ความคิดเห็นที่ 1 ดำน้ำทำลาย(สถิติ)โลก อ่ะนะครับ 555 นักดำน้ำ 3,000 คน คงเป็น Beach Dive น่ะครับ หาดที่นี่ยาวมาก ผมเคยไปสคูบ้า แนวปะการังใหญ่จะอยู่นอกหาดออกไปราว 200 เมตร แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าในแนวหน้าหาดจะไม่มีปะการังนะครับ แต่ยังไงก็ตามด้วยจำนวนคนขนาดนั้น มีการคัดกรองกันอย่างไร ว่าจะได้นักดำน้ำที่ "เป็น" มีการควบคุมการลอยตัวที่ดีพอ ไม่ไปทำลายทรัพยากรใต้ทะเลหักพัง ดำน้ำได้ไม่เหมือนดำน้ำเป็นนะครับ ถ้าเป็นมือใหม่แค่หนึ่งในหก (นี่คิดน้อยแล้วนะ) เตะฟินพลาดแค่คนละทีเดียว (แน่นอน อาจมากว่านั้น) เท่ากับปะการังอาจหักไป 500 ก้าน ส่วนตัวเห็นว่าเป็นกิจกรรมที่ไม่เข้าท่าเอาเลย แล้วดูฉุกละหุกพิลึก เหลือเวลาแค่สองสามสัปดาห์ เพิ่งมาประกาศหาอาสาสมัครเอาตอนนี้ เกรงว่าหน้างานจริงจะมีการจัดการที่ไม่ดีพอ จะป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ ยังไม่ต้องเอ่ยถึงเรื่องความปลอดภัยในการดูแลนักดำน้ำ 3,000 คน และที่เป็นห่วง คือ การเอาคน 3,000  และอุปกรณ์สคูบ้าและถังอากาศอีก 3,000 ชุด  ไหนจะผู้สังเกตการณ์ สื่อ ฯ อีกไปรุมสกัมบนหาด   บนหาดที่เป็นแหล่งวางไข่ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของเต่าทะเลในฝั่งอันดามัน จากคุณ : zoopod เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 53 12:06:30

ความคิดเห็นที่ 2 อย่างที่ คุณA พูดนั้นแหละ... มันไม่ได้ ทำลาย สถิตโลกอย่างเดียวนะ มันจะทำลายอย่างอื่นไปด้วยนะดิ....... มีคนชวนไปอีกครั้งหนึ่งแล้ว.... เมื่อเช้าโดนมาอีกทางสายหนึ่ง...  (โดนชวนไปงานนี้ 2-3 ครั้งแล้ว)  ประมาณว่า โดนขอร้องให้หาคนมาลงชื่อแล้ว ส่วนตัวผมเอง Organizer อยู่ แค่คิดตัวเลข ธรรมดาก็สนุกแล้วว่ามันจะเป็นแบบไหน ภาพก็ประมาณว่า มีคนลงทะเล จาก Liverboard 100 ลำ (ลำล่ะ 30 คน) หรือว่า ลงเรือหางยาว 300 ลำ หน้าหาด แล้วไปลงที่อื่นตรงกลางทะเล....... หรือว่า คน 3000 คนเดินลากTank ลงไปเพื่อทำลายสถิต ในระยะทางที่สามารถจะ scuba ได้ ก็ประมาณ 4-5 เมตร...... ต้องเดินจากหาด ลงไปทะเลเท่าไร...... แค่คิดก็สนุกแล้ว นี้ไม่รวมพวก ขยะ บนบกด้วยนะ ที่ต้องรองรับนักดำน้ำ สื่อมวลชน ผู้ติดตาม.... สรุปวันนั้นจะมีคนหน้าหาดประมาณ 3500 อย่างต่ำๆเลยครับ...... ปล. ถ้าไปจัดที่เกาะเต่าน่าจะดีกว่าไหมเนี้ย.... ฝรั่งที่โน้นเยอะมาก ที่มาเรียนดำน้ำแล้วอยู่ไปเรื่อยๆนะ....... แก้ไขเมื่อ 18 มี.ค. 53 12:20:51 จากคุณ : Arson เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 53 12:20:08

ความคิดเห็นที่ 3 คห. 2  เป็น  Organizer  คิดได้แค่ให้ย้ายที่เหรอครับ  หุ..หุ.. ทำไมไม่คิดหาวิธีอื่นให้ดีกว่านี้ล่ะครับ.. งงอ่ะ.. ที่ Organizer พูดแบบนี้... ผมว่า การทำงานก็ต้องมีปัญหาเป็นเรื่องธรรมดา  แต่ปัญหามีไว้ให้แก้ ไม่มีไว้ให้กลุ้ม เหอ..เหอ.. แก้ไขเมื่อ 18 มี.ค. 53 15:51:20 จากคุณ : ตะวันลับฟ้า เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 53 13:47:33

ความคิดเห็นที่ 4 คือเรื่องของเรื่องก็คือ ผู้ว่าจะโปรโมทการท่องเที่ยวหาดท้ายเหมือง เพราะท้ายเหมืองเป็นชุมชนเล็กๆที่เงียบเหงามานาน ก็เลยอยากจะจัดโปรโมทให้มันเอิกเกริกไปเลย คนประมาณ 3,500 คนที่ท้ายเหมือง มันคงแน่นขนัดไปหมด กะว่าท้ายเหมืองจะบูมก็คราวนี้ ที่พักที่ท้ายเหมือง ทับละมุ และเขาหลักคงจะเต็ม อาหารการกินที่ท้ายเหมืองคงจะขายดีเป็นเทน้ำเทท่า วันที่ 6 ผมจะลองไปสังเกตการณ์ดูครับ ว่าท้ายเหมืองจะเป็นยังไงบ้าง จากคุณ : SSAR (darasamuth_hiso) เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 53 15:56:59

