ความคิดเห็นที่ 1 เท่าที่ดู มันน่าจะเป็นทัวร์ชะโงกดูซะเยอะนะครับ เอาจากประสบการณ์ผมละกัน ผมเคยวางแผนคล้ายๆ นี่แหละ แต่แค่ในโตเกียวที่เดียว ไปๆ  มาๆ แค่กินซ่าที่เดียว เวลาก็หมดไปครึ่งวันแล้ว ชิบุยะ - โอไดบะ - หอคอยโตเกียว เวลา 1 วันคุณได้เป็นทัวร์ชะโงกดูแน่ๆ ครับ โอไดบะที่เดียวก็ได้เกือบทั้งวันแล้ว ยกเว้นคุณจะเอาแค่สะพานเรนโบวบริช กับแถวๆ นั้น แต่ถ้าเอาโอไดบะทั้งเส้น เกินครึ่งวันครับ ไม่นับโตเกียวทาวเวอร์ ที่จะให้ดีแนะนำให้เก็บทั้งกลางวันกลางคืน แถมถนนเส้นที่เดินจากทาวเวอร์ จะผ่านวัดใหญ่ที่ผมจำชื่อไม่ได้แล้ว กับประตูใหญ่ไดมง แถวนั้นน่าเดินเที่ยวมากครับ แต่แค่บนหอก็ล่อไป 3-4 ชมแล้วล่ะ ยิ่งถ้าคุณเดินทางโดย Jr ชิบุยะไปโอไดบะ หลายต่อครับ ยิ่งวนไปหอโตเกียว ซึ่งต้องนั่งรถนอดวงกลม Jr ด้วยแล้ว แนะนำหากมีเวลา หาทางยัดจิบลิมิวเซียมเข้าไปด้วย ป่าสนแถวนั้นน่าเดินเล่นมากๆ ครับ ทั้งหมดนี่ว่าจากประสบการณ์ 6 ครั้งในการไปลุยญี่ปุ่นครับ ในส่วนนอกโตเกียว ผมไม่สันทัด แต่จากที่เคยตะลุย ดอซาก้า ไปนางาซากิ 2 วันครับ จากคุณ : ศิลปินเปิดหมวก เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 53 18:41:47

ความคิดเห็นที่ 2 ใจจริงก็ไม่อยากแนะมากหรอก .... คงมองภาพไม่ออก อยากให้ไปลุ้นละกัน วันที่มาเซ็นได้ นิกโก้ จนถึงวัดสุดท้าย ก็เหมือนเที่ยวเก้บ RC ... ประเภทดีใจละ ได้ถ่ายรุปกับป้าย  แล้วก็กลับ ... ผมสงสัยเวลาใช้คำว่า แบ๊คแพ๊ค แปลว่าอะไรครับ ... ตามคนมีวัยแบบผม แบคแพค หมายถึง ประหยัดเที่ยว ประหยัดกิน อยุ่ง่าย กินง่าย แต่ไม่ได้หมายความถึงชะโงกทัวร์นะครับ .... แนะนำว่า ไปอ่านหนังสือ หรือ ข้อมุล วิธีการเดินทางแต่ละจุดเยอะๆ อย่าได้ไปลอกสถานที่ท่องเที่ยวมาใส่ในรายการโดยที่ยังไม่เข้าใจแผนที่การเดินทาง ... เคาะเลย .... ตั้งแต่วันเซ็นไดลงมา ทำแผนใหม่หมด ไม่ว่าจะแบคแพค หรือเที่ยวไฮโซ  ถ้าเที่ยวญี่ปุ่น ก็ต้องเดินทางได้วันละไม่กี่แห่งหรอกครับ ถ้าจะไช้คำว่าเที่ยวชมนะครับ   พอเป็นข้อมูลเบื้องต้นครับ จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 53 19:03:39

ความคิดเห็นที่ 3   ไปด้วยคนดิ น่าไปแฮะ จากคุณ : รณ (THAIPASTA) เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 53 19:12:03

