ความคิดเห็นที่ 1 การเดินทางไหว้พระ 9 วัด ในกรุงเทพฯ ภายใน 1 วัน 1.ศาลหลักเมือง  2.วัดพระแก้ว  3.วัดโพธิ์ 4.วัดอรุณฯ  5.วัดกัลยาณมิตร  6.วัดระฆัง   7.วัดชนะสงคราม 8. วัดสุทัศน์  9. ศาลเจ้าพ่อเสือ วันคริสมาสที่ผ่านมา 25-12-2552 ได้มีโอกาสไปไหว้พระ 9 วัดสมดังที่ตั้งใจไว้  อยากจะแชร์เส้นทางว่าเดินทางอย่างไรส่วนการนมัสการแต่ละที่นั้นดูจากลิงค์ หรือ ดูจากที่อื่นได้นะครับ  สิ่งที่ต้องเตรียมคือ 1).ข้อมูลว่าแต่ละวัดที่จะไปต้องนมัสการอะไรบ้าง 2).ตังค์แบงค์ 20 หรือ 50 ไปเยอะหน่อย เอาไว้หยอดกล่องทำบุญ พร้อมทั้ง ค่าดอกไม้ธูปเทียน ซึ่งทุกวัดมีเตรียมไว้ให้ ผมเตรียมไป 20*50=1000 ยังไม่พอเลยนะครับ   3).หมวกและรองเท้าที่เหมาะกับการเดินหรือใส่แล้วเดินสบายเท้าที่สุด เพราะเดินเยอะพอสมควร 4).เตรียมตัวกับหัวใจ และตั้งใจให้แน่วแน่ว่าต้องไปไหว้ให้ครบทุกวัดและครบทุกขั้นตอน เพราะท่านอาจจะเจออุปสรรคบ้าง ซึ่งจะเป็นเหตุให้ท่านทำไม่สำเร็จ ซึ่งผมก็เจอเช่นกัน ทั้งๆที่เตรียมข้อมูลไว้เพียบ ผมเริ่มต้นเดินทางจากรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีพหลโยธิน ไปถึงสถานีหัวลำโพงประมาณ 9.30 น.จากนั้นต่อด้วยแท็กซี่ โชว์เฟอร์ถามว่า “ จะไปไหนครับ” “ไปศาลหลักเมืองครับ” “ไปเที่ยวเหรอครับ” “ผมอยากไหว้พระ 9 วัด ภายในวันเดียวครับ” “แล้วพี่นับถือศาสนาอะไรครับ” “ก็ศาสนาพุทธสิครับ ไม่งั้นผมจะไปไหว้พระ 9 วัดทำไม (555 5)” แล้วก็จ่ายค่าแท็กซี่ไป 60 บาท ไปที่แรก คือ ศาลหลักเมือง ใช้เวลา 20-25 นาที นมัสการศาลหลักเมือง พร้อมทั้งเทพารักษ์   จากนั้นเดินข้ามถนนไปวัดพระแก้ว พอเดินเข้าไปเจ้าหน้าที่ถามว่า คนไทยหรือเปล่า เค้าคงคิดว่าเป็นต่างชาติ เพราะคนไทยเข้าฟรี ต่างชาติเสียตังค์ครับ แล้วก็นมัสการข้างหน้าก่อน แล้วค่อยเข้าไปกราบพระแก้วมรกต และออกมาพรมน้ำมนต์  แล้วก็เดินชมความงามสักพัก เวลาก็ล่วงมาเกือบสิบเอ็ดโมงแล้ว  ต้องเดินทางต่อ   พอออกมาหน้าวัดเรียกตุ๊กๆไปวัดโพธิ์  ไม่มีคันไหนไปเลยครับ เข้าใจว่าเราเรียกผิดที่ ดันไปเรียกวินตุ๊กๆรับฝรั่ง  ก็เลยต้องเดินไปประมาณ 10 นาที  พอเข้าวัดก็ไปถามเจ้าหน้าที่ขายตั๋วว่าจะไปไหว้พระนอนตรงไหน  เขาก็แนะนำอย่างดีเลยครับ ก็เลยลืมไปไหว้พระประทานซะงั้น(แต่เคยไหว้เมื่อหลายปีก่อน) ตอนเดินเข้านมัสการพระนอนเจ้าหน้าที่ก็มองหน้าเหมือนจะถามด้วยสายตาว่ามีตั๋วหรือยัง  ผมจึงทักทายเขาทำให้ได้เข้าฟรีเพราะไม่ใช่คนต่างชาติครับพี่น้องครับ  พอออกมาก็ไหว้พระประจำวันเกิดพร้อมดอกไม้ธูปเทียนและปิดทอง  (แต่ก็ลืมอีกว่าวัดนี้ต้องมีปิดทอง 11 แผ่นตรงไหน  กว่าจะนึกได้ก็ข้ามไปฝั่งโน้นแล้ว) เสร็จจากวัดโพธิ์ก็รีบเดินออกทางประตูข้างๆพระนอน  แล้วถามแม่ค้าแถวนั้นว่าจะไปท่าเตียนยังไง แล้วก็รีบเดินไปขึ้นเรือข้ามฟาก  จ่าย 3 บาทแป็บเดียวก็ถึง ท่าน้ำวัดอรุณฯ  เริ่มจากการนมัสการสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช พร้อมทั้งพระพุทธรูปสมัยอยุธยา  รวมทั้งด้านข้างก็มีพระอะไรอีกองค์หนึ่ง(จำไม่ได้แล้ว) แล้วค่อยเข้าเขตพระปรางค์  มิวายมีเจ้าหน้าที่มาทัก “ticket please” จึงตอบเค้าไปว่า “คนไทยครับ” จากนั้นก็ปีนขึ้นบันไดพระปรางค์ พร้อมทั้งถ่ายรูปไปหลายช็อต แต่ก็ไม่ได้เวียนรอบพระปรางค์ 3 รอบ ส่วนหลังพระปรางค์เป็นประทานซึ่งสวยมากครับ  เวลาเราไปวัดทุกวัดก็ควรจะไปกราบพระประทานทุกครั้งครับ(ขอย้ำ) เวลาเที่ยงกว่าแล้วเพิ่งได้แค่ 4 วัดเอง  ผมจึงต้องเดินออกมาที่ถนนข้างๆวัดและมีตุ๊กๆจอดรออยู่  ก็รีบไปต่อที่วัดกัลยาณมิตร จ่ายไป 40 บาท(ไม่ต้องต่อ เพราะทริปนี้ตั้งใจว่าจะไม่ต่อราคาอะไรทั้งสิ้น)  พอถึงก็รีบไปซื้อธูปและเทียนแดงชุดเล็ก ปักธูปให้ครบทุกกระถางๆละ 3 ดอก แล้วค่อยเข้าไปกราบนมัสการหลวงพ่อซำปอกง ซึ่งเป็นองค์ใหญ่มากๆครับ  วัดนี้ใช้เวลาไม่มากและคนบางตากว่าทุกวัด   ผมเดินออกมาเรียกมอเตอร์ไซค์วินต่อไปวัดระฆัง เค้าเรียก 30 บาท ก็กระโดดขึ้นซ้อนท้ายทันที (มีเพื่อนแนะนำว่าเราสามารถไป 3 วัดริมแม่น้ำด้วยการจ่ายค่าเรือ 30 บาทแล้วเรือจะวนไปมา 3 วัดนี้ได้โดยไม่ต้องใช้รถครับ)  แต่ได้เสียวจริงๆ เพราะเกือบจะชนเข้ากับรถยนต์ระหว่างทาง  โชคดีที่เพิ่งไปไหว้หลวงพ่อซำปอกงมาซึ่งมีพุทธคุณทางแคล้วคลาดเดินทางปลอดภัย   เพียงไม่กี่อึดใจผมก็มาถึงประตูด้านข้างวัดระฆัง  อันดับแรกก็ไปนมัสการองค์พระประทาน  จากนั้นก็ไปกราบสักการะสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี)พร้อมสวดคาถาชินบัญชร เพื่อความเป็นศิริมงคล(สวดบทยาวๆนะครับ ไม่ใช่บทย่อ) เสร็จแล้วก็เดินเข้าไปชมหอพระไตรปิฎกซึ่งในอดีตเคยเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก  และเดินย้อนกลับมาทำบุญและได้รับพระสมเด็จฯวัดระฆังติดมือกลับบ้านด้วย 2 องค์ จากนั้นเดินไปชมตำหนักแดงที่ประทับของพระเจ้าตากสินมหาราช  พร้อมทั้งได้กราบนมัสการอีกครั้ง(ครั้งแรกที่วัดอรุณฯ) แล้วก็เดินมารอเรือข้ามฟาก  และให้อาหารปลาอาหารนกซึ่งซื้อมาจากในวัด  ผมใช้เวลาที่วัดนี้นานกว่าทุกๆวัด  เพราะมีกิจกรรมหลายอย่าง แล้วก็ข้ามกลับมาที่ท่าช้าง(ค่าเรือ 3 บาท)  ท้องเริ่มร้องเพราะบ่ายเศษๆแล้ว  ก็ต้องหาอะไรเติมพลังก่อนแล้วค่อยลุยต่อ หลังจากอิ่มจากข้าวราดแกงแถวท่าช้างก็จับวินมอเตอร์ไซค์ต่อไป วัดชนะสงคราม  วิ่งซอกแซกตามซอยไม่นานก็โผล่ประตูหลังวัดพอดี  ผมก็สมนาคุณค่าเหนื่อยพี่เขาไป 40 บาท แล้วก็เข้าไปนมัสการองค์พระประทานและสมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท  และใช้เวลาชมความงามขององค์พระประทาน  โดยส่วนตัวแล้วผมชอบองค์พระประทานวัดนี้มากที่สุด   ดูเวลาแล้วเพิ่งบ่ายสองโมงกว่าเหลือ 2 ที่ไม่น่าจะมีปัญหาผมเดินออกทางด้านหน้าวัดตรงข้ามกับ สน.