ความคิดเห็นที่ 5 มีคนพยายามคิดเพื่อทำให้ชาติมีชื่อเสียง ยังไม่ทันจัดเลยก็ติกันแระ แทนที่จะช่วยกันสนับสนุน แถมมือไม่พาย ยังเอาตีนลาน้ำ รู้ว่ามีปัญหา ก็ช่วยกันคิดหาทางแก้ดิ ถึงจะถูก คนจัดเค้าคงไม่คิดจะทำลายทรัพยากรของบ้านเรามัง ไปดูแนวคิดเค้าก่อนดีป่าว แก้ไขเมื่อ 18 มี.ค. 53 21:59:40 แก้ไขเมื่อ 18 มี.ค. 53 21:58:51 จากคุณ : supergreen เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 53 21:56:52

ความคิดเห็นที่ 6 แทนที่จะช่วยกันสร้างชื่อเสียง นี่กลับพูดให้เสียกำลังใจกันเข้าไปอีก แล้วอย่างนี้ใครอยากจะไปร่วมล่ะเนี่ย หา า า า... จากคุณ : supergreen เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 53 21:57:38

ความคิดเห็นที่ 7 ใจเย็นๆครับ จุดลงน้ำก็ยังไม่รู้เลยว่าจะลงยังไงกัน คงต้องรอคนจัดแจ้งมาก่อนถึงจะค่อยลุยถั่วกันนะครับ ตอนนี้ก็ได้แต่รอดูว่า เขาจะออกแถลงการมายังไง จะจัดการแบบไหน และที่แน่ๆ เราคนไทย จะจับมือ ทำให้งานนี้สำเร็จ ไปได้โดยไม่ทำลายธรรมชาติ ได้รึไม่นะครับ จากคุณ : alcatel547 (ALCATEL547) เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 53 22:09:58

ความคิดเห็นที่ 8 ลองฟังรายละเอียดดูครับ.. จากคุณ : ตะวันลับฟ้า เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 53 23:00:18

ความคิดเห็นที่ 9 เหอๆ........... เหอๆ........... ไม่ทะเลาะกันดีกว่า....... เพียงแค่พูดว่า...... ปัญหานะมันมีไว้แก้....... นะถูกแล้วครับ... แต่บ้างที่ มัน ตายตั้งแต่ Concept แล้ว....... เจตนาดี..... พื้นฟูการท่องเที่ยว Promote เมืองไทย แต่อนาคต เต่าอาจจะไม่มาไข่ เลยไข่น้อยลง ก็เป็นได้ ลองไปดู ที่อุทยานหลายๆเกาะ เค้ามีพื้นที่ ที่ไม่สามารถขึ้นไปได้เพราะว่า เต่าวางไข่ เพราะว่า มีคนเข้าไป เต่าก็จะไม่มาวางไข่..... นักดำน้ำ 3000 คน มาลง ณ. หาดเดียว แค่คิด ก็เครียดแล้วครับ ว่าจะไปรบกวนธรรมชาติอะไรบ้าง ปล. ผมเป็นห่วงธรรมชาตินะ ไม่ได้ว่าการท่องเที่ยวไม่ดี แต่ถ้ามีการจัดอะไรที่มันยิ่งใหญ่ แต่ต้อง ศูนย์เสีย ธรรมชาติไป มันก็น่าเสียดาย เหมือน ที่เคยมี กองถ่ายหนังจากต่างประเทศ มาถ่ายที่ถ้ำอะไรจำไม่ได้.... แต่สุดท้ายทำถ้ำนั้นเละไปเลย ถ้าจำไม่ผิด เจมส์ บอนด์ 007 หรือเปล่าจำไม่ได้แล้ว สุดท้ายถ้าพูดไม่เข้าหู คุณตะวันลับฟ้า ก็ขอโทษด้วย แต่มุมมองผม ก็คือ มันผิดตั้งแต่ concept แล้ว ครั้งนี้ ไม่ทราบว่าทาง Organizer ผู้จัดเอง วางแผนอย่างไรในการทำให้ หาดมีผลกระทบน้อยที่สุด(ไม่รู้ว่าทาง Organizer คิดไว้เผื่อหรือเปล่า) อย่างน้อยก็ขอให้ไม่มีผลกระทบ ต่อธรรมชาติแถวๆนั้นด้วยล่ะกัน..... จากคุณ : Arson เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 00:18:40

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้าคุณ ตะวันลับฟ้า มีพวก แผนการ การลงเรือ ขึ้นเรือ ตารางเวลา อะไรพวกนี้ ก็มา Post ได้นะครับ จะได้ช่วยๆกันออกความเห็นก็ได้ ว่ามันควรจะมีอะไร บ้างจุดที่มันมองข้ามไปบ้างนะครับ จากคุณ : Arson เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 00:32:43

