเข้าใจว่า แดดตอนเช้ายังไม่แรงมาก ทำให้ตอนบ่ายๆ ที่แดดข้ามไปฝั่งพระอาทิตย์ตกแล้ว ห้องพักของผมจะเย็นพอนอนเล่นได้สบายๆ   ตอนนี้ดอนเดดและดอนคอนมีไฟฟ้าตลอด 24 ชั่วโมงแล้วนะครับ ทางการลาวเพิ่งเดินสยไฟเข้ามาถึงเกาะไม่กี่วันก่อนที่ผมจะเดินทางไปถึง แต่อย่าเพิ่งดีใจไปนะครับ เพราะชาวบ้านเขาจะต่อไปเข้ามาใช้ในบ้านของเขาเป็นหลัก การต่อไฟเข้าที่พักโดยพลการรู้สึกว่าจะผิดกฏหมายนะครับ เพราะงั้นในห้องพักของคุณก็จะยังไม่มีพัดลม และจะมีไฟใช้ก็ตอนพระอาทิตยตกแล้วเท่านั้น และส่วนใหญ่ก็จะเป็นไฟจากเครื่องปั่นที่ติดๆ ดับๆ และให้กระแสไม่สม่ำเสมอ จึงไม่ควรเอาอะไรไปชาร์จไฟทั้งสิ้้นนะครับ ไม่งั้นอุปกรณ์ของคุณอาจพังได้   ราคาที่พักบนดอนเดดและดอนคอนนั้นถูกแสนถูกครับ ผมพักที่บ้านพี่เพา (Mr. Phao's guesthouse) ห้องพักเบ (สิก) มากๆ เป็นบ้านยกใต้ถุน มีเปลญวน มีเตียง มีมุ้ง มีประตูกับหน้าต่าง 2 บาน หลอดไฟกลมอีก 1 ดวง ห้องน้ำรวม ไม่มีน้ำอุ่น ราคาคืนละ 20,000 กีบ หรือ 80 บาทเท่านั้น อ้ายเพาอัธยาศัยดีมากครับ ถ้าคุณพอพูดลาว - อีสานได้แกจะยิ่งเป็นกันเองครับ   ที่พักบนดอนเดดมีทั้งแบบติดริมน้ำและไม่ติดริมน้ำ ราคาไม่หนีกันเท่าไหร่ มีให้เลือกเป็นร้อยๆ แห่งครับ ถ้าคุณไม่เหนื่อยจนเกินไปก็เดินถามไปเรื่อยๆ ก็ได้ครับ ทุกที่ก็จะมี facility แบบเดียวกันนี้ล่ะครับ (คือเบสิกสุดๆ พอซุกหัวนอนได้) จากคุณ : จร หมอนหมิ่น เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 52 21:54:58

ความคิดเห็นที่ 4 ที่กินบนดอนเดด ผมเป็นคนไม่พิถีพิถีนเรื่องของกินเท่าไหร่ครับ ออกไปทางลิ้นจระเข้แต่ก็ต้องบอกว่าอาหารที่บ้านพี่เพาไม่ค่อยเวิร์คเท่าไหร่โดยเฉพาะอาหารฝรั่ง แต่ข้าวผัดกับต้มยำอร่อยครับ ถ้าคุณเดินไปทางโซนพระอาทิตย์ขึ้นเรื่อยๆ ก็จะเจอกับร้านอาหารชื่อ King Kong เจ้าของเป็นฝรั่งแก่ๆ เซอร์ๆ ร้านธรรมดามาก แต่พิซซ่าพี่แกอร่อยเหลือหลาย ราคา 40,000 กีบ เสียอย่างเดียวคือชอบมีพวกฝรั่งขี้นกขี้เต่าเหม็นมานั่งถุนยากันโขมงเต็มร้าน (เจ้าของร้านก็อยู่ในวงนั่นแหละครับ) ผมกินอยู่แ่ค่สองที่นี้ล่ะครับ แนะนำอะไรไม่ได้มากนัก จากคุณ : จร หมอนหมิ่น เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 52 21:59:40

