ความคิดเห็นที่ 1 การทำธุรกิจ ทัวร์ ถามว่าง่ายมั๊ย... คำตอบคือ ไม่ง่ายครับ ถ้าถากลับกันว่า ยากมั๊ย... คำตอบก็คือ ไม่ยากครับ ::แรงบันดาลใจ:: มันมีหลายเหตุผล สำหรับคนที่กระโจนเข้ามาสู่ ธุรกิจนำเที่ยว ทั้งนี้ทั้งนั้น อยู่ที่แรงบันดาลใจ ของแต่ละคน... ซึ่งเจ้าของบริษัททัวร์ แต่ละคน ได้เดินทาง สั่งสม ความรู้ ประสบการณ์ กว่าจะมาเป็น เจ้าของ ธุระกิจนำเที่ยว... ทุกคน เดินทางมาไม่เหมือนกัน ทุกๆครั้งที่ผมรับสมัครพนักงานใหม่ คำถามที่ผมสัมภาษณ์ คือ "อะไรคือแรงบันดาลใจให้คุณเข้าสู่วงการณ์ทัวร์" หลายคนตอบแทบจะเหมือนกันหมด คือ.... - ชอบท่องเที่ยว หวังว่า ถ้าเข้ามาทำบริษัททัวร์จะได้มีโอกาสท่องเที่ยว - ชอบพบปะผู้คน หลายชาติ หลายภาษา คำตอบดังกล่าว ก็ไม่ผิด.... แต่ ถ้าคิดอยากจะทำธุระกิจ บริษัททัวร์ .... คำตอบที่แท้จริง คือ "เพราะฉันชอบงานบริการ.... อยาก บริการคนอื่นๆ ให้มีความสุข" ฉันมีความสุข ทุกครั้ง ที่เห็นลูกค้าพอใจในงานบริการ ของฉัน.... ถ้าคุณคิดได้อย่างนี้.... ไม่ว่า กำไรน้อยหรือมาก หรือแม้แต่บางครั้ง คุณขาดทุน ... ฉันก้มีความสุข... ถ้าคิดได้อย่างนี้... คุณไปรอดแน่ จากคุณ : เวียงพิงค์ เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 53 23:48:43

ความคิดเห็นที่ 2 การทำธุรกิจทัวร์ ที่ว่าง่ายก็คือ.... เป็นบริษัทที่เปิดง่าย... ไม่ต้องลงทุนสูง ไม่ต้องซื้อสินค้ามาสต๊อก.... สินค้าไม่บูดไม่เน่า รับเงินมาก่อน ค่อยบริการ ... เงินไม่มา เราก็ไม่จัดทัวร์ให้ ที่ว่ายาก ก็คือ.... ทำอย่างไรให้ลูกค้าพอใจ ทำอย่างไรให้ผิดพลาดน้อยที่สุด.... ผมเห็นหลายคน มีเงิน แต่ไม่ได้มีประสบการณ์ ในวงการทัวร์ มาก่อน มีเงิน แล้ว ลองเข้ามาสู่ธุรกิจนี้ เป็นครั้งแรก..... ทุ่มลงไป เวลาแค่ 3 เดือน หมด เป็นล้าน... ไปไม่รอด ส่วนใหญ่ ที่ อยู่ในวงการทัวร์ ได้ เพราะประสบการณ์ ล้วนๆ ========================================== ในอดีต.... ใครที่เปิดบริษัททัวร์ได้ จนถึงปัจุบัน เป็นเศรษฐี ไปหมด ปัจจุบัน การทำทัวร์ ยาก ที่จะรวย... ที่อยู่ได้ เพราะกำไร พอเลี้ยงตัวได้ หมุนเงินได้ ... อยู่ ได้ เรื่อยๆ ม่จน... ไม่ขัดสน จากคุณ : เวียงพิงค์ เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 53 23:55:34

ความคิดเห็นที่ 3 การเดินทางของเจ้าของบริษัททัวร์... ตั้งแต่อดีต จนถึง ปัจจุบัน ส่วนใหญ่ คว่ำหวอต อยุ่ในวงการทัวร์ มาแล้วทั้งสิ้น... หลายคน คิดว่า ทำทัวร์ ได้เงินมาง่าย... แต่ก้ไปไม่รอด พราะขาดประสบการณ์ ลักษณะการทำทัวร์ แต่ละคน ไม่เหมือนกันอีก... บางคน ทำธุรกิจ แบบตีหัวเข้าบ้าน กล่าวคือ คิดราคา แพงมหาโหด... แต่บริการไม่สมราคา.. ซึ่งปัจจุบัน เห็นกันอยู่มากมาย.... บางครั้ง รับเงินลูกค้ามาแล้ว กลับเบี้ยว ไปเฉยๆ.... ไม่ทำตามที่ โฆษณา หรือสัญญากับลูกค้าเอาไว้.... ส่วนใหญ่ พวกนี้ จะรวยเร็ว พอได้เงิน เยอะๆ ก้ปิดบริษัท หนี ไปซะเฉยๆ .... แล้วไปเปิดบริษัทใหม่.... พวกนี้ สรางบาปกรรม ... เงินที่ได้ มาเป็นเงินร้อน สุดท้าย ก็หมด กลับมาเริ่ม ศูนย์ อีกที จากคุณ : เวียงพิงค์ เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 00:02:56

ความคิดเห็นที่ 4 โหวตให้ก่อนเลยค่ะ กระทู้มีประโยชน์มาก ๆ ไม่เพียงแต่คนททัสร์เท่านั้น ข้อมูลในกระทู้นี้ สามารถนำไปปรับใช้ได้กับทุกอาชีพจริง ๆ ค่ะ "เลือกทำงานที่เรารัก และมีความสุขกับสิ่งที่ทำ ที่สำคัญต้องไม่เอาเปรียบใคร" ตรงใจมาก ๆ จากคุณ : SweetRainbow เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 00:09:13

ความคิดเห็นที่ 5 ในอดีต ยังไม่มีโลก อินเตอร์เน็ต... ไม่มีโทรศัพท์ มือถือ ซึ่งผม ได้ผ่านเวลานั้นมาเหมือนกัน ยังสงสัยอยู่ว่า ... เขายังทำงานกันได้ อย่างไร การทำตลาดในอดีต คือ คุณต้องบินออกไป ต่างประเทศ เพื่อเสนอ สินค้าบริการ... การลงทุนค่อนข้างสูง .... การติดต่อสื่อสาร (Corespondant) ลงทุนค่อนข้างสูง การติดต่อสื่อสาร มีอยู่สี่ ทาง คือ โทรศัทพ์ แฟ็กซ์ เทเล็ก และ จดหมาย แต่แฟ็กซ์ จะใช้มากที่สุด เพราะ รวดเร็ว ประหยัด ถึงกระนั้น ยังเป็น คอสต์ ที่สูงอยู่ดี สิ้นเดือน จ่ายค่าโทรศัพท์ และแฟ็กซ์ สองสามหมื่น เป็นอย่างต่ำ การ บวกกำไร สมัยก่อน อย่างน้อย 35-40 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นราคา ค่อนข้างสูง... แต่ลูกค้า ไม่มีทางเลือก จำเป็นจะต้องจ่ายในราคาสูง ... และลูกค้าจะต้อง ติดต่อกับ เอเย่นต์ ประเทศนั้นๆ เท่านั้น จากคุณ : เวียงพิงค์ เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 00:12:00

ความคิดเห็นที่ 6 ปัจจุบัน... การทำธุรกิจ ท่องเที่ยว แตกต่างจากอดีต โดยสิ้นเชิง ซึ่งการเปลี่ยนแปลง จากหน้ามือเป็นหลังมือ เนื่องจาก โลกอินเตอร์เน็ต เข้ามาสู่ ชีวิตประจำวันของเรา.... ลูกค้า ไม่ได้ ติดต่อโลคอล เอเย่นต์ เหมือนในอดีต แต่ลูกค้า สามารถ ติดต่อ บริษัททัวรื ในประเทศที่ต้องการไป เที่ยว นั้นๆ ด้ โดยตรง.... จากการ ที่เคยจ่ายค่าโทรศัพท์ เรือนหมื่น ในแต่ละเดือน มาจ่ายค่าอินเตอร์เน็ต เดือนละพันกว่าบาท ดูเหมือน มันจะสะดวกสะบาย... ลูกค้าได้ ประโยทย์ แต่ ณ ปัจุบัน อินเตอร์เน็ต กลับกลาย เป้นปัญหามากที่สุด ในวงการทัวร์ เพราะมีการ ตัดราคากัน สะบั้นหั่นแหลก.. แทบจะไม่มีกำไร การบวกกำไรปัจุบัน แค่ 10 เปอร์เซนต์ ถือว่า หรูแล้ว จากคุณ : เวียงพิงค์ เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 00:19:45

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณครับ SweetRainbow โรงแรมสมัยก่อน ง้อบริษัททัวร์ มากๆ จะออกราคา Contract Rates ให้กับบริษัททัวร์ ท้องถิ่น เท่านั้น แถมยังให้เครดิต อีกด้วย.... บริษัททัวร์ต่างประเทศ จะจองโรงแรม ต้องผ่าน โลคอล เอเย่นต์ เท่านั้น เอเย่นต์ต่างประเทศ จะจองโรงแรม ตรงก็ได้ แต่ ได้ ราคาสูงกว่า ลูกค้า จะจองตรงก้ได้ แต่ ราคา เต็ม ความแตกต่าง ในโลกอินเตอร์เน็ต ปัจุบันก็คือ บางโรงแรม ให้เรท ราค เอเย่นต์ต่างประเทศ ถูกกว่า เอเย่นต์ ในประเทศของตน บางโรงแรม ให้ลูกค้าจองตรง ถึงโรงแรม ถูกกว่า เอเย่นต์ อีก ปัญหา หนักหนาสาหัส ณ ตอนนี้ คือ เว็บไซต์ ที่ขางห้องโรง แรม โดยตรง สร้างปัญหาให้เอเย่นต์ และ ตัวโรงแรม เองเป็นอย่างมาก เพราะ ไป ตัดราคา เอเย่นต์ และ ไปดั๊มพ์ ราคา ของโรงแรมเอง จากคุณ : เวียงพิงค์ เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 00:27:14

ความคิดเห็นที่ 8 อืมมม จากคุณ : ->บังเอิญไหมที่เราได้พบกัน<- เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 00:40:35

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้าจะเขียน กันจริงๆ จากประสบการณ์ ที่คว่ำหวอต ในวงการทัวร์ มากว่า 15 ปี ผมสามารถ เขียนหนังสือ เรื่องนี้ ได้ เป็นเล่มๆ สมัยก่อน ไม่มีโรงเรียน สอนเรื่องการ ท่องเที่ยว ครับ คนที่ทำทัวร์ ได้ มาจาก ประสบการณ์ ล้วนๆ สิ่งสำคัญ ที่สุด ในการทำธุรกิจ ทัวร์ คือ - ใจรักงานด้านบริการ - มีความสุขกับงาน เห้นลุกค้า Happy ก้ดีใจ มีความสุขด้วย - มีความสุขกับงานที่ทำ แม้จะไม่รวยก้ตาม - ซื่อสัตย์ ยึดมั่น ในสัญญา การขายทัวร์ ลูกค้า ไม่ได้เห็นสินค้า การสร้างความเชื่อมั่นต่อลูก ค้า เป้นสิ่งสำคัญ อย่าเอาเปรียบลูกค้า แม้แต่ นิดๆ หน่อยๆ ยืดหยุ่น อันไหน ที่พอจะให้ลุกค้า ต้องให้ บางครั้ง เรายอมเสีย เรื่องเล็ก น้อยๆ แต่ลุกค้า ไปบอกต่อปากต่อปาก ผลตอบแทนกลับมามันมากมายมหาศาล ไม่ใช่เฉพาะทัวร์... ทุกธุรกิจ ถ้าเรา ยึดมั่น ในคุณธรรม ซื่อสัตย์ ไม่เอาเปรียบคนอื่น ธุรกิจนั้น ย่อมเจริญ ยอมขาดทุน เพื่อรักษาชื่อ เสียง ยังใช้ได้ดี จริงๆ อยากเขียน ให้ครบ ทุกแง่ทุกมุม แต่ มัน เยอะ หลายแง่หลายมุม เหลือเกิน... เชื่อเหอะ เขียนกัน สามวันสามคืนไม่จบแน่ มันจุดประกาย ให้ผมเขียนหนัง สือ เรื่องนี้ จริงๆ จะเอาให้ละเอียด ทุกแง่ทุกมุม เลย... ดุเหมือนมันค้างคา ก้ ขออภัย ด้วยครับ จากคุณ : เวียงพิงค์ เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 00:47:28

ความคิดเห็นที่ 10 เข้ามาอ่านด้วยความสนใจค่ะ ถึงจะชอบเที่ยวมากแค่ไหน แต่ไม่เคยคิดอยากทำบริษัททัวร์เลย เพราะไม่ชอบบริการใครนี่แหละ แหะๆๆๆๆ ขออนุญาตแนะนำ ... ถ้าคิดอยากเขียนประสบการณ์เป็นหนังสือ ก็เริ่มเขียนเลยค่ะ เขียนไล่ๆ ไปในกระทู้ก็ได้ วันละบทสองบท ยิ่งมีคนมาตามอ่าน จะยิ่งมีกำลังใจอยากเขียนค่ะ พอรวบรวมได้เยอะๆ แล้วค่อยเอามาขัดเกลา ถ้ามัวแต่คิด "อยาก" มันจะไม่มีวันเป็นเล่มน่ะค่ะ เอาใจช่วยนะคะ ^^ จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 01:02:12

ความคิดเห็นที่ 11 เห็นด้วยกับคุณ น้ำแข็งใส (Clear Ice) ขอบคุณคี่สะกิด ครับ.... หลายๆ คน คิดจะทำอะไร มัวแต่คิดว่า เดี๋ยว ค่อยเริ่ม ไม่มีเวลา มัวแต่ตั้งเงื่อนไขให้ตัวเอง ฉันอยากทำ.... แต่... ติดปัญหา.... จนแล้วจนรอด ก้ ยังไม่เริ่มทำอะไร ผมพยายาม เล่นกล้อง และอยากถ่ายภาพ ให้สวยๆ เหมือนโปร จนแล้วจนรอด .... ไม่ได้ศึกษาเพิ่มเติม... ไม่ได้ออกไปฝึกปรือฝีมือ.... ตำราซื้อมาก็ไม่ได้อ่าน.... สุดท้าย ก้ไม่ได้พัฒนาฝีมือ... เพราะติดคำว่า... ไม่มีเวลา หวังว่า หลายคนอ่าน คห ของคุณ Clear Ice คงจะได้ แง่คิดนะครับ.... คิดอยากจะทำอะไร คุณต้องเริ่มครับ ถ้าไม่ก้าวเหยียบบันไดขั้นแรก ... คุณจะไม่มีโอกาส เหยียบขั้นบันได้ ขั้นที่ 2 - 3 ได้เลย... เมื่อเวลาผ่านไป กลับมาคิดย้อนหลัง... เราจะเสียใจ ที่เราไม่ได้ลงมือทำ... จากคุณ : เวียงพิงค์ เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 01:19:35

ความคิดเห็นที่ 12 เคยคิดเล่นๆ ว่าอยากจะทำ แต่เอาเข้าจริงๆ มันคงมีอะไรที่มากกว่าความชอบและความสนุก ...แอบอิจฉาคนที่ทำงานในสิ่งที่ตัวเองรักจริงๆ จากคุณ : สบายๆสไตล์เอนจิเนียร์ (gazeclub) เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 02:33:02

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณค่ะที่เอามาแบ่งปัน ได้แง่คิด มากกว่า  สำหรับคนจะทำทัวร์อีกนะคะ เชียร์ให้ เขียนหนังสือเลยค่ะ จากคุณ : my_tabo เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 05:44:56

ความคิดเห็นที่ 14   กำลังทำอยู่ค่ะ ครั้งแรกที่ทำคิดว่าเราจะสามารถทำได้ไหม จะบริการลูกค้าดีไหม เค้าจะพอใจในทริปเราหรือเปล่า ผลสรุป ในการทำครั้งแรก ลูกค้าพอใจในบริการ แต่.....เราขาดทุน เพราะอะไร..เพราะเราลืมศึกษาเส้นทาง ปั๊มน้ำมัน แก็ส ครั้งแรกจึงเป็นบทเรียน จะพยายาม ทำครั้งที่ 2 ให้ดี ลูกค้าพอใจเหมือนเดิม เพื่อที่ลูกค้าจะได้บอกต่อ จะได้มีครั้งที่ 3 ต่อไป จากคุณ : lek (gird-lek) เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 07:00:12

