แนวทางจำพรวดเที่ยวเชียงใหม่ที่ผ่านมา (เวลาน้อยก็เที่ยวได้ถ้าวางแผนดี)

ได้เล่าไปนิดหน่อยเรื่องที่ไปเชียงใหม่เพื่อทำสารคดีวันลอยกระทง เลยมาสรุปว่าไปไหนมาบ้าง


ถึงเชียงใหม่8 โมงเช้าหน่อยๆด้วยแอร์เอเชีย พักที่โรงแรมของอาชีวะเชียงใหม่ แนะนำมากเพราะอยู่ซะจะกลางเมือง เดินไปเที่ยวไหนๆได้สะดวก เป็นจุดที่เลิศมากเพราะวันอาทิตย์จะมีถนนคนเดิน เลิศกว่าคือ มันยังตั้งบนถนนที่สามารถใช้รถหนีออกไปที่อื่นได้ (แต่ไม่มีที่จอดรถภายในมั้ง แต่รถแดงสะดวกสุดๆแล้ว)

8โมงกว่าๆ กินมื้อเช้าที่ร้านโจ๊กหน้าสามกษัตริย์

9.00 วัดอินทขิล กับพระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์ (ลืมแผนที่ไว้ที่ห้องแต่ก็จำได้ขึ้นใจแล้วว่าอะไรอยู่ไหนของเชียงใหม่ เอิ๊ก) แวะทักคุณป้าขายดอกไม้กันด้วยนะ ใจดีๆ

- เดินดุ่มหาซอยที่จะตัดไปอีกถนน เดินไปเรื่อยๆจะมีวัดหลายแห่ง แต่จุดหมายที่จะไปก็คือ วัดพระสิงห์ ไปแล้วต้องไม่ลืมไหว้พระพุทธสิหิงค์ และพระธาตุหลวง
- เดินดุ๊กๆๆๆ ออกมา ถ้าหันหน้าเข้าวัดพระสิงห์ก็ให้เดินไปทางซ้ายของวัด เดินไปเรื่อยๆ จนเจอถนนที่ตัดกัน เลี้ยวซ้าย เดินไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ
- ก็จะเจอกับ "วัดเจดีย์หลวง" แวะอ้าปากค้างกันสักพัก อย่าลืมชมต้นยางนาอายุสามร้อยปี  และนมัสการหลวงปู่มั่น มีคนโท กับอัฐิธาตุของท่าน หลวงปู่มั่นจำพรรษาที่วัดเจดีย์หลวงอยู่นานทีเดียว (เราโทรกลับไปหาพ่อ พ่อเคยทำสารคดีหลวงปู่มั่น)
- ออกจากวัดเจดีย์หลวง ก็จะปะกับถนน เดินไปทางซ้ายก็จะพบกับเสาหลักเมือง และสี่แยกกลางเวียง เป็นจุดศูนย์กลางของนครเชียงใหม่

- กลับมาโรงแรมเพื่อเริ่มทำงานสารคดีของเรา
- เป้าหมาย ---- ไปเทศบาลนครเชียงใหม่ อยู่ริมแม่น้ำปิง ตรงนี้จะมีงานลอยกระทงค่ะ ซึ่งตรงเทศบาลจะมีเจดีย์ขาว และ สถานกงสุลสหรัฐประจำด้วยค่ะ
- กลับมาโรงแรมตอนเย็น อาบน้ำเตรียมเที่ยว คืนแรกไปไนท์บาซาร์ โดยการเดิน ทิศทางนั้นอยู่ทางตะวันออกของเมืองเชียงใหม่ ออกไปนอกกำแพงเมือง คูเมืองอีกค่ะ
- เดินผ่านถนนลอยเคราะห์ ที่มีวัดลอยเคราะห์ ถนนนี้มีบาร์เยอะมาก สำหรับพวกเราไม่ค่อยโสภา เราต้องเป็นบอดี้การ์ดให้เพื่อนหนุ่มๆค่ะ มันยิ่งหล่อๆแมนๆโดนมองแล้วมองอีก (ส่วนอีกหนุ่มเขามีแฟนสาวสวยติดมาด้วยเลยไม่เป็นที่สนใจนัก แม้จะหล่อมาก) เดินไปเรื่อยๆก็จะเจอกับไนท์บาซาร์ ไม่ค่อยประทับใจเป็นการส่วนตัวเพราะมันไม่ใช่สเป็ค มีของขายแต่ก็รู้สึกเหมือนอยู่กทม.ชอบกล
- ทีเด็ดอยู่ที่โรตี โดยเป็นสองสาวมุสลิมขาย
- ตั้งใจว่าจะกินแมลงทอดแต่หาไม่เจอว่าอยู่ไหนเลยอด (กรีดร้อง)

