ความคิดเห็นที่ 1 มหาลัยที่มีใบแปะก๊วยเป็นสัญลักษณ์ ก็แน่นอนว่าย่อมต้องขึ้นชื่อมากๆในเรื่องบรรกาศต้นแปะก๊วย(ต้นอิโจ)ในฤดูใบไม้ร่วงค่ะ  ได้ยินว่าเป็นฉากถ่ายหนังอยู่บ่อยๆด้วย(แต่ จขกท ไม่ยักเคยเห็นกองถ่ายกับตาสักที) ทุกแคมปัสของมหาลัยโดยเฉพาะตรงประตูใหญ่จะต้องมีทางเดินที่เป็นซุ้มต้นแปะก๊วย มีต้นแปะก๊วยเรียงรายอยู่สองข้างทางค่ะ พอถึงฤดูใบไม้ร่วงทีใบแปะก๊วยที่โดนอากาศเย็นๆเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีเหลืองทอง ก็จะร่วงหล่นลงมาปูเป็นพรมสีทองเต็มทางเดินมหาลัยเลย โตไดจะสวยที่สุดก็ในช่วงเวลานั้นล่ะค่ะ   แต่สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นค่ะ จะสวยจริงหรือสวยเก๊แค่ไหนต้องรอดูต่อไปนะคะ ^_^ จากคุณ : White Amulet เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 52 12:43:52

ความคิดเห็นที่ 2 บรรยากาศภาพแรก ขอใช้ช็อตนี้ที่เค้าใช้โปรโมทมหาลัยกันนะคะ ต้องให้เห็นหอนาฬิกาแว้บๆ และเห็นต้นแปะก๊วยสีเหลืองทองรายล้อมด้วยอย่างนี้ล่ะค่ะ จากคุณ : White Amulet เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 52 12:46:25

ความคิดเห็นที่ 3 ถอยออกมาห่างจากหอนาฬิกาอีกนิด จะเห็นบรรยากาศใบไม้ร่วงของโตไดชัดเจนอย่างนี้เลยค่ะ วันศุกร์ที่ผ่านมาคิดว่าน่าจะเป็นช่วงอาทิตย์ที่สวยพีคที่สุดแล้ว อาทิตย์ถัดไปใบที่ร่วงก็คงโดนเก็บกวาดทิ้ง ต้นแปะก๊วยก็คงเริ่มเห็นเป็นกิ่งโกร๋นๆรับหน้าหนาวแทนแล้วล่ะค่ะ จากคุณ : White Amulet เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 52 12:47:47

ความคิดเห็นที่ 4 ตอนอากาศหนาวๆเย็นๆอย่างนี้ ส่วนตัว จขกท จะชอบมากที่ได้มาเดินรับแดดอุ่นๆตอนเที่ยง(ถ้าวันไหนมีแดด)และดูบรรยากาศต้นแปะก๊วย พร้อมทั้งดูผู้คนที่แวะมาเที่ยวมหาลัยกันในช่วงนี้เพื่อเก็บภาพ(รูปถ่าย)บ้าง สเก๊ตภาพบ้าง หรือ พาครอบครัวมาเดินเล่นบ้าง   มีลมพัดมาทีใบต้นแปะก๊วยก็จะโปรยลงมาเหมือนฝนสีทองเลยล่ะค่ะ (ใบตกจากต้นยังสะอาดนะคะ)  ที่โตไดนั้นต้นแปะก๊วยจะต้นใหญ่พอควร ปริมาณใบที่ร่วงลงมาก็พลอยเยอะไปด้วยค่ะ เยอะแค่ไหนนั้นก็ขนาดที่ว่ามันคลุมเท้าเราได้มิดเลยล่ะค่ะ จากคุณ : White Amulet เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 52 12:49:18

ความคิดเห็นที่ 5 ภาพนี้จากด้านหน้า Seimon นะคะ ใบไม้กำลังร่วงอยู่เลย(แต่เห็นในภาพไม่ค่อยชัด) ตรงจุดนี้ก็เป็นอีกจุดที่คนยืนส่องกล้องกันเพียบค่ะ  ถนนตรงหน้าหอนาฬิกานี้เป็นจุดยอดฮิตในฤดูต้นแปะก๊วยนี้เลย   จขกท เองเห็นมาเป็นหนที่สี่แล้ว จะว่าชินก็ชิน แต่พอมาถึงช่วงบรรยากาศจริงทีไรก็ยังอดรู้สึกว่ามันสวยมากๆไม่ได้ซักทีเลยค่ะ คนในมหาลัยเองพอช่วงนี้วนมา เดินผ่านก็เป็นต้องหยิบกล้องที่มีติดตัวเก็บภาพที่ระลึกไม่ได้สักที ทั้งๆที่มันก็เหมือนๆกันทุกปี สำหรับ จขกท แล้วมันเหมือนเป็นความรู้สึกที่ว่าเราอยู่ที่มหาลัยนี้มาอีกปีนึงแล้วสินะ จากคุณ : White Amulet เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 52 12:53:23