ความคิดเห็นที่ 11 ที่ตินี่ไม่ได้ติให้เสียนะครับ คือ ติ ให้ ก่อ และ เกิด จะได้รู้ถึงปัญหา ซึ่งผมเองก็เป็คนในพื้นที่จะว่าดั้งเดิมเลยก็ได้ เพราะอาม่าเป็นคนท้ายเหมืองและผมมีบ้านสวนอยู่ที่นั่น ตรงเกือบจะหน้าหาดเลยก็ว่าได้ เฝ้ามองการเปลี่ยนแปลงของท้ายเหมืองมาโดยตลอด คือถ้าจะจัดนักดำน้ำมาทำสถิติโลก 3,000 คน ดำน้ำพร้อมกันในทะเล มันไม่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์ธรรมชาติเลย มันขัดแย้งกันโดยสิ้นเชิง นักดำน้ำ 3,000  คนลงไปเก็บขยะ คือขยะอะไรมันจะมากมายขนาดนั้นครับ ได้ทำ Site survey กันหรือยัง จากที่ดำน้ำที่ท้ายเหมืองครั้งล่าสุดเมื่อปีที่แล้ว ผมกับเพื่อนไล่มาจากเขาหน้ายักษ์ มาจนถึง อุทยาน ไปดูหอยมือเสือที่ ทาง นพอ.เขาปล่อยไว้ ว่ารอดอยู่เยอะไหม ขยะมันไม่ได้มีมากมายอะไรเลย ที่เราเห็นก็คือ แนวปะการังพังเป็นแถบ เพราะว่าลากอวนในเขตพื้นที่อุทยานมากกว่า จากข่าวของ WWF จากรายงานการค้นพบแนวปะการังแหล่งใหม่ บริเวณด้านหน้าหาดท้ายเหมือง จังหวัดพังงา ใกล้กับที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง โดยตั้งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ออกไปในทะเลประมาณ 650 เมตร แนวปะการังมีพื้นที่ขนาดใหญ่ประมาณ 1.7 ตารางกิโลเมตร ยังคงสภาพความอุดมสมบูรณ์สูง มีความสวยงามและความสำคัญเชิงนิเวศวิทยาเป็นอย่างมาก ทั้งนี้แนวปะการังดังกล่าวนอกจากจะทำหน้าที่เป็นเพาะแหล่งเลี้ยงตัวอ่อนของสัตว์น้ำเศรษฐกิจที่สำคัญแหล่งประมงพื้นบ้านของชุมชนใกล้เคียง ยังเป็นแหล่งหากินและแหล่งพักตัวของแม่เต่าทะเลที่จะขึ้นมาวางไข่บนชายหาดอีกด้วย ซึ่งชายหาดของอำเภอท้ายเหมืองได้ชื่อว่าเป็นแหล่งวางไข่ของเต่าทะเลที่สำคัญ โดยเฉพาะเต่ามะเฟือง เป็นเต่าทะเลชนิดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่ยังคงขึ้นมาวางไข่บนชายหาดท้ายเหมืองอย่างต่อเนื่องตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้แนวปะการังบ้านบ่อดานและบ้านในไร่ ก็ยังเป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่มีความสำคัญทางด้านการประมงชายฝั่งเนื่องจากมีทรัพยากรประมงที่อุดมสมบูรณ์ และยังมีศักยภาพในการพัฒนาเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ในระดับท้องถิ่น WWF-Thailand ได้ตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของแนวปะการังทั้งสองบริเวณดังกล่าว จึงได้พัฒนาแผนการจัดการอนุรักษ์ปะการัง ( Coral reef Action Plan) ขึ้นเพื่อผลักดันให้เกิดการจัดการทรัพยากรที่มีประสิทธิภาพและกำหนดแนวทางการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติได้อย่างยั่งยืน ซึ่งประกอบด้วยเนื้องาน 4 โครงการหลัก คือ การติดตั้งทุ่นผูกเรือ การฟื้นฟูปะการัง การจัดตั้งศูนย์บริการดำน้ำ และการตั้งศูนย์นิทรรศการ ทั้งนี้ WWF ประเทศไทย ได้ร่วมกับอุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมืองของบประมาณสนับสนุนจากส่วนจังหวัดพังงา ในการลงทุนด้านการจัดการฯ และอนุรักษ์ทรัพยากรดังกล่าว ในเบื้องต้นทางจังหวัดได้เห็นความสำคัญของแผนการจัดการอนุรักษ์แนวปะการังดังกล่าว และได้อนุมัติงบประมาณสำหรับโครงการติดตั้งทุ่นจอดเรือ และทุ่นหมายจุดดำน้ำบริเวณแนวปะการังหาดท้ายเหมืองเพื่อรองรับการท่องเที่ยวดำน้ำในอนาคต ในการนี้คณะผู้เชี่ยวชาญทั้งจาก WWF ประเทศไทย และอุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมืองได้ร่วมกันสำรวจและติดตั้งทุ่นจอดเรือ ซึ่งกำหนดให้ติดตั้งโดยรอบขอบเขตแนวปะการังจำนวน 20 ทุ่น เป็นทุ่นขนาดใหญ่สีเหลืองที่อนุญาตให้เรือประมงขนาดเล็ก เรือหางยาว และเรือท่องเที่ยวดำน้ำขนาดใหญ่ใช้จอดได้ ส่วนทุ่นหมายจุดดำน้ำในแนวปะการังบริเวณที่มีความสวยงามเพื่อการท่องเที่ยวดำน้ำ เป็นทุ่นสีขาวจำนวน 10 ทุ่น และไม่อนุญาตให้จอดเรือใดๆ จากคุณ : SSAR (darasamuth_hiso) เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 10:30:30

ความคิดเห็นที่ 12 เราจะมีการจัดการ อย่างไรที่จะไม่ให้นักดำน้ำ 3000 คนไปเหยียบย่ำแนวปะการังเหล่านี้ครับ ถ้าจะอนุรักษ์กันจริงๆ ควรจะมีมาตราการเด็ดขาดไม่ให้เรือประมงมาลากอวนมากกว่าไม่ใช่ ไปเก็บขยะ มันปลายเหตุครับ   ขอบคุณครับ จากคุณ : SSAR (darasamuth_hiso) เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 10:34:24