ความคิดเห็นที่ 4 ทริปนี้ไปคนเดียวหรือกับคนรู้ใจที่เที่ยวแนวๆเดียวกัน ไม่ได้พาเด็ก ผู้สูงอายุ ไปด้วยใช่ไหมคะ เห็นแล้วเหนื่อยแทน คุณไม่ได้บอกว่าจะมาช่วงไหน แต่จากการที่คุณบอกว่าจะไปดูเทศกาลหิมะที่โอนุมะ ซึ่งปีนี้จะจัดวันที่ 6, 7 กุมภาพันธ์ จึงเดาว่าคงจะเป็นช่วงกลางเดือนกุมภา คอมเมนท์เฉพาะฝั่งเกียวโตนะคะ เรียวอันจิ ปิดซ่อมถึงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ เพราะงั้นตัดไปได้ ก็เริ่มต้นจากสถานีเกียวโต ไปวัดนินนาจิก่อน ต่อด้วยวัดคินคาคุจิ (แล้วก็ไปทางเดินปรัชญา ศาลเจ้าเฮอัน) ถ้าจะตัดในวงเล๊บทิ้งไป ก็นั่งบัสไปคิโยะมิซึเลย ส่วนไลท์อัพปีนี้เริ่มครั้งแรก 13 มีนาจนถึง 11 เมษา เพราะงั้นอดดูค่ะ วันที่หก ให้จัดโทฟุคุจิ ฟุชิมิอินาริ โทไดจิ ไว้กลุ่มหนึ่ง(ตามลำดับ)  อีกกลุ่มคือฮิเมจิ ความเห็นส่วนตัว ให้รีบตื่นแต่เช้า นั่งชินคันเซนไปฮิเมจิก่อนเลย ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง ปราสาทเปิดเก้าโมง เพราะงั้นออกเดินทางแปดโมงได้ยิ่งดี(โหดไปไหม)   แล้วก็กลับมาเกียวโต แล้วค่อยไปโทฟุคุจิ(ปิดประตู 15:30) โทไดจิ (ปิดประตู 16:30) ปิดท้ายด้วยฟุชิมีอินะริ ตามลำดับ ถ้าอยากเอาฮิเมจิไว้หลังสุด ปราสาทปิดให้เข้าตอน 16:00 เดินทางก็ใช้เวลาชั่วโมงนึงเข้าไปแล้ว เพราะงั้นต้องออกจากเกียวโตอย่างช้าสุดบ่ายสอง เพราะต้องเผื่อเวลาเดินจากสถานีไปตัวปราสาทอีก ไคยูคัง ไว้คราวหน้าละกันนะคะ จากคุณ : คุกกี้รสส้ม เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 53 19:21:09

ความคิดเห็นที่ 5 ^^ ยกมือหนับหนุนคุณคุกกี้  โดยเฉพาะ วันที่ 6 !!! เดินทาง ด้วย S,Rapid จาก เกียวโต เดาว่าพักเกียวโตละกัน  ใช้เวลา ราว เกือบ 2 ชม. จับรถไฟ 8 โมง ถึงฮิเมจิ 10 โมง   วิ่งๆๆๆๆ รีบชม 1.5 ชม เเล้วซื้อขนมปัง ไปกินบนรถไฟเอา กลับไป เกียวโต + ถึงราว  บ่าย โมงกว่า - บ่าย 2 นั่ง รถไฟต่ออีกหน่อย ราว 15 นาที ไป Fushimiinari เเล้ววิ่งๆๆๆ ชม สถานที่อีก พระเจ้าช่วย   ยังไม่ได้ไปนารา เลย จะบ่าย 3 เเล้ว ฟันธง  ทำได้ยากค่ะ เเผนนี้ จากคุณ : aomnan เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 53 19:50:01

