ความคิดเห็นที่ 1 ขอลงแผนที่ประกอบนะครับ ขอยืมมาจากครูวุฒิครับ ขอบคุณนะครับ จากคุณ : mordek1 เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 05:46:31

ความคิดเห็นที่ 2 เซกะตามก็คือ Katamtok ในแผนที่ครับ เมื่อวานเป็นวันศุกร์ที่13 คนโบราณสั่งว่าอย่าไปใหน แต่พวกเราก็เดินทางกัน ได้อย่างปกติสุข แต่วันนี้กลายเป็นวันโลกาวินาศสำหรับพวกเรา แต่ก็เป็น โลกาวินาศแบบมันส์ๆนะครับ เช้านี้เราไปกินอาหารเช้าที่เดิม มีข้าวต้มหมู ขนมปัง ไขดาว มาเสริฟ ที่เด็ด สุดคือมีกาแฟสดลาวหอมหวนมาด้วย เสร็จแล้วน้องพรก็เอามะละกอที่เหลือ จากเมื่อวานมาปอกให้พวกเรากินกัน กินข้าวเช้าเสร็จเราก็เริ่มออกเดินทาง ไปเซกะตาม ซึ่งอยู่แขวงอัตปือ เคยอ่านมาว่าเป็นน้ำตกที่สูงที่สุดของลาว ใต้ คุณนิดบอกว่าทัวร์ปกติจะไม่พามา เพราะวิบากมาก ทางเป็นทางลาดยาง หมด(คือไม่มียางเหลือให้ลาดแล้ว เป็นทางลูกรัง) เป็นหลุม เป็นบ่อ และร่อง ลึก คุณนิดบอกว่าเคยมาหน้าฝน ใช้รถโฟร์วีลก็ยังยาก แต่งวดนี้เห็นพวกเรา อยากมาก็เลยพามา ตลอดระยะทาง 60-70กม.ที่พวกเราเดินทาง มีรถโฟร์วีล สวนมาอยู่คันเดียว เป็นการเดินทางที่สงบมาก แต่ก็ต้องใช้เวลาเดินทางนาน เนื่องจากต้องค่อยๆหยอดหลุมไป จากคุณ : mordek1 เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 05:48:51

ความคิดเห็นที่ 3 ระหว่างเดินทาง มีทางแยกเลี้ยวซ้าย คุณนิดเคยมาก่อนหน้านี้ จำทางได้ก็ เลี้ยวซ้ายมา หลังจากเลี้ยวมาไม่นาน เห็นมีลำธารอยู่ข้างทางสวยดี จึงขอ แวะถ่ายรูป ระหว่างที่พวกเราถ่ายรูปกันอยู่นั้นคุณนิดก็ไปคุยกับชาวบ้านแถว นั้น ได้ความว่าทางที่เรากำลังจะไป มีช่วงหนึ่งถนนทรุด สะพานพัง ไปไม่ได้ พวกเราจึงต้องย้อนกลับแล้วไปอีกทาง คุณนิดชื่นชมสองช้างที่บอกให้จอด รถถ่ายรูป ไม่เช่นนั้นคงต้องเสียเวลากันมาก จากคุณ : mordek1 เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 05:50:49

ความคิดเห็นที่ 4 หลังจากที่นั่งโขยกเขยกชมวิวข้างทางไปเรื่อยๆ คงเหมือนชนบทเมืองไทย เมื่อสามสี่สิบปีก่อน จะต่างก็คือแทบทุกบ้านมีจานดาวเทียม น้องพรบอกว่า สวนใหญ่มาจากเมืองจีน ราคาไม่แพง ก่อนถึงเซกะตาม เราต้องผ่านสะพาน ข้ามลำห้วยที่ต่อไปจะไปตกเป็นเซกะตามให้เราเห็น เราลงมายืดเส้นยืดสาย กันสักพัก มีฝรั่งสองคนขี่รถจักรมาเที่ยวสวนทางกับเราบนสะพานด้วย เลย สะพานไปไม่ไกล เราก็ถึงทางเข้าน้ำตก ตรงทางเข้านี้ไม่มีสัญลักษณ์อะไร ให้เรารู้เลยว่าเป็นน้ำตก ถ้าใครไม่เคยมาก่อนจะต้องหาไม่เจอแน่ๆ จากคุณ : mordek1 เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 05:57:10