ความคิดเห็นที่ 6 พันทิปแฮงค์นึกว่าจะโพสไม่รอดซะแล้วค่ะ รีบต่อก่อนนะคะ ----------------------------------- ต้นแปะก๊วยนั้นจะมีเยอะมากในแถบใกล้ๆประตูใหญ่ แต่แยกต่างๆที่แยกไปจากทางเดินหน้าหอนาฬิกาก็มีต้นแปะก๊วยเยอะไม่แพ้กันนะคะ สวยเหมือนกันด้วยค่ะ แต่ตรงตามแยกจะเหลืองเร็วกว่าเพราะโดนแดดน้อยกว่า(โดนตึกบัง) ตรงทางเดินหน้าประตูใหญ่จะเป็นจุดที่เหลืองเต็มที่ช้าที่สุดเลยล่ะค่ะ แต่ถ้าตรงนั้นเหลืองเมื่อไหร่(สำหรับ จขกท)ก็ถือว่าเข้าช่วงพีคของมหาลัยทันทีเลย ปล ตรงแยกๆจะเหลืองเต็มที่ไปตั้งแต่สองอาทิตย์ก่อนแล้วค่ะ ที่ประตูใหญ่เพิ่งจะเต็มที่เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมานี่เอง อาจจะยาวไปถึงอาทิตย์หน้าอีกหน่อย จากคุณ : White Amulet เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 52 12:58:54

ความคิดเห็นที่ 7 สวยจังค่ะ อยากไปญี่ปุ่นให้ได้สักครั้งในชีวิต.... จากคุณ : ขนมต้มญวณไส้ถั่ว เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 52 12:59:40

ความคิดเห็นที่ 8 ไหนๆพาทัวร์มหาลัยแล้ว ขออนุญาตเปลี่ยนไปดูบรรยากาศที่อื่นๆในมหาลัยบ้างนะคะ พาหนะหลักของเด็กมหาลัยนี้ คือ จักรยาน ค่ะ (บางคนตังค์เยอะหน่อยก็มอเตอร์ไซต์ นอกนั้นคือ เดิน กับ รถไฟ) ช่วงใบไม้ร่วงนี้ก็จะพลอยได้ของฝากกลับบ้านเป็นใบไม้ร่วง(ที่ยังไม่โดน เหยียบเละ)ในตะกร้าด้านหน้าไปด้วย อ้อ แคมปัสนี้ห้ามสูบบุหรี่นะคะ กฏนี้เพิ่งออกได้ไม่ถึงสองปีดีเลย ก่อนนี้ก็เดินมาสูบกันที่ระเบียงได้เลยแต่ตอนนี้มีกฏออกมาแล้วเค้าก็ทำตามกันดีค่ะ ต้องเดินไปจุดที่กำหนดเท่านั้นถึงจะสูบได้ซึ่งก็มักจะอยู่นอกตัวตึกไปเลยค่ะ สบายจมูก(และปอด)เราขึ้นเยอะเลยล่ะค่ะ จากคุณ : White Amulet เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 52 13:00:22

ความคิดเห็นที่ 9 ขอปาดครับ สวยสุดยอด จากคุณ : txaxt เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 52 13:00:31

ความคิดเห็นที่ 10 นอกจากกล้องถ่ายรูปและกล้องวีดีโอทุกแบบที่เห็นได้ในมหาลัยช่วงนี้  กิจกรรมอีกอย่างที่เห็นกันบ่อยๆ(จริงๆคือ จะเห็นมากตอนช่วงก่อนจะเหลืองนะคะ ตอนนี้ออกจะช้าไปหน่อย) คือ เหล่าแม่บ้านที่มาเดินวนๆในมหาลัยพร้อมถุงที่จะเอามาใส่ลูกแปะก๊วยกลับไปทำอาหารค่ะ (ถ้าที่ไทยลูกแปะก๊วยก็เป็นของหวานในโต๊ะจีนเลย) ก่อนหน้าที่มหาลัยจะสวยเต็มที่อย่างตอนนี้ก็ต้องผ่านช่วงที่เหม็นไม่เบามาเหมือนกันค่ะ เพราะก่อนต้นแปะก๊วยจะเหลืองจะมีช่วงที่ลูกแปะก๊วยหล่นมาเต็มทางเดินไปหมด แล้วคนเดินผ่านไปมา ไหนจะรถอีกล่ะ ลูกแปะก๊วยก็เลยถูกทับเละ ก๊อปปี้ติดพื้น ส่งกลิ่นเปรี้ยวๆออกมากระทบจมูกเวลาเดินผ่านค่ะ จขกท มามหาลัยปีแรกยังนึกว่าเป็นขี้นกอยู่เลยก็แปลกใจว่าทำไมมหาลัยปล่อยให้สกปรกและเหม็นอย่างนี้นะ ผิดมาตรฐานโตเกียวจริงๆ  แต่ความจริงคือเค้าทำความสะอาดมหาลัยกันซะเรี่ยมทุกเช้าค่ะ  แต่เจ้าลูกแปะก๊วยเล่นหล่นกันทั้งวันเลย จากคุณ : White Amulet เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 52 13:02:38