ความคิดเห็นที่ 6 ไม่รู้ว่าไปศึกษาตำราเที่ยวตามแพลนนี้จากสำนักไหน แต่ถ้าทำได้จริง มารีวิวให้เห็นแจ้งด้วยน่ะคะ แค่วันแรกที่ถึงฮอกไกโด ก็คงจะต้องทบทวนอีกทีค่ะ สำหรับเราเมืองโฮตารุอยู่เกือบทั้งวันยังไม่ค่อยทั่วเลย ร้านค้ามันน่าเอ็นดู วิวมันน่าถ่ายรูปไปซะทุกจุด และยิ่งในซัปโปโรก็มีอะไรน่าดูเยอะแยะ น่าเสียดายน่ะคะ อุตส่าห์มาถึงซัปโปโรทั้งที แต่อยู่ไม่ถึง 24ชั่วโมง ให้เวลาเพิ่มขึ้นดีมั้ย มาเที่ยว น่าจะใช้เวลากับสถานที่เที่ยวให้ลุ่มลึกนิดหนึ่ง ไม่ได้มาเก็บสกอร์ทำแต้มสถานที่ท่องเที่ยวซะหน่อย ยิ่งดูแผนวันที่ไปคามาคูระ กลับมาฮาราจูกุ แล้วย้อนไปโยโกฮามาอีกรอบ....เหนื่อยแทน ถ้าเหตุผลการกลับไปที่ราเมงมิวเซียมเพื่อหาอะไรทาน ร้านอาหารแถบโตเกียวก็มีเยอะค่ะ อร่อยไม่แพ้กัน หรือไม่ทำไมเช้าไม่เที่ยวศาลเจ้าเมจิ ต่อฮาราจูกุ แล้วค่อยไปคามาคูระ ส่วนที่ถามเรื่องคาวากูจิโกะ ถ้าใช้ JR rail pass ไปถึงแค่ Otsuki แล้วเสียเงินประมาณพันเยนนั่งรถไฟ Fujikyuko Line เพื่อไปคาวากูจิโกะ สเตชั่น จากคุณ : เจ้าแก้วพิสดาร ณ เมืองปาย เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 53 21:05:10

ความคิดเห็นที่ 7 มาช่วยวางแผนเล่นๆ ละกัน ยึดตามที่เจ้าของกระทู้ลิสท์มา วันแรกอาจตัดมหาวิทยาลัยออก ไปเพิ่มเวลาให้โอะตะรุน่าจะดีกว่า วันที่สาม กว่าจะถึงที่พักก็สองทุ่มแล้ว มืดตื๋อ นอนเอาแรงดีกว่า ว่าแต่ ดูตารางรถบัสไปยังที่พักหรือยังคะ ไม่แน่ใจว่าบัสจะวิ่งถึงกี่โมงนะ เช็คดูด้วยละกัน ถ้าบัสหมดก็คงต้องนั่งแท็กซี่ เพราะจากสถานีเดินไปที่พักนี่ เห็นเขียนว่าสี่สิบนาที วันที่สี่ ดิฉันจำไม่ค่อยได้ว่านิกโก้มีอะไรอยู่ที่ไหนบ้าง แต่ถ้าอยากถึงเกียวโตราวหกโมงครึ่ง ออกจากสถานีนิกโก้ตอนบ่ายโมงครึ่งได้ค่ะ ถ้าอยากไปดูย่านกิองตอนกลางคืน ก็นั่งรถบัสไปขาละ 220 เยน ถ้ารถไม่ติดก็แป๊บเดียวถึง วันที่ห้า ตามคอมเมนท์ก่อนหน้านี้ วันที่หก ตามคอมเมนท์ก่อนหน้านี้ ถ้าอยากเหนื่อยน้อยลง มีเวลาชมแต่ละที่มากขึ้น ก็ตัดโทฟุคุจิออกละกัน ไปหน้าหนาว ถ้าไม่มีหิมะตก คงแห้งๆไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ วันที่เจ็ด ไปคามาคุระทั้งที รวมเวลาไปกลับให้เวลาแค่สองชั่วโมงเองเหรอคุณ แค่เวลาเดินทางก็เกินชั่วโมงไปแล้ว จะเอาเวลาที่ไหนไปไหว้พระ ถ้าจะไปคามาคุระ ก็ให้ออกจากสถานี asakusa (ที่พักอยู่แถวนี้ใช่ไหม) ตอนสิบเอ็ดโมง เปลี่ยนรถไฟสองครั้ง เร็วสุดถึงคะมะคุระตอน 12:03 หาข้าวกินแล้วค่อยเที่ยวนะ ขากลับ สมมติว่าให้กลับถึงฮะระจุกุตอนบ่ายสาม เพื่อให้ทันดูศาลเจ้าเมจิ ก็ต้องออกจากคะมะคุระอย่างช้าตอน 13:55 สรุปมีเวลาอยู่คะมะคุระเกือบสองชั่วโมง แย่น้อยลงหน่อย ศาลเจ้าเมจิปิดตอนสี่โมง เดินไกลเหมือนกันกว่าจะถึงตัวศาลเจ้าจริงๆ ถ้าไม่ได้อยากดูวัยรุ่นอะไรมากมาย ไปศาลเจ้าเมจิก่อนแล้วค่อยไปคะมะคุระก็ดีค่ะ จะได้ไม่ต้องลนมาก ทะเคะชิตะไว้วันหลังก็ได้   ราเมงอร่อยๆ ไม่ต้องถ่อไปถึงโยโกฮามาก็ได้ค่ะ ที่โตเกียวมีหลายร้อยร้านให้เลือกตามใจชอบ คาบุกิโจ ไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจเลย แหล่งบันเทิงยามราตรี (แต่คุณผู้ชายอาจจะชอบ หรือเปล่า) หลังจากนี้ ไม่รู้แล้วค่ะ ถ้าคุณเจ้าของกระทู้ไม่ได้อยากเที่ยวแบบดื่มด่ำกับบรรยากาศ เรียนรู้ประวัติศาสตร์ อะไรมากมาย แค่ได้ไปเห็นนิดนึงก็พอใจแล้ว อย่างงี้ ก็พอได้อยู่นะคะ แต่ฟิตร่างกายมาหนักๆหน่อยละกัน ครีมทาแก้ปวดเมื่อย น่าจะมีประโยชน์ จากคุณ : คุกกี้รสส้ม เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 53 21:41:32