ความคิดเห็นที่ 5 เราเดินมาตามทางเดินไม่ไกลก็มาถึงตำแหน่งของหน้าผาที่ให้ดูน้ำตกที่อยู่ หน้าผาฝั่งตรงข้าม นอกจากเสียงของน้ำตกที่กระทบกับหินเบื้องล่างแล้ว ทุกอย่างเงียบสงัด ไม่มีผู้คนอยู่เลย เนื่องจากมาถึงก็ใกล้เที่ยงเลย ช้างน้อย บอกคุณนิดว่าเราขนขนมปังที่ซื้อมาไปนั่งกินรองท้องตรงบริเวณที่ชมน้ำตก กันดีกว่า คุณนิดก็เห็นด้วย เพราะว่าแถวนี้คงหาร้านอาหารไม่ได้ จากคุณ : mordek1 เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 05:58:01

ความคิดเห็นที่ 6 หลังจากชื่นชมกับความใหญ่โตและสวยงามของเซกะตามกันแล้ว พวกเราก็ งัดขนมปังมาทาแยมกินกันอย่างเอร็ดอร่อย ท่ามกลางบรรยากาศที่ไม่ค่อย เอื้อให้สุนทรีมากนัก เนื่องจากอับลม และมีตัวแมลงอะไรก็ไม่รู้มาตอมหน้า ตอมตาเราอยู่ตลอดเวลา ระหว่างนั้นมีหนุ่มสาวชาวฮอลแลนด์ขี่มอเตอร์ไซค์ ตามรอยพวกเราเข้ามา เราจึงชวนกินขนมปังด้วยกัน ทั้งสองฝรั่งก็ไม่รีรอ เข้า มาร่วมวงด้วย เห็นบอกว่ามาจากปากซองเหมือนกัน แล้วเดี๋ยวก็จะกลับปาก ซองอีกที จากคุณ : mordek1 เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 05:58:59

ความคิดเห็นที่ 7 ระหว่างที่กินขนมปังกันอยู่นั้น เห็นคุณนิดและน้องพรโทรศัพท์กันขวักไขว่ ได้ความว่ากำลังสอบถามเส้นทาง ด้วยเดิมพวกเราก็วางแผนกันว่ามาเซกะ ตามเสร็จแล้ว ก็จะกลับทางเก่าผ่านปากซองไปนอนที่ผาส้วม แต่คุณนิดเห็น ว่าทางที่มาสาหัสมาก ถ้าต้องกลับไปอีกห้าหกสิบกิโลก็คงเหนื่อยทั้งคนขับ และคนนั่ง หลังจากโทรหาข้อมูลแล้ว พบว่าถ้าเราเดินหน้าต่อไปอีกประมาณ ยี่สิบกิโลก็จะไปออกทางลาดยางไปแขวงเซกอง ซึ่งเราสามารถแวะเที่ยวได้ อีกสองน้ำตก จึงเปลียนแผนโดยไม่กลับทางเดิมแล้ว แต่แล่นตรงต่อมา พบ ว่าทางเป็นหลุมเป็นบ่อต่อมาอีกประมาณสองกิโล หลังจากนั้นเป็นลูกรังค่อน ข้างเรียบ จากคุณ : mordek1 เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 06:00:54

ความคิดเห็นที่ 8 พวกเรานั่งกันอย่างมีความสุขจนเหลืออีกเพียงสามสี่กิโลเท่านั้นก็จะออกถึง ทางลาดยาง เหตุการณืไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น คุณนิดเบรกรถเสียตัวโก่ง เนื่อง จากมีสะพานอยู่ข้างหน้า คอสะพานทรุดมาก รถไม่น่าจะผ่านไปได้ คุณนิด ลงมาจับยามสามตาแล้วขอยอมเสี่ยง ไม่ยอมขับรถกลับไปทางเดิม อาจจะ เป็นด้วยว่าไม่อยากให้พวกเราผิดหวังที่จะไปเซกองด้วย พวกเราทุกคนลง จากรถ เพื่อให้รถเบาขึ้น พยายามหาท่อนไม้มาปูสะพานแต่ก็หาไม่ค่อยได้ หลังจากยักแย่ยักยันอยู่นาน คุณนิดก็พารถผ่านมาได้สำเร็จ แต่ก็ต้องแลก มากับสเกิ๊ตหน้าแตกเป็นเสี่ยงๆ คุณช้างน้ำรู้สึกสงสารคุณนิดจับใจ แต่ไม่รู้จะ ทำอย่างไรได้แต่ให้กำลังใจคุณนิด มีบ่นเล็กน้อยว่าทำไมช้างน้อยถึงได้วาง แผนมาเที่ยววิบากกันอย่างนี้ จากคุณ : mordek1 เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 06:02:04