ความคิดเห็นที่ 11 สำหรับแคมปัสนี้ จขกท ว่าต้นนี้ล่ะค่ะที่เป็นต้นแปะก๊วยที่ใหญ่ที่สุด แผ่กิ่งก้านสาขากว้างมาก บรรยากาศดีร่มรื่นจริงๆค่ะ คุณพ่อคุณแม่คนญี่ปุ่นชอบพาลูกตัวเล็กๆมาเล่นกันแถวนี้ประจำเลย เหมือนกับเป็นสวนสาธารณะกลางเมืองยังไงยังงั้นเลยล่ะค่ะ จริงๆไม่เฉพาะแต่ฤดูนี้แต่เป็นทุกฤดูเลยค่ะ นอกจากทัวร์จะลงบ่อยๆ ก็ยังเห็นคนจูงน้องหมามาเดินเล่นตอนเช้าๆบ้างล่ะ คุณครูพาเด็กๆอนุบาลเดินจับเชือกเรียงแถวมาเดินเล่นบ้างล่ะ  ครอบครัวมาปิคนิคกันบ้างล่ะ เหมือนสวนสาธารณะจริงๆค่ะมหาลัยนี้ ที่ใต้ต้นใหญ่นี้ก็เหมือนสนามที่ปูพรมสีทอง ซึ่งค่อนข้างสะอาดเลยทีเดียวนะคะเพราะคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยเดินเข้ามาเหยียบในนี้กัน ใบไม้เลยยังใหม่ๆเดินเข้ามานั่งมาเล่นได้ตามสบาย ไม่ต้องกลัวจะเหยียบขี้หมาหรืออะไรเลยนะคะ (ว่าแล้วก็นึกถึงโนบิตะ เค้าคงโชคร้ายจริงๆนั่นล่ะค่ะถึงอุตส่าห์หาขี้หมาเจอและไปเหยียบมันได้ประจำๆอย่างนั้น จขกท อยู่นี่มายังไม่เคยเห็นขี้หมาอยู่เกะกะตรงไหนในโตเกียวเลย ทั้งๆที่เลี้ยงน้องหมากันเกลื่อนเมืองค่ะ) จากคุณ : White Amulet เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 52 13:05:38

ความคิดเห็นที่ 12 เท่าที่สังเกตมาเด็กๆจะชอบเล่นใบแปะก๊วยกันมากเลยล่ะค่ะ กี่คนกี่คนก็จะเดินไปวิ่งเล่นตรงที่ใบแปะก๊วยเยอะๆ แล้วก็โกยใบเล่นบ้าง โยนใบเล่นบ้าง น่ารักมากๆเลยค่ะ  ตอนหน้าซากุระไม่ยักเห็นเด็กๆเล่นอย่างนี้เลย(เห็นที่อื่นนะคะเพราะโตไดซากรุระมีไม่เยอะขนาดนี้) เดาว่าใบแปะก๊วยมันเยอะกว่าแล้วก็ทนไม้ทนมือมากกว่าดอกซากุระมั้งคะเนี่ย อย่างคนในภาพนี้ เห็นวิ่งไปวิ่งมาอยู่นานสงสัยจะเริ่มเหนื่อย เลยนั่งจุ้มปุ๊กพักมันกลางดงใบไม้อย่างนี้เลยค่ะ ^_^ ปล. จริงๆในญี่ปุ่นจะเข้มเรื่องการถ่ายรูปนะคะ รูปนี้ จขกท ถ่ายจากไกลๆแล้วมาคร๊อปภาพเอาค่ะ ไปถ่ายใกล้ๆไม่ได้คุณพ่อคุณแม่เค้าจะว่าเอาแน่ๆ จากคุณ : White Amulet เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 52 13:07:27