ความคิดเห็นที่ 8 โทฟุคุจิ ไปช่วงหน้าใบไม้แดงพอค่ะ ^^ อย่างที่คุณคุกกี้รสส้ม บอกล่ะค่ะ ว่าหน้าหนาวๆ คงมีแต่กิ่งไม้ จากคุณ : ก่วยก๊วยตาลสด เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 53 22:16:04

ความคิดเห็นที่ 9 ปราสาทฮิเมจิปิดซ่อมอยู่นะคะ ในwebบอกว่าถึงจะเปิดให้เข้าชม แต่ส่วนใหญ่ของตัวปราสาทจะถูกคลุมด้วยพลาสติกเพราะว่าซ่อมอยู่...คิดว่าอย่าไปดีกว่ามั๊ง รอให้เสร็จแล้วค่อยไปดีกว่า ตัวเองก็วางแผนว่าจะไปฮิเมจิเหมือนกัน แต่ว่า...อืม...แบบนี้ก็..โกเบแทนดีกว่าแหะ จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 00:21:56

ความคิดเห็นที่ 10 ผมมีความรู้สึกอย่างเดียวกับคุณ "ติวเตอร์ตู่" ครับ ทำไมคนสมัยนี้ใช้คำว่า "แบ๊คแพ็คเกอร์" พร่ำเพรื่อ แผนที่วางนั้นไม่ใช่ว่าทำไม่ได้หรอกครับ แต่เป็นการวางแผนที่ดูจะไม่ได้หาข้อมูลอะไรนัก และไม่ฉลาดในการเดินทางท่องเที่ยวสักเท่าไร โดยเฉพาะในโตเกียว... อย่าคิดว่าโตเกียวเป็นอำเภอเล็กๆ ที่จะทำอะไรว่องไวได้ตามอำเภอใจ แล้วไอ้ที่ฝันหวานๆ ไว้นั้นแต่ละที่มันห่างไกลกันเหลือเกิน แถมบางที่คุณรู้หรือเปล่าว่ามันต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีกเท่าไร เช่น การนั่งรถไฟเล่นๆ ไป-กลับ โอไดบะ แล้วใช้เวลาชะโงกทัวร์เพียงชั่วครู่ หรือแม้แต่การไปคามากูระอยู่ประเดี๋ยวประด๋าวให้เสียตังค์ไม่คุ้มค่า แถมกลับไปกลับมาโตเกียว โยโกฮาม่า อย่างคิดว่ามันจะใกล้และสะดวกสบาย หรือแม้แต่การไปราเม็งมิวเซียมที่แค่เพียงบอกว่าจะแวะเข้าไปกินราเม็ง คุณรู้หรือเปล่าครับว่าค่าเข้ามิวเซียมเท่าไร และอื่นๆ อีกมากมาย ดูเป็นการฟุ้งๆ แบบไม่ใช่แนวความคิดของแบกแพ็คเกอร์ซักเท่าไร การเดินทางไป "คาวากูจิโกะ" โดยรถไฟ ช่วงนี้มีหลายกระทู้มากๆ ที่ถาม แล้วก็ตอบแนะนำถึงวิธีการเดินทางกันไปเยอะมากๆ หลายรอบเช่นกัน น่าจะลองไปหากระทู้อื่นอ่านดูก่อน แล้วคุณจะไม่มาตั้งคำถามแบบนี้แน่นอนครับ อยากให้ลองอ่านกระทู้อื่นๆ ดูบ้าง แล้วลองวางแผนใหม่ดูอีกครั้ง (อย่างจริงจัง) แล้วเอาแผนกลับมาปรึกษาใหม่ ก็ยังไม่สายครับ ทุกคนยินดีช่วยอยู่แล้ว จากคุณ : fastfolk เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 22:58:09

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณสำหรับคำแนะนำของเพื่อนๆ ทุกๆ คนครับ ช่วงที่ผมไปคือ 14 (ถึงญี่ปุ่น 15) กลับวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ครับ วันนี้ไปปรึกษาเจ้าหน้าที่ที่องค์ส่งเสริมการท่องเที่ยวญี่่ปุ่นดู เค้าบอกเหมือนคุณ CMV ว่าปราสาทฮิเมจิปิดอยู่ รวมถึงข้อมูลที่คล้ายคลึงกับที่เพื่อน ๆคนอื่นบอกด้วย การวางแผนอันนี้ ดึงมาจากสถานที่ที่อยากไป แล้วลองคำนวณว่าในเวลา 10 วัน ทำได้มากน้อยแค่ไหน โดยลองคำนวณเวลาเดินทางจากหนังสือและเว็บ Hyperdia ร่วมกันออกมาเป็นเวลาคร่าวๆ แต่ก็คิดอย่างที่จั่วหัวไว้แล้วว่าค่อนข้างจะเร่งรีบไปบ้าง แต่เพื่อความแน่ใจ (เผื่ออันไหนไม่ต้องแก้) ก็เลยเอามาปรึกษาเพื่อนๆ ในนี้ก่อน ตอนนี้พอสรุปได้ความว่า - สถานที่ที่ควรตัดออก คือ ปราสาทฮิเมจิ, วัดโทฟุคิจิ, วัดเรียวอันจิ - ตัดฮาราจูกุไปไว้วันอื่นแทน เพราะปรึกษาคนที่ไปด้วยแล้ว เค้าก็ไม่ได้อยากดูวัยรุ่นคอสเพลย์เท่าไหร่ ผมเองก็ไม่ชอบที่ๆ คนเยอะๆ - ให้เวลากับโอตารุวันแรกเต็มๆ ส่วนซัปโปโร ในฤดูหนาว ยังไม่แน่ใจว่าจะไปเที่ี่ยวไหนได้บ้าง เพราะดูในหนังสือก็ไม่มีสถานที่ที่น่าสนใจมาก ยกเว้นเทศกาลหิมะ ซึ่งไปไม่ทัน จึงตัดไปโอตารุแทน เห็นทีจะต้องค้นกระทู้เ่ก่าๆ ก่อนว่าเค้าเที่ยวอะไรในซัปโปโรช่วงหน้าหนาวกันบ้าง - ทะเลสาปคาวากุจิโกะ ไม่ค้างคืน แต่กลับมานอนที่โตเกียวดีกว่า เพราะเจอาร์พาสหมดอายุวันนี้พอดี - จาก คห. ของคุณ fastfolk มีข้อสงสัยนิดหน่อยว่า บัตร One Day Pass แบบ 1,000 เยน ไม่สามารถนั่งไปถึงโอไดบะได้หรือครับ (วันนั้นเจอาร์พาสหมดอายุแล้ว เลยต้องซื้อตั๋ววันแทน) สรุปตอนนี้คิดเปลี่ยนแผนเป็น เริ่มจากวันที่ 5 - เมื่อตัดวัดเรียวอันจิออกไป ที่เหลือน่าจะพอทำเวลาได้ วันที่ 6 - ตัดปราสาทฮิเมจิกับวัดโทฟุคิจิออก - เริ่มจากไปนาราก่อน ตอนนี้มีเวลามากขึ้น ก็เดินเล่นจากสถานีไปสวนสาธารณะนาราแล้วไล่ไปวัดโทไดจิ แล้วกลับไปฟุชิมิอินาริ (สรุปเหลือแค่ 2 ที่เอง ยังไม่แน่ใจว่าจะมีเวลาเหลือหรือไม่ เพราะน่าจะใช้เวลาในนาราค่อนข้างเยอะ อาจจะตัดวัดบางวันในวันที่ 5 มาไว้วันนี้แทน หรือไม่ก็ย้ายไปโตเกียวเย็นนี้เลย เพื่อที่วันต่อไปจะมีเวลาเที่ยวในโตเกียวมากขึ้น) วันที่ 7 - ตัดฮาราจูกุออก ทำให้ไม่ต้องย้อนไปย้อนมา เริ่มจากที่พักที่โตเกียว ไปวัดหลวงพ่อโตที่คามาคุระ (ได้ยินว่ามีอีกวัดใกล้ๆ กันแต่จำชื่อไม่ได้ อาจจะไปด้วย) - ย้อนไปราเมนมิวเซียม (อยากมาดูพิพิธภัณฑ์ด้วยครับ คือสาเหตุที่อยากมาที่นี่) - หากมีเวลาพอ อาจย้อนกลับไปโตเกียวทาวเวอร์ หรือไม่ก็ไปชินจูกุเลย (คนที่มาด้วยอยากไปดูคาบูกิโจ) วันที่ 8 - ไปขี่จักรยานเล่นและแช่ออนเซ็นที่คาวากุจิโกะ แล้วนั่งรถกลับเลย จะได้ไม่เปลืองเงินทั้งค่ารถไฟและที่พักมากนัก วันที่ 9 - ไปเดินเล่นชิบูย่า ฮาราจูกุ และโอไดบะ (ได้ยินว่าแถวโอไดบะมีห้างเด่นๆ  แต่ไม่สนใจห้างกันเท่าไหร่ ชอบดูร้านข้างทางมากกว่าครับ คงเดินดูห้างที่เค้าบอกว่าตกแต่งสไตล์เอโดะ นอกนั้นก็มีสวนสาธารณะกับดูสะพานสายรุ้ง แต่ที่อยากไปจริงๆ คือโอเอดะออนเซ็น เลือกมาที่นี่ที่สุดท้ายเพราะกะว่าจะแช่น้ำตอนกลางคืนไปเลย) วันที่ 10 - ไม่เปลี่ยนแปลง คือเช้าไปสิกิจิ แล้วกลับมาเที่ยวอาซาคุสะ คือวัดเซ็นโซจิ กับไปสวนอูเอโนะ ดูพิิพิธภัณฑ์แห่งชาติ (ปรึกษาคนอื่นดู เค้าบอกว่าถ้าจะปั่นจักรยานระหว่างอาซาคุสะกับอูเอโนะกินเวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ดูอากาศกับอารมณ์อีกที) จากคุณ : เรามาอีกแล้ว... เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 21:25:16

ความคิดเห็นที่ 12 feedback นะครับ(ขออนุญาตบางเรื่อง)... - รถไฟที่จะไปโอไดบะเป็น monorail คือ รถไฟรางเดียวแบบลอยฟ้าครับ ซึ่งเป็นของบริษัทเอกชนที่ต้องเสียตังค์เพิ่มเองต่างหาก ไม่มีโปรโมชั่นร่วมกับรถไฟสายอื่นๆ อย่าง JR หรือ Metro แล้วที่สำคัญราคารถไฟแพงนิดหน่อย - เห็นเอ่ยถึง one day pass ราคานั้น นี่แสดงว่ายังไม่เคยศึกษาหรืออ่านกระทู้ที่แนะนำเกี่ยวกับการเดินทางใน Tokyo แน่ๆ เลยครับ บัตรที่คุ้มค่าที่สุดผมว่าคือ Metro 2 Day Pass ราคาแค่ 980 เยน แต่ต้องซื้อที่สนามบินนาริตะเท่านั้น เดินทางในโตเกียวได้คุ้มค่า แถมราคาถูกกว่า ลองหาอ่านกระทู้อื่นๆ ย้อนหลังดู จะได้ข้อมูลเยอะทีเดียวครับ รวมถึงการวางแผนการเดินทางกับการใช้บัตร (พอดีข้อมูลมันเยอะมากๆ เลยอยากให้ลองไปหาอ่านดู) - ถ้าคิดจะไปเที่ยวห้างที่โอไดบะ อย่าเลยครับ ห้างที่เด่นๆ นั้นมีห้างเดียวคือ Venus Front ซึ่งก็ไม่ได้แปลกแตกต่างอะไรจากห้างในเมืองเท่าไร แต่ที่เด่นในโอไดบะนั้นเป็นพวกแนวเทคโนโลยี (เช่น พิพิธภัณฑ์ของโตโยต้า หรือท้องฟ้าจำลองแบบ 360 องศา) + วิวสวยๆ ยามเย็นครับของริมอ่าว กับวิวสะพานสายรุ้ง ถ้าจะเที่ยวห้างก็แถวในเมืองคุ้มกว่ากันเยอะ - ราเม็งมิวเซียม ไม่ได้เป็นรูปแบบมิวเซียมให้ความรู้อย่างที่คุณคิดนะครับ ถ้าคุณไม่รู้ข้อมูลตรงนี้มาก่อน ถึงชื่อว่ามิวเซียม แต่มันถูกจัดให้อยู่ในหมวด Amusement Park ซึ่งก็คือแหล่งบันเทิงที่คล้ายๆ กับสวนสนุกนั่นเอง ไอ้ความรู้น่ะมีอยู่ครับ แต่ส่วนนิดหน่อยเอง แต่จุดเด่นมันอยู่ที่ด้านในที่เป็นการจำลองเมืองในยุคเก่า (ถ่ายรูปได้สวย) มีร้านค้า ขนมโบราณ มาสร้างบรรยากาศ ให้พอกล้อมแกล้ม แล้วจุดขายก็คือการรวบรวมร้านราเม็งเด็ดๆ จากภูมิภาคต่างๆ มาไว้ที่เดียว ซึ่งจะกระจายอยู่ในโซนเมืองจำลองด้านในนั่นเอง ถ้าอยากกินราเม็งหลายรูปแบบในที่เดียวก็เหมาะสมอย่างยิ่งครับ แต่คุณก็ต้องจ่ายค่าราเม็งตามร้านต่างๆ ที่ไปกินเองนะ ไม่ใช่เสียค่าเข้าชมแล้วได้กินฟรี ประมาณว่า...เสียตังค์ค่าผ่านประตู เพื่อจะเข้าไปจ่ายค่าราเม็งในร้านที่ตัวเองเลือกกิน ประมาณนั้น ถ้าอยากแค่กินราเม็งอร่อยๆ โดยไม่เจาะจง ก็อย่าเสียเวลาไปเลย ที่โตเกียวก็มีร้านอร่อยๆ หลายร้านไม่แพ้กัน แต่ถ้าอยากไปดูความสวยงาม เอาบรรยากาศ ก็ไปได้เลยครับ อ้อ! ถ้าอยากไปราเม็งมิวเซียม มันจะตั้งอยู่ใกล้ๆ กับสถานนี Shin-Yokohama นะครับ เดินนิดหน่อย ซึ่งถ้าจะให้ดีก็ให้เลือกไปในวันที่คุณใช้ JR Pass อยู่ ขึ้นชินกันเซ็นจากโตเกียวไปประมาณ 15 นาที เดินอีกนิดหน่อย จะได้สะดวกและไม่เสียเวลามากครับ จากคุณ : fastfolk เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 00:23:17

