Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
อยากให้ทุกคนได้อ่านนะครับ ผมร้องไห้มาแล้ว vote  

ส่งลูกเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า ตอนที่ 1

ตอนที่ 1 วันแห่งความโหดร้าย

เช้า แรกของเดือนตุลาคม 2550 วันนี้อากาศแจ่มใส เป็นวันที่ลูกๆ ของผู้หญิงคนนี้ มีความสุขมาก ผู้หญิงคนนี้ชื่อว่า หทัยภรณ์ กสิกิจนำชัย ลูกๆ เรียกเธอว่า หม่าม้า มีลูกด้วย 2 คน คนโตชื่อว่า เหวินยุ่ย(โย้ง) ส่วนคนเล็กก็ตามปกติของลูกคนเล็ก ชื่อว่า ตี้ตี้ และอย่างที่บอกวันนี้เป็นวันที่ลูกๆ มีความสุขที่สุดเพราะเป็นวันแรกที่ปิดเทอม และตี้ตี้ กำลังจะเดินทางไปเที่ยวรัสเซียกับปาป๊า โดยเหวินยุ่ย อยู่เป็นเพื่อนหม่าม้า เมื่อส่งปาป๊าและน้องที่สนามบินเสร็จแม่ลูกก็ขับรถกลับบ้าน แต่ขณะที่กำลังขับกลับนั้นเอง ที่เหวินยุ่ย ไอเป็นชุดเลย ทำให้หม่าม้าถามขึ้นว่า

"ลูกไออีกแล้วนะ ครั้งนี้ไอหนักด้วย กินของทอดอีกแล้วหรือ เจ็บคอหรือเปล่า" แม่ถามลูกเหมือนปกติทุกครั้งที่เห็นลูกไอ แต่กินยาก็หาย

"ไม่เจ็บคอหรอก ไอจนชินแล้ว แต่หมู่นี้ไม่รู้เป็นไง ไอบ่อยจัง หายใจก็ไม่ค่อยคล่อง"

"ไปหาหมอหน่อยดีกว่านะลูก เป็นหวัดก็ไม่ได้เป็น ไปตรวจซะหน่อยดีไหม"

"ตามใจหม่าม้า"
หลัง จากนั้นก็มุ่งหน้าไปโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง แม่ขอให้ลูกตรวจกับแพทย์เฉพาะทางด้านปอด แพทย์ตรวจและขอ X-ray ขณะที่รอฟังผล แม่ลูกคุยกันอย่างสนุกสนาน โดยไม่คิดเลยว่าสิ่งที่น่ากลัวที่สุดกำลังจะเกิดขึ้นกับชีวิต หมอเรียกพวกเค้าไปแล้ว ขอเจาะเลือดเพิ่ม หมอบอกว่า ปอดไม่สวยเลย มีก้อนเนื้ออยู่บนขั้วปอดกว้างประมาณ 6 ซ.ม. ยาวประมาณ 10-12 ซ.ม. ที่ปอดทั้ง 2 ข้างมีก้อนเนื้อใหญ่เล็กหลายจุด ใหญ่สุดประมาณ 5 ซ.ม.

ไม่ มีเสียงใดๆ ออกจากปากทั้ง 2 คนแม่ลูก มีแต่เสียงหัวใจของผู้เป็นแม่ที่เต้นโครมคราม อยู่ภายในว่า หมอกำลังบอกว่า "ลูกเป็นมะเร็ง" แม่มองหน้าลูกโดยพยายามยิ้ม และทำหน้าปกติที่สุด แต่ลูกมาบอกภายหลังว่า เป็นรอยยิ้มที่แย่ที่สุดของแม่เลย

หมอถาม แม่กับลูกว่า พร้อมที่จะพูดคุยกับหมอเฉพาะทางไหม แล้วมีหรือที่แม่จะไม่พร้อม เมื่อเข้าไปคุยกับหมอ หมอก็ขอให้ทำ CT scan ขณะที่รอฟังผลก็ภาวนาให้ผลออกมาไม่ตรงกับผล x-ray แต่ผลออกมาว่า

"ลูกคุณเป็นมะเร็งบนขั้วปอด และกระจายไปสู่ปอดทั้ง 2 ข้างแล้ว"

แม่ถามออกไปว่า “ลูกเป็นขั้นไหนแล้ว แต่ไม่อยากให้หมอพูดต่อหน้าลูกเพราะกลัวเค้ากลัวและไม่สบายใจ” แต่หมอกลับพูดว่า

" น้องอายุยังน้อย 20 เอง รูปร่างสูงใหญ่ หมออยากให้น้องเค้ารับรู้ด้วย หมอเห็นผลเลือดแล้ว หมอดีใจ คุณ........เป็นผู้โชคดีบนความโชคร้าย คุณเป็นมะเร็งที่มีชื่อเรียกว่า Gem Cell นักศึกษาทุกคนทราบดีว่ามะเร็งตัวนี้ รักษาง่าย ด้วยการทำคีโม ก็เห็นผลแล้ว 90% ของมะเร็งชนิดนี้รักษาหาย "

คำบอกเล่าของหมอทำให้ทั้งคู่มีความหวัง จึงยิ้มและถามออกไปว่า

"คุณหมอพบ และทำการรักษาคนที่เป็นโรคนี้ทั้งหมดกี่คนแล้วค่ะ"

“ประมาณ 70 คน”