ความคิดเห็นที่ 9 เมื่อหลุดพ้นเส้นทางท้านรกนี้ขึ้นมาได้ เราก็บ่ายหน้ามาทางทิศตะวันตกตรง ไปเมืองเซกอง แต่ก่อนถึงเมืองเซกอง เราจะผ่านตาดหัวคนและตาดแฝกกัน ก่อน เราคุยกันว่าจะแวะลงเล่นน้ำที่ตาดหัวคนกัน ระหว่างเดินทางคุณนิดเล่า ว่าเนื่องจากตรงเชิงน้ำตกมีแอ่งลักษณะเหมือนหัวคน เขาจึงเรียกกันว่าตาด หัวคน แต่ของน้องพรเป็นคนละเวอร์ชั่น โดยเล่าว่าเมื่อก่อนมีสงครามสู้รบ กัน จะมีการตัดหัวศัตรูและทิ้งมาทางน้ำตก เลยโดนคุณนิดดุเอาว่าพวกเราจะ ไปเล่นน้ำกัน แล้วเล่าออกมาให้พวกเรากลัวทำไม จริงๆแล้วพวกเราไม่ได้ กลัวกันหรอก แต่ก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้ไม่ได้เล่นน้ำจนได้ จากคุณ : mordek1 เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 06:03:20

ความคิดเห็นที่ 10 พอถึงทางเข้าน้ำตก มีป้ายเขียนบอกว่า ไปน้ำตก 300เมตร ด้วยความหวังดี คุณนิดจึงสอบถามชาวบ้านแถบนั้น ทราบมาว่ามีอีกทางหนึ่งที่รถเข้าถึง เรา จึงวกรถกลับ แต่ทางที่ว่าก็แคบมากๆ ไปได้สักพัก พวกเราซึ่งเข็ดขยาดกับ ทางนรกเมื่อครู่อยู่ก็ลงมติว่ากลับไปที่เก่า แล้วเดินไปก็ได้ แต่น้องพรมีไอ เดียดีกว่านั้นว่าเดี๋ยวเราไปเช่ารถจักรจากชาวบ้านแถวนั้นเข้าไปก็ได้ ด้วย เชื่อมือคุณช้างน้ำจากวันแรกว่าน่าจะพาช้างน้อยไปด้วยได้ พอมาถึงปากทาง เข้า น้องพรก็ไปเจรจากับชาวบ้านได้รถจักรมาสองคัน ช้างน้ำกับช้างน้อย หนึ่งคัน คุณนิดกับน้องพรอีกหนึ่งคัน คันที่สองช้างได้มาเป็นรถจักรโหลด เตี้ย ซึ่งช้างน้อยก็เพิ่งเคยได้ยินและก็ไม่เข้าใจว่าไปโหลดเตี้ยทำไม แต่ผลก็ คือนั่งกระเด็นกระดอนได้ดีมาก  ทางเป็นทางลงเขามีหินก้อนใหญ่ๆอยู่บน ถนนเป็นระยะๆ วิ่งมาได้สักพัก ช้างน้อยเห็นกองหินอยู่ข้างหน้าจึงบอกช้าง น้ำไปว่าให้เบรก แต่ผลปรากฏว่ารถวิ่งเร็วขึ้น พร้อมกับคุณช้างน้ำตะโกนออก มาด้วยความตกใจว่ารถไม่มีเบรก ช้างน้อยคิดอยู่ในใจว่ารถบ้าอะไรไม่มี เบรก พร้อมๆกับที่คุณนิดกับน้องพรซึ่งขี่อีกคันตามหลังมาตะโกนเสียงลั่น เลยว่า “เบรก เบรก” แต่แทนที่รถจะช้าลงกับเร็วขึ้น เข้าใจว่าอารามตกใจคุณ ช้างน้ำคงเร่งคันเร่งแทน เราผ่านพ้นกองหินกองแรกไปได้โดยไม่ล้ม แต่มี กองที่สองอยู่ข้างหน้าซึ่งคุณช้างน้ำถลาเข้าใส่อย่างน่าตระหนก “โครม” คราวนี้รถจักรพุ่งเข้าชนกองหินอย่างแรงแล้วทุกอย่างก็หยุดอยู่กับ ที่ ยกเว้นช้างสองเชือกที่กระเด็นกระดอนตามแรงเหวี่ยง โชคดีที่ไม่มีใครได้ รับบาดเจ็บ ช้างน้อยมีนิ้วมือซ้นเล็กน้อยไม่รู้ไปกระแทกอะไร แต่กระจังหน้า รถหลุดออกมา จากคุณ : mordek1 เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 06:05:37