ความคิดเห็นที่ 13 เอามาฝาก *********** เมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 3 ม.ค. เต่ามะเฟืองขนาดใหญ่อายุประมาณ 40 ปี น้ำหนัก ประมาณ 300 กิโลกรัม ขนาดลำตัวยาว 2.07 เมตร กว้าง 1.10 เมตร ขึ้นวางไข่บริเวณชายทะเลหาดท้ายเหมือง ห่างจากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ลป.3 (ปาง) ประมาณ 800 เมตร จำนวน 113 ฟอง เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาลำปีหาดท้ายเหมืองพบว่า เป็นตัวเดียวกันกับที่เคยขึ้นวางไข่เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ครั้งนั้นเต่าตัวนี้วางไข่จำนวน 99 ฟอง คาดว่าจะฝักเป็นตัวออกสู่ทะเลประมาณวันที่ 24 ก.พ. สำหรับไข่ชุดใหม่จำนวน 113 ฟอง เจ้าหน้าที่คาดว่าจะฝักเป็นตัวประมาณวันที่ 3 มี.ค. และคาดว่าเต่าตัวนี้จะขึ้นมาวางไข่อีกครั้งหนึ่งภายใน 10 วันข้างหน้านี้ หรือประมาณวันที่ 12 ม.ค. นาย วัฒนา พรประเสริฐ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมืองกล่าวว่า ปัจจุบันพบว่าเต่ามะเฟืองขึ้นวางไข่ที่หาดท้ายเหมือง จ.พังงา เป็นประจำทุกปีเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย แต่ก็ยังน่าวิตกว่าอาจสูญพันธุ์ในเวลาอันใกล้นี้ เนื่องจากปริมาณการขึ้นวางไข่ของเต่ามะเฟืองลดลงมาก ประกอบกับยังมีผู้นิยมรับประทานไข่เต่าทะเลอยู่ ฉะนั้น จึงเห็นว่านักท่องเที่ยวและราษฎรในพื้นที่ทุกคนควรเห็นความสำคัญของการ อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเต่าทะเลให้อยู่คู่หาดท้ายเหมืองต่อไปตราบนานเท่านาน ด้วยการไม่ลักลอบเก็บไข่เต่าทะเล “สำหรับ ชายทะเลหาดท้ายเหมืองนั้น ถือว่าเป็นแหล่งวางไข่ของเต่าทะเล ซึ่งเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์หลายชนิด ได้แก่ เต่ามะเฟือง เต่าตนุ เต่าหญ้า โดยเฉพาะเต่ามะเฟืองจะพบขึ้นมาวางไข่มากที่สุดเป็นประจำทุกปี จากสถิติย้อนหลังตั้งแต่ปี 2546 ถึงปัจจุบันพบว่าเต่ามะเฟืองขึ้นมาวางไข่ที่หาดท้ายเหมือง จำนวน 17 ครั้ง ได้ไข่เต่า จำนวน 9,909 ฟอง ฝักเป็นตัว 869 ตัว คิดเป็นร้อยละ 8.96 สำหรับเต่าหญ้านั้นยังไม่พบสถิติขึ้นมาวางไข่ในรอบ 7 ปีที่ผ่านมา ส่วนเต่าตนุนั้น พบขึ้นวางไข่เพียง 3 ครั้งในรอบ 7 ปี ได้ไข่เต่า 348 ฟอง ฟักเป็นตัว จำนวน 226 ตัว คิดเป็นร้อยละ 64.94 สาเหตุสำคัญของจำนวนเต่าทะเลที่ลดจำนวนลงอย่างน่าเป็นห่วงก็เนื่องจากการทำ ประมง และการขยายตัวของธุรกิจท่องเที่ยวที่ทำให้พื้นที่วางไข่ของเต่าทะเลถูกรบกวน จากการก่อสร้าง รวมทั้งนักท่องเที่ยวด้วย” นายวัฒนากล่าว   http://tnews.teenee.com/etc/45979.html จากคุณ : *Cookies* เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 12:31:51

