ความคิดเห็นที่ 1   เราก็เลยคิดเอาไงดี เลยลองโทรไปที่ call center ของบัตรนั้น เล่าให้เค้าฟัง แล้วบอกว่า ถ้าจะทำเรื่องขอเงินคืนได้มั้ย เค้าบอกได้ แต่ต้องให้ทางบัญชีของหางแดงเป็นคนดำเนินการทำเรื่องมาที่บัตร เราโทรไปถาม 3 รอบ เจ้าหน้าที่ทุกคนยืนยันว่า ถ้าทางบัญชีหางแดงดำเนินการทำเรื่องไป ก็สามารถทำเรื่องได้ รวมทั้งได้สอบถามเจ้าหน้าที่จากบัตรอื่นๆ ที่เราถืออยู่ เจ้าหน้าที่ของทุกบัตร ยืนยันสามารถดำเนินการได้ แม้กระบวนการจบสิ้นแล้ว(ซึ่งในอีเมลล์ที่เค้าส่งให้เราบอกว่าต้องใช้เวลา 45 วัน ซึ่งก็แสดงว่า เงินที่คืนน่าจะยังไม่เข้าบัญชีบัตรที่ผิด)  ซึ่งเราก็โทรบอกทาง Supervisor ของหางแดง ตั้งแต่วันที่ 18 ก.พ. โดยเธอ ก็บอกว่าจะตรวจสอบกับทางบัญชีอีกครั้งหนึ่ง แต่พอเราโทรข้าไปตรวจสอบอีกครั้งในวันที่ 22 ทางเจ้าหน้าที่ของหางแดงยืนยันว่า ทางฝ่ายบัญชีของเค้าไม่สามารถทำได้เนื่องจาก ได้ดำเนินการคืนเงินให้แล้ว               แม้ว่าเราจะบอกว่า ทางบัญชีสามารถทำเรื่องเข้าไปที่บัตรได้ก็ตาม ทางหางแดงได้บอกให้เราไปติดต่อทวงเงินกับเจ้าของบัตรเอง ซึ่งเราได้ปฏิเสธและบอกไปว่า ถ้าจะทำแบบนั้นให้ ทางหางแดงติดต่อเจ้าของบัตรให้เอง เพราะมันไม่ใช่เกิดจากความผิดของเรา และไม่ใช่หน้าที่ในการต้องดำเนินการจากความผิดของพนักงานหางแดง      และเราก็ได้ตรวจสอบทุกบัตรเครดิตแล้วว่าสามารถดำเนินการได้                    พฤติกรรมของดังกล่าวทั้งหมดของฝ่ายบัญชีและ ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ แสดงให้เห็นว่าเป็นการไม่รับผิดชอบต่อความผิดที่ได้กระทำ และเป็นการผลักภาระดังกล่าวให้กับผู้บริโภค ทั้งการที่พนักงานทำรายการผิด และ การโอนเข้าบัตรเครดิตอื่นที่ไม่ได้ทำรายการดังกล่าว วิธีดำเนินการแก้ไขก็ให้เราไปติดตามเอาเงินคืนจากผู้ถือบัตรที่เค้าโอนผิดเอง เพิ่งรู้ว่าเค้าทำกันได้ด้วยแบบนี้ ถ้าเจ้าของบัตรเบี้ยวเงิน เราก็ต้องรับผิดชอบเงินที่สูญเสียไป โดยถือว่าเป็นเวรกรรมจากชาติปางก่อนของเราว่างั้นเถอะ              จำนวนเงินที่เรียกคืน แม้จะไม่มากนัก แต่เราคิดว่ามันก็เป็นเงินที่สามารถจะนำไปทำประโยชน์ให้กับผู้ด้อยโอกาสได้มากกว่านี้              เราได้ทำเรื่องร้องเรียนกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ไปแล้ว รวมทั้งแจ้งทางบัตรเครดิตที่เราถือให้ปฏิเสธการชำระยอดนั้น ถ้าจะจ่ายให้ก็จะจ่ายเพียงแค่ MYR 65 เท่านั้น รวมทั้งได้ส่งร้องเรียนไปที่ หางแดงที่มาเลย์เซีย ในเมื่อในไทย เค้าช่วยเราไม่ได้ เราก็จะลองดูว่า ที่มาเลย์เซียเค้าจะช่วยเราได้มั้ย               ตอนนี้เลยมีอาการเซ็งเล็กน้อยกับเรื่องนี้ จากคุณ : I do my best เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 10:19:39

ความคิดเห็นที่ 2   ผู้ที่เกี่ยวข้องควรจะลงมาให้ความช่วยเหลือ จขกท. ด้วยนะคะ ไม่ใช่ปล่อยให้เรื่องมันเงียบไปแบบนี้  ทำผิดก็ควรจะทำเรื่องให้มันถูก ไม่ใช่ทำผิดแล้วโยนให้ผู้ใช้บริการอย่างๆ เราๆ ท่าน ๆ ไปตามสิทธิ์และเรียกร้องสิทธิ์เอง....เหตทึ่เราซึ่งเป็นผู้เสียหายต้องคอยตามอยู่ตลอดเวลา ก็เพราะว่าเราโดนเอาเปรียบแบบนี้ไงค่ะ...  โหวตให้ไปค่ะ... จากคุณ : foodsc เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 10:26:36

ความคิดเห็นที่ 3   แล้วเค้าคืนเงินเข้าบัตรใครอ่ะคะ จากคุณ : superkoy เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 10:34:02

ความคิดเห็นที่ 4   1. แล้วเขาบอกคุณไหมคะว่าเขาโอนเงินไปที่บัตรเครดิตใบไหน ให้เขาบอกมาค่ะแล้วเชคบัตรเครดิตใบนั้นมาโอนมาจริงเปล่า ในกรณีคุณมันควรจะมีบัตรเครดิตเข้ามาเกี่ยวข้องแค่สองใบคือผู้เดินทางคนแรกับคุณ ถ้ามีเงินโอนมาจริงไม่ใช่บัตรคุณก็ต้องเป็นอีกบัตรใช่ไหมคะ แล้วตรงนี้เจ้าของบัตรเขาเอาเงินสดมาคืนคุณได้ไหมคะ เอาแค่จำนวนบาทที่ได้รับจริงหลังจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินก็ได้ เขายกตั๋วให้คุณได้คงไม่ลำบากที่จะคืนให้คุณ อันนี้ง่ายที่สุดแล้ว แม้ว่ามันจะไม่ใช่หน้าที่ของคุณที่จะไปตามเงินส่วนนี้ 2. ถ้าเขาไม่มีข้อมูลให้ และเจ้าของตั๋วเดิมก็ไม่ได้รับ คุณแจ้งปฏิเสธการจ่ายเงินยอดที่ตัดเกินจำนวนนั้นด้วยเหตุผลว่าเรียกเก็บเกินจำนวนที่ต้องจ่ายจริง แจ้งแบงค์ให้ทำการตรวจสอบและแจ้งให้คุณทราบ แบงค์จะดำเนินการให้คุณเอง ร้านค้าต้องมีเอกสารมายืนยันจำนวนเงินที่เรียกเก็บค่ะ 3. ต้องเข้าใจว่าแม้ว่าเราจะเรียกสายการบินว่า แอร์เอเชีย แต่ในความเป็นจริงแล้วมันแยกบริษัทแยกการบริหารที่ไม่เกี่ยวกันโดยสิ้นเชิง ปัญหาที่เกิดมันเกิดกับบริษัทแอร์เอเชียของมาเลเซียไม่ใช่ บริษัทไทยแอร์เอเชีย คนละบริษัทคนละระบบ แล้วเขาจะจัดการให้คุณได้อย่างไรเขาไม่ได้มีอำนาจ เขาทำได้แค่ประสานงานให้เท่านั้น 4. เรื่องสคบ เมื่อคู่กรณีเป็นแอร์เอเชียมาเลเซีย ก็ไม่รู้ว่าสคบ จะไปตามคู่กรณีมาได้อย่างไร แล้วมีอำนาจในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเช่นนี้หรือเปล่า 5. ติดต่อด้วยอีเมล์แล้วเก็บหลักฐานไว้ รวมทั้งหลักฐานที่บอกว่าค่าธรรมเนียมจริงๆเป็นเท่าไร เอกสารส่วนนี้เป็นส่วนที่คุณจะยืนยันการปฏิเสธการจ่ายเงินของคุณ การตัดบัตรเครดิตแม้ว่าจะทำได้ง่าย แต่ก็ไม่ใช่ว่านึกจะดัดก็ตัดแล้วเจ้าของบัตรต้องจ่ายเสมอ ระบบมันมีค่ะ ใช้ระบบให้เป็นประโยชน์ ถ้าไม่อยากโดนเอาเปรียบ ก็อย่าให้เขาเอาเปรียบ และรักษาผลประโยชน์ของตัวเองด้วย ปกติถ้าใช้บัตรทำธุรกรรมออนไลน์ต้องคอยเชคยอดที่เข้ามาว่าถูกต้องหรือเปล่า ไม่รอจนใบแจ้งหนีออกมาหรอกค่ะมันสายเกินไป เพิ่มเติม คราวหน้าถ้ามีปัญหาในการทำรายการด้วยการด้วยบัตรเครดิตไม่ว่าจะรูดจากเครื่องหรือตัดออนไลน์ ถ้ามีปัญหาไม่ว่าจะจำนวนเกินหรือขาด ให้เขาทำยกเลิกรายการแล้วทำรายการใหม่ ยอดเงินก็จะไม่ถูกกักไว้และไม่ต้องมาติดตามกันให้ยุ่งยาก แก้ไขเมื่อ 23 ก.พ. 53 10:46:07 จากคุณ : Alone with out lonely เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 10:40:55

ความคิดเห็นที่ 5   ยืนยันอีกคนว่า.... เจ้าหน้าที่ส่วนคืนเงินของแอร์เอเชีย ***ทำงานห่วยแตก*** เราใช้บัตรเครดิต A ซื้อตั๋วกับแอร์เอเชียเพียงครั้งเดียว แล้ว เปลี่ยนเป็นใช้บัตรเครดิต B ในครั้งต่อๆ มา โดยไม่เคยใช้บัตร A ซื้อตั๋วอีกเลย แต่การคืนเงินค่าภาษีสนามบินจากการไม่ได้เดินทางทุกครั้ง จะไปเข้าบัตรเครดิต A เสมอ โชคดีที่กรณีของเรา เจ้าของบัตรเป็นคนคนเดียวกัน ก็ช่างมันไป แต่สะท้อนว่า พนักงานด้านการเงินของแอร์เอเชีย ***สะเพร่า/ทำงานหละหลวมมาก*** กรณีของคุณจขกท. เพิ่มมาอีกหนึ่งข้อกล่าวหาคือ ***ขาดความรับผิดชอบ*** ตอบมาได้ว่า "ได้ดำเนินการคืนเงินให้แล้ว กระบวนการจบสิ้นแล้ว" สงสัยสมองใช้ต่อมใต้รักแร้สั่งการ จากคุณ : ริมยมนา เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 10:42:10

ความคิดเห็นที่ 6   ผมว่า จะหางแดงไทย หรือ มาเลย์ แต่การรับผิดชอบในกรณีเรื่องการเงิน ก็ต้องตามเรื่องให้ลูกค้าเหมือนกันนะครับ ตอนจ่ายตัง รับเงินให้กันได้ แต่ตอนตัดเงินเกินต้องคืนตัง ดันบอกว่า หางแดงมาเลย์ไม่เกี่ยวกะไทย แล้วจะให้ลูกค้าวิ่งปุเลงๆ ไปตามกับหางแดงมาเลย์ โดยบอกวา กระบวนการคืนเงินเสร็จแล้ว คงไม่ใช่แล้วครับ จากคุณ : David_kop เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 10:53:35

ความคิดเห็นที่ 7   ตอบความคิดเห็นที่ 6 เวลาทำธุรกรรมการเงินออนไลน์ตามเวป แม้ว่าคุณจะนั่งทำอยู่ในประเทศไทยก็ไม่ได้หมายความว่าธุรกรรมนั้นมันเกิดในประเทศไทยนะคะ รายการใดที่เรียกเก็บมาเป็นสกุลเงินต่างประเทศที่ไม่ใช่เงินบาท แปลว่าเป็นการทำธุรกรรมนอกประเทศไทยค่ะ ดังนั้นในกรณีนี้ ไทยแอร์เอเซียไม่ได้ช่วยรับเงินให้ค่ะ ที่แสดงความเห็นนี้ไม่ได้สาวกแอร์เอเชียและไม่ได้มาเข้าข้างแอร์เอเชียค่ะ แต่พยายามจะบอกว่า ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้จะมีวิธีการทำอย่างไรไม่ให้เราเสียประโยชน์ การจะมาประกาศ ประท้วงว่า ทำไมเขาไม่ทำอย่างนั้นอย่างนี้ มันบังคับเขาไม่ได้ใช่ไหมคะ ทางแก้ถาวรคือเลิกใช้บริการ แต่ถ้าไมีคิดจะเลิกใช้และไม่อยากจะเสียอารมณ์เราจะมีวิธีป้องกันอย่างไรเท่านั้น ไม่ต้องไปบอกเขาหรอกค่ะ ถ้าเขาไม่เสียประโยชน์ หรือเดือดร้อนบอกอย่างไรเขาก็ไม่สนใจหรอกค่ะ ที่ทำได้คือถ้าเรียกมาไม่ตรงก็ไม่จ่าย ให้ไปว่ากันเอง ถ้าเขาไม่ได้เงิน เขาต้องเดือดร้อนจัดการ คนเอาเงินใส่เข้ามาเท่านั้น ที่จะ recall เงินกลับไป ถ้าอยากได้เงินก็ส่งเรียกเก็บมาให้ถูกต้อง หลักการมีแค่นี้เอง แต่มันเสียเวลา เสียอารมณ์ที่จะต้องตามเท่านั้นเอง แล้วแต่คุณจะเลือกว่าเอาแบบจบง่ายๆ เราไม่ต้องเสียเวลา หรือเอาแบบฉันไม่ผิด ฉันไม่สนแล้วต้องนั่งเสียอารมณ์ไปอีกนาน แล้วเมื่อรู้ว่าระบบมันฮ่วยแบบนี้ คราวหน้าก็ต้องระวังอย่างทำธุรกรรมใดที่มันต้องไปวุ่นกับระบบฮ่วยๆอีกก็เท่านั้นเอง เพิ่มเติมนะคะ ทำธุรกรรมด้วยบัตรเครดิตไม่ว่าจะเครื่องรูดหรือออนไลน์ควรจะขอและเก็บใบเสร็จรับเงินหรือ invoice ไว้ทุกครั้งจนกว่าจะมีการเรียกเก็บและชำระรายงานไปแล้ว เพราะถ้ามียอดใดเรียกเก็บเข้ามาไม่ถูกต้อง เรามีสิทธิ์จะปฏิเสธการจ่ายเงินและแสดงหลักฐานยืนยันว่ามันเป็นการเรียกเก็บที่ไมถูกต้อง เราจะจ่ายเงินเมื่อมีการแก้ไขและเรียกเก็บจำนวนเงินที่ถูกต้องตาม Invoice หรือใบเสร็จรับเงิน แก้ไขเมื่อ 23 ก.พ. 53 11:18:19 จากคุณ : Alone with out lonely เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 11:08:56

ความคิดเห็นที่ 8   มาให้กำลังใจ จขกท.ค่ะ เอาใจช่วยนะคะ จากคุณ : เด็กศิลป์ (Artiste) เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 11:10:34

ความคิดเห็นที่ 9   Dear Value Guest, According to booking number F1JSLF which you request to refund amount 25 Myr , we already refund successfully on 27 JAN 2010  into Visa Card number xxxx xxxx xxxx  xxxx  However, please update with your next statement. For the refund policy states that you will receive the refund within 45 working days. In most cases, we are able to process it less than 45 working days.            อันนี้เป็นส่วนหนึ่งจากเมลล์ที่เค้าส่งมาค่ะ  บัตรเราเป็นมาสเตอร์ แต่เค้าคืนวีซ่า (เค้าเขียนบอกเลขบัตรมาแค่ 4 ตัวท้าย แต่เราขอไม่บอกเลยนะคะ )ซึ่งตอนนี้เราได้ติดต่อพี่เจ้าของบัตรซึ่งเป็นคนเดินทางคนแรกให้ตรวจสอบให้แล้ว พี่เค้าบอกว่ายังไม่มีเงินคืนเข้ามาให้ ก็อาจจะเป็นอยู่ในระหว่างดำเนินการ ซึ่งก็น่าจะหมายความว่า การดำเนินการยังไม่จบสิ้น ก็ควรจะดำเนินการให้เราได้ ทางเราได้สอบถามบัตรของเรา เค้าบอกว่า กรณีนี้เราสามารถปฏิเสธยอดได้ แม้ว่าเราจะดำเนินการจ่ายเงินแล้วก็ตาม โดยทางบัตรนี้จะ ดำเนินการตรวจสอบให้เรา โดยเราได้ทำจดหมายชี้แจงไปเหมือนในกระทู้แต่เป็นทางการกว่า รวมทั้งแนบอีเมลล์จากหางแดงไปด้วย จากคุณ : I do my best เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 11:38:33