ความคิดเห็นที่ 15   ขอขอบคุณ สำหรับแง่คิดดีๆ แล้วทุกวันนี้เราก็ได้ทำงานที่มีแต่ความสุข สนุก อยู่ทุกวัน (เรารักชีวิตท่องเที่ยว จริงๆเลย) จากคุณ : สานความสุข เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 08:33:07 A:118.172.92.9 X: TicketID:254891

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณครับที่เอาข้อคิดดีๆ มาฝาก ผมชอบ  รับบริการ  มากกว่า  ให้บริการ  ครับ ดังนั้นจึงชอบ  เป็นลูกทัวร์  มากกว่า แต่ก็ยังหา ผู้ให้บริการ  ดีๆ ไม่เจอ เลยต้อง  ลุยเอง  555 จากคุณ : ชาวทัวร์ เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 10:15:12

ความคิดเห็นที่ 17 ส่วนตัวเป็นคนชอบเดินทางครับ แค่เริ่มเดินทางออกจากบ้านไปสนามบิน ความสุขก็เริ่มต้นแล้ว ในใจยังอยากทำธุรกิจด้วยซ้ำ เพราะหากทำแล้วคงมีความสุขในงานที่เราชอบ ผมว่าที่คุณเวียงพิงค์ บอกเล่ามา มีอะไรดีๆอยู่เยอะเลย ไม่ง่ายและไม่ยาก แต่สำหรับคนที่ไม่มีประสบการณ์คงไม่ง่ายมากกว่า อยากเห็นบริษัททัวร์คุณภาพในเมืองไทยเยอะๆครับ จากคุณ : inint&anant เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 10:16:38

ความคิดเห็นที่ 18 น่าสนใจแฮะ ด้วยความที่เราชอบเป็นคนริเริ่มเที่ยวก่อนใครในกลุ่ม และก็จัดการทุกอย่างเองหมดเลย เพื่อน ๆ เลยประชดว่า แกไปเปิดบริษัททัวร์ซิ แล้วเพื่อนก็บอกต่อว่า แต่ชั้นว่าแกเจ๊งตั้งแต่ไม่เริ่มแน่ ๆ เลย เพราะนิสัยเราคือเราไม่ชอบบริการใคร ไม่ชอบเอาใจใครในโลกนี้ แต่ ถ้าคนไหนที่เราพอใจ เราถึงจะบริการ แต่ก็ไม่ได้มากมาย อิอิ เราเป็นคนเลือกปฏิบัติ สรุปว่า คงทำบริษัททัวร์ไม่ได้แน่ ๆ อีกอย่างหนึ่ง ตอนแรกเคยคิดว่าอาชีพทัวร์ดีจังเลย ได้ไปเที่ยวไหนต่อไหนเยอะแยะ ไม่ต้องเสียเงิน แต่ได้เงิน พอเราได้ไปเห็นอาชีพเค้าจริง ๆ ไม่ได้สบาย สนุก อย่างที่เราคิด จะทานข้าวก็ต้องทานทีหลัง แล้วก็รายละเอียดปลีกย่อยอีกเยอะแยะ เพื่อนเราเป็นไกด์ ไปมาร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ แต่พอช่วงโลว์ เค้าก็ไปเที่ยวกับเรา และก็เที่ยวแบบนักท่องเที่ยว เค้าบอกว่าเค้ามีความสุข เพราะตอนเค้าทำงาน เค้าไม่มีโอกาสได้เที่ยวแบบนี้เลย ยังไงก็ตาม... ขอบคุณ คุณ จขกท ที่มาเขียนให้อ่านนะคะ.... เห็นด้วยมาก ๆ ค่ะ V V V ไม่ใช่เฉพาะทัวร์... ทุกธุรกิจ ถ้าเรา ยึดมั่น ในคุณธรรม ซื่อสัตย์ ไม่เอาเปรียบคนอื่น ธุรกิจนั้น ย่อมเจริญ แก้ไขเมื่อ 01 มี.ค. 53 10:17:52 จากคุณ : เต่าตัวลาย เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 10:16:56

ความคิดเห็นที่ 19 เห็นด้วยคับ  เป็นแง่คิดที่ดี สำหรับ ทุกคนคับ ในการทำงาน ขอบคุณมากคับ  เพราะผมกำลังคิดที่จะเปิดบรฺษัท ทัวร์ อยู่พอดีคับ แต่คงอีกนานคับ ประสบการณ์ ผม ยังมีน้อยอยู่คับ ตอนนี้ผม อายุ 22 คับ ตอนแรกว่าจะเปิด บ.ตอน อายุ 26 แต่พอมาอ่าน กระทู้แล้ว คิดว่า  30กว่าๆน่าจะดีกว่านี้คับ ช่วงนี้ เก็บ สะสม ประสบการณ์ ไปก่อนคับ และอีกอย่าง ตอนนี้ ผมกำลัง เริ่มเที่ยวแบบจิงจังแล้ว หมายถึงว่า ผมจะ เที่ยวให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้ เพื่อคำว่า ประสบการณ์ ขอบคุณมากเลยคับ จากคุณ : notelinx เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 10:30:58

ความคิดเห็นที่ 20 ตอบ คห 18 ครับ... หลายคนคิดว่า ได้ทำงานทัวร์ แล้ว จะได้มีโอกาสได้เที่ยวมากขึ้น ไม่จริงครับ... คนในวงการทัวร์ ส่วนใหญ่ รวมทั้งโรงแรม รถเช่า.... ช่วงที่คนอื่น มีวันหยุดยาว โดยเฉพาะ ช่วงปีใหม่ คนอื่นๆ เขาได้หยุดยาวกัน.... แต่บริษัททัวร์ จะยุ่ง มากที่สุด กยุดกันไม่ได้เลย ยิ่งถ้าทำงานในออฟฟิช ยิ่ง ไม่ได้ไปไหน ต้อง อยู่ตลอด รอจนหมดหน้าเที่ยว แล้วลูกค้าโลวแล้ว ถึงมีโอกาส ได้หายใจ ได้พักผ่อนบ้าง.... ยิ่งไกด์ เวลาทำงาน ส่วนใหญ่ ก้จะไป ที่เดิมๆ พูดเรื่องเดิมๆ ยิ่งไกด์ ภายในประเทศ ปีหนึ่ง เขาไปเทียวที่เดิม ซ้ำๆซากๆ พูดแต่เรื่องเดิม... สิ่งที่เปลี่ยนคือลูกทัวร์ แต่สถาณที่ ก็ที่เดิมๆ ก่อน บริษัทจะ Assign งานให้ไกด์ ก็ต้องรู้ว่า ไกด์ คนนั้นๆ เคยไป สถารที่แห่งนั้นหรือยัง... ถ้ายัง เขาก็เลือกไกด์ที่เคยไป.... โอกาสไกด์ จะได้ ไปที่แปลกๆ จึงยาก... เพราะงาน จะต้องอาศรัย เส้นทางที่ไกด์ เคยไป ... นั่นแหละ เตผลที่ไกด์ เขาก็อยากจะเที่ยว เหมือนลูกทัวร์บ้าง ไปที่ๆ ที่ไม่ต้อง บรรยายบ้าง... จากคุณ : เวียงพิงค์ เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 10:54:41

ความคิดเห็นที่ 21 ตอบ คห 19 เห็นด้วยครับ... คิดจะเปิดบริษัททัวร์ ใจเย็นๆ อย่ารีบร้อน ควรจะ 30 อัพ เพื่อสั่งสมประสปการณ์ ให้มันสุกงอมก่อน ควรทำงาน บริษัทต่างๆ อย่างน้อย 3 บริษัท ก่อนจะเปิดเอง ก่อนผมจะเปิดบริษัททัวร์ ผมเป็น ผจก บริษัทเล็กๆ เรียนรู้ ทุกๆอย่าง จนมองทะลุปรุโปร่ง.... ผมไม่เคยเลือก ผมไม่เคยมีความคิดในหัวที่จะไปทำงานกับบริษัทใหญ่ๆ ทั้งที่เขาเสนอเงินเดือนสูงกว่าบริษัทเล็กๆ... เพราะบริษัทใหญ่ คุณได้เงินเดือนเยอะกว่าก็จริง แต่โอกาสที่จะได้เรียนรู้ ให้ครบทุกแผนก มันยาก... บริษัทใหญ่ คุณทำหน้าที่ไหน ก็ทำหน้าที่นั้นๆ เช่น ทำโปรแกรม ก็โปรแกรมอย่างเดียว หน้าที่จอง ก็จองอย่างเดียว หน้าที่ ตั๋วก็ ตั๋วอย่างเดียว หน้าที่ขายก็ขายอย่างเดียว บริษัทเล็กๆ ได้มีโอกาส ทำทุกอย่าง เขียโปรแกรมเอง คิดราคาเอง จองเอง เก็บเงินเองก็มี พอมาเปิด บริษัทเอง ... ทำให้เรามองทะลุ ทุกๆจุด ทุกๆ ขั้นตอน ไม่ต้องไปเริ่มใหม่ จากคุณ : เวียงพิงค์ เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 11:03:36

ความคิดเห็นที่ 22 ผมฝากถึงคนจะเป็นไกด์นิดนึงครับ ไกด์เหมือนครู ตรงที่ไปที่เดิมซ้ำๆๆๆๆๆ พูดเหมือนเดิมซ้ำๆๆๆๆๆ ทุกปี แรก ๆ อาจจะสนุกที่ได้เจอผู้คนมากมาย แต่พอเริ่มซ้ำๆๆๆๆๆ ความสนุกมันจะเริ่มหายไป นอกจากคนที่ hyper นิดหน่อย น่าจะ ok อิอิ จากคุณ : MlCHAEL เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 11:31:06

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณค่ะ  จะนำไปใช้ค่ะ จากคุณ : ทัวร์ เกาะช้าง (sattratour47) เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 11:31:18

ความคิดเห็นที่ 24 เข้ามาเห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ทุกประการ    ตัวเองเปิดบริษัททัวร์เล็กๆทำกันสองคนกับคุณสามี  ลักษณะก็โลวคอลเอเย่นต์ค่ะ  เริ่มจากศูนย์เลยก็ว่าได้  เรียนจบทำงานด้านสุขภาพแต่ลาออกเพราะต้องย้ายสำมะโนครัวมาสร้างครอบครัว  แรกเริ่มเรียนรู้งานแบบไม่มีพื้นอยู่เลย  งงมากและรู้สึกวุ่นวายด้วย  ทำไปทำมาก็พอรู้งานที่คิดว่ายากก็กลายเป็นง่าย พูดถึงรายได้  ก็พออยู่ได้  ใช้จ่ายสบายแต่ไม่รวยเพราะที่นี่ทำได้แค่ 6 เดือนเท่านั้น  พอหน้าโลว์เงียบมากๆเพราะเป็นหน้ามรสุม  คลื่นลมแรง  ไม่มีนักท่องที่ยวค่ะ เรื่องการตัดราคาของเอเย่นต์ต่างๆที่ขายทางอินเตอร์นั้น  ของเอเย่นต์ในพื้นที่ก็ไม่น้อยหน้าค่ะ  ตัดกันจนที่เคยได้หัวละ 200-300 บาทนั้นตอนนี้ 20-30 บาทก็เอาค่ะ  ตัวเองโชคดีที่ไม่ต้องเช่าที่ก็ทำไปเรื่อยๆได้  หลายๆเอเย่นต์ที่ต้องจ่ายค่าเช่าที่ปีละเป็นแสนๆก็ปิดตัวเองไปหลายเจ้าเหมือนกัน เรื่องทำทัวร์แล้วได้เที่ยวเยอะ  คอนเฟิร์มตามคห.20 เลยค่ะ  หน้าไฮหน้าทัวร์เกือบจะเหมือนๆกันทั่วประเทศ  อยากไปไหนก็ไม่ได้ไปเนื่องด้วยต้องทำมาหากินช่วงนั้น  ทำทัวร์หากินกะนักท่องเที่ยวถ้าไม่ทำหน้าทัวร์แล้วจะไปทำเมื่อไหร่  โดยเฉพาะคริสต์มาส  ปีใหม่นี่ถือเป็นช่วงพีคเลยทีเดียว สิ่งสำคัญที่ทุกคนรู้กันอยู่แล้วก็คือเรื่องบริการ  บอกได้คำเดียว "ประสบการณ์จะสั่งสอน"   ที่ผ่านมาของเรามีทั้งดีและไม่ดี   ...เรื่องดี คือ ลูกค้าเก่าจะกลับมาหาเราและแนะนำเพื่อนมาให้ต่อ  ทุกปีเราก็จะมีทั้งลูกค้าทั้งเก่าและใหม่   แถมบางคนบางครอบครัวมากันทุกปี   ...เรื่องไม่ดี  เคยเจอส่งลูกค้าไปสนามบินกับบริษัทรถแห่งหนึ่ง  ปรากฏว่าเค้าไม่รับลูกค้าเราและมีกรอบเวลาที่บีบเพื่อไปขึ้นเครื่องที่สนามบิน  เราขายตั๋ว 2 คนกำไรคนละ 50 บาท  สุดท้ายต้องเหมารถไปส่ง 2,000 บาทเพื่อไม่ให้ลูกค้าตกเครื่อง  สรุปคือเจ็บตัวค่ะ  บริษัทนี้โดนเราแบนค่ะไม่ส่งลูกค้าให้อีกเลย มีรายละเอียดเยอะค่ะ เล่าไม่หมด  ที่เล่ามาทั้งหมดอ่านแล้วอาจจะงงกันบ้างไม่ว่ากันนะคะ บรรยายไม่เก่งแต่อยากแชร์ประสบการณ์ค่ะ  เชียร์ให้จขกท.เขียนเป็นหนังสือเพื่อให้แง่คิด มุมมองและบอกเล่าประสบการณ์ให้คนอื่นได้รับรู้ค่ะ  เอาใจช่วยนะคะ จากคุณ : chocolatewanyen เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 17:03:58

ความคิดเห็นที่ 25 ขอโหวตให้กับข้อมูลดีๆค่ะ จะนำกลับมาปรับปรุงบริการทัวร์ของตัวเองให้ดียิ่งขึ้นค่ะ จากคุณ : yingja เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 15:27:28

ความคิดเห็นที่ 26 เห็นด้วยค่ะ โดยเฉพาะ "เพราะฉันชอบงานบริการ.... อยาก บริการคนอื่นๆ ให้มีความสุข" ถ้าไม่มีสิ่งนี้ทำทัวร์ลำบากค่ะ แถมอีกอย่างคือต้องอดทนมากๆๆๆๆ ต้องยิ้มทั้งๆที่โกรธ ปล. ไม่ได้ทำทัวร์ แต่สาขางานที่ทำเป็นงานด้านบริการ และเคยเป็นไกด์จำเป็นอยู่บ้าง จากคุณ : ohhioh เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 16:32:27

ความคิดเห็นที่ 27 ผมทำบริษัททัวร์ครับ ไม่ได้เป็นเจ้าของนะครับ อิอิ อยู่ออฟฟิศเป็นลูกจ้างน่ะครับ ทำมาประมาณ 8 ปีแล้วครับ ตอนแรกคิดว่า บริษัททัวร์ มันก็แค่บริษัทที่ขายทัวร์ ขายตั๋ว ขายโรงแรม แต่จริงๆมันมีอะไรมากกว่ีานั้นเยอะเลยนะครับ บริษัททีเึคยทำ และทำตอนนี้เป็นประเภทโฮลว์เซลเลอร์ ซึ่งจะขายทัวร์ ขายห้อง ให้กับลูกค้าที่เป็นบริษัททัวร์ด้วยกันเท่านั้น ซึ่งลูกค้าเหล่านั้นก็จะเอาไปขายต่อให้กับลูกค้าที่มาจริงๆอีกทีนึง ทำทัวร์สนุกนะครับ (สำหรับคนที่เป็นลูกจ้าง) เพราะว่าผมชอบเวลาที่ลูกค้ามีเคสแปลกๆให้เราแก้ปัญหา ภูมิใจด้วยครับเวลาที่เราจัดโปรแกรม เลือกโรงแรม แล้วลูกค้าชอบในการบริการของเรา จากคุณ : อาบะเรนเจอร์ เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 16:41:34

ความคิดเห็นที่ 28 เข้ามาอ่านเป็นความรู้ครับ ^^ จากคุณ : ออร์-ฟิ-อุส_orpheus เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 17:22:15

ความคิดเห็นที่ 29 มาลงชื่อไว้ก่อนครับ เลิกงานกลับบ้าน แล้วจะมาตั้งใจอ่านอีกรอบ จากคุณ : Title_boy เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 17:40:33

ความคิดเห็นที่ 30   เหมือนเราจะรู้จักกันเลยนะคะ คุณเวียงพิงค์ ยังไงถ้าเขียนหนังสือละก้อรออุดหนุนค่ะ ......ขออนุญาตเพิ่มเติมนิดหนึ่งนะคะ..... บริษัทที่ จขกท. ว่าไว้ คือ บริษัททัวร์แบบ oparation เองทุกอย่าง ...ยุ่งยากและต้องอาศัยประสบการณ์มากมายในการทำงานในวงการทัวร์.....เพราะต้อง ติดต่อกับหลายๆที่โดยเฉพาะเรื่องหาลูกค้า...บางคนออกเปิดเองเอารายชื่อลูกค้า ไปเซลเองซะนี่ แถมตัดราคาก็มีค่ะ......ถ้าไม่เก๋าจริงอย่าเลยค่ะ... แต่ถ้าเป็น เอเย่นต์ซี่ อย่างที่ คคหที่ 24 ทำนี่ ง่ายขึ้นเยอะค่ะ มองหาทำเลเช่าออฟฟิต จดทะเบียนกับสำนักทะเบียนฯ ,ขอคอนเทคจาก ทัวร์ Opartion ต่างๆ อย่างดำน้ำ ขี่ช้าง , ขายตั๋วเครื่องบิน ตั๋วรถไฟ รถทัวร์ เรือ ฯลฯ ขอโบชัวร์มาติดที่ออฟฟิต รู้รายละเอียดต่างๆ พูดภาษาได้นิดหน่อย สามารถเริ่มต้นทำได้แล้วค่ะ เพราะส่วนมากลูกค้าคือ walk in เข้ามาซื้อในร้านเอง...อนาคตอาจจะขยายเป็น ทัวร์ โอเป เองก็ได้ค่ะ จากคุณ : น้ำกะฟ้า (น้ำกะฟ้า) เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 17:52:17

ความคิดเห็นที่ 31 ได้ความรู้ดีครับ .... ผมเองผมยอมรับว่าผมไม่มีประสบการณ์ด้านนี้เลยนะ รักษาหมา รักษาแมว อยู่แต่ในคลินิคแคบๆ มา 2 ปีกว่า แต่อาศัยว่าชอบเที่ยว ชอบจัดโปรแกรมทัวร์ให้ชาวบ้านชาวช่อง ชอบสืบเสาะของถูก ก็เลยเริ่มที่จะมาขายอะไรเล็กๆ น้อยๆ บ้าง แต่ผมก็แฮปปี้นะ ที่บางทีมีคนโทรเข้ามาปรึกษาเรื่องเที่ยว แม้เราจะไม่ได้ตังค์ แต่ก็ดีใจ ที่เขาก็นึกถึงเรา เรื่องกำรี้กำไร พอจะเข้าใจครับว่าได้ยากจากธุรกิจแบบนี้ ส่วนหนึ่งการทำธุรกิจ ถ้ามีใจรักเป็นทุนเดิม+ประสบการณ์+การโปรโปต หรือ ปากต่อปาก ก็น่าจะช่วยให้อยู่ได้บ้างนะครับ .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 17:59:38

ความคิดเห็นที่ 32 ผมว่าสมัยนี้จะเปิดบริษัททัวร์ขึ้นมาใหม่มีสิทธิ์เจ๊งสูง เพราะยุคนี้มีทั้ง อินเตอร์เน็ต สายการบินโลว์คอส และพันติ๊บ แค่นี้ก็หาข้อมูลง่ายๆ ไปเที่ยวเองสบายแฮ จากคุณ : เคยรู้อะไรกะเค้ามั่งมั๊ยเนี่ย เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 18:33:25

ความคิดเห็นที่ 33 อ่านแล้วได้ความรู้มากมาย ขอบคุณที่มาเล่าประสบกราณ์น่ะครับ จากคุณ : หมาดำปราณบุรี เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 18:49:18

ความคิดเห็นที่ 34 อ่านแล้วได้ความรู้มากมาย และถูกใจกับหลายๆคห.ค่ะ ^^ จากคุณ : หมียักษ์ อยากเที่ยว เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 19:34:53

ความคิดเห็นที่ 35 สำหรับการเปิดบริษัทฯ ทัวร์ และคนเป็นเจ้าของ ทุกวันนี้ เหนื่อยกับลูกน้องบางคน ไม่ทุกคน (เช่น ไกด์ชอบแคนเซิลงานใกล้ๆ) เช่น พรุ่งนี้ออก วันนี้แคนเซิลเรา และเหนื่อย กับทัวร์บางทัวร์ที่เวลาพรีเซนต์งาน ชอบบอกโปรแกรม ที่มันเป็นไปไม่ได้ที่จะทำ และก็ดันทุรังจะทำ เพื่อที่จะเอาลูกค้าเพียงแค่ครั้งเดียว แล้วลูกค้าก็เชื่อซะงั้น เราพูดจริงกับไม่เชื่อ ไม่ได้เสียดายแต่เสียอารมณ์   แต่ก็มีความสุขกับการทำทัวร์ เพราะเป็นเจ้าของที่ไปทุกทริปที่สามารถไปได้ บางทีหลายทริปอยากจะแยกร่างไปให้ครบ สนุกกับการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกนาที กลับจากทริปลูกค้าจะนึกถึงเรา ถ้าเขาประทับใจ  ครั้งต่อไปก็ใช้บริการเราต่อไป   เปิดบริษัทฯ ทัวร์สิ่งที่ควรมี อันดับต้นๆ คือบารมีเก่า หมายถึง ฐานลูกค้าของเรา และต้องขยัน เซลย์ งานบ่อยๆ โทรหาลูกค้าทุกวัน ถึงเขาจะไม่มีโครงการไปเที่ยว ก็โทร เทศกาล ต่างๆๆๆ ส่งข้อความไป  ทุกวันนี้ เป็นเจ้าของแต่ทำทุกอย่าง  เซลย์งาน ทำราคาโปรแกรม ทำเอกสารด้วยบางงาน (เพราะลูกน้องมักจะไม่รอบคอบ งานเอกสารทัวร์ต้องละเอียด) สิ่งสำคัญสุดท้าย  ดูแลเรื่องบัญชีดีๆ นะจ๊ะ เพราะ ยอดขายทัวร์สูงแต่กำไรต่ำ และ ทัวร์อย่างเรามักจะหาไม่บิลค่อยได้ สรรพากร คิดว่าเรารวยแต่ความจริง กร๊อบ  กรอบ  จ้า.......... แก้ไขเมื่อ 02 มี.ค. 53 20:33:55 จากคุณ : กระแตแม่น้องอิ่ม เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 20:27:59

ความคิดเห็นที่ 36 ผมนะชอบเที่ยวแต่ว่าอยากจะมีรีสอร์ทเล็กๆๆเป็นของตัวองมากๆแต่งบน้อย เฮ้อเมื่อไหร่หนอจะเป็นวันของเราบ้าง จากคุณ : paipaiphuart เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 21:58:14

ความคิดเห็นที่ 37 กลับมาอ่านกระทู้ตัวเองอีกรอบ.... ตกใจ.. เป็นอย่างยิ่ง.. ทำไมกลายเป็นกระทู้แนะนำไปได้ ทั้งที่ตั้งใจจะตอบคำถามน้องนักศึกษาคนหนึ่ง ที่กำลังทำวิจัย เรื่อง "การทำบริษัททัวร"..... แค่นั้นเอง หวังว่าน้อง Focusone คงได้ใช้ ทุกๆ คห ในกระทู้นี้ ไปใช้ประโยชน์ ในการทำรายงานนะครับ ตอบ คห. ที่ 30 ปัจุบัน การทำธุระกิจทัวร์ ไม่ได้อยู่ที่ Location อีกต่อไป แล้วครับ.... สิ่งสำคัญ คือข้อมูลในเว็บไซต์.... ออฟฟิชอยู่ที่ไหนก้ได้ ใน กทม. ขอให้เดินทางโดยสะดวก การหา โลเคชั่นดีๆ เช่น สีลม ข้าวสาร สุขุมวิท ล้วนแล้ว แต่จ่ายค่าเช่า ออฟฟิช แพงมากๆ... ออฟฟิช แถว พัฒน์พงศ์ จ่ายค่าเช่าเดือนละ แสนสองหมื่นบาท ยังไม่รวมค่าน้ำค่าไฟ... ออฟฟิชผมเล็กๆ จ่ายค่าพนักงาน ค่าเช่า ค่าน้ำค่าไฟ เดือนละ ห้าหมื่นกว่าบาท.... คอร์ส ค่าใช้จ่ายผมถูก เพราะผมเน้น ขายทัวร์ ทางอินเตอร์เน็ต เป็นหลัก... ราคาทัวร์ ผมจึงไม่ต้องบวกกำไรมาก.... เวลามีปัญหา การเมือง หรืออะไร ที่กระทบกับการท่องเที่ยว... ผมก็ ประคองตัวได้.. ในขณะบริษัทใหญ่ๆ ขาดทุน ต้อง lay off พนักงาน... แต่ของผมอยู่ได้โดยไม่ต้องให้พนักงานออก... การทำตลาดเปลี่ยนจากอดีตมาก... อินเตอร์เน็ต มีบทบาท สำคัญในปัจจุบัน ขอบคุณทุกท่านที่มาแชร์ ด้วยกันครับ จากคุณ : เวียงพิงค์ เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 22:11:20

ความคิดเห็นที่ 38 ตอบ คห 35 เคยเจอครับ ไกด์ ที่รับจ๊อบงานกับเรา แล้ว ใกล้ๆวันกัน Cancel งานเราซะนี่ .... หน้า high จะไปหาไกด์ที่ดีๆ ที่ไหนมาแทนได้ทัน.... ปัญหานี้ เจอกันบ่อยๆ... ไกด์ รับจ๊อบ เราแล้ว พอได้รับงาน กรุ๊ปใหญ่ กลับยกเลิกงาน เฉยเลย... ไกด์พวกนี้ ถือว่าไม่มีจรรยาบรรณ ปัญหาอย่างนี้ ไกด์ ภาษาอังกฤษ ไม่ค่อยมี พวกไกด์ที่ก่อปัญหาส่วนใหญ่ จะเป็นไกด์ ที่ ภาษาหายาก เช่น สเปน อิตาลี่ รัสเซีย... โดยเฉพาะไกด์ สเปน ส่วนฝรั่งเศส ไม่ค่อยมีปัญหา จากคุณ : เวียงพิงค์ เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 22:19:11

ความคิดเห็นที่ 39 เข้ามาเก็บความรู้ค่ะ จากคุณ : kkhunying เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 22:43:50

ความคิดเห็นที่ 40 เราไม่อยากเปิด บริษัททัวร์ แต่อยากเปิดรีสอร์ท จากคุณ : alek149 เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 23:01:05

ความคิดเห็นที่ 41 ได้ความรู้เยอะเลยคะ ขอบคุณมากๆเลย จากคุณ : SuPerHyPerOverUltraGLUE เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 00:13:18

ความคิดเห็นที่ 42 เห็นด้วยกับคุณเจ้าของกระทู้ทุกประการอีกเสียงค่ะ ปัจจุบันได้เริ่มต้นก้าวเข้ามาเพื่อทำงานตรงนี้เป็นของตัวเอง จากที่แต่ก่อนเป็นลูกจ้างบริษัทเล็กๆแต่สอนให้เราได้เรียนรู้และเก็บเกี่ยวประสบการ์ณมากขึ้น ในทุกๆด้านแต่การเรียนรู้ก็ยังต้องทำต่อไปเรื่อยๆค่ะ (บางครั้งพลาดไปบ้างจ่ายเงินเพื่อรับผิดชอบเกือบแสนก็ทำมาแล้วค่ะในตอนฐานะที่ยังเป็นลูกจ้าง) หลายๆคนคิดว่าทำแล้วดี ได้เที่ยว (แต่เปล่าเลยค่ะ) ความสุขใจที่ทำคือ การทำให้คนอื่นมีความสุขกับการได้เที่ยว หรือเดินทางอย่างสนุกและปลอดภัยมากกว่า (ตอนนี้ลูกค้าบางคนได้กลายมาเป็นเพื่อน พี่และน้องแล้วก็มีค่ะ) ทุกวันนี้มีความสุขอยู่ที่การได้ทำงานที่ตนเองรักและถนัด ถึงแม้กำไรจะไม่มากหรือจะปวดหัวกับเรื่องจุกจิกในหลายๆอย่างที่ต้องทำ แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่เลือกและทำมันอย่างมีความสุขและก็ยังไม่คิดถอดใจค่ะ ปล สุดท้ายนี้มาให้กำลังใจกับเพื่อนๆพี่ๆน้องๆที่อยู่ในวงการนี้เช่นกันนะคะ จากคุณ : ซาอิจัง (ซาอิจัง) เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 01:21:10

ความคิดเห็นที่ 43 โหวตกระทู้ดีดี อยากทำทัวร์เหมือนกันแต่ก็ติดกับคำว่าไม่มีเวลา ลงทุนออกรถบัสมาเผื่อรับงานวิ่งแล้วเราก็จะได้ติดรถไปเที่ยวทั่วไทยด้วย555ในอนาคตตั้งใจจะเปืดบริษัททัวร์หรือคอนแทคกับบริษัททัวร์แต่เจอสารพัดปัญหา... สุดท้ายตั้งแต่ออกรถบัสมาไม่เคยติดรถบัสตัวเองไปที่ไหนเลย...ตอนนี้เลยประกาศขายทิ้งหมดทุกคันซะเลย เข้าเนื้อขาดทุนไปหลายบาท จากคุณ : เด็กท้ายรถ เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 07:04:00

ความคิดเห็นที่ 44 การเดินทางท่องเที่ยวเป็นสีสันของชีวิตผม  เคยคิดเล่นๆ ประมาณว่า จะไปสมัครทำงานสจ๊วตหรือไกด์ทัวร์ (ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับความรู้ที่เรียนมาเลย) เพราะ ต้องการโอกาสไปเที่ยวเยอะ แต่สุดท้าย ข้อเท็จจริงจากการได้พูดคุยกับพี่สจ๊วตคนหนึ่ง และการเห็นชีวิตทำงานของไกด์ด้วยตาของตนเอง  จึงล้มเลิกความคิดนี้ไปโดยปริยาย ไม่เคยคิดทำบริษัททัวร์เลย เพราะ ไม่ชอบรับผิดชอบมากมาย  แต่เคยเสนอไอเดียกับคนรอบข้างว่า อยากทำร้านกาแฟ-เบเกอรี่ที่มี (จุดขาย) บริการเสริมเรื่องให้คำแนะนำเรื่องท่องเที่ยวต่างประเทศสำหรับคนที่คิดวางแผนเดินทางด้วยตนเองโดยไม่คิดเงิน เพราะอยากให้หนังสือ Lonely Planet & DK ในตู้หนังสือ + ประสบการณ์ท่องเที่ยวต่างประเทศของตนเอง + ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ รถเรือ โรงแรมในเวปไซต์ต่างๆ ที่มีอยู่ ได้เกิดประโยชน์กับคนอื่นบ้างไม่มากก็น้อย  แต่ไอเดียนี้ต้องตกไป เพราะ ไม่มีใครเชื่อว่า มีกลุ่มลูกค้าตรงนี้มากมาย เคยคิดเรื่องทำ Personal Guide แบบว่า สำหรับทัวร์เฉพาะกลุ่ม ที่มีสไตล์การท่องเที่ยว แต่คิดไปคิดมา เรื่องไวน์เราก็ไม่รู้  เรื่องประวัติศาสตร์ก็งูๆ ปลาๆ  เรื่องเทคแคร์ชาวบ้านก็ไม่รู้ว่าจะทำได้หรือเปล่า  แนวคิดนี้จึงพับไปอีก.... ตอนนี้  สิ่งเดียวที่สามารถชดเชยความอยากข้างต้น คือ การตอบกระทู้ต่างๆ ในห้อง BP อ่ะ จากคุณ : ซานโตโลน่า เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 09:28:24

ความคิดเห็นที่ 45   ได้ความรู้มากเลยครับ  ขอบคุณสำหรับแง่คิดดีๆในการทำธุรกิจครับ จากคุณ : BANBONDOI เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 11:23:04