ความคิดเห็นที่ 14 นี่ด้วย ************ ศูนย์ข่าวภูเก็ต - คาดไข่เต่ามะเฟือง หาดไม้ขาวภูเก็ตรังแรกแตกออกจากไข่ 17 มี.ค.นี้ ขณะที่ไข่เต่ามะเฟืองรังที่2ของหาดท้ายเหมือง จ.พังงาแตกแล้วพบฟักออกเป็นตัวสูงถึง 71 ตัว ระบุปีนี้ไข่เต่ามะเฟืองขึ้นมาวางไข่มากกว่าปีที่ผ่านมา รวมทั้งรอดฟักออกเป็นตัวสูงกว่า 70%                   นายสมพร อนุพันธุ์ คณะกรรมการศูนย์อนุรักษ์เต่าทะเลบ้านไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต กล่าวว่า ขณะนี้ชาวบ้านกำลังเฝ้ารอการฝักออกจากไข่ของเต่ามะเฟืองรังแรก ที่ขึ้นวางไข่ที่บริเวณหาดไม้ขาว ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ซึ่งปีนี้พบว่ามีเต่ามะเฟืองขึ้นวางไข่จำนวน 2 รังโดยรังแรกคาดว่าลูกเต่ามะเฟืองจะฝักออกจากไข่ประมาณวันที่ 17 มี.ค นี้ ซึ่งจะต้องเฝ้าติดตามโอกาสรองของลูกเต่ามะเฟืองที่ฟักออกมาว่า มีจำนวนมากน้อยแค่ใหน โดยไข่เต่าที่เพาะฟักไว้มีจำนวน 65 ฟอง             อย่างไรก็ตาม สำหรับไข่เต่าชุดแรกที่ฟักออกจากไข่นั้นจะปล่อยกลับสู่ทะเลทันที แต่อาจจะเก็บไว้บางส่วนเพื่อทดลองเพาะเลี้ยง ซึ่งที่ผ่านมาตนเคยเลี้ยงเต่ามะเฟืองที่เพิ่งฟักออกจากไข่มาแล้วยอมรับว่า การเพาะเลี้ยงทำได้อยากแต่ถ้าทำได้ก็จะเป็นเรื่องที่ดี             ขณะที่ นายวัฒนา พรประเสริฐ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง จ.พังงา กล่าวว่า สำหรับไข่เต่ามะเฟืองรังที่ 2 ของชายหาดท้ายเหมือง จ.พังงา ขณะนี้แตกออกจากไข่และปล่อยกลับลงสู่ทะเลแล้ว โดยรังที่ 2 มีไข่เต่าจำนวน 113 ตัว และฟักออกมาเป็นตัวจำนวน 71 ตัว ซึ่งขณะนี้เหลือไข่เต่ามะเฟืองซึ่งรอฝักอีกจำนวน 2 รัง โดยรังถัดไปคาดว่าจะฟักประมาณวันที่ 14 มี.ค นี้             นายวัฒนากล่าวต่อไปว่า สำหรับปีนี้มีเต่ามะเฟืองขึ้นวางไข่ที่บริเวณชายหาดท้ายเหมืองมากถึง 4 รัง และจากการสังเกตุการแตกออกจากไข่ของเต่ามะเฟืองพบว่าลูกเต่ารอดสูงถึง 70% สาเหตุเนื่องจากสภาพอากาศที่เหมาะสม ซึ่งแตกต่างจากปีที่ผ่านมาที่พบเต่ามะเฟืองขึ้นมาวางไข่เพียง 1 รัง เท่านั้น และพบว่าไข่เต่าที่เพาะฟักไม่แตกออกจากไข่ด้วย http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9530000034441 ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 มี.ค. 2553 แก้ไขเมื่อ 19 มี.ค. 53 12:42:25 จากคุณ : *Cookies* เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 12:36:01

ความคิดเห็นที่ 15 ก็ไม่รู้ว่า ท้ายเหมือง มีกี่หาดกันนะ แต่หวังว่า มันคงจะเป็นคนละที่กัน ************ อุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง แหล่งน้ำทะเลสวยใสฟ้าสีคราม ศึกษาสัมผัสวิถีชีวิตของเต่ามะเฟืองที่มีชีวิตเหลืออยู่ ช่วงเทศกาล ท่องเที่ยวหลังปีใหม่นี้ นอกจากภาคเหนือของประเทศไทยที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจไปชมงานพืชสวนโลก อย่างมากมายแล้ว ทางภาคใต้ของประเทศไทยโดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวฝั่งอันดามันในช่วงนี้คือ วิมานสวรรค์ของบรรดานักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เพราะเป็นช่วงที่ทะเลใสฟ้าสวย คลื่นลมนิ่งปราศจากมรสุม แหล่งสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในแถบจังหวัดอันดามันได้มีการจัดเตรียมพร้อมสถานที่และกิจกรรมต่างๆ ไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยว เช่นเดียวกับอุทยานแห่งชาติเขาลำปีหาดท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา เป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวนิยมไปท่องเที่ยวพักผ่อนกันมากเพราะ ถนนหนทางการสัญจรไปมาสะดวกสบายติดกับตัวอำเภอท้ายเหมือง มีชายหาดยาวประมาณ 27 กิโลเมตร ชายหาดแห่งนี้จะมีเต่าทะเลขึ้นมาวางไข่เป็นประจำทุกปี ทางจังหวัดร่วมกับทางอำเภอท้ายเหมืองได้จัดงานประเพณีปล่อยลูกเต่าขึ้นทุกปี เช่นกัน นอกจากนี้ยังจัดกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวเดินสำรวจไข่เต่าที่มาวางไข่ โดยทางอุทยานจะมีกฎระเบียบในการเดินชมไข่เต่าให้นักท่องเที่ยวปฏิบัติโดย เคร่งครัด เพื่อปลูกฝังให้นักท่องเที่ยวทั่วไปได้เห็นถึงความสำคัญของเต่าบางชนิดที่ กำลังจะสูญพันธุ์ และอีกส่วนหนึ่งเพื่อเป็นการเฝ้าระวังพวกชาวบ้านบางคนที่ขโมยไข่เต่าไปขาย หรือจำพวกสัตว์เลื้อยคลานที่ชอบกินไข่เต่าเป็นอาหาร http://www.ryt9.com/s/bmnd/705684 จากคุณ : *Cookies* เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 12:40:16

