เล่น Pantip เเท้ เเต่ก็โดนจนได้ที่ อาคา รีสอร์ท หัวหิน
|
|
ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนเลยนะคะว่า เล่นพันธ์ทิพย์มาก็นาน เเต่ส่วนใหญ่ก็ไปขลุกอยู่ห้องอื่นๆนานครั้งจะได้เข้ามาห้องบลูคะ เพราะโดยส่วนตัวเเล้ว ครอบครัวเราก็ไม่ได้ท่องเที่ยวมากมายนัก ได้กลับเมืองไทยปีละครั้ง เเต่ละครั้งก็ไปเที่ยวโน่นเที่ยวนี่ นิดๆหน่อย เเต่ส่วนใหญ่กิจกรรมก็จะเป็นการเล่นกอล์ฟซะมากกว่า
กลับเมืองไทยปีนี้ ตัดสินใจไปที่หัวหิน เพราะอยากไปลองสนามกอล์ฟเปิดใหม่ ตอนเเรกเลยที่คิดกัน ไอ้เราเลือดเเม่บ้านขี้งก อยากไปหาพักโรงเเรมธรรมดาๆราคาถูก อยู่ในเมือง เดินทางไปไหนมาไหนสะดวก เพราะไม่เน้นอยู่โรงเเรมอยู่เเล้ว กลางวันก็ออกไปตีกอล์ฟทั้งวัน เเต่สามีบอกว่า เที่ยวปีละครั้งก็อยากพักผ่อนเต็มที่ ขอนอนโรงเเรมดีๆห้าดาวซักครั้งเหอะ สามีขอร้องอย่างนี้ก็ต้องตามใจซะหน่อย เค้าเป็นคนหาเงินนี่เนอะ
หลังจากนั้นก็เสิร์ชหาโรงเเรม ในเว็บต่างๆที่เค้ามีโปรโมชั่น ไปเจอเว็ปนึง เห็นราคาน่าสนใจ รวมทั้งภาพโรงเเรมก็ถูกอกถูกใจมากๆมาย ราคาก็โอเคนะ ในเว็บบอกเป็นห้าดาวด้วย เเล้วคอมเมนท์ที่ฝรั่งเค้าเม้นท์ไว้ก็ใช้ได้เเต่ละคนชมว่าดีทั้งนั้น สามีก็บอกเรา เอาโรงเเรมนี้เเหละ เเถมไม่ไกลจากสนามกอล์ฟเเบล๊คเมาท์เท่นด้วย ก็เลยตัดสินใจจองไปอาทิตย์นึง รวมๆก็ประมาณเกือบๆหนึ่งพันยูโร
ไอ้เราเเค่เห็นภาพก็หลงไหลในความสวยงามเเล้ว ก็ไม่ได้เช็คอะไรอย่างอื่น ห้องที่เราจองไว้เป็นเเบบ one bedroom deluxe pool villa ขนาด 360 ตรม คะ
พอไปถึงก็ถูกใจอย่างเเรง ถึงเเม้สภาพห้องที่ออกจะเก่าไปนิดนึง เหมือนเค้าไม่ค่อยได้รับความดูเเลเท่าที่ควร พนักงานยิ้มเเย้มเเจ่มใสน่ารักกันทุกคน ในคืนเเรกไปถึงวันเสาร์ก็ไม่มีปัญหาอะไร นอนหลับสบายดี
พอวันที่สอง เป็นวันอาทิตย์คะ เราสองคนก็ออกไปตีกอล์ฟ กลับมาก็เช่าเเท๊กซี่เข้าไปในเมืองกับเพื่อนอีกห้องนึง เเล้วก็กลับมาที่ห้องพักประมาณสามทุ่มครึ่ง เเล้วสามีก็เอาโน๊ตบุ๊คมาเปิดต่อเชื่อมกับอินเตอร์เน็ต เพื่อที่จะโทรกลับบ้านที่เยอรมันนี เพราะเราทำการโทรผ่านระบบของ เว็บ Voi[discount ซึ่งถ้าใครใช้เว็บนี้ก็จะรู้ว่าเราจะต้องโทรผ่านเข้าเครื่องโทรศัพท์ พวกเรามีโทรศํพท์กันสามเครื่องคะ เป็นของสามีสองเครื่อง ส่วนของเราอีกเครื่องนึง ของสามีเป็นไอโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด อันนี้ซิมเป็นเบอร์ของเยอรมันนี เพราะต้องเปิดไว้ตลอดเวลา เผื่อที่ทำงานมีเรื่องเร่งด่วน จะได้ติดต่อกันได้ ส่วนอีกเครื่องนึง เป็น มือถือของซีเมนส์ ตกรุ่นไปนานเเล้ว เเล้วเค้าก็ไม่ผลิตเเล้วด้วย อันนี้ใส่ซิมเบอร์เมืองไทยไว้
ส่วนของเราก็เป็นโนเกีย เอ็นเก้าห้า อันนี้ก็ใส่ซิมเมืองไทยไว้เช่นกัน เนื่องจากมือถือของเราเเบ๊ตจะหมด ก็เลยให้สามีต่อเข้ากับมือถือของเค้าเอง เเต่เพราะจำเบอร์ไม่ได้ ดิฉันก็เลยกดเบอร์เค้าที่เม็มไว้ในเครื่องดิฉันให้เค้าดูอีกที เเล้วก็พิมพ์เบอร์เข้าไปในเว็บ จากนั้นดิฉันก็ปิดมือถือของตัวเองวางไว้ คุยกับพ่อเเม่ที่เยอรมันนีเสร็จ เราสองคนก็ขึ้นไปดื่มไวน์ศาลาด้านบนของห้องพัก โดยที่โทรศัพท์อะไรก็วางไว้ พร้อมกับโน๊ตบุ๊ค ก็เปิดทิ้งไว้
ไวน์ขวดนึง ก็นั่งคุยกันนานนะคะ น่าจะ ชม กว่าได้ ก็เลยลงไปนอน ก่อนนอน ดิฉันก็จะชาร์ตมือถือ เอ หามือถือไม่เจอ ตอนนั้นก็ไม่ได้เอะใจอะไร ก็เลยไม่ได้ใส่ใจ เพราะขี้เกียจหา เพราะคิดว่าคงเอาไปวางลืมที่ไว้ที่ไหน ตอนเช้าก็ค่อยชาร์ตก็เลย สามีก็เหมือนกันคะ หาไอโฟนไม่เจอ รายนั้นปกติจะชาร์ตไอโฟนไว้ข้างเตียงนอนทุกคืน เเต่พอเค้าหาไม่เจอก็ไม่ได้เอะใจเหมือนกัน ต่างคนต่างนอน โดยไม่ได้สงสัยอะไรเลย
พอตื่นมาตอนเช้า เเปดโมงครึ่งที่นี้ละ เริ่มงง เอ โทรศัพท์สองเครื่องหายไปไหนหว่า หาทั่วห้องเลย ยกเตียง ยกโซฟา ทีนี้เริ่มร้อนกัน สามีบอกโดนขโมยเเน่ๆ ก็เลยรีบดูกระเป๋าตังค์เเล้วก็เงินในตู้เซฟ( ตอนขึ้นไปดื่มไวน์ ตู้เซฟก็เปิดไว้คะ) เเต่ปรากฏว่าเงินยังอยู่ครบ กล้องถ่ายวีดีโอ กล้องถ่ายรูป พร้อมโน๊ตบุ๊ค McbookPro ทุกอย่างคือยังอยู่ครบ ยกเว้น โทรศัพท์สองเครื่องที่หายไป คือ ไอโฟน เเล้ว ก็โนเกีย(เเต่ขโมยมันยังใจดี เหลือ มือถือซีเมนส์ไว้ให้ใช้เครื่องนึง)
เดี่ยวพรุ่งนี้มาต่อนะคะ ตอนนี้ใช้คอมของโรงเเรมอยู่ มีคนมาต่อคิวรอใช้อยู่คะ
เเล้วมาต่อเรื่องราวให้ฟังอีกคะ
| จากคุณ |
:
สาวเซาะกราว  
|
| เขียนเมื่อ |
:
25 ม.ค. 53 23:23:05
|
|
|
| 
... เข้ามาดู