ความคิดเห็นที่ 10   ตอนตัดเงิน เราก็ถามเค้าแล้วว่าทำไมคืนเลยไม่ได้ เค้าบอกตามระบบเค้าต้องทำเรื่องภายใน 30 วัน ซึ่งเราตอนนั้นก็ไม่ได้คิดไรมาก ก็เออ ไม่เป็นไร เดี๋ยวคืนให้(ตอนนั้นใจดีเกิน) ถ้าเค้าไม่พูดว่า กระบวนการเค้าจบสิ้นแล้ว ไม่สามารถทำเรื่องให้เราได้ เราก็จะไปถามจากพี่ที่ออฟฟิสที่เค้าคืนเข้าบัตรนี้เอง แต่ก็คงต้องรอ เพราะโดยปกติออฟฟิสเรา ถ้าคนนึงเดินทาง อีกคนจะอยู่ออฟฟิส หรือเดินทางทั้งสองคน ซึ่งบางเดือนไม่ได้เจอหน้ากันเลยด้วยซ้ำ แต่ด้วยคำพูดคำนั้น เราเลยตัดสินใจปฏิเสธที่จะดำเนินการเอง กระทั่งแค่ให้เค้าโทรกลับ เพราะเราต้องเสียเวลารอสายเค้านานมาก ช่วงแรกๆเค้ายังบอกเลยว่า โทรกลับไม่ได้ เพราะเหมือนสัญญาณเค้าขึ้นกะทางมาเลย์ มันจะเหมือนโทรทางไกลมา เราต้องเป็นฝ่ายโทรเค้าไปรอ ตลอด เค้าโทรกลับมาแค่ 2 ครั้ง เราก็เลยลองส่งร้องเรียนไปที่มาเลย์ จะได้เรื่องหรือไม่ได้อย่างไรก็ไม่เป็นไรค่ะ             ตอนนี้เราจะตามแค่บัตรเครดิตเราเท่านั้น            ขอบคุณทุกๆความเห็นนะคะ จากคุณ : I do my best เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 11:39:40

ความคิดเห็นที่ 11   เห็นใจครับ จากคุณ : แมงปอบินเดี่ยว เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 12:07:46

ความคิดเห็นที่ 12   เห็นใจครับ จากคุณ : แมงปอบินเดี่ยว เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 12:09:28

ความคิดเห็นที่ 13   เห็นใจครับ จากคุณ : แมงปอบินเดี่ยว เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 12:09:46

ความคิดเห็นที่ 14   มารอ   KJ จากคุณ : เย็นกินฟักผัด เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 12:39:05

ความคิดเห็นที่ 15   แหะๆ ยอมรับว่า ไม่เคยเช็คเลยว่า  ยอดคืนเข้าบัตรไหน จะว่าไปเราก็ไม่ค่อยเช็คยอดบัตรเครดิตอ่ะ เลยไม่ค่อยรู้ ตายหละ ปีนี้ ขอคืนหลายไฟท์นะเนี่ย ... ถูกบัตรไหมหนอ จากคุณ : my_tabo เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 12:52:49

ความคิดเห็นที่ 16   เจ้าของกระทู้คะ แล้วทำไมคุณไม่ติดต่อกับเพื่อนของคุณที่เป็นของบัตรละคะ จากคุณ : หยินจู เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 13:06:11

ความคิดเห็นที่ 17   คือตกลงก็คืนไปบัตรของผู้ร่วมเดินทางคนหนึ่งใช่ไหมครับ ไม่ได้คืนไปบัตรใครก็ไม่รู้?  หรือยังไง ช่วยชี้แจงหน่อยครับ? แล้วแอร์เอเชียเอาข้อมูลบัตรนั้นมาจากไหน มันเป็นบัตรที่ใช้ซื้อตั๋วครั้งนี้ด้วยหรือไม่? เป็นผมจะโทรไปคอลเซ็นเตอร์ที่มาเลเซีย ขอคุยกับพนักงานของ AK ดูอ่ะครับ เขาคงช่วยได้มากกว่าพนักงาน FD (ซึ่งเขาเนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง ใครจะอยากเอากระดูกมาแขวนคอครับ) เท่าที่ผมเดานะ คือตอนซื้อตั๋วใช้บัตรเพื่อนจ่าย แต่พอเปลี่ยนแปลงรายการใช้บัตร จขกท. จ่ายใช่มั๊ยครับ?? พอคืนเงิน เขากลับไปคืนเข้าบัตรเพื่อนที่ใช้จ่ายตอนซื้อตั๋วทีแรก ถูกรึเปล่าครับ???  (อันนี้จริงๆเป็นวิธีปฏิบัติของแอร์เอเชียเลยนะที่จะคืนเข้าบัตรที่ซื้อตั๋วครั้งแรกเท่านั้น ซึ่งคนขอคืนเงินบ่อยจะรู้ครับ ถ้าจะให้เข้าบัตรอื่นต้องบอกตอนขอคืนอ่ะครับ) แก้ไขเมื่อ 23 ก.พ. 53 13:34:30 จากคุณ : Ethanol เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 13:29:20

ความคิดเห็นที่ 18   ถ้าเค้าคืนให้เพื่อนก็ให้เพื่อนคืนมาดีมั้ย ถึงจะไม่ถูกหลักการ  แต่ก็ไม่ต้องเสียเวลา ไม่ต้องเสียอารมณ์เลยครับ เอาเวลาพิมพ์โพสท์ เวลาโทรไปทวง search ข้อมูลเที่ยวดีกว่านะ จากคุณ : tanbali เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 13:31:46

ความคิดเห็นที่ 19   ถ้าแอร์เอเชียไทย กับแอร์เอเชียมาเลย์ มีระบบบัญชีที่แยกกันชัดเจน ไม่เกี่ยวอะไรกันเลย แต่ดันทำธุรกิจรูปแบบเดียวกัน และที่สำคัญทำในลักษณะเอื้อ/ประสานร่วมมือกัน เพื่อทำให้ธุรกิจของตัวเองได้เปรียบในการแข่งขันมากกว่าสายการบินอื่น แล้วเวลาลูกค้ามีปัญหา ดันบอกว่า โน่นของบริษัทโน้น ไม่เกี่ยวกับที่นี่ ***ออกแนวขาดจริยธรรมกับไร้ความรับผิดชอบ*** ไปหน่อยนะ ทางแอร์เอเชียที่นี่ ควรจะคิดวิธีการแก้ไขปัญหาให้ลูกค้าด้วย อย่าหนักไปทางโบ้ย มันง่ายเกินไป คำตอบลักษณะประมาณว่า ไม่ชอบก็ไม่ต้องบิน ก็ออกไม่สร้างสรรค์นะ จากคุณ : ริมยมนา เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 13:45:12

ความคิดเห็นที่ 20   อ่านแล้วก็ งง งง ว่าทำไม ระบบ หางแดง มันฮ่วย จั๋ง ซี่ จากคุณ : eurostar เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 14:01:27

ความคิดเห็นที่ 21   ยืนยันอีกคนว่า.... เจ้าหน้าที่ส่วนคืนเงินของแอร์เอเชีย ***ทำงานห่วยแตก*** เราใช้บัตรเครดิต A ซื้อตั๋วกับแอร์เอเชียเพียงครั้งเดียว แล้ว เปลี่ยนเป็นใช้บัตรเครดิต B ในครั้งต่อๆ มา โดยไม่เคยใช้บัตร A ซื้อตั๋วอีกเลย แต่การคืนเงินค่าภาษีสนามบินจากการไม่ได้เดินทางทุกครั้ง จะไปเข้าบัตรเครดิต A เสมอ โชคดีที่กรณีของเรา เจ้าของบัตรเป็นคนคนเดียวกัน ก็ช่างมันไป แต่สะท้อนว่า พนักงานด้านการเงินของแอร์เอเชีย ***สะเพร่า/ทำงานหละหลวมมาก*** *************** คุณริมยมนาคะ ในการซื้อตั๋วของแอร์เอเชีย ไม่ว่าคุณจะใช้บัตรไหนซื้อ ในส่วนของการคืนเงิน จะจ่ายเงินเข้าบัตรที่ซื้อทุกครั้งคะ ในกรณี ถ้าคุณใช้บัตร A ซื้อ แล้วคุณ จะให้คืนเข้าบัตร B มันไม่มีทางเป็นไปได้เลยคะ จากคุณ : หยินจู เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 14:02:42

ความคิดเห็นที่ 22   ตอบ คห.7 คุณ Alone with out lonely ก็พอเข้าใจเรื่อง บริษัทที่มันแยกกัน ธุรกรรมทางการเงินก็แยกกันนะครับ อันนั้นเป็นในเรื่องของการเงิน ซึ่งมันมีขั้นตอนของมันอยู่ แต่ในเรื่องของการบริการ ในเมื่อคุณทำระบบการจองตั๋วที่รวมกัน ลูกค้าร้อยทั้งร้อย ก็จะเข้าใจว่า ในเมื่อจ่ายตังผ่านเว็บเดียวกัน การขอคืนเงิน ก็น่าจะทำได้จากที่เดียวกันด้วย ถูกมั้ยครับ แต่พอจะขอคืนเงิน กลับต้องวิ่งไปอีกหน่วยงานนึง แล้วมันยังอยู่คนละประเทศกันอีก อันนี้มันไม่ make sense แล้วล่ะครับ การทำธุรกิจ มันก็ควรจะมีช่องทางการบริการที่มัน make sense กว่านี้อ่ะครับ และในเมื่อลูกค้าทำธุรกรรมตามปกติ และความผิดพลาดไม่ได้เกิดขึ้นจากลูกค้า ภาระการแก้ไขข้อผิดพลาดกลับไปตกอยู่กับลูกค้า อันนี้ผมก็ว่า ยิ่งไม่ make sense อย่างแรงครับ ไม่ว่าธุรกรรมจะเกิดที่เมืองไทย หรือ มาเลเซีย แต่ในเมื่อคนที่รับเรื่องทุกครั้ง คือ call center call center ก็ควรจะต้องดำเนินการแก้ไขให้ลูกค้านะครับ จะแทงเรื่องไปที่ไหนก็สุดแท้แต่ ส่วนในเรื่องการป้องกันเหตุการณ์แบบนี้ไม่ให้เกิดขึ้น อันนี้ผมเห็นด้วยกับคุณ Alone with out lonely นะครับ แต่ใครจะไปรู้ล่ะครับ ถ้าไม่เจอกับตัวเองครั้งแรก บางคนก็ไม่ได้ว่างมากขนาดที่จะรู้เกี่ยวกับธุรกรรมบัตรเครดิตทุกอย่างอ่ะครับ ก็ต้องเจอเคสแบบนี้ก่อน ซึ่งตรงนี้ ทำให้บริษัทที่ทำธุรกิจกินฟรีไปปีนึงไม่น้อยอ่ะครับ ผมหวังว่าแอร์เอเชียจะช่วยแก้ไขเคสนี้นะครับ เพิ่มสร้างความน่าเชื่อถือและความรับผิดชอบให้กับระบบของตัวเองมากขึ้น แก้ไขเมื่อ 23 ก.พ. 53 14:10:32 จากคุณ : David_kop เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 14:06:00

ความคิดเห็นที่ 23   ให้สายการบินเป็นผู้ติดต่อถูกต้องแล้วครับ จะมองแค่ว่า ทำยังไงก็ได้ให้ได้เงินคืนมา มันก็ไม่ใช่ที่นะ ที่เจ้าของกระทู้ต้องวิ่งไปหาเพื่อน แล้วตามเอาเงินมา อย่างนี้ก็ไม่เกิดการพัฒนา ปรับปรุง การให้บริการครับ การผิดพลาดครั้งนี้ก็จะไม่ได้รับการเอาใจใส่และระมัดระวังมากขึ้น กับเงิน MYR 25 เจ้าของกระทู้ก็ไม่ได้อาลัยอาวรณ์เงินจำนวนนั้นมากมายหรอกครับ แต่เขาต้องการให้เกิดความถูกต้อง ถ้ามันไม่เกิดขึ้นกับตัวเอง ก็คงไม่รู้สึก ไม่เสียความรู้สึก เวลาโดนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตอบกลับมาอย่างนั้น ลองคิดในมุมกลับกันนะครับ สมมุติคุณสั่งพิซซ่า แล้วเขามาส่งข้างบ้านที่รู้จักกับคุณ แล้วโทรไปตามว่ายังไม่ได้พิซซ่า แต่คอลเชนเตอร์บอกว่า "หมดหน้าที่ของเราแล้วค่ะ ส่งพิซซ่าไปจากมือเราแล้ว ทำอไรไม่ได้แล้วค่ะ" แล้วสมมุติมีคนเดินมาบอกว่า "คุณก็เดินไปทวงข้างบ้านเองสิ"จะรู้สึกอย่างไร ผมเดาเจตนาว่าที่ จขกท มาโพสท์เนี่ยต้องการปรึกษาว่า จะทำอย่างไรดีที่บริษัท ทำรายการคืนเงินผิด แล้วบอกว่าคืนไปแล้ว ทั้งๆที่คืนไม่ถูกต้อง(แถมยังกล้ามาบอกว่า เข้าใจ แต่สิ้นสุดกระบวนการไปแล้ว) เข้าบัญชีคนอื่นไปซะงั้น จะทำอย่างไรให้เขาคืนให้ถูกต้อง แค่นั้นเอง สมมุติทั้งดุ้น ญาติของเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชี-ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์บริษัทเกวียนแห่งหนึ่ง ป่วยหนัก กำลังจะฉีดยาเข็มนึง ที่สมมุติว่าแพงมาก ไม่ได้ยาเข็มนี้ตายแน่นอน คนฉีดยาเดินเข้ามาแล้วเกิดฉีดผิดคน เพราะป่วยคล้ายกัน แล้วคนฉีดหันหน้ามาบอกว่า "เข้าใจนะว่าฉีดผิดคน แต่ฉีดไปแล้ว หมดกระบวนการของเราแล้วค่ะ" เจ้าหน้าที่บริษัทเกวียนแห่งนั้น คงมีผู้หวังดีมาแนะนำว่า "คุณก็รุ้จักเตียงข้างๆไม่ใช่เหรอ ทำไมไม่ติดต่อเขาล่ะ" จากคุณ : moritoom เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 14:06:38

ความคิดเห็นที่ 24   คิดว่าตอนนี้เจ้าของกระทู้คงอารมณ์ดีขึ้นแล้ว เหลือแต่คนดูรอบเวทีที่ยังไม่อยากจบ เข้าใจว่าเจ้าของกระทู้หงุดหงิดเพราะเข้าใจว่า แอร์เอเชีย ทำผิดแล้วทำไม่ไม่แก้ไข  คือโอนเงินเข้าบัตรผิด แล้วยังมาบอกอีกว่ากระบวนการจบสิ้นแล้ว จากคหที่ 17 คุณ Ethanol เท่าที่ผมเดานะ คือตอนซื้อตั๋วใช้บัตรเพื่อนจ่าย แต่พอเปลี่ยนแปลงรายการใช้บัตร จขกท. จ่ายใช่มั๊ยครับ?? พอคืนเงิน เขากลับไปคืนเข้าบัตรเพื่อนที่ใช้จ่ายตอนซื้อตั๋วทีแรก ถูกรึเปล่าครับ???  (อันนี้จริงๆเป็นวิธีปฏิบัติของแอร์เอเชียเลยนะที่จะคืนเข้าบัตรที่ซื้อตั๋วครั้งแรกเท่านั้น ซึ่งคนขอคืนเงินบ่อยจะรู้ครับ ถ้าจะให้เข้าบัตรอื่นต้องบอกตอนขอคืนอ่ะครับ) ถ้าให้เดาเหมือนกันก็คงเป็นเหตุผลที่เขาตอบว่า กระบวนการจบสิ้นและเขาก็ไม่คิดว่าเขาทำผิดพลาด ถ้าตรงนี้ยังไม่จบ ก็คงประมาณว่า แล้วทำไมแอร์เอเชียไม่ถามว่าจะให้เอาเข้าบัตรไหน ก็คงได้คำตอบว่า แล้วทำไมลูกค้าถึงไม่ศึกษารายละเอียดก่อน มันคงไม่จบค่ะ เรื่องซื้อบัตรไหนคืนเข้าบัตรนั้น เป็นกับทุกธุรกรรมออนไลน์ค่ะ ไม่ใช่แค่สายการบิน หรือแค่แอร์เอเชีย ขนาดบัตรอายัดไปแล้ว ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เป็นเรื่องของธนาคารที่ต้องโอนมาเข้าบัตรใหม่ของลูกค้าเอง มันเป็นระบบป้องกันการนำบัตรผู้อื่นมาใช้หรือขโมยข้อมูลมาใช้เพื่อผลประโยชน์ของผู้ถือบัตรเอง ส่วนความคิดเห็นที่ 19 คำตอบลักษณะประมาณว่า ไม่ชอบก็ไม่ต้องบิน ก็ออกไม่สร้างสรรค์นะ ด้วยความเคารพนะคะ ไม่ทราบว่าหมายถึงดิฉันหรือเปล่า ถ้าไม่ใช่ก็ขออภัยด้วย เพราะอ่านทุกความเห็นแล้วก็ไม่มีคห ไหนนอกจากดิฉัน ดิฉันไม่ได้บอกจากมุมของผู้ให้บริการค่ะ แต่บอกในมุมของผู้รับบริการ ก็ไม่รู้จะแสดงความเห็นใดมากกว่านี้ เพราะถ้าของมันห่วย เฮยซวย ทางที่ดีสุดก็เลิกใช้ค่ะ ถ้าไม่มีลูกค้าเขาอาจพิจารณาปรับปรุงความห่วย ความเฮงซวยของเขาก็ได้ ส่วนเรื่องสองบริษัทก็ตอบตามหลักทั่วไปค่ะ อย่าว่าแต่สองบริษัทเลย คนละสาขายังแก้ไขให้กันไม่ได้ แล้ว FD เขาก็ไม่ได้ปฏิเสธที่จะติดตามให้ไม่ใช่หรือคะ ส่วนคำตอบที่ว่าว ทำอะไรไม่ได้ กระบวนการจบสิ้นแล้ว คงไม่ใช่คำตอบที่ FD ตอบเพราะจะปัดความรับผิดชอบ แต่มันน่าจะเป็นคำตอบจาก ขั้นตอนการปฏิบัติของเขามากกว่าค่ะ ด้วยความเคารพอีกครั้งนะคะ จากคุณ : Alone with out lonely เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 14:18:31