ความคิดเห็นที่ 16 ทีนี้ ก็ข่าวที่เป็นทางการ(ละมัง) อ่านแล้วก็งงๆอยู่ จะดำน้ำเก็บขยะใต้ทะเล ทำลายสถิติโลก แต่ดำ 10 เมตร หนึ่งนาที แล้วจะเก็บขยะยังไง? ******** จังหวัดพังงาจัดกิจกรรมนักดำน้ำเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมโดยการเก็บขยะใต้ทะเลทำลายสถิติโลก นายเยี่ยมสุริยา พาลุสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการจัดกิจกรรมนักดำน้ำเก็บขยะใต้ทะเลอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจำนวนมากที่สุดในโลก โดยมี นายวรพจน์ รัฐสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัด และคณะกรรมการจัดกิจกรรม เข้าร่วมประชุม ณ ศาลากลางจังหวัดพังงา ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา กล่าวว่า บริษัท Have A good Dream ผู้ผลิตรายการ “ The One รวมไทยใจเดียวกัน” ต้อง การรณรงค์ เพื่อให้คนไทยเกิดความร่วมมือร่วมใจ รู้รักสามัคคี และทำกิจกรรมส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยให้คนทั่วโลกได้เห็น โดยเชิญชวนให้คนไทยมาร่วมจัดกิจกรรมนักดำน้ำจำนวนมากที่สุดในโลกในพื้นที่ จังหวัดพังงาเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมโดยการเก็บขยะใต้ทะเลทำลายสถิติโลก ประมาณ ๓,๐๐๐ คน ณ หาดท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ในวันที่ ๓ เมษายน ๒๕๕๓ เวลา ๑๑.๐๐ น. โดยเชิญชวนนักดำน้ำจากทุกภาคส่วนของประเทศจำนวน ๓,๐๐๐ คนเข้าร่วมเพื่อทำลายสถิติโลกที่ประเทศอินโดนีเซีย ได้ทำมาก่อนหน้านั้นคือจำนวน ๒,๔๘๖ คน สำหรับกติกาคือ นักดำน้ำทั้งหมดจะต้องดำน้ำลึกประมาณ ๑๐ เมตร และดำน้ำนานเป็นเวลา ๑ นาที โดยจะทำการบันทึกเพื่อทำลายสถิติโลกในกินเนสก์ บุค ทั้งนี้บริษัท Have A good Dream ผู้ผลิตรายการ “ The One รวมไทยใจเดียวกัน จะได้เชิญสื่อมวลชนทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ของประเทศไทย รวมทั้งสื่อมวลชนต่างประเทศ อาทิ สำนักข่าว Reuters , CNN และ NHK, เข้าร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมดังกล่าว สำหรับผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมดำน้ำอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเพื่อทำลายสถิติโลก มีบริการที่พักฟรีริมชายหาดท้ายเหมือง หรือ ถ้าต้องการพักในโรงแรมบริเวณเขาหลักลดค่าใช้จ่าย ๕๐ เปอร์เซ็นต์ สำหรับ การเดินทางมีรถปรับอากาศรับส่งฟรี จากกรุงเทพถึงพังงา หรือ จะนำรถยนต์ส่วนตัวมาเองก็ได้ นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมดำน้ำทุกคนจะได้รับประกาศนียบัตรและบันทึกในกินเนสบุ๊ค ในฐานะผู้ทำลายสถิติดำน้ำอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมากที่สุดในโลกด้วย http://www.oknation.net/blog/panyee/2010/03/09/entry-1 *********** จากคุณ : *Cookies* เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 12:55:25

ความคิดเห็นที่ 17 10 เมตร 1 นาที จะเอาแท้งค์ลงไปทำไม ฟรีไดฟ์ลงไปได้อย่างสบาย แล้วมันจะเก็บขยะได้ยังไง งง จากคุณ : SSAR (darasamuth_hiso) เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 14:00:29

ความคิดเห็นที่ 18 ถ้ารวบรวมคนดำน้ำได้ไม่ถึง 3,000 คน หรือ น้อยกว่า 2,486 คน ภายในวันนั้น.. จะทำยังไงต่อ..ครับ.. จากคุณ : tintin เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 15:59:53

ความคิดเห็นที่ 19 มีวิดิโอสำรวจแนวปะการัง หน้าหาดท้ายเหมือง http://video.mthai.com/player.php?id=17M1183450966M0 จากคุณ : q_cosmo เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 17:51:27

ความคิดเห็นที่ 20 เห็นด้วยกับคห. 5  ครับ ฮ่ะ ฮ่ะ ผมเพียงแต่ไม่เข้าใจว่าถ้าคุณ Arson เป็น organizer ทำไมถึงได้แก้ปัญหาด้วยการย้ายที่น่ะครับ อย่างอื่นไม่มีอะรไครับ  ขอโทษที่ไปขัดใจ  หุ..หุ.. ผมมาทราบเรื่องโครงการฯ ที่ว่าข้างบนเนี่ย เค้าก็ออกข่าวกันแล้ว เราเองก็คงมีทางเลือก 2 ทางคือ เห็นด้วย กับไม่เห็นด้วย ถ้าไม่เห็นด้วยก็จบกันไป... ถ้าเห็นด้วย.. ก็คงต้องช่วยกันสนับสนุน แล้วช่วยกันคนละไม้คนละมือ เพื่อให้งานนี้ลุล่วงไปด้วยดี มีอะไรก็ช่วยกันเสนอแนะ.. ผมว่าคนไทยถ้าจะทำอะไร ก็คงไม่แพ้ชาวโลกครับ.. ผมเองแค่คิดถึงคน 3000 คน แจกข้าวกล่องคนละกล่อง แจกน้ำคนละขวด.. แค่นี้ก็ขยะบาน..แล้วครับ ทั้งกล่องโฟม, ช้อน, ขวดพลาสติค ฯ  คิดแค่นี้ก็สยองแล้ว.. 55   แต่ก็คงต้องขอดูในรายละเอียดว่า.. การจัดการของผู้จัดงานเป็นยังไงก่อน ซึ่งผมโทรไปวันนี้ ก็ได้รับแจ้งว่ากำลังประชุมสรุป พรุ่งนี้ 4 โมงเย็น คงเสร็จเรียบร้อยทุกอย่าง.. แล้วจะแถลงให้ทราบอีกทีละครับ เกี่ยวกับหมายกำหนดการ  และวิธีการต่างๆ คงจะได้รู้กัน ว่าเค้ามีวิธีการจัดการอย่างไรน่ะครับ.. ปัญหาเรื่องของการทำลายปะการัง ทางผู้จัดก็ทราบดี และแจ้งว่าได้ทำการวางทุ่นกั้นแนวปะการังไว้แล้ว และกำลังคัดกรองระดับของนักดำน้ำที่กรอกใบสมัครกันอยู่  (ก็เล่าเท่าที่ทราบละกัน) ได้ฟังอย่างนี้แล้วค่อยดีใจหน่อย ว่ามีการสำรวจ และวางแผนกันเรียบร้อยแล้ว ถ้าได้ข่าวยังไงจะมาแจ้งให้ทราบอีกที ก็เห็นด้วยกับที่คุณ Arson ว่าไว้ครับ "จะได้ช่วยๆกันออกความเห็นก็ได้ ว่ามันควรจะมีอะไร บ้างจุดที่มันมองข้ามไปบ้างนะครับ" จากคุณ : ตะวันลับฟ้า เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 22:59:56