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้าชอบปั่นจักรยาน และอยากสนุกในโตเกียว... - ที่ MUJI สาขา Yuragucho ใกล้ๆ กับกินซ่า (ลงสถานี JR หรือ Metro ในชื่อนี้ได้เลยครับ) มีจักรยานมูจิให้เช่าขี่ครับ จริงๆ แล้วสามารถขี่ไปไหนก็ได้ตามกำลังและความสามารถของคุณ แต่เส้นทางแถวนั้นก็น่าสนใจ ... ขี่ไปกินซ่า ขี่ไปซึกิจิ (ตอนกลางวันก็มีร้านอาหารอร่อยๆ ที่คนออฟฟิศไปกินกันเยอะเลย) ขี่ไปแถบๆ Tokyo Station หรือมีแรงหน่อยขี่ไปโตเกียวทาวเวอร์ยังไหว สนนราคาค่าเช่าวันธรรมดาจะราวๆ 500 กว่าเยนครับ แต่ถ้าวันหยุดจะเพิ่มขึ้นเท่าตัวนึงเลย แต่ตอนไปเช่าต้องเอา passport ไปด้วย แล้วก็เตรียมเงินค่ามัดจำจักรยานไปราวๆ 3,000 เยน (ตอนเอาจักรยานมาคืนจะได้เงินคืน) ราคานี้ขี่ได้ทั้งวันจนกว่าคุณจะเบื่อและพอใจครับ เป็นราคาเช่าต่อวัน เปิดให้เช่าราวๆ 10 โมงเช้า และขี่ได้จนถึงราวๆ 2 ทุ่ม เป็นความสนุกอีกรูปแบบครับ จากคุณ : fastfolk เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 00:30:47

ความคิดเห็นที่ 14 http://netcam.webnetcam.jp/CgiStart?page=Single&Direction=ZoomWide&Resolution=640x480&Quality=Clarity&RPeriod=3&Size=STD&PresetOperation=Move&Language=1 web ถ่ายทอดสดปราสาทฮิเมจิ มันยังไม่คลุมค่ะ ตอนไปคุยกับ เจ้าหน้าที่ ของเมือง himeiji เมือ ตค ปีที่เเล้วเขาว่าจะคลุม spring 2010 เเล้วก็มีเพื่อนๆ มา Update เเล้วว่า กลางเดือน เมย.2010ค่ะ ถ้าคุณจะไปนะ   กพ.ยังเห็นอยู่ค่ะ จากคุณ : aomnan เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 11:23:47

ความคิดเห็นที่ 15 ูู^ ^ เสียดายผมลงสนามบินซัปโปโรน่ะสิครับ เลยซื้อตั๋ว Metro 2 Day Pass ไม่ได้ แต่จะจำไว้ในกรณีที่มาคราวหน้าครับ จากคุณ : เรามาอีกแล้ว... เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 14:41:50

ความคิดเห็นที่ 16 ^ ^ ^ ตั๋ว Metro แบบ Day Pass ซื้อที่สถานี Tokyo Metro ทั่วๆ ไปก็ได้ครับ ไม่จำเป็นที่ต้องซื้อที่สนามบินเท่านั้น ราคาแพงกว่าหน่อยนึงครับ ไม่มาก จากคุณ : fastfolk เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 00:45:54