ความคิดเห็นที่ 11 หลังจากที่คุณนิดและน้องพรหยุดหัวเราะด้วยความขบขันไปแล้วก็มาช่วย ซ่อมรถให้ ปล่อยให้สองช้างชื่นชมน้ำตกอยู่บริเวณนั้น ซึ่งเป็นปลายด้านหนึ่ง ของน้ำตก น้ำตกนี้เป็นน้ำตกที่ยาวมาก เข้าใจว่า 300 เมตร คงจะเป็นอีก ปลายหนึ่งของน้ำตก จากคุณ : mordek1 เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 06:06:38

ความคิดเห็นที่ 12 แต่พวกเราก็ไม่มีใครคิดจะไปชื่นชมอีกปลายหนึ่งของน้ำตกกันอีกแล้ว  และ ก็ไม่มีอารมณ์จะลงเล่นน้ำกันด้วย สรุปว่าไม่ได้เล่นน้ำ แต่ไม่ใช่เป็นเพราะ เรื่องที่น้องพรเล่าให้ฟัง หลังจากนั่งพักผ่อน ชื่นชมกับความสวยงามของ น้ำตกกันพอแล้ว เราก็เดินทางต่อไปยังน้ำตกตาดแฝกที่อยู่เลยมาอีกเล็ก น้อย จากคุณ : mordek1 เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 06:08:08

ความคิดเห็นที่ 13 ตาดหัวคน จากคุณ : mordek1 เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 06:08:38

ความคิดเห็นที่ 14 ตาดแฝกเป็นน้ำตกที่มีคนมาเที่ยวและเล่นน้ำกันมากที่สุดในจำนวนสิบเอ็ด น้ำตกที่เราได้แวะชม(เปรียบเทียบในเวลาที่เราไปนะครับ) น้องพรพาช้างทั้ง สองลงไปที่น้ำตก เข้าใจว่าที่คนมากันมากเนื่องจากมีร่มเงาให้ได้นั่งพัก แต่ ทั้งหมดเป็นคนลาวแถวนั้น มีทั้งผู้ใหญ่และเด็ก สองช้างก็เลยลงเล่นน้ำกัน บ้าง ว่ายทวนน้ำปที่ตรงน้ำตกลงมา มีเด็กลาวอยู่กลุ่มหนึ่งมากับพี่ชาย ตัวพี่ หันมาถามเราว่า “เหนื่อยไหม” ช้างน้อยตอบไป “ไม่เหนื่อยหรอกครับ ว่าย แค่นี้เอง” คุยกันได้ความว่าเรียนจบแล้วทำงานเป็นครูสอนภาษาลาวให้เด็กที่ โรงเรียน ช้างน้อยเลยแกล้งแซวไปว่าทำไมต้องสอนภาษาลาวให้คนลาว ด้วยหล่ะ จากคุณ : mordek1 เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 06:10:10