ความคิดเห็นที่ 46 สมัยเด็กๆเคยฝันอยากเป็นไกด์ อยากทำทัวร์ แต่ไปไงมาไง ชีวิตจับผลัดจับพลูให้เป็นอย่างอื่นไปซะแล้ว ก็เลยได้แต่ตะลอนทัวร์ไปกับครอบครัวเรื่อยๆ มีความสุขไปอีกแบบ (^^) พูดถึงเรื่องเปิดบ.ทัวร์ ก็มีเรื่องจะเล่าให้ฟังค่ะ บ้านเกิดแมงฯเป็นอำเภอไม่เล็กไม่ใหญ่เท่าไหร่ ก็มีแม่ค้าคนนึงในตลาดแกก็ขายของงกๆไปวันๆ ชาวบ้านเรียกแกว่ายายหยัด เพราะแกชื่อประหยัด ขายของในตลาดมานมนาน แกมีสามีเป็นคนขับรถบัส ทั้งคู่ชอบเที่ยวมากกก พอเริ่มมีเงินบ้าง มีเวลาหน่อย ยายหยัดกับสามีก็จะตะลอน(ขับรถบัสของตัวเอง) ไปเที่ยวโน่นเที่ยวนี่กันอยู่เรื่อย มีเรื่องมาเล่าให้คนในตลาดฟังบ่อยๆ จนใครๆก็ชักอยากติดรถไปเที่ยวด้วย ยายหยัดแกก็ไม่ขัด จ่ายตังมาแล้วแก(กับสามี)จะพาไป .. นับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา แกก็เลยเริ่มทำทัวร์แบบจริงจังขึ้นมาหน่อย ตั้งชื่อให้ตัวเองเสร็จสรรพ "ประหยัดทัวร์" แกจะแปะป้ายโปรแกรมท่องเที่ยวที่เขียนด้วยมือแกเอง ตรงที่ที่แกขายของ ช่วงไหนมีข่าวหน้าสนใจ ก็จัดไปที่นั่น เช่น ช่วงงานพืชสวนโลก แกก็จัดโปรแกรมไปเชียงใหม่ (ค่ารถ+ค่าโรงแรม) จัดมาเลย 3 วัน 2 คืน 4 วัน 3 คืน แล้วแต่อารมณ์คนจัด เรื่องราคาก็ถือว่าถูกมาก ราคามีตั้งแต่ 1,800 ถึง 3,000กว่าบาท/คน แล้วแต่ระยะทาง เพราะยายแกจัดแบบเอามันส์ พอไม่ขาดทุนแค่นั้น เพราะถือว่ายังไงตัวเองก็ต้องไปเที่ยวอยู่แล้ว ไปหลายคนสนุกดี ญาติแมงฯหลายคนก็เคยไปใช้บริการ เค้าบอกว่าถูกดี ไปหลายคนสนุก โรงแรมก็ดีมีห้องแอร์น้ำอุ่น รถนั่งสบาย สำหรับคนไม่มีรถส่วนตัวถือว่าดีมากๆแล้ว (เพราะถ้าไม่มีรถส่วนตัว จะไปเที่ยวไหนก็ลำบากหน่อย) ทุกวันนี้ชาวบ้านจะนั่งรอว่า คราวหน้าแกจะจัดไปเที่ยวไหนอีก น่าสนใจก็ไปจองที่นั่ง ลูกค้าส่วนมากก็เป็นพวกแม่ค้าในตลาด และกลุ่มคนสูงอายุที่อยู่ว่างๆ ไม่อยากรอลูกหลานพาไปเที่ยว จากที่เคยมีป้ายเล็กๆแค่ป้ายเดียว เดี๋ยวนี้เห็นมีป้ายโปรแกรมท่องเที่ยวอยู่ 4-5 ป้ายแล้ว (แต่แกยังเขียนเองอยู่) แล้วยังมีทำเป็นแผ่นพับเล็กๆแจกอีกด้วย พอมาได้อ่านกระทู้นี้แล้ว นึกถึงยายหยัดแล้ว.. แมงฯก็เกิดความรู้สึกว่า เวลาเรานึกถึงบริษัททัวร์หรือนำเที่ยว เราก็นึกถึงแต่บ.ใหญ่ๆเนอะ ซึ่งมันต้องลงทุนสูง ความเสี่ยงก็สูง.. แต่พอเราหันไปมองยายหยัด.. แกก็ทำของแกได้เอง ไม่ต้องลงทุนอะไรมากเลย ถึงแม้จะไม่ใช่บ.ใหญ่โตอะไร หรือจริงจังอะไรมาก แกก็ทำของแกไปได้เรื่อยๆ ขนาดแกไม่เคยได้เรียนสูงๆ ความรู้ไม่ได้มากมายอะไร เพียงเพราะความรู้สึกอยากเที่ยว และอยากแบ่งปันให้คนอื่น ธุรกิจเล็กๆของแกก็ไปได้สวยเหมือนกัน สิ่งดีๆจากประหยัดทัวร์ (ราคาถูกสมชื่อ) คือ ทำให้ชนชั้นล่าง-กลาง (จริงๆก็มีคนรวยไปด้วยเหมือนกัน) ในอำเภอเล็กๆได้มีโอกาสออกไปชมโลก ไปท่องเที่ยว ไปเห็นสิ่งที่ไม่เคยเห็น ไปที่ๆอยากไป โดยไม่ต้องรอลูกหลานหรือรอมีรถส่วนตัว ทุกคนได้ไปเที่ยวในราคาไม่แพงนัก.. เปิดบ.ทัวร์เล็กๆก่อน มันก็ไม่เลวนักหรอก.. เนอะ (^^) จากคุณ : แมงป่องหางด้วน เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 11:26:16

ความคิดเห็นที่ 47 ขอบคุณสำหรับความรู้ดีดีค่ะ จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 11:30:59

ความคิดเห็นที่ 48 ขอแจม ด้วยคน     ผมคนหนึ่ง ที่ทำอาชีพทัวร์ มา 6 ปี ตอนนี้ เปิดออฟฟิตเป็นของตัวเองกับเพื่อน ขายทัวร์ส่งให้เขาอีกที(ส่งจอย) บางโปรแกรมก็ทำเอง  การสั่งสมประสบการณ์       เริ่มแรก ๆ เลยนะครับ ก็เป็นไกด์ใหม่ อาศัย ไปทัวร์กับเพื่อน ที่เป็นไกด์อยู่ก่อน ก่อน(เพื่อนเป็นไกด์ ทำทัวร์จอยของบริษัทที่รับลูกค้ามาจาก เอเย่นต่าง ๆ อีกทีหนึ่ง) ไปตามโปรแกรมต่าง ๆ ที่ ทุกบริษัททัวร์เขาทำกัน       เพื่อน ก็ช่วยเหลือดี เพราะเพื่อนจะรับงานตอนดึก ๆ จากบริษัท ว่าพรุ่งนี้ไปที่ไหน(ชื่อโปรแกรม) ลูกค้ากี่คน รับที่ไหน  จากนั้น ก็จะรู้จำนวนลูกค้า   ทีนี้ถ้าที่นั่งเหลือ ก็จะแอบโทรหาผม เพื่อให้ไปด้วย      เพื่อ จะได้รู้ว่า โปรแกรมนี้เขา ไปที่ไหน จอดที่ไหน แวะที่ไหน ต้องบรรยายตอนไหน ทานอาหารเที่ยงที่ไหน ยังไง  คือ ให้ไปเห็นด้วยตาของตัวเอง  สัมผัสเอง  อันนี้สำคัญมาก เพราะต่อไป เราต้องลุยเอง    จาก การสังสมประสบการ์จริง ตามสถานที่จริง ได้สักระยะหนึ่ง   เราก็ได้เรียนรู้ จากประสบการจริง ว่า แต่ละทริป นั้น มีความแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสถานที่  การให้ข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งก็ต้อง อัฟเดทอยู่ตลอดเวลา    รวมถึง การได้พูดคุยกับคนขับรถ ในทริปต่าง ๆ ในเรื่องของ ค่าใช้จ่ายด้านน้ำมัน ว่า ทริปนี้  มีค่าน้ำมันประมาณเท่าไหร่    คนขับรถจะรู้ครับ เพราะขับทุกวัน ก่อนจบทริป ก็ต้องเติมให้เต็มถัง ก่อนส่งรถเข้าออฟฟิต   ทำไมต้องถามเหรอครับ   เป็นผลพวงถึงอนาคต เวลาเราคำนวนทริปเอง คือหาต้นทุนแต่ละทริปไงครับ ว่า ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ น้ำมัน เท่าไหร่ จ้างรถเท่าไหร่ แต่ละทริป ยากง่าย คิดราคากันแบบไหน   ที่จริงมีเยอะ เหมือนเจ้าของกระทู้ว่าแหละครับ  ถ้าอยากให้ต่อก็จะเข้ามาต่อ ให้นะครับ....ตอนนี้ต้องออกไปรับลูกค้าที่สนามบินละครับ จากคุณ : sai-cm เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 11:34:06

ความคิดเห็นที่ 49 เห็นด้วยกับคุณเต่า ตรงที่ใครว่าเป็นไกด์แล้วได้เที่ยว ^^ หาเวลาหนีไปช้อปเองยากส์สุดๆ 5 5 5+ บางทีก็ต้องนั่งเฝ้าของ ให้ลูกค้าไปเที่ยว หรือต้องเดินกับลูกค้าหากว่าเค้ามาคนเดียว แต่...เราไปทำงาน ไม่ได้ไปเที่ยว เฮ้อออ...^________^ แต่...จริงๆ แล้วก็ชอบ ได้คุยกับคนหลายๆคน ได้ไอเดียดีดีเยอะ เพราะจริงๆ แล้วลูกค้ารู้เยอะกว่าเราอีก ประสบการณ์ที่หาเองไม่ได้ แต่ฟังเค้าเล่าได้ (อิอิ) แค่เค้าพูดขอบคุณ ก็ดีใจตัวลอยแล้วว ปล.กราบสวัสดี คุณกระแตแม่น้องอิ่มด้วยค่ะ โลกกลมจัง  5 5 5 5+ -*-*-*-*-*-*- เพิ่มเติมค่ะ แก้ไขเมื่อ 03 มี.ค. 53 12:03:27 จากคุณ : TahAo เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 11:53:48

ความคิดเห็นที่ 50 เข้ามาอีกรอบ ตอนแรกตอบไปแล้วใน #27 กลายเป็นคนวงการเดียวกันเพียบเลยครับ รู้สึกอบอุ่น อิอิ ชอบกระทู้นี้จังครับ เพราะรู้สึกว่าได้แลกเปลี่ยนความเห็นและประสบการณ์กัน อยากรู้ว่า คนที่ขายทัวร์ที่มีหน้าร้านหรือที่ขายให้ x pax จริงๆน่ะครับ มันสนุกมั้ยอ่ะครับ เพราะของผมจะขายให้ sub agency ที่เป็นบริษัททัวร์ด้วยกัน ก็เลยไม่ได้ติดต่อกับแขกที่ไปโดยตรง พวกลูกค้าที่เป็น agency ก็เรื่องมากใช่ย่อย แต่ก็เข้าใจนะครับ เค้าคงอยากจะให้บริการที่ดี่ี่ที่สุึดกับลุกค้าเค้า งานคร่าวๆของผมก็คือ เป็น Travel Designer ครับ (ชื่อตำแหน่งแอบเก๋ อิอิ) ก็แปลตรงตัวเลยครับ ออกแบบโปรแกรมทัวร์ให้ลูกค้า ผมทำตลาดยุโรปเน้นฝรั่งเศส พอได้ request มาจากลุกค้าที่เป็น agency ที่ยุโรป ว่าอยากไปใหน กี่วัน กี่คืน เราก็ทำโปรแกรม ทำราคาให้เค้า ทำโปรแกรมให้ตอบโจทย์ความต้องการของเค้า พอทำเสร็จก็ส่งให้เค้า เค้าก็เอาไปขายต่อให้ลูกค้าที่มาจริงอีกทีนึง ถ้าลูกค้าจริงตกลงซื้อ ก็เป็นเราอีกน่ะแล่ะที่ต้องจัดการส่งต่อไปให้แผนกอื่นทำการจองห้อง จองไกด์ จองรถ จอง service ต่างๆ มันสนุกตรงที่มีโจทย์แปลกๆมาให้เราทำโปรแกรม เช่นลูกค้าที่มากับ wheelchair เราำก็ต้องหาที่เที่ยวและรร.ที่มันเอื้อกับคนที่ต้องใช้รถเข็น agency บางแห่งส่ง request มาให้เรา เป็นโปรแกรมที่แปลกมาก บางทีเรายังไม่รู้เลยว่าในประเทศไทยมีที่แบบนี้ด้วยเหรอ 555 เก่งกว่าเราอีกแน่ะ อันใหนไม่รู้จัก ก็ต้องหาข้อมูล สนุกตอนติดต่อกับ รร. ด้วยครับ เวลาขอพวก special rate ขอนู่น ขอนี่ 55 สนุกเวลาต่อรองราคากับโรงแรม บางโรงแรมสนิทกันก็ให้ราคาแบบว่าถูกมาก เราก็จะพยายามขายห้องให้เค้าให้ได้เยอะๆ เล่าคร่าวๆน่ะครัีบ แชร์ประสบการณ์กัน ้อ้อ ข้อดีของการทำทัวร์คือ เวลาไปใหนก็จะใช้อภิสิทธิ์สนิทกับเซลล์โรงแรม ทำเรื่องขอห้องฟรี ว่าไป inspection อิอิ   สรุปว่า สนุกครับ แต่ช่วงสองปีที่ผ่านมาก็นะ วิกฤตเศรษฐกิจไทย แต่ที่ผมทำมี incentive ด้วย พวกกรุ๊ปประชุมจะได้กำไรเยอะมาก ก็เลยรอดตัวผ่านพ้นไปได้ แถมเงินเดือนขึ้นอีกด้วย ทำมาเกือบสิบปีละ ก็คงจะยึดมั่นทำสายนี้ต่อไปครับ ไม่ทัวร์ก็โรงแรมนี่แล่ะครับ แต่พูดตรงๆว่าไม่เคยคิดจะเปิดบริษัททัวร์เป็นของตัวเองเลยอ่ะครับ ถ้าผมจะเิลิกทำทัวร์ เลิกทำงานประจำ ผมอยากจะไปเปิดร้านขายก๋วยเีตี๋ยวที่เชียงใหม่ บ้านแม่ บ้านยายน่ะครับ (เป็นความฝันอันสูงสุดของชีวิต 55) จากคุณ : อาบะเรนเจอร์ เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 13:12:46

ความคิดเห็นที่ 51 อยากเปิดทั้งรีสอร์ทและบริษัททัวร์ค่ะ จะได้เป็นกิจการส่วนตัวของครอบครัว ตอนนี้กำลังสนุกสนานกับการลองจัดทริปเล็ก ๆ หาร้านอาหาร หาโรงแรมทั้งในและต่างประเทศ ข้อมูลก็แอบ ๆ ลอกจากห้องบลูบ้าง แต่คิดว่ากว่าความฝันจะเป็นจริงคงอีกนาน ถ้าพิมพ์หนังสือออกมาจะรออุดหนุนนะค่ะ จากคุณ : เพนกวินขี้หนาว เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 13:30:39

ความคิดเห็นที่ 52 คห #50... ดีใจจังที่ได้แชร์ประสบการณ์ กับคนวงการเดียวกัน... ส่วนใหญ่คนทำงานในวงการทัวร์ มักหนีไม่พ้น มีหลายคนที่พยายาม เปลี่ยนไลน์ ไปทำอย่างอื่น ไปไม่รอด ต้อง กลับมาสู่วงการ อีกครั้ง .... เพราะส่วนใหญ่ ทำแล้วรัก เลยไม่ค่อยหนีไปไหน.. จากคุณ : เวียงพิงค์ เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 13:39:49

ความคิดเห็นที่ 53 มาดูคนทำทัวร์เขาคุยกันหนุง ๆ หนิง ๆ ค่ะ จากคุณ : ป้าทุยบ้านทุ่ง เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 14:49:48

ความคิดเห็นที่ 54 เหนื่อย เหนื่อยมากๆเลย อยากจะขายกิจการแล้วเนี่ย จากคุณ : ooh maple เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 15:49:42

ความคิดเห็นที่ 55 คห 54 เหนื่อยเหมือนกันครับ.... ใจเย็นๆ กำลังจะโลว์แล้ว เดี๋ยวได้พัก ครับ จากคุณ : เวียงพิงค์ (เวียงพิงค์) เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 16:05:01

ความคิดเห็นที่ 56 น่าสนใจมากๆค่ะ ดูเค้าคุยกัน เหนื่อยแต่ถ้ารักงานนี้ ท่านผู้บริหารทุกคนก็คงไม่ปล่อยให้หลุดมือไปใช่ไหมคะ....เป็นกำลังใจให้ทุกท่านค่ะ จากคุณ : auau_py เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 16:13:16