ความคิดเห็นที่ 5 คอนพะเพ็ง ตัวดอนเดดเองไม่มีอะไรให้ชมมากนักนอกจากดูวิถีชีวิตชาวบ้าน (ซึ่งก็ไม่่ค่อยต่างจากอีสานบ้านเฮาเท่าใด) ในวันที่ 2 คืนที่ 3 ผมใช้วิธีเช่าเรือพี่เพา (พี่เพาเป็นคนขับ) พาไปคอนพะเพ็ง แล้วกลับมาปั่นจักรยานไปหลี่ผี อย่าเพิ่งคิดว่าเขาเอาเรือไปถึงคอนพะเพ็งได้นะครับ จริงๆ ทำไม่ได้นะครับเพราะนอกจากจะอันตรายแล้ว ตำรวจก็จะจับเอาด้วยถ้าเขาเห็น แต่พี่เพามีบริการพิเศษคือเช่าเรือกับแก 250,000 กีบ (1,000 บาท ราคาเหมาทั้งวัน) แกจะแถมจักรยานให้เรายืมฟรีทั้งวัน เรือที่ว่านี้เป็นเรือหางยาวครับ แกจะรับผู้โดยสารเต็มที่ไม่เกิน 3 คนเท่านั้น (ก็บอกแล้วครับว่ามันอันตรายอยู่สักหน่อย) แล้วแกก็จะเอาจักรยานใส่เรือไปด้วย แกจะขับเรือไปจอดที่ท่าวัดบ้านท่าค้อ ห่างจากหัวแก่งคอนพะเพ็งราว 2 กิโล แล้วก็เอาจักรยานขึ้นฝั่งปั่นไป ทำทีว่าไม่ได้นั่งเรือมาหรอก ปั่นจักรยานมาต่างหาก จุดแรกแกจะพาไปแวะจุดชมวิวหัวแก่ง ตรงนี้ไม่มีอะไรมาก มองเห็นแก่งอยู่ไม่ไกล แต่จะเห็นจากด้านบนตามทิศที่น้ำไหลมา ผมดูอยู่ตรงนี้ไม่นาน ปั่นต่อไปจุดชมวิวคอนพะเพ็ง ก่อนถึงจะมีด่านเก็บเงิน พี่เพาจัดการจ่าให้เสร็จสรรพเพราะค่าเ้ข้าชมรวมอยู่ในค่าเช่าเรือแล้ว ขามาเรือล่องมาตามน้ำ ใช้เวลาราว 30 นาที ขากลับทวนน้ำใช้เวลาราว 50 นาที เตรียมเสื้อแขนยาวกับหมวกไปด้วยนะครับ แดดเปรี้ยงเลย จากคุณ : จร หมอนหมิ่น เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 52 22:08:36