ความคิดเห็นที่ 15 เราเล่นน้ำตกที่นี่กันเพลิน จนลืมถ่ายรูปไปเลย มีถ่ายตอนที่แวะเข้าไปที่ ศาลาซึ่งอยู่เหนือน้ำตก พอเล่นน้ำเสร็จก็ขึ้นรถกลับกันเลย อาจจะเป็นเพราะ หิวข้าวกันด้วย เพราะขณะนั้นก็ตกบ่ายสองแล้ว เปลี่ยนเสื้อผ้ากันเสร็จ คุณนิดก็ขับรถพาพวกเราออกมา ยังไม่ทันพ้นทาง ลูกรังเลย “แควก ฟุ้บ” อะไรหว่า คุณนิดสังเกตุได้ถึงความผิดปกติก่อนใคร เพื่อน เนื่องจากเป็นคนขับ “สงสัยรถจะยางแตก”คุณนิดหันมาบอกพวกเรา พร้อมกับเบนรถจอดข้างทาง พวกเราพร้อมใจกันลงมาดุ เห็นยางหน้าซ้าย แบนแต๊ดแต๋เลย พร้อมกับมีแผลฉกรรจ์อยู่ แล้วอย่างนี้จะไม่ให้เรียกวัน โลกาวินาศได้อย่างไร หลังจากที่คุณนิดเปลี่ยนยางจนเหงื่อตกแล้วตกอีก ใน ที่สุดเราก็ได้เดินทางต่ออีกครั้ง ตอนแรกเรากะว่าจะแวะกินเฝอกันที่เซกอง แต่พวกเราก็ข้องใจกันว่าบ่ายสามแล้วจะยังมีเฝอให้กินอีกหรือไม่ แตคุณนิด เป็นคนตัดสินใจเอง พาพวกเราผ่านเซกองโดยไม่ถามความเห็น เลยมาเมือง ท่าแตงที่อยู่เลยมาอีกประมาณสี่สิบกิโล ด้วยที่คุณนิดคุ้นเคยกับแถวนี้เพราะ เคยทำงานกับบริษัทญี่ปุ่นมาก่อนที่ท่าแตง เมื่อถึงท่าแตงก็พาเราแวะร้าน หนึ่งข้างทางซึ่งเป็นเกสต์เฮาส์ด้วย คุณนิดลงไปทักทายกับคนในร้านอย่าง คุ้นเคย เราสั่งเฝอเนื้อคนละชาม และเนื้อย่างเกาหลีหนึ่งกระทะ เนื้อไม่นุ่มเหมือน เฝอที่ปากเซ แต่ก็พอกินได้ จากนั้นเราก็กลับมาผ่านเมืองปากซองแล้วเลย ไปน้ำตกผาส้วมโดยไม่ได้แวะที่ไหนอีก แอบถ่ายรูปเด็กน้อยลาว จากคุณ : mordek1 เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 06:12:13

ความคิดเห็นที่ 16 ร้านเฝอที่เราแวะกิน เป็นเกสต์เฮาส์ด้วย จากคุณ : mordek1 เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 06:14:59

ความคิดเห็นที่ 17 มาถึงผาส้วมก็มืดแล้ว จริงๆแล้วเพิ่งจะหกโมงเย็น แต่รู้สึกว่าที่ลาวจะมืดเร็ว ตรงทางเข้าน้ำตกเจอรถทัวร์สองคันจอดอยู่ มีคนลงมาถ่ายรูปกันมากมาย คุณนิดบอกว่าคืนนี้พวกเราคงจะไม่เหงาแล้ว คงมีคนมาพักกันเยอะ แล้วแอบ ถามได้ความมาว่าเป็นนักศึกษาราชพัชมาจากสุรินทร์ มาทัศนศึกษา คุณช้าง น้ำเกิดวิตกจริตกลัวว่าถ้าไปกินข้าวหลังกลุ่มนี้จะเสียเวลา จึงรบเร้าให้เราแวะ ไปกินข้าวกันก่อน ทั้งๆที่ช้างน้อยยังไม่หิวเลยเนื่องจากเพิ่งจะกินเฝอมา หยกๆ แต่ก็ไม่อยากขัดใจคุณช้างน้ำ เอ้า จะกินก็กิน เราได้รับการต้อนรับ จากเจ้าของรีสอร์ทซึ่งเป็นคนไทยดีมาก อาหารก็อร่อยใช้ได้ คุณพี่บอกว่า อาหารที่นี่ไม่ใส่ผงชูรส หลังจากเราสั่งอาหารกันแล้ว ความคึกคักก็มาเยือน เมื่อกลุ่มนักศึกษามาถึงและนั่งกันเต็มเรือนอาหาร  วันนี้เราไม่ลืมแวะซื้อผล ไม้มาเช่นเคย มีมะละกอและสัปปะรด หลังจากทานอาหารแล้ว น้องพรก็เอา ผลไม้มาเสิรฟให้เช่นเคย จากคุณ : mordek1 เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 06:16:14

ความคิดเห็นที่ 18 เสร็จจากอาหาร เราก็ไปห้องพักกัน ช้างน้ำจองบ้านหลังที่แปดไว้ ทราบว่า บรรยากาศดีที่สุดอยู่ข้างๆลำธารซึ่งจะไหลไปเป็นน้ำตก และมีเครื่องทำน้ำ ร้อนในห้องน้ำ ห้องพักที่นี่ไม่มีแอร์ มีแต่พัดลม คืนที่พวกเราพักก็ไม่ร้อน เท่าไรนัก ตื่นขึ้นมาตอนเช้าอากาศเย็นเลยแหล่ะ จากคุณ : mordek1 เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 06:17:00

ความคิดเห็นที่ 19 แล้วก็จบวันที่สามไปอีกวันนะครับ ครั้งหน้าขอต่อตอนสุดท้ายนะครับ เราจะไปตาดเลาะและตาดฮังกันครับ จากคุณ : mordek1 เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 06:18:01

ความคิดเห็นที่ 20   สงสัยว่า ครูสอนภาษาลาวให้เด็ก(ชนเผ่า)ลาวเทิง มากกว่าสอนให้เด็กลาวลุ่มนะครับ จากคุณ : In Trend เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 07:22:05 A:96.255.191.3 X: TicketID:141679

ความคิดเห็นที่ 21 ตามมาชมต่อครับ น้ำตกสวยจัง จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 08:39:07

ความคิดเห็นที่ 22 อ่านตอนที่ 1 ของคุณช้าง ขำดีนะค่ะ คุณนิดก็ใจดี น่ารักดีค่ะ รอชมต่อนะค่ะ จากคุณ : WINDAJUNG เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 08:52:18

ความคิดเห็นที่ 23 น้ำตกสวยจัง ยังคงความเป็นธรรมชาติมากๆ เลยค่ะ จากคุณ : atom (atom magazine) เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 11:47:46

ความคิดเห็นที่ 24 ไม่รู้ว่าเป็นจุดชมวิวอันเดียวกันหรือเปล่านะครับ ผมไปเมื่อ 4 ปีก่อน มองเกือบไม่เห็นด้านล่างของน้ำตก แต่ดูจากภาพก็ดีใจอย่างนึงว่า ด้านบนของน้ำตกต้นไม้มีมากขึ้น จากคุณ : basten เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 19:43:05

ความคิดเห็นที่ 25 เป็นทริปที่เดินทางลำบากดีเหมือนกันนะครับ ขอบคุณที่พาไปดูน้ำตกใหม่ๆ ของลาวใต้ที่ไม่ค่อยมีคนมารีวิวให้ดูกันนะครับ จากคุณ : NET-MANIA เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 22:06:57

ความคิดเห็นที่ 26   ลาวใต้ ดินแดนแห่งป่าเขา บนที่ราบสูงโบโลเวน .... ตาดเสือ ตาดขมึด ตาดตาเก็ด ตาดน้อยห้วยหินแดง ทริปเดินป่าดิบแดนลาว กลางดงหัวสาว ดินแดนแห่งน้ำตกยักษ์ กลางหุบลึกในถิ่นที่ราบสูงบอละเวน พักในหมู่บ้านหนึ่งคืน นอนในป่า สองคืน ทริปสบายๆ สไตล์ชาวแคมป์ ในป่าลาวตอนใต้ จากคุณ : Information เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 52 07:32:27 A:96.255.191.3 X: TicketID:141679

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณ คุณ : In Trend   คุณ : ม่วงมหากาฬ   คุณ : WINDAJUNG คุณ : atom (atom magazine)   คุณ : basten   คงเป็นน้ำตกเดียวกันหล่ะครับ คุณ : NET-MANIA   ที่ติดตามชมนะครับ จากคุณ : mordek1 เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 52 09:34:09

ความคิดเห็นที่ 28 ติดตามตอนสุดท้ายได้ที่ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8586469/E8586469.html จากคุณ : mordek1 เขียนเมื่อ : 25 พ.ย. 52 06:46:07