“อีก 10% ที่ไม่หายเป็นไงบ้างค่ะ”

“เมื่อ รักษาหายแล้ว อีก 2 ปีจะกลับมาอีก” หมอเริ่มอธิบายถึงขั้นตอนในการรักษา โดยจะทำคีโม 5 ครั้งๆ ละ 5 วัน โดยห่างกัน 21 วัน วันแรกที่ทำมะเร็งจะลดขนาดลงและอาการไอก็จะดีขึ้น

2 แม่ลูกได้ฟังก็ยิ้มได้และกลับบ้านไปด้วยความหวัง

เริ่ม ทำคีโมครั้งแรก วันแรกที่ทำลูกหายใจได้คล่องขึ้นจริงๆ อาการไอก็ทุเลา ทำการให้ต่อครบ 5 วัน ทำการตรวจเลือดและ x-ray ปรากฏว่าก้อนเนื้อใหญ่กว่าเดิม ทั้งๆ ที่จริงๆ มันต้องเล็กลง และตำแหน่งที่เกิดก็เริ่มกดทับเส้นเลือดใหญ่ กดทับหลอดลมจนเบี้ยว ยิ่งไปกว่านั้นยังไปอยู่ติดกับหัวใจด้วย

ผู้เป็นแม่จึงเริ่มที่จะ ศึกษาเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับโรคนี้ และเริ่มให้ลูกหยุดการเรียน ที่มหาลัยไว้ก่อน แต่ลูกต่อลองว่าขอเหลือไว้ 1 วิชาเพราะอยากเจอเพื่อนๆ จากเรื่องราวนี้ทำให้ผู้เป็นแม่ทราบว่าการทำคีโม คือการใส่ยาพิษเข้าไปสู่ร่างกายมนุษย์ เพราะคีโมจะทำลายแม้แต่เซลล์ที่ดี ไม่เพียงแต่ทำลายมะเร็งเท่านั้น ทำให้ร่างกาย มีอาการเคลื่อนไส้อาเจียน ภูมิคุ้มกันถูกทำลาย ง่ายต่อการติดเชื้อ จำนวนเม็ดเลือดขาวจะลดลง ทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนได้

การทำคีโมครั้งที่ 2 ทำให้ผมร่วง น้ำหนักไม่ลด ปลายนิ้วมือเท้าเริ่มชา ไม่ปวดเมื่อย ไม่มีอาการเคลื่อนไส้ ลูกยังทำตัวร่าเริงปกติ แต่ก็ต้องดูแลเรื่องการติดเชื้อ เมื่อคีโมครบ 5 วันผลกลับกลายเป็นว่าก้อนเนื้อใหญ่ขึ้นอีก

หมอวินิฉัยว่า เป็นมะเร็งที่ดื้อยา ควรทำการผ่าตัดออก ซึ่งเมื่อลูกได้ยินก็จะรีบให้ทำ เพราะอยากหายมากๆ แต่สิ่งที่แม่กลัวอยู่ในใจคือ มันรักษาไม่หาย ผู้เป็นแม่จึงขอพบหมอโดยที่ไม่มีลูกอยู่ด้วย

หมอบอกว่า “ลูกคุณเป็นถึงขั้นที่ 4 แล้ว และดื้อยาด้วย แถมยังขึ้นติดกับส่วนที่สำคัญ ถ้าทำการผ่าตัดก็ไม่สามารถเอาออกจนหมดได้ เมื่อขอทราบวิธีการผ่า หมอบอกว่า ต้องผ่าช่องอกด้วยเลื่อย เลื่อยแผงซี่โครง และตัดก้อนเนื้อ ซึ่งไม่สามรถเอาออกได้หมด หลังจากนั้นก็เย็บปิดซี่โครง โดยการร้อยถัดด้วยลวดทางการแพทย์”

แม่จึงถามว่า “ซี่โครงจะเชื่อมติดเมื่อไหร่”

“แล้วแต่ความแข็งแรงของคนไข้อาจจะ 2 เดือน”

“ก้อนเนื้อที่ปอดละค่ะ”

“ไม่สามารถเอาออกได้เพราะกระจายไปทั่วแล้ว”

“แล้วจะผ่าทำไมค่ะ กระดูกยังไม่เชื่อมก็เกิดขึ้นใหม่แล้ว”

" หมอเห็นใจนะ ส่วนมากที่พบก็ขั้นสุดท้ายแล้ว ของลูกคุณเกิดในจุดสำคัญด้วย เกิดกับคนที่อายุเยอะยังดี นี่ลูกคุณยังแข็งแรงก้อนเนื้อก็จะยิ่งโตเร็ว หมอขอโทษที่ต้องพูดเช่นนี้"

แม่นั่งร้องไห้ทำใจหมอช่างพูดได้ แต่ทำใจยากมาก เมื่อออกมาก็เจอคำถามจากลูก เลยต้องบอกว่า ผ่าไปก็ไม่คุ้ม ผ่าเอาออกไม่หมด ก็ยิ่งทำให้ก้อนเนื้อที่เหลือโตเร็วมากขึ้น จึงเริ่มคิดที่จะไปหาทางอื่นสำหรับการรักษา
เรามาดูกันว่าสิ่งมหัศจรรย์จะเกิดขึ้นจริงไหมอย่างไรรออ่านตอนที่ 2 นะ

จากคุณ : ลมหายใจสีชมพู
เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 03:38:50





[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ]       
 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com