ความคิดเห็นที่ 21 อยากจะพูดอย่างแรกว่า... ผมเป็น Organizer ก็จริง แต่ตัวผมไม่ได้รับงานนี้...(หรือทำงานนี้) ฉะนั้น ผมจึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องแก้ปัญหาครับ..... ถ้าให้ผมออกความเห็น(ซึ่งมันก็เป็นความเห็นไม่ใช่หน้าที่ ที่ผมต้องไปแก้ปัญหา) ก็คือการย้ายที่น่าจะดีกว่า และเป็นทางออกที่น่าสนใจกว่า (แต่เข้าใจเรื่อง สัญญาน ระหว่าง ทางรายการทีวี และ ภาครัฐ) แต่ถ้าผมเป็น หนึ่งในทีมของฝ่าย Production ซึ่งอาจจะเป็นทีมใน Organizer ก็ต้องออกความเห็นก่อนที่ทำ PR ให้ข้างนอกทราบ (แต่เมื่อประกาศออกมาแล้วก็คงแก้ไขอะไรไม่ได้) ซึ่งตัวผมมองว่า เกาะเต่า น่าจะมีความพร้อมมากกว่า ทั้งนี้ ต้องนั่งหาข้อมูลมาหักล้างในที่ประชุมอยู่ดีนั้นแหละแล้วสรุป ก่อนที่จะไปติดต่อภาครัฐ ให้เข้ามาช่วยสนับสนุน มันเป็นสาเหตุในตอนแรกว่าทำไมผมถึงบอกว่าไปเกาะเต่าดีกว่า........ แล้วที่ บอกว่าเป็น Organizer เพราะว่า จัดงานพวกนี้มา จึงรู้ว่าปัญหามันจะเกิด เรื่องที่ไม่คิดคาด ความตั้งใจของผู้เข้าร่วมงาน ความพร้อมของสถานที่ต่างๆ มันเป็นอย่างไร มนุษย์ทำอะไรได้บ้างเวลาไม่พอใจ หรือ มนุษย์สามารถทำอะไรที่เราคาดไม่ถึงบ้างในสถานการณ์แบบนี้ ซึ่งในฐานะที่เคยทำงานนี้มา และพอมีประสบการณ์ดำน้ำอยู่บ้าง จึงพอมองเห็นภาพออกว่ามันน่าจะเป็นอย่างไร แค่อธิบายให้เข้าใจครับว่า มันเป็นแค่ความเห็นนะครับ ไม่ช่ายหน้าที่ ที่ผมจะต้องไปแก้ เท่านั้นเอง จากคุณ : Arson เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 23:42:12

ความคิดเห็นที่ 22 คิดเล่นๆ นะครับ  ปกติหัวไหล่ ถึงหัวไหล่คนเราจะประมาณ 50 - 80 cm. ถ้าตั้งแถว แถวละ 1,000 คนจะได้ตัวเลขประมาณ 50,000 -80,000 cm. หรือประมาณ 500 - 800 เมตร คิดแบบไหล่ชนไหล่นะครับ ถ้าห่างออกมา 1 ช่วงแขน ก็จะกินพื้นที่อีกมากกว่าเดิมอีก  1 คน จะต้องใช้พื้นที่ 1.5 - 2 เมตร รอบตัว ฉนั้น  1 แถว (1,000 คน) จะกินความยาว 1.5 - 2  กิโลเป็นอย่างน้อย  ตั้งแถว 3 แถว ห่างกัน แถวละ 3-5 เมตร  ผมว่า ฟองอากาศ การตีฟิน  ทรายที่จะขึ้นมา สัตว์น้ำที่แตกตื่น การพัง หัก หรือการทำลาย สูงมากทีเดียว ต้องหาวิธีจัดการดีๆ เลยแหละครับ แต่สงสัยว่าจะอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมยังไง เอาถังมาจากไหน 3,000 ใบ คิดก็ปวดหัวแล้ว แต่ถ้าฟังว่าดำที่ 10 เมตร 1 นาที  น่าที่จะฟรีไดว์ลงไปมากกว่า แต่ถ้าฟรีไดว์ คงมีชนกันมั่งแหละครับ หรืออาจจะมีการกอดรัดกันใต้น้ำ หรือที่ผิวน้ำ คิดแล้วสยองน่าดู จากคุณ : NUUPAE เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 53 13:46:17