ความคิดเห็นที่ 25   ตอบความคิดเห็นที่ 22 เผอิญได้อ่านคหคุณหลังจากโพสคหข้างบนไปแล้ว และคหข้างบนคงจะได้ข้อสรุปถึงที่มาที่ไปแล้วนะคะ จากที่อ่านข้อมูลที่เจ้าของกระทู้โพส call center ก็ไม่ปฏิเสธที่จะติดตามเรื่องให้แต่ความไม่พอใจมันอยู่ที่คำตอบ ที่ว่ากระบวนจบสิ้นแล้ว ความรู้สึกคือ คุณผิดทำไมไม่แก้ไข แต่ถ้าข้อปฏิบัติเขาเป็นดังที่มีสมาชิกแสดงความเห็น ในฝั่งของเขา เขาก็คงคิดว่าเขาไม่ได้ทำผิด เขาจึงตอบแบบนั้นค่ะ มันก็คงเหมือนข้อปฏิบัติของนกแอร์ เช่น ใบเสร็จจะออกให้ได้ 15 วันทำการ ทั้งๆที่ที่อื่นเขาก็ออกให้เลยได้ แล้วทำไมเราต้องรอ 15 วันทำการ หรือคิดง่ายก็สามอาทิตย์นั่นแหละ เหมือนใบเสร็จ TG ออกที่ไหนเมือไหร่ก็ได้แต่ 10 หลังเดินทางแล้ว ต้องไปออกที่หลานหลวงเท่านั้น คงชัดเจนแล้วนะคะ จากคุณ : Alone with out lonely เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 14:30:23

ความคิดเห็นที่ 26   ตอบคุณหยินจู นั่นสิคะ มัน **ควรจะ** ไม่มีทางเป็นไปได้เลย ถึงได้ต้องเข้ามายืนยันว่า การคืนเงินของแอร์เอเชีย มีปัญหาตามที่คุณจขกท. ตั้งกระทู้ ที่เข้ามาผสมโรง เพราะต้องการให้แอร์เอเชีย ตรวจสอบจุดนี้ เพื่อการปรับปรุง ที่ไม่ร้องเรียนโดยตรง เพราะเจ้าของบัตรทั้งสองใบ เป็นคนๆ เดียวกัน ไม่สร้างความเสียหายให้ ปล คุณหยินจูทำงานอยู่ส่วนการคืนเงินของแอร์เอเชียหรือเปล่า ถ้าอย่างนั้นช่วยตรวจสอบให้หน่อย แล้วก็ถ้าพบความผิดพลาดจริง ช่วยโพสต์ขออภัยด้วย เก็บใบแจ้งยอดไว้ทุกครั้ง ถ้าจะดำเนินการตรวจสอบก็มาขอได้ แต่ทางที่ดี ***ควรตรวจสอบระบบของตัวเองก่อน จากคุณ : ริมยมนา เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 14:44:35

ความคิดเห็นที่ 27   ตอนจ่ายเงินผ่านบัตรไหน คืนเงินก็ต้องบัตรนั้นสิ กระบวนการใครผิด คนนั้นต้องแก้ไข และรับผิดชอบ และไม่ใช่ให้ลูกค้าจัดการเอง นี่สมัยนี้มันต้อง บริการค่ะ งานบริการและรับผิดชอบต่อสิ่งที่ตนกระทำด้วย เป็นเราน่ะ 5 บาท ก็จะเอาคืนค่ะ มันเป็นเรื่องความรับผิดชอบ ทำอะไรต้องเคลียร์ค่ะ จากคุณ : lene_marinet เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 14:48:12

ความคิดเห็นที่ 28   ขอแสดงความเห็นใจกับ จขกท มากค่ะ  การที่จะไปทวงเงินคืนจากเพื่อนที่เขาโอนเงินมาผิดบัตรนั้น ... ใช่ค่ะ มันแสนจะง่ายอย่างที่คนตอบกระทู้เขาแนะนำมา... แต่คิดกันไหมค่ะ ก็เพราะง่ายๆ แบบนี้ไงค่ะ เราเลยถูกเอาเปรียบจากผู้ประกอบการพวกนี้  ทำไมเราไม่มาร่วมมือกันช่วยกันจัดการปกป้องสิทธิและประโยชน์ของตัวเราเองบ้างละคะ   น่าจะเห็นใจกันมากกว่าทับถมนะคะ   กระทู้นี้ทาง จขกท คงอยากจะแชร์ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นจริงและเขาก็ได้พยายามทำทุกวิถีทางแล้ว จากการที่อ่านข้อความที่เขาได้โพส เพราะฉะนั้นเราก็ควรเคารพสิทธิ์ของเขาด้วยค่ะ  ถ้าคุณไม่เคยเจอ คุณก็คงจะพูดจะเขียนได้ค่ะ  น่าเห็นใจ จขกท. ค่ะ  ตอนนี้คงต้องให้กำลังใจกับ จขกท. มากๆ ค่ะ จากคุณ : foodsc เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 14:58:58

ความคิดเห็นที่ 29   ขอแสดงความเห็นใจกับ จขกท มากค่ะ  การที่จะไปทวงเงินคืนจากเพื่อนที่เขาโอนเงินมาผิดบัตรนั้น ... ใช่ค่ะ มันแสนจะง่ายอย่างที่คนตอบกระทู้เขาแนะนำมา... แต่คิดกันไหมค่ะ ก็เพราะง่ายๆ แบบนี้ไงค่ะ เราเลยถูกเอาเปรียบจากผู้ประกอบการพวกนี้  ทำไมเราไม่มาร่วมมือกันช่วยกันจัดการปกป้องสิทธิและประโยชน์ของตัวเราเองบ้างละคะ   น่าจะเห็นใจกันมากกว่าทับถมนะคะ   กระทู้นี้ทาง จขกท คงอยากจะแชร์ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นจริงและเขาก็ได้พยายามทำทุกวิถีทางแล้ว จากการที่อ่านข้อความที่เขาได้โพส เพราะฉะนั้นเราก็ควรเคารพสิทธิ์ของเขาด้วยค่ะ  ถ้าคุณไม่เคยเจอ คุณก็คงจะพูดจะเขียนได้ค่ะ  น่าเห็นใจ จขกท. ค่ะ  ตอนนี้คงต้องให้กำลังใจกับ จขกท. มากๆ ค่ะ จากคุณ : foodsc เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 14:59:55

ความคิดเห็นที่ 30   ขอแสดงความเห็นใจกับ จขกท มากค่ะ  การที่จะไปทวงเงินคืนจากเพื่อนที่เขาโอนเงินมาผิดบัตรนั้น ... ใช่ค่ะ มันแสนจะง่ายอย่างที่คนตอบกระทู้เขาแนะนำมา... แต่คิดกันไหมค่ะ ก็เพราะง่ายๆ แบบนี้ไงค่ะ เราเลยถูกเอาเปรียบจากผู้ประกอบการพวกนี้  ทำไมเราไม่มาร่วมมือกันช่วยกันจัดการปกป้องสิทธิและประโยชน์ของตัวเราเองบ้างละคะ   น่าจะเห็นใจกันมากกว่าทับถมนะคะ  แต่อีกคำถาม....ถ้าเพื่อนไม่ให้คืนละ ..ใครจะรับผิดชอบ..เออ..เป็นประเด็นเนอะ... กระทู้นี้ทาง จขกท คงอยากจะแชร์ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นจริงและเขาก็ได้พยายามทำทุกวิถีทางแล้ว จากการที่อ่านข้อความที่เขาได้โพส เพราะฉะนั้นเราก็ควรเคารพสิทธิ์ของเขาด้วยค่ะ  ถ้าคุณไม่เคยเจอ คุณก็คงจะพูดจะเขียนได้ค่ะ  น่าเห็นใจ จขกท. ค่ะ  ตอนนี้คงต้องให้กำลังใจกับ จขกท. มากๆ ค่ะ จากคุณ : foodsc เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 15:01:08

ความคิดเห็นที่ 31   ในฐานะผู้ชมรอบสนาม ที่กำลังนั่งดูการตีสคอชของ จขกท. ที่วิ่งไปวิ่งมาอยู่ฝ่ายเดียว กับฝ่ายตรงข้ามที่เป็นกำแพงนิ่งไม่สะทกสะท้านอะไร แล้วจู่ๆมีคนโยนผ้ามาคลุมสนาม แล้วบอกว่า คนตีเหนี่อยแล้ว กลับบ้านไป จะมาอยู่ดูอะไรอีก ทั้งๆที่ข้อเท็จจริงยังไม่ปรากฏ ขอเพิ่มเติม แนวปฏิบัติของสายการบินนี้คือ หากมีการคืนเงิน จะเข้าบัตรใบแรกที่ใช้ซื้อตั๋วเสมอ ----- อันนี้มันน่าจะเป็นการคืนเงินตามปกติไหมครับ เช่น ไม่ได้เดินทางแล้วคืนค่าภาษีสนามบิน อันนี้เข้าใจว่าต้องคืนใบเดิม +++แต่กรณีนี้ ไม่ปกติ เป็นเคสที่มีการหักยอดผิดพลาดจากอีกใบ และเป็นของอีกคน ต้องคืนจำนวนที่หักเกินคืนให้ใบใหม่นะครับ ประเด็นอยู่ตรงนี้ครับ มีคำว่า "ผิดพลาด" เข้ามาเกี่ยวข้องถึง สองครั้ง หนแรก หักยอดผิด--->ไม่น่าเกิดแต่รับได้ เพราะมีการคืนเงิน คืนเงินผิดบัญชี------->ไม่น่าเกิดอย่างยิ่ง ยากที่จะยอมรับได้ มันมาจากบัญชีไหน ยิ่งเป็นกรณีหักยอดผิด ก็ต้องเข้ามาบัญชีนั้น ไม่น่ามาอ้างระเบียบปฏิบัติของบริษัทเกี่ยวกับการคืนเงิน(ผมก็ไม่เคยอ่านนะ ใครใจดีเอามาแปะให้ดูหน่อยครับ) แล้วยังมาบอกว่าตัวเองไม่ผิด และ จนท.ยังเพิกเฉยต่อการทำงานที่ผิดพลาดทั้งๆที่ ทางบัตรบอกว่าทางสายการบินสามารถทำเรื่องเข้าไประงับการคืนเงินที่ผิดพลาดไปได้ แต่ก็ยังไม่ทำ อันนี้ก็น่าเสียใจยิ่งครับ หรือว่ากลัวกระทบ กับ KPI แผนก แล้วอดโบนัสกันครับ คุณ จขกท. อย่าเพิ่งท้อนะครับ เงิน เล็กน้อยๆ แต่อาจเป็นการให้ความรู้และแนวทางการจัดการให้อีกหลายๆคนที่เข้ามาอ่านครับ จากคุณ : moritoom เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 15:35:54

ความคิดเห็นที่ 32   มองในมุมของผู้บริโภคด้วยกัน เข้าใจความรู้สึกของเจ้าของกระทู้ครับ ส่วนใครที่ออกมาชี้แจงโดยมองมาจากฝั่งของผู้ประกอบการ ให้มองละเอียดกว่านี้อีกจะดีมาก เพราะยังไงระบบยังมีปัญหาอยู่ ไม่เช่นนั้นผู้บริโภคไม่รู้สึกถึงความไม่สะดวก  อย่าลืมว่าคุณขายงานบริการ  เน้นครับว่างานบริการ ผู้บริโภคย่อมต้องได้รับการบริการที่ดี สินค้าวางขายในร้านเดียวกันคิดเงินที่เดียวกัน ผู้บริโภคพอใจก็ซื้อ เขาไม่สนใจหรอกว่าจะผลิตมาจากที่ไหน เอามาวางฝากขายหรือเปล่า เมื่อมีปัญหาเขาก็คุยกับทางร้าน คงไม่ต้องไปสืบหาต้นตอเจ้าของสินค้าเองหรอก ไม่ใช่หน้าที่ของผู้บริโภค ขอให้เรื่องนี้จบลงโดยเร็วนะครับคุณเจ้าของกระทู้ เงินไม่มากมาย แต่ความรู้สึกน่าเชื่อถือ เริ่มเสื่อมคลายแล้ว ผมจองบัตรเครดิตใบเดียวกับสายการบินนี้ตลอด  และมีรอบินอยู่อีก 2 ไฟล์ครับ จากคุณ : สิริชนม์ เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 15:42:13

ความคิดเห็นที่ 33   ผมว่านะครับเรื่องนี้ทำความจริงให้ชัดเจนก่อนจะดีที่สุด วิธีที่หนึ่ง เจ้าของกระทู้ว่ามาก็คือข้อมูลด้านหนึ่ง จากเจ้าของกระทู้ ซึ่งรายละเอียดจริงๆทั้งหมดนั้นเป็นอย่างไรไม่มีทางทราบ เราก็ต้องรับฟังไว้ในเบื้องต้น ส่วนความอีกข้างจากทางสายการบินนั้นเรายังไม่ได้รับฟัง และไม่ทราบว่าข้อมูลในกรณีนี้ทางสายการบินชี้แจงอย่างไร ผมขอเลขที่รับจอง และชื่อ-สกุล ผู้เดินทาง เพื่อส่งไปทาง ฝ่ายให้บริการลูกค้า ของแอร์เอเซียเพื่อขอจำชี้แจงในกรณีนี้เพื่อ เป็นข้อมูลในเบื้องต้นประกอบกัน วิธีที่สอง ถ้าประเด็นนี้ทางไทยแอร์เอเซียปัดความรับผิดชอบ และตอบตามที่เจ้าของกระทู้ว่ามาจริง และทั้งไทยแอร์เอเซีย และแอร์เอเซียเอาเงินคุณไปเกิน แล้วคืนให้คุณไม่ได้ หรือไม่ได้คืนให้คุณ แล้วปฏิเสธการคืนโดยไม่มีหลักเกณฑ์ ก็ถือเป็นความผิดทางอาญาข้อหาฉ้อโกง สามารถไปแจ้งความที่สถานีตำรวจได้เลยครับ และยังสามารถฟ้องร้องเป็นคดีแพ่งได้อีกด้วย ผมขอให้คุณทำเรื่องนี้ให้กระจ่างและถึงที่สุด โดยนำเรื่องนี้ไปฟ้องร้อง และดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพื่อความถูกต้องและชัดเจน และถ้ามีประเด็นใดที่คุณกล่าวถึง หรือพูดไว้ในกระทู้นี้ไม่ถูกต้อง และก่อให้เกิดความเสียหายแก่สายการบิน ทางสายการบินก็สามารถฟ้องคดีหมิ่นฯคุณได้เช่นกัน คำพูดที่คุณอ้างว่าเจ้าหน้าที่ไทยแอร์เอเซียปัดความรับผิดชอบ และอ้างว่าเงินเข้าแล้วแต่เข้าบัตรใครก็ไม่รู้แล้วให้คุณไปตามจากบัตรที่จ่ายไปให้แล้วเองนั้น โดยบัตรใบนั้นไม่มีธุรกรรมกับบุ๊กกิ้งนี้เลยบัตรใครก็ไม่รู้นั้น มันร้ายแรงเพราะถ้าจริงจะโดนคดีอาญาฐานฉ้อโกงทันที คำพูดนั้นถือเป็นหลักฐานการดำเนินคดีได้เลย และมีการบันทึกเทปไว้เป็นหลักฐาน ทั้งสองวิธีผมขอเรียกร้องให้เจ้าของกระทู้ได้โปรดกล้าดำเนินการให้ถึงที่สุด เอาความจริงให้กระจ่าง แล้วกล้ารับผิดชอบในข้อมูลที่นำเสนอ ส่วนสมาชิกพันทิพที่เข้ามาตอบในกระทู้นี้ รวมทั้งผมด้วยก็พร้อมที่จะไปเป็นพยานนำสืบในคดีความนี้เพื่อให้ข้แเท็จจริงมันปรากฏ และหาผู้กระทำผิด ตลอดจนผู้ที่ต้องรับผิดชอบกับประเด็นนี้... ปล.อย่าลืมส่ง เลขที่รับจอง และชื่อ-สกุล ผู้เดินทางคนแรก และผู้ที่ขอเปลี่ยนให้ผมทางหลังไมล์นะครับ ผมจะได้ส่งไปให้ ฝ่ายให้บริการลูกค้า พร้อมทั้งแนบลิ๊งค์ของกระทู้นี้ไปให้ทางไทยแอร์เอเซียครับ แก้ไขเมื่อ 23 ก.พ. 53 16:54:07 แก้ไขเมื่อ 23 ก.พ. 53 18:24:05 จากคุณ : k.j เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 15:56:15

