ความคิดเห็นที่ 1 ผมพบความรักที่ Hiroshima ครับ ความรักครั้งนั้นก็คือ ....การถ่ายภาพ เป็นความรักที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ เมื่อครั้งที่ผมไปญี่ปุ่นหลายปีก่อน ผมยังเป็นเหมือนนักท่องเที่ยวทั่วไปที่พกกล้อง Compact ตัวน้อยเดินถ่ายภาพไปเรื่อยๆ  โดยมิได้มีความสนใจในเรื่องถ่ายภาพจากกล้อง DSLR สักนิดเนื่องจากไม่มีความรู้เรื่องนี้แต่อย่างใด จนกระทั่งผมลงทุนนั่งเครื่องบินจากสนามบิน Haneda เพียงเพื่อไปและกลับในการเยือนศาลเจ้า Itsukushima Shrine บนเกาะ Miyajima ที่จังหวัด Hiroshima โดยเฉพาะ สถานที่นี้เป็นที่ผมใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็กแล้วว่าถ้าจะมาประเทศญี่ปุ่นต้องมาที่นี่นี้ให้ได้   เมื่อความฝันได้กลายมาเป็นจริงและช่างเป็นประสบการณ์ที่สวยงามเหลือเกิน ดังนั้นผมจึงไม่พลาดที่จะหยิบกล้องตัวน้อยเดินถ่ายภาพทุกจุดบนเกาะ และไม่พลาดที่จะเก็บภาพสัญลักษณ์อันเลื่องชื่อของมรดกโลกแห่งนี้ซึ่งก็คือเสา Torii สีแดงที่ตั้งเด่นสง่าอยู่กลางทะเลซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ผมต้องดั้นด้นมาถึงที่นี่   แต่เมื่อกลับมายังเมืองไทยแล้วนำภาพไปอัดที่ร้าน ก็รู้สึกผิดหวังอย่างแรงกับภาพที่ได้มา   ผมอุตส่าห์เก็บเงินไปประเทศญี่ปุ่น แล้วจ่ายเงินเพิ่มเพื่อนั่งเครื่องบินไปกลับระหว่างกรุง Tokyo และ Hiroshima แต่ภาพที่ได้มาไม่รู้สึกคุ้มค่ากับการรอคอยเลย ไม่ใช่ภาพไม่สวย หรือไม่ดี แต่เพียงรู้สึกว่ามันไม่คุ้มกับเป็นของที่ระลึกในประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ไม่รู้ว่าจะได้ไปอีกเมื่อไหร่ในชีวิตนี้ ทำไมผมไม่ถ่ายภาพให้ดีกว่านี้ ดังนั้นทำให้ผมเกิดการค้นคว้าเรื่องการถ่ายภาพอย่างหนัก ศึกษาทั้งจาก Internet หนังสือ หรือเข้าอบรมตามสถาบันต่างๆ เพื่อให้เข้าใจหลักการการถ่ายภาพเบื้องต้น เช่นการรู้จักใช้ประเภทของเลนส์ การวัดแสง การจัดองค์ประกอบภาพ เป็นต้น ผลพลอยได้จากการเรียนครั้งนั้นทำให้ผมมีงานอดิเรกเพิ่มขึ้น ว่างเมื่อไหร่ก็คว้ากล้องออกไปฝึกถ่ายภาพ ลองผิด ลองถูกไป ถ่ายภาพเสร็จก็นำมาลงใน Internet เพื่อขอคำแนะนำจากผู้รู้ และนำไปปรับปรุงจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดที่มากกว่าการฝึกถ่ายภาพก็คือ ผมได้ฝึกความอดทน และ ความใจเย็น ซึ่งไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าการถ่ายภาพที่เป็นงานอดิเรกเช่นนี้สามารถเปลี่ยนความคิดและทัศนคติของคนๆ หนึ่งได้อย่างมากมายเลยทีเดียว   จากการที่ผมเคยมีนิสัยใจร้อน หงุดหงิดง่าย แต่หลังจากเริ่มถ่ายภาพอย่างเต็มตัว เดี๋ยวนี้ก็กลายเป็นคนมีเหตุผล เข้าใจในสิ่งที่เป็นไปของกฎธรรมชาติและความดำรงชีวิตในความเป็นมนุษย์ เนื่องจากการถ่ายภาพโดยเฉพาะทิวทัศน์นั้นต้องอาศัยธรรมชาติเป็นตัวแปร เช่น แดดออก ฝนตก เมฆมาก ฯ ผมไม่สามารถที่จะไปใจร้อน หรือ บ่นกับสิ่งตรงหน้าได้ มีเพียงได้แต่นั่งรอคอยเทพีแห่งโชคที่จะอำนวยพรให้ผมได้มีโอกาสได้บันทึกภาพสวยๆในวันนั้นหรือไม่ บทเรียนที่ได้มานี้ได้ช่วยทำให้ผมมาประยุกต์กับในชีวิตประจำวันในการพบปะผู้คนแล้วนำมาวิเคราะห์ด้วยเหตุผลว่าทำไม อย่างไร หรือ อะไร ที่ทำให้มนุษย์แต่ละคนถึงได้คิด ทำ พูด และปฏิบัติแบบนั้น  ....สิ่งที่ได้ตามมาก็คือการรู้จัก“การปล่อยวาง” และ “การรอคอย” ครับ ผมก็เลยหลงรักการถ่ายภาพตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา และสองปีถัดไปผมก็ได้กลับไปถ่ายภาพที่ Hiroshima อีกครั้งเพื่อเติมความรักของผมอย่างสมบูรณ์ แก้ไขเมื่อ 10 ธ.ค. 52 21:08:38 จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 20:24:59

