 |
เครียดมากครับ อยากตาย ลูกค้าทัวร์ จะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย โทษฐานทำให้เขาไม่ได้ไปเที่ยว
|
|
เรื่องมันเกิดเมื่อปลายเดือน พฤศจิกายน 52 มีลูกค้าโทรมาสอบถามต้องการจะไปเที่ยว ปักกิ่ง ฮาร์บิ้น ช่วงปีใหม่ ผมในฐานะพนักงานขายในบริษัททัวร์แห่งหนึ่ง ก็ดูโปรแกรมให้เขา แต่ที่มันเต็มหมดแล้ว ผมจึงไปหาโปรแกรมของเพื่อนแต่ละที่ มาให้เขาเลือก ตอนนั้นเขาบอกว่า เอามาวันไหนก็ได้ ต้งแต่ 27, 28, 29, 30, 31 ธันวาคม 53 ซักวันหนึ่งให้มีที่ ผมก็ส่งโปรแกรมไปให้ทางเขาเลือก เขาถูกใจตัวโปรแกรม ปักกิ่ง กำแพงเมืองจีน Snow World บิน 29 ธ.ค. - 2 ม.ค. ราคา 22,900.- เขาตกลงใจเลือกตัวนี้ โดยที่ผมได้ ทำใบ Invoice เรียกเก็บค่ามัดจำ 5,000 บาท ภายในวันที่ 4 ธ.ค. และ เก็บเต็มจำนวน ภายในวันที่ 11 ธ.ค. ผมส่งใบ Invoice ไปให้เขาทางอีเมล์ และโทรแจ้งให้เขาทราบเรื่องที่ส่งใบ invoice ไปให้ ผมบอกเขาว่า วันเวลาชำระต่างๆดูในใบ invoice ได้เลยครับ
ทุกอย่างดำเนินไปได้ด้วยดี เก็บพาสปอร์ตเพื่อทำวีซ่า อะไรเสร็จหมดเรียบร้อยทุกอย่าง เวลาล่วงเลยจนถึงวันที่ 14 ธ.ค. ทางบัญชีแจ้งว่า ลูกค้ายังไม่ได้โอนเงินเต็มจำนวนมาให้ ผมเลยโทรไปสอบถาม แต่ผมไม่ได้โทรไปทวงเงิน ผมโทรไปบอกเขาเรื่องว่าได้รับพาสปอร์ตอะไรเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเขาบอกว่าเขาอยู่ภูเก็ต เขาสอบถามเรื่องโอนเต็มจำนวน ซึ่งผมยอมรับว่ามันเป็นความผิดของผมด้วยเหมือนกันที่ไม่หนักแน่น ให้เขาจ่ายวันนั้นเลย เพราะเข้าใจว่าไม่สะดวก ผมจึงแจ้งให้เขาว่าชำระวันศุกร์ก็ได้ เพราะโดยปรกติเวลาชำระค่ามัดจำไปแล้ว ก็หยวน หยวน ได้ซักสองสามวัน แต่มันไม่ได้เป็นอย่างเช่นทุกครั้ง เพราะเคสนี้ มีลูกค้าที่เป็น waiting list รอเสียบอยู่ และเขาจ่ายเต็มมาเรียบร้อยแล้ว ทางบริษัททัวร์ที่ผมส่งลูกค้าไปให้ แจ้งมาว่า ให้ลูกค้าผมโอนมาให้เลยที่จะได้ไม่หลุด ผมจึงโทรไปแจ้งลูกค้าให้โอนเงินทันที แต่ลูกค้าแจ้งว่าไม่ได้หรอก ไม่สะดวกมาก ขอรอโอนวันพรุ่งนี้เช้า ซึ่งผมก็เจรจาต่อรองกับทางบริษัททัวร์ที่ผมส่งไปว่าขอเป็นพรุ่งนี้เช้าก่อนสิบโมงนะ เขาก็ตกลง
วันรุ่งขึ้นลูกค้าก็โอนเงินมาให้ทั้งหมด ผมก็นำใบสลิป ไปให้ฝ่ายบัญชี ชำระเงิน ซึ่งถึงตรงนี้ มันก็หมดหน้าที่ผมแล้ว แต่มันยังไม่จบ เพราะที่ หลุด ผมไม่รู้แล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทางบริษัททัวร์ที่ผมส่งไป ก็มาคุยกับผมว่า ลูกค้าที่เสียบน่ะเป็นเพื่อนของเจ้าของบริษัท เลยใช้สิทธินี้ตัดที่เราไปเลย ซึ่งผมก็ทำอะไรไม่ได้ สิ่งที่ทำได้ก็คือหาที่นั่งให้เขา แต่แล้วก็ไม่มีที่เหลืออยู่อีกเลย
สุดท้ายลูกค้าก็ไม่ยอมจะฟ้องเรียกค่าเสียหายท่าเดียว ลูกค้าเข้าใจว่าเจ้านายของผมที่ผมทำงานอยู่เป็นคนตัดที่เอาไปให้เพื่อนของเขาไป เขาก็ไม่ยอม อันนี้ผมก็ยอมรับผิดนะว่าผมก็ไม่เคลียร์กับเขาว่าเจ้านายคนไหน จนเขาโทรมาต่อว่ากับเจ้านายผมโดยตรง เจ้านายผมก็มาต่อว่าผมอีกว่าไปพูดแบบนั้นทำไม ถึงมันจะเป็นเรื่องจริงก็ ไม่ควรเล่าท้งหมดให้ลูกค้าฟังหรอก ให้เขาเข้าใจว่าที่โดนตัดก็พอแล้ว เพราะตอนนี้เขาเข้าใจผิดและจะมาเอาเรื่องกับเจ้านายผมที่ซึ่งก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วย
ผมแจ้งกับทางเขาว่าท้งหมดเป็นความผิดของผมคนเดียว ผมจึงยอมชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดหัวละพัน ส่วนค่าทัวร์ทั้งหมดจะโอนให้โดยเร็ว ซึ่ง ณ. วันนี้ก็ชำระให้เขาทั้งหมดแล้ว ยกเว้นค่าเสียหาย หัวละพันที่ผมต้องรับผิดชอบ ผมจะจ่ายให้เขาตอนเงินเดือนผมออก
แต่เขายังไม่จบ ยังไงก็จะทำให้บริษัทเสื่อมเสียชื่อเสียงให้ได้ และเรียกร้องค่าเสียหาย เพราะเขาไม่เคยคิดว่าเขาผิดอะไรเลย ทั้งๆที่ผมมีหลักฐานใบ invoice เรียกเก็บเงินทุกอย่าง แต่เขาไม่ยอมรับผิดชอบดูวันเวลา เอง จนปล่อยเวลาล่วงเลยจนที่หลุดไป ผมยอมรับว่าผมผิด ที่ไม่ตามให้เขาชำระเงินตามกำหนด แต่เขาก็ควรจะดูด้วยว่าเขาต้องชำระเงินภายในวันไหน ผมไม่ใช่บริษัทเร่งรัดหนี้สิน ที่จะคอยโทรทวงตามเงินตลอดเวลา ลูกค้ามีร้อยคนผมก็ต้องโทรตามทั้งร้อยคนเลยหรือเปล่า ทำไมเขาถึงไม่รับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองบ้าง และพอไม่ได้ดั่งที่ใจหวังไว้ ก็มาโทษนั่นโทษนี่ จะแจ้งความนั่นนี่ ให้บริษัท เสื่อมเสีย ทำมาหากินอะไรไม่ได้อีกต่อไป ผมอยากจะบอกเขามากๆว่า ผมไม่ได้ไปโกงอะไรเขาเลย เงินค่าทัวร์ผมก็โอนไปให้เขาเต็มจำนวน ไหนผมจะต้องเสียค่าความเสียหายที่เขาอ้างมาอีก แล้วเขายังจะเอาอะไรอีก ทำไมเขาเล่นไม่เลิกเลย
ผมเครียดมาก นอนร้องไห้แทบทุกคืน นอนก็นอนไม่หลับ คิดแต่เรื่องนี้ตลอดเวลา จนล้มป่วย เพิ่งออกจากโรงพยาบาลมา ออกมาแล้วก็ต้องมาเจอเรื่องเครียดๆแบบนี้อีก ผมไม่รู้จะทำยังไงแล้ว เครียดมาก ถ้าเขาเอาปืนมายิงผม ให้ตายๆไปเลย ผมก็คงยอมให้เรื่องมันจบครับ
แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 52 12:27:03
| จากคุณ |
:
neomas
|
| เขียนเมื่อ |
:
23 ธ.ค. 52 16:15:44
|
|
|
|  |