ความคิดเห็นที่ 34   เพื่อเป็นความรู้เพิ่มเติมนะครับ พอเราโทรไป 02-5159999 กด 1 เลือกภาษาไทย กด 1 เลือกติดต่อสายการบินภายในประเทศ พอเจ้าหน้าที่มารับ -เราแจ้งว่าจะเปลี่ยนชื่อผู้เดินทาง -เจ้าหน้าที่จะขอเลขที่รับจองเราเพื่อไปตรวจสอบก่อนว่า ตั๋วที่เราซื้อไปนั้นเปลี่ยนชื่อได้หรือไม่ -ถ้าเปลี่ยนได้ เจ้าหน้าที่จะขอให้เราแฟกซ์สำเนาบัตรประชาชนทั้งชื่อเดิม และชื่อใหม่ เพื่อเป็นหลักฐานการขอเปลี่ยน -พอเราส่งสำเนาไปให้แล้ว เจ้าหน้าที่จึงดำเนินการเปลี่ยนให้ และมีค่าเปลี่ยนตามตารางต่อไปนี้  http://www.airasia.com/site/th/th/page.jsp?reference=FeeScheduleFD ปล.กรณีของเจ้าของกระทู้ไฟท์ที่มีปัญหามันเกิดเพราะ ในมาเลเซียค่าเปลี่ยนมันเป็นดังนี้ เปลี่ยนแปลงเที่ยวบิน/เปลี่ยนแปลงชื่อผู้โดยสาร เที่ยวบินภายในมาเลเซียฝั่งคาบสมุทร 65 ริงกิต เที่ยวบินภายในมาเลเซียตะวันออก 65 ริงกิต เที่ยวบินภายในมาเลเซียฝั่งคาบสมุทร - มาเลเซียตะวันออก 90 ริงกิต เกาะปีนัง ทางฝั่งตะวันตก บินมากัวลาลัมเปอร์ มันจัดอยู่ในแบบไหนหว่า แก้ไขเมื่อ 23 ก.พ. 53 16:50:55 จากคุณ : k.j เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 16:27:43

ความคิดเห็นที่ 35   ใครบอกว่าทาง หางแดงไม่ผิด มันผิดตั้งแต่ตัดเงินเกินแล้ว...เด้งหนึ่ง แถมยังคืนเงินผิดบัญชีอีก..เด้งสอง ตัดเงินบัญชีไหนก็ต้องคืนบัญชีนั้นสิ ถ้าเกิดเอาไปให้ ตาสีตาสาที่ไหนถ้าไม่รู้จัก คุณไปตามเอาเองจะได้ไหมน่ะ เพราะฉะนั้นรับผิดชอบหน่อย จากคุณ : บุรี เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 16:50:37

ความคิดเห็นที่ 36   ผมว่า การคืนเงินเข้าบัญชีบัตรเครดิต ผิดบัญชี จขกท. ยังไม่รู้ว่าใช่บัญชีเพื่อนที่จองด้วย หรือว่า เป็น บัญชีคนอื่น เพราะ ต้องรอการดำเนินการ 45 วัน ยกเว้นว่า ของเพื่อน จขกท. เป็นวีซ่า ตามที่บอก เพราะของ จขกท. เป็นบัตรมาสเตอร์การ์ด ถ้าใช่กรณีนี้ และ การซื้อตั๋วครั้งแรกเกิดขึ้นโดยการใช้บัตรวีซ่า แอร์เอเชีย ไม่ผิดเรื่องการคืนเงิน แต่การคิดเงินเกินยังมีความผิดเต็มประตู ดังนั้น....จขกท. ก็ต้องรอเช็คว่า เงินเข้าบัญชีบัตรเพื่อนหรือเปล่า ถ้าใช่ และ จขกท. ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับสายการบินในเรื่องนี้ หากไม่ใช่บัญชีของเพื่อนของ จขกท. แต่เป็นบัญชีคนอื่น ก็สามารถดำเนินการฟ้องร้อง อาญา ไปได้เลย ในกรณีนี้ จขกท. ต้องเก็บรายละเอียดจดหมายร้องเรียนที่ จขกท. บอกว่าได้ส่งให้ที่ มาเลเซีย ไว้ด้วยครับ ใจเย็นๆ ไม่ต้องรีบร้อน จากคุณ : รามอรุณ (เด็กคน) เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 17:24:56

ความคิดเห็นที่ 38   ผมได้รับ ชื่อ-สกุล เลขบุ๊กกิ้ง จากเจ้าของกระทู้แล้วได้ส่งต่อให้ทางแอร์เอเซียแล้ว และหวังว่าจะได้รับฟังคำชี้แจงข้อสงสัย ในประเด็นนี้กันต่อไป จากคุณ : k.j เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 18:06:14

ความคิดเห็นที่ 39   มีประเด็นสงสัยอยู่หนึ่งเรื่องที่ผมหาข้อมูลไม่ได้คือ การจะคืนเงินในบุ๊กกิ้งใดนั้นมีกฏทางบัญชีว่าอย่างไร เช่นตอนจองเราใช้บัตรเครดิต 1 ใบ ตอนเปลี่ยนชื่อเราใช้บัตร เครดิตอีก 1 ใบ พอมีปัญหาต่างๆเช่นในกรณีนี้จะมีฏฏว่าต้องคืนเงินเข้าบัตรเครดิตใบไหน มีกฏควบคุมธุรกรรมเหล่านี้ หรือไม่ เพราะอยาลืมนะครับ เปลี่ยนชื่อจะตีความว่าไงครับ เจ้าของตั๋วเปลี่ยนมือไปด้วยหรือไม่ ถ้ามีการยกเลิกเที่ยว บินขึ้นมาจะคืนเงินเข้าบัตรเครดิตใบไหน ใบแรกที่ซื้อ หรือใบที่เปลี่ยนชื่อ กฏทางบัญชีมีว่าอย่างไร หรือสามารถทำตาม คำร้องขอของเจ้าของชื่อบนบัตรได้ แล้วถ้าซื้อไปแล้วเปลี่ยนชื่อไปแล้ว ก่อนเดินทางทั้ง 2 บัตร ยกเลิกบัตรไปหมด ถ้าต้องคืนเงินจะทำยังไง จากคุณ : k.j เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 18:12:54

ความคิดเห็นที่ 40   มีบางความเห็นเข้าใจผิดว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยไม่รับผิดชอบ ไม่สนใจตามเรื่องให้อ้างว่าเป็นเรื่องของมาเลเซีย ไม่เกี่ยวกับไทย อันนี้เข้าใจผิดนะครับ เพราะเจ้าของกระทู้บอกว่า ....โทรไปแจ้งกับแอร์เอเชียว่าไม่ได้รับเงินคืน คือ 17 กพ วันถัดมาได้คุยกะ supervisor เค้าถามว่าสะดวกที่จะตามกะเจ้าของบัตรที่เค้าโอนมั้ย ก็บอกเค้าไปแล้วว่าไม่สะดวก เค้ารับเรื่องและบอกจะโทรกลับมาภายในวันนั้น ซึ่งก่อนที่เค้าจะโทรกลับเราได้ลองโทรเช็คกะบัตร city bank, KTC, SCB แล้ว เค้าก็บอกสามารถทำได้ พอเค้าโทรกลับมา ก็ยืนยันเหมือนเดิมว่าบัญชีบอกทำไม่ได้ เค้ายังถามชื่อคนที่บอกเลยว่า ชื่ออะไร เราก็บอกว่าไม่ได้ถาม แต่บอกไปว่าโทรเข้า call center ของบัตร city bank ............ จากคุณ : k.j เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 18:16:49

ความคิดเห็นที่ 41   คุณเจ้าของกระทู้ครับ ขอข้อมูลหน่อยครับ ตกลงบัตรที่เขาบอกว่าคืนเงินเข้าไปนั้น ใช่บัตรใบที่เจ้าของตั๋วคนแรกใช้ซื้อตั๋วหรือไม่ครับ จากคุณ : k.j เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 18:20:05

ความคิดเห็นที่ 42   ตอบความคิดเห็นที่ 39 ไม่ได้ทำงานบัญชีนะคะ แต่ทำธุรกิจและใช้สายการบินบ่อย พอจะอธิบายได้เล็กน้อย กรณีที่เรียกว่ารีฟันด์ทั้งหมดนี่ ส่วนใหญ่(ไม่อยากระบุว่าทั้งหมด)มันจะต้องทำด้วยวิธี manual เพราะมันจะต่าง condition กัน การทำรีฟันด์จะทำโดยบัญชีไม่ใช่พนักงานคอลเซนเตอร์เพราะจะมีเอกสารทางบัญชีภายในเข้ามาเกี่ยวข้องหลายใบ  พนักงานที่รับเรื่องจะทำาการ request ที่อาจเป็นอีเมล์เท่านั้น และนี่ก็คือเหตุผลหนึ่งที่การรีฟันด์ทุกอย่างมันระบุเวลาดำเนินการได้ยาวนานมหาศาล หลักการรีฟันด์การทำธุรกรรมทางการเงินโดยทั่วไปก็จะคืนเงินกลับสู่บัตรเครดิตที่ชาร์จเพื่อป้องกันการขโมยข้อมูลเช่นเดียวกับการที่ต้องแสดงบัตรยืนยันเมื่อซื้อตั๋วออนไลน์ในบางสายการบิน ด้วยเหตุนี้ระบบจะเก็บบันทึกข้อมูลบัตรเครดิตที่ชาร์จไว้ การเปลี่ยนชื่อสกุลผู้เดินทางไม่ได้เป็นการเปลี่ยนคู่สัญญาทางบัญชีในด้านการซื้อขาย ยกตัวอย่างเช่น เวลารีฟันด์ตั๋วแม้ว่าตั๋วจะออกในชื่อผู้โดยสารหนึ่งแล้วจ่ายด้วยบัตรของอีกคน เงินจะโอนเข้าบัญชีบัตรที่จ่ายเท่านั้้นไม่ได้คืนให้กับผู้โดยสารที่มีชื่อในตั๋วนั้น กรณีจะว่ากันโดยละเอียดแล้ว ต้องเริ่มจากความอ่อนประสบการณ์หรือรู้เท่าไม่ถึงการของพนักงานคอลเซนเตอร์คนที่ทำรายการเริ่มตั้งแต่ คิดค่าธรรมเนียมผิด เมื่อผิดแล้วกรณีนี้ไม่สมควรใช้วิธีรีฟันด์ มันควรจะเป็นลักษณะ amend แล้วยกเลิกรายการทำรายการใหม่มากกว่า เพราะเจ้าของกระทู้ก็แจ้งว่าท้วงไปทันทีขณะตอนทำรายการ แต่เมื่อมาใช้ขั้นตอนของการรีฟันด์เข้าไป มันก็เลยเกิดปัญหาขึ้นแบบที่เห็นนี้ แม้ว่ากรณีนี้จะไม่ใช่การรีฟันด์เพื่อคืนตั๋ว แต่โปรแกรมมันไม่ได้อัฉริยะขนาดนั้น และพนักงานก็ไม่ได้ระบุให้โอนเงินเข้าบัตรไหนมันก็เลยไปตาม Process ปกติ การที่เจ้าของกระทู้จะรู้สึกว่าตอนตัดเงินตัดบัตรตัวเองแล้วทำไมต้องไปคืนบัตรคนอื่่นมันก็ไม่ได้เป็นเรื่องแปลก ปัญหามันอยู่ที่การชี้แจงและความเข้าใจทั้งสองฝ่าย เคสนี้แม้ว่าจะทำตาม Process ของแอร์เอเชีย แต่ถ้าเจ้าของกระทู้จะปฏิเสธการจ่ายเงินเพราะจำนวนเงินไม่ตรงตามค่าใช้จ่ายคือ 65 แอร์เอเชียก็ไม่สามารถจะแสดงหลักฐานให้ธนาคารบังคับชำระหนี้ได้เพราะมันผิดเงื่อนไขของธนาคารเหมือนกัน แม้ว่าแอร์เอเชียจะใช้เหตุผลในขั้นตอนมายืนยันความถูกต้องของการดำเนินการ แต่ถ้าไม่สามารถเรียกเก็บเงินได้ แอร์เอเชียก็ไม่มีทางเลือกที่จะต้องแก้ไขจำนวนเงินเรียกเก็บให้ตรงกับการซื้อขายจริง เพื่อให้ธนาคารสามารถบังคับให้เจ้าของบัตรชำระหนี้ได้ และเป็นผลประโยชน์ของแอร์เอเชียเองที่จะต้องดำเนินการ recall เงินที่โอนไปอีกบัตรกลับมาเอง คือว่าง่ายๆว่าพนักงานไม่ทำก็ต้องทำ ไม่งั้นก็ต้องออกเงินเอง ถ้างานนี้เก็บเงินลูกค้าก็ไม่ได้ recall เงินกลับก็ไม่ได้ คุณพนักงานคอลเซนเตอร์คนรับเรื่องคงได้จ่ายเองเพราะแทนที่จะแก้ไขกลับไปทำเป็นรีฟันด์ บริษัทคงไม่ยอมสูญ 65 แล้วยังเสียอีก 25 แน่นอน ถ้าคุณ K.J อาจให้แอร์เอเชียพัฒนาองค์กร ก็ควรเสนอจุดที่ควรแก้ไขคือทักษะและประสบการณ์ของพนักงานคอลเซนเตอร์ จริงๆแล้วพนักงานคงไม่แม่นทุกเรื่องแต่ถ้าเรื่องไหนมันนานๆเจอสมควรจะปรึกษาซุปก่อนตัดสินใจทำโดยพลการ เพราะคิดว่ามันก็เหมือนกัน ก็เลยเกิดเรือ่งบานปลายเช่นนี้แล แก้ไขเมื่อ 23 ก.พ. 53 18:47:07 จากคุณ : Alone with out lonely เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 18:42:48

ความคิดเห็นที่ 43   ด้วยความอยากรู้อยากเห็นผมเลยทำอย่างนี้ครับ โทร 02-5159999 กด 1 เลือกภาษาไทย กด 1 เลือกสายการบินภายในประเทศ -เจ้าหน้าที่รับสาย -ผมถามว่ามีปัญหาอยากจะสอบถามว่า ถ้าผมซื้อตั๋วไปแบบปกติใช้บัตรเครดิตของผม ต่อมาผมขายต่อให้เพื่อนผม แล้วเพื่อนผมเอาไปเปลี่ยนชื่อ โดยใช้บัตรเครดิตของเพื่อนผมจ่าย ถ้าต่อมาไฟท์ยกเลิกเงินจะคืนที่บัตรใบไหน -เจ้าหน้าที่ตอบว่า จะคืนเข้าบัตรไปแรก ใบที่ใช้ซื้อตั๋ว -ผมถามต่อว่าแต่ผมขายให้เพื่อนผมแล้ว จะขอให้เข้าบัตรใบที่ 2 ได้หรือไม่ -เจ้าหน้าที่บอกรอซักครู่ครับ -แล้วกลับมาบอกว่าสามารถทำได้ แต่ต้องแจ้งตั้งแต่วันที่แจ้งความจำนงค์ว่าไม่เปลี่ยนไฟท์บิน จะขอคืนเงินถ้าแจ้งก็สามรถ เอาเงินเข้าบัตรใบที่2 หรือใบอื่นๆตามที่ร้องขอ -ผมถามว่าถ้าลืมบอกจะเป็นไง -เจ้าหน้าที่บอกว่า การเงินก็จะทำตามปกติคือเอาเงินเข้าบัตรใบที่ใช้ซื้อตั๋วครั้งแรก -ขอบคุณแล้วก็วางสาย กรณีของคุณผมเข้าใจแล้วครับว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยทำรายการเที่ยวบินภายในของมาเลเซียให้คุณ ตัดเงินคุณไป 90 ริงกิต แต่จริงๆแล้วแค่ 65 ริงกิต เป็นความผิดพลาด แล้วพอรู้ว่าผิดพลาดก็แจ้งว่าจะคืนเงินเข้าบัตรไปให้ โดยทั้งเจ้าหน้าที่และคุณต่างลืมย้ำเรื่องบัตร ที่จะคืนเข้ามา เพราะอาจคิดว่าตัดใบไหนก็เข้าใบนั้น ผมเองก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน พอทางมาเลเซียได้รับเงินก็รู้ทันทีว่าผิด เกินมา 25 ริงกิต ก็ทำการคืนเงินแบบปกติคือคืนมันเข้าบัตรใบที่ใช้ซื้อตั๋วครั้งแรก โดยไม่ได้คืนใส่บัตรใบที่คุณใช้ซื้อ แต่ผมค้อนข้าง กล้ารับรองเลยว่า เขาคืนเข้าบัตรใบที่ใช้ซื้อครั้งแรกแน่นอน ไม่ใช่บัตรใครก็ไม่รู้แน่แท้ เสร็จแล้วคุณไม่พอใจต้องการ ให้แอร์เอเซีย คืนใหม่ให้เข้าบัตรคุณ แล้วเจ้าหน้าที่การเงินแจ้งว่าทำไม่ได้ เพราะคืนไปที่ใบแรกแล้ว และไม่มีการแจ้ง ความจำนงค์ก่อนว่าให้คืนที่ใบที่ 2 เลยทำตามขั้นตอนปกติ มันเลยวุ่นวายด้วยประการทั้งปวง -ประเด็นนี้เป็นความผิดพลาดที่ควรศึกษาและปรับปรุงแก่ไขต่อไป -เจ้าของกระทู้ไปเอาเงินที่เพื่อนได้ไม๊ -ถ้าไม่ได้ ก็ได้เงินคืนได้ด้วยการฟ้องศาลเป็นคดีแพ่ง และอาญา เพราะผมตีความว่าการเปลี่ยนชื่อโดยการยินยอมของเจ้าของเดิม ก็เหมือนการมอบกรรมสิทธิ์ในตั๋วใบนั้นแก่เจ้าของใหม่ การคืนเงิน การจพทำอะไรกับตั๋วใบนั้น เจ้าของใหม่ย่อมมีสิทธิ สมบูรณ์ สามารถใช้กฏหมายบังคับให้แอร์เอเซีย คืนเงินได้ พร้อมทั้งเรียกค่าเสียหายด้านเวลากับแอร์เอเซียได้ในคดีแพ่ง ค่าทนายแอร์เอเซียก็ต้องจ่ายให้ ชนะแน่นอน ปล.และหวังว่าแอร์เอเซียจะให้ประเด็นปัญหานี้ไปพัฒนาต่อไป และเดินหน้าไปอย่างมั่นคง ประโยชน์ที่ก่อตลอด 7 ปีที่ผ่านมา มันมหาศาลมากมาย แต่ปัญหาต่างๆก็มีไม่ใช่น้อย จากคุณ : k.j เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 18:57:02

