ความคิดเห็นที่ 1 ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ รบกวนถามนิดนึง 1. ถ้าเราเข้าไปเที่ยวอย่างเดียวไม่ค้างคืนต้องขอบัตรผ่านไหมครับ 2. เห็นว่ารถตู้ขึ้นไม่ได้แล้ว ต้องขึ้นรถสองแถวคนละ 50 บาท จริงหรือเปล่าครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : tonytui เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 22:09:21

ความคิดเห็นที่ 2 ผมว่านอนบ้านชาวเขาก็เข้าท่าน๊ะครับ ไม่ยุ่งยากสบายดีค่าใช้จ่ายวันละห้าร้อยบาทเอง ห้องน้ำก็โอเคเลย ผมนอนบ้านนายจิ่ง ปล.ไส้อั่วปางอุ๋งหนาวมาก อุ่นหน่อยน๊ะ น้ำขิงใส่โอวัลตินก็เข้าท่า น่าลองครับ จากคุณ : iamhotmale เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 22:19:24

ความคิดเห็นที่ 3 เดี๋ยวนี้ต้องมีบัตรผ่านด้วยเหรอเนี่ย ไปมาเมื่อปีที่แล้วยังไม่มีเลย รถก็เอาเข้าไปได้ด้วย ปีนึงผ่านไปทำไมมันเปลี่ยนไปเร็วขนาดนี้ แสดงว่าคนคงไปเยอะน่าดูเลย จากคุณ : vivian_c เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 00:23:17

ความคิดเห็นที่ 4 บัตรผ่านคงไว้จำกัดจำนวนคนที่จาขึ้นไปพักบนปางอุ่งค่ะ ตอนเราไปมะยักกะมีปัญหากะห้องน้ำ อ้อ...ลืมไป เราพักบ้านหลังละ 450 บ.ที่ได้ฟรีจากคนใจดีในห้องนี้นี่แหละ มันมีห้องน้ำในตัว แต่ขอบอกว่า มะค่อยได้ใช้หรอก เพราะหนาวมาก น้ำเย็นเจี๊ยบ อาบทีร้องจ๊าก ตัวชาไปเลย อิอิ จากคุณ : นางสาวน้ำแข็งแห้ง~ เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 00:43:37

ความคิดเห็นที่ 5   กะลังวางแพลนจะไปสิ้นเดือนคะ....ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง บ้างคะ ต้องจองสถานที่กางเต้นท์ ที่ไหนอะคะ แล้ว จะมีเหตุการณ์แบบเจ้าของกระทู้ไหมเนี๊ยะ น่ากลัวจัง...แต่ก็ยังอยากไปอิ่มเอิบกะเสน่ห์ของปางอุ๋งอยู่ดีคะ จากคุณ : pawantee เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 01:08:41

ความคิดเห็นที่ 6 มันมีจุดที่ให้กางเต๊นท์ริมอ่างที่รถสามารถวิ่งเข้าไปจอดได้ด้วยค่ะ ซึ่งไม่ใช่บริเวณบ้านพัก เข้าถนนอีกเส้นที่แยกกันอีกทีหลังจากเลยบ้านพักของชมชน คือ ตรงแยกถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปพื้นที่ของโครงการ แต่ให้ขับตรงไปนะคะ บรรยากาศดีเหมือนกัน เห็นแล้วก็อยากไปกางเต๊นท์บ้างค่ะ แก้ไขเมื่อ 02 ม.ค. 53 01:48:43 จากคุณ : นางสาวน้ำแข็งแห้ง~ เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 01:47:50

ความคิดเห็นที่ 7 ต้องทำใจนะ สำหรับช่วงเทศกาล ก็ยังงี้ล่ะ จากคุณ : sa_bkk เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 03:12:25

ความคิดเห็นที่ 8   ทีหลังหาเวลาไปก่อนเทศกาลสิคะ  ของเราไปก่อนคริสต์มาส เอารถไปจอดตรงวัดใกล้ที่พักได้เลย (เราพักบ้านนายนะ) สบายมาก ๆ เราไม่ได้มีบัตรผ่านด้วย น้องเขาจัดการให้แค่โทรบอกตอนเข้าเท่านั้น แนะนำเลยค่ะ อยากเที่ยวอินบรรยากาศอย่าไปช่วงเทศกาล จากคุณ : yabela เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 03:55:33

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้าไม่ได้ค้างคืนจะเอารถขึ้นไม่ได้ครับ ต้องนั่งสองแถวจากที่โรงเรียนขึ้นไป เสียคนละ ๕๐ บาท ถ้าเหมาก็ ๓๕๐ บาท จากคุณ : ความสุขเล็กๆ เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 08:00:43

ความคิดเห็นที่ 10 อืมม มีบริการขนสัมภาระ เที่ยวละ 100 บาท .. .. น่าจะรายได้ดีแฮะ จากคุณ : hirohiko เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 10:01:28

ความคิดเห็นที่ 11 ช่วงเทศกาลก็ต้องเจอแบบนี้ค่ะ ลองลางานมาช่วงไม่ใช่เทศกาล แล้วคุณจะมีความสุขเพิ่มขึ้นมากเลยค่ะ จากคุณ : skyrocket เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 10:31:38

ความคิดเห็นที่ 12 หน้าเทศกาล คนเยอะๆ เห็นใจเจ้าที่ปฏิบัติงานกันด้วยนะครับ เขาก็ต้องการให้ทุกๆ คนได้รับความสะดวก และความสุขที่มาเยี่ยมเยือนกลับไปทุกคน แต่เมื่อคนเยอะๆ จะให้ทุกคนทำอะไรตามสะดวก ก็จะไปรบกวนสิทธิคนอื่นๆ อีกจำนวนมาก เลยต้องมีจำกัดหลายๆ อย่าง ดังที่จขกท. เจอมา ช่วงเทศกาล ถ้าอนุญาตให้นำรถเข้าไปได้ จะมีรถกี่คันเข้าไปจอด และควันรถ กลิ่น หรือ เสียงดังจากรถ จะไปรบกวนคนที่กำลังพักผ่อน รอบๆ อ่างหรือเปล่า และถนนที่คับแคบ รถหลายๆ จะหลบหลีก ทั้งรถ และคนที่ไปพักผ่อน กันอย่างไรให้ปลอดภัย คุณจขกท. น่าจะศึกษา กฏระเบียบ ก่อนไป สักเล็กน้อยนะครับ ว่าช่วงเทศกาลมีข้อจำกัดอะไรบ้าง แต่เรื่องห้องน้ำ เห็นด้วย ควรจะปรับปรุงให้มีจำนวนและเรียบร้อยกว่านี้ รวมถึงค่าบริการช่วยขนของ 100 บาท สูงไปหน่อยครับ ปล. ผมเคยไปมา 2 ปี ปีก่อนช่วง พย. ปีนี้ไปช่วงกลางๆ ธค. ถ้าไม่มีคนไปเที่ยวเยอะๆ เขาก็อะลุ้มอะหล่วยให้นำรถเข้าไปจอดถ่ายของลงได้ครับ จากคุณ : เจปาโร่ เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 11:35:02

ความคิดเห็นที่ 13 ได้อ่านแล้ว ก็มีประเด็นที่น่าเหฯใจท่านเจ้าของกระทู้ และประเด็นที่เห็นต่างกับความเห็นเจ้าของกระทู้ ผมมีความคิดเห็นคล้ายความคิดเห็นที่ 12 แต่มากกว่านิดหนึ่ง ในส่วนที่เห็นใจท่านเจ้าของกระทู้ ผมไม่กล่าวถึงแล้วกันนะครับ เพราะท่านเจ้าของกระทู้ระบายความในใจมาแล้ว... เดี่ยวมันจะยาว เลยขอแสดงความเห็นในส่วนที่เห็นต่างกับความคิดเห็นของเจ้าของกระทู้แล้วกัน = = = = = ท่านเจ้าของกระทู้ ได้เข้าไปเที่ยวพักผ่อนมาแล้ว ก็คงเห็นสภาพทั่วไปของภายในแล้วนะครับ ถนนเล็ก... พื้นที่โดยรวมน้อยมาก... มีแต่ดงต้นสนกับอ่างเก็บน้ำ... พื้นที่แค่นั้น บางคนคิดอยากให้ขยายถนน ทำที่จอดรถด้วยซ้ำไป... บางคนเคยมีแนวคิดยิ่งกว่าท่านเจ้าของกระทู้ด้วยซ้ำไป แต่เจ้าของกระทู้ก็คงทราบนะครับว่า เนื้อที่นั้น ทำไม่ได้... ถ้าทำแล้ว มันจะไม่เหลือเนื้อที่บริเวณอะไรอีกเลย... เพราะฉะนั้น ต้องใช้ถนนแคบๆ เนื้อที่แคบๆ แบ่งๆ กันไป... คราวนี้มาประเด็นของท่านเจ้าของกระทู้ “ทำไมไม่ให้เอารถเข้า ขนเสร็จแล้วก้ไล่ไปจอดข้างนอกซิ ทำไมต้องมีรับจ้างเข็นของ มันแปลกๆนะ เหมือนมัดมือชก” คืออย่างนี้ครับ... เราจินตนาการ การบริหารจัดการนั้น... ได้... แต่เอาเข้าจริง... ปางอุ๋ง มีทหารประจำการ เพื่อรักษาพื้นที่โครงการพระราชดำริใกล้แนวชายแดนแค่ 5 นาย ตลอดปี ไม่มีนักท่องเที่ยวเข้าปางอุ๋งเลย ยกเว้นวันหยุดช่วงฤดูหนาว... ฤดูฝนไม่ต้องไปหานักท่องเที่ยว พอช่วงเทศกาลใกล้ปีใหม่ นักท่องเที่ยวมากมาย... สถานทีไม่พอให้รถเข้าไปหรอกครับ... เมือก่อนก็เข้าได้ ก็เกิดปัญหา... รถคันโน้นขวาง รถข้างใสออกไม่ได้... จอดกันจนไม่มีที่กางเต็นท์ แล้วแนวคิดที่ว่า นำรถขึ้นไปถ่ายของ แล้วนำกลับมาจอดข้างล่างด้านนอก... จะไว้ใจได้ทุกคันหรือครับ ขึ้นกันตลอดเวลา ทุกคันอ้างแบบนี้หมด พอรถ 5 คัน ขึ้นไปถ่ายของ พอถ่ายของลงเสร็จ กดรีโมทล็อครถ แล้วเนียนไปหาที่กางเต็นท์ไกลๆ... ถามว่า จับมือใครดมได้ครับ มีทำได้ 1 คัน เดี๋ยวก็มีคันที่ 2, 3, 4 และทำแบบอย่างกันไปเรื่อยๆ จนสิ้นสุดวันนั้นกันเลย ตัดปัญหาทุดอย่างครับ... ไม่ต้องเขาไปจอด ไม่ต้องจ้างยามเพิ่ม เพราะจัดเก็บรายได้ตลอดปีแค่นิดเดียว = = = = = ประเด็นอื่น ไม่ทักท้วงอะไรครับ... เห็นตามท่านเจ้าของกระทู้ จะติดนิดหน่อยก็คือ ค่าขนของ 100 บาท เจ้าของกระทู้ ไม่ได้บอกด้วยว่า แล้วขากลับล่ะ... ยังไง จ่ายเพิ่มอีกไหม สำหรับผม... 100 บาทไม่แพง ถ้าเป็นการกระจายรายได้เข้าสู่พื้นที่นั้น... แต่ไม่ใช่จะเป็นราคาที่ทุกคนรับได้... บางคน รายได้น้อย ก็น่าเห็นใจครับ... แต่สำหรับผม เตรียมไปเที่ยวขนาดนั้น ผมเตรียมจ่ายไว้แล้ว... ถ้าถามผมว่า 100 บาท แพงไหม... ผมก็จะตอบว่า... ชั่งน้ำหนักสัมภาระแบบภูกระดึงไปเลยครับ... ประมาณนี้ดีไหมจากทางแยกหมู่บ้าน คนตัวเปล่า 30 บาท... มีสัมภาระติดมา (ยกเว้นขวดน้ำดื่มกับกล้องถ่ายรูป)มาก/น้อย 15 กิโลกรัมแรก 30 บาท... กิโลกรัมต่อไป กิโลกรัมละ 4 บาท เที่ยวไปอย่างเดียว... เที่ยวกลับ ก็ราคานี้... แบบนี้ดีไหมครับ จะได้ขนของขึ้นไปกันน้อยๆ... อยากจ่ายน้อย ก็รู้จักกระจายของ แบ่งๆ ใน 15 กิโลกรัมแรก เสนอเล่นๆ ครับ... เพราะผมไม่ได้บริหารจัดการที่นี่ จากคุณ : หมอนทองแท้ เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 13:26:12

ความคิดเห็นที่ 14 เห็นใจจขกท. นะคะว่าท่องเที่ยวทั้งที ก็อยากได้รับความสะดวกสบาย แต่เห็นด้วยกับคห. 12,13 ค่ะ   เราได้ความสุข ความสบายใจจากธรรมชาติแล้ว  เราก็น่าจะทำตัวรบกวนธรรมชาติให้น้อยที่สุด  ละความสบายบางอย่างไปบ้าง ก็คงไม่แย่จนเกินไป ยิ่งเป็นช่วงหยุดเทศกาลด้วยแล้ว  เห็นใจเจ้าหน้าที่จริงๆ ค่ะ  แต่ถ้าไม่มีการจัดการอย่างนี้แล้ว  คงเละเทะกว่านี้แน่  ปีนี้คงเพิ่งเริ่มมีมาตรการ อาจจะขลุกขลัก ไม่ลงตัวไปบ้่าง  ค่อยๆ ปรับกันไป   นะ ..นะ.. นะ.. ช่วยรักษากันหน่อย  จะได้มีที่ท่องเที่ยวสวยๆ คงไว้ใหุ้รุ่นลูกรุ่นหลานได้เห็น  เหมือนอย่างที่พ่อ แม่ ของเค้าเคยได้เห็น  ไม่ใช่เปลี่ยนโฉมหน้าไปจนจำแทบไม่ได้ เหมือนบางแห่งที่เป็นอยู่ตอนนี้ จากคุณ : แบกเป้เที่ยว เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 13:59:38

ความคิดเห็นที่ 15   อีกครั้งกับข้อมูลปางอุ๋งครับ http://baankruaeed.wordpress.com/2008/11/11/pang_ung/ จากคุณ : นิว เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 14:15:30 A:118.172.17.166 X: TicketID:191936

ความคิดเห็นที่ 16   โชคดีนะที่ไม่ได้ไป ตอนแรกอ่านกฎกติกาการไปพักและเที่ยวปางอุ๋งแล้ว รู้สึกว่า ต้องทำบัตรผ่านด้วย ก็เลยเลยไปพักแถวบ้านรักไทย ห่างออกไปอีกนิดหนึ่ง ก็มีอ่างน้ำธรรมชาติเหมือนกัน ไปพัก รีไวน์รักไทยรีสอร์ท พึ่งเปิดใหม่ช่วงตุลานี้เอง โอย สบาย นอนหลับสบาย ทิวทัศน์สวยมาก เพราะอยู่บนเนินเขา เห็นวิวหมู่บ้านรักไทยทั้งหมู่บ้านเลย ตอนเช้าหมอกในอ่างเก็บน้ำก็เยอะมาก ตื่นตาตื่นใจ หิวก็เดินลงเนินเขาไปกินอาหารจีนยูนนาน แถมได้อยู่บ้านดิน มีน้ำอุ่นให้ใช้ด้วย ตอนกลางคืนยังอาบน้ำสบายอารมณ์ แฟนเราชอบมาก ไม่นอนทั้งคืน กินเบียร์ ดื่มด่ำกับธรรมชาติและวิวของหมู่บ้านรักไทย เงียบสงบมาก ไม่เหมือนอยู่ที่ปาย คนพลุ่กพล่าน แถมกลางคืนยังยิงดอกไม้ไฟกันเสียงดัง วิวก็ไม่ค่อยดี แถมไฟดับทั้งคืน  สรุปทริปนี้ไปพักแถวบ้านรักไทยดีมาก แฟนบอกเดี๋ยวปีหน้าจะกลับมาบ้านรักไทยอีก จากคุณ : ดาว (สนธิญา) เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 18:45:09

ความคิดเห็นที่ 17   ไปเที่ยวมาเมื่อ มกราคมปีที่แล้ว  นอนโฮมเสตย์ใกล้ริมอ่างเก็บน้ำ ก็สบายดี ตอนเดินไปเที่ยวข้างในเจ้าหน้าที่ถามหาบัตรเหมือนกัน แต่บอกว่าไม่ได้พัก ก็เดินเข้าออกสบาย จากคุณ : Cezus เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 20:28:06

ความคิดเห็นที่ 18   เห็นด้วยกับจขกท ที่ สิบสอง และ สิบสาม ค่ะ เพิ่งไปปางอุ๋งเมื่อวันที่สิบเจ็ดค่ะ พักที่บ้านม้งโฮมสเตย์ สี่คืนค่ะ ไปงานนี้เพื่อศึกษาและเรียนรู้งานปีใหม่ม้งค่ะ ไปผู้หญิงคนเดียว ก็มีน้องป้างเจ้าของโฮมสเตย์คอยโทรตามเพราะเป็นห่วงตลอด ตอนนี้ก็เป็นเพื่อนกันไปแล้วค่ะ พักที่บ้านม้งสบายมาก กับข้าวน้องอร่อยมากมายค่ะ กีินมื้อละสองชามเลย น้องเลี้ยงไหวค่ะเพราะเขาปลูกข้าวเอง ปลูกกะหล่ำเอง น้องบอกกินให้อิ่มป้างมีเป็นไร่ ไปที่นั่นก็เอาลูกฟุตบอลติดไม้ติดมือไปสองลูกให้เด็กๆที่โรงเรียนได้เล่นกัน กะว่าหน้าฝนจะขึ้นไปเยี่ยมเยียนอีก คราวนี้จะเอาสมุดวาดเขียนไปให้น้องๆชาวม้งค่ะ เขาใจดีนะค่ะ เรานั่งรถสองแถวขึ้นลงปางอุ๋งวันละสองเที่ยว เบื่อก็ลง เย็นก็ขึ้นไปดูพระอาทิตย์ตกดิน แล้วไปดูหงส์ด้วยค่ะ จริงๆแล้วไม่เห็นด้วยที่เอาพลุไปเล่นในอุทยาน เพราะที่นั่นมีหงส์ของพระราชินีอาศัยอยู่สามตัวค่ะ กลัวหงส์ตกใจเสียงพลุค่ะ ขนาดไปถ่ายรูปยังจ้างแพนั่งไปถ่สยเลยค่ะ เขาอยู่อย่างธรรมชาติจริงๆ เรื่องอุทยานเขาจำกัดนักท่องเที่ยงขึ้นไปค้างแรมค่ะ คืนละสามพันคน หวังว่าคงเข้าใจนะค่ะ อ๋อลืมบอกบ้านม้งโฮมสเตย์มีน้ำอุ่นและไฟฟ้าให้ใช้ยี่สิบสี่ชั่วโมงค่ะ ส่วนสองแถวขึ้นลงห้าสิบบาทค่ะ เราใช้บริการจนม้งชวนอยู่ที่นั่นเลย มีรูปนะค่ะถ้าอยากดูเข้ามาใน orraratk@hotmail.com profile kha ช่วยกันดูแลรักษาธรรมชาติดีกว่านะค่ะ ช่วงเทศกาลก็เป็นแบบนี้แหละค่ะต้องทำใจ ส่วนทหารนี่เขาน่ารักนะค่ะ ตอนเราขึ้นไปเขาจำหน้าคนที่เข้ามาได้อย่างดีนะค่ะ เขาสนิทกะชาวบ้าน ส่วนคนขายน้ำขิง เราซื้อกินทุกเช้าค่ะ ร้านที่อยู่ใกล้ๆลุงยอโฮมสเตย์ อ๋ออีกเรื่องตอนเรากินเหล้ากะชาวบ้านที่ลุงยอโฮมสเตย์ คนเลี้ยงม้าไปเอาหมูมาจากบ้านหนึ่งเพื่อมาทำให้เรากิน ขอบอกค่ะ อร่อยโครตๆ เราล่อซะอีกสองจานสำหรับมื้อที่เต็มไปด้วยน้ำใจของชาวบ้านค่ะ อิอิ น้ำหนักขึ้นเลยค่ะ อ๋อมีอีกอย่างค่ะ มีตลาดขายของชาวบ้าน มีสองร้านของพี่ช้างเป็นชาวม้งเหมือนกันค่ะ ขายเสื้อยืด เนื้อผ้าดีจริงๆ ราคาไม่แพงเลย เราเลนช้อปกระจายก่อนลงมา ยังมีหระเป๋าที่ชาวม้งทำา เราไปเห็นที่ข้าวสารราคาเป็นพันเลยแต่เราได้มาแค่สี่ร้อยห้าสิบ ยังไงช่วยชาวบ้านหน่อยนะค่ะ น้องป้างบอกว่าหน้าฝนนี่จะสวยไปอีกแบบ ทั้งภูเขาและในปางอุ๋งจะเป็นสีเขียวค่ะ ไว้เราไปจะถ่ายรูปเก็บไว้ในโพรไฟร์ ฮอทเมล นะค่ะ นี่เบอร์น้องป้าง ลองจองห้องได้ค่ะ 0804997853 จากคุณ : love is in the air เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 21:59:33 A:194.192.22.33 X: TicketID:242735

ความคิดเห็นที่ 19 ขอเข้ามาตอบนะค่ะ ประเด็นแรกคือ ทำไมไม่นอนบ้านพักสบายกว่า เพราะตั้งใจว่าจะไปนอนเต็นท์ค่ะ การไปนอนบ้านพักนั้นไปเมื่อไหร่ก็ได้ค่ะ ความสบายหาได้ง่าย.....แต่ชีวิตกางเต็นท์นั้น น้อยคนนักที่จะได้สัมผัส (ถ้าไม่ติดสบาย) ประเด็นที่สอง....ไม่ได้ต้องการความสะดวก หรือสบายจนเกินไปนักหรอกค่ะ จะเห็นว่า ไม่ได้บอกว่าคนเยอะไม่ดี หรือบรรยากาศเสีย โดยส่วนตัว...ชอบมากกกค่ะ คนเยอะ เพราะไปกางเต็นท์....ถ้ามีแค่เราเต็นท์เดียว ก็ไม่เอาค่ะ...กลัว ประเด็นต่อมาที่ต้องการสื่อคือ.....เราก็ไปกางเต็นท์นอนมาก็หลายที่ หลายอุทยานแล้ว..... แต่ว่า....ทำไมอุทยานแห่งชาติถึงสามารถบริหาร จัดการได้ดีเยี่ยมล่ะค่ะ ไม่มีเก็บเพิ่ม ไม่มีชาร์จ ไม่มีปัญหาเรื่องจอดรถ ทั้งๆที่บางอุทยานเห็นเจ้าหน้าที่ไม่เกิน 3 คน ถ้าตามความเห็นข้างบนบอกว่า มีคนจอดได้ 1 ก็มี 2 3 4 ได้ งั้นก็สร้างมาตฐานซิค่ะ ใครจอดเสีย 500 บาท จัดไปเลยค่ะ....โปร่งใส รับได้ ไม่ใช่ว่ามาเก็บเที่ยวละ 100 งานนี้เงินสะพัดค่ะ...เข้าใจว่ากระจายรายได้ ไม่ต่อต้าน แต่อย่ามัดมือชก...มันเหมือนโดนหลอกแ..ก (ขออภัยถ้าพูดตรง) ทำอย่างภูกระดึงนี้โอ.เคเลยค่ะ ถ้าโปร่งใสหลายร้อย หลายพันก็ยอม ถ้าอึมครึมหนึ่งบาทยังไม่อยากเสียเลยค่ะ ยืนยัน..ปางอุ๋งก็ยังสวย จากคุณ : Wed11Nov07 เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 23:33:04

ความคิดเห็นที่ 20 เข้าใจว่า บริเวณที่อ่างเก็บน้ำด้านอก เป็นของศูนย์็ศิลปาชีพ อยู่ในความดูแลของทางทหาร ซึ่งความเรียบร้อย อาจจะไม่ค่อยสะดวกเหมือนกับเจ้าหน้าที่อุทยาน ดูแลประชาชน(ถ้าเข้าใจผิด ขออภัยมา ณ.ที่นี้)   ปัญหานี้ น่าจะแก้ไข โดยเจ้าหน้าที่ ที่ดูแลไม่ควรเก็บเงินเอง ให้นักท่องเที่ยวช่วยเหลือตัวเอง ขนสัมภาระเอง จะเหมาะสมกว่าไหม ส่วนที่จอดรถ ก็ทำถูกต้องแล้ว ให้จอดที่วัดแห่งเดียว เนื่องจากพื้นที่บริเวณอ่างเก็บน้ำ หน้าบ้านพักและกางเต็นท์ ค่อนข้างจะคับแคบ รถวิ่งสวนกันไม่สะดวก ที่กลับรถก็ไม่มี ถ้ามีรถจำนวนมาก พื้นที่พักผ่อนจะน้อยลง เพราะการจอดรถ ทัศนียภาพก็เสียไป รวมทั้งเพื่อไม่ให้ควันจากรถ หรือเสียงดังจากรถ ไปรบกวนการพักผ่อนของคนอีกจำนวนมาก และเพื่อเท่าเทียมกัน ทั้งคนมีรถและไม่มีรถไปปางอุ๋ง ซึ่งคนไทยทุกคนมีสิทธิ ใช้พื้นที่สาธารณะ อย่างเท่าเทียมกัน ฉะนั้นไม่ควรให้ทุกคันเข้าไปจอดบริเวณอ่างนะ แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 53 09:02:24 จากคุณ : เจปาโร่ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 01:31:16

ความคิดเห็นที่ 21 ปางอุ๋ง เป็น "โครงการพระราชดำริ" ของพระราชินีครับ ไม่ใช่อุทยานแห่งชาตินะครับ จากคุณ : Ilovedriving เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 12:38:22