ความคิดเห็นที่ 1 เมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา จขกท.ได้ไปแต๊แดที่นิวยอร์คอีกคำรบ หลังจากที่เพิ่งพาแม่กับน้องสาวไปมาเที่ยวหมาดๆ แต่งวดนี้อิฉันไปกับอดีตรูมเมทนามว่าน้องปอ และคุณแม่น้องปอฮ่ะ จขกท.มีประสบการณ์เที่ยวกับแม่ลูกคู่นี้มาก่อน ประทับใจในความเลี้ยงง่าย ไปไหนไปกัน กินไหนกินด้วย ของสองแม่ลูกมากๆ พอน้องปอชวนเข้าหน่อย อิฉันก็เลยกระโดดงับคำเชิญอย่างไม่ต้องคิด ฮี่ๆ จขกท.มาถึงนิวยอร์คคืนวันศุกร์ ปรากฎว่าคุณแม่ผู้ซึ่งเดินเที่ยวมาตั้งแต่เช้า นอนหมดสภาพไปเรียบร้อยแล้ว -_- ปล่อยให้อิฉันกับน้องปอควงคู่กันไปถล่มร้าน WD~50 ร้านอาหาร Michelin 1 star จุ๋มจิ๋ม แต่เพียงลำพัง จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 11:42:17

ความคิดเห็นที่ 2 อิฉันเพิ่งมารู้จักร้าน WD~50 ก็ตอนนั่งดูรายการแข่งทำอาหาร Top Chef เนี่ยแหล่ะค่ะ ดูแล้วประทับใจเชฟ Wylie Dufresne (คนซ้ายมือ) ที่โผล่มาเป็นกรรมการรับเชิญมาก เพราะแกช่างเนิร์ดได้ใจ >_< ส่วน Alex Stupak คุณพี่คนขวามือที่มาดเท่ยังกะนักร้องวงร็อคนี่ บอกแล้วจะเชื่อไหม ว่าเค้าคือ Pastry chef (เชฟขนม) ของร้านค่ะ โฮกกกกกก จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 11:42:47

ความคิดเห็นที่ 3 เมนูร้านนี้มี 2 แบบค่ะ คือแบบสั่งเป็นจานๆ กับแบบ Tasting Menu ซึ่งจะเสิร์ฟกันฉ่ำอุรา 11 คอร์ส เนื่องจากรายการอาหารใน Tasting Menu ดูน่ากินกว่าเมนูปกติบานตะเกียง แถมเราเหลียวซ้ายขวาหน้าหลัง เหมือนกับทุกคนในร้านจะสั่ง Tasting Menu กันหมดเลย ยิ่งเจอพนักงานล่ออีกว่า ถ้าสั่ง Tasting Menu แล้ว ไวน์ลด 50% ทุกขวดเลยนะยู โฮ่โฮ่โฮ่ แบบนี้(เงินในกระเป๋าอิฉัน)จะเหลือเหรอฮะ T^T ระหว่างรออาหาร ก็นั่งแทะแผ่นขนมปังกรอบโรยงานี่ไปก่อน จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 11:43:07

ความคิดเห็นที่ 4 จานที่ 1: Surf clam galangal soup, hen o'the woods, coconut เปิดศักราชกันด้วยซุปหน้าตาแปลก รสชาติก็แปลก ออกปะแล่มๆ เผ็ดนิดๆ ส่วนที่เห็นเป็นเส้นๆนั่นแหล่ะค่ะ หอย clam ปล.เนื่องจากทริปนี้ ไม่มีกูรูด้านการหม่ำอย่างเพื่อนมอคู่หูมาด้วย ฉะนั้นเพื่อนๆช่วยกรุณาทำใจกับลิ้นทุยๆ และการบรรยายอาหารแบบทื่อๆของ จขกท.ละกันเน้อ -_- งวดนี้อุตส่าห์ลงทุนจดโน้ตมานิดโหน่ยด้วย กลัวลืม แต่โน๊ตอิฉันนี่ เดะๆไปเลย เมื่อมาเจอคู่ผัวตัวเมียชาวฝรั่งเศสโต๊ะข้างๆ เพราะคุณสามีจดโน๊ตได้อย่างจริงจังเมามันมาก น้องปอแอบชะโงกดูโน๊ตพี่ทั่นแล้วกระซิบบอกว่า นอกจากอีจะเขียนบรรยายเป็นชุดแล้ว ยังมีให้คะแนนอาหารแต่ละจาน โดยแบ่งคะแนนเป็น 4 สาขาย่อยๆ (รสชาติ, การจัดจาน ฯลฯ) อีกด้วย! เอร๊ยยยยย เจอของจริงแล้วมั๊ยล่ะตู >_< จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 11:43:29

ความคิดเห็นที่ 5 จานที่ 2: Everything bagel, smoked salmon threads, crispy cream cheese Everything bagel คือเบเกิ้ลรุ่นใส่ทุกอย่าง (งา, หัวหอม, กระเทียม, poppy seeds ฯลฯ) แต่ Everything bagel ของ WD~50 มันบ่ใช่เบเกิ้ลน่ะสิฮะ เพราะมันคือไอติมเจ้าค่ะพี่น้อง! โดยเขาจะเอาเบเกิ้ลไปแช่น้ำนม แล้วเอาน้ำนมนั่นมาทำเป็นไอติมอีกที รสชาติก็ออกมาหวานๆเค็มๆคล้ายเบเกิ้ลอยู่นะนี่ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 11:43:56