ความคิดเห็นที่ 44   ขี้เกียจแก้ไขข้อความละขอความเห็นใหม่ละกัน ส่วนตรงนี้ โทรไปแจ้งกับแอร์เอเชียว่าไม่ได้รับเงินคืน คือ 17 กพ วันถัดมาได้คุยกะ supervisor เค้าถามว่าสะดวกที่จะตามกะเจ้าของบัตรที่เค้าโอนมั้ย ก็บอกเค้าไปแล้วว่าไม่สะดวก เค้ารับเรื่องและบอกจะโทรกลับมาภายในวันนั้น ซึ่งก่อนที่เค้าจะโทรกลับเราได้ลองโทรเช็คกะบัตร city bank, KTC, SCB แล้ว เค้าก็บอกสามารถทำได้ พอเค้าโทรกลับมา ก็ยืนยันเหมือนเดิมว่าบัญชีบอกทำไม่ได้ ทั้งสองฝ่ายตอบถูกต้องหมดค่ะแต่มันเป็นคนละเรื่องกัน ถ้าถามธนาคารว่าร้านค้าหรือผู้ให้บริการที่โอนเงินคืนเข้าบัตรแล้วจะรีคอลเงินกลับไปได้ไหม ทุกธนาคารก็ต้องบอกว่าได้ค่ะ ส่วนเรื่องคู่สัญญาทางบัญชีธนาคารเขาไม่รับรู้ด้วยค่ะไม่ใช่เรื่องของเขา ส่วนที่บอกว่าทางบัญชีทำไม่ได้ เขาก็ไม่ได้หมายถึงว่าเขา recall เงินคืนไม่ได้ หรือแบงค์ไม่ยอมให้คืน แต่เขาหมายถึงว่าเขากระทำการแบบนั้นไม่ได้เนื่องด้วยระบบทางบัญชี มันก็เลยคุยกันไม่รู้เรือง ในแง่ปฏิบัติแล้วถามว่ามันต้องเป็นแบบนี้เปลี่่ยนแปลงไม่ได้หรือ ระบบ manual จะทำอย่างไรก็อยู่ที่คนทำ แต่ถ้าพนักงานไม่ทำตามระเบียบบริษัท เขาก็มีความผิด และถ้ามีความเสียหายเขาต้องรับผิดชอบ แล้วใครจะหาเรื่องใส่ตัวล่ะคะ ถ้ามันจะทำอะไรนอกเหนือจากขั้นตอนปกติมันก็ต้องมีการสั่งการตามสายบังคับบัญชาลงมา คนทำจะได้ไม่ต้องเดือดร้อน ที่สาธารยายมายาวเหยียดหลายความเห็นนี่ ไม่ได้มาแสดงความอวดรู้หรอกนะคะ เผอิญโดนบางคนแขวะอยู่ว่า คงคิดว่าตัวเองรู้ทุกเรื่อง เพียงแต่ต้องการเอาข้อมูลมาแบ่งปันกัน เผื่อมันจะเป็นประโยชน์กับใครบ้างในอนาคต ถ้าเรามีความเข้าใจ หรือมีข้อมูลบ้าง มันก็จะคุยกันได้เข้าใจง่ายกว่าไม่มีข้อมูลอะไรเลย จากคุณ : Alone with out lonely เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 19:06:34

ความคิดเห็นที่ 45   ความคิดเห็นของคุณ Alone with out lonely ถือว่าน่าสนใจครับ จากคุณ : k.j เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 19:10:22

ความคิดเห็นที่ 46   ที่คอลเซนเตอร์เขาตอบคุณมาน่ะ เรียกอย่างเป็นทางการแล้ว การกระทำนั้นเรียกว่าการเปลี่ยนคู่สัญญาโดยได้รับความยินยอมจากคู่สัญญาเก่า กรณีนี้ทำได้แต่ต้องมีเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษร ไม่อย่างนั้น อาจซวยได้ในอนาคต จากคุณ : Alone with out lonely เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 19:15:12

ความคิดเห็นที่ 47   ครับใช่ครับ ผมเคยสงสัยก่อนหน้านั้นว่า รู้บุ๊กกิ้งแล้วเปลี่ยนชื่อได้เลยเหรอ พนักงานเคยบอกผมว่าไม่ได้ จะเปลี่ยนชื่อได้ต้องมีบัตรประชาชนพร้อมลายเซนต์ของทั้งสองคนแฟกซ์มาให้ก่อนค่อยเปลี่ยนชื่อได้ ผมจึงถือว่าการทำแบบนั้นเป็นการเปลี่ยนสิทธิ์ตามกฏหมายสมบูรณ์แล้ว ปล.เจ้าของกระทู้ครับ ตอนคุณเปลี่ยนชื่อ คุณได้แฟกซ์บัตรประชาชน ทั้งคุณและเจ้าของเดิมพร้อมลายเซนต์ไปให้ทางแอร์เอเซียหรือเปล่าครับ ถ้าไม่ผลแห่งสัญญายังไม่เสร็จสิ้นสมบูรณ์นะครับ กรรมสิทธิ์ในตั๋วใบนั้นยังคงแก่เจ้าของดั้งเดิมครับ ถ้าฟ้องกันจริงๆทั้งคุณและเจ้าหน้าที่คนนั้นผิดกันทั้งแถบครับ คุณจะเสียสิทธิ์การถือครอง เจ้าหน้าที่คนนั้นจะโดนปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบครับ อีกเรื่องคือผมบินแอร์เอเซีย ทั้ง fd , ak มาราว 150 ไฟท์ ผมยังไม่เคยเปลี่ยนชื่อบนตั๋วเลยแม้แต่ครั้งเดียว และไม่เคยมีความรู้เรื่องเปลี่ยนชื่อเลย เพราะผมซื้อตั๋วราคาถูกแบบที่เปลี่ยนชื่อ ไม่ได้นั้นเอง แฮะๆ แก้ไขเมื่อ 23 ก.พ. 53 19:22:44 แก้ไขเมื่อ 23 ก.พ. 53 19:26:49 จากคุณ : k.j เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 19:21:32

ความคิดเห็นที่ 48   เข้ามาชื่นชม ความมีน้ำใจของคุณ Alone with out lonely และคุณ k.j จากคุณ : หยินจู เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 19:21:43

ความคิดเห็นที่ 49   ขอบคุณทุกคนนะคะ ที่ให้คำแนะนำ           บัตรที่เค้าทำเรื่องคืนเงินมาให้ คือ บัตรของผู้โดยสารคนแรกค่ะ เช็คข้อมูลเรียบร้อยแล้วค่ะ ซึ่งตอนนี้พี่เจ้าของบัตรเค้าเดินทางไปต่างประเทศค่ะ พอเค้ากลับมาเราก็ลาพักร้อนพอดี ก็ยังไม่รู้จะเจอกันเมื่อไหร่ การทำการเปลี่ยนตัวผู้โดยสาร ได้ดำเนินการส่งแฟกซ์ passport ทั้งของผู้ซื้อตั๋วคนแรก และของเราไปให้เค้าก่อนแล้วจึงโทรไปจ่ายเงินค่ะ เพราะวันนั้นเราเปลี่ยนตัวผู้โดยสารทั้ง 3 booking แต่มันมีปัญหาแค่อันเดียว      เราใช้บริการมาหลายครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มีการเปลี่ยนตัวผู้เดินทาง และครั้งแรกที่โดนตัดเงินผิด (แถมเป็นการตั้งกระทู้ครั้งแรกเหมือนกัน) เราก็ไม่มีความรู้เรื่องบัญชี  และก็ไม่เคยรู้เรื่องกฏการคืนเงินของที่นี่แต่คิดว่าหลายคนก็เข้าใจเหมือนกันว่า ถ้าทำรายการบัตรไหน ผิดก็ควรจะคืนบัตรนั้น จึงได้พยายามที่จะบอกเค้าให้คืนเงินมาที่บัตรเรา เพราะตอน supervisor ถามว่า เจ้าหน้าที่ได้บอกมั้ยว่าจะคืนบัตรแรกที่จอง เราตอบได้ทันทีว่าไม่ได้บอก ถ้าเค้าบอกตั้งแต่ทีแรก คงไม่มีกระทู้นี้เกิดขึ้นแน่นอนค่ะ จากคุณ : I do my best เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 20:15:53

ความคิดเห็นที่ 50   ไหนๆกระทู้นี้ก็ขึ้นเป็นกระทู้แนะนำแล้วนะครับ ผมขอแก้ข้อมูลของผมเรื่องกรณีที่สายการบินยกเลิกเที่ยวบินแล้วคืนเงินให้เป็นข้อมูลกันเพิ่มเติมและถูกค้องมากขึ้นนะครับ จากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้และไม่ประสงค์จะออกนาม ได้ให้ข้อมูลว่า ...การรีฟันในส่วนของแอร์เอเชีย ไม่ว่ามีจะขอคืนเงินเข้าบัตรไหน นอกจากบัตรที่ทำบุ๊คกิ้งแล้ว ไม่สามารถขอคืนเงินเข้าบัตรอื่นได้เลย ไม่ว่าจะเป็นกรณี บัตรหมดอายุ ให้โอนเงินเข้าบัตรใหม่ ยังไงรีฟันทีมก็ต้องโอนเงินเข้าบัตรเดิมคะ เพราะถือว่าการใช้บัตรเครดิต จะมีการ app.code ซึ่งเป็นเลขที่บัตรในการจ่ายเงินในแต่ละครั้ง ทางธนาคารและแอร์เอเชียจะมี app.code ตรงกัน ลูกค้าสามารถไปเช็คยอดการคืนเงินได้จากธนาคารเจ้าของบัตร ในกรณีที่บัตรหมดอายุได้คะ ไม่มีปัญหาแต่ประการใด .... ปล.ถือเป็นข้อมูลก็แล้วกันนะครับ จากคุณ : k.j เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 21:23:38

ความคิดเห็นที่ 51   จากคุณ : plateau เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 21:24:34

ความคิดเห็นที่ 52   ขอโทษเหอะ ถ้าจะความเห็นเราจะผิดแต่เราขอออกความเห็นอย่างงี้ แต่เราเห็นด้วยเต็มที่ว่า ถ้า air asia ไม่บอกหรือเราไม่ได้อ่านกระทู้นี้ common sense ปกติคือ เงินควรคืนบัตรใบที่ทางร้านค้าได้ตัดไป เหมือนที่คุณ aloneฯ บอก หลักการรีฟันด์การทำธุรกรรมทางการเงินโดยทั่วไปก็จะคืนเงินกลับสู่บัตรเครดิตที่ชาร์จเพื่อป้องกันการขโมยข้อมูลเช่นเดียวกับการที่ต้องแสดงบัตรยืนยันเมื่อซื้อตั๋วออนไลน์ในบางสายการบิน เราอ่านประโยคเดียวกันกันนี้ แต่สิ่งที่อยู่ในหัวเรา ตรงข้ามกับสิ่งที่คุณ alone หรือผู้ที่คุ้นเคยกับ air asia คิด "ก็ในเมื่อธุรกรรมการเปลี่ยนชื่อเรียกเก็บตัดจากบัตรเจ้าของกระทู้ เพราะฉะนั้นการคืนเงิน ควรจะคืนไปยังใบที่เรียกเก็บเงินค่ะ เกี่ยวอะไรกับใบแรก" "แล้วเหตุใด air asia จึงโอนเงินยอดโอนกลับเข้าบัตรใบแรกไป ธุรกรรมการซื้อตั๋วมันเสร็จสิ้นไปแล้วในทางบัญชีรอบที่ 1 " "นี่เป็นธุรกรรมทางบัญชี เรียกเก็บยอดครั้งที่ 2 ไม่เกี่ยวกะยอดแรกตามมาตรฐานบัญชี ใครเรียนสายบริหารรู้ทางบัญชีบ้าง ตอบได้เลยคู่บัญชีแยกเป็น 2 รอบตามมาตรฐานบัญชี" "เพียงแต่ธุรกรรมที่ 2 เกิดขึ้นได้เพราะเหตุการณ์ที่ 1 แต่ถ้า air asia อ้างทางบัญชี คุณควรคืนเงินใบที่คุณตัดมา ไม่ใช่ตามประวัติเก่า ไม่ว่าประวัติเก่านั้นมีที่มาอย่างไรก็ตาม" ยกตัวอย่างจากชีวิตจริง  เราซื้อของ central ไป ของ 1 บิลให้เรียกเก็บจากบัตร 2 ใบ ปรากฎว่าใบที่ 2 เค้าเรียกเก็บผิด(ใบที่รูดทีหลัง) เค้าก็คืนเงินจากใบที่เรียกเก็บผิด ไม่ใช่มาคืนใบแรก ถึงแม้ว่าสินค้ามาจากบิลใบเดียวกัน เพราะงั้นใครบอกว่า จขกท.ผิด  ปกติเค้าคืนใบแรก ควรรู้ เราว่าไม่ใช่แล้วล่ะ มันผิดจาก common sense ของหลายๆคนแน่ๆ มันไม่ใช่ common sense ที่คุณจะมาเหมาว่าลูกค้าควรรู้ เพราะเราเองก็มองว่า common sense air asia ตอนนี้แปลก หรือว่า air asia เขียนเป็น condition ในเว็บไซต์หว่า ขี้เกียจตามไปอ่าน เราว่ามันผิดตั้งแต่ set ระบบแล้วล่ะ จากคุณ : MoonClock~* เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 21:48:56

ความคิดเห็นที่ 53   ความรู้ทั้งนั้นครับ ศึกษาไว้ๆ บางทีเรื่องที่เรามองว่าเล็กน้อย มันกลับไม่เล็กน้อยเลยในทางปฏิบัติ บางทีก็ต้องเอาใจเขามาใส่ใจเราด้วยครับ เมื่อตะกี้โทรไปขอภาษีสนามบินคืนจากไทยหางแดงมา เขาย้ำเลยนะว่าจะคืนเข้าบัตรนี้ เลขนี้ๆ แต่เพิ่มเวลาเป็น 45 วันทำการแล้วอ่ะครับ (ราวๆสองเดือน)จากแต่ก่อนสามสิบ ==" ปล. คุณ คคห. ข้างบน ผมไม่เห็นมีใครมาว่าเจ้าของกระทู้ผิดเลยนะครับ ทุกคนแค่เข้ามาช่วยคาดการณ์และอธิบายว่าเรื่องนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไงเท่านั้นเองครับ แก้ไขเมื่อ 23 ก.พ. 53 21:56:22 แก้ไขเมื่อ 23 ก.พ. 53 21:57:22 จากคุณ : Ethanol เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 21:54:13

ความคิดเห็นที่ 54   เรียนความเห็นที่ 52 ยังไม่เห็นมีใครว่าเจ้าของกระทู้ผิดเลยครับ และก็เพิ่งจะรู้กันเพราะกระทู้นี้แหละครับว่าการคืนเงินมันคืนกันยังไงกันบ้าง ผมว่ามันเป็นปัญหา และข้อขัดข้องที่ทางแอร์เอเซียคงได้รับไปปรับปรุงระบบให้ดีขึ้น เพราะผมส่งข้อมูลไปให้ทางแอร์เอเซียแล้ว ผมว่ามันก็เหมือนๆที่ผ่านมาตลอด 7 ปีนั้นแหละครับ คือแอร์เอเซียปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่องในแต่ละปี พร้อมๆกับที่รับ-ส่งผู้โดยสารมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ที่แน่ๆในประเด็นนี้เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย ซึ่งเป็นเจ้าบ้านก็ไม่ได้นิ่งดูดาย ไม่ได้ปัดความรับผิดชอบ และไม่ได้ผลักภาระให้ลูกค้า และได้พยายามชี้แจงและตามเรื่องให้อย่างดี จากคุณ : k.j เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 22:01:57