ชนะสงคราม   เรียกตุ๊กๆไปศาลเจ้าพ่อเสือ  น้องเค้าเรียก 40 บาท  ผมก็กระโดดขึ้นเลย  ไม่นานโชว์เฟอร์มือใหม่ก็หันมาถามผมว่าไปยังไงเพราะเพิ่งขับมา 2 อาทิตย์และไม่รู้จักเส้นทาง  ผมก็ถามว่ารู้จักเสาชิงช้ามั้ย  เขาตอบว่ารู้  ก็ตกลงไปวัดสุทัศน์ก่อน  และเจอรถติดนานมากๆ  และผมเริ่มไม่แน่ใจว่าเขารู้เส้นทางจริงหรือเปล่า  ขับรถอยู่พักใหญ่รถติดไฟแดงโชว์เฟอร์มือใหม่ก็ถามเส้นทางตุ๊กๆคันข้างๆ  คนขับรถใจดีคันนั้นตอบว่า “ศาลเจ้าพ่อเสือเลยมาไกลแล้วต้องวกกลับ ส่วนวัดสุทัศน์นั้นอยู่ด้านหน้าขวามือนี่ไง”  ผมได้ยินก็รีบควักตังค์ 40 บาทจ่ายให้แล้วรีบกระโดดลงก่อนที่สัญญาณไฟจะเปลี่ยนเป็นไฟเขียว  แล้วก็เดินข้ามถนนเล็กข้างวัดและเข้าวัดไป ไปถึงก็ไปกราบนมัสการพระศรีศากยมุณี(องค์เล็กที่อยู่หน้าโบสถ์)  ซึ่งโชคดีที่เจ้าหน้าที่ที่ดูแลวัดเพิ่งมาเปิดโบสถ์พอดี  จึงได้เข้าไปกราบพระศรีศากยมุณีองค์พระประธานด้านในอีกครั้ง  ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่สวยงามมากอีกองค์หนึ่งระหว่างที่เดินออกจากวัดก็แวะถามแม่ค้าล็อตเตอรี่ว่า   ผมจะเดินไปศาลเจ้าพ่อเสือไปทางไหนครับ  แม่ค้าก็แนะนำให้เดินตรงไปผ่านเทวสถาน(โบสถ์พราหมณ์)แล้วเลี้ยวซ้ายซอยใหญ่ และเดินไปสุดซอยก็จะถึงครับ  ระหว่างทางก็ผ่านเทวสถานก็ตั้งใจว่าจะมาถ้ามีเวลาเหลือ  ผมใช้เวลาเดินประมาณ 5 นาทีก็ถึงศาลเจ้าพ่อเสือ  และก็ซื้อธูปเทียนไหว้ไม่นานเพราะควันเยอะมาก  และทำบุญด้วย ดูเวลาเพิ่งบ่ายสามโมงนิดหน่อย จากนั้นเดินย้อนกลับเส้นทางเดิม เพื่อไปไหว้เทวสถาน ซึ่งมีเทวรูปของพระนารายณ์ พระพิฆเนศ พระศิวะ และพระอิศวร  เ สร็จแล้วก็เรียกแท็กซี่กลับบ้านย่านเซ็นทรัลลาดพร้าว แต่รถติดมากเลยบอกโชว์เฟอร์ว่า ให้ส่งที่สถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุด  ก็ได้ลงที่สถานี BTS พญาไท แล้วนั่งต่อไปสถานีหมอชิต แล้วต่อ MRT ไปลงสถานีพหลโยธิน และนั่งมอเตอร์ไซค์เข้าบ้าน  ทางที่ดีคือควรจะนั่งแท็กซี่ไปลงที่หัวลำโพง หรือที่สนามศุภฯเพื่อต่อรถไฟฟ้ากลับบ้านน่าจะสะดวกที่สุด จบสมบูรณ์สำหรับเป้าหมายที่ตั้งไว้ คือ ต้องการไหว้พระ 9 วัดในกรุงเทพฯ ภายในวันเดียว เริ่มต้นด้วยศาล(หลักเมือง) และลงท้ายด้วยศาล(เจ้าพ่อเสือ) มีอุปสรรคบ้างแต่ก็แก้ไขได้ และสามารถทำได้บรรลุวัตถุประสงค์ก็พอใจแล้วครับ  เป็นการเริ่มต้นปีใหม่ที่ดีสำหรับผม น่าจะอ่านง่ายขึ้นกว่าเดิมครับ จากคุณ : เมฆพ่อจิ้มลิ้ม เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 21:49:54

ความคิดเห็นที่ 2 ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ ว่างๆจะไปตามรอยมั่ง อิอิ จากคุณ : dodoman เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 00:19:58

ความคิดเห็นที่ 3   ขอแนะนำตามเวบ ททท ครับ  รูปภาพข้อมูลเพียบ http://www.9wat.net/history.htm ผมไปไหว้พระส่วนใหญ่  ก็จะติดธูปเทียน ทองคำเปลว เหรียญแล้วก็แบงค์ 20   ใส่กระเป๋าย่ามเพื่อความสะดวกคับ จากคุณ : @ibondz เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 11:13:53