ความคิดเห็นที่ 57   คนร่วมวงการมากับเพียบ...อ่านไปอ่านมาเจอที่ จขกท. ตอบคคห.เรา...ขออธิบายความเข้าใจของเราก่อนนะคะว่า 1. บริษัททัวร์ที่เราหมายถึง คือ ประเภท full oparate ลักษณะมันก็คือ งานของ คคหที่ 50 ค่ะ...ชนกับพวก agen เมืองนอกโดยตรง...แล้วเมื่อเอเย่นต์เมืองนอกส่งแขกมา มีฝ่ายจัดการ รับแขก รถ โรงแรม ในกทม. บริษัทพวกนี้่จะ oparate เองอยู่แล้วเพราะมี รถ มี ไกด์ มีพนักงานฝ่ายๆต่างๆ แต่ส่วนของต่างจังหวัดพวกแหล่งท่องเที่ยว ส่วนมากบริษัท จะจ่ายงานให้กับพวก sub ที่ ดิวอยู่ในแต่ละแหล่งท่องเที่ยวดูแลแขกส่วนนี้ไป...นอกจากบริษัทที่ใหญ่จริงๆจะลงมาทำเองค่ะ...อย่างพวก บริษัททัวร์อิส, หรือพวก Desiantion Asia , world travel อะไรพวกนี้ . 2. บริษัททัวร์ ที่ื คุณจขกท. พูดไว้ในกระทู้ เราเข้าใจว่าเป็นลักษณะงานของ sub agency หรือเปล่าค่ะ... คือรับ booking จากบริษัทแม่อีกที แล้วจัดการหารถ ไกด์ รับเข้า  เยี่ยมแขก ขายทัวร์ในกรณีไม่ include ,ทำทัวร์ตามโปรแกรม ,ส่งออก... ลักษณะบริษัทอย่างนี้ต้องมี connection ที่ดีเลิศค่ะ เพราะฉนั้นเหมาะอย่างยิ่งสำคัญคนที่เป็นไกด์มาก่อนแล้วมาเปิดเอง...เพราะการที่จะเป็น sub ได้ แน่นอนว่าต้องได้รับความไว้วางใจจากบริษัทที่จ่ายงานให้อีกที...เพราะว่าถ้าแขก complain การทำงานของ sub แน่นอนบริษัทใหญ่โดนก่อน..บริษัทพวกนี้คงจะไม่ยอมเสี่ยงให้ลูกค้าหลุดไปเพราะ sub แน่ๆค่ะ...ลักษณะอย่างนี้location ไม่สำคัญค่ะ เป็นhome office ก็ได้ มีอินเตอร์เน็ท ,ออนเอ็มไว้ ก็โอแล้วค่ะ เพราะยังไงบริษัทแม่ก็ส่งงานมาให้อยู่แล้ว..รอรับ booking .....ทั้งนี้ทั้งนี้ถ้าอยู่ใน location ที่ดีก็มีโอกาสได้แขก walk in มีรายเพิ่มอีก.. ส่วนเรื่องพนักงานเอาเท่าที่จำเป็น..ไกด์ก็สามารถจ้า่งเป็น job ไปๆ 3.บริษัททัวร์ประเภท ขายหน้าร้าน ลักษณะงานของ คคหที่ 24 ค่ะ ...อันนี้ที่เราว่าโลเคชั่นสำคัญที่สุด...เพราะต้องหาลูกค้าประเภท walk in เข้ามาซื้อ..จำเป็นต้องอยู่ในแหล่งที่มีนักท่องเที่ยวนะคะ...อย่างในกทม. ถนนข้าวสาร, บางลำภู ,สีลม ในแหล่งท่องเที่ยว ก็ต้องเป็นที่นักท่องเที่ยวผ่านเยอะๆ บริษัทประเภทจะมีเยอะเพราะไม่ต้องประสบการก็เปิดได้....ทำให้เกิดปัญหาเรื่องตัดราคากันอย่างที่คคหที่ 24 บอกไว้ค่ะ.... สุดท้ายก็ต้องขอบอกว่าที่เขียนมาทั้งหมดคือความเข้าใจของเราเองนะคะ..ถ้าเราเข้าใจไม่ถูกต้องก็ต้องขอโทษ คุณจขกท.ไว้ด้วยนะคะ..เพราะคงจะไม่ได้เข้ามาอีกเป็นอาิทิตย์ค่ะ... จากคุณ : น้ำกะฟ้า (น้ำกะฟ้า) เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 17:11:52

ความคิดเห็นที่ 58 ดีจังกระทู้นี้ ได้ข้อมูลสายตรงเพียบ^^ ขอบคุณทุกท่านค่ะ สู้ๆ ต่อไปเพื่อลูกค้านะคะ .. ส่วนตัวเราอยู่ญี่ปุ่น เคยได้จ๊อบพากรุ๊ปคนไทยเที่ยว หลายครั้งแล้วเหมือนกันค่ะ เห็นด้วยว่าควรทำด้วยความจริงใจ และเสนอสิ่งดีๆ ให้ลูกค้า ให้คิดว่าพาเพื่อน และญาติๆ เที่ยว .. แล้วทริปนั้น เงินจะไม่สำคัญเท่ามิตรภาพดีๆ ที่จะเกิดขึ้นต่อไปเลยค่ะ .. จากคุณ : Soul Monogatari * เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 18:03:48

ความคิดเห็นที่ 59 ขอบคุณจขกท.ค่ะ เรามีอีก 1 ตัวอย่างที่อยากเล่าให้ฟัง มีป้าคนหนึ่งจัดทัวร์มาหลายสิบปี ตอนนี้ต้องเอาบ้านไปเข้าแบงค์ เพื่อเอาเงินมาหมุน ถามว่าทำทำไม ป้าว่าป้ามีความสุขที่ได้ทำ ขาดทุนก็ไป คนน้อยคนไม่เต็มก็ไป อายุป้าก็เยอะแล้ว แต่ไม่ชอบอยู่บ้าน(เพราะเหงา ลูกมีหรือไม่ไม่แน่ใจ มีแต่สามี) ชอบที่จะไปบริการคนอื่นๆ ชอบที่จะเห็นคนเบี้ยน้อยและคนสูงอายุได้เที่ยวอย่างมีความสุข เราเองก็ตั้งใจว่า ถ้าไม่ติดอะไร ก็จะไปเที่ยวกับป้าบ้างค่ะ แก้ไขเมื่อ 03 มี.ค. 53 22:36:39 จากคุณ : a pinky pig เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 22:35:49

ความคิดเห็นที่ 60 เมื่อก่อนก็อยากทำนะครับ เพราะว่าชอบเที่ยวเป็นทุนเดิม และคงจะทำให้ได้ไปเที่ยวมากมาย แต่จากการได้สัมผัสบ้าง ทำให้รู้ว่า เป็นคนเที่ยวอ่ะ สบายกว่าคนพาไปเที่ยวอีก จากคุณ : newuno เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 23:08:55

ความคิดเห็นที่ 61 อยากเปิดเหมือนกันค่า แต่คงต้องรอตัวเองพร้อมก่อนทั้งในเรื่องของประสบการณ์ และเงินทุน เพราะคิดว่ามันคงยากสำหรับคนที่ยังไม่มีประสบการณ์ แต่อยากทำแบบบริษัททัวร์เล็กๆ กำไรไม่ต้องเยอะ เน้นช่วยปลูกจิตสำนึกให้ นักท่องเที่ยวเที่ยวแบบยั่งยืน เพื่อที่จะได้มีแหล่งท่องเที่ยวไว้ให้คนรุ่นเราหรือ รุ่นต่อไปได้กลับมาเที่ยวอีก เพราะเชื่อมั่นว่าสถานที่ท่องเที่ยวประเทศเราไม่ได้ เป็นรองประเทศไหนเลย หากแต่มีข้อเสียที่การบริหารจัดการเท่านั้น ที่อยากทำเพราะหลายเหตุผลนะคะ คือทั้งอยากไปเที่ยวด้วย อยากพบปะผู้คน เยอะๆ ชอบแก้ปัญหาหรือสถานการณ์เฉพาะหน้า เพราะรู้สึกว่ามันทำให้เรา เก่งขึ้น แล้วก็อยากเห็นลูกค้าพอใจในการบริการของเราอ่ะค่ะ ปล. ยาวไปไหมคะ อ่านแล้วงงไหมอ่ะค่ะ จากคุณ : กระต่ายน้อย (อาผี) เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 04:50:35

ความคิดเห็นที่ 62 ตอบคุณ อาบะเรนเจอร์ ค่ะ ของเราเป็นเอเย่นต์ที่ขายหน้าร้าน  รอลูกค้าวอล์คอินเป็นส่วนใหญ่  นอกนั้นก็จะมีลูกค้าเก่าที่ติดต่อทางอินเตอร์เน็ตบ้าง  ทำสบายๆไม่ซีเรียสอะไรมาก  ช่วงไหนเหนื่อยๆก็ปิดร้านไปเที่ยวพักผ่อนซัก 3-4 วันแล้วค่อยกลับมาทำต่อ ถามว่าสนุกไหม  สนุกค่ะ  สนุกมาก  พบเจอลูกค้าหลากหลาย  บางคนคุยเข้าใจง่าย  บางคนโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่มาจากฝรั่งเศสจะเจอเยอะที่พูดอังกฤษไม่ค่อยได้  และเราก็ได้แค่ภาษาอังกฤษแบบงูๆปลาๆบางครั้งก็ต้องเขียนเอา  ส่วนใหญ่ที่เจอก็ลูกค้าที่มาเดินเช็คราคาค่ะ  บางคนเล่นเอาซะเหนื่อยนั่งถามนั่งให้ข้อมูลกันเป็นชม.สองชม.สุดท้ายไม่ได้เงินพวกเค้าซักบาท^^"  เราก็โอเคต้องยอมรับเพราะเราประกาศตัวเองว่าเป็น tourist  information center   บางคนมาเช็คราคาเจอราคาของเราสูงกว่าบางที่ก็โวยวายว่าทำไมของเราแพงจัง  ทั้งๆที่เราไม่ได้เอากำไรมากเพราะบอกตรงๆเราไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน  เราเลยต้องอธิบายเค้าว่าบางบริษัทอย่างทัวร์ดำน้ำนี่ดั้มพ์ราคาเพื่อเอาปริมาณลูกค้า  สปีดโบ้ท2 เครื่องจุมากสุด 22 คน  บางบริษัทขายถูกแต่กลับทุกตั้ง25-26 คน  เราเคยโดนลูกค้ากลับมาคอมเพลนเพราะเค้าห่วงเรื่องความปลอดภัยเป็นหลักจากนั้นเราก็ไม่ส่งลูกค้าไปกับบริษัทนี้อีกเลย  บางอย่างเราสามารถแบนบริษัทบางแห่งได้เพราะมีให้เลือกหลายที่ ส่วนเรื่องขายโรงแรม  รีสอร์ทต่างๆ  เราไม่เคยขอราคาพิเศษเลยเป็นเพราะเรารู้ตัวดีว่าปริมาณที่เราส่งลูกค้าให้เค้าต่อปีนั้นช่างน้อยนิดเมื่อเทียบกับบริษัททัวร์ใหญ่ๆ  แรกๆเราไม่รู้อะไรเลย  ติดต่อขอคอนแทรคไปเค้าให้ราคาเรียกเก็บเรามา  พอมาดูในเว็บเอเย่นต์ต่างๆเราก็งงว่าทำไมราคาที่ตั้งขายเท่ากับหรือต่ำกว่าราคาที่โรงแรมเรียกเก็บเราซะอีก  ก็เลยโทรไปสอบถามกับทางโรงแรมดูได้คำตอบว่าเป็นเพราะปริมาณลูกค้าที่เค้าส่งให้โรงแรรมเยอะทำให้เค้ามีพาวเวอร์ในการต่อรองสูง  ยอมรับค่ะว่ารู้สึกไม่ดี  ก็เข้าใจโรงแรมนะคะเพราะถ้าเราเป็นคนโรงแรมก็คงต้องทำอย่างนี้เหมือนกัน  แต่ก็ทำให้เราเลือกที่จะส่งโรงแรมอื่นที่ราคาไม่ต่างกันหรือต่างกันไม่มากเพราะเราจะนั่งเช็คราคาตามเว็บเอเย่นต์ต่างๆด้วยค่ะ ไม่รู้งงๆกันไหมคะ  พิมพ์เองยังงงเองเลยค่ะ จากคุณ : chocolatewanyen เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 09:36:31

ความคิดเห็นที่ 63 ยังไม่เคยคิดจะทำทัวร์นะคะ แต่ชอบจัดโปรแกรมทัวร์ (เนื่องจากเราชอบเที่ยวและเราเรื่องมาก ถ้าให้คนอื่นจัดกลัวไม่ถูกใจ สุดท้ายส่วนใหญ่เราก็จะจัดให้กลุ่มเพื่อน ๆ ไปเที่ยว โดยส่วนใหญ่จะเป็นทัวร์ต่างประเทศ) แล้วเราก็ชอบเวลาที่จัดทัวร์ให้ใครไม่ว่าจัดให้เพื่อนคนไทย หรือเพื่อนต่างชาิิติแล้วเค้าชอบเนี่ย รู้สึกว่าฮอร์โมนอะดรีนาลีนหลั่ง 55555 ชอบ ชอบ เคยรับจ๊อบเป็นทัวร์ช่วงเทศกาลไปยุโรปอยู่สองครั้งค่ะ (เพราะไกด์ประจำเค้ายกเลิกกระทันหัน แล้วเราเคยไปยุโรปบ่อย ๆ และเคยไปอยู่ ก็เลยมีบริษัทฯ ที่รู้จักกับเพื่อนเค้าติดต่อมา) ยืนยันว่าไม่ได้มีโอกาสเที่ยวหรอก เพราะไม่รู้สิ ตอนเราไปเราก็ไม่กล้าไปไหนไกล เพราะต้องดูแลลูกทัวร์ ไม่อยากให้เค้าคิดว่าไกด์มาเป็นไกด์แล้วหาโอกาสเที่ยว ไม่ดูแล เผื่อเค้ามีปัญหาอะไรก็อยากจะช่วย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นที่สเปน กับอิตาลีที่เค้าต้องพึ่งเราเยอะ เพราะส่วนหนึ่งเรื่องภาษา (ที่เราพูดและฟังรู้เรื่อง) ก็ชอบนะ แม้ว่ามันจะเหนื่อยและนอนน้อยมากกกกกก แต่ก็สนุกดี แล้วถ้าไปในที่ที่เรามีความรู้อยู่บ้าง เราก็ชอบเล่าให้ลูกทัวร์ฟังนะ แล้วก็มีปัญหาเฉพาะหน้ามาให้แก้ตลอดเลยอะ บางทีก็แก้ได้ บางทีก็ลำบากเพราะทัวร์เค้าก็จัดมาแล้ว การจะมาเปลี่ยนอะไรนาทีสุดท้ายมันก็จะยาก แต่ถ้าทำได้แล้วลูกค้ามีความสุข เราก็ดีใจ (แต่ถ้าไม่ได้ เราก็เครียดเหมือนกัน) ตอนนี้ถ้ามีเวลาก็อยากจะไปเป็นไกด์ฟรีแลนด์อีก แต่ปัญหาคือวันลามีจำกัดแถมต้องอยู่กับครอบครัวมากขึ้น จากคุณ : Travel Animal เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 10:20:29

ความคิดเห็นที่ 64 ชอบเที่ยวและชอบจัดการเรื่องเที่ยวเองค่ะ แต่ไม่เคยคิดจะเปิดบริษัททัวร์เลย ไม่ใช่เพราะไม่ชอบบริการใคร แต่เพราะเป็นงานบริการที่ต้องใช้ความอดทนสูง ความรับผิดชอบสูง และค่อนข้างอ่อนไหวต่อหลายๆปัจจัยเกินไปไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ การเมือง หรือภัยธรรมชาติ ไม่ใช่อาชีพอื่นไม่เสี่ยงนะ อย่างงานที่เราทำอยู่ เป็นงานขายสินค้า-เครื่องจักรโรงงานอุตสาหกรรม ขึ้นชื่อว่าขายสินค้า แต่เลี่ยงไม่ได้เลยกับการเสนอบริการแบบ non profit ควบคู่ไปด้วย นับวันต้องเผชิญกับการแข่งขันที่สูงมากยิ่งในสภาวะเศรษฐกิจข้าวยากหมากแพงด้วยแล้ว ฟาดฟันกันเลือดซิบๆ เข้าใจเลยที่บอกว่า ทำทัวร์ปัจจุบันนี้กำไร 10%ก็หรูแล้ว สำหรับงานบริการเต็มรูปแบบอย่างบริษัททัวร์ เราจึงขอเป็นนักท่องเที่ยวดีกว่าไปเป็นผู้ให้บริการค่ะ และก็ คห.46 ของคุณ แมงป่องหางด้วน ชอบมากๆ การดำเนินธุรกิจอาศัยแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง ไม่รวย ไม่จน แต่ก็ไม่เจ็บ ก็มีความสุขในส่งที่ทำได้ เยี่ยมมาก ขอบคุณทุกๆท่านที่เอาข้อมูลดีๆมาแชร์ค่ะ แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 53 11:26:41 จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 11:25:43