ความคิดเห็นที่ 55   คุณความคิดเห็นที่ 52คะ ก่อนอื่นนะคะ เพราะงั้นใครบอกว่า จขกท.ผิด  ปกติเค้าคืนใบแรก ควรรู้ ยังไม่ใครบอกว่าเจ้าของกระทู้ผิด หรือควรรู้เลยค่ะ แล้วก็ยังไม่มีตรงไหนที่บอกว่ามันเป็น common sense ที่ลูกค้าควรรู้สักประโยคเดียว ที่เขามาแสดงความเห็นกันทั้งหมดก็เพื่ออธิบายว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ้าง ปัญหามันอยู่ตรงไหน ต้องแก้ไขอย่างไร เจ้าของกระทู้ควรจะทำอย่างไรถึงจะไม่เสียผลประโยชน์ เผอิญดิฉันไม่ใช่นักบัญชี และไม่ได้ทำงานอยู่สายการบิน สิ่งที่แสดงความเห็นไปมาจากประสบการณ์ของตัวเองที่เผอิญไปข้องเกียวกับสายบินบ่อยและต้องซื้อตั๋วให้คนอื่นหลายคนอยู่บ่อยๆเท่านั้นเอง สิ่งที่คุณยกตัวอย่างมานั้นถูกต้องว่ามันต้องเป็นเช่นนั้น หรือที่คุณ K.J บอกว่ารู้มาจากผู้ประสงค์จะออกนามนั้นก็ไม่ได้เป็นคำชี้แจงได้ว่า ทำไมมันต้องไปคืนที่ไปแรก ยิ่งถ้ากล่าวถึง Approve code ด้วยแล้วมันยิ่งชัดเจนว่ามันควรจะกลับไปที่บัตรเจ้าของกระทู้เพราะเป็นบัตรทีมี Approve code เดียวกัน ดิฉันคงตอบได้สั้นๆว่า process ที่คุณได้เงินคืนใบบัตรคุณกับ Process ที่แอร์เอเชียคืนเงินเจ้าของกระทู้มันเป็นคนละ Process กัน และProcess ที่แอร์เอเชียทำมันเป็น Process ของการคืนเงินในกรณีที่ซื้อตั๋วเครื่องบินผ่านบัตรเครดิต ซึ่งทุกสายการบินทั่วโลกนี้ทำเหมือนกันหมด ระบบมันไม่ได้ผิด ส่วนเรื่องที่มันผิดจนเป็นเหตุให้เกิดเรื่องนี้ ดิฉันตอบไปในความเห็นข้างบนแล้ว คงไม่จำเป็นต้องอธิบายซ้ำอีก ถ้าถามว่าเจ้าของกระทู้ผิดอะไร ก็คงบอกเลย่ว่าไมผิดเลย แต่อาจเป็นคราวซวยที่ไปเจอพนักงานไม่รู้เรื่อง ถ้าพนักงานคนนี้เจอดิฉันแทนเจ้าของกระทู้คงโดนตั้งแต่วินาทีนั้นแล้วค่ะ มันเรื่องอะไร อยู่ดีๆต้องให้เราจ่ายเงินในส่วนที่เราไม่สมควรจ่ายแล้วค่อยไปรอรับเงินคืน ยังไม่นับที่ต้องขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนอีกเรทซื้อมันได้ถูกกว่าเรทขายแน่ๆอยู่แล้วถ้าอัตราแลกเปลี่ยนมันไม่ต่างกันมากกว่า2-3 บาท หวังว่าคงชัดเจนแล้วนะคะ จากคุณ : Alone with out lonely เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 22:14:43

ความคิดเห็นที่ 56   ดิฉันเข้าใจว่าตัวเจ้าของกระทู้เองนั้นไม่ได้ติดใจกับตัวเงิน แล้วก็ไม่ได้กังวลว่าจะได้เงินคืนหรือเปล่า แต่เจ้าของกระทู้ติดใจว่า ทำไมทำผิดแล้วไม่จัดการแก้ไขและไม่รับผิดชอบ ถ้าเจ้าของกระทู้ได้รับคำชี้แจงในรายละเอียดว่าทำไมมันถึงเกิดแบบนี้ ดิฉันว่าเจ้าของกระทู้คงจะไม่หงุดหงิดเสียอารมณ์ขนาดนี้ การที่ดิฉันแสดงความเห็นในคหแรกๆว่า คู่กรณีเป็น AK ไม่ใช่ FD ไม่ใช่เพื่อจะตำหนิเจ้าของกระทู้ว่าผิด แต่จะบอกว่ามันไม่มีประโยชน์และเสียเวลาที่จะไปเย้วๆกับ FD เพราะเขาไม่มีอำนาจจะทำอะไรได้ ควรจะไปเย้วๆกับ AK มันจะได้ประโยชน์มากกว่า ส่วนสคบ ก็จะบอกให้รู้ว่าขอบเขตมันไปไม่ถึงอย่าเสียเวลา เปล่าประโยชน์ ไปเสียเวลากับส่วนที่มีผลดีกว่าเช่น ธนาคารเจ้าของบัตร พร้อมทั้งอธิบายรายละเอียดด้วยว่าเจ้าของบัตรจะปกป้องรักษาสิทธิ์ของตัวเองได้อย่างไรบ้าง ถ้าไม่อคติจนเกินไปแล้ว คงจะจับใจความและเจตนาได้ว่าดิฉันเข้ามาแสดงความเห็นเพื่ออะไรนะคะ จากคุณ : Alone with out lonely เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 22:23:17

ความคิดเห็นที่ 57   อืมไม่มีใครว่า จขกท.ผิดจริงๆด้วย ต้องขอโทษทุกคอมเม้นก่อนหน้านี้ทุกคนด้วยค่ะ ไม่ edit ลบอันเก่านะ เดี๋ยวคนหลังๆ งง มา edit เพิ่มค่ะที่ความเห็นนี้ค่ะ เพราะเพิ่งเห็นความเห็นคุณ alone ก่อนอันนี้ ต้องขอโทษอีกรอบ ไม่มีใครว่าเจ้าของกระทู้จริงๆ  และที่อ่านไปตอนแรกนั้นไม่ได้คิดว่าคุณalone ว่าจขกท.ผิดค่ะ   แต่อ่าน เรื่อง code เรียกเก็บแล้วไม่เข้าใจอยู่ดีแหละค่ะ ว่าบนพื้นฐานเดียวกัน มี process ที่แตกต่างระหว่างคนละธุรกิจด้วยแฮะ แต่ตอนนี้ จำแค่ว่าควร ย้ำเลขบัตรที่ให้คืนทุกครั้ง ไม่ว่าจองอะไร แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 53 21:10:49 แก้ไขเมื่อ 23 ก.พ. 53 22:41:54 จากคุณ : MoonClock~* เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 22:29:08

ความคิดเห็นที่ 58   ไม่เป็นไรค่ะคุณMoonClock~* คนเราเข้าใจผิดกันได้ค่ะ ให้กิ๊ฟไม่ได้ให้ แทนก็แล้วกันนะคะ จากคุณ : Alone with out lonely เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 22:32:47

ความคิดเห็นที่ 59   น่าจะต้องรอให้ทางสายการบินมี feed back กลับมานะค่ะ  เราๆ ท่านๆ ก็เป็นเพียงผู้สังเกตการณ์และเป็นผู้คอยให้กำลังใจกับเจ้าของกระทู้นะคะ  การแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ ดิฉันว่าเป็นเรื่องดีค่ะ แต่ก็ขอให้ช่วยๆ รักษาน้ำใจและให้เกียรติกับเจ้าของกระทู้ด้วยนะคะ  เขาเป็นผู้เสียหายและนำเอากรณีศึกษานี้มาให้เราทุกคนได้เรียนรู้ค่ะ   ไม่มีใครผิดหรือใครถูกค่ะ เพราะห้องนี้เป็นห้องเสรีสำหรับการแสดงความเห็น แต่ควรจะอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้องและมีเหตุผลด้วยค่ะ  เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้ค่ะ จากคุณ : foodsc (foodsc) เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 22:33:18

ความคิดเห็นที่ 60   แล้วตกลง... สิ่งที่สมควรจะเกิดขึ้นต่อไปคืออะไร 1. ทางแอร์เอเชีย จะคืนเงินส่วนที่เกินให้กับเจ้าของกระทู้ผ่านบัตรเครดิตของเจ้าของกระทู้ 2. ทางแอร์เอเชีย ทำอะไรไม่ได้ เพราะคืนเงินผ่านบัตรใบแรกไปแล้ว ถือว่าจบกัน ส่วนเจ้าของกระทู้ก็ต้องไปตามเงินจากเจ้าของบัตรเครดิตใบแรกที่เป็นคนจองแต่แรกเอง 1. หรือ 2. อ่ะครับ จากคุณ : David_kop เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 22:39:33

ความคิดเห็นที่ 61   แล้วตกลง... สิ่งที่สมควรจะเกิดขึ้นต่อไปคืออะไร 1. ทางแอร์เอเชีย จะคืนเงินส่วนที่เกินให้กับเจ้าของกระทู้ผ่านบัตรเครดิตของเจ้าของกระทู้ 2. ทางแอร์เอเชีย ทำอะไรไม่ได้ เพราะคืนเงินผ่านบัตรใบแรกไปแล้ว ถือว่าจบกัน ส่วนเจ้าของกระทู้ก็ต้องไปตามเงินจากเจ้าของบัตรเครดิตใบแรกที่เป็นคนจองแต่แรกเอง 1. หรือ 2. อ่ะครับ จากคุณ : David_kop เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 22:41:02

ความคิดเห็นที่ 63   ว่ากันตั้งแต่ต้น -เจ้าของกระทู้ได้รับตั๋วโดยสารจากเพื่อนแล้วมาขอเปลี่ยนชื่อกับเจ้าหน้าที่แอร์เอเซีย -การเปลี่ยนฃื่อเที่ยวบินในประเทศของมาเลเซียมีค่าเปลี่ยน 3 ราคาคือ เที่ยวบินภายในมาเลเซียฝั่งคาบสมุทร 65 ริงกิต เที่ยวบินภายในมาเลเซียตะวันออก 65 ริงกิต เที่ยวบินภายในมาเลเซียฝั่งคาบสมุทร - มาเลเซียตะวันออก 90 ริงกิต -เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการและสับสนจนตัดราคาผิดจาก 65 ริงกิต เป็น 90 ริงกิต และต้องคืนให้เจ้าของกระทู้ ทางบัตรเครดิต ซึ่งทุกๆคนรวมทั้งผมด้วยก็เข้าใจว่าต้องคืนเข้าบัตรของเจ้าของกระทู้ โดยที่เจ้าหน้าที่คนนั้นไม่ได้ไม่หมายเหตุส่งเรื่องคืนเงินว่าให้คืนบัตรของเจ้าของกระทู้หรือเจ้าของบัตรที่ซื้อบัตรใบแรก -ฝ่ายคืนเงินก็ไม่รู้ว่าจะให้คืนบัตรไหน ก็ทำไปตามปกติที่เวลามีการคืนเงินจะคืนเข้าไปในบัตรใบแรกที่ใช้จองตั๋ว โดยไม่ได้แยกว่ากรณีนี้ไม่ใช่การยกเลิกตั๋วแล้วคืนเงิน แต่เป็นการตัดเงินค่าเปลี่ยนชื่อเกินแล้วต้องจ่ายเงินคืน -พอเอาเงินเข้าบัตรไปแรกแล้ว เกิน 3 วัน ก็ไม่สามารถเรียกคืนได้แล้ว -ฝ่ายบัญชีก็ถือว่าในทางกฏหมายบัญชี ได้คืนเงินไปแล้ว และจะคืนซ้ำอีกไม่ได้ เว้นแต่จะมีการถอนเงินที่คืนไปกลับมาทางบัญชีก่อน ซึ่งฝ่ายบัญชีไม่สามารถร้องขอให้ทำเช่นนั้นได้ -หัวหน้าผู้เจรจาก็เริ่มตรวจสอบและพบข้อผิดพลาดดังนี้  การผิดพลาดข้อแรก เจ้าหน้าที่ๆดำเนินการเปลี่ยนฃื่อไม่ได้ถามลูกค้าและไม่ได้หมายเหตุให้ฝ่ายคืนเงินทำการคืนเงินใส่ใบที่สอง  การผิดพลาดข้อสอง เจ้าหน้าที่ฝ่ายคืนเงิน ไม่มีการวางระบบ และเตือนภัยถึงปัญหาการทำรายการด้วยบัตรหลายใบ และตอนคืนเงินจะคืนรายการใดเข้าบัตรใด ซึ่งจริงๆฝ่ายคืนเงินต้องวางระบบและแจ้งปัญหาเหล่านี้ให้ผู้บริหารวางแผนและจัดระเบียบให้เจ้าหน้าที่ทำตามตั้งแต่ต้น  ทั้งหมดนั้นเป็นความผิดพลาดที่ต้องปรับปรุงแก้ไขและอุกช่องว่างนั้นต่อไปในภายภาคหน้า -เจ้าหน้าที่ชั้นสูงที่เจรจากับลูกค้า เริ่มทำจากง่ายไปหายาก  ระดับที่ 1 แจ้งให้ลูกค้าทราบว่า เงินมันเข้าบัตรเครดิตเจ้าของตั๋วคนแรกไปแล้ว และเจ้าของกระทู้ก็รู้จักกัน จะไปทำการขอเงินจากเพื่อนได้หรือไม่  ระดับที่ 2 ลูกค้าไม่ยอมและยืนกรานให้คืนเข้าบัตรของเจ้าของกระทู้เท่านั้น เจ้าหน้าที่ก็ถามฝ่ายบัญชีให้ แล้วฝ่ายบัญชีก็แจ้งว่า ฝ่ายบัญชีเรียกเงินคืนจากทางบัตรเครดิตไม่ได้ เจ้าหน้าที่ก็มาแจ้งลูกค้าอีกครั้งว่า ฝ่ายบัญชียืนกรานว่าทำไม่ได้ และขอให้ไปคุยกับเพื่อนแล้วขอเงินคืนจากเพื่อนได้ไม๊  ระดับ 3 ลูกค้ายืนกรานเช่นเดิม และดำเนินการมาจนเป็นกระทู้นี้ และมีแนวโน้มว่าทางแอร์เอเซียก็หยุดดำเนินการใดๆแล้วเช่นกัน แล้วจะทำไงกันต่อได้บ้าง -กลับมาที่จุดที่ง่ายที่สุด คือเจ้าของกระทู้ครับ พี่คนที่ให้ตั๋วมาเปลี่ยนชื่อ เงิน 25 ริงกิตได้เข้าไปในบัญชีของเขาแล้ว จะไปคุยกับพี่เขาแล้วขอเงินคืนจากพี่เขาได้ไม๊ครับ มันง่ายที่สุดแล้วครับ ถ้าไม่ได้ เจ้าของกระทู้ต้องแสดงเหตุผลอันมีน้ำหนัก เช่นไม่รู้จักและไม่มีทางขอเงินจากเขาได้เด็ดขาด เพราะแค่ซื้อต่อมาไม่ได้รู้จักกัน ไปเอาไม่ได้ ยืนยันมาอีกครั้ง -แล้วถ้าเรายืนยันว่าไม่สามารถไปเอาคืนได้ แล้วทางแอร์เอเซียทำอะไรได้บ้าง ทางที่ 1 ถ้าทางแอร์เอเซีย ยืนยันว่าการคืนเงินแบบนั้นถูกต้องและถูกกฏหมาย และไม่ยอมตัดเงินสำรองมาจ่ายซ้ำเพื่อตัดปัญหา และยอมหักแต่ไม่ยอมงอ ยืนกรานจะไม่ดำเนินการใดๆอีก ก็ทำได้ ทางที่ 2 ทางแอร์เอเซียเจรจรกับธนาคารบัตรใบที่คืนไป ว่าให้เจรจากับลูกค้าให้หน่อยว่า เงิน 25 ริงกิตนั้นเข้าผิดไป ขอคืนโดยได้รับการยินยอมจากเจ้าของบัตร พอธนาคารได้คืนมาก็คืนให้แอร์เอเซีย และแอร์เอเซียก็ค่อยคืนใหม่ให้ถูกบัตร วึ่งต้องใช้เวลาอย่างน้อย 90 วันทำการ ( ผมเดาเอาเอง ) และค่าใช้จ่ายก็เกิน 25 ริงกิตแน่แท้ แต่ต้องทำแบบนี้เพราะผลทางบัญชีมันมีผลทางกฏหมาย - แล้วเจ้าของกระทู้จะเอาไงได้บ้าง ถ้าแอร์เอเซียเลือกทำวิธีที่ 2 เพราะเจ้าของกระทู้ยืนกรานว่าไปเอาจากเพื่อนไม่ได้ ถ้าแอร์เอเซียทำให้แบบนั้น ก็ได้แต่รอต่อไป รอจนได้คืนมา ถ้าแอร์เอเซียเลือกทำวิธีที่ 1 ยอมหักไม่ยอมงอ เจ้าของกระทู้ก็ต้องตั้งทนายไปฟ้องแอร์เอเซียโดยแยกเป็น 2 ทาง ทางที่ 1 ฟ้องคดีอาญา ข้อหาฉ้อโกงเงิน โดยเก็บหลักฐานทั้งหมดไว้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดี เราไม่ต้องทำอะไร คดีอาญาตำรวจสอบสวนเอง  ทางที่ 2 ตั้งทนายฟ้องคดีแพ่งเรียกค่าเสียหายจากทางสายการบิน พวกทนายจะประเมินเองว่าได้คุ้มเสียไม๊ ถ้่าได้คุ้มเสีย คุณจะไม่ต้องเสียเงินจ้างทนายแม้แต่บาทเดียว ทนายจะทำเรื่องเอง พอได้ค่าเสียหายมาเท่าไหร่แบ่งกันคนละครึ่ง แต่ถ้าแพ้คดีคุณเสียค่าทนาย ครึ่งเดียวของค่าจ้างเต็ม คุณมีโอกาสชนะสูง แต่ถ้าจะแพ้ก็เพราะกระทู้นี้แหละครับ และการฟ้องแพ่งมันดาบสองคม ถ้าแพ้แอร์เอเซียฟ้องคุณคืนแน่นอน แถมพ่วงคดีหมิ่นเข้าไปอีก วึ่งก็แฟร์ดีเพราะทุกอย่างว่ากันไปตามข้อมูลและข้อเท็จจริง ปล.คุณครับ เอาให้ชัดๆอีกครั้ง ผมถามคุณตรงๆว่าตั๋วใบนี้ คุณได้มาจากพี่ที่ทำงานจริงๆหรือเปล่า ถ้าจริงพี่เขาจะใจร้ายถึงกับไม่ยอมตรวจสอบและเอาเงินคืนคุณ 200 กว่าๆบาทเลยเหรอครับ และพอคุณทราบว่าทางบัญชีต้องทำขั้นตอนมากมายขนาดนั้น เพื่อที่จะยอมคุณแล้วเอาเงินเข้าบัตรคุณตามความต้องการของคุณ คุณจะยังยืนกรานให้เขาทำจนได้หรือ หรือคุณจะไปเอาที่พี่คุณแทนมันง่ายกว่ามาก ง่ายขนาดผมยังอยากใช้แทนแอร์เอเซียเลย ถ้าคุณชนะแล้วแอร์เอเซียต้องไปทำขั้นตอนเยอะขนาดนั้น เพื่อสมใจคุณและเพื่อความถูกต้องแบบไม่มีการผ่อนปรนกัน ผมจ่ายแทนแอร์เอเซียก็ได้ครับ 25 ริงกิต มาเอาที่ผมได้เลยครับ จากคุณ : k.j เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 12:17:02