ความคิดเห็นที่ 6 หลี่ผี กลับมาจากคอนพะเพ็งราวบ่ายโมง ล้างหน้าล้างตาแล้วปั่่นจักรยานต่อเลย หลี่ผีห่างจากดอนเดดไปประมาณ 3-4 โลนะครับ เส้นทางก็ชิวๆ ปั่นสบายๆ ไปเรื่อยๆ ทางฝั่งดอนเดดมีอยู่เส้นเดียวครับ ไม่ต้องกลัวหลง ปั่นไปเรื่อยๆ ก็จะเจอกับสะพานฝรั่งเศส หาทางขึ้นสะพานแล้วปั่นข้ามไปฝั่งดอนคอน พอมาถึงฝั่งดอนคอน เท่าที่อ่านข้อมูลมามีคนบอกว่าจะเจอกับด่านเก็บค่าเข้าชม แต่วันที่ผมไปเป็นวันอาทิตย์ ด่านเลยปิด ไม่เสียตังค์ อิอิ จากสะพานฝรังเศส ปั่นลงมาตามทาง ทางจะเลี้ยวขวาพาคุณไปเจอกับหัวรถจักรโบราณที่ฝรั่งเศสทิ้งไว้ (หาข้อมูลประวัิติศาสตร์อ่านกันเอาเองนะครับ) ถ่ายรูปเสร็จก็ปั่นไปตามทาง อ้อมโค้งหัวรถจักรมาเจอสามแยก เลี้ยวซ้ายแล้วไปตามทางโลดครับ หาทางไปไม่ถูกก็ถามชาวบ้านได้เลยครับ ที่หลี่ผีจะมีจุดชมวิวที่คนนิยมไปดูอยู่ 2-3 จุดครับ ให้เดินต่อมาเรื่อยๆ ผ่านหน้าร้านขายของ จะมีทางขวามือ ลอดใต้ซู้มไผ่ ทางนี้จะพาคุณลงไปริมหน้าผา จะเห็นวิวอีกมุมหนึ่งครับ แต่อันตรายอยู่เหมือนกัน ถ้าคุณกลับออกจากหลี่ผีช่วงเย็นๆ ขากลับมาดอนเดดแวะดูพระอาทิตย์ตกบนสะพานฝรั่งเศสก็ได้ครับ จากคุณ : จร หมอนหมิ่น เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 52 22:16:33

ความคิดเห็นที่ 7 วันที่ 3 คืนที่ 4 -- ดอนเดดกลับไปปากเซ วันนี้ผมใช้วิธีซื้อตั๋วแพ็คคู่ รถตู้ + เรือ จากพี่เพา ราคา 50,000 กีบ พี่เพาเอาเรือหางยาวของแกมาส่งเราที่นากะสัง แล้วเราก็ต่อรถตู้จากนากะัสังกลับไปปากเซ ออกจากดอนเดด 10.30 น. ถึงปากเซบ่ายสองโมงเกือบสาม จริงๆ รถตู้ใช้เวลาวิ่งน้อยกว่าสองแถมเท่าตัว (วิ่งแค่ 2 ชั่วโมงเท่านั้น) แต่มีรถตู้บริการหลายเ้จ้าและดูจะไม่ค่อยมีการจัดระบบเท่าไหร่ เลยดูมั่วๆ เล็กน้อย กว่าจะได้ขึ้นรถผมเลยรออยู่เกือบชั่วโมง ระหว่างทางไม่มีแวะทานข้าว ไม่มีแวะเข้าห้องน้ำ รถจะมาจอดในตัวเมืองตามจุดจอดของแต่ละเจ้าซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริษัททัวร์ จากคุณ : จร หมอนหมิ่น เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 52 22:21:37

ความคิดเห็นที่ 8 ที่พักปากเซ โซนที่พักของเมืองปากเซจะอยู่ละแวกสี่แยกบ้านท่าหลวงครับ สี่แยกนี้หาไม่ยาก ให้คุณหาถนนหมายเลข 13 ให้เจอก่อน แล้วก็เดินมาทางตะวันตกเรื่อยๆ สี่แยกนี้จะมีป้ายไม้ปักอยู่ที่มุมแยกครับว่า "บ้านท่าหลวง" แถวนี้มีโฮงแฮมแสงอาลุน โฮงแฮมลานคำ ที่อยู่บนเส้นหมายเลข 13 สองที่นี้ราคาสูงหน่อย แต่จะมีเส้นที่คู่ขนานกับหมายเลข 13 (ไม่ทราบชื่อถนนจริงๆ ครับ) ถนนสายนี้จะมีเกสท์เฮ้าส์อยู่หลายแห่ง ไล่ตั้งแต่ริมน้ำเซโดน (ทิศตะวันตก) มาตตามถนนเรื่อยๆ ก็จะมี ฝั่งเซโดนเกสท์เฮ้าส์ โฮงแฮมพรสะหวัน นะลินทะจะเลินเกสท์เฮ้าส์ โฮงแฮมท่าหลวง และมาจบที่ สบายดี 2 เกสท์เฮ้าส์ยอดฮิตของพวกฝรั่ง ที่สุดท้ายนี่ไม่รู้มีดีอะไรนะครับแต่ตอนที่ผมไปนี่เขาเต็มแล้ว ก็เลยไปนอนที่่โฮงแฮมท่าหลวง คืนละ 60,000 กีบ (240 บาท) ห้องเตียงคู่ พัดลม ห้องน้ำในตัว ไม่มีน้ำอุ่น ไม่มีทีวี เบสิกมากๆ (อีกแล้ว) สภาพพออยู่ได้แต่ชอบที่ไม่แพงและไม่ไกลจากแหล่งหากิน แก้ไขเมื่อ 20 พ.ย. 52 17:49:46 จากคุณ : จร หมอนหมิ่น เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 52 22:29:32

ความคิดเห็นที่ 9 ที่กินปากเซ อย่างที่บอกนะครับ ผมมันพวกกินกันตายไปงั้นๆ ก็เลยไม่แสวงหาเรื่องกินมากนัก เท่าที่สังเกตร้านอาหารส่วนมากก็จะอยู่ริมถนน 13 นั่นแหละครับ แต่ก็มีให้เลือกไม่กี่ประเภทนัก มีร้านกาแฟที่คนขึ้นอยู่ 2-3 ร้าน แดลต้ากาเฟ ดาวกาเฟ กับอีกร้านอยู่ในซอยละแวกสะพาน (ขัว) ปากเซโดนชื่อ สะหนุกๆ อะไรสักอย่าง ร้านที่ผมกินประจำคือ พอยไพลินมินิมาท เป็นร้านมินิมาร์ทอยู่หัวมุมแยกบ้านท่าหลวงเลยครับ ร้านนี้อยู่หลังป้ายไม้ที่ว่าพอดี หลังร้านเป็นโชว์ห่วยขายข้าวของเครื่องใช้สารพัด หน้าร้านขายของกิน มีเมนูให้เลือกเยอะดีครับ มีตั้งแต่ข้าวจี่ (ขนมปังฝรั่งเศส) ไปจนถึงชุดส้มตำเืนื้อย่าง มีเหล้าเบียร์ขาาย ฝรั่งแน่นทั้งวันครับ เท่าที่กินร้านนี้มายังไม่เจออะไรไม่อร่อยนะครับ ส่วนตัวผมชอบข้าวจี่กับข้าวเปียกเส้น สำหรับคนงบน้อยแต่ยังอยากดื่มเบียร์ละเลียดบรรยากาศหน่อยๆ ให้ไปที่ริมน้ำโขงครับ จากเส้น 13 มาทางทิศตะวันตกจนเห็นขัวปากเซโดน แล้วก็เลี้ยวซ้ายมา ถนนจะเลียบแม่น้ำโขงมาเรื่อยๆ ไปเรื่อยๆ ครับ เดี๋ยวเดียวคุณก็จะเจอกับแผงขายส้มตำ ของทอด และเบียร์ ราคาไม่แพงครับ พอๆ กับบ้านเรา มาตอนเย็นๆ ตอนพระอาทิตย์ตก บรรยากาศดีเชียว แก้ไขเมื่อ 20 พ.ย. 52 17:51:23 จากคุณ : จร หมอนหมิ่น เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 52 22:37:48

ความคิดเห็นที่ 10   น่าจะมีภาพประกอบครับ จากคุณ : สะบก เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 52 22:40:46

ความคิดเห็นที่ 11 ที่เที่ยวละแวกปากเซ ผมเช่ามอเตอร์ไซค์ทันทีที่มาถึงปากเซ ค่าเช่า 60,000 กีบต่อ 24 ชั่วโมง มีทั้งเวฟและดรีมให้เลือก ที่เที่ยวรอบๆ ปากเซจะแบ่งเป็น 2 กลุ่มครับ คือกลุ่่มทิศเหนือที่มีสารพัดน้ำตก ตาดผาส้วม ตาดฟาน ตาดเยื้อง ตาดเลาะ ตาดสูง ตาดๆๆๆๆๆๆ อีกมากมาย อีกกลุ่มคือกลุ่มทิศใต้ เด่นๆ ก็มีวัดพู รองลงมาก็เมืองจำปาสักครับ วันรุ่งขึ้น (วันที่ 4 คืนที่ 5) ผมออกจากปากเซประมาณ 8 โมง อากาศเ็ย็นทีเดียว ควรใส่เสื้อกันหนาวขี่นะครับ ออกไปตาดเยื้องก่อน แล้วก็กลับมาตาดฟาน จบที่ตาดผาส้วม ส่วนตาดเลาะ ตาดสูง ไม่ได้ไปครับ ไกลเกิน ทางเข้าของตาดทั้งสามแห่งที่ผมไปนี้ ไม่มีป้ายบอกทางให้ชัดเจนเท่าไหร่ครับ จากเมืองปากเซให้คุณวิ่งตามเส้น 13 ไปทางทิศตะวันออกเรื่อยๆ คุณจะผ่านสามแยกแห่งหนึ่ง ให้ทดสามแยกนี้เอาไว้ในใจก่อนนะครับ ตรงไปเรื่อยๆ ครับ จนถึงบ้านหลักสี่สิบ (ก.ม. 40) ให้คุณมองทางขวามือ จะมีป้ายสีเหลืองๆ (สนับสนุนโดยเบียร์ลาว) บอกว่า "ตาดเยื้องกลีนวิว" (หรืออะไรทำนองนี้) ให้คุณเลี้ยวขวาที่ช่องนี้ล่ะครับ ตรงเข้าไปคุณจะผ่านร้านขายกาแฟอยู่ขวามือ แล้วก็จะเจอสามแยกให้เลี้ยวซ้าย แล้วเลี้ยวขวาไปตามทางจนเจอซุ้มเก็บค่าเข้าชมคนละ 7,500 กีบ แล้วก็เดินไปตามป้ายครับ ออกจากตาดเยื้องให้้ย้อนกลับมาทางเดิม จนถึงบ้านหลักสามสิบแปด (ก.ม. 38) ให้มองหาป้ายบอกทางไปตาดฟานทางขวามือ แล้วก็เลี้ยวซ้ายไปตามป้ายบอก ส่วนตาดผาส้วมนั้นหาง่ายหน่อย ก็แค่ย้อนกลับมาทางเดิมจนมาถึงบ้านหว้ยแฮ่ ประมาณ ก.ม. 18 จะีีถนนใหญ่แยกออกไปทางขวามือ เีลี้ยวขวาแล้วก็ไปตามทางราว 10 กว่าโล ถึงบ้านบาเจียง ให้สังเกตป้ายรูปน้ำตก มีภาษาลาวเขียนว่า อุททะยานบาเจียง ตาดผาส้วม ก็เลี้ยวไปตามนั้น ส่วนตัวผมคิดว่าตาดฟานกับตาดผาส้วมนั้นไม่น่าสนใจเท่าไหร่ ตาดฟานมองเห็นได้แต่ไกลๆ ลิบๆ เท่านั้น ส่วนผาส้วมก็จัดแจงเอาไว้ดีเกินไป มีหมู่บ้านชาวเผ่าซึ่งดูผิดที่ผิดทางเหมือนสวนสัตว์มนุษย์มากกว่า มีแต่ตาดเยื้องที่เข้าไปดุใกล้ๆ ได้ และมีละอองน้ำกระเซ็นมาถูกตัวตลอดเวลา ทำให้รู้สึกว่าสมัผัสได้หน่อย จากคุณ : จร หมอนหมิ่น เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 52 22:53:16

ความคิดเห็นที่ 12 วัดพู ผมเที่ยวตาดพวกนี้หมดตอนราวๆ บ่ายโมงกว่า รวมกินข้าวด้วยก็บ่ายสอง จากผาส้วมจะตีลงไปทางใต้เพื่อไปวัดพูนั้นก็อีกเกือบ 60 โล จำสามแยกที่ผมให้ทดไว้ในใจได้ไหมครับ นั่นแหละครับให้คุณกลับมาที่สามแยกนั้น แล้วเลี้ยวซ้ายลงไปตามทางเรื่อยๆ เรื่อยๆ เรื่อยๆๆๆๆๆๆ จนถึง ก.ม. 30 จะมีป้ายบอกให้เลีีี้ยวขวาไปวัดพูจำปากสัก มรดกโลก ก็เลี้ยวตามเขาบอกไปครับ ตรงไปสัก 7-8 โลก็จะุึถึงบ้านเมือง ตรงจุดนี้คุณต้องเอามอเตอร์ไซค์ข้ามเรือไปครับ เรือนี้เป็นเรือหางยาวสองลำผูกติดกันแล้วเอาไม้วางหาดตรงกลางทำเป้นที่โดยสาร น่ากลัวเล็กน้อย ค่าข้าม 10,000 กีบ รวมทั้งรถทั้งคน (รถ 1 คัน คน 2 คน) ขึ้นฝั่งจำปาสักแล้วขับไปตามทางอีก 12 กิโลก็จะถึงทางเข้าวัดพู ค่าเข้าคนละ 30,000 กีบ ถนนช่วงนี้มีหลุมบ่อพอสมควรนะครับ ขับระวังๆ จากคุณ : จร หมอนหมิ่น เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 52 23:01:36

ความคิดเห็นที่ 13 ข้อควรระวังในการขับมอเตอร์ไซค์ในลาว 1. บ้านเขาขับชิดขวานะครับ อย่าลืมข้อนี้เด็ดขาด 2. หมวกกันน็อคตอนอยู่ในตัวเมืองปากเซ ไม่ใส่ตำรวจไม่จับ แต่จะมาตั้งด่านดักจับตรงริมทางหลวงสาย 13 ก่อนถึงสามแยกที่ว่านั่นละครับ สงสัยมาดูงานจราจรกรุงเทพไปใช้บ้าง (ลำไพ่พิเศษ) 3. ขากลับจากวัดพูผมออกมาค่อนข้างเย็นแล้ว หน้าหนาวมืดเร็วด้วย การขี่มอเตอร์ไซค์บนทางหลวงลาวตอนกลางคืนอันตรายมากครับ เพราะบ้านเขาไม่มีไฟถนนเลยจนกว่าจะเข้าเมือง และรถหลายคัน (ทั้งรถเก๋ง กะบะ มอเตอร์ไซค์ จักรยาน และรถการเกษตร) ก็ไ่ม่ค่อยจะมีไฟส่องสว่าง บางทีโผล่มามืดๆ หรือขับสวนเลนมาดื้อๆ น่ากลัวครับ ไม่แนะนำอย่างแรง จากคุณ : จร หมอนหมิ่น เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 52 23:05:13

ความคิดเห็นที่ 14 ความเห็นส่วนตัวอีกอย่างคือ จำปาสักนั้นน่าพักกว่าปากเซมากๆ ครับ เมืองนี้เป็นเมืองหลวงประจำแขวงจำปาสัก แต่ห่างชายแดนทำให้ไม่เจริญเท่าปากเซ เลยทำให้เมืองนี้ยังเล็กๆ น่ารักอยู่ มีอาคารโคโลเนียลเก่าๆ สวยๆ หลายหลัง บางหลังเอามาทำเป็นโรงแรมก็มีครับ ที่เห็นผ่านๆ แค่แวบเดียวแล้วอยากมาพักเลยคือโฮงแฮมอินทิลา ลอง google หาข้อมูลกันดูนะครับ กะว่าคราวหน้ามาลาวใต้อีก จะไม่นอนปากเซแล้ว จะมานอนจำปาสักนี่ล่ะครับ จากคุณ : จร หมอนหมิ่น เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 52 23:08:11

ความคิดเห็นที่ 15 ขออนุญาตไม่ลงรูปนะครับ เพราะอย่างที่จั่วหัวกระทู้ไว้ว่า เป็นกระทู้ให้ข้อมูล ไม่ใช่กระทู้รีิวิว ที่ไม่รีวิวเพราะขี้เกียจใ่่ส่รูปครับ เอาข้อมูลมาให้ลุ่นๆ แบบนี้ดูจะมีประโยชน์กว่าครับ จากคุณ : จร หมอนหมิ่น เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 52 23:09:32

ความคิดเห็นที่ 16 อ้อ ลืมวันสุดท้ายไปเสียได้ วันที่ 5 คืนที่ 6 -- ปากเซกลับกรุงเทพ รถทัวร์ปากเซ - อุบล มีวันละ 2 รอบ  08.30 กับ 15.30 ราคา 200 บาท ผมกะจะไปให้ทันรอบเช้าแต่ไม่ทันก็เลยนั่งสามล้อ (คนละ 10,000 กีบ) จากร้านพอยไพลินไปลงคิวรถตู้ริมตลาดดาวเฮือง นั่งรถตู้ไป 80 บาท ถึงด่านราว 9 โมง ทำเรื่องผ่านแดน ข้ามมาช่องเม็กแล้วก็เดินต่อไปสถานีชนส่งช่องเม็กเพื่อขึ้นรถตู้ต่อคนละ 100 บาท มาถึงขนส่งอุบลตอนเที่ยง กะว่าจะซื้อตั๋วนครชัยแอร์ให้ทันรอบบ่ายโมงตรงแต่รถเต็มแล้ว เลยต้องรอไปอีกรอบตอน 19.30 น. ก็เลยแวะไปดูหนังสักเรื่อง กลับถึงกรุงเทพเช้าวันรุ่งขึ้นประมาณตีสี่ครึ่ง ทั้งหมดนี้ใช้เงินไปคนละปประมาณ 5,000 บาท ครับ จากคุณ : จร หมอนหมิ่น เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 52 23:14:49

ความคิดเห็นที่ 17 ขอเก็บเข้าคลังกระทู้ค่ะ น่าจะเลือกหมวดบันทึกนักเดินทางนะคะ กระทู้จะได้อยู่นานๆๆ ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ ละเอียดดีจริงๆ จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 52 00:13:29

ความคิดเห็นที่ 18 กลับมาแล้วหรอคะ ขอต้อนรับกลับมานะคะ เพราะจำได้ว่าคุณมาตั้งกระทู้ถามก่อนไป ขอบคุณสำหรับข้อมูลอัพเเดตค่ะ จำได้ว่าส้มตำแถวๆแคมของ อร่อยมากแต่เผ็ดมากกกกกกกกกกกกก จากคุณ : MiniBelle เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 52 01:15:19

ความคิดเห็นที่ 19 คุณ จร หมอนหมิ่นครับ ถ้าเช่ามอเตอร์ไซค์ที่ลาว ต้องมีใบขับขี่สากลใช่หรือไม่ครับ หรือว่าใช้ใบขับขี่ไทยได้ครับ แล้วถ้าไม่มีใบขับขี่,,,จะมีความผิดรุนแรงไหมครับ จากคุณ : Albino Spider (Albino Spider) เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 52 15:46:37