Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
+ + + + + เกาะช้าง แกรนด์ ลากูน่า (Koh Chang Grand Lagoona) ทำน้ำผึ้งขมสำหรับทริปฮันนีมูนของผม + + + + +  

ปรกติผมอยู่ห้องชายคาครับ แต่จะเข้ามาเก็บข้อมูลที่ห้องบลูฯ เป็นบางครั้งบางคราวเท่านั้น และเรื่องที่ไปเจอมาอยากจะมาแชร์ให้คนอื่นได้ระมัดระวังจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อเหมือนพวกเรา และที่สำคัญไม่รู้ว่าจะร้องเรียนได้ที่ไหน

ขอเริ่มเกริ่นก่อนจากการที่ผมและแฟนเพิ่งแต่งงานกันเมื่อวันที่ 21 พ.ย. ที่ผ่านมา และบังเอิญว่ามีเพื่อนที่รู้จักได้มาขายแพคเกจของ เกาะช้าง แกรนด์ ลากูน่าให้ ชื่อแพคเกจคือ package of Love 3 วัน 2 คืน รวมอาหาร 5 มื้อ และกิจกกรรมตกหมึก ดำน้ำชมปะการังที่เกาหวาย และกิจกรรมอื่นๆ ภายในรีสอร์ท เช่น ปั่นจักรยาน พายเรือแคนนู ผมซึ่งได้ปรึกษากับแฟนแล้วสนใจ จึงซื้อต่อมาจากเพื่อน และได้ทำเรื่องจองระหว่างวันที่ 5-7 ธ.ค.

ก่อนเดินทางเพื่อนสนิท สนใจที่จะไปด้วย ผมจึงทำเรื่องจองเพิ่ม อีก 1 แพคเกจ โดยก่อนจองได้สอบถามกับทางฝ่ายขายที่กรุงเทพแล้วว่าจัดให้เรา 2 คู่ อยู่พักติดกัน หรืออยู่ในโซนเดียวกันได้หรือไม่ ซึ่งทางคนขายก็ยืนยันว่าทางรีสอร์ทจะจัดให้พักอยู่ในโซนเดียวกันถ้าเป็นกรุ๊ปเดียวกัน เพื่อนผมจึงได้ทำเรื่องโอนเงินไป 7900 บาท เพื่อซื้อเพิ่ม

พวกเราทั้งหมด 4 คน (2 คู่) ตื่นเต้นกับทริปนี้มากและคาดหวังไว้ล่วงหน้ากับราคาที่ค่อนข้างสูงว่าจะได้รับสิ่งที่ประทับใจกลับมา แต่แล้วเราก็ต้องเจอเรื่องมากมายที่รีสอร์ทนี้ โดยเริ่มตั้งแต่การเดินทางไปที่รีสอร์ทแห่งนี้ ที่อยู่ไกลกว่าที่อื่นๆ มากๆ ซึ่งใครที่คิดจะออกมาหาร้าน 7-11 ต้องขับรถขึ้นเขาลงเขาอีก 10 กว่ากิโล จึงจะเจอ

พวกเราไปถึงที่รีสอร์ทในวันที่ 5 ธ.ค. เวลา 8.00 น. ซึ่งถือว่าเช้ามาก แต่เมื่อติดต่อขอ check-in พนักงานต้อนรับกลับบอกว่าไม่มี booking ของเพื่อนผม แต่ดีที่เราเตรียมเอกสารและหลักฐานการจองและโอนเงินไป เจ้าหน้าที่จึงยอมรับและจัดห้องพักให้ แต่ห้องพักกลับเป็นคนละโซน ซึ่งทางเพื่อนผมได้พยายามเจรจา โดยขอชำระเพิ่มส่วนต่างเพื่อให้ห้องพักติดกัน แต่เจ้าหน้าที่ต้อนรับก็ไม่ยอม โดยอ้างว่าห้องที่ติดกับผมมีคนจองไว้แล้ว ซึ่งพวกเราได้ตรวจสอบแล้วปรากฏว่าห้องพักที่ติดกันไม่มีคนอยู่เลยจนวัน check-out เมื่อวานนี้ (7 ธ.ค.) ถือว่าเจ้าหน้าที่ได้โกหกพวกเรา