ความคิดเห็นที่ 64   คุณ k.j คะ ดิฉันว่าเจ้าของกระทู้เข้าใจปัญหาแล้วค่ะและความหงุดหงิดคับข้องใจก็คลายลงไปมากแล้วค่ะ ดิฉันเข้าใจในสิ่งที่คุณพยายามอธิบาย แต่มันเป็นดาบสองคมเพราะเราจะให้ใครคิดเหมือนเราหมดไม่ได้ เดี่ยวมันจะเป็นชนวนใหม่ให้เป็นเรื่องขึ้นมาอีก ปัญหาของเจ้าของกระทู้น่าจะได้ข้อยุติโดยการสื่อสารโดยตรงระหว่างเจ้าของกระทู้กับสายการบิน ส่วนใครที่ยังไม่อยากจบ ปล่อยเขาไปหากันเองต่อเถอะค่ะ บอกเป็นข้อมูลนิดนึงนะคะ การ recall น่ะไม่ได้มีกำหนดแค่ 3 วันทำการค่ะ คนโอนเงินจะ recall เมื่อไรก็ได้ค่ะ เคยมีประสบการณ์โอนเงินแล้ว recall ข้ามปีด้วยซ้ำไป เพียงแต่ว่าการ recall นั้นแบงค์ดำเนินการให้แต่ไม่ได้เป็นความรับผิดชอบของแบงค์ว่าจะได้คืน ถ้าเงินตรงนั้นเจ้าของบัญชีถูกถอนออกไปแล้วหรือพูดง่ายๆว่าไม่มีเงินให้แบงค์โอนกลับคืนให้แล้ว ก็เป็นเรื่องของผู้ส่งกับผู้รับที่จะไปดำเนินการทวงถามฟ้องร้องกันเอาเอง สาเหตุหลักที่สายการบินปฏิเสธไม่ทำเพราะมันจะมีขั้นตอน ค่าใช้จ่าย การขาดทุนจากส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยนเกิดขึ้นที่จะเป็นปัญหากับเขาค่ะ เอากันง่ายๆ กรณีนี้เจ้าของกระทู้ได้เงินคืนน้อยกว่าเงินที่จ่ายแน่นอนแต่คงไม่กี่บาท จากคุณ : Alone with out lonely เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 12:42:13

ความคิดเห็นที่ 65   สำหรับกรณีที่ถามหาว่า สมควรจะทำอย่างไรต่อไป นั้น ปกติของการทำงาน ต้องมีการวางแผนเพื่อป้องกันปัญหา แต่เมื่อเกิดปัญหา ก็ต้องแก้ไขปัญหา การแก้ไขปํญหาตรงๆก็คือทำให้ปัญหามันหมดไป มันคงบอกไม่ได้ว่าจะทำอย่างไร ที่เรีกว่า สมควร เพราะ ความสมควร อาจไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา แต่มันควรเป็น ความพอใจ ของทั้งสองฝ่ายที่มีจุดลงตัวพอดีกัน ถ้าทั้งสองฝ่ายพอใจแม้ว่าวิธีการมันจะ ไม่สมควร ปัญหามันก็ถูกแก้ไขให้จบสิ้นได้ แต่ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยังไม่พอใจ แม้ว่าวิธีการนั้น มันสมควรอย่างยิ่ง ปํญหามันก็ยังคงอยู่รอการแก้ไขต่อไป แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 53 12:59:18 จากคุณ : Alone with out lonely เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 12:57:52

ความคิดเห็นที่ 66   ผมว่าจะจบสวยที่สุดถ้า 1. สายการบินขอโทษเจ้าของกระทู้อย่างเป็นทางการ และยืนยันว่าจะไม่ให้เกิดความบกพร่องแบบนี้อีก (อาจให้ตุ๊กตุ่น พวงกุญแจที่ระลึกอะไรมาเป็นการปลอบใจนิดหน่อย) 2. จขกท. ไปขอเงินคืนจากพี่ 250 บาท น่าจะเป็นการประณีประนอมที่ลงตัวและเจ็บตัวน้อยที่สุดทั้งสองฝ่ายนะครับ จากคุณ : Ethanol เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 15:01:29

ความคิดเห็นที่ 67   ก็ต้องขอแทรกถามนิดนึงนะคะ ในมุมมองอีกมุมหนึ่งนะ..... ถ้าในกรณีที่เจ้าของกระทู้กับคนที่ทางสายการบินโอนเงินผิด  เขาสองคนไม่รู้จักกัน  ดิฉันว่างานนี้สงสัยเจ้าของกระทู้คงจะทำไปตามเงินคืนไม่ได้แน่นอน  ก็เหมือนกรณีโอนเงินผิดบัญชี ทางธนาคารก็ยังต้องตามทวงให้เลย  ในกรณีนี้ทำไมทางสายการบินไม่โทรไปตามเรื่องกับคนที่เขาโอนไปให้ผิดบัญชีละคะ   หรือถ้าเขารู้จักกันคิดไหมค่ะว่า ....เพราะเรื่องเงินเนี่ย มันทำให้คนเลิกคบกันได้มานักต่อนักแล้ว คิดว่าเงินเพียง 250 บาทนี้ มันก็ไม่ได้มากมายอะไร ดิฉันคิดว่าทางสายการบินน่าจะช่วยจัดการให้สักนิด  เงินเพียง 250 บาท กับชื่อเสีย... จะคุ้มกันไหมค่ะ      การร้องเรียนของผู้ใช้บริการ ก็เหมือนว่าเป็นกระจกเงาสะท้อนให้เห็นถึงการบริการของบริษัทที่มีการลูกค้า  ซึ่งทางบริษัทน่าจะออกมาแสดงความรับผิดชอบค่ะ จากคุณ : foodsc เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 15:24:25

ความคิดเห็นที่ 68   ถ้าในกรณีที่เจ้าของกระทู้กับคนที่ทางสายการบินโอนเงินผิด  เขาสองคนไม่รู้จักกัน  ดิฉันว่างานนี้สงสัยเจ้าของกระทู้คงจะทำไปตามเงินคืนไม่ได้แน่นอน กรณีนี้สายการบินไม่ได้โอนเงินผิดค่ะ ในแง่ของการคืนเงินค่าตั๋วบัตรเครดิต มันเป็น process ที่ทำแบบนี้ทุกสายการบินค่ะ ส่วนเรื่องเขาสองคนไม่รู้จักกันนั้น การเปลี่ยนชื่อผู้เดินทางไม่ใช่การเปลี่ยนกรรมสิทธิ์ในตั๋วเครื่องบินนั้น และมันเป็นไปไม่ได้ที่เจ้าของบัตรผู้ซื้อตั๋วจะไม่รู้จักกับผู้เดินทางเพราะทั้งสองคนต้องส่งเอกสารเพื่อขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงชื่อผู้เดินทาง ก็เหมือนกรณีโอนเงินผิดบัญชี ทางธนาคารก็ยังต้องตามทวงให้เลย  ในกรณีนี้ทำไมทางสายการบินไม่โทรไปตามเรื่องกับคนที่เขาโอนไปให้ผิดบัญชีละคะ โอนผิดบัญชีธนาคารก็ไม่ได้ตามทวงเงินไห้ค่ะ อธิบายไว้แล้วในคหข้างบน คิดว่าหลายๆท่านได้ถกเรื่องนี้กันมามากแล้ว ถ้าอ่านและทำความเข้าใจโดยไม่ปิดกั้น คงเข้าใจไม่ยาก ปํญหามันต้องถูกแก้ไขและนำไปเป็นข้อมูลในการพัฒนาระบบการบริการที่ไม่ให้เกิดปัญหาแบบเดิมๆอีก แต่ถ้าไม่เปิดใจยังติดกับความคิดเดิมๆและเอาความรู้สึกส่วนตัวเป็นที่ตั้ง คุยเท่าไรมันก็ไม่รู้เรื่องหรอกค่ะ ดิฉันว่าตัวเจ้าของกระทู้คงเข้าใจแล้วและคงได้รับการติดต่อจากคู่กรณีในปัญหานี้แล้วเหมือนกัน ส่วนไหนผิดว่ากันไปตามผิด จะแก้ไขกันอย่างไรทั้งสองฝ่ายคงไปหาข้อยุติและจุดลงตัวของความพอใจกันได้เอง ส่วนคนอื่นๆจะพอใจเข้าใจหรือไม่ เอาไว้เป็นปัญหาของตัวเองเมื่อไร แล้วค่อยใช้สิทธิ์อย่างใจเต็มที่ไปเลยค่ะ แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 53 15:38:31 จากคุณ : Alone with out lonely เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 15:37:24

ความคิดเห็นที่ 69   ความคิดเห็นที่ 4 3. ต้องเข้าใจว่าแม้ว่าเราจะเรียกสายการบินว่า แอร์เอเชีย แต่ในความเป็นจริงแล้วมันแยกบริษัทแยกการบริหารที่ไม่เกี่ยวกันโดยสิ้นเชิง ปัญหาที่เกิดมันเกิดกับบริษัทแอร์เอเชียของมาเลเซียไม่ใช่ บริษัทไทยแอร์เอเชีย คนละบริษัทคนละระบบ แล้วเขาจะจัดการให้คุณได้อย่างไรเขาไม่ได้มีอำนาจ เขาทำได้แค่ประสานงานให้เท่านั้น ของคุณ Alone with out lonely ................................................................................................ อันนี้เจ้าของกระทู้ เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2553 เราได้ทำการโทรไปที่ call center ของหางแดง เพื่อดำเนินการเปลี่ยนแปลงผู้โดยสารจากพี่ที่ออฟฟิศ เป็นเรา สำหรับ การบินจาก กรุงเทพไป ปีนัง จาก ปีนัง ไปกัวลาลัมเปอร์ และกัวลาลัมเปอร์มาไทย ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแปลงผู้โดยสารทริปอื่นๆไม่มีปัญหาเรียกเก็บถูกต้อง แต่ทริปบินในประเทศมาเลย์เซีย(ปีนังไปกัวลาลัมเปอร์) คือ MYR 65 แต่ทางพนักงานได้ดำเนินการตัดบัตรเครดิตของเราผิด คือตัดเป็นจำนวน MYR 90 พอเราท้วงว่าไม่ใช่ 65 เหรอ เค้าก็เช็คอีกครั้ง แล้วบอกว่าใช่ MYR 65 เค้าจะดำเนินการคืนเงินจำนวน MYR 25  เข้าบัตรเครดิต ภายใน 30 วัน ถามเจ้าของกระทู้(ถ้ายังมาอ่าน) เจ้าหน้าที่ที่ว่า เจ้าหน้าที่ไทยหรือมาเลเซียครับที่ เก็บเงินจากบัตรคุณ(เบอร์ที่โทรเบอร์ไทยหรือเปล่าครับ) ถ้าเจ้าหน้าที่ไทย คือหางแดงไทย...เป็นคนตัดบัตร ความเห็นของคุณ Alone with out lonely  ผมว่าผิด แต่ถ้าพนักงานงานหางแดงมาเล ความเห็น Alone with out lonely  ก็ถูก ตรรกง่ายๆ ถ้าไม่มีอำนาจไม่เกี่ยวกัน ทำแทนกันได้ยังไง ที่ทำแทนกันเพราะ น้ำใจ หรือ สัญญา หรือ อะไรครับ คนไทยโดยมากอาจไม่รู้ แต่บางคนก็รู้นะครับ ที่ว่าไม่เกี่ยวกันนี้ ไม่เกี่ยวกันในแง่การจดทะเบียนนิติบุคคล หรือ ในแง่ อำนาจบังคับการ หรือ ในแง่ที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่ครับ แต่ในแง่ตัวการตัวแทนคงไม่มีปัญหานะครับที่จะบอกไม่เกี่ยวกัน แคนนอนไทย กับแคนนอนญี่ปุ่น นิคไทย กับนิคอนญี่ปุ่น มีความแตกต่างยังไง ผมว่าคุณ Alone with out lonely  คงเข้าใจ จากคุณ : เอ่ยรัก (เอ่ยรัก) เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 15:40:12

ความคิดเห็นที่ 70   ติดตามและพอจะเดาสาเหตุของปัญหามาได้รางๆ ตั้งแต่ต้น คุณ Alone with out lonely คุณ k.j และหลายๆ ท่านช่วยหาข้อมูลและอธิบายสาเหตุของปัญหา, ขั้นตอนทางบัญชี, โครงสร้างองค์กรภายในของแอร์เอเซีย, แนวทางแก้ไขปัญหาของแอร์เอเซีย และทางออกต่างๆ ให้เจ้าของกระทู้มาได้ละเอียดและเป็นประโยชน์มากๆ ค่ะ ขออนุญาตร่วมเสนอแนวคิดและวิธีการจากความเห็นส่วนตัวกับทั้งสองฝ่ายด้วยซักนิด แอร์เอเซีย (อ้างอิงจากข้อมูลที่ทราบในปัจจุบัน) .... หากมีผู้ที่เกี่ยวข้องอยู่ในที่นี้ (หากไม่มีก็ได้เสนอแนะไปทางเว็บไซด์ด้วยแล้ว) 1.  การคืนเงิน/ปรับปรุงบัญชี กรณีปกติ เช่น การขอคืนเงินกรณีไม่มีการเดินทาง (สรุปจากข้อมูลที่คุณ k.j ช่วยหามาให้ หากผิดพลาดต้องขออภัยล่วงหน้า) สามารถขอคืนเงินได้ 2 วิธี คือ   กรณีที่ 1. คืนเงินเข้าบัญชี/บัตรที่ใช้ชำระค่าตั๋ว (ครั้งแรก) ... โดยส่วนตัวสมเหตุสมผลเพราะเป็นหลักบัญชีสากล ใช้ใบไหนทำธุรกรรม (ชำระตั๋ว) หากมีการเปลี่ยนแปลง/ยกเลิกที่สืบเนื่องก็จ่ายคืนใบนั้น   กรณีที่ 2. คืนเงินเข้าบัญชี/บัตรที่ใช้ทำเรื่องเปลี่ยนแปลง (คนที่ 2, 3, 4) แต่จะทำเมื่อ "ลูกค้าเป็นผู้แจ้งความจำนง" 2. การคืนเงิน/ปรับปรุงบัญชี กรณีพิเศษ ที่ไม่ได้เกิดจากข้อผิดพลาดหรือการร้องขอจากลูกค้า เช่น กรณีนี้พนักงานคิดค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนแปลงชื่อผู้เดินทางผิด การปรับปรุงบัญชี "เหมือนกรณีการขอคืนเงินปกติ" ข้อเสนอแนะ กรณีปกติ : 1.  พนักงานควรแจ้ง "วิธีปฏิบัติที่กำหนด" ว่าการคืนเงินจะคืนไปที่บัตรใบแรก (ลูกค้าไม่ถามแต่เป็นข้อมูลที่ควรรู้) เพราะลูกค้าไม่รู้ทุกคน 2.  พนักงานควรแจ้ง "ทางเลือก" ว่าการคืนเงินสามารถเลือกขอคืนได้ 2 แบบ (ลูกค้าไม่แจ้งเพราะไม่รู้) น่าจะช่วยลดปัญหาในภายหลังและเป็นการแสดงความจริงใจในการให้บริการ กรณีไม่ปกติ : ควร "ใช้วิธีปรับปรุงบัญชีที่แตกต่างจากปกติ" (ส่วนตัวเห็นด้วยกับ คุณ Alone with out lonely ที่น่าจะมีวิธีปรับปรุงบัญชีที่ถูกต้องกว่านี้) ถ้ามีอยู่แล้วแต่พนักงานปฏิบัติไม่ถูก ก็ต้องพิจารณาเน้นย้ำการปฏิบัติงานให้มากขึ้น แต่หากยังไม่มีและมีข้อจำกัดยังไม่สามารถทำได้ในตอนนี้ ก็เพิ่มขั้นตอนการทำงานของพนักงานเหมือนกรณีแรก ** ส่วนตัวเห็นว่า ขั้นตอนการปฏิบัติงานภายในหากมีข้อจำกัดเรื่องโครงสร้างองค์กรที่แยกการทำงานเป็น 2 หน่วยงานหรือมากกว่า เป็นเรื่องที่ลูกค้าสามารถรับรู้ได้ แต่ "ไม่ใช่ต้องยอมรับ" โดยเฉพาะในภาวะการแข่งขันในปัจจุบัน ... ยังคงเชื่อว่าแอร์เอเซียมีการจัดการด้าน Complaint Handling และ Service Recovery ที่ดี เรื่องแค่นี้เอง *** เจ้าของกระทู้ (จริงๆ เพื่อนๆ ข้างบนเสนอไปเยอะแล้ว) 1.  พิจารณายืดหยุ่นขอเงินคืนจากเจ้าของบัตรใบแรกเอง ปกติ ธ.มีขั้นตอนอยู่แล้ว ยิ่งถ้าเป็นบัตรของธนาคารเดียวกันยิ่งง่าย แต่แน่นอนต้องทำเอกสารยินยอม .... ถ้าอยากให้จบกันด้วยดีทั้งสองฝ่ายวิธีนี้น่าจะเหมาะที่สุด เพราะได้ประสบการณ์กันทั้งสองฝ่ายแล้ว 2. ถ้าจะยืนกรานให้คืนเงินเข้าบัตรตัวเอง "สามารถทำได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้วิธีทางกฏหมายแต่อย่างใด" เพราะกรณีนี้ "คุณไม่ได้ขอคืนเงินในกรณีปกติทั่วไป แต่เกิดจากความผิดพลาดของพนักงานเอง โดยที่คุณไม่ได้รับข้อมูล/คำชี้แจงถึงวิธีการจัดการตั้งแต่ต้น" ถ้าได้ทำเรื่องปฏิเสธการจ่ายเงินกับธนาคารไปแล้ว ก็แค่รอฟังผล ให้ ธ.ตรวจสอบและตามเรื่องกับแอร์เอเซียต่อไป ... ถ้าเป็น ธ.เดียวกันกับบัตรใบแรก จนท. อาจจะเจรจาให้ทำเรื่องโอนยอดเงินกันเองก็ได้ โดย ธ.จะช่วยดำเนินการให้ 3. ส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยนจากเงินที่คืนมา บางธนาคารสามารถขอคืนได้ ยิ่งกรณีนี้ไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดของคุณเองน่าจะได้รับการพิจารณา (ถ้าเป็นบัตรของ KBANK สามารถขอคืนส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยนที่เกิดจากการคืนเงินได้ ธ.อื่นยังไม่เคยลอง จะลองสอบถามเพิ่มดูก็ได้) แต่ถ้าเลือกวิธีที่ 1 หรือไม่ติดใจเงินส่วนนี้ก็ตัดไป ** ขอให้ จขกท.ได้ข้อยุติที่ดี และหวังว่าแอร์เอเซียจะรับกรณีศึกษานี้ไว้เป็นข้อมูลปรับปรุงบริการต่อไป ขอบคุณทุกท่านที่แชร์ข้อมูลความรู้ หลายเรื่องไม่เคยรู้มาก่อน รวมถึงน้ำใจของเพื่อนสมาชิกที่เห็นแล้วชื่นใจแทน จขกท. จริงๆ ค่ะ ** แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 53 19:51:41 แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 53 19:45:30 จากคุณ : Nov_9th เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 19:41:02