ความคิดเห็นที่ 6 ร้านปกติเขาจะขายเบเกิ้ลทาครีมชีส กินกับแซลมอนรมควัน แต่ร้านไม่ปกติอย่าง WD~50 นี่ ครีมชีสแทนที่จะมาเป็นกระบะ กลับมาเป็นแผ่นบางเจี๊ยบไปแทน แถมแซลมอนก็อวตารมาในสภาพ แซลมอนหยองอีกตะหาก(ขุยๆสีเหลืองๆในภาพนี่แหล่ะค่ะ) ประหลาดได้โล่ดีจริงๆ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 11:44:46

ความคิดเห็นที่ 7 จานที่ 3: Foie gras, passionfruit, chinese celery จานต่อมาเป็น Foie gras ค่ะ โปะและรองด้วยขึ้นฉ่าย เจ้าขึ้นฉ่ายที่รองน้อง Foie gras เนี่ย เขาทอดออกมาได้กรุบๆกรอบๆ หวานๆหน่อย ช่วยแก้เลี่ยน Foie gras ได้เป็นอย่างดีเลยเชียว จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 11:45:11

ความคิดเห็นที่ 8 ส่วน Foie gras ก็รสชาติเนียน นุ่มลิ้นมากมาย แถมยังมีเซอร์ไพรส์ เป็นซอส passionfruit (เสาวรส) ค่ะ รสชาติเปรี้ยวอมหวานเข้ากันกับ Foie gras อย่างไม่น่าเชื่อ แต่แอบคิดว่าร้านให้ซอสเยอะไปนิดอ่ะ อิฉันว่าแค่ Foie gras แตะๆซอสหน่อยก็อาหย่อยพอแล้วนา จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 11:45:32

ความคิดเห็นที่ 9 จานที่ 4: Scrambled egg ravioli, charred avocado, kindai kampachi ตอน Wylie Dufresne มาออกรายการ Top Chef แกชอบพูดว่ามื้อเช้า เป็นมื้อที่แกเอ็นจอยที่สุด และอาหารจานโปรดที่ขอให้ได้กินก่อนตาย ก็คืออาหารง่ายๆพื้นๆอย่าง Egg Benedict นั่นแล (หรือเพราะแกเบื่ออาหารบ้าพลังที่แกทำอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันแล้วหว่า กร๊ากกกกก) ความรักที่มีต่ออาหารเช้าของ Wylie Dufresne เลยลามมาถึงจานนี้ Scrambled egg ravioli ที่ว่า ก็คือออมเล็ทที่ยัดไส้ไข่คนอีกที แปะด้วยปลาคัมปาจิดิบสดๆ 1 ชิ้น เสิร์ฟพร้อมกับอโวคาโด และที่ขาดไม่ได้ก็คือ มันฝรั่งทอด เพียงแต่แทนที่จะมาเป็นคำโตๆแบบที่เคยกิน ของร้านนี้มันมาในรูปเกล็ดเล็กๆๆๆๆเจ้าค่ะ สับได้ละเอียดโพดๆ แถมทอดได้กรุบๆ ไม่มีน้ำมันเยิ้มเลยด้วยอีก ทำได้ไงเนี่ย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 11:45:58

ความคิดเห็นที่ 10 จานที่ 5: Cold fried chicken, buttermilk-ricotta, tabasco, caviar จานที่ผ่านๆมาว่าแปลกแล้ว จานนี้ก็โหดมันฮาไม่แพ้กัน เพราะมันคือไก่ทอด รุ่นกรอบนอก เย็นใน!! เนื้อไก่ข้างในเย็นแต่ดันนุ่ม ส่วนเปลือกนอกกลับอุ่นกรอบอร่อย นั่นก็เพราะเนื้อไก่ด้านใน cook ด้วยวิธี sous vide (sous vide เป็นเทคนิคที่เอาเนื้อใส่ในถุงพลาสติก ซีลอากาศออก แล้วคุ้กในน้ำอุ่นเป็นเวลานานๆ ซึ่งจะทำให้เนื้อนุ่ม เพราะมันหรือน้ำของเนื้อไม่หายไปไหนอีกด้วย) แล้วจึงค่อยเอาไก่มาชุบแป้ง แล้วทอดให้กรอบแค่ข้างนอก (เพราะข้างในสุกแล้ว) ยิ่งจิ้มกินกับซอส tabasco เผ็ดๆนี่ อร่อยดีแท้ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 11:46:17

ความคิดเห็นที่ 11 จานที่ 6: Perch, kohlrabi, "dirty" grape, cocoa nib จานนี้เป็นปลา Perch เสิร์ฟพร้อม fermented grape sauce (แล้ว fermented grape ต่างกับไวน์ตรงไหน วานบอก -_-) แต่ขออภัย จำบ่ได้จริงๆว่ารสชาติเป็นไง ฉะนั้นผ่านโลดนะเคอะ -_- จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 11:46:36

ความคิดเห็นที่ 12 จานที่ 7: Duck leg, popcorn pudding, kalamansi, lovage แต่จานนี้ จขกท.จำได้แม่นเลยฮ่ะ เพราะอร่อยมากกกกกก จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 11:47:03

ความคิดเห็นที่ 13 ขาเป็ด slice มาบางๆจนกลายสภาพเป็นแฮมเป็ด ก้าบก้าบ แต่เป็นแฮมที่เหนียวนุ่มชุ่มปาก รสชาติกลมกล่อมมั่กๆ โรยด้วยผง popcorn pudding ที่รสชาติเหมือน popcorn จริงๆเน้อ สิบอกไห่ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 11:47:21

ความคิดเห็นที่ 14 แถมเปิดมาข้างใต้ยังมีอีกสารพัดให้หม่ำกันต่อ ที่ จขกท.ติดใจที่สุดก็คือ kalamansi ซึ่งเป็น japanese citrus ที่เขาเอามาปรุงรสกับ palm seed (ลูกชิดบ้านเราดีๆนี่เอง) อาหย่อย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 11:48:00

ความคิดเห็นที่ 15 จานที่ 8: Lamb loin, black garlic romesco, pickled ramp, dried soybean ปิดท้ายรายการของคาวกันที่สันนอกน้องแกะ คุ้กออกมากำลังดี เนื้อนุ่มอร่อย เข้ากันกับ black garlic romesco ซอสดำๆรสกระเทียมสะใจที่เสิร์ฟมาด้วยกันมากๆ ยิ่งมาเจอ edamame (ถั่วแระญี่ปุ่น) กรอบกรุบ สับละเอียดด้วยแล้ว โอ้ว์ ฆ่าฉัน ฆ่าฉันให้ตายดีกว่า (ส่วนน้องปอก็นั่งส่ายหัว ด้วยความสงสารพนักงานหั่นผักร้านนี้ค่ะ กร๊ากกกก) ตอนแรกเห็นอาหารมาเป็นจานเล็กๆแล้ว ก็ยังหวั่นๆว่าจะกินอิ่มไหมเนี่ย 11 คอร์ส แต่เอาเข้าจริง อิ่มแทบอ้วกค่ะทั่น จานหลังๆอิฉันก็กินไม่หมด(ซะทีเดียว แฮ่) ส่วนน้องปอนั้นจอดไปตั้งแต่ขาเป็ดแล้ว แบบนี้จะกินขนมไหวมั๊ยเนี่ย เง้อออ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 11:48:16

ความคิดเห็นที่ 16 จานที่ 9: Vanilla ice cream, balsamic, raspberry เจอไอติมจานน้อยนี่เข้าไป ไม่ไหวก็ต้องไหวแล้วค่ะ! >_< เพราะอิฉันชอบกินติมเป็นชีวิตจิตใจ แถมยังมีเกล็ดราสเบอร์รี่เม็ดละเอียดๆมาให้อีก โฮกกกก อิฉันล่ะอยากจะขอซื้อผงราสเบอร์รี่กลับไปโรยไอติมที่บ้านมากๆ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 11:49:31

ความคิดเห็นที่ 17 ยังไม่จบฮะ ข้างในไอติมยังยัดไส้ซอส balsamic มาให้ด้วย (balsamic เดียวกับที่ใส่น้ำสลัดนั่นแหล่ะโยม) รสชาติเปรี้ยวๆของบอลซามิค เข้ากับไอติมวานิลลาอย่างไม่น่าเชื่อ คิดไปได้อ่ะเฮีย >_< เอาวะ ทำผงราสเบอร์รี่ไม่เป็น กลับบ้านก็เอา balsamic ราดไอติมแทน hot fudge ไปก่อนละกัน กร๊ากกกก จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 11:50:00

ความคิดเห็นที่ 18 จานที่ 10: Hazelnut tart, coconut, chocolate, chicory Hazelnut tart รสชาติเข้มข้นสะใจมากๆ เพิ่มความมันด้วยครีมมะพร้าวด้านล่าง ที่หวานๆเค็มๆมันๆแอบเปรี้ยวนิดโหน่ย เสิร์ฟพร้อมกับธุลีและเม็ดเฮเซลนัท มะพร้าวขูดแห้ง และ chicory โฟม (chicory เป็นพืชชนิดหนึ่่ง ที่มีกลิ่นและรสคล้ายกาแฟค่ะ) โอ้ Holy Trinity ชัดๆ ช็อกโกแลต เฮเซลนัท กาแฟ(ปลอม) กี๊ซซซซซซ จขกท.หันมาอีกที น้องปอที่ตะกี้เพิ่งบ่นอิ่มๆ ไม่ไหวแล้ว กำลังตัก tart คำสุดท้ายเข้าปากพอดี "หนูอิ่มจริงๆนะพี่ แต่มันอร่อยอ่ะ หนูเลยต้องหาที่ในกระเพราะน้อยๆของหนูให้น้อง tart จนได้" จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 11:50:35

ความคิดเห็นที่ 19 จานที่ 11: Caramelized brioche, apricot, buttercream, lemon thyme จานสุดท้ายแล้วจ้าพี่น้อง T^T เชฟเลยสั่งลาด้วย brioche (ขนมปังฝรั่งเศส รุ่นหนักไข่และเนย) สอดไส้ apple puree หวานกลมกล่อม ควบกับ buttercream สุดหวานมัน แก้เลี่ยนด้วยแอปริค็อทโฟม และ lemon thyme sorbet ล้างปาก กินแล้วสดชื่นฉุดๆ สรุปงานนี้ พี่ชอน้องปอปลื้ม Appetizer กับของหวานมั่กๆ ส่วนอาหารจานหลักอร่อยแต่ไม่ได้กรี๊ดมาก (หรือเพราะมันแปลกไม่พอ ) ส่วนถ้าใครอยากลองของ แต่ไม่พร้อมที่จะสวาปาม 11 จานรวดแล้วล่ะก็ ก็สามารถมากินขนมที่ร้านนี้ได้ในราคา 3 คอร์ส $38/คนนะฮะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 11:50:56

ความคิดเห็นที่ 20 แก้ไขเมื่อ 12 ธ.ค. 52 11:51:50 จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 11:51:22

ความคิดเห็นที่ 21 ส่วนนี่ของแถม #1 เจ้าค่ะ Chocolate shortbread, milk ice cream เหมือนกินช็อกโกแลตทรัฟเฟิ้ลเลยค่ะ แต่ที่กรี๊ดสลบคือไอติมนมข้นหวานข้างในนี่สิ งื้ดๆ T^T จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 11:52:13

ความคิดเห็นที่ 22 มาดูของแถม #2 มั่ง มันคือ chocolate packets... จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 11:52:31

ความคิดเห็นที่ 23 รุ่นกินได้ทั้งไส้และซอง! ข้างในเป็นผงช็อกโกแลตค่ะ ส่วนซองรสช็อคโก้ ก็หนึบๆเคี้ยวทีติดฟันเรย -_- สิริรวม มื้อนี้ 11 จาน +1 เราเริ่มหม่ำกันตั้งกะสามทุ่มครึ่ง กว่าจะกินจบปาไปตีหนึ่งโน่น! >_< แต่เรายังไม่ใช่โต๊ะสุดท้ายที่กินเสร็จนะฮะ เพราะคู่ผัวเมียฝรั่งเศสโต๊ะข้างๆยังวิเคราะห์สถานการณ์กันไม่เลิก กร๊ากกกก ระหว่างที่รอเช็คอยู่นั่นเอง คุณเชฟหย่าย Wylie Dufresne ก็เดินออกมาทักทายอีกโต๊ะนึง ก่อนจะเดินหายกลับเข้าครัวไป อดถ่ายรูปด้วยเลย เสียใจ เพราะตัวจริงแกดูเนิร์ดเหมือนในทีวีไม่มีผิดเลยอ่ะ น่าร๊ากกกกก อิอิ แต่แหม เป็นเชฟนี่เหนื่อยไม่ตลกเลยนะคะเนี่ย ตีหนึ่งยังไม่ได้ปิดร้าน กี่โมงกว่าจะได้กลับบ้านวะเนี่ย -_- ส่วนพี่ชอน้องปอ คลานกลับโรงแรมไปก็เจอคุณแม่นั่งรออยู่ด้วยความเป็นห่วง ว่าทำไมลูกสาวยังไม่กลับซะที พวกหนูไม่ได้แอบหนีไปสำมะเลเทเมาที่ไหน ไปกินอย่างเดียวจริงๆนะค๊าคุณแม่ ไม่เชื่อดูพุงที่ปลิ้นออกมาเป็นหลักฐานได้เลย อิอิ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 11:52:56

ความคิดเห็นที่ 24 หลังจากกินมาราธอนไปเมื่อคืน เช้าวันต่อมาเราเลยกะว่าจะไปเดินย่อยอาหารที่ย่านบรูคลินซะหน่อย โรงแรม Marriott Marquis ของเราตั้งอยู่หน้า Times Square พอดีเลยค่ะทั่น ออกมาก็เจอคิวซื้อตั๋วบรอดเวย์ยาวเลย เหมือนว่าถ้าโชว์ไหนมีตั๋วเหลือ เขาก็จะเอามาขายในราคาพิเศษที่นี่แหล่ะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 11:53:30

ความคิดเห็นที่ 25 บรอดเวย์เหรอ เก็บไว้ก่อนละกัน ขอนั่ง subway มุ่งหน้าสู่ย่าน Brooklyn ก่อนเด้อ สถานี subway ในนิวยอร์คนี่จะโทรมๆหน่อยค่ะ ไม่ได้สวยหรูแบบบ้านเราหรอกฮ่ะ -_- จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 11:53:57

ความคิดเห็นที่ 26 อ้าว เช้าวันเสาร์นี่ไม่มีใครไป Brooklyn เป็นเพื่อนหนูเลยเหรอ อุตส่าห์จะมาเปลี่ยนบรรยากาศเที่ยวบรูคลินซะหน่อย เพราะเราสามคนมานิวยอร์คหลายหนแล้ว แต่ไม่เคยได้โผล่หัวออกนอกแมนฮัตตันเลย -_- จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 11:54:42

ความคิดเห็นที่ 27 แค่ออกมาจากสถานี Brooklyn Museum เราก็รู้สึกได้ถึงความแตกต่าง ถนนโล่ง ดูเงียบๆ ไม่วุ่นวายดี จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 11:55:12

ความคิดเห็นที่ 28 แต่ก่อนอื่นเราต้องพาคุณแม่น้องปอไปหม่ำข้าวเช้ากันก่อนค่ะที่ร้าน Tom's Restaurant อร๊ายยย ตกแต่งหน้าร้านได้เข้ากับบรรยากาศฤดูใบไม้ร่วงมั่กๆ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 11:55:39

ความคิดเห็นที่ 29 ประดับประดาร้านซะน่าเอ็นดูขนาดนี้ แถมคนต่อคิวยาวทะลุออกมาถึงด้านหน้า หาร้านไม่เจอก็ขำแล้วฮ่ะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 11:56:28

ความคิดเห็นที่ 30 เห็นคิวยาวๆแล้วก็อย่าได้กลัวค่ะ เพราะแถวไหลไปเร็วพอสมควร แถมยืนๆรออยู่ก็จะมีกาแฟร้อนๆมาเสิร์ฟให้ในระยะประชิด จิบกาแฟยังไม่ทันหมด เอาคุ้กกี้มาแจกให้กินแก้เบื่ออีก สักพักมาอีกแระ ทีนี้เป็นไส้กรอก ก่อนจะแจกส้มปิดท้าย!! >_< ขนาดคุณแม่น้องปอยังพูดเล่นเลยฮ่ะว่า "แม่ชักอิ่มแล้วอ่ะ เดินออกจากแถวตอนนี้จะเป็นไรมั๊ยเนี่ย" จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 11:57:14

ความคิดเห็นที่ 31 พนักงานร้านนี้ยิ้มแย้มแจ่มใส กระฉับกระเฉง เป็นกันเองมาก จนพวกเราสงสัยว่าเขาเทรนพนักงานกันยังไงหนอ แต่ก็ถึงบางอ้อเมื่อเจอลุงเจ้าของร้าน เพราะคุณลุงลั่ลล๊าน่ารักมากๆ (ตอนขอถ่ายรูปคู่ มีการ "ขอเวลาถอดแว่นก่อนนะหลาน เด๋วไม่หล่อ" ) น้องปอกระซิบด้วยค่ะว่า เวลามีเด็กๆเดินเข้าร้าน ลุงจะยื่นตังค์ให้เด็กๆ 25 เซ็นต์ แล้วบอกว่า "เอาไว้เป็นทุนเรียนมหาลัยนะหนู" น่ารักกว่านี้มีอีกมั๊ย >_< จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 11:57:59

ความคิดเห็นที่ 32 บริการแจ่ม ไหนดูซิว่าอาหารจะเจ๋งเป้งรึเปล่า ตอนต่อคิว เห็นบทความสรรเสริญเจ้า Egg Creams นี่ที่แปะอยู่เป็นตับข้างทางเดิน เราเลยสอยมาลองซะให้ ออกมาเป็นนมใส่น้ำเชื่อมวานิลลาและโซดาค่ะทั่น! อี๋ยยย รสชาติแปลก กระเหรี่ยงอย่างเราขอผ่านละกัน -_- จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 11:58:36

ความคิดเห็นที่ 33 ยังดีที่ได้อาหารเช้ามากู้ชีพไว้ได้ ไส้กรอกอาหย่อยยยยยยย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 11:58:58

ความคิดเห็นที่ 34 เมนูร้านนี้มีแพนเค้กให้เลือกเป็นสิบรส เราเลยสั่งแพนเค้กรสกล้วย-วอลนัทมา ซึ่งก็อร่อยเกินคาดค่ะ กัดแล้วได้กล้วยกับวอลนัทเป็นคำๆ ไม่ได้มาแต่วิญญาณกล้วยแต่อย่างใด แล้วก็ไม่ได้แข็งเป๊กจนติดคอด้วย ที่สำคัญอาหารร้านนี้ราคาถูกสบายกระเป๋า ช่างเป็นมื้อเช้าที่ประสบความสำเร็จเจงๆ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 11:59:26

ความคิดเห็นที่ 35 หม่ำเสร็จก็ถึงคิวเที่ยวแล้วจ้า เราเดินมายัง Brooklyn Botanic Gardens ที่อยู่ใกล้ๆร้านอาหารเช้า ถ้ามาก่อน 11 โมงเข้าฟรีด้วยนะฮะ (อันนี้แอบโกรธพี่ยาม เพราะเราไปถึงตอน 10:45am ไปถึงก็ยืนดูโบรชัวร์ เถียงกันว่าจะซื้อตั๋วชมสวนอย่างเดียว หรือควบมิวเซียมดี พอตกลงได้ พี่ยามบอกเข้าฟรีเฉย -*- ทำไมไม่รอให้เถียงกันจนถึง 11 โมงเลยล่ะครับโว้ย ) จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:00:13

ความคิดเห็นที่ 36 จุดขายของ Brooklyn Botanic Gardens อยู่ที่สวนญี่ปุ่นค่ะ แค่ประตูทางเข้า ก็ญี่ปุ่นสุดตรีนแล้ว จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:00:34

ความคิดเห็นที่ 37 มีศาลาริมน้ำ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:00:50

ความคิดเห็นที่ 38 มีสะพานน่าเอ็นดู จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:01:09

ความคิดเห็นที่ 39 มีต้นอะไรก็ไม่รู้ สวยเท่ดีจัง จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:01:28

ความคิดเห็นที่ 40 มีกระทั่งก็อปปี้ประตูศาลเจ้าอิซึคุชิม่า! เกร๊ยยยย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:01:52

ความคิดเห็นที่ 41 ไหนลองเดินเล่นรอบสระน้ำหน่อยซิ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:02:12

ความคิดเห็นที่ 42 ตอนแรกคิดว่ามาตอนตุลา จะมีบุญได้เห็นใบไม้เปลี่ยนสีที่นิวยอร์คบ้าง แต่ดันซวย ปีนี้ฝนตกตลอดศก ใบไม้ไม่สวยเลย เสียใจ มีแต่ต้นเมเปิ้ลญี่ปุ่นต้นเดียวในสวนที่ใบแดงแจ๋มาแต่ไกลเรย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:02:59

ความคิดเห็นที่ 43 สวนญี่ปุ่นของที่นี่ก็เล็กๆขำๆค่ะ เดินไม่ทันเหนื่อยก็ครบรอบสระแล้ว จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:03:26

ความคิดเห็นที่ 44 แต่บรรยากาศก็ไม่พลุกพล่านดี เหมาะกับการนั่งกระดิกเท้าเล่นเย็นๆใจ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:03:49

ความคิดเห็นที่ 45 ดูศาลาริมน้ำกันชัดๆค่ะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:04:15

ความคิดเห็นที่ 46 จากสวนญี่ปุ่น เราก็ไปเดินเล่นตรงส่วนอื่นของ Botanic Gardens กันมั่ง จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:06:23

ความคิดเห็นที่ 47 สงสัยเพราะวันที่ไปอากาศหนาว คนเลยนอนอยู่บ้านกันหมดกระมัง เงียบเชียว -_- จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:06:45

ความคิดเห็นที่ 48 เข้ามาชมครับ น่าทานทุกจานเลยครับ อธิบายได้ละเอียดดีครับ จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:07:24

ความคิดเห็นที่ 49 อูยยยย ลมเย็น เข้าไปหลบลมหนาวข้างใน Brooklyn Museum ซึ่งอยู่ติดกับ Botanic Gardens ดีกว่า จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:07:39

ความคิดเห็นที่ 50 #ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมชมค่ะคุณ ม่วงมหากาฬ (ลูบพุง 1 ที) คอลเล็คชั่นของ Brooklyn Museum นี่จับฉ่ายน้องๆ Metropolitan Museum of Art เลยนะฮะ ถึงงานที่มีจะดังไม่เท่าพี่ใหญ่อย่าง MET แต่น้องบรูคลินมิวเซียมขอความฮาเข้าสู้เจ้าค่ะ!! อุ่นเครื่องกันด้วย African Art ซึ่งอยู่ชั้นล่างกันก่อน มีหน้ากากแอฟริกันสารพัดเผ่ามาให้ดูกันจนเปรม จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:08:43

ความคิดเห็นที่ 51 อันนี้เหมือนรูปของปิกัสโซ่ที่ MOMA ในทู้ที่แล้วมั๊ยฮะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:09:13

ความคิดเห็นที่ 52 แต่หน้ากากแอฟริกันรุ่นนี้อิฉันไม่เคยเห็นค่ะ เป็นของชนเผ่านึงจากไนจีเรีย ที่เห็นเป็นลวดลายสีสันสดใสนั่นเนี่ย ทำจากลูกปัดเม็ดจิ๋วล้วนๆเน้อ ถึกโคตร >_< จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:09:31

ความคิดเห็นที่ 53 ส่วนนี่เป็นกางเขนของชาวคริสต์ในเอธิโอเปียค่ะ ลวดลายช่างกุ๊กกิ๊กคิขุกาโม่เหลือเกิน จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:09:50

ความคิดเห็นที่ 54 มาดูนิทรรศการเอาใจสาวๆกันบ้างค่ะ ตอนที่ไปทางมิวเซียมจัดแสดงเครื่องประดับ ซึ่งเป็นผลงานของ Art Smith ดีไซเนอร์เครื่องประดับชื่อดังในยุค 40s - 70s จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:10:13

ความคิดเห็นที่ 55 ป้ายนิทรรศการยืนยันว่า ผลงานของ Art Smith ถึงจะดูใหญ่เบ้ง แต่ว่าน้ำหนักเบา ใส่ได้จริงๆน๊า จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:10:33

ความคิดเห็นที่ 56 โอว์ อาร์ตตัวพ่อจริงๆเลย สร้อยอันนี้น่าจะทูอินวันนะฮะ ใช้สวมใส่เพื่อความกิ๊บเก๋ไม่พอ ยังสามารถใช้เป็นอาวุธยามคับขันอีกด้วย โจรปล้นเรอะ อย่าได้กลัว เอาสร้อยทิ่มตาโจรซะจึ้กสองจึ้กโลด จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:11:04

ความคิดเห็นที่ 57 จขกท.ชอบอันนี้สุดฮะ 'Galaxy' Necklace เท่สมชื่อเจงๆ >_< จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:11:26

ความคิดเห็นที่ 58 แต่สุดยอดไฮไลต์ของมิวเซียมในสายตา จขกท. ต้องนี่เลยครับท่าน กร๊ากกกกกกกกกกก จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:12:01

ความคิดเห็นที่ 59 โอ้ว นานๆจะได้ปาดคุณ ha-meow ซักที ขอปาดก่อนอ่านนะค้า จากคุณ : yuki_shimi เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:12:24

ความคิดเห็นที่ 60 ภาพในคห.ข้างบนทั้งหมดนั่น เป็นผลงานของ Kehinde Wiley ศิลปินแอฟริกันอเมริกันชื่อดังเจ้าค่ะ จุดขายของพี่ทั่น คือเอาภาพเขียนยุคเก่าๆ อย่างเรเนอซองส์ บาโร้ก นีโอคลาสสิกมารีไซเคิล แต่เปลี่ยนตัวละครจากนักบุญและเทวดาทั้งหลาย มาเป็นพี่ดำเดินดินกินเคเอฟซีแทน! จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:12:28

ความคิดเห็นที่ 61 ใครเคยไปเที่ยววัดเที่ยววังในยุโรป คงจะคุ้นตากันภาพวาดเพดานที่มีเทวดานางฟ้าลอยตุ๊บป่องอยู่ใช่มั๊ยฮะ มาเจอรูปนี้หน่อยเป็นไง! บาโร้กกรุณาหลบ ร็อคโคโค่กรุณาหลีก พ.ศ.นี้ต้องฮิปฮอปแร็ปโย่เท่านั้น จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:14:33

ความคิดเห็นที่ 62 #เชิญปาดเขียดกบได้ตามสบายเลยค่าคุณ yuki_shimi มหกรรมของแปลกยังไม่จบแค่นั้นค่ะ เรายังมีวีนัสผิวสีกะละแม ของศิลปินหญิง Mickalene Thomas ให้ยลอีกตะหาก โอ้ว Bling Bling จริงๆเลย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:15:59

ความคิดเห็นที่ 63 รู้สึกว่าที่นี่มีผลงานของศิลปินผิวดำเยอะดีจริงๆ ดูแล้วก็น่าสนใจไปอีกแบบนะฮะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:16:24

ความคิดเห็นที่ 64 ยังไม่พอค่ะ ในมิวเซียมยังมีส่วนที่นำเสนอ Feminist Art โดยเฉพาะอีกด้วย Feminist Art คืออะไร จขกท.ก็แบะๆเหมือนกัน แบบนี้ต้องพิสูจน์! ผลงานเด่นเห็นเขาว่าคือ The Dinner Party โดย Judy Chicago ที่เห็นอยู่นี่แหล่ะค่ะ โดยบนโต๊ะจะมีจาน 39 ใบพร้อมกับชื่อผู้หญิง 39 คน ซึ่งล้วนแต่เป็นนางในตำนาน หรือคนสำคัญในประวัติศาสตร์ ไม่นับอีก 999 ชื่อที่เขียนอยู่ตามพื้นกระเบื้องอีกด้วย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:16:49

ความคิดเห็นที่ 65 ส่วนจานบนโต๊ะเหมือนอะไร ก็เอ่อ...เชิญตีความกันเอาเองละกันค่ะ จานนี้อุทิศให้แก่แอมะซอน เผ่านักรบหญิงในตำนานซึ่งว่ากันว่า สาวๆนักรบจะโดนตัดนมไปข้าง เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคในการยิงธนู เอร๊ยยย >_< จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:17:12

ความคิดเห็นที่ 66 รับชมแต่ของแปลกๆจนสะใจแล้ว กลับมาดูงานปกติๆกันบ้างเน้อ อย่างประติมากรรมนูนต่ำของอารยธรรม Assyrian นี่ไง อายุอานามของงานชิ้นนี้ ก็เกือบๆ 3 พันปีได้ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:17:45

ความคิดเห็นที่ 67 แกะกันได้ถึกจริงๆพับเผื่อย แต่ดูแล้ว จขกท.มีคำถามฮะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:18:19

ความคิดเห็นที่ 68 ...ว่าทำไมในรูปต้องหิ้วกระเป๋าหลุยส์โมโนแกรมกันทุกคนเลยง่ะ ป้าหนอนช่วยตอบที จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:18:40

ความคิดเห็นที่ 69 จากอัซซีเรียก็มาดูอียิปต์กันมั่ง จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:19:02

ความคิดเห็นที่ 70 เอ ทำไปรูปสลักอียิปต์ถึงชอบดั้งหายไปทั้งแถบล่ะนี่ อันนี้ทางมิวเซียมเขาตั้งข้อสันนิษฐานไว้สองประการค่ะ คือ 1.) รูปปั้นเป็นตัวแทนของวิญญาณที่ลาโลกไปแล้ว ฉะนั้นโจทย์เก่าของคนตาย จึงแอบมาหักจมูกของรูปปั้นทิ้งซะ เผื่อวิญญาณกลับมาจะได้คืนชีพไม่ได้ หรือ 2.) เวลารูปปั้นล้ม จมูกเป็นส่วนแรกที่ปะทะพื้นเลยมักไปก่อนชาวบ้าน -_- จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:21:15

ความคิดเห็นที่ 71 รูปข้างบนนั่นเป็นศิลปะอียิปต์ยุคต้นๆค่ะ ประมาณ 2400 ปีก่อนคริสตกาล ส่วน Nespanetjerenpare มัมมี่สีสันคัลเลอร์ฟูลนี่จะใหม่หน่อยค่ะ แค่ประมาณ 900-700 ปีก่อนคริสตกาลเท่านั้น(เอง) จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:21:43

ความคิดเห็นที่ 72 โลงนี้มีแยกร่างโชว์ด้วย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:22:19

ความคิดเห็นที่ 73 ภาพวาดก็มีให้ดูเช่นกัน สีสันสดใสมากๆ เหลือเชื่อว่ารูปนี้อายุกว่า 3 พันปีแล้วนะนี่ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:22:40

ความคิดเห็นที่ 74 ปิดท้ายกันที่ European Paintings ซึ่งจัดแสดงอยู่รอบๆ Beaux-Arts Court กันค่ะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:23:27

ความคิดเห็นที่ 75 ซึ่งก็มีภาพเขียนให้ชมกันนิดหน่อยพอเป็นพิธี จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:23:47

ความคิดเห็นที่ 76 ฉะนั้น จขกท.ก็ขอคัดลงมาลงทู้พอเป็นพิธีเช่นกันฮะ The Doge's Palace ของ Monet เจ้าเก่าค่ะ อิฉันชอบภาพสะท้อนของวังบนผิวน้ำมั่กๆ มันดูเป็นประกายวิบๆดีจัง จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:24:09

ความคิดเห็นที่ 77 ส่วนภาพ St. Lawrence นี่ อิฉันถ่ายมาฝากเพื่อนมอสุดเลิฟเจ้าค่ะ เซ็นต์ลอเร็นซ์เป็นชาวคริสเตียน เลยโดนทหารโรมันประหารด้วยการย่างไฟทั้งเป็น เพราะไม่ยอมเปลี่ยนศาสนา ขนาดโดนปิ้งจนเกรียม แกยังตะโกนใส่ทหารโรมันอย่างแมนว่า "ด้านนี้สุกแล้ว กลับข้างได้ยัง" เซ็นต์ลอเร็นซ์เลยได้รับการนับถือในฐานะ patron saint แห่งการปิ้งๆย่างๆไปเลยฮ่ะ แม่ครัวหัวป่าก์อย่างเพื่อนมอเลยร่ำๆว่า อยากได้รูปเซ็นต์ลอเร็นซ์มาสักการะในครัวเสียหน่อย กร๊ากกก จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:24:38

ความคิดเห็นที่ 78 หลังจากดู European Paintings จบ พวกเราก็ตัดสินใจ เผ่นดีกว่า หนูหิวแล้ว >_< เราจึงตรงดิ่งไปยังตีนสะพานบรูคลิน ที่ตั้งของร้านพิซซ่าเจ้าดังชื่อ Grimaldi's กันค่ะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:24:59

ความคิดเห็นที่ 79 อะจ๊ากกกกกกก คิวเรอะนั่น! หลอกกันเล่นรึเปล่า จะบ่ายสามแล้วน๊าาาา >_< คิวพิซซ่าเจ้านี้ยาวไม่ตลกจริงๆค่ะ พวกเรายืนรออยู่ประมาณ 15-20 นาที แถวแทบไม่ขยับเลย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:25:24

ความคิดเห็นที่ 80 เจอเข้าไปแบบนี้ พวกเราเลยถอดใจไปกินร้านพิซซ่าข้างๆชื่อ Ignazio's ที่เอาไว้ดักคนใจป๊อดโดยเฉพาะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:27:10

ความคิดเห็นที่ 81 พิซซ่าร้านนี้ก็รสชาติไม่เลวเลยทีเดียวค่ะ แต่แหม อยากรู้จริงๆว่าของร้าน Grimaldi's มันจะอร่อยแค่ไหน คิวถึงได้ยาวนรกขนาดนั้น งวดหน้ามา แม่จะไปรอหน้าร้านตั้งกะ 10 โมงเช้าดีไหม จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:28:09

ความคิดเห็นที่ 82 ตอนแรกพวกเรากะว่า กินมื้อบ่ายเสร็จ จะไปเดินย่อยอาหารกันบน Brooklyn Bridge แต่ตอนนั้นอากาศหนาวมากกกกก เลยจำต้องล้มโครงการเดินข้ามสะพานไปโดยปริยาย เสียใจ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:28:36

ความคิดเห็นที่ 83 ยืนชมวิว skyline นิวยอร์คจากท่าน้ำริมฝั่ง Brooklyn แก้ขัดไปก่อนละกัน จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:29:06

ความคิดเห็นที่ 84 พร้อมกับหม่ำไอติมร้าน Brooklyn Ice Cream Factory แก้ช้ำใจแทนน้ำใบบัวบกไปด้วยในตัว จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:29:25

ความคิดเห็นที่ 85 เรานั่งประชุมกันในร้านไอติมว่า จะไปไหนต่อดี เผอิญน้องปอหื่นอยากกินปลาดิบที่ร้านโปรดชื่อ Yama ซึ่งครั้งล่าสุดที่เราไปด้วยกันนั้นคิวยาวมาก เราเลยลงมติว่า ไปกินปลาดิบตอนร้านเปิดห้าโมงเลยละกัน จะได้ไม่ต้องต่อคิว >_< เราเลยมาปิดท้ายรายการเขมือบประจำวันที่ร้าน Yama ซึ่งอยู่ใกล้ๆ Union Square ร้านนี้อยู่ชั้นกึ่งใต้ดิน หาป้ายชื่อร้านลำบากเล็กน้อย อยากกินของอร่อย ต้องสอดส่ายสายตาเจ้าค่ะ! จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:31:31

ความคิดเห็นที่ 86 ไปถึงก็ค้นพบว่า ตอนนี้ร้านเปิดสาขาใหม่อีก 2 สาขา และหนึ่งในนั้นอยู่ใกล้ๆโรงแรมของเราด้วย อ้าว -*- แต่อุตส่าห์มาถึงแล้วก็ต้องสั่งชุดปลาดิบมากิน 2 ชุดสิชิมิ ปลายังสดอร่อยเหมือนเดิม กรี๊ดดดดด จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:33:09

ความคิดเห็นที่ 87 ในที่สุดก็ผ่านไปแล้วอีกหนึ่งวัน สามมื้อ เย้ :D คุณแม่น้องปอก็สนุกสนานมาก "ทัวร์บรูคลินก็สนุกดีเหมือนกันนะ แปลกดีด้วย งวดหน้าเราไปเที่ยวย่าน Bronx (ย่านคนดำ!) กันบ้างดีกว่า!" เอ่อ...พูดเล่นพูดจริงคะคุณแม่ขา >_< #ขอบคุณคุณแตงโมน่ากินที่ทักตัวสะกดย่าน Bronx นะฮะ แก้ไขเมื่อ 12 ธ.ค. 52 23:04:08 จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:37:30

ความคิดเห็นที่ 88 สำหรับเรา ก็ได้เวลานอนแผ่พุงที่โรงแรมแล้วค่ะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:38:48

ความคิดเห็นที่ 89 แต่ราตรีนี้ยังเยาว์นักสำหรับนิวยอร์ค นครที่ไม่เคยหลับไหล และร้านอาหารที่ไม่เคยทำให้ผิดหวัง แฮ่ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:39:30

ความคิดเห็นที่ 90 ตอนหน้า จขกท.จะพาเพื่อนๆไปตะลุย MET มิวเซียมนะขอรับ ผู้รักศิลปะ โปรดติดตาม จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 12:40:03