ความคิดเห็นที่ 2 ผมขอพาผู้อ่านต่อไปยังภูมิภาค Tohoku ด้วยความรักเต็มหัวใจ.... วันนี้เรายังอยู่ที่จังหวัด Akita เหมือนเดิม   ผมนั่งรถบัสย้อนลงมาในเมืองจาก Nyuto Onsen ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีผมก็มาถึงทะเลสาบ Tazawako จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 20:25:43

ความคิดเห็นที่ 3 ผมลงรถแล้วเดินไปยังจุดบริการข้อมูลนักท่องเที่ยว ซึ่งการเที่ยวรอบทะเลสาบนี้ต้องนั่งรถบัสเที่ยวซึ่งจะวิ่งเป็นรอบๆ เนื่องจากกว้างใหญ่จริงๆ ซึ่งรถบัสเที่ยวต่อไปต้องรออีกกว่าชั่วโมง   ผมเหลือบมองนาฬิกาซึ่งก็เกือบบ่ายโมงแล้ว ผมเลยอยากเดินเล่นและซื้อข้าวกลางวันไปนั่งกินอบู่บริเวณรอบๆ  เพื่อดื่มด่ำบรรยากาศทะเลสาบอันร่มรื่นและสวยงาม จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 20:26:27

ความคิดเห็นที่ 4 ทะเลสาบ Tazawako มีลักษณะผืนน้ำแผ่เป็นวงกลม ซึ่งมีระยะรัศมีกว่า 20 กม. และมีความลึก 423.4 เมตร จึงเป็นทะเลสาบที่มีความลึกที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ด้วยความลึกของทะเลสาบเลยทำให้สีน้ำในทะเลสาบแห่งนี้เป็นสีน้ำเงินเข้มกว่าทะเลสาบอื่นๆ และ น้ำในทะเลสาบที่นี่จะไม่แข็งตัวแม้อากาศจะหนาวจนติดลบก็ตาม ภาพตรงหน้าผมนั้นเป็นภาพดวงอาทิตย์สาดแสงสะท้อนเป็นดาวระยิบระยับอยู่บนแผ่นผิวน้ำ  ช่างเป็นภาพที่ดูอบอุ่นเหลือเกิน... หลังจากผมกินข้าวเสร็จแล้ว ก็ได้เดินเล่นต่อไปเรื่อยๆ ....ผมเดินสวนกับกลุ่มนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่ได้มาเที่ยวที่นี่เช่นกัน  ผมประทับใจกับใบหน้าอันเปี่ยมไปด้วยความสุขของพวกเขาโดยเฉพาะบรรดาผู้อาวุโสที่ได้รวมกลุ่มกันมาเที่ยว ผมชอบบรรยากาศที่ผู้สูงวัยพูดคุยหยอกล้อ หรือ ส่งเสียงดังทักทายกัน นั่นก็คือภาพความสุขที่มีชีวิตของคนในชีวิตหลังเกษียณ ..... ดูแล้วผมก็มีความสุขร่วมไปด้วยครับ แก้ไขเมื่อ 10 ธ.ค. 52 20:52:03 แก้ไขเมื่อ 10 ธ.ค. 52 20:48:45 จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 20:27:32