ความคิดเห็นที่ 71   เห้ออ ไม่รู้จะให้ความเห็นไรดี ให้กำลังเจ้าของกระทู้ก็แล้ววกัน จากคุณ : ATM รุ่นนี้กดง่าย แค่ใช้รหัสใจ เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 19:43:55

ความคิดเห็นที่ 72   ถ้าทางเจ้าหน้าที่แจ้งตั้งแต่แรกว่าคืนเงินเข้าบัตรผู้โดยสารคนแรกเรื่องคงไม่ยาวขนาดนี้มั้งครับ หรือผมอ่านอะไรตกไป????? จากคุณ : narupol เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 22:52:55

ความคิดเห็นที่ 73   เบื่อเเอร์เอเชีย ไม่ชอบระบบเเละการบริหารจัดการ  ไม่ชอบที่มา ไม่ชอบอะไรหลายๆอย่าง อย่างไรก็ตาม ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับลูกค้าครับ ถึงเเม้ปัญหาจะมีมากกว่าสายการบินอื่นบ้างก็ตาม อาจจะเนื่องจากยังใหม่ เเละใช้ระบบการจัดการเเบบไม่ยุ่งยาก ปล ความเห็นส่วนตัว อยากให้เจ๊งๆไปซักทีเถอะสายการบินนี้ ด้วยความเคารพทุกความเห็นครับ จากคุณ : ของถูก มาตรฐานก็ (DLC) เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 23:24:35

ความคิดเห็นที่ 74   กลับมาอ่านอีกที... ผมว่าเรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้น ถ้าฝั่งพนักงานแอร์เอเชียจะมีชั้นตอนปฏิบัติที่รอบคอบกว่านี้อีกสักหน่อย หลายๆ ปัญหาที่เกิดขึ้น วันนี้ก็มีอีก 1 ปัญหาที่เป็นกระทู้แนะนำ ผมว่าแอร์เอเชียควรจะต้องรับฟังและนำไปแก้ไขให้เป็นรูปธรรมด้วยนะครับ จากคุณ : David_kop เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 01:38:29

ความคิดเห็นที่ 75   ขี้เกียจอ่าน ยาวเกิน คุณจขกท. ได้รับผลตอบกลับจากแอร์เอเชียยังไง รบกวนช่วยโพสต์สรุปอีกครั้งเน้อ ปล ชื่นชมความพยายามในการรักษาสิทธิ์ของตัวเอง จากคุณ : ริมยมนา เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 13:25:06

ความคิดเห็นที่ 76   ขอบคุณทุกความเห็นอีกครั้งนะคะ จะขอตอบรวมๆแล้วกันนะคะ -     การดำเนินการทุกอย่างจนเกิดเรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นกับเจ้าหน้าที่ที่ประสานงานเป็นคนไทยค่ะ เจ้าหน้าที่ที่ดำรายการผิดก็เป็นคนไทย แต่call center เค้าอยู่ที่มาเลย์เชีย แม้จะโทรไปที่เบอร์ 02-5159999 ก็ตามค่ะ -       ขอบอกว่า ใช่ค่ะ สายการบินช่วยติดตามให้ แต่ตามจนรู้ว่าโอนให้บัตรใคร แค่นั้น แล้วก็ถามทางบัญชีให้ว่าทำเรื่องไปบัตรแรกเพื่อขอเงินคืน แล้วโอนกลับมาที่บัตรเราได้มั้ย แล้วตอบกลับมาว่าไม่ได้ แค่นั้นจบ          วันที่ 22 ก.พ. ที่คุยทางโทรศัพท์ แม้เราจะยืนยันไม่สะดวกจริงๆที่จะตามเพราะพี่เค้าเดินทางไปต่างประเทศ และก็ยังไม่แน่ใจว่าจะได้เจอกันเมื่อไหร่ ถ้าจะให้ทวงเงินจากบัตรนั้น ทำไมทางคุณไม่ตามให้หล่ะคะ เค้าไม่ตอบอะไรค่ะ แบบนี้ถือว่าเค้าช่วยมั้ยคะ จากวันจันทร์ จนถึงวันนี้ ไม่มีการติดต่อใดๆทั้งสิ้นจากสายการบิน -       ตอนนี้เราแจ้งรายละเอียดไปที่บัตรเราเองค่ะ ว่าขอจ่ายแค่ MYR 65 ก่อน เพราะตอนนี้เราติดต่อพี่ที่จะได้เงินคืนไม่ได้ และสอบถามทุกบัตรที่เกี่ยวข้องแล้ว ยังไงระยะเวลาดำเนินการ ก็อย่างน้อย 45 วันค่ะ เพราะฉะนั้นตอนนี้ ก็รออย่างเดียว ถ้าได้เจอกับพี่เค้าก็คงจะต้องลองคุยกันอีกที ถ้าทุกคนทราบนิสัยและพฤติกรรมพี่เค้า จะเข้าใจทันทีค่ะว่าทำไมเราไม่สะดวกที่จะคุยเอง แถมเกรงว่าสายการบินจะโดนเยอะกว่าที่เรากำลังทำอยู่ด้วยซ้ำ            เอาเป็นว่า ได้ความคืบหน้าอย่างไรจะมาลงให้ทราบอีกทีนะคะไม่ละเลยแน่นอน แต่อาจจะตอบช้าหน่อย เพราะตอนนี้ต้องเคลียร์งานก่อนลาพักร้อนยาว อาจจะไม่ค่อยมีเวลามาตอบแค่นั้นเอง           ขอให้กรณีนี้เป็นกรณีศึกษาที่ทำให้ทางสายการบินนี้มีการปรับปรุงการดำเนินการทั้งหลายทั้งปวงอีกกรณีนึง และช่วยโปรดปลูกฝังจิตสำนึกในด้านการบริการลูกค้าให้กับพนักงานทุกคนด้วยค่ะ ขนาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปราคาแค่ 5 บาท(สมัยก่อน) เค้ายังให้ความสำคัญกะลูกค้ามากกว่านี้เลยค่ะ ถ้าลูกค้าแจ้งปัญหา เจอมากะตัวเองจริงๆ^_^ แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 53 13:51:30 จากคุณ : I do my best เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 15:04:04

ความคิดเห็นที่ 77   ความเห็นสุดท้ายของกระทู้นี้นะคะ ขอตอบข้อพาดพิงในคหที่ 69 และให้ข้อมูลไว้สำหรับผู้ที่จะเป็นลูกค้าสายการบินนี้นะคะ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8529190/E8529190.html อย่าคิดว่าเบอร์ไทย เจ้าหน้าเป็นคนไทย แล้วจะต้องดำเนินการในไทยเสมอค่ะ  สมาชิกหลายท่านที่เวปบอร์ดนี้คงจะเคยมีประสบการณ์ใช้บริการ help desk ของบริษัทต่างๆแล้วผู้ที่ให้บริการเป็นคนไทย เบอร์ไทย แต่นั่งทำงานอยู่ต่างประเทศ ยกตัวอย่างเช่น HP แต่ไม่ทราบว่าเดี่ยวนี้ย้ายมาเปิดที่เมืองไทยหรือยัง เข้ามาแสดงความเห็นนี้เพราะเห็นว่าการแสดงเห็นมาเริ่มแตกประเด็นไปเรื่อยๆ ไม่ได้หมายความว่าความเห็นของตัวเองจะต้องถูกเสมอ และขอให้ดูเจตนาด้วยว่าเข้ามาแสดงความเห็นเพื่อจุดประสงค์ใด จากคุณ : Alone with out lonely เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 16:38:34

ความคิดเห็นที่ 78   ขอหน่อยนึง ------------------------ จาก คห.21 ยืนยันอีกคนว่า.... เจ้าหน้าที่ส่วนคืนเงินของแอร์เอเชีย ***ทำงานห่วยแตก*** เราใช้บัตรเครดิต A ซื้อตั๋วกับแอร์เอเชียเพียงครั้งเดียว แล้ว เปลี่ยนเป็นใช้บัตรเครดิต B ในครั้งต่อๆ มา โดยไม่เคยใช้บัตร A ซื้อตั๋วอีกเลย แต่การคืนเงินค่าภาษีสนามบินจากการไม่ได้เดินทางทุกครั้ง จะไปเข้าบัตรเครดิต A เสมอ โชคดีที่กรณีของเรา เจ้าของบัตรเป็นคนคนเดียวกัน ก็ช่างมันไป แต่สะท้อนว่า พนักงานด้านการเงินของแอร์เอเชีย ***สะเพร่า/ทำงานหละหลวมมาก*** *************** คุณริมยมนาคะ ในการซื้อตั๋วของแอร์เอเชีย ไม่ว่าคุณจะใช้บัตรไหนซื้อ ในส่วนของการคืนเงิน จะจ่ายเงินเข้าบัตรที่ซื้อทุกครั้งคะ ในกรณี ถ้าคุณใช้บัตร A ซื้อ แล้วคุณ จะให้คืนเข้าบัตร B มันไม่มีทางเป็นไปได้เลยคะ ---------------------- คุณหยินจู เข้าใจผิด หรือว่าอ่านไม่เข้าใจหรือเปล่า ในความเข้าใจของเราคือ คุณริมยมนา ได้ซื้อตั๋วโดยใช้บัตร A เพียงแค่ครั้งเดียว แต่ในครั้งต่อๆ มา ได้ใช้ บัตร B ซื้อมาโดยตลอด แต่เวลาต้องมีการคืนเงิน เงินนั้นกลับเข้าที่บัตร A ทั้งๆ ที่ใช้บัตร B ซื้อ ทำให้ คุณริมยมนา ยืนยันอีกเสียงว่า ระบบการคืนเงินของแอร์เอเชียห่วย เราเข้าใจถูกรึเปล่าคะ คุณริมยมนา แต่คุณหยินจู บอกว่า .. คุณริมยมนาคะ ในการซื้อตั๋วของแอร์เอเชีย ไม่ว่าคุณจะใช้บัตรไหนซื้อ ในส่วนของการคืนเงิน จะจ่ายเงินเข้าบัตรที่ซื้อทุกครั้งคะ ในกรณี ถ้าคุณใช้บัตร A ซื้อ แล้วคุณ จะให้คืนเข้าบัตร B มันไม่มีทางเป็นไปได้เลยคะ ... เข้าใจผิดตั้งแต่บอกว่าใช้บัตร A แล้วให้คืนเข้า B แล้ว คือ คุณริมยมนา เค้าใช้ B ซื้อ และต้องการเข้าให้เงินที่ถูกคืนกลับเข้ามาที่ B แต่เงินนั้น ดันไปเข้า A (ที่เคยใช้ทำธุรกรรมกับแอร์เอเชียไปเพียงครั้งเดียว และไม่เคยใช้อีก) ขอโทษด้วย ไม่รู้ว่ามีใครมาโพสไปรึยัง (อ่านได้ไม่ครบทุกกระทู้ มันยาวมากๆ อิอิ) แต่เราอ่านแล้วเราหงุดหงิด ตรงการเข้าใจผิด -*- ขอโทษอีกที ถ้ายุ่งมากไป จากคุณ : กะรุ้งกะริ้ง เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 13:28:02

ความคิดเห็นที่ 79   ขอบคุณนะคะที่มาแนะนำ และได้แก้ไขข้อความไปแล้วนะคะ ทาง call center บอกไม่ว่าจะของมาเลย์เซีย หรือไทยเค้าจะดำเนินการเป็นธุระให้ แต่ถ้าเป็นทางด้านบัญชีถ้าของ FD จะอยู่ในไทย แต่ AK อยู่ที่มาเลย์เชียค่ะ (ถ้าเค้าติดต่อกลับมาภายใน 1-2 วัน เหมือนในความเห็นที่แนบด้านบน ก็คงดีนะคะ แต่อย่างที่บอกค่ะ เค้าติดต่อกลับมาบอกว่าทำรายการเรียกเงินคืนและคืนกลับมาให้เราไม่ได้ แล้วที่เคยบอกไปว่าได้ร้องเรียนผ่านทางเวปไซด์ของเค้าไปแล้ว แต่ก็ไม่มีเสียงตอบร้บอะไรกลับมาเลยค่ะ) จากคุณ : I do my best เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 13:55:14

ความคิดเห็นที่ 80   ไมได้อ่านทั้งหมดนะครับ แค่นี้ก็เห็นชัดๆแล้วพนักงานแอร์เอเชีย ผิดตั้งแต่ต้นแล้ว คิดเงินผิด แล้ว refund เพื่ออะไรครับ???? เพราะต้องเสียเวลารอยอดเงินคืนเข้าบัญชีนาน ถามหน่อยซิครับ ถ้ายอดเงินเป็นหลักหมื่น และจขกท กระทู้มีความจำเป็นต้องใช้บัตรต่อ ก็ต้องมารอหรือครับ มีที่ไหนเขาทำกันบ้าง ก็แค่ void และทำรายการใหม่ ทำเรื่องง่ายๆ ให้เป็นเรื่องยากไปไหมครับ เพราะเวลา void ปุ๊ปนี่ รายการก็ยกเลิกทันที วงเงินก็ถูกคืนเข้าบัตรทันที แล้วจะ refund เพื่ออะไร  ต้องส่งพนักงานแอร์เอเชีย ไปอบรบใหม่นะครับ ทักษะไม่มีเลย ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ แก้ไขเมื่อ 28 ก.พ. 53 01:42:33 จากคุณ : cognacXII เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 53 01:41:24

ความคิดเห็นที่ 81   เมื่อเจ้าของกระทู้มาแก้ข้อความแล้วก็ต้องออกความเห็นสุดท้ายของสุดท้ายอีกทีนะคะ ตอบความเห็นที่ 69 นิคไทย กับนิคอนญี่ปุ่น มีความแตกต่างยังไง ผมว่าคุณ Alone with out lonely  คงเข้าใจ นิคไทยเป็น ตัวแทนจำหน่าย และตัวแทนศูนย์ซ่อม ของนิคญี่ปุ่นค่ะ ซึ่งระบบธุรกิจมันคนละอย่างเลยกับแอร์เอเชีย FD ไม่ได้เป็นตัวแทนจำหน่ายของ AK ค่ะ จึงเอามาเปรียบเทียบไม่ได้ สิทธิ์ที่ได้รับอนุญาตไม่เหมือนกัน นิคไทยได้รับอนุญาตให้เป็นตัวแทนขายและตัวแทนซ่อมโดยมัสัญญากับนิคญึ่ปุ่น แต่ FD, AK และ Airaisa X เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจสายการบินในแบรนด์เดียวกัน ไม่ใช่ตัวแทนจำหน่ายซึ่งกันและกัน AK มีระบบ operation ที่มีทั้งคอลเซนเตอร์ และระบบจองออนไลน์  FD แค่ไปจ้าง AK ทำตรงนี้ให้เหมือนที่นกแอร์เคยจ้างบริษัทหนึ่งในไทยทำคอลเซนเตอร์ให้ เพราะฉะนั้น มันเป็นธุรกิจที่มีโครงสร้างและการดำเนินธุรกิจที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงจนเอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้ค่ะ หวังว่าคุณคงจะเข้าใจด้วยเช่นกัน จากคุณ : Alone with out lonely เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 53 10:17:16

ความคิดเห็นที่ 82   ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ  ขอให้ได้เงินคืนนะคะ จากคุณ : foodsc เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 17:02:31