- กลับโรงแรมโดยตุ๊กตุ๊ก

- ได้ข้อมูลว่า อาหารเหนือ ปกติจะไม่ค่อยขายทั่วไป จะกินต้องไปร้านเฉพาะ
- แต่ขนมจีนน้ำเงี้ยวที่โรงอาหารอาชีวะอร่อยมากและถูกด้วย

ค่าใช้จ่าย - มื้อเช้า 40 มื้อเที่ยง 37 บาท มื้อเย็น 100 นึง ค่ารถตุ๊กตุ๊ก 10 บาทต่อคน (หารจาก30 นั่งกันสามคน) ไม่รวมค่ารถแดงที่นั่งไปมาในเมือง เที่ยวละยี่สิบ ไปไกลพอใช้ได้เลย หลายเที่ยวอยู่นะ บางทีเจรจาให้ได้ต่ำกว่าซาวบาทก็ได้อยู่

วันที่สอง
- ไปวัดพระสิงห์อีกรอบด้วยการเดิน วัดเวลาได้ราวสิบห้านาที (เมื่อวานเราเดินไม่ถึงสิบนาที อาจจะเพราะคราวนี้ขนอุปกรณ์ถ่ายทำ)
- โบกสองแถวไปวัดพันอ้น วัดอยู่ใกล้ๆท่าแพ
- ข้ามไปเทศบาลฟ้าฮ่ามตอนบ่ายสองเพื่อไปดูการทำกระทงประกวด ที่ฟ้าฮ่ามจัดก่อนเทศบาลนครเชียงใหม่
- กลับมาที่เทศบาลนครเชียงใหม่ ตอนกลางคืนมีออกร้านพอสมควร บรรยากาศริมน้ำก็น่านั่ง จริงๆน่าจะสงบนะ
- สะบักสะบอมหลังถ่ายทดกลับมาที่โรงแรม คืนนี้ไปกินข้ามกันที่ประตูช้างเผือก โดยเดินออกไปทางเหนือ
- มองไปทางซ้ายมือของท่านจะพบกับแสงระยิบระยับ
- เพื่อนเริ่มร้องว่า Food Food Food (เสียงZombie มาก) ก็ใช่เลย เดินไปทางนั้นมีอาหารมากมายหลากหลายให้เลือก ส่วนมากก็พื้นๆค่ะ ผัดไท หมูสะเต๊ะ แต่ที่เด็ดก็ข้าวขาหมู ร้านคนเยอะๆ เจ๊ยุ่งๆ ร้านนี้แหละอร่อยมาก กินเสร็จหาของหวานล้างปาก แนะนำโรตี ร้านอยู่เกือบๆโลตัสExpress เพิ่งเคยเห็นการทอดโรตีที่โป่งโพดๆ อร่อยมาก
- หมดแรง เดินกลับโรงแรมไป อยากแวะกินอ๋องทิพยรสแต่อิ่มเกินไป อยากออกมากินแต่ก็ไม่กล้าเพราะไม่มีเพื่อนมากิน เพื่อนๆจะไปไนท์บาซาร์อีกหน ขอนอนเอาแรงก่อน

วันที่สาม วันอาทิตย์
- จัดเป็นวันว่างเกือบทั้งวัน โปรแกรมเช้าจึงอิสระใครจะไปไหนก็ไป ตอนแรกกะจะแยกไปเที่ยวดอยสุเทพและสวนสัตว์ แต่เพื่อนอีกสามมารั้งไว้ ไปด้วยเลยออกสายมาก สิบเอ็ดโมงแน่ะ
- ขึ้นดอยสุเทพ จากตัวเมืองก็ประมาณครึ่งชม.
- ลงดอยตอนเที่ยงกว่าๆ ไปถึงสวนสัตว์เชียงใหม่ตอนบ่ายโมงได้
- รอดูหลินปิงตอนบ่ายสาม ค่าเข้าดูหมีต้องบวก 50 เข้าไป ซื้อแพ็คเก็จแพนด้า จะอยู่ที่ 120 (คนไทยผู้ใหญ่) 20 บาทเป็นค่ารถโดยสารในสวนสัตว์
- ไม่แนะนำให้เดิน ห้าวไปค่ะ มันเป็นภูเขา! เพิ่งรู้นะเนี่ย ไม่เหมือนเขาดิน
- สัตว์ที่นี่เยอะ แต่จะดูให้ทั่วควรใช้รถส่วนตัว แผนแรกของเรานั้นกะว่าจะเช่าจักรยานมาขี่แต่เพื่อนๆท่าทางจะไม่อึด...ก็ไม่เป็นไร รถโดยสารก็ได้วะ
- แนะนำคันที่สาม ลีลาบรรยายสะใจ ฮาตลอดระยะ 7โลรอบสวนสัตว์
- แนะนำมุมทางอาหารตรงข้ามส่วนจัดแสดงอุรังอุตัง เขาสร้างยื่นไปบนผา มองเห็นเมืองเชียงใหม่สวยงาม ข้ามซอยอร่อย และราคาอาหารไม่แพงเลย