ระหว่าง check-in เราได้ขับรถไปดูห้องพักที่เราจะพักได้ใกล้ๆกันมากที่สุด และได้ย้อนกับมาที่แผนกต้อนรับ โดยเพื่อนผมได้จอดรถไว้ได้หน้า แต่ระหว่างที่เรากำลังเดินไปดูห้องพักที่อยู่ใกล้ๆ กัน ก็มีเสียงผู้ชายตะโกนบอกพวกเราว่า ช่วยขยับรถด้วยเพราะกำลังจะมีลูกค้ามา ซึ่งเป็นกรุ๊ปใหญ่ แต่น้ำเสียงที่พูดพวกเราทุกคนรู้ว่ามันเป็นเสียงของคนที่ไม่มีการศึกษา แฟนผมจึงพูดลอยๆ ออกไปว่า แล้วพวกเราไม่ใช่ลูกค้าหรือไง ผมจึงถามเด็กที่พาไปดูห้องว่าผู้ชายที่พูดเมื่อกี้เป็นใคร เด็กบอกว่าเป็น ผู้จัดการใหญ่ ผมจึงบอกเด็กไปว่า ฝากไปบอกด้วยว่าไม่ชอบการพูดการจาของเขาอย่างแรง

เมื่อเราเก็บของเข้าห้องเสร็จสรรพ ก็ออกไปทานข้าวกลางวันกันที่ห้องอาหารของทางรีสอร์ท แต่ที่ไม่ออกไปกินข้างนอกเพราะเหนื่อยจากการเดินทาง และด้วยระยะทางที่ต้องออกไปหาร้านอาหารข้างนอก ซึ่งไกลมาก จึงตกลงกินกันในรีสอร์ท โดยพวกเราสั่งเป็นอาหารจานเดียวกันหมดเพื่อความสะดวก แต่รสชาติของอาหารและปริมาณแล้วไม่เหมาะกับราคาเอาเสียเลย เช่นข้าวผัดทะเล จานละ 100 บาท แต่ปริมาณเมื่อ 25 บาทที่กรุงเทพฯ แต่พวกเราก็ต้องจำใจกินกันด้วยความผิดหวัง

เมื่อทานข้าวกลางวันเสร็จพวกเราก็แยกย้ายกันพักผ่อนเพื่อรอไปทำกิจกรรมแรก คือการตกหมึกตอน 2 ทุ่ม โดยทานข้าวมื้อเย็นของทางรีสอร์ท (มื้อแรกของแพคเกจ) ปรากฏว่า มีกุ้งเน่าๆ เผา 4- 5 ตัว และลูกปูทะเลนึ่ง 2 ตัว (มากัน 4 คนให้กินคนละครึ่งตัว โอ้วแม่จ้าว) ที่หมดอายุแล้ววางไว้ที่โต๊ะอาหาร แบบเย็นแล้ว ผมชิมปูแล้วรู้เลยว่าไม่สด และกุ้งที่เน่าจนหัวดำแล้วยังเอามาให้พวกเรากิน พวกเราจึงไม่ได้แตะต้องอาหารจานนั้น แต่ที่มาทำผิดหวังให้เรามากที่สุดคือกับข้าวที่มาเสริฟ มันคือหมูผัดผงกระหรี่ ซึ่งไม่ทราบว่าทางรีสอร์ทเอาสมองส่วนไหนคิดเมนูอาหารนี้ให้กับลูกค้าที่มาเที่ยวทะเล  เพราะเราตั้งใจมาทะเลก็เพื่อกินอาหารทะเล  ในขณะที่กำลังเซ็งๆ เรื่องอาหารกันอยู่ เพื่อนผมก็กำลังหยิบขวดเหล้าที่เหลืออยู่ประมาณ 1/4 ขึ้นมาชง แต่ปรากฏว่าพนักงานเดินมาบอกว่าต้องเสียค่าเปิดด้วย ผมไปเที่ยวตั้งหลายที่ไม่เคยพบเคยเจอกับแบบนี้มาก่อน เพื่อนผมเลยย้อนกลับไปว่าเหล้าเหลือนิดเดียวเองจะคิดด้วยหรอ แต่พี่ที่คุมห้องอาหารเห็นว่าเหลือนิดเดียวจริงๆ จึงยอมไม่เก็บค่าเปิดเหล้า แต่เน้นถามว่าจะไม่เอาเหล้าไปกินต่อตอนตกหมึกน่ะ ซึ่งพวกเราตั้งใจจะนั่งกินให้หมดกันที่ร้านอยู่แล้ว โดยที่ไม่ได้เอะใจอะไร จนกระทั้งช่วงกิจกรรมตกหมึก พวกเรากร่อยๆ เพราะเรื่องอาหารเย็น และก็มาสะดุดตรงที่บนโป๊ะที่พวกเรากำลังตกหมึกมีบริการขายเบียร์อยู่นั้นเอง

เช้าวันที่ 6 ธ.ค. พวกเราไปทานข้าวเช้ากันเป็นบุฟเฟ่ ซึ่งพวกเรายอมรับอาหารได้ แต่ที่รับไม่ได้คือผู้จัดการใหญ่และ เจ้าหน้าที่ต้อนรับ มาร่วมวงตักอาหารกับลูกค้าเสมือนตัวเองเป็นลูกค้าด้วย ซึ่งพวกผมไม่ได้รังเกียจอะไร แต่ทำไมไม่รอให้สายๆ กว่านี้ที่จำนวนลูกค้าน้อยๆ แล้วค่อยมาตัก แต่กลับมาตักแย่งอาหารช่วงเช้ากับลูกค้าที่ต้องรีบไปขึ้นเรือไปดำน้ำกันช่วง 7-8 โมงเช้านี้ด้วย

เราไปดำน้ำชมปะการังตอน 9.00 น. และกลับมาที่พักเวลา 12.00 น.  ทานอาหารกลางวันที่นำอาหารบางส่วนจากช่วงเช้ามาทำใหม่  ซึ่งพวกเราเริ่มเบื่อๆ กับอาหารของทางรีสอร์ท จึงตัดสินใจออกไปหาอะไรทานกันข้างนอก

จุดที่หมดความอดทนของพวกเรามาอยู่ที่มื้อเย็นมื้อสุดท้าย เมื่อเรามาทานข้าวเย็นที่รีสอร์ท กลับมีกับข้าวเพียง 3- 4 อย่าง ได้แก่ ไข่เจียวยัดใส้ พะแนงหมู และต้มจืดถั่วฝักยาวและผักรวม (แต่แฟนผมบอกว่ามันเป็นแกงส้ม) แล้วพนักงานเสริฟก็ได้ถามว่าอาหารพอทานหรือเปล่า จะสั่งเพิ่มหรือไม่ ซึ่งถ้าพวกเราสั่งเพิ่มก็ต้องจ่ายส่วนที่เพิ่มเอง กับรสชาติอาหารที่แสนจะธรรมดา พวกเราตัดสินใจกินกันเท่าที่มี แล้วกลับไปต้มมาม่ากินกันที่ห้องให้สบายพุง

เช้าวันที่ 7 ธ.ค. เราตั้งใจจะถามครอบครัวอื่นๆ ก่อน check-out ว่าได้รับบริการเหมือนพวกเราด้วยหรือไม่ ปรากฎว่าทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าโดนมาเหมือนกัน และขอให้พวกเราช่วยกันเขียนข้อแนะนำให้กับทางรีสอร์ทเยอะๆ เพื่อให้ผู้บริหารรู้ แต่เมื่อผมไป check-out แล้วถามน้องที่ทำเรื่องให้ว่ามีกระดาษให้เขียนข้อเสนอแนะหรือไม่ เจ้าหน้าที่กลับบอกว่าไม่มี ถ้ามีให้พูดตรงนั้นเลย ซึ่งพวกเราอยากจะออกจากรีสอร์ทนรกแห่งนี้อยู่แล้วเลยขอเป็นเบอร์แฟกซ์แล้วจะทำเป็นจดหมายร้องเรียนเข้าไปแทน

สุดท้ายระหว่างขับรถกลับจากเกาะช้าง พวกเราพยายามหาข้อดีของรีสอร์ทแห่งนี้แต่มันมืดมนแปดด้านหาไม่เจอสักข้อ เลยขอสรุปว่าพวกเราไม่ประทับใจกับรีสอร์ทแห่งนี้สักเรื่อง ทั้งเรื่องการบริการที่โกหกลูกค้า พนักงาน (บางคน) ที่พูดกับเราไม่ดี สภาพห้อง (ที่ค่อนข้างทรุดโทรม ไม่ตรงกับภาพที่เห็นในเวป) รสชาติอาหารที่ไม่เอาไหน นโยบายการขาย package ที่หากินกับลูกค้าโดยไม่ให้อาหารทะเลกินเลย ถ้าให้ก็ให้ที่เน่าๆ เสียๆ

จึงอยากขอเตือนและฝากถึงคนที่คิดกำลังจะไปเที่ยวเกาะช้าง โดยเฉพาะผู้ที่มีแผนจะไปพักที่ grand lagoona ว่า ให้หลีกหนีให้ไกลๆ เลยครับ

ปล. แก้ไขคำผิด

แก้ไขเมื่อ 08 ธ.ค. 52 20:44:52

แก้ไขเมื่อ 08 ธ.ค. 52 20:38:23

จากคุณ : Ekanat
เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 16:56:25




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com