ความคิดเห็นที่ 13 เด็กๆก็น่ารักอยู่แล้ว แต่ส่วนตัว จขกท ชอบมากกว่าที่จะเห็นเป็นครอบครัวพ่อแม่ลูกอย่างนี้ค่ะ  ผู้ชายคนญี่ปุ่นปกติทำงานหนักกันแค่ไหนก็เป็นที่เลื่องลืออยู่แล้ว แต่เท่าที่ฟังๆจากพี่ๆแม่บ้านที่อยู่ญี่ปุ่นมา(จากห้องไกลบ้าน กลุ่มย่อย @Japan) ถึงคุณพ่อจะทำงานหนักแต่ก็ไม่ได้ทิ้งขว้างลูกเลย มีเวลาว่างก็เล่นกับลูกๆใกล้ชิดกันดีอยู่นะคะ อย่างภาพนี้เราเห็นคุณพ่อ(คิดว่าน่าจะใช่นะคะ)มาโยนใบไม้เล่นกับลูกตัวเล็กๆอย่างนี้แล้ว มองเพลินเลยค่ะ ดูสนุกและน่ารักน่าเอ็นดูมากๆเลยครอบครัวนี้ (ตากล้องรอบๆพากันแอบเก็บภาพกันใหญ่เลยค่ะ) จากคุณ : White Amulet เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 52 13:08:44

ความคิดเห็นที่ 14 โอ... คิดถึงโตได กับใบกิงโกะ (เรียกอย่างนี้หรือเปล่าคะ) เหมือนกันค่ะ นานมากเลยนะเนี่ย.. ขอบคุณภาพที่สวยมากค่ะ ความทรงจำเริ่มทำงานอย่างช้าๆ ..... จากคุณ : cultureclub เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 52 13:08:53

ความคิดเห็นที่ 15 แต่จริงๆส่วนใหญ่ที่เห็นมักเป็นเหล่าคุณแม่(และก็อาจคุณยายหรือคุณปู่ด้วย)ที่เข็นรถเข็นหรือ อุ้มลูกมาเล่นกันมากกว่า คาดว่าคุณพ่อคงต้องไปทำงานน่ะค่ะเลยมาแจมวันธรรมดาอย่างนี้ไม่ได้ (แต่น้องที่มหาลัยบอกว่าวันเสาร์อาทิตย์ที่มหาลัยนี่คนมาเที่ยวกันเป็นครอบครัวๆเพียบเลยค่ะ) เด็กๆก็วิ่งเล่นใบไม้ไป คุณแม่ก็คอยส่องกล้องเก็บช็อตน่ารักๆของลูกๆไป จะว่าไปที่ญี่ปุ่นนี่คุณแม่ยังสาวกันทั้งนั้นเลยนะคะเนี่ย คนอยู่ไกลบ้านอย่างเราเห็นภาพครอบครัวอบอุ่นอย่างนี้ทีไรก็มองเพลินทุกทีเลยค่ะ คนญี่ปุ่นมีค่านิยมที่พ่อแม่จะเลี้ยงลูกกันเอง คุณแม่กับคุณลูกก็เลยจะสนิทใกล้ชิดกันอย่างนี้ล่ะค่ะ จะว่าไปมันก็ดีอยู่หรอกนะคะเพราะเด็กๆน่าจะได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากพ่อแม่เพื่อจะโตประชากรที่มีคุณภาพ  แต่เพราะอย่างนี้มันก็พลอยทำให้ผู้หญิงที่แต่งงานแล้วต้องกลายมาเป็นแม่บ้าน(ไประยะนึงอย่างน้อยจนกว่าลูกจะโต)ไปโดยปริยายเลยเหมือนกันนี่สิคะ เป็นเราคงคิดหนักอยู่เพราะเป็นคนชอบทำงาน(นอกบ้าน) ที่มหาลัยผู้หญิงญี่ปุ่นที่เรียนต่อทางสายวิทย์จะน้อยมากๆ ยิ่งที่เรียนต่อถึงระดับโทและเอกเลยยิ่งน้อยเข้าไปใหญ่ ส่วนใหญ่ที่เห็นๆเป็นผู้หญิงเรียนปริญญาสูงๆมักเป็นผู้หญิงจากประเทศอื่นๆมากกว่าค่ะ  ก็อย่างว่านะคะเรียนสูงแค่ไหนแต่ถ้าแต่งงานก็ต้องเลี้ยงลูกก่อนอยู่ดี มันเหมือนเป็นความรับผิดชอบที่มาก่อน และจำเป็นต้องทำที่ญี่ปุ่นเลยน่ะค่ะ จากคุณ : White Amulet เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 52 13:10:57

ความคิดเห็นที่ 16 ถ่ายรูปเหนื่อยแล้วก็แวะเติมพลังกันหน่อยค่ะ กองทัพเดินด้วยท้อง  ที่แคมปัสนี้โรงอาหารหลักๆจะมีสามแห่งค่ะ โรงอาหารกลาง (中央 Chu-o) ที่อยู่ตรงใต้หอนาฬิกาพอดี , โรงอาหาร Metro (メトロ) ที่อยู่ชั้นใต้ดินของตึกทางด้านขวาถ้าหันหน้าเข้าหาหอนาฬิกา และ โรงอาหาร Dai-ni (第二) ที่จะอยู่ค่อนไปทางด้านหลังของมหาลัยค่ะ ที่ใหญ่ที่สุดก็คือ โรงอาหารกลางล่ะค่ะ แต่ จขกท กับเพื่อนๆน้องๆคนไทยกลับชอบโรงอาหารเมโทรมากกว่า รู้สึกอาหารมันหลากหลายกว่าโรงอาหารกลางน่ะค่ะ   ปกติ จขกท ไม่ได้ชอบเมนูอะไรเป็นพิเศษแต่ตอนนี้ติดใจเมนูนี้อยู่ค่ะ เป็นเทมปุระมะเขือม่วงกับฟักทอง จานหลักเป็นหมู พูดไม่ถูกว่าทำอะไร คล้ายๆผัดกับเกลือแต่มีกลิ่นหอมอ่อนๆอยู่ค่ะ อร่อยมาก(สำหรับ จขกท ที่ไม่ได้ชอบทานอาหารญี่ปุ่นเป็นพิเศษ) ทั้งเซ็ตที่เห็นนี้แค่ 480 yen เท่านั้นค่ะ (สั่งไซส์ S เลยข้าวน้อยหน่อย) กล้วยเป็นของว่างที่รวมมาให้หยิบในเซ็ตอยู่แล้ว ปล แคมปัสนี้อยู่ใจกลางเมือง รอบๆแคมปัสมีร้านอาหารเยอะแยะเลยค่ะ ระยะเดินไปนิดเดียวก็ถึง ส่วนใหญ่ราคาไม่แพงด้วยเพราะเน้นขายเด็กมหาลัย) จากคุณ : White Amulet เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 52 13:13:18

ความคิดเห็นที่ 17 พิมพ์เวิ่นเว้อมาซะยาวเชียว ขออภัยด้วยนะคะเป็นคนติดเขียนอะไรยาวๆน่ะค่ะ คิดว่าตอนนี้คงจะเอียนสีเหลืองๆกันแล้วทัวร์มหาลัยเลยขอจบเพียงเท่านี้นะคะ จขกท พลาดไปจุดนึงลืมถ่ายภาพ Akamon หรือประตูแดงที่เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของแคมปัสมาค่ะ นั่นก็เป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิตของแคมปัสค่ะ เป็นประตูใหญ่ทรงญี่ปุ่นเก่าสีแดงเด่นเลยค่ะ ปกติที่แคมปัสนี้จะเข้าช่วงพีคของต้นแปะก๊วยตอนราวๆปลาย พย ถึง ต้น ธค แล้วแต่อากาศแต่ละปีด้วยค่ะ ฉากใบไม้เหลืองเท่าที่กะๆดูจะเห็นได้ประมาณ 3-4 อาทิตย์เลยค่ะ จะค่อยๆเริ่มจากส่วนที่โดนแดดน้อยหน่อยไล่มาจนมาเหลืองเต็มที่ที่หน้าหอนาฬิกา และจากนั้นอีกอาทิตย์ก็คงเริ่มร่วงจนหมดไปค่ะ(ยิ่งถ้ามีฝนก็จะยิ่งเร่งให้ร่วงเร็วขึ้นด้วย) คราวนี้ก็จะมีแต่ต้นไม้ที่มีแต่กิ่งเข้าสู่บรรยากาศทึมๆของหน้าหนาวเต็มที่แล้วค่ะ จบทัวร์ด้วยภาพสนามหญ้าหน้าหอนาฬิกานะคะ ปกติแต่ก่อนคนชอบไปนั่งปิคนิค นอนเกลือกกลิ้งกันตรงลานหญ้านี้ล่ะค่ะ แต่ตอนหน้าร้อนหญ้าโดนแดดเผาตายเละเรียบ พอผ่านช่วงร้อนไปทางมหาลัยก็เลยปูหญ้าใหม่แล้วหนนี้กั้นเชือกไว้กันไม่ให้คนเดินเข้าไป หญ้า่เลยยังใหม่และเขียวสดอย่างนี้ล่ะค่ะ จากคุณ : White Amulet เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 52 13:15:56

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณทุกๆคอมเมนต์ที่แวะเข้ามาชมนะคะ ขออนุญาตตอบไม่ครบทุกคนนะคะ เดี๋ยวต้องไปทำงานต่อแล้ว -------------------------- cultureclub   --> ถ้าคนญี่ปุ่นเลยน่าจะเรียกว่า ต้นอิโจ(銀杏) นะคะ แต่ก็เคยได้ยินแว่วๆมามีคนเรียกว่า gingko อะไรเหมือนกัน จำได้ว่าในโคนันตอนนึงก็เรียกว่า ต้นอิโจ น่ะค่ะ 銀杏の木 (Icho-no-ki) จากคุณ : White Amulet เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 52 13:19:32