ความคิดเห็นที่ 23 เรื่องนี้ คน 3,000 คน ที่ชายหาด ไม่มีปัญหากับเรื่องเต่าทะเลแน่นอนครับ (ฟันธง) แต่สำคัญอย่ามีขยะทิ้งไว้ละกัน ปัญหาน่าจะอยู่ที่การจัดการการดำน้ำไม่ให้กระทบแนวปะการังมากกว่า เรื่องดำ 1 นาที คือการทำลายสถิติ แต่เวลาที่เหลือคือกิจกรรมอนุรักษ์คับ (จัดการให้ดีมันก็คงดีแหละคับ) อยากเห็นแผนของผู้จัดมากกว่า ทั้งด้านอนุรักษ์และด้านความปลอดภัย จากคุณ : DOTA online เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 53 07:50:27

ความคิดเห็นที่ 24 หากลงดำน้ำตรงหน้าหาด ไปถึงแนวปะกางรัง สงสัยว่าจะว่ายน้ำกันน้ำลายเหนียวคอแน่ๆ ไกลไปหน่อย จากชายหาดลงไปเรื่อยๆน้ำไม่ลึกมากจนถึง 10 เมตรแน่นอน กว่าจะถึงบริเวณที่ลึกสิบเมตร เลยแนวปะการังออกไปแล้ว บริเวณแนวปะการังพันไร่ นั้นความลึก เฉลี่ยแต่ 7-8 เมตรเท่านั้นเอง ถ้าจะให้ลึกถึง 10 เมตร ต้องออกไปทางตะวันตก เมื่อพ้นแนวปะการัง ไปแล้วจะเป็นลานทราย แล้วถ้าจะดำน้ำที่ความลึก 10 เมตร ต้องว่ายน้ำออกจากชายหาด ประมาณ 1.5 กิโลเมตร หรือถ้าจะเอาเรือออกไป คงต้องออกเรือจากท่าเรือทับละมุ ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 30 นาที แล้วต้องใช้เรือกี่ลำกัน ที่จะบรรทุกนักดำน้ำ 3,000 คน จะไหวกันหรือนั่น และที่สำคัญคือ จะหานักดำน้ำมาจากไหน 3,000 คน (คนไทยที่จะร่วมทำสถิติโลก) แนวปะการังหน้าหาดท้ายเหมือง ไม่ได้สวยงามโดดเด่น มากพอที่จะเป็น แหล่งดำน้ำเพื่อการท่องเที่ยวและนันทนาการ เมื่อเปรียบเทียบกับสิมิลัน การเข้าหมายดำน้ำก็ยุ่งยากมาก ท่าเรือสำหรับจอดเรือก็ทำไม่ได้ เพราะเป็นหน้าหาดเปิด รับคลื่นลมหน้ามรสุมเต็มๆ ขนาดทุ่นหมายสำหรับ จอดเรือและหมายดำน้ำ ยังต้องถอดเก็บในช่วงมรสุมเพราะไม่งั้นทุ่นพังหมด นอกจากนั้น ลักษณะเด่นด้านการท่องเที่ยว ของหน้าหาดท้ายเหมือง น่าจะเป็นพวกเล่นกระดานโต้คลื่นมากกว่า เพราะบางช่วงจะมีคลื่นสูง ฝรั่งมาเล่นกันพอสมควร หรืออาจจะเป็นการสนับสนุนการท่องเที่ยว ทางอ้อม เช่น ศูนย์นิทรรศการระบบนิเวศน์ทางทะเลและชายฝั่ง หรือที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการความสงบเงียบและเป็นส่วนตัว จากคุณ : q_cosmo เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 53 10:27:39

ความคิดเห็นที่ 25   ถ้าจะทำลายสถิติ เอาแค่แนวทรายนอกแนวปะการังน่าจะพอแล้วมั้ง อย่าไปหวังด้านความสวยงามในแนวปะการังเลยครับ ส่วนแนวปะการังก็ให้มันอยู่อย่างนั้นแหละอย่าไปยุ่งกับมันเลย ที่จริงถ้ากะจะทำลายสถิติอย่างเดียวก็เลือกที่ๆมันไม่มีทรัพยากรให้หักพังได้ก็น่าจะพอแล้ว ทีนี้ถ้าคนดำไม่ถึง 3000 คน จะทำไง? แล้วถ้าคนดำถึง 3000 คน จะมีการจัดการขนย้ายและทำความเข้าใจกับคนจำนวนมหาศาลขนาดนี้อย่างไร? คำถามสุดท้ายเตรียมความพร้อมไปถึงไหนแล้ว? นี่ก็อีกไม่กี่วันแล้วหนาไหนๆจะจัดแล้วก็หวังว่าคงมีการเตรียมการที่ดีนะครับ. จากคุณ : งานเข้าแว้ว เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 53 22:14:46 A:118.173.30.5 X: TicketID:210939

ความคิดเห็นที่ 26 มีรถบริการรับส่งจาก กทม ด้วย ออกจากศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ   แต่ ถ้าสมัครไป แล้วพอไปถึงไม่ดำน้ำเพราะเกิดอาการไม่สบายใจ แล้วผู้จัดงานเขาจะด่าเราไหมนี่ ไปยืนดูเฉยๆน่ะ ^^ จากคุณ : q_cosmo เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 53 16:36:50

ความคิดเห็นที่ 27 "และที่สำคัญคือ จะหานักดำน้ำมