ความคิดเห็นที่ 1 01-วัดพุทธนาถ (Bauddhanath) ชาวทิเบตอพยพในเนปาลเป็นผู้ที่มีส่วนสำคัญยิ่งในการทนุบำรุงพุทธศาสนา (นิกายมหายาน) ให้มีความเจริญรุ่งเรืองและเป็นดินแดนแห่งมนต์ขลังสืบต่อไป ถึงแม้ว่าชาวทิเบตจำนวนมากจะเป็นผู้อพยพ แต่ก็อยู่กันอย่างกลมกลืนกับคนเนปาลดั้งเดิม สามารถพูดภาษาเนปาลีและฮินดีได้แต่ก็ยังรักษาภาษาดั้งเดิมของตัวเองไว้ ชาวทิเบตเหล่านี้หากหลี้ภัยที่เนปาลเกิน 15 ปี ก็จะได้รับการพิจารณาให้ถือสิทธิ์เป็นพลเมืองเนปาลได้ อาจกล่าวได้ว่าการที่พุทธศาสนาในเนปาลเจริญรุ่งเรืองได้นั้นมาจากชาวฮินดู อันเนื่องด้วยความเชื่อที่ว่า พระพุทธเจ้าเป็นอวตารหนึ่งของพระศิวะเจ้า ก็เลยทำให้ชาวฮินดูบูชาพระพุทธเจ้าด้วย พุทธศาสนานิกายมหายาน (Mahayana) ในเนปาลนั้น แบ่งออกเป็นนิกายย่อยๆ อีก 4 นิกาย คือ Nyingmapa Sakyapa Gelugpa และ Kargyupa แต่ละนิกาpก็มีความเคร่งครัดและวัตรปฎิบัติแตกต่างกันไป เช่น Nyingmapa สามารถแต่งกายเป็นฆราวาสได้แต่จะใส่จีวรเมื่อมีพิธีกรรมทางศาสนาและแต่งงานได้ ส่วนท่านดาไลลามะ (Dalai Lama) นั้น เป็นพระสังฆราชของนิกาย Gelugpa แต่ด้วยความเป็นที่รู้จักกันทั่วไปทำให้ทุกคนคิดว่าท่านเป็นผู้นำทุกนิกาย จากคุณ : Katee Noi เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:10:46

ความคิดเห็นที่ 2 โชคดีวันที่เราไปเป็นวันสำคัญทางพุทธศาสนาของชาวทิเบต เรียกว่าวัน ดาชามิ (Dashami) มีพระลามะและพุทธศาสนิกชนจำนวนมากมาสวดมนต์ไหว้พระกันที่วัดแห่งนี้ จากคุณ : Katee Noi เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:11:23

ความคิดเห็นที่ 3 โดยปรกติ วันดาชามิ (Dashami) จะมีเพียงเดือนละครั้งเท่านั้น จากคุณ : Katee Noi เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:11:46

ความคิดเห็นที่ 4 จะเดินผ่านระหว่างพิธีกรรมต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ก่อน ส่วนผมก็บอกว่าเป็นชาวพุทธเหมือนกัน อิๆ จากคุณ : Katee Noi เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:12:10

ความคิดเห็นที่ 5 ธงมนตรา (Montra Prayer Flag) ปลิวโบกสบัดเพื่อนำพาบทสวดมนตร์ไปสู่สรวงสวรรค์ จากคุณ : Katee Noi เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:12:40

ความคิดเห็นที่ 6 เข้าใจว่าพระลามะท่านนี้เป็นพระผู้ใหญ่ที่มาเป็นประธานในพิธี จากคุณ : Katee Noi เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:13:03

ความคิดเห็นที่ 7 ลามะน้อยใหญ่ต่างบ่นพรึมพรำบริกรรมคาถากัน จากคุณ : Katee Noi เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:13:25

ความคิดเห็นที่ 8 จะสังเกตว่าลามะบางท่านก็โกนผมบางท่านก็ไม่โกนผม เนื่องจากต่างนิกายกัน จากคุณ : Katee Noi เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:13:52

ความคิดเห็นที่ 9 อาคารที่รายรอบวัดทำให้เห็นวิวได้หลายระดับ จากคุณ : Katee Noi เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:14:16

ความคิดเห็นที่ 10 เนปาลยังเป็นประเทศที่ยากจน มีอัตราการว่างงานสูง จึงสามารถพบขอทานได้อยู่ตลอดเส้นทาง ว่ากันว่าบางคนที่ว่างงานก็จะมาเดินเตร็ดเตร่ภายในวัด ถ้าใครถ่ายรูปก็จะได้ขอตังค์ จากคุณ : Katee Noi เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:14:45

ความคิดเห็นที่ 11 รอบๆ วัด ก็จะเป็นชุมชนชาวทิเบตที่มีอาชีพแตกต่างกันไป เช่น ทำพรม เย็บปักถักร้อย ส่วนในภาพ เป็นการทำวงล้อสวดมนตร์ (Prayer Wheel) เพื่อใช้ประกอบในการสวดมนตร์ จากคุณ : Katee Noi เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:15:13

ความคิดเห็นที่ 12 ร้านตัดผมกลางแจ้ง (Open-Air Barber) สามารถเห็นได้ทั่วไป จากคุณ : Katee Noi เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:15:34

ความคิดเห็นที่ 13 นิกายมหายานนั้นให้ความสำคัญทางด้านการบริหารจิตใจมากกว่าการเข็มงวดทางด้านร่างกายและกิริยาอาการอย่างเช่นนิกายเถรวาทในบ้านเรา ฉะนั้นไม่ต้องตกใจหากพระ-เณรลามะที่นี่ไม่เคร่งและสำรวม ตลอดจนการจับต้องสีกา จากคุณ : Katee Noi เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:16:11

ความคิดเห็นที่ 14 ใกล้ๆ ภายในวัดจะมีศูนย์ภาพวาดทังกา (Buddhist Thangka Centre) ซึ่งเป็นภาพวาดปริศนาธรรมที่องค์ดาไลลามะได้ออกแบบเอาไว้ แล้วศิลปินรุ่นใหม่ๆ ก็นำมาฝึกตาม จากคุณ : Katee Noi เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:16:37

ความคิดเห็นที่ 15 เรามีโอกาสได้เจอศิลปินที่มีชื่อของที่นี่ คือท่าน โฮม ทามาง (Hom Tamang) ทราบว่าท่านฝึกวาดภาพจากพ่อตั้งแต่อายุ 11 ขวบ จนกระทั่งปัจจุบันมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไป จากคุณ : Katee Noi เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:17:12

ความคิดเห็นที่ 16 เดินออกจากวัดได้ไม่นานก็เจอแม่ลูกอ่อนกลุ่มนี้ ใจก็คิดว่าอยูคนละฝากถนนถ้าถ่ายภาพไม่น่าจะขอตังค์ได้ พอถ่ายแชะเท่านั้นแหล่ะ วิ่งข้ามถนนมาขอตังค์ทันที ผมบอก I have only candy, would you like to have some? หลายๆ ครั้ง ลูกอมช่วยชีวิตท่านได้ครับ! จากคุณ : Katee Noi เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:17:39

ความคิดเห็นที่ 17 02-วัดปศุปตินาถ (Pashupatinath) เป็นวัดที่สำคัญที่สุดของชาวฮินดู มีประวัติเป็นมายาวนาน ในอดีตเคยถูกรุกรานจนวันแห่งนี้ถูกเผาเสียหาย แต่ได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่ ทำให้เป็นที่พึ่งทางจิตใจของชาวฮินดูสืบต่อไป ด้วยความเคารพศัทธาจึงไม่น่าแปลกเมื่อชาวฮินดูเสียชีวิตจะมีญาตินำมาฌาปนกิจ (Cremation) ที่วัดแห่งนี้ และด้วยวิธีการเผาศพแบบโบราณตามพิธีกรรมทางศาสนา วัดแห่งนี้จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวหนึ่งเดียวในโลกที่ผู้คนต้องมาดูการฌาปนกิจศพ การฌาปนกิจศพที่อารามแห่งนี้มีอยู่เป็นเนืองนิจ ว่ากันว่าแท่นเผาศพไม่เคยว่างเว้นแม้แต่วันเดียว แต่หากไม่มีจริงๆ จะต้องเอาตุ๊กตามาเผาหลอกแทน (Dolly Cremation) เสียงรถพยายาลฉุกเฉินระคนกับเสียงร้องไห้ระงมของบรรดาญาติ ล้วนแต่เป็นภาพสะเทือนใจแก่ผู้พบเห็น ผสมผสานกับกลิ่นควันจากกองฟอน หากท่านใดจิตไม่แข็งพอก็ควรหลีกเลี่ยง แต่ถ้ามองในแง่ดีก็จะได้นึกถึงมรณานุสติซะบ้าง Tip: หลายท่านอาจได้ยินได้ฟังมาว่าคนต่างศาสนาห้ามเข้าไปในวัด ความจริงสามารถเข้าไปได้ แต่ต้องเข้าไปด้วยอาการสำรวม และเคารพสถานที่ อย่างไรก็ตามคนต่างศาสนาไม่สามารถเข้าไปในวิหารได้ และที่สำคัญอย่างยิ่งไม่ควรถ่ายภาพการฌาปนกิจศพในระยะใกล้ เนื่องจากเป็นการไม่เคารพและเป็นการรบกวนญาติผู้ตายซึ่งกำลังอยู่ในอาการโศกเศร้า จากคุณ : Katee Noi เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:18:12

ความคิดเห็นที่ 18 แทบไม่น่าเชื่อว่าการฌาปนกิจศพจะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ จากคุณ : Katee Noi เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:18:36

ความคิดเห็นที่ 19 หลังจากเผาเสร็จกลายเป็นเถ้าถ่าน ญาติๆ ก็จะโกยลงแม่น้ำบัคมาที (Bagmati River) ซึ่งถือว่าเป็นแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ของชาวฮินดู หลังจากนั้นลูกชาย (ที่โกนผม) ก็จะนำอัฏฐิบางส่วนมากโปรยลงแม่น้ำ จะเห็นว่าคนฮินดูอยากมีลูกชายเป็นอย่างมาก ด้วยความเชื่อที่ว่าหากตนเสียชีวิตลูกชายก็จะทำพิธีศพให้และนำพาไปสู่สุขคติได้ จากคุณ : Katee Noi เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:19:02

ความคิดเห็นที่ 20 -------------------------------------------------------------------------------- โยคี (Holly man or Sadhu) เป็นนักบวชของศาสนาฮินดูผู้ซึ่งละแล้วจากทางโลก มุ่งแสวงหาโมกขธรรม อยู่อย่างสมถะ บำเพ็ญ ทรมานตนเพื่อให้เห็นทุกข์และหลุดพ้นจากทุกข์นั้นได้ บางคนอาจจะคิดว่าโยคีที่ขอเงินคือโยคีปลอม ซึ่งอาจจะถูกบางส่วน แต่โยคีจริงก็ขอเงินเช่นกัน ด้วยว่าโยคีเหล่านี้จะอยู่รอดได้ก็ด้วยเงินบริจาค รัฐบาลอาจจะเข้ามาสนับสนุนบางส่วน แต่ก็ไม่เพียงพอ หากท่านต้องการถ่ายภาพกับโยคีก็ให้ตกลงค่าตัวให้เรียบร้อย บางท่านอาจจะบอกว่าแล้วแต่จะให้ (As you like) แต่บางท่านก็บอกเป็นจำนวนเงิน 1-2 ดอลลาร์ประมาณนั้น แต่ให้ระวังหากโยคีชวนท่านไปถ่ายรูปในกุฏิ หากเค้าให้ท่านสูบบุหรีก็ให้ระวัง เนื่องจากว่าโยคีส่วนมากจะสูบกัญชาเพื่อเป็นการบำเพ็ญ และไม่ผิดกฏหมาย แต่หากคนธรรมดาจะถือว่าผิดกฏหมาย จากคุณ : Katee Noi เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:19:25

ความคิดเห็นที่ 21 แม่น้ำบัคมาที (Bagmati River) ถือว่าเป็นแม่น้ำศักดิ์ แต่ก็ถือว่าเป็นแม่น้ำที่มีสิ่งปนเปื้อนมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ถึงแม้ว่าต้นน้ำจะมีการเผาศพแล้วโกยเถ้าถ่านลงน้ำแต่ปลายน้ำก็ยังมีผู้คนมาใช้สำหรับอุปโภคเป็นปรกติ จากคุณ : Katee Noi เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:19:54

ความคิดเห็นที่ 22 ก้อนหินเหล่านี้พบเห็นได้ตามแผงขายของชำร่วย ซึ่งเป็นก้อนหินซากพืชซากสัตว์ (Fossil Stone) ที่พบได้อย่างดาษเดื่อนที่แม่น้ำิแห่งหนึ่ง เด็กๆ เก็บกันไปปากันเล่นก็มี จากคุณ : Katee Noi เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:20:25

ความคิดเห็นที่ 23 ผงสี (Tika Powder Colour) มีไว้สำหรับบูชาเทพเจ้าและใช้ทาหน้ากันในเทศกาลสงกรานต์ จากคุณ : Katee Noi เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:20:53

ความคิดเห็นที่ 24 03- วิหารพระนารายณ์ (Changu Narayan) วิหารพระนารายณ์เป็นหนึ่งในแหล่งมรดกโลกที่ได้รับการเชิดชูจากยูเนสโก (UNESCO) แม้ระยะทางหากจากเมืองกาฏมัณฑุเพียง 22 กิโลเมตร แต่ก็เป็นเมืองที่เงียบสงบ มีนักท่องเที่ยวน้อย ตามรายทางที่จะขึ้นไปพระวิหาร จะได้เห็นวิถีชีวิตของชาวบ้านตลอดจนร้านค้าขายของที่ระลึกต่างๆ วิหารแห่งนี้มีความสวยงามด้วยศิลปะในยุคลิคชาวี (Licchavi) มีการแกะสลักไม้ หิน เหล็ก ประดับประดาไว้อย่างงดงามและปราณีตหาดูได้ยาก ทุกด้านของประตูจะมีรูปแกะสลักของพญาสิงห์ผสมครุต พญาช้าง และพญาอินทรีผสมสิงห์คอยปกป้องประตูทุกด้าน ในพระวิหารจะเป็นพระรูปของพระวิศนุในร่างของพระนารายณ์ จากคุณ : Katee Noi เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:21:23

ความคิดเห็นที่ 25 คนเนปาลบริโภคเครื่องเทศอย่าง ขิงและมะเขือเทศเป็นอย่างมาก ทราบจากเพื่อนชาวเนปาลว่า อาหารเกือบทุกอย่างจะใส่ขิงเพื่อให้ได้รสชาติที่หอมกลุ่น จากคุณ : Katee Noi เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:21:51

ความคิดเห็นที่ 26 เด็กๆ ที่นี่คุ้นเคยกับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี หากต้องการถ่ายภาพโดยไม่ต้องจ่ายตังค์ การพกลูกอมไปด้วยจะเป็นการดียิ่งครับ เด็กๆ ชอบ จากคุณ : Katee Noi เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:22:18

ความคิดเห็นที่ 27 คุณยายกำลังออกมานั่นตากแดดทำงานบ้านไปด้วย ผมยิ้มให้แล้วก็กดแชะ แต่อยากเข็กหัวตัวเอง เพราะตรงข้าวโพดส่วนบนมันโอเวอร์ไป จากคุณ : Katee Noi เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:22:41

ความคิดเห็นที่ 28 ระหว่างทางเห็นชาวบ้านกำลังทำงานกันอย่างขมักเขม้น ทราบว่ากำลังเตรียมพื้นที่เพื่อจะตากก้อนอิฐ ซึ่งเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักของที่นี่ จากคุณ : Katee Noi เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:23:04

ความคิดเห็นที่ 29 ชาวบ้านชนบทจะมีความยากจนมาก ด้วยความที่เนปาลยังมีความเชื่อเรื่องวรรณะ (Caste) ถึงแม้ในรัฐธรรมนูญจะเขียนไว้ถึงความเสมอภาคแต่ในชนบทก็ยังมีความเชื่อเรื่องนี้กันอยู่บ้าง โดยปรกติ ผู้ชายเนปาลมักจะต้องไปทำงานในที่ไกลๆ ห่างบ้าน ห่างครอบครัว เช่น ต้องไปทำงานในเมืองหลวงหรือในอินเดีย จากคุณ : Katee Noi เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:23:27

ความคิดเห็นที่ 30 04-เมืองภักตะปุร์ (Bhaktapur) ภักตะปุร์ได้ชื่อว่าเป็นเมืองมรดกโลกที่ยังมีการอยู่อาศัย (Living World Heritage Site) ซึ่งแตกต่างจากบ้านเราที่แยกกันอย่างชัดเจนระหว่างที่อยู่อาศัยและโบราณสถาน หากมาเยือนเนปาลก็ไม่ควรพลาดที่นี่เป็นอันขาด ยิ่งได้ค้างคืนที่ก็จะยิ่งได้รับประสบการที่รับรองได้ว่าไม่เคยเจอที่ไหนมาก่อน เป็นเมือที่น่าอยู่ การจราจรไม่ติดขัด ผู้คนชอบเดินกันตามถนน มีร้านค้าให้จับจ่ายใช้สอยกันอย่างไม่ถ้วน เมืองแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นไฮไลท์ของการเดินทางของเราครั้งนี้ก็ว่าได้ ภักตะปุร์ หรือ ชื่อที่ชาวบ้านเรียกกันว่าบัดโกว์น (Bhadgaon) เดิมที่เป็นเส้นทางของการค้าขายระหว่างอินเดียกับทิเบต เป็นหนึ่งในเมืองสำคัญในอาณาจักรกาฎมัณฑุ (Kathmadu Valley) เมื่อก่อนเคยเป็นเมืองที่ประทับของเหล่าราชวงศ์ ฉะนั้นความเจริญรุ่งเรือง วัฒนธรรมประเพณีที่งดงามยังเห็นได้ในเมืองนี้ เช่นประเพณีการชักเย่อราชรถ (Bisket Jatra) ซึ่งเป็นการฉลองปีใหม่ในเดือนเมษายนของทุกปี โดยคนฝั่งเหนือกับฝั่งใต้มาดึงราชรถแข่งกัน ใครชนะก็จะได้ถวายการดูแลพระเจ้าอย่างใกล้ชิด จากคุณ : Katee Noi เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:24:01

ความคิดเห็นที่ 31 จตุรัสทัวมาดิ (Tuamadhi Square) จะมีวัด นยาทะโปลา (Nyatapola Temple) ตั้งเด่นเป็นสง่า จากคุณ : Katee Noi เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:24:22

ความคิดเห็นที่ 32 จตุรัสทัวมาดิ (Tuamadhi Square) เป็นหนึ่งในเส้นทาง แม้แต่รถก็วิ่งเข้ามาได้ จากคุณ : Katee Noi เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:24:42

ความคิดเห็นที่ 33 หากท่านค้างคืนที่นี่แล้วช่วงเช้าๆ ก็จะได้พบเห็นผู้คนโดยเฉพาะผู้หญิงออกมาบูชา (Puja) เทพเจ้าตามสถานที่ต่างๆ เป็นภาพที่น่าชมเป็นอย่างยิ่ง ก็จะมีการนำดอกไม้ ข้าว โยเกิต ผลไม้ และ ของหวาน มาถวาย แล้วจากนั้นก็ตึระฆังเพื่อบอกเทพเจ้าให้ทราบ เสร็จแล้วเอากลับไปให้ลูกหลานกินที่บ้าน ทั้งนี้ถือว่าอาหารเหล่านั้นพระเจ้าำได้ให้พรและปลุกเสก กินแล้วจะเป็นมงคล จากคุณ : Katee Noi เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:25:07

ความคิดเห็นที่ 34 นอกจากมอเตอร์ไซต์จะเป็นยานพาหนะที่นิยมแล้ว การเดินเป็นสิ่งที่ง่ายที่สุดสำหรับชาวเนปาล และดูเหมือนทุกคนจะชอบอย่างนั้น โดยเฉพาะหน้าหนาว คนจะออกมากเดินเยอะมาก จากคุณ : Katee Noi เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:25:26

ความคิดเห็นที่ 35 ภาพหมอกที่ปกคลุมทั้งเมืองยามหน้าหนาว ทำให้เราต้องลุ้นว่า จะมีแสงแดดให้ถ่ายรูปหรือเปล่า ที่นี่คือจตุรัสดัททัทตรายา (Dattatraya Square) ที่ซึ่งมีชื่อเสียงในการแกะสลัก มีช่างฝีมือดีมากมาย เพื่อนชาวเนปาลบอกว่า เนปาลยังโชคดีที่เป็นเมืองมรดกโลกแล้ว ศิลปินชั้นครูยังไม่ขาดหาย เพราะฉะนั้นองค์ความรู้นั้นก็ยังคงอยู่ และสามารถสืบทอดไปสู่ลูกหลานได้ ไม่เหมือนเมืองมรดกโลกอย่างบางแห่ง เช่น หลวงพระบาง หรือ อยุธยา ขาดแคลน ทั้งองค์ความรู้ดั้งเดิมและผู้ถ่ายทอดเป็นอย่างมาก จากคุณ : Katee Noi เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:25:47

ความคิดเห็นที่ 36 ตามไปด้วย คน แฮะ ๆ ประเทศเนปาล ดินแดนที่ผม ใฝ่ฝัน  หวังว่าจะวัน คงมีโอกาสได้ไปเยือน อิอิ   ตอนนี้ ขอเกาะ รีวิวไป ก่อน อิอิ จากคุณ : นายฟ้าใส เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:25:47

ความคิดเห็นที่ 37 จตุรัสบ้านช่างหม้อ (Pottery Square) มีชื่อในด้านการปั้นหม้อ ถ้าวันไหนแดดแรงก็จะเห็นชาวบ้านเอาหม้อมาวางตากแดดเต็มลานบ้านไปหมด ป้าๆ เหล่านี้เม้ากันสนุกสนาน ผมถ่ายอยู่นานจนเค้าชักจะรำคาญเราเลยต้องรีบชิ่งหนี จากคุณ : Katee Noi เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:26:12

ความคิดเห็นที่ 38 ศิลปินชั้นครู จากคุณ : Katee Noi เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:26:42

ความคิดเห็นที่ 39 ภักตะปุร์เป็นเมืองที่สงบเงียบ ถนนตรอกซอกซอยน่าเดินไปหมด จากคุณ : Katee Noi เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:27:12

ความคิดเห็นที่ 40 ตลาดยามเช้า จากคุณ : Katee Noi เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:27:29

ความคิดเห็นที่ 41 คนเนปาลนับถือวัวดั่งพระเจ้า แต่สามารถบริโภคเนื้อควายและแพะได้ มีคนไทยเชื้อสายจีนหน้าแตกมานักต่อนักเวลาสั่งอาหาร บอกไม่เอาเนื้อ(วัว) คนขายก็มองหน้า คนทั้งประเทศเค้าไม่กินกันครับ! จากคุณ : Katee Noi เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:27:53

ความคิดเห็นที่ 42 ว่ากันว่าใครมาเมืองภักตะปุร์ ต้องมาให้เห็นไม้แกะสลักรูปนกยูง (Peacock Window, Mayur Jhyal)ต้นฉบับอันนี้ งานแกะสลักของเมืองนี้ปราณีตและสวยงานอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ จากคุณ : Katee Noi เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:28:15

ความคิดเห็นที่ 43 รูปนี้รีบถ่ายแล้วต้องรีบเดินหนี ไม่เงินโดนขอตังค์แน่ โชคดีที่เค้าไม่เห็น... จากคุณ : Katee Noi เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:28:42

ความคิดเห็นที่ 44 ช่างแกะสลัก (Craftsman) ฝีมีดีที่ยังหาได้ในเมืองภักตะปุร์ จากคุณ : Katee Noi เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:29:05

ความคิดเห็นที่ 45 เด็กๆ เนปาลมีโอกาสเข้ารับการศึกษาชั้นประถมประมาณ 70% บางหมู่บ้านไม่มีโรงเรียนก็ต้องเดินทางไปเรียนเป็นระยะทางไกลหรือไม่ก็ต้องย้ายไปอยู่ในเมืองที่มีโรงเรียน วันหยุดมีวันเดียวคือวันเสาร์ วันอาทิตย์ก็ต้องไปเรียนหนังสือ จากคุณ : Katee Noi เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:29:24

ความคิดเห็นที่ 46 เกษตรกรรมเป็นอาชีพหลักของคนเนปาล แต่มีชาวเนปาลเป็นจำนวนมากไร้ที่ทำกิน ทำให้ต้องเช่า และจะถูกหักรายได้ 50% ให้กับเจ้าของที่ (Landlord) ที่เรียกว่า Zamindar จากคุณ : Katee Noi เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:29:54

ความคิดเห็นที่ 47 ผู้หญิงเนปาลจะเป็นทำงานหนักกว่าผู้ชาย เรียกว่า ตื่นก่อนนอนทีหลัง และได้ค่าตอบแทนที่น้อยกว่า แต่อย่างไรก็ตามชาวเนปาลถือว่าเป็นคนที่มีความอดทนสูง "ยิ้มง่าย โกรธยาก (Quick to smile and slow to anger" จากคุณ : Katee Noi เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:30:17

ความคิดเห็นที่ 48 05-เมืองปาตัน (Patan) ปาตันอยู่ไม่ห่างจากกาฎมัณฑุ เพียงแต่อยู่อีกฝากของแม่น้ำบัคมาที (Bagmati River) เท่านั้น เดิมมีชื่อภาษาสันสกฤษว่า “ลลิตปูร์ (Lalitpur)” แปลว่า เมืองแห่งความงาม (City of Beauty) ปัจจุบันกลายเป็นแห่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเนปาล ถึงแม้เนปาลจะเป็นเมืองฮินดู แต่ที่ปาตันอิทธิพลของศาสนาพุทธจะมีมากกว่า ด้วยอานิสงส์ของพระเจ้าอโศกมหาราชที่ทรงทำนุบำรุงพุทธศาสนามาก่อน หากเมืองภักตะปุร์เป็นสุดยอดของงานแกะสลักไม้ (Wood Carving) เมืองปาตันก็ต้องสุดยอดทางด้านงานหล่อ (Metalwork) ดังที่สามารถพบเห็นได้ในวัดทอง (Golden Temple) ซึ่งใช้ทองและทองเหลืองทำหลังคาวัด และร้านรวงที่เปิดขายพระพุทธรูปและเทพเจ้าต่างๆ จากคุณ : Katee Noi เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:30:37

ความคิดเห็นที่ 49 หนุ่มสาววัยรุ่น มักมาเดินเที่ยวเล่น พูดคุยกันในบริเวณวัด เป็นที่นัดหมายกันเหมือนสยามฯ บ้านเราเลยทีเดียว จากคุณ : Katee Noi เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:31:00

ความคิดเห็นที่ 50 ส่าหรี (Saree) สีสดตัดกับสีท้องฟ้า จากคุณ : Katee Noi เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:31:26

ความคิดเห็นที่ 51 วัดทอง (Golden Temple) เป็นวัดพุทธที่มีศิลปะการหล่อด้วยทองและทองเหลืองอย่างงดงาม จากคุณ : Katee Noi เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:31:58

ความคิดเห็นที่ 52 พวงมาลัย (Garland) ที่ร้อยไว้ขายให้คนที่มาบูชาเทพเจ้า จากคุณ : Katee Noi เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:32:23

ความคิดเห็นที่ 53 ขอมาลงภาพต่ออีกทีช่วงบ่ายนะครับ ติชมได้เลยนะครับ ถ้ามีข้อมูลใดไม่ถูกต้อง แจ้งให้แก้ไขได้นะครับ อยากให้เป็นประโยชน็กับเพื่อนนักเดินทางที่วางแผนไปเที่ยวเนปาลครับ ติดตามตอนที่ 2 ตามลิ้งค์นี้เลยครับ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8744441/E8744441.html แก้ไขเมื่อ 08 ม.ค. 53 19:11:19 จากคุณ : Katee Noi เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:34:49

ความคิดเห็นที่ 54 ภาพสวยมากๆเลยค่ะ ปีนี้ กำลังวางแผนจะไปเที่ยวเนปาล(ไปเอง) แอบดูรูปและรีวิวต่อไปค่ะ ได้ความรู้มากๆเลย จากคุณ : Chocolatta เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:42:57

ความคิดเห็นที่ 55 ขอบคุณครับ :-) จากคุณ : DekDoiTung เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:46:57

ความคิดเห็นที่ 56 รุปสวยมากค่ะ รีิวิวอ่านเพลินค่ะ เนปาลน่าไปเที่ยวมากค่ะ จากคุณ : anyarat_postharvestcmu เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:57:07

ความคิดเห็นที่ 57 รูปสวยมากๆ ครับ จากคุณ : ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 12:00:30

ความคิดเห็นที่ 58 ยิ่งเห็นยิ่งตื่นเต้น อยากไปเห็นด้วยตาตัวเองไวๆ จะไปสิ้นเดือนนี้แล้วครับ :-) จากคุณ : Into the Groove เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 12:06:51

ความคิดเห็นที่ 59 ขอชมเลยว่า ภาพสวยมากกกกกกกกกก จากคุณ : prun poa เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 12:13:12

ความคิดเห็นที่ 60 ขอบคุณจขกท. เพลิดเพลินมากครับ จากคุณ : Civict2003 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 12:17:08

ความคิดเห็นที่ 61 ภาพสวยมากกกกกกกกกกกกกก ชอบจัง เนปาลเป็นอีกประเทศที่อยากไป จากคุณ : นางมารชุดส้ม เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 12:18:26

ความคิดเห็นที่ 62 รูปสวยมากเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับรีวิวดีๆ แถมได้ความรู้ด้วย ^^ จากคุณ : นมข้นหวานตราหมี~* เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 12:26:17

ความคิดเห็นที่ 63   อย่างกะอ่านหนังสือเลย จากคุณ : remakamkaw เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 12:45:57

ความคิดเห็นที่ 64 ชอบ signature ค่ะ จากคุณ : Klimae เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 12:56:44

ความคิดเห็นที่ 65   รีวิวดี + รูปสวยมากครับ เป็นเมืองที่ีไม่ค่อยมีคนรีวิว ชอบดูครับ จากคุณ : BlackberryFrappe เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 14:21:02

ความคิดเห็นที่ 66 ขอบคุณมากครับที่นำภาพสวยๆ มาแบ่งกันชม กลางเดือนพ.ย. ปลายปีนี้ผมโปรแกรมเดินทางไปเนปาลเช่นกัน  จะไปดูนกที่ หมู่บ้านแห่ง ห่างจากโปครา  18 กม. ไม่ทราบว่า จขกท. พอจะมีรูปเมืองโปคราบ้างไหมครับ สอบถามอีกนิดครับ  เราควรใช้เงินเนปาลหรือ ยูเอสดอลฯ ดีครับ  และเนปาลใช้กระแสไฟฟ้าแบบไหนครับ   ขอบคุณมากครับ จากคุณ : DBP เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 14:36:49

ความคิดเห็นที่ 67 เคยไปมาแล้วเหมือนกันเมื่อหลายปีก่อน แต่ไม่ได้ชมภาพชีวิตชาวเนปาลแบบใกล้ชิดอย่าง จขกท. ซักเท่าไหร่ เพราะไปกับทัวร์ซึ่งก็ไม่สามารถดูอะไรนานๆ ได้ตามใจตัวเองครับ จากคุณ : NET-MANIA เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 15:58:04

ความคิดเห็นที่ 68 งามมากค่ะ อยากไปจริงๆ จากคุณ : ItchyScratchy เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:01:18

ความคิดเห็นที่ 69 นมัสเต รูปสวยงามมากมายครับ ^^ จากคุณ : P.S. i love you เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:18:18

ความคิดเห็นที่ 70 ภาพงามมาก..................กกกกกกก  ขอบคุณครับที่เอามาแบ่งให้ชมกัน เนปาลเป็นอีกประเทศที่อยู่ในโครงการที่จะไปสักครั้งในชีวิตครับ จากคุณ : Patsy+ เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:24:00

ความคิดเห็นที่ 71   รูปสวย+ข้อมูลละเอียดและเป็นประโยชน์มากค่ะ ยังตามชมต่อนะคะ จากคุณ : อะตอม (atom magazine) เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:58:10

ความคิดเห็นที่ 72 รูปสวยจับใจค่ะ เห็นแล้วอยากไปมั่งจัง รออ่านต่อนะคะ ปล. รูปที่บอกว่ายอดข้าวโพดโอเวอร์ก็สวยนะคะ เอิ๊กๆๆๆ จากคุณ : agarwaen เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 17:44:29

ความคิดเห็นที่ 73 ภาพสวย ข้อมูลดีค่ะ จากคุณ : รักถั่ว เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 18:27:55

ความคิดเห็นที่ 74 ตอบความคิดเห็นที่ 66   Q: ไม่ทราบว่า จขกท. พอจะมีรูปเมืองโปคราบ้างไหมครับ A: ไม่มีเลยครับไม่ได้ไปในทริปนี้ กะจะแก้ตัวคราวหน้าเหมือนกันครับ ยังไงเอารูปนกมาฝากด้วยนะครับ Q: เราควรใช้เงินเนปาลหรือ ยูเอสดอลฯ ดีครับ A: ใช้ได้ทั้งสองแบบครับ แนะนำให้ถือ USD เยอะหน่อย แล้วแลกเป็น Rupee แค่พอใช้เล็กน้อยครับ เพราะถ้าเราใช้ USD เค้าก็ทอนให้เราเป็น Rupee ได้เหมือนกัน Q:เนปาลใช้กระแสไฟฟ้าแบบไหนครับ   ขอบคุณมากครับ A: 220 Volt 50 MHZ ครับ ถ้าเป็นไปได้ให้หาซึ้อ Universal Adapter ไปด้วยจะดียิ่ง หาซื้อได้ที่พันธ์ทิพย์ชั้นล่างครับ อันละร้อยกว่าบาทก็มี แต่จะบออกว่าเนปาลไม่สามารถผลิดไฟฟ้าใช้เองได้ตลอด 24 ชม. ทำให้ในแต่ละวันไฟฟ้าจะดับ ประมาณ 2 ช.ม. แม้แต่เมืองหลวงก็เป็นอย่างนั้นครับ เอาเข้าจริงก็ดับไม่แน่นอน แต่ละวันก็ไฟฟ้าดับคนละเวลา กะไม่ได้ แต่ความรู้สึกเหมือนจะดับนานกว่านั้นเยอะครับ แก้ไขเมื่อ 08 ม.ค. 53 20:20:31 จากคุณ : Katee Noi เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 19:00:41

ความคิดเห็นที่ 75 ตอนที่ 2 ตามลิ้งค์นี้เลยนะครับ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8744441/E8744441.html แก้ไขเมื่อ 08 ม.ค. 53 19:10:28 จากคุณ : Katee Noi เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 19:02:31

ความคิดเห็นที่ 76 แวะมาชมครับ... เป็นกระทู้ในรอบหลายเดือนเลยนะ ที่ผมชอบมากกกกกก ครับ ชอบการถ่ายรูปแบบนี้.... ชอบเนื้อเรื่องที่ตั้งใจเรียบเรียงมาเป้นอย่างดี อ่านแล้วเพลิน ดูแล้วมีความสุข ขอบคุณสำหรับรีวิวคุณภาพคับแก้วมากๆครับ เดี๋ยวตามไปดูตอนสองต่อ จากคุณ : the Sixth Floor เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 53 08:39:10

ความคิดเห็นที่ 77 ขอบตุณสำหรับริวีวดี ๆ ครับ จากคุณ : kitipan เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 53 16:29:59