ความคิดเห็นที่ 65 ส่วนใหญ่ เพื่อน ๆ จะพูดถึงทัวร์ inbound ในประเทศเสียมากกว่า จริง ๆ ก็เคยคิดจะเปิดทัวร์ outbound น่ะครับ เคยคิดจะเปิดบริษัททัวร์มานานแล้ว แต่มีปัญหาก็คือทำไมเราต้อง ขึ้นทะเบียนกับ ททท ด้วยในการจ่ายเงินถึง 200,000 บาท แล้วเงินสองแสนนี่ทาง ททท นำไปทำประโยชน์ให้กับบริษัททัวร์แค่ไหนบ้างครับนอกจากสร้างความมั่นใจให้ลูกค้า พอคิดถึงตรงนี้ก็หยุดความคิดที่จะทำเลยครับ เหตุผลง่าย ๆ คือทาง ททท แทนที่จะมาสนับสนุนการท่องเที่ยวหรือโอบอุ้มบริษัทให้ไปรอด แต่กลับต้องเสียเงินจำนวนนี้ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้กำรี้กำไรอะไรเลย จากคุณ : บุญอนันต์ เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 12:44:25

ความคิดเห็นที่ 66 ขอตอบ # 65 คุณบุญอนันต์ ครับ.... สมัยก่อน ก็ไม่ได้เก็บมากมายหรอกครับ ... สาเหตุที่เราต้องวางประกัน เพราะ มันเคยมีปัญหาบ่อยๆ เรื่อง บริษัทไม่ได้ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับลูกค้า.... ซึ่ง เกิดขึ้นบ่อย มาก ลูกค้าไม่รู้จะเรียกร้องจากใครได้ ถ้าแจ้งความ ก็อาจจะนาน หรือลูกค้ากลับประเทศไป เรื่องมันก็เลือนหายไป การที่ ททท เก็บเงินวางมัดจำ ก็ป้องกันการเอาเปรียบลูกค้า ถ้าผู้ประกอบการไม่ทำตามสัญญาที่ระบุ ลูกค้าก็สามารถ เคลมค่าเสียหายจาก ททท.... ปัจบัน ททท. ไม่ได้มี บทบาทใหนเรื่องใบอนุญาตประกอบการ ได้โอนงานให้สำนักพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ซึ่งการทำงาน ของสำนักนี้ ทำงานเช้าชามเย็นชาม ไม่ได้ควบคุณคุณภาพบริษัททัวร์ เหมือนสมัยที่ขึ้นตรงต่อ ททท. พนักงาน ในสำนักพัฒนาการท่องเที่ยว ก็ไม่รู้เรื่อง อะไรเลย คืดทำงานไม่มีประสิทธิภาพ.... ทุกวันนี้ บริษัททัวร์ แย่ๆ ไกด์แย่ๆ ไกด์ ผี ไกด์เถื่อนเต็มบ้านเต็มเมือง ทำให้ไกด์ ที่มีบัตรโดยถูกต้อง เดือดร้อนไปหมด จากคุณ : เวียงพิงค์ เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 14:25:42

ความคิดเห็นที่ 67 คุณเวียงพิงค์ ครับ สรุป ณ ขณะนี้ถ้าจะเปิดบริษัททัวร์ก็ต้องเอาเงินวางประกันสองแสนบาทกับ สำนักพัฒนาการท่องเที่ยวแทน ททท ใช่ไหมครับ และถ้าเราเปิดบริษัททัวร์แล้วไม่ไปวางเงินประกันกับสำนักพัฒนาการท่องเที่ยวจะผิดกติกาไหมครับ ในเมื่อทำงานเช้าหนึ่งชามเย็นหนึ่งชามแบบนี้ จากคุณ : บุญอนันต์ เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 14:47:46

ความคิดเห็นที่ 68 ตอบ #67 ถ้าทำ outbound ต้องวาง 200,000 ครับ ถ้าทำ inbound ก็วางแค่ 100000 ครับ ถ้าเปิดขายทัวร์ เฉยๆ คือขายแล้วส่งต่อ ไม่ได้ทำทัวร์เอง ก็ไม่ต้องวางครับ.... แต่ในความรู้สึกของคนส่วนใหญ่ จะเข้าใจโดยปริยายว่า บริษัททัวร์ จำเป็นจะต้อง มีใบอนุญาตประกอบการ ครับ ถ้าไม่มี ความน่าเชื่อถือของบริษัทนั้นๆ แทบจะเป็น ศูนย์ ครับ มีบางคนก็จดทะเบียน inbound แต่แอบทำเอ้าบาวด์ ก้มี ถ้าทำทัวร์ ไม่มีปัญหา ก็ไม่มีอะไร แต่เมื่อมีปัญหา ปุ๊บ เรื่องยาวครับ อาจถึงขั้นติดคุกได้ครับ เพราะการทำธุรกิจทัวร์ มีพระราชบัญญัติ (พรบ.) ควบคุมอยู่ครับ ที่หมายถึง สำนักทะเบียนมันไม่ศักดิ์สิทธิ์ เหมือน ททท. เพราะ สำนักทะเบียนเขาไม่ได้ สกรีน ผู้ประกอบการ หรือไกด์ ละเอียดเท่า ททท. ถึงแม้ ททท. จะโอนงานให้กับทางสำนักทะเบียนแล้ว บริษัทส่วนใหญ่ยังติดตรา ททท. หรือ TAT หน้าบริษัท หน้าเว็บ หรือ เอกสารต่างๆ อยู่ เพราะ ตรา TAT หรือ ททท มันดูศักดิ์สิทธิ์ กว่า.... ผมยังไม่เห็นบริษัทไหน เขียนว่า ... OTD License มีแต่ TAT License ทั้งที่มันเปลี่ยนไปแล้ว.... OTD ฝรั่งไม่รู้... แต่ TAT ฝรั่งรู้ครับ.... สรุปแล้ว คิดจะทำทัวร์ ก็ควรจะทำให้ถูกต้องตามพระราชบัญญัติครับ รายละเอียด http://www.tourism.go.th/index.php?option=com_content&task=blogcategory&id=12&Itemid=40 ปลง ทำงานเช้าชามเย็มชาม ของผมหมายถึง การทำงานแบบไม่เป็นมืออาชีพนะครับ.. พนักงานก็ไม่รู้เรื่อง โทรไป ก็ไม่ค่อยจะรับสาย OTD ทำงานเหมือนราชการ ส่วน TAT ทำงานเหมือน บริษัท ภาพลักษณ์ของความเป็นมือชีพ TAT มีมากกว่า OTD แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 53 16:15:37 จากคุณ : เวียงพิงค์ เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 16:00:48

ความคิดเห็นที่ 69 มีเพื่อนๆ ร่วมอาชีพเยอะเลยอ่ะ ตัวเองเปิดร้านทัวร์ รับแขก walk-in เหมือนกันค่ะ น่าจะอยู่โซนเดียวกับ คุณ chocolatewanyen นะคะ เพราะ เวลาทำงานกับเวลาหยุดเหมือนกันเลยอ่ะ เราเสี่ยงตายมาลองเปิด กทม ดูอ่ะค่ะ ปรากฎว่า มันแห้งเหี่ยวมากเลยอ่ะ เราว่าเกาะทางใต้ดีกว่ากันเยอะเลยค่ะ ค่าเช่าไม่แพง ค่าครองชีพไม่แพง รถไม่ติด วันไหนว่างขอบริษัทฯ เรือไปดำน้ำด้วยก็ยังได้อ่ะ (คิดถึงเกาะจังเลย) จากคุณ : armaroundme (Armaroundme) เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 16:02:37

ความคิดเห็นที่ 70 ฝากอีกหนึ่งกระทู้ครับ สำหรับท่านที่ยังไม่ได้อ่านครับ เผื่อได้ความรู้ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8943726/E8943726.html จากคุณ : เวียงพิงค์ เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 16:17:25

ความคิดเห็นที่ 71 กำลังจะเปิดบริษัททัวร์เหมือนกันครับ มีข้อสงสัยช่วยแนะนำด้วยครับ เข้าไปอ่านกะทู้ข้างบนแล้ว แล้วสงสัยว่า แล้วโดยปกติจะจองตั้วให้ลูกค้าต่างประเทศ เช่น จากสวีเดน จะต้องจองตั้วอย่างไรครับ - ใช้ amadeus จากเมืองไทยก็จะเช็คได้แต่ไฟท์ ใช่ไหมครับ แต่ราคาก็จะเป็นราคาเต็ม ถูกไหมครับ ดังนั้น - ควรจะติดต่อเอเจนท์ที่สวีเดนแล้วจองตั้วผ่าน amadeus และออกตั้วจากสวีเดน เพื่อให้ได้ราคาที่ดีกว่า ผมคิดแบบนี้ถูกไหมครับ ********************************** แล้วถ้าผมจะส่งลูกค้าไปภูเก็ต ซึ่งมันต้องเปลี่ยนเครื่องที่สุวรรณภูมิ แล้วมาลงที่ภูเก็ตอีกต่อหนึ่ง ผมควรจองตั้วอย่างไรครับ 1. ให้ เอเจนท์ ที่สวีเดนจองให้หมดเลย สวีเดน - กรุงเทพ - ภูเก็ต - กรุงเทพ - สวีเดน 2. ให้ เอเจนท์ ที่สวีเดนจอง สวีเดน - กรุงเทพ - สวีเดน และ ผมจอง กรุงเทพ - ภูเก็ต - กรุงเทพ ***************************** แล้วในกรณีที่คล้ายๆกัน จองตั้วไปกลับจากสวีเดน กับ จองตั้วเที่ยวไปจากสวีเดนและจองตั้วเที่ยวกลับจากเมืองไทย แบบไหนได้ราคาดีกว่าครับ ขอบคุณมากครับ ขอโทษครับที่ถามหลายคำถาม แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 53 17:29:36 จากคุณ : Gas Turbine is my dream เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 17:28:28

ความคิดเห็นที่ 72 คุณเวียงพิงค์ให้ความรู้เยอะมากเลยค่ะ น่าสนใจ (รวมถึงท่านอื่นๆ ที่เข้ามาแชร์ความคิดเห็นด้วยนะคะ) TAT เนี่ยทำงานเป็นมืออาชีพแล้วเหรอ เราเห็นด้วยเรื่องหลักประกันนะคะ แต่ท้ายสุดแล้ว เราไม่ค่อยเห็นใครจะไปฟ้องเรียกร้องแล้วได้ค่าเสียหายเลย อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเค้าเข้มงวดกว่านี้ค่ะ เพราะว่าเราได้ยินเรื่องบริษัททัวร์แย่ ๆ ไกด์แย่ ๆ เยอะมาก จนตอนนี้จะไปเองกับคุณแม่ เรายังเสียวเลย แล้วนอกจากนั้นเราบอกได้เลยว่าเราจะคาดหวังสูง เพราะเราเคยทำ ตอนนี้ก็พยายามปลงไม่คาดหวังมาก ถ้ามีปัญหาหรือทัวร์ไม่ดีเท่าที่คิดจะได้ไม่ต้องเสียใจ จากคุณ : Travel Animal เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 17:57:40

ความคิดเห็นที่ 73 ถ้าทั้ง OTD และ TAT  หน่วยงานนี้ได้เก็บเงินประกันจากบริษัททัว 100,000 ถึง 200,000 บาท แล้วหาได้จัดการเรื่องความมั่นคงในการท่องเที่ยวได้ แล้วหน่วยงานพวกนี้เขาเอาเงินจำนวนมหาศาลไปทำอะไรครับ แล้วเหตุไฉนเรายังต้องให้หน่วยงานเหล่่านี้มาควบคุมเราอีก อันนี้สงสัยจริง ๆ จากคุณ : บุญอนันต์ เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 18:14:56

ความคิดเห็นที่ 74 ตอบ คห # 71 ครับ... ในเส้นทาง ที่ไม่ได้ Departure จากเมืองไทย ส่วนใหญ่ เราจะไม่จองให้ลูกค้า.... ให้ลูกค้าจัดการเอาเอง ถ้าจองตั๋วผ่านเรา ชื่อลูกค้า กับชื่อบนบัตรเครดิตไม่ตรงกัน สัญนิฐานไว้เลยว่า  เราอาจถูกหลอก... บริษัทส่วนใหญ่เขาไม่ทำให้ครับ ได้ ไม่คุ้มเท่า เสีย.... เพราะว่า โดยปกติเขาขายตั๋ว บวกกำไร แค่ 500 - 1000 บาท แต่ค่า ยกเลิกตั๋ว (Cancellation fee) มันเกือบ 30% ของค่าตั๋ว เชียวนะครับ... และการ ขอคืนเงิน (Refund) คุณรอเป็นเดือน ถึง สามเดือน เผื่อจะได้เงิน Refund คืน... มันไม่คุ้ม... ไม่มีใครทำ... ลูกค้าคนเดียวยังพอไหว ถ้า 4-5 คน เงินคุณ จมเป็นแสน เลยนะ =========================================== คำถามต่อมา ผมขอยกตัวอย่างละกัน... ผมมีลูกค้า เป็นชาว Canada มาเที่ยวเมืองไทยบ่อยมาก เพราะมีภรรยาเป็นคนไทย ปกติเขาจะซื้อตั๋ว ไปกลับ แวนคูเวอร์ - กรุงเทพ - แวนคูเวอร์ ประจำ โดยสายการบิน CX (Cathey Pacific)... พอมาเจอผม ผมบอกว่า เที่ยวหน้า คุณจอง oneway มาละกัน แล้วมาซื้อตั๋วที่ผม กรุงเทพ - แวนคูเวอร์ - กรุงเทพฯ ซึ่งได้ราคาถูกว่า ไปกลับจากแวนคูเวอร์.... วิธีนี้สายการบินรู้นะครับ... ไม่ใช่ไม่รู้ ดังนั้น บางเส้นทาง สายการบิน เขาบังคับให้ซื้อตั๋วไปกลับ.... เช่นเส้นทาง กรุงเทพ - มนิลา หรือ กรุงเทพ - บาหลี การซื้อตั๋ว เที่ยวเดียว แพงกว่า ซื้อตั๋วไปกลับ เส้นทาง แวนคูเวอร์ - กรุงเทพ แพงกว่าไปกลับอีก.... ผมให้ซื้อตั๋วไปกลับ... ขากลับทิ้งไป และออก ตั๋วใหม่ที่ผม เข้าใจแล้วนะครับ... จากคุณ : เวียงพิงค์ เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 19:05:43

ความคิดเห็นที่ 75 ตอบคห # 72 คือ TAT เขาทำงานเข้าใจ ปัญหาของ วงการทัวร์มากกว่า เพราะระบบต่างๆ เขาเริ่มมาตั้งแต่ พศ 2530 ประสบการณ์ ชื่อเสียงของของเขาสั่งสมา 20 ปี .... แต่แล้วนโยบายรัฐบาล ได้ตั้ง กรมพัฒนาการท่องเที่ยวขึ้นมา เพื่อแยกงานออกจาก ททท. เพราะ งาน ททท. มันกว้าง และเป็นองค์การ ที่ใหญ่มากไป.... ททท. ปัจจุบัน จึงมีหน้าที่ ในการส่งเสริมการท่อง ส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยว ในประเทศเป็นหลัก... พูดง่ายๆ ททท. มีหน้าที่ ประชาสัมพันธ์.... ส่วนงานของกรม "พัฒนาการท่องเที่ยว"... สังเกตุชื่อนะครับ... ผมสงสัย "มันพัฒนาการท่องเที่ยว ตรงไหน ฟะ" โทรไป ได้ยินแต่เสียง คุยกัน โฉงเฉง ... หัวเราะ อึกทึกครึกโครม.... มันทำงานกันมั๊ยเนี่ย แฟนผมเป็นราชการ... ผมมองออกครับ ว่า บรรยากาศ ในห้องทำงานราชการ กับบริษัท ต่างกัน ราวฟ้ากับดิน.... ผมเขียนอย่างนี้ จงใจที่จะกระทุ้ง ถึงรัฐบาล... (ถ้าเขามาอ่านเจอนะครับ) สมัย ททท. เขาจะออกพื้นที่ไปสุ่มบริษัททัวร์ ที่เปิดขึ้นมา ว่า มีใบอนุญาตไหม... ใบอนุญาต ขาดอายุหรือยัง.... ผมไม่เคยเห็นหัว จนท OTD ออกมาสำรวจ สักครั้งเดียวเลย จริงๆ จากคุณ : เวียงพิงค์ เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 19:25:22