ค่ากิน80 (ข้าวซอย น้ำ แคปหมู และหมูทอด เยอะนะ) ค่ารถขึ้นดอยเหมาคนละ 200 (เรียกว่าแพงมาก แต่ก็เอา ถือว่ามากับเพื่อนฝรั่งอาจจะโดนฟันก็ได้ แต่ก็นะ ถือว่าช่วยๆกัน ทางขึ้นดอยสุเทพใช่ว่าจะเป็นทางตรงราบ + ประหยัดเวลาเที่ยวเพราะมันจำกัด) เหมาให้เขามาส่งที่สวนสัตว์ด้วย

- ค่ารถกลับเข้าเมือง 20 บาทเท่านั้น! นั่งมากับต่างชาติหลายๆคน บอกให้รถส่งตามจุดที่ต้องการได้

- ไปหนักจ่ายที่ค่าของที่ระลึกแพนด้า ไม่นับค่ะ

คืนนั้นทำงานหนักมากๆ กว่าจะเลิกก็สี่ทุ่มได้ เลิกแล้วเดินไปถนนคนเดินนิดหน่อย น่าเดินมากๆ อาการอยากเสียทรัพย์กำเริบ แต่เขาเริ่มเคลียร์แล้วเลยสอยได้แค่กระเป๋ามาสองใบ สร้อยเส้นหนึ่ง ของกินก็ซื้อเมี่ยง กับแกงโฮะมากิน จบคืนสุดท้ายที่เชียงใหม่อย่างเหงาๆเพราะเพื่อนไปเที่ยวกัน เราสัญญากับพ่อแม่ว่าจะไม่ไปผับบาร์ค่ะ แล้วมันก็ไม่ใช่แนวด้วย

- กลับด้วยแอร์เอเชีย มากินข้าวเช้าที่กทม.ตอนเที่ยงค่ะ!

เบ็ดเสร็จ ไม่รวมตั๋วก็ไม่ถึงสามพัน ใช้จ่ายค่อนข้างสูงเนื่องจากรวมการทำงานด้วยแต่เอาจริงๆเราเที่ยวได้ประหยัดนะ อาหารไม่กินแพงก็ได้ เลือกที่พักที่ดี เที่ยวง่ายก็เก็บได้เยอะค่ะ สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่ไปก็ไม่เสียเงิน จะหมดไปเยอะก็ที่ทำบุญค่ะ


เคล็ดเที่ยวเชียงใหม่

- แต่งกายเรียบร้อย ทะมัดทะแมงดีที่สุด ผู้หญิงไปวัดควรสวมกางเกงขายาว เสื้อตัวยาวเพื่อจะได้เรียบร้อย นุ่งสั้นๆ เสื้อรัดๆ มองแล้วดูแย่มาก นอกจากนี้ยังอาจถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าด้วย เช่น ที่พระธาตุดอยสุเทพ
- ถ้าไม่ได้กะถ่ายภาพจริงจัง ใช้คอมแพคก็สะดวกแล้ว DSLR/SLR อาจจะพะรุงพะรังเกินไปสักหน่อย
- ดูสัตว์โดยเฉพาะแพนด้าห้ามใช้แฟลช ถอดเก็บด้วยนะคะ ตอนดูแพนด้า พวกกล้องคอมแพคเขาจะเอาสติ๊กเกอร์สีดำมาแปะให้)
- เราเดินเป็นส่วนใหญ่ เมืองเชียงใหม่เดินไม่ยาก ประหยัดและทำให้ได้เห็นเมืองในหลายๆแง่ด้วยค่ะ ตั้งแต่กลับจากเชียงใหม่ก็หลงรักการเดินมากขึ้นกว่าเก่า

จะเป็นประโยชน์ให้ใครบ้างไหมนะกระทู้นี้

จากคุณ	: kurika
เขียนเมื่อ	: 22 พ.ย. 52 15:09:14