ความคิดเห็นที่ 5 พอได้เวลาผมก็กลับมาขึ้นรถบัสเพื่อไปยังทะเลสาบ บนรถบัสมีนักท่องเที่ยว 2 คนและเด็กนักเรียนประถมอีก 1 คน  ตลอดทางกว่า 30 นาทีที่รถบัสขับผ่านวนรอบทะเลสาบช่างเป็นภาพที่สวยงามยิ่งนัก เป็นภาพของแผ่นน้ำสีฟ้าเรียบสนิททอดประกอบฉากของท้องฟ้าสีครามยามแดดเริ่มอัสดงแล้ว  ภวังค์ผมก็สะดุ้งขึ้นมาเมื่อเด็กนักเรียนประถมกดกริ่งเพื่อลงรถที่ป้าย ผมมองตามเด็กน้อยว่าเดินไปทางไหนพลางคิดว่าน่าอิจฉาจังเลยที่มีบ้านอยู่ริมทะเลสาบสวยแห่งนี้ และยังมีบรรยากาศแวดล้อมไปด้วยใบไม้สีสวยๆ เต็มไปหมด จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 20:28:28

ความคิดเห็นที่ 6 จุดประสงค์ของการเดินทางของผมที่มายังทะเลสาบ Tazawako นอกจากจะมาชมความงามของบรรยากาศรอบทะเลสาบในยามใบไม้เปลี่ยนสีแล้ว สิ่งหนึ่งที่เป็น Landmark ของที่นี่ก็คือรูปปั้น Tatsuko การโปรโมทสถานที่ชมวิวต่างๆ ด้วยการปลูกสร้างรูปปั้นหรืออนุสาวรีย์มีให้เห็นอยู่มากมายในหลายๆ ประเทศ ไม่ว่า จะเป็น Merlion ที่สิงคโปร์ หรือ รูปปั้นนางเงือกที่หาดสมิหลา จังหวัดสงขลาบ้านเรา เป็นต้น ซึ่งหลายๆ แห่งต่างก็ประสบความสำเร็จในการทำการตลาดการท่องเที่ยวจนคนลืมไปว่าสถานที่เที่ยวจริงๆ แล้วก็คือทิวทัศน์อันสวยงาม แต่ส่วนมากนักท่องเที่ยวจะคิดถึงและต้องการถ่ายรูปกับ Landmark  ของสถานที่นั้นมาก่อนบริเวณรอบข้าง ไม่อย่างนั้นจะเกิดความรู้สึกว่าไม่ได้มาถึงสถานที่นั้นๆ ผมก็เป็นหนึ่งในนักท่องเที่ยวที่รู้จักรูปปั้น Tatsuko ก่อนตัวทะเลสาบเหมือนกัน  เนื่องจากว่าเวลาผมหาข้อมูลเกี่ยวกับทะเลาสบ Tazawako  นั้นทางการท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นหรือบริษัททัวร์ในเมืองไทย ต่างก็ใช้ตัวรูปปั้น Tatsuko นี้เป็นจุดขาย ทำให้ผมรู้สึกว่าต้องไปดูด้วยตาตนเองให้ได้ว่าทำไมถึงมีชื่อเสียงเหลือเกิน เมื่อรถบัสจอดป้ายพร้อมกับดับเครื่องยนต์ที่ป้ายรถแห่งหนึ่ง ตัวผมเองยังมองไม่เห็นรูปปั้น Tatsuko ก็เลยหยิบแผนที่พร้อมรูปปั้นแล้วถามว่าใช่ที่นี่ไหม ทางพนักงานขับรถพยักหน้าและยกมือแสดงว่า 5 ผมคิดว่าจอดพัก 5 นาทีผมคาดว่าคงสื่อสารกันไม่รู้เรื่องแน่ ดีไม่ดีผมอาจตกรถ ก็เลยหยิบเครื่องคิดเลขขึ้นมาแล้วกดเวลาลงบนเครื่องคิดเลขว่า 5 นาที แต่พนักงานขับรถพิมพ์ให้ใหม่ว่า 15 นาที เพราะ 5 นาทีคงไม่พอกับการเดินไปยังรูปปั้นแน่นอน ผมรีบลงรถไปแล้วเดินหารูปปั้น Tatsuko ว่าอยู่ที่ไหนของทะเลสาบ เพียง 5 นาทีผมก็มาพบเธอรอต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่ริมทะเลสาบ .... เธอคือ Tatsuko ตำนานของ Tatsuko เล่ากันมาว่า ถ้าใครอยากมีความงามเป็นอมตะก็ให้ดื่มน้ำในทะเลสาบไปสามอึก แต่มีหญิงสาวนางหนึ่งนามว่า Tatsuko อยากมีความงามเป็นอมตะมาก เลยโลภมากโดยดื่มน้ำจากทะเลสาบเกินกว่าที่กำหนดไว้  ก็เลยถูกเทพธิดาแห่งทะเลสาบสาปเธอกลายเป็นเจ้าหญิงมังกรให้เฝ้าทะเลสาบตลอดไป ยังไม่จบอยู่แค่นี้ ...วันหนึ่งมีเจ้าชายรูปงามนามว่า Hachirotaro ซึ่งประทับอยู่ในหมู่บ้านใกล้ๆ ทะเลสาบ ได้มาตกปลาในทะเลสาบและกินปลาตัวหนึ่งจากที่นั่น แต่ปลานั้นมีพิษทำให้เจ้าชายกระหายน้ำอย่างหนักและดื่มน้ำจากทะเลสาบเป็นเวลาติดต่อกันถึง 33 วัน ก็เลยกลายเป็นมังกรอยู่ในทะเลสาบนั้นอีกตัวหนึ่ง และได้พบรักกับมังกรสาว Tatsuko ช่างเป็นตำนานที่โรแมนติกเหลือเกิน และตำนานนี้กลายเป็นที่มาว่าความรักของมังกรสองตัวได้ก่อเกิดอุณหภมิสูงจนทำให้ทะเลสาบแห่งนี้ไม่เป็นนำแข็งในยามฤดูหนาว ประติมากรรมรูปปั้นสาวงาม Tatsuko เป็นผลงานของประติมากรนาม Yasutake Funakoshi และได้จัดแสดงไว้ที่ริมทะเลสาบ Tazawako ตั้งแต่วันที่ 12 เมษายน 1968 ผมยืนชมและถ่ายภาพประติมากรรม Tatsuko  นี้อยู่ 10 นาที ชิ้นงานนี้เป็นรูปปั้นบรอนซ์สีทองเมื่อกระทบกับแสงแดดยิ่งสวยงามเป็นทวีคูณพลางคิดอยู่ในใจว่า มนุษย์เราถ้ามีความพอเพียงสักนิด สิ่งที่ไม่ดีคงไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน   ผมต้องลาจาก Tatsuko  อย่างอาลัยอาวรณ์ .... ผมอุตส่าห์ข้ามน้ำข้ามทะเลหลายพันไมล์เพื่อมาหาเธอ แต่อยู่ได้เพียง 10 นาทีและยังไม่ทันใช้เวลาทำความรู้จักกับเธอก็ต้องจากเธอไปเสียแล้ว ..... แต่ผมสัญญากับเธอไว้ว่าผมจะกลับมาเยี่ยมเธอใหม่แน่นอน แก้ไขเมื่อ 10 ธ.ค. 52 20:59:12 แก้ไขเมื่อ 10 ธ.ค. 52 20:55:35 จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 20:29:14

ความคิดเห็นที่ 7 ผมกลับไปขึ้นรถบัสซึ่งตอนนี้เหลือเพียงผมคนเดียว ส่วนนักท่องเที่ยวอีกคนหนึ่งอาจกลับรถเที่ยวถัดไป ผมนั่งรถรอบทะเลสาบต่อไปอีกไม่นานรถก็มาจอดให้ผมลงไปเดินเล่นอีก 15 นาทีเหมือนเดิม จุดที่จอดก็คือศาลเจ้า Gozanoishi Shrine ที่สร้างเพื่อสักการะเทพธิดาแห่งทะเลสาบ Tazawako และเจ้าแม่กวนอิม ซึ่งศาลเจ้านี้มีเสา Torii อันสวยงามตั้งอยู่ริมทะเลสาบ และกลายเป็นอีกหนี่งจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกัน จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 20:30:15

ความคิดเห็นที่ 8 ผมออกจากบริเวณทะเลสาบยามตะวันเริ่มลับฟ้า เป็นบรรยากาศที่ชวนให้รู้สึกเหงาใจเหลือเกิน พลางคิดถึงบ้านว่าตอนนี้ที่บ้านพ่อและน้องๆ กำลังทำอะไรกันอยู่ ... อยากบอกพวกเขาว่า..... คิดถึงเหลือเกิน แล้วรถบัสก็พาผมมาส่งที่สถานีรถไฟ JR Tazawako .... การเดินทางผมยังไม่สิ้นสุด พรุ่งนี้ยังมีภาระกิจในการเดินทางตามหาใบไม้เปลี่ยนสีรออยู่อีก ถึงแม้ว่าตอนนี้ผมคิดถึงบ้านเหลือเกิน .... แต่ในความรู้สึกนั้นยังมีความสุขซ่อนอยู่ก็คือความรักของผม .... ความรักในการถ่ายภาพนั่นเอง   การเดินทาง : นั่งรถบัสจาก สถานี JR Tazawako สายที่เที่ยวรอบทะเลสาบ ค่าใช้จ่าย : 1100 เยน แล้วพบกันใหม่ครับ แก้ไขเมื่อ 10 ธ.ค. 52 20:34:23 จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 20:31:25

ความคิดเห็นที่ 9 เพลงโปรดกับนักร้องคนโปรด....อิ่มครับ....อิ่มใจ....    ผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่เคยสนใจเรื่องการถ่ายภาพให้สวย....   การถ่ายภาพสำหรับผมเป็นแค่การบันทึกความทรงจำว่าครั้งหนึ่งเคยไปที่ไหน...เคยมีอะไรเกิดขึ้นในชีวิต....เท่านั้น....   เวลาดูภาพสวยๆก็คิดแค่ว่า....อืมมม....ภาพนี้สวยดี....แต่ไม่เคยมีความคิดที่อยากจะเรียนรู้หรือฝึกถ่ายภาพเหมือนเขา....    แต่....ตั้งแต่ดูรูปของ อ.ตู่  กับ คุณ  POGGHI  ....   ความคิดก็เปลี่ยนไปครับ....ตอนนี้เริ่มหาหนังสือมาอ่าน....เข้าไปอ่านห้องกล้องบ่อยขึ้น....วันอาทิตย์หน้ากะว่าจะไปซื้อ DSLR แล้วครับ....และวันหนึ่งคงมีภาพมาให้ อ.ตู่กรุณาให้คำแนะนำ.... จากคุณ : LVP@HEART เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 21:25:00

ความคิดเห็นที่ 10   แอบตามมาเที่ยวด้วยคนค่ะ รูปสวยจริงๆเลยคะ จากคุณ : pao_nowara เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 21:48:18

ความคิดเห็นที่ 11 ยินดีเลยครับคุณ LVP@HEART ... ผมก็เรียนรู้จากการแบ่งปัน และ การฝึกฝน ... และยังต้องฝึกต่อไปครับ..... แก้ไขเมื่อ 10 ธ.ค. 52 22:07:28 จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 22:06:59

ความคิดเห็นที่ 12 มาฟังเพลงเพราะ และดูรูปสวย ๆ พร้อม ๆ กับคิดถึงญี่ปุ่นไปด้วยคนค่ะ จากคุณ : Ganit เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 22:26:27

ความคิดเห็นที่ 13 สวยจังเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับกระทู้รีวิวดี ๆ และสวย ๆ นะคะ จากคุณ : Travel Animal เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 22:52:58

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณสำหรับรูปสวยๆนะครับ จากคุณ : tataweb เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 22:56:42

ความคิดเห็นที่ 15 เข้ามาเจอเพลง...ถ้ามีคอร์ดกีต้าร์ติดมาด้วย นึกว่า หนังสือ IS song hit ซะอีกนะคะ...ขอบคุณสำหรับภาพสวยๆแล้วก็ตำนานสนุกๆค่ะ จากคุณ : ก่วยก๊วยตาลสด เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 52 01:09:15

ความคิดเห็นที่ 16 .. แวะมาตอกบัตรแฟนคลับเช่นเคยครับ คราวนี้ต้องขอบคุณ อ.ตู่ สำหรับความรู้ใหม่เรื่อง ตำนานรูปปั้น Tatsuko  ... แต่ผมว่ามันไม่ค่อยโรแมนติกเท่าไหร่นะครับ ฮ่าๆ .. จากคุณ : POGGHI เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 52 01:50:38

ความคิดเห็นที่ 17 ชอบมากครับ กระทู้นี้ ติดตามซี่รีย์นี้อยู่ พึ่งกลับมาถึงเมืองไทยเมื่อเช้า เดี๋ยวผมไปตามอ่านก่อน ผมไปอากิตะ เพียงเพราะว่าอยากนั่ง ชินคันเซน สายที่ยังไม่เคยนั่ง(เป็นเหตุเป็นผลไหมเนี๊ย?) ได้ไปทาซาวาโกะด้วย แต่ไปหลังจากใบไม้ร่วงไปแล้ว เหงาแรก ก็มาเยือนที่นั่น ห้านาทีได้ครับ แล้วมันก็จากไป เพราะว่าผมได้เพื่อนใหม่ญี่ปุ่นสองคน เค้าเป็นแฟนกันครับ มาเที่ยวอากิตะ แล้วก็มาแวะทาซาวาโกะ เพราะว่าอยากเห็นทะเลสาปที่ลึกที่สุดในญี่ปุ่น ตอนแรกเค้าขอให้ผมถ่ายรูปคู่ให้เค้า ผมถ่ายให้สองสามรูปด้วยความเต็มใจอยากให้เค้าได้รูปดีๆเก็บไปเป็นที่ระลึก หลังจากนั้นเค้าก็ชวนผมไปเที่ยวด้วยกัน ผมลังเลซักพัก ไม่อยากไปกวนเค้า แต่เค้าก็คะยั้นคะยอ บอกว่า มาเที่ยวด้วยกัน สนุกดี ผมเอาก็เอา เลยกระเตงกันไปเที่ยวสามคน เดินเล่นตามทะเลสาป แล้วก็นั่งบัสเที่ยวกัน บ้าๆบอๆกันไป ผลัดกันถ่ายรูปให้กัน จนเย็นเราก็แยกกัน เพราะว่าผมจะกลับมาโตเกียว ส่วนสองคนนั้นจะไปพักที่อากิตะ แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เรามาเจอกันอีกครั้ง ในสถานีรถไฟแห่งหนึ่งในโอซาก้า ซึ่งคนเยอะมากๆ  ผมกำลังจะขึ้นรถไฟไปหาเพื่อน ส่วนสองคนนั้นกำลังจะไปโยโกฮาม่า เราวิ่งเข้ามากอดกันกลมกลางสถานีเลย ฝ่ายผู้หญิงเนี๊ยเธอกรี๊ดเอาๆ ดีใจมากๆครับ ไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีก เอาเรื่องประทับใจของอากิตะ และทาซาวาโกะมาแชร์ (^_^) ลืมชมว่า รูปสวยมากๆครับ ผมก็พึ่งเล่นกล้องได้ไม่นานนี่เอง แต่ก่อนก็ใช้แต่กล้องถ่ายรูปธรรมดา เดี๋ยวนี้พกสองกล้อง นี่ก็พึ่งไปสอย Nikon D90มาจากโยโดบาชิ มาให้เป็นหนี้เป็นสินเพิ่มอีๆๆๆ จากคุณ : MedicinePath เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 52 01:50:53

ความคิดเห็นที่ 18 พอดูรีวิวงามๆในบีพีทีไร(อย่างรีวิวนี้เป็นต้น) อยากเปลี่ยนไปใช้ DSLR มั่งทุกทีเลยค่ะ^^ จากคุณ : yuki_shimi เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 52 08:38:16

ความคิดเห็นที่ 19 มาซะช้า เลย ผม อิอิ รูปสวย แสบตา แนว ติวเตอร์ตู่เลยครับ อิอิ แจ่มมากครับ พี่   จากคุณ : นายฟ้าใส เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 52 10:18:47

ความคิดเห็นที่ 20 มาไม่ทัน แต่ยังติดตามอยู่ตลอดนะคะ ^^ จากคุณ : mywishmylove เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 52 11:03:18

ความคิดเห็นที่ 21 หัวกระทู้เล่นเอาเพ้อก่อนเพื่อนเลย พอเข้ามาเพ้อหนักเข้าไปอีก จากคุณ : แม่ค้าลูกชิ้นนึ่ง เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 52 14:33:07

ความคิดเห็นที่ 22 ชอบมากค่ะ,รูปสวย เก็บเข้าlist ที่ต้องไปอีก 1 แห่ง  รอตอนต่อไป...... จากคุณ : yuma jung (yupaporn.go 1954) เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 52 16:17:55

ความคิดเห็นที่ 23 สวยมาก ๆ เหมือนเคยค่ะ จากคุณ : i_lllive เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 52 17:58:06

ความคิดเห็นที่ 24 คุณติวเตอร์ตู่ว่าทะเลสาบนี้งามคุ้มค่ากับการไปเยือนหรือเปล่าครับ นอกจากความมีชื่อเสียงของรูปปั้นTatsuko จากคุณ : toytrip เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 52 21:43:37

ความคิดเห็นที่ 25 คุณtoytrip... ถามตรง ก็ตอบตรงครับ .... ขอบคาวาคูจิโกะ มากกว่าครับ ที่คาวา ฯ ได้เปรียบก็คือเรื่องกิจกรรม มันมีมากมายหลายอย่าง ส่วนที่นี่ มีเพียงขี่จักรยาน และ ล่องเรืออะครับ ... แต่จุดดีของที่นี่ก็คือ ความสงบ ไม่พลุกพล่านครับผม ... ถ้าจะให้คุ้ม ต้องควบกับ Nyuto Onsen ครับ ... คุ้มสุดๆ จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 52 21:57:21

ความคิดเห็นที่ 26 แสดงว่าน่าจะเป็นอย่างที่ผมคิดไว้ ว่าที่ทะเลสาบนี้มีชื่อเสียงมาก แต่ความสวยไม่เท่ากับชื่อเสียง เพราะดูจากรูปแล้วยังไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่ถ้ามีโอกาสก็จะไปครับ จากคุณ : toytrip เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 52 22:23:51

ความคิดเห็นที่ 27 ภาพสวยมากๆเลยค่ะ อย่างกับอยู่ในเมืองในฝันเลยค่ะ คุณติวเตอร์ตู่ไม่เปิดทริปสอนถ่ายภาพบ้างหรอคะ เราขอสมัครเป็นคนแรก ชอบรูปที่คุณติวเตอร์ตู่ถ่ายมากๆเลยค่ะ ดูแล้วรู้สึกอบอุ่นมากๆเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับรีวิวสวยๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ ^v^ จากคุณ : โมกุจัง เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 00:13:10

ความคิดเห็นที่ 28 อย่างที่ว่ากันล่ะค่ะ ไปแล้วต้องไปแช่ onsen ต่อ >_< ถึงจะเตมสูตร บางคนที่เล่นสกีเป็น หน้าหนาวคงครบ set ค่ะ แช่อ็นเซ็น เล่นสกี ชมทะเลสาป จากคุณ : ก่วยก๊วยตาลสด เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 13:16:22