ความคิดเห็นที่ 76 ตอบ คห #73 เงินที่เรามัดจำ 100000 หรือ 200000 บาทเป็นของเรานะครับ แค่วางประกันเฉยๆ... ฝากในนาม บริษัทเราด้วย ดอกเบี้ย ก็เป็นของเรา ... ถ้าคุณเลิกกิจการ เงินจำนวนนี้ ก็คืนมาเป็นของเรา แต่ต้องรอการตรวจสอบ ประมาณ 2 เดือน สมัย TAT ดูแลอยู่... ทุกๆสิ้นปี ทาง TAT จะมีหนังสือแจ้งเราว่า เราได้ดอกเบี้ย เท่านั้นเท่านี้ แต่พอเปลี่ยนมาเป็น OTD ผมยังไม่เคยได้รับจดหมาย อะไรเลย ซัก ฉบีบ สมัยก่อน ททท. จะมีจดหมาย ส่งถึง บริษัททัวร์ แจ้งข่าว กิจกรรม การประกวด บริษัทดีเด่นประจำปี การประกวด มัคคุเทศก์ ประจำปี อยู่ เสมอๆ พอเปลี่ยนมาเป็น OTD ยังไม่เห็น กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวอะไรซักอย่าง... ไม่เห็น มันทำอะไรเลยจริงๆ แล้วมันจะพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างไร..... ผมว่า ยุบ สำนักพัฒนาท่องเที่ยว กลับไปเป็น ททท ดูแลอย่างเก่า ดีแล้ว เพียงแต่ ต้องดูแล ไม่ให้มีการคอรัปชั่นภาย ใน รัฐบาล ควร ทำให้ ททท เป็นองค์กรณ์ ที่มีความน่าเชื่อถือในระดับโลก ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทย.... การแยก อำนาจบริหาร ออกมาเป็นสำนักพัฒนาการท่องเที่ยว... มันไม่ได้ส่งเสริมการท่องเที่ยว ในประเทศ ใดๆเลย อยากบอกว่า ตราสัญลักษณ์ ของ TAT สวย คลาสิค  ใครติดหน้าบริษัท แล้วทำให้น่าเชื่อถือ.... แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 53 19:42:23 จากคุณ : เวียงพิงค์ เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 19:32:49

ความคิดเห็นที่ 77 ขอเสริมนิดนึงค่ะ  ว่าด้วยเรื่องเงินประกัน ของเราวางนะคะ  วางไป 10,000 บาท เป็นการขออนุญาตประเภท เฉพาะพื้นที่ ค่ะ จากคุณ : chocolatewanyen เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 19:37:51

ความคิดเห็นที่ 78 พอพูดถึงหน่วยงานของรัฐ แล้วโมโห ครับ.... ตั้งสำนักพัฒนาขึ้นมาคิดว่าจะมีศักยภาพ ในการทำงาน... เปล่าเลย ... เละเทะ... ไกด์ ควรเป็นอาชีพสงวน สำหรับ คนไทย สัญชาติไทย เท่านั้น แต่ปัจจุบันไม่เป็น อย่างนั้น ไกด์ผี ไกด์เถื่อน ไกด์ ต่างชาติ มาแย่งงานไกด์ไทยที่ถูกต้อง มีกันเกร่อ บริษัทต่างชาติ มาเปิดบริษัท แข่งขันกับ บริษัท ของคนไทยเอง OTD เคยแหกตามารับรู้ และคิดหาทางแก้ปัญหา เหล่านี้ มั้ย... ผมยังไม่เห็นบทบาทอะไรเลย จากคุณ : เวียงพิงค์ เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 19:52:35

ความคิดเห็นที่ 79 ไม่มีเวลาเข้ามาอ่านสักที ขอบคุณคุณเวียงพิงค์ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาค่ะ อ่านแล้วได้กำลังใจขึ้นมาเยอะ ในคืนวันยุ่งๆค่ะ จากคนนึงที่เคยมีความใฝ่ฝันอยากจะยกมือตอบ ว่าอยากเปิดบริษัททัวร์เหมือนกัน ตอนนี้มันเป็นจริงแล้วค่ะ เราทำบ.ทัวร์ไม่เหมือนเพื่อนๆคนใดเลยคะ เลยจะมาแบ่งปันเรื่องราวให้ฟังกันบ้าง เราทำ Inbound เข้าสู่ยุโรปค่ะ ในอดีตเราเคยทำงานเป็นผู้จัดการบัญชีในบ.ทัวร์ ออฟฟิสมันเล็ก นอกจากทำบัญชี ติดต่อทัวร์โอเปอเรเตอร์แล้ว เวลามีบริษัทใหม่ๆมา เราก็จะต้องไปทำอินสเป็คชั่นเอง ลูกค้าบางทีก็มาเคาะกระจกจะซื้อทัวร์ เราก็ต้องออกวาวเชอร์ขาย ใครตกไฟลท์ก็โทรมา  แบบว่าทำมันทุกตำแหน่ง งานเลขาก็ต้องเตรียมเอกสารให้นาย LTU เมื่อก่อนไฟลท์มาลงหกโมงเช้าที่ภูเก็ต เราก็ต้องมาทำงานทั้งขี้ตา  เพื่อนๆที่ทำงานโรงแรมบอกว่า เราไม่ควรมาลำบากทำงานมือเท้าเป็นทศกัณท์ แต่พอเราพ้นชีวิตตรงนั้นมา เรากลับรักงานพวกนี้มาก เหนื่อย ยุ่ง ไม่มีเวลาจะสวย ไปเที่ยวไหนเองก็ไม่ได แต่มีความสุขสุดๆ ยิ่งเวลาลูกทัวร์เขาส่งโปสการ์ดมา ว่ากลับถึงบ้านแล้วได้ไฟลท์แล้ว หรือว่าใครไปทัวร์ไหนมา แล้วเก็บหอยมาฝาก เราก็ปลื้มละ มันเป็ฯประสบการณ์การทำงานที่เป็นพื้นฐานให้เราได้อย่างมากเลยค่ะ แล้วพอเราบังเอิญมาเรียนต่อ ได้งานทำแล้วก็มาอยู่เมืองนอกถาวร เราก็ทำทัวร์เล่นเป็นงานอดิเรก ตามสไตล์เรา เพราะเราไปไหนกะเป้ใบเดียวทั่วๆยุโรป ไม่ได้ไปแบบจนๆ นะ แต่ไปแบบคุ้มๆ คือเราคิดว่าทำไมเราต้องเขียมจนเที่ยวไม่สนุก เราหาข้อมูล ทำให้เงินน้อยนิดของเรา พาเราไปได้ไกลกว่าคนอื่น ตราบที่อยากจะไป บางเส้นทางก็ไปบ่อยมาก ไปจนคนขับเรือจำหน้าได้ก็มี ปีๆนึงเข้าสวนดอกไม้ จนเด็กเก็บตั๋วถามว่ามากี่หนแล้วปีนี้   พอปีที่แปด เรารู้สึกว่า ไม่เอาแล้ว พอกันที่งานประจำซ้ำซาก ให้เจ้านายชี้นิ้ว ไม่อยากทำงานประจำแล้วอยากออกมาทำทัวร์อย่างเดียว (ทัวร์แบบของเราไม่มีการขายสินค้าค่ะ นอกจากขายบริการ ซึ่งก็คือการให้ข้อมูล การดูแลหาที่พัก แนะนำเส้นทาง แนะนำตั๋วชนิดต่างๆที่ถูกๆให้ แล้วก็ไปเป็นไกด์ด้วย) เราก็ศึกษาแล้วก็เริ่มทำตามกฏหมายของทีนี่ค่ะ ทางเมืองไทยเมื่อคุณเปิดบริษัทจะต้องมีการประกันกะ ททท. ที่นี่ก็มีค่ะ คล้ายๆกัน กฏหมายมีอย่างไรก็ต้องทำอย่างนั้น เราก็ค่อยๆศึกษาไป ทั้งเรื่องภาษี เรื่องการหาโปรแกรมในการเช็คตั๋วเครื่องบิน รถไฟ ออกอินสเป็คที่พักแบบบัดเจ็ด ติดต่อองค์กรต่างๆ พยายามซอกแซ่กหาของถูกให้ทัวร์ของเราไปเหมือนคนอื่น แต่ถูกกว่า ยิ่งลงลึกไป ก็ยิ่งรู้เทคนิคมากขึ้น มันก็ใช้เวลานานนะคะ แต่ก็ทำไปเรื่อยๆ เก็บประสบการณ์ไป ปีต่อปีต่อปี โชคดีที่กิจการแบบเรา เป็นสิ่งที่ยุโรปยังไม่ค่อยมี คือเป็นบริษัทเล็กๆ กิจการเจ้าของคนเดียว ที่มีการจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่ให้บริการลูกค้าที่เป็นคนไทยเท่านั้น ถือเป็นกลุ่มลูกค้าพิเศษ ทางหอการค้าจังหวัดเราก็ช่วยเต็มที่ค่ะ เช่นเดียวกับการท่องเที่ยวของประเทศต่างๆ พอไปปรึกษาเขาก็ส่งเจ้าหน้าที่แต่ละด้านมา แนะนำให้เราไปติดต่อตามหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้ทำกิจการได้อย่างถูกต้อง อันนี้ก็ต้องขอบคุณทางองค์กรการท่องเที่ยวของแต่ละประเทศมากๆเลย บริการดีจริงๆ (เรายังไม่เคยลองกะ ททท.นะคะ ไว้สักวันจะลองติดต่อดู ว่าได้เรื่องอย่างไรบ้าง) เห็นด้วยอย่างยิ่งว่าทำงานในสาขาการท่องเที่ยวนี้ ไม่ใช่ว่าจะได้เที่ยวนะคะ ระหว่างเที่ยว ต้องคอยดูแลลูกค้าตลอด ความสุขของเขาต้องมาก่อน บางวันตื่นแต่เช้า ดูแลลูกทัวร์ให้ทานอาหาร พาไปขึ้นรถ ตกค่ำกว่าจะได้นอน บางทีลูกทริปจะไปเที่ยวกลางคืน ก็ต้องตามไปดูแลอีก เหนื่อยไหมก็คือเหนื่อยค่ะ แล้วเราคิดค่าแรงถูกกว่าไกด์เมืองไทยอีก ค่าแรงวันละห้าร้อยบาทงี้ในยุโรป แต่ว่าชื่นใจค่ะ เวลาวันกลับ ทุกคนจะบ่นไม่อยากทิ้งความสุขกลับไปบ้าน เรายิ้มไม่หุบได้เลยเป็นวันๆ บางทีผลตอบแทนของสิ่งที่ทำไป เงินอย่างเดียววัดไม่ได้หรอกค่ะ เราถือว่าเรารู้จุดยืนของกิจการของตัวเอง รู้จักกลุ่มลูกค้า รู้จักผลิตภัณท์ของตัวเอง มีความสุขกับการให้บริการคนอื่น ให้ได้ไปเที่ยวเหมือนเรา ตอนนี้ก็น่าพอใจในระดับนึงคะ ขอแอบๆได้ป่าวคะ ถ้าใครมีบริษัททัวร์เมืองไทย แต่ไม่อยากวุ่นวายเรื่องการจดทะเบียนทำเอาท์บาวด์ คุณก็ขายเฉพาะตั๋วเครื่องบิน ประกัน และให้บริการข้อมูลวีซ่า ก็ได้ค่ะ ลูกค้าเนี่ยปล่อยมาให้บริษัทยุโรปโลคอลอย่างเราดูแลเถอะค่ะ อิอิ เพราะว่าเราจดทะเบียนแบบไม่ได้ทำกำไรกะการขายสินค้าค่ะ เราให้ลูกทัวร์ทำจองที่พักเอง ซื้อตั๋วเอง ทำประกันเอง ซื้อตั๋วรถไฟ รถบัสอะไรต่างๆเองหมด โดยเราหาสิ่งที่คุ้มค่าที่สุด ตามความต้องการของลูกค้า บ.เราเลยมีลูกค้าสูงอายุเยอะ (เพราะเจ้าของก็สูงอายุ ฮ่าๆๆๆ) ตำแหน่งงานของเราในบริษัท เป็นเจ้าของ และเป็น Reisbegeleider อ่ะค่ะ ถ้าแปลไทยน่าจะประมาณผู้นำทัวร์ เหมือนทัวร์ลีดเดอร์มั้ง แต่เราทำงานทั้งวางแผนทำเส้นทาง ทำราคา และเป็นไกด์ พูดให้ข้อมูลกับลูกค้าด้วยค่ะ ตอนที่เราเริ่มทำงานนี้ เราวางแผนไว้ว่า ภายในสิบปี เราจะต้องมีบริษัทเป็นเรื่องเป็นราวให้ได้ แล้วก็อดทนค่ะ ท้อก็บ่อย แต่ก็พยายามมองหากำลังใจไปเรื่อยๆ เพื่อวันหน้า ใครที่มีความใฝ่ฝัน อย่าเพิ่งล้มเลิกนะคะ เริ่มจากเล็กๆ เก็บข้อมูล ประสบการณ์ และเตรียมตัวให้พร้อมค่ะ สักวันคุณอาจเป็นเจ้าของบริษัททัวร์ที่มีคุณภาพก็ได้นะคะ จากคุณ : เที่ยวไปสองไพเบี้ย เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 53 05:27:22

ความคิดเห็นที่ 80 อยากทราบเรื่องราคาตั๋วของสายการบินบ้างครับ เพราะผลจากความก้าวหน้าทาง Internet ทำให้การที่สายการบินเน้นขายตรงมากขึ้น การออกตั๋วก็เป็น E-ticket แล้ว มีผลกระทบต่อบริษัททัวร์หรือไม่อย่างไรครับ จากคุณ : over_load007 เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 53 08:57:24

ความคิดเห็นที่ 81 ขออนุญาตออกความคิดเห็นด้วยนะคะ คห.ที่ 78  เกี่ยวกับเรื่องไกด์ต่างชาติ (และอีกหน่อยก็จะพบบริษัททัวร์ข้ามชาติในไทยด้วย)   เรื่องนี้เกี่ยวพันกับการเปิดเสรีการค้าในกลุ่มความร่วมมือต่าง ๆ ในวงการค้าโลก  ประเทศต่าง ๆ จะถูกบีบให้เปิดเสรีทางการค้า  โดยกลุ่มประเทศที่ทรงอิทธิพลต่าง ๆ ก็จะออกความคิดมาในแนวให้เปิดเสรี  และสามารถลงทุนข้ามชาติกันได้   ซึ่งแนวความคิดการเปิดเสรีนี้มีมาก่อน พ.ศ. 2535  ที่จะประกาศ พรบ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์   ทางหน่วยงานที่สนับสนุนเองก็มองปัญหาด้านนี้ไว้ล่วงหน้า  มาตรการในขณะนั้นก็คือการพยายามยกระดับมาตรฐานธุรกิจนำเที่ยวไทยและมัคคุเทศก์ให้สามารถแข่งขันกับนักลงทุนจากทั่วโลกที่จะไหลเข้ามาโดยไม่สามารถจะถือว่าเป็น "อาชีพสงวนสำหรับคนไทย"  ได้อีกต่อไป   ปัจจุบันในปี 2553 นี้ไทยเปิดเสรีการค้าในบางกลุ่มประเทศอย่างเป็นทางการแล้วค่ะ จากคุณ : ป้าทุยบ้านทุ่ง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 53 09:02:53

ความคิดเห็นที่ 82 เราเห็นบริษัททัวร์ข้ามชาติ เค้ามาเปิดในไทยแล้วนะคะ (หลาย ๆ ที่เคยติดต่อให้เราไปเป็น Office Manager) แต่ท้ายสุดเราไม่เอา เพราะหนึ่งให้เงินเราน้อย และสองเราคิดว่ามันควรเป็นธุรกิจที่คนไทยน่าจะได้ประโยชน์มากกว่าให้ต่างชาติมาลงทุนแล้วเราเป็นพนักงานกินเงินเดือนน้อย ๆ ที่เค้าเจียดมาให้หรือเปล่า จากคุณ : Travel Animal เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 53 09:20:14

ความคิดเห็นที่ 83 เรื่องของ ททท. และ สพท. (สำนักพัฒนาการท่องเที่ยวเด้อค่า  ไม่ใช่  "สรรพากรพื้นที่ " ) ค่อนข้างวุ่นวายค่ะ   ขอผ่าน แต่เรื่องที่สำคัญตอนนี้ก็คือผู้ประกอบการและคนที่เกี่ยวข้องในแวดวงจะต้องปรับตัวเองเพื่อตั้งรับกับทุนเสรีที่จะไหลเข้ามาจากนอกประเทศ   อันนี้เป็นเรื่องที่หนักหน่วงกว่าค่ะ   ตนเป็นที่พึ่งของตนค่ะ จากคุณ : ป้าทุยบ้านทุ่ง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 53 09:24:54

ความคิดเห็นที่ 84 เห็นด้วยกับป้าทุยค่ะ ที่ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน ฮ่าๆ จากคุณ : คิโนะคุนิยะ เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 53 10:16:36

ความคิดเห็นที่ 85 ตอบ คห 80 การออก E-tickets มีผลต่อบริษัททัวร์หรือไม่ ? ตอบ. การที่มีระบบ E-ticket ไม่มีผลกระทบต่อบริษัททัวร์ครับ ยิ่งทำให้การทำทัวร์ ง่ายและสะดวกขึ้นกว่าเมื่อก่อน สมัยก่อน ถ้าลูกค้าจะมาต่อไฟล์ท (Transit) ถ้าเป็นตั๋วฉบับเราต้องมีคนไปคอยลูกค้าที่สนามบิน รอเอ๋าตั๋วให้แขก ถ้าตั๋วหายมีปัญหายุ่งยากมากมาย ... ส่วนที่มีผลกระทบคือ สายการบิน ขายตั๋วหน้าเว็บ ถูกลง ทำให้ตัดราคาเอเย่นต์..... บริษัททัวร์ก็สูญเสียรายได้บางส่วนไป ครับ จากคุณ : เวียงพิงค์ (เวียงพิงค์) เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 53 10:35:51

ความคิดเห็นที่ 86 การวางเงินประกันไว้เพื่อเปิดบริษัทนำเที่ยว........... ถามว่าดีไม๊.......ตอบเลยว่าดี ............แต่.............. นายทุนที่มีแต่เงิน แต่ไม่มี "จิตบริการ" ช่วยออกไปให้พ้นๆ ทางได้หรือไม่ คุณคือ "จุดอ่อน" ที่ทำให้วงการท่องเที่ยวไทยตกต่ำลงเรื่อยๆ จากคุณ : Ammyama เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 53 11:42:23

ความคิดเห็นที่ 87 อ่านแล้วได้ประโยชน์มากๆ ค่ะ เราเองก็อยู่วงการนี้มา 7ปี แล้วค่ะ ปีนี้ปีที่ 8 เริ่มแรกก็ทำที่บริษัทใหญ่ ชื่อเสียงมีมากมาย แต่ตอนหลังเริ่มดร็อปลงเรื่อยๆ แล้วก็ย้านมาทำกับบริษัทใหญ่อีกที่ เพิ่งจะโดนเค้าบีบออกมาค่ะ ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกัน พอโดนก็ลาออกมาเลย แล้ววันรุ่งขึ้นก็มาทำที่ใหม่เลยค่ะ ทำก็ตำแหน่งเดิม คือ ตั๋วเครื่องบิน แต่อยู่ที่ใหม่ก็เริ่มทำทุกอย่าง งานก็มากขึ้น ช่วยเค้าทำหมดเลยค่ะ มึนหัวกลับบ้านได้ทุกวัน เพราะงานเยอะขึ้นกว่าเดิมเยอะมาก แล้วแต่ละคนจะเอาโน่นเอานี่ ที่ทำก็เป็น agent ออกเองบ้าง ส่งบ้าง แล้วแต่โปรแกรมไป จะให้ทำเองหมดก็คงไม่ไหว อย่างเมษาโชคดี ไปได้ 2 ทริป อยู่ที่เก่าไม่ได้ไปไหนเลย นั่งเฝ้าเครื่อง เดี๋ยวเครื่องหาย พอมาอยู่ที่ใหม่ ทำทุกอย่าง ติดต่อกับลูกค้าจนพี่เค้าบอกให้ไปด้วยกัน เพราะกรุ๊ปใหญ่ อิอิ มาใหม่แต่ได้ไปเลย ไม่รู้คนอื่นในออฟฟิศจะหมันไส้เอารึป่าวเหมือนกันนะคะ เรื่องดูแลลูกค้า อันนี้โอเคเพราะดูแลมาตลอด กรุ๊ปเหมาเราก็ดูแลอยู่ เลยสบายเลยค่ะ ส่วนใหญ่ บริษัทที่เราทำๆ มา ก็จะได้ลูกค้าเก่าๆ ทั้งนั้นค่ะ ขึ้นอยู่กับการสั่งสมชื่อเสียงมาทั้งนั้นเลย อย่างสองบริษัทแรก ขายทัวร์แพงมากถึงมากที่สุด แต่เราก็เห็นทัวร์เค้าเต็มตลอดนะคะ ที่ใหม่ราคาทัวร์ไม่แพงมาก ก็ขายได้ กำไรมี แต่อย่างที่ หลายๆ คห. บอกค่ะ ทำทัวร์ไม่รวยหรอกค่ะ (แต่สองบริษัทแรก เจ้านายรวยมากๆเลย) ก็พอมีไปวันๆ ต้องใช้เงินหมุนตลอด อืมม...เห็นบ่นเรื่อง สำนักพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวกัน จะบอกยังไงดีล่ะ คือ จนท. บางท่าน มากจากด้านกีฬาน่ะค่ะ แล้วยิ่งตอนนี้ปัญหาข้างในเยอะมาก ใครต่อบัตรไกด์ตอนนี้ไม่รู้จะได้บัตรรึยัง ได้ข่าวมาว่าเค้าบอกว่าบัตรผิดสเปค ไม่ยอมเซ็นต์ให้ (ของเราโชคดีได้รุ่นสุดท้ายที่ ททท.)  ก็ไม่รู้ว่าในอนาคตจะเป็นอย่างไรต่อไปนะคะ ก็รอดูกันต่อไปน่ะค่ะ แก้ไขเมื่อ 05 มี.ค. 53 16:17:15 จากคุณ : nongmi เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 53 13:13:25

ความคิดเห็นที่ 88   คห 87.... มีเรื่องจะปรึกษาครับ.... กรุณาติดต่อทางอีเมลด้วยนะครับ ba.boo38@yahooดอทครับ เกี่ยวกับทัวร์ ครับ ... สำคัญนิดนึงครับ จากคุณ : ไกด์ฝรั่งเศส เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 53 14:13:01 A:58.136.51.111 X: TicketID:256106

ความคิดเห็นที่ 89 ^ ^ ส่งเมลล์ไปแล้วนะคะ ไม่ทราบว่าได้รับเมลล์รึป่าวคะ แก้ไขเมื่อ 05 มี.ค. 53 16:17:39 จากคุณ : nongmi เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 53 16:17:00

ความคิดเห็นที่ 90 ทำ บ. ทัวร์มาเป็นปีที่ 9 แล้วกระมังคะ ที่มาทำเพราะชอบเที่ยว และชอบแนะนำเวลาที่มีคนบอกว่าอยากเที่ยว หลังๆต้องมาสัมภาษณ์รับคนเอง เด็กส่วนใหญ่ก็ตอบแบบที่ คห ๑ บอกเลยค่ะ แต่บ. ทัวร์สมัยนี้ทำออนไลน์กันเกือบหมดแล้ว สิ่งที่คุณจะเจอคือหน้าจอคอมพิวเตอร์และรับโทรศัพท์ค่ะ ไม่ได้พบปะเจอผู้คนอย่างที่คาดหวังนะคะยกเว้นคุณไปทำในส่วนของไกด์ อันนั้นได้เจอแน่ แต่งานไกด์นี่ก็เหนื่อยเหมือนกันนะ คนที่ทำมาซักพักจะชอบที่จะอยู่หน้าคอมมากกว่าไปสู้รบปรบมือกับลูกค้าที่มาหาที่ออฟฟิศ เพราะกว่าจะปิดเคสได้ เกือบชั่วโมง ไม่ได้ทำอย่างอื่นกันเลยทีเดียว ข้อได้เปรียบของคนที่ทำงานด้านนี้คือ เวลาเที่ยว คุณจ่ายถูกกว่าชาวบ้าน คิคิ จากคุณ : padme' amidala เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 53 14:50:01

ความคิดเห็นที่ 91   เห็นด้วยกับการทำงานของสำนักพัฒนาการท่องเที่ยว ที่ทำงานแบบไม่เป็นมืออาชีพ  สู้ตอนที่ขึ้นอยู่กับ ททท ไม่ได้ จากคุณ : น้ำอบ น้ำปรุง (Miguel Maka) เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 53 15:47:00

ความคิดเห็นที่ 92 เพิ่งจะมีโอกาสกลับเข้ามาอ่านกระทู้อีกครั้ง น่าสนใจและได้ความรู้มากๆ เลยค่ะ ชอบ "ประหยัดทัวร์" ของคุณป้าหยัดที่คุณแมงฯ เอามาเล่าจัง และก็เป็นกำลังใจให้กับคุณเที่ยวไปสองไพเบี้ย ((เราชอบไอเดียทัวร์แบบคุณมากค่ะ)) และทุกๆ ท่านด้วยนะคะ .... จริงๆ เราเองก็เคยไปช่วยไกด์ด้วยความจำเป็นอยู่สองครั้งค่ะ ครั้งแรกตอนเรียนอยู่ที่อังกฤษ ... เพื่อนทำบริษัททัวร์และนำทัวร์มาที่อังกฤษ เราก็เลยไปช่วย และ...ขยาดกับลูกทัวร์ชาวไทยมาตั้งแต่นั้น รู้สึกว่าเรื่องมากโครตตตตต 555 เป็นทัวร์แบบคุณหญิงคุณนายไฮโซด้วยค่ะ จุกจิกและ demanding มากๆ อีกครั้งไปกับกลุ่มทัวร์ที่ไปออสเตรเลียค่ะ ((นี่ก็กลุ่มไฮโซอีกแล้ว)) พอดีได้ตั๋วถูกมาก กะว่าจะบินไปพักผ่อนสักสามสี่วัน ไม่ได้รู้จักใครนะคะ กะว่าเดี๋ยวพอไปถึงก็จะแยกไปเที่ยวเอง ทางกลุ่มจ้างไกด์เอาไว้แล้วไปๆ มาๆ มีปัญหา เลยได้ไกด์จำเป็นที่เป็นนักศึกษามาแทน ... เราเองที่พูดภาษาอังกฤษได้ ก็เลยต้องไปช่วยไกด์ ติดต่อโน่นนี่ และดูแลคนอื่นๆ ในทัวร์ไปด้วย ... กลายเป็นทริปที่รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เที่ยวเลยง่ะ T^T เลยรู้ว่าชีวิตนี้ทำบริษัททัวร์หรือเป็นไกด์อย่างเป็นเรื่องเป็นราวไม่ได้แน่ๆ ^^" จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 53 18:43:49

ความคิดเห็นที่ 93 "จะทำธุรกิจอะไร ต้องมีประสบการณ์" ถ้าคนเริ่ม่ใหม่ คงเริ่มไม่ได้สักที เพราะไม่มีประสบการณ์ ส่วนตัวผมว่า ความรู้และความรักในธุรกิจ สำคัญกว่า ส่วนประสบการณ์คือสิ่งที่ต้องสั่งสม จากคุณ : ปังแปด เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 08:44:54

ความคิดเห็นที่ 94 เพิ่มเติมนอกจากบริษัททัวร์นะคะ เราว่าเดี๋ยวนี้ถ้าเป็นเป็น BSP เองด้วย จะลำบากขึ้นสายการบินจะไม่เข้าร่วมIATA แล้ว ตอนนี้ TG เริ่มมาตราการนี้แล้ว กำลังทดลองใช้อยู่ เฟส 1 เริ่มไป ประมาณ 20 บริษัทได้ เห็นน้องที่เก่าบ่นอุบเลย เพราะเวลาออกตั๋วจะยุ่งยากกว่าเดิม แล้วยิ่งช่วงสงกรานต์ออกตั๋วกรุ๊ปเยอะมาก เวลาเราออกตั๋วสมัยก่อน บัญชีเติมเงิน 10ล้าน บาท แป๊บเดียว (วันสองวัน) หมดแล้ว ก็ต้องมาคำนวณ ว่า เติมเหอะ เหลืออีกหลายกรุ๊ป ขออีก10 ล้าน แล้วกัน ทำยังกะ 200 เลย 555 ยิ่งถ้าออกนอกระบบก็ต้องใช้เงินในการวางเยอะมาก ไม่มีทุนก็ทำไม่ได้ ออกผ่านเหมือนเคยดีกว่า แต่สายอื่นๆ ยังไม่ได้เริ่มนะคะ คงกำลังดูอยู่ ที่ IATAไม่ดูแลเองเหมือนเคย เพราะ จนท. ที่ดูแลเสียชีวิตไปแล้ว เลยผลักภาระจะให้สายการบินดูเอง ว่าถ้าบริษัทไหนออกครบตามวงเงินก็ให้ตัดไป ออกต่อไม่ได้ จนกว่าจะเอาเงินมาวางเพิ่ม กันการโกงน่ะค่ะ ใครจะเปิดเป็น BSP ก็คิดดีๆ นะคะ ว่าคุ้มมั๊ย ตอนแรกบริษัทใหม่ที่เราไปอยู่จะเปิด เราก็บอกอย่าเลย ถ้าเปิด คนเหนื่อยก็เป็นเราแน่นอน ต้องทำเรื่องของPlate อีก กว่าจะได้แต่ละสาย เดี๋ยวนี้ไม่ได้ปล่อยง่ายๆ เหมือนสมัยก่อนด้วย อย่างเราไม่ได้เป็น BSP แต่ก็ใช้ความสนิทสนมส่วนตัวในการขอที่นั่ง ก็ได้ที่นั่งเหมือนเดิม ก็เลยอยู่เป็น Sub แบบนี้ดีกว่า ไม่โดนADM ด้วย ใครทำตั๋วรู้ซึ้งกับ ADM แน่ๆ อ่ะ เราเคยโดนสูงสุดแสนกว่าบาท แต่เราไม่ได้เป็นคนทำ คนก่อนๆ เป็นคนทำ แล้วก็ลาออกไป ก็ต้องมาทำจดหมายขอ waive อีก เหนื่อยมากๆตอนนี้สบาย ไม่มี ADM มากวนใจเลยค่ะ จากคุณ : nongmi เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 11:03:04

ความคิดเห็นที่ 95   มือใหม่ในวงการ กำลังจะเปิดบริษัททัวร์ อยากใด้เบอร์ติดต่อและอีเมลย์ ของ คห ที่50 คุณอาบะเรนเจอร์ และ คุณเวียงพิงค์ เพื่อขอความรู้และอาจจะติดต่อธุระกิจด้วยครับ ( อีเมลย์ w_ysp@hotmail.com ) จากคุณ : w-มือใหม่ เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 16:48:37 A:124.122.37.193 X: TicketID:256543

ความคิดเห็นที่ 96   w_ysp@hotmail ดอทคอม จากคุณ : w-มือใหม่ เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 19:31:09 A:124.122.37.193 X: TicketID:256543

ความคิดเห็นที่ 97   อยากทราบว่ามีสมาชิกคนใหนที่เป็น travel designer โซนเอเซียบ้างครับ ผมอยากทำความรู้จักด้วยครับผม ขอบคุณท่านสมาชิกล่วงหน้าครับ จากคุณ : w-มือใหม่ เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 19:54:54 A:124.122.37.193 X: TicketID:256543

ความคิดเห็นที่ 98   เราว่าการวางเงินประกันดีแล้ว..เพราะยังไงซะทางสำนักฯ ก็จ่ายดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการทุกปีอยู่แล้วนี่ค่ะ อีกอย่างมีอะไรเกิดขึ้นเงินประกันนั้น ยังสามารถยึดไว้จ่ายให้ผู้เสียหายที่ถูกบริษัททัวร์กระทำ...ถึงแม้ว่ามูลค่าน้อยกว่าความเสียหายที่ได้รับยังไงก็ได้เงินคืนบ้างก็ยังดีค่ะ .... จากคุณ : น้ำกะฟ้า (น้ำกะฟ้า) เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 20:44:39

ความคิดเห็นที่ 99 คห  87 หนูต่อบัตรไกด์ต่อมาจะครบปีแล้ว ยังไมไ่ด้เลย น่าเบื่อสุดๆ .... จากคุณ : TahAo เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 53 13:09:33

ความคิดเห็นที่ 100 กลับมาดูอีกรอบ เห็นด้วยจริงๆ ค่ะว่าจะเปิดบริษัททัวร์นี่ต้องพิจารณาอะไรให้รอบคอบ สมัยนี้มันไม่ง่ายเหมือนสมัยก่อนจริงๆค่ะ เหนื่อยมาเยอะแล้วค่า่าา ^^ จากคุณ : ->บังเอิญไหมที่เราได้พบกัน<- เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 11:50:43

ความคิดเห็นที่ 101   ต้องการข้อมูลเกี่ยวกับการเป็น Agentcy ขายทัวร์ และห้องพักครับไม่ทราบว่าเราต้องขออนุญาตจาก ททท ด้วยหรือเปล่าครับ จากคุณ : กก เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 53 06:51:25 A:192.168.0.240 X:180.180.124.159 TicketID:260461