ความคิดเห็นที่ 19 สวยจังเลยครับ ... บรรยากาศดีอีกแบบที่ไม่ใช่แหล่งนัก่ท่องเที่ยว นึกถึงเวลาเลิกงาน แล้วจูงลุกหลานไปเดินเเล่น ... ชอบจังครับ จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 52 13:35:54

ความคิดเห็นที่ 20 สวยมากเลยค่ะ บรรยากาศน่าเรียนมาก จากคุณ : Iced Cappuccino เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 52 13:40:59

ความคิดเห็นที่ 21 สวยมากๆเลยค่ะ >< อยากไปญี่ปุ่นบ้างจ๊างงง จากคุณ : ส้นสูงสีชมพู เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 52 13:43:39

ความคิดเห็นที่ 22 เข้ามาชมครับ สวยมาก จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 52 13:57:08

ความคิดเห็นที่ 23 สวยมากๆเลย อิอิ gingko เป็นชื่อแปะก๊วยภาษาอังกฤษค่ะ ^^ จากคุณ : กะรุ้งกะริ้ง เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 52 13:58:47

ความคิดเห็นที่ 24 ดารดาษงามตามากๆค่ะ . ภาษาอังกฤษ Ginkgo นะคะ ไม่ใช่ gingko ขอแก้นิดนึง ส่วนภาษาญี่ปุ่น ichou ( เสียงยาว ) イチョウ/銀杏 ถูกต้องแล้วค่ะ ส่วนลูกแปะก้วย จะเรียกว่า กินนาน - 銀杏（ぎんなん、ぎんきょう）ค่ะ จากคุณ : ว่านน้ำ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 52 14:12:17

ความคิดเห็นที่ 25 สวยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกคร้าบผม ชอบๆๆๆๆ เก็บมาฝากซักใบสิครับ จะเอาไปทำที่คั่นหนังสือ อิอิอิ จากคุณ : โอ๊ต-ครับ-ผม เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 52 14:14:07

ความคิดเห็นที่ 26 ว่านน้ำ --> เปิดดิคอังกฤษเจอเขียนทั้ง Gingko และ Ginkgo เลยน่ะค่ะเลยเลือกมาแบบนึง ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าส่วนใหญ่เค้าจะใช้แบบไหนกัน  แหะๆ ส่วนตัวเสียงยาวไม่ได้เขียนไว้เพราะคิดว่ามันดูสับสนสำหรับคนที่ไม่ได้เรียนญี่ปุ่นน่ะค่ะ อย่าง Tokyo ก็เห็นเขียนกันไม่ใส่เสียงยาวเลยเอามั่ง --> ขอบคุณที่ช่วยไขข้อข้องใจนะคะ จริงๆสงสัยอยู่เหมือนกันว่ามันอ่านได้ทั้ง　イチョウ ทั้ง ぎんなん แต่ถ้าพูดถึงใบหรือต้นน่าจะตัวแรกมากกว่ามั้ง(คิดเอาเองน่ะค่ะไม่ได้ไปถามยืนยันคนญี่ปุ่นมา) แต่วันก่อนได้ยินคนญี่ปุ่นเรียกว่า Ginkgo เหมือนกันนะคะ  ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าการเรียกแต่ละแบบจะได้ความหมายพิเศษที่มุ่งไปทางใดทางหนึ่งหรือเปล่า จากคุณ : White Amulet เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 52 14:19:42

ความคิดเห็นที่ 27 ที่ญี่ปุ่นนี่แปลกนะ เขาสามารถดำรงความเป็นญี่ปุ่นให้อยู่คู่กับเทคโนโลยี่ได้ลงตัวที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ จากคุณ : Mukzaki เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 52 14:58:24

ความคิดเห็นที่ 28 สวยงามมากค่ะ ^^ จากคุณ : creAmy milk cHocolAte เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 52 15:13:53

ความคิดเห็นที่ 29 จากคุณ : ว่านน้ำ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 52 15:22:07

ความคิดเห็นที่ 30 สวยมากกกกกกกกกกกกกกกกครับ ^^ จากคุณ : ganblade เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 52 15:27:01

ความคิดเห็นที่ 31 สวยจังเลย จากคุณ : Ms. Pumpkin เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 52 15:32:14

ความคิดเห็นที่ 32 สวยสุดยอดไปเลยครับ ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ จากคุณ : tataweb เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 52 17:05:54

ความคิดเห็นที่ 33 สวยจังเลยค่ะ ถ่ายรูปก็สวยด้วยค่ะ ดีจัง เดี๋ยวนี้มีคนรีวิวเรื่องราวญี่ปุ่นในหลายๆสถานที่ ไม่ค่อยซ้ำกัน ไม่งั้นก็คงน่าเบื่อแย่เลย เพราะคนไทยไปญี่ปุ่นกันเยอะมากๆ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : oriole เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 52 17:20:31

ความคิดเห็นที่ 34 งามมากๆค่ะ เหลืองทองอร่ามจริงๆ ป.ล. พอพูดถึงอิโจก็นึกถึงโคนันเลยค่ะ ตอนดร.อากาสะอินเลิฟ ฮ่าๆ ที่ถอดรหัสมีคำว่าอิโจด้วยใช่เลยค่ะ จากคุณ : yuki_shimi เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 52 17:21:50

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณค่ะที่พาไปเดินเล่นโตได >_< ใบร่วงๆเกยเล่นกันน่าสนุกมากค่ะ จากคุณ : ก่วยก๊วยตาลสด เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 52 17:49:36

ความคิดเห็นที่ 36 สวยมากค่ะ เราว่าจะพาที่บ้านไปดูซากุระ อืมมม เปลี่ยนใจไปดูใบไม้เปลี่ยนสีดีไม๊น้า จากคุณ : Kissy Kiss เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 52 17:56:45

ความคิดเห็นที่ 37 ถ่ายภาพได้สวยมาก นี่ขนาดได้ชมแต่ภาพยังรู้สึกดีเลย จากคุณ : หนูดี ไม่มีจอแบน (หนูดี ไม่มีไม้จัตวา) เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 52 18:22:25

ความคิดเห็นที่ 38 เหลืองอร่ามไปทั้งกระทู้...... จากคุณ : เจ้าแก้วพิสดาร ณ เมืองปาย เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 52 18:24:49

ความคิดเห็นที่ 39 แวะกลับมาดูโชคดีว่ากระทู้ไม่ร้าง ขอบคุณทุกๆความเห็นมากๆเลยนะคะ _/|\_ ส่วนตัวแล้ว จขกท ชอบหน้าใบไม้เปลี่ยนสีมากกว่าหน้าซากุระอีกค่ะ รู้สึกว่ามันถ่ายรูปขึ้นกล้องดี ;-)  อย่างต้นอิโจนี่เห็นบ่อยก็จริง แต่วันไหนอากาศดีๆนี่ไปเดินเล่นแล้วทำให้อารมณ์ดีจริงๆค่ะ อย่างวันศุกร์ที่ผ่านมาหลังฝนตกหนักก็มีแดดอุ่นๆมาให้ชื่นใจ ใบไม้สีเหลืองๆนวลๆเนียนๆ และก็ผู้คนที่มาดื่มด่ำบรรยากาศเดียวกัน (เว่อร์ไปนิด แต่ก็จริงนะคะ) บอกไม่ถูกแต่มันให้ความรู้สึกนุ่มๆและอ่อนละมุนดีนะคะใบต้นอิโจนี่  ถ้าโมมิจิก็จะอีกอารมณ์เป็นสีแดงแรงฤทธิ์ แต่สรุปแล้วชอบทั้งคู่เลยค่ะ (ปีสุดท้ืายที่อยู่ญี่ปุ่นกะจะเก็บพวกดอกซากุระ ใบอิโจ แล้วก็ใบโมมิิจิมาไว้เป็นที่ระลึกเหมือนกันค่ะเนี่ย) เดี๋ยวผ่านช่วงสวยที่สุดนี้ไปแล้ว มหาลัยก็จะเข้าสู่ช่วงที่ดูหดหู่ที่สุดแล้วล่ะค่ะ หน้าหนาวต้นไม้ไม่เหลือใบเลยมหาลัยแทบไม่มีสีอะไรเลยนอกจากสีน้ำตาล ดำ และเทา จากคุณ : White Amulet เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 52 19:01:52

ความคิดเห็นที่ 40 สวยมากๆเลยค่ะ จากคุณ : hospitalgirl เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 52 20:00:17

ความคิดเห็นที่ 41 สวยสุดยอด จากคุณ : boy next door เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 52 20:16:37

ความคิดเห็นที่ 42 สวยมากครับ จากคุณ : j und n เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 12:00:47

ความคิดเห็นที่ 43 สวยมากเลยค่ะ เป็นครั้งแรกที่ได้ไปทัวร์มหาวิทยาลัยโตเกียวและเห็นต้นแปะก๊วย ปกติจะเห็นแต่กระทู้ใบไม้เปลี่ยนสี ชอบมากเลยค่ะ ขอบคุณนะคะสำหรับรูปบรรยากาศสวยๆที่มาแบ่งปันกัน จากคุณ : พะยูนอ้วน เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 13:08:42

ความคิดเห็นที่ 44   อาหารตาจริงๆ เลยค่ะ น่าไปเรียนากๆ เลย จากคุณ : mamomay เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 13:16:05

ความคิดเห็นที่ 45 ชอบวิธีการเล่าเรื่อง ของ คุณ White Amulet  มากเลยคะ ทำให้นึกภาพตามทีละช็อต เลย รูปที่ถ่ายออกมาก็สวยมากเลย คะ เห็นแล้วก็อยากมีโอกาสไปบ้างจัง ^^ จากคุณ : annie (Myannie) เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 16:52:13

ความคิดเห็นที่ 46 ขอบคุณมากค่ะ ขอตามไปดูบรรยากาศโตไดด้วยคน เสียดายที่เมื่ออาทิตย์ที่แล้วไม่ได้ไปดูด้วยตาตัวเอง..ขอบคุณมากค่ะ ^^ จากคุณ : phytoplankton เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 18:08:22

ความคิดเห็นที่ 47 ขอบคุณทุกคอมเมนต์อีกครั้งนะคะ ดีใจว่ามีคนเข้ามาดูและทิ้งคอมเมนต์ไว้ให้ด้วย ^_^ จริงๆคงจะช้าไปแล้ว แต่ไหนๆไปถ่ายมาแล้วเลยอยากจะเพิ่มไว้ในกระทู้เดียวกันซะเลย เป็นภาพจาก Akamon 赤門 ที่เป็นจุดสัญลักษณ์อีกแห่งของแคมปัสค่ะ ประตูนี้เป็นประตูทรงญี่ปุ่นเก่าสีแดงแรงฤทธิ์ คนชอบมาถ่ายรูปกันเหมือนกันค่ะ ถ้าหันหน้าเข้าหาหอนาฬิกา ประตูนี้จะอยู่เลยไปทางด้านขวาของ Seimon ค่อนไปทางด้านสถานี 本郷三丁目 Hongo-sanchome นะคะ ก็ถือเป็นประตูใหญ่ประตูนึงของแคมปัสเหมือนกัน ที่ถนนด้านหน้าประตูนี้ก็มีซุ้มแปะก๊วยเช่นกันค่ะ แต่จะเล็กกว่าตรงด้านหน้า Seimon หน่อย จขกท ไปถ่ายตรงนี้ช้าไปสี่วัน ใบไม้ร่วงไปเยอะแล้วแถมเริ่มแห้งๆเป็นสีน้ำตาลกันบ้างแล้วด้วยค่ะ เก็บภาพ Akamon พร้อมใบไม้เหลืองมาชัดสุดได้แค่แบบนี้เอง จากคุณ : White Amulet เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 20:18:56

ความคิดเห็นที่ 48 ถ้ามองจากด้านนอกมหาลัยเข้ามา ส่วนตัวคิดว่าดูสวยกว่านะคะแม้ว่าจะมองไม่ค่อยเห็นต้นแปะก๊วยด้านในก็ตาม เท่านี้ก็หมดสัญลักษณ์หลักๆของแคมปัสนี้แล้วค่ะ ค่อนไปทางด้านหลังของแคมปัสจะมีโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยโตไดอยู่ด้วย จากที่เคยถามคนญี่ปุ่นมา โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยโตไดถือเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดในญี่ปุ่น แต่ส่วนตัวแล้วไม่เคยมารักษาที่นี่เลยค่ะ น่ากลัวว่าคิวจะยาว ไปหาหมอตามคลีนิคใกล้ๆแทน ปล  รสบัสจากหน้าสถานี Ueno จะจอดป้ายที่หน้าโรงพยาบาลเลยนะคะ แล้วก็มีคิวแท็กซี่รอให้ใช้บริการกันไม่ขาดสายด้วยค่ะ ^_^ จากคุณ : White Amulet เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 20:23:30

ความคิดเห็นที่ 49 เป็นรีวิวที่สวยมาก และชอบมากด้วย ขอบคุณค่ะ.... จากคุณ : ดอกโสนบานเช้า เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 20:28:58

ความคิดเห็นที่ 50 ภาพสวยมากๆๆ  ขอบคุณที่นำภาพสวยๆ มาให้ดู จากคุณ : neekorn เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 21:53:07

ความคิดเห็นที่ 51 สวยจัง ^^ จากคุณ : salamanka เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 21:57:04

ความคิดเห็นที่ 52 ใบไม้สีเหลืองสดใส อบอุ่น โรแมนติก สวยมากๆๆเลยค่ะ เหมือนอยู่ในเมืองสวรรค์เลยยยย ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องไปชมของจริงให้ได้เลยค่ะ ขอบคุณสำหรับรีวิวสวยๆนะคะ ชอบมากเลยค่ะ ^v^ จากคุณ : โมกุจัง เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 23:43:58

ความคิดเห็นที่ 53   สวยงามน่าประทับใจจังค่ะ เป็นแฟนคลับกระทู้เกี่ยวกับญี่ปุ่นคนนึง  ถ่ายภาพสวยจังค่ะ จากคุณ : กระดิ่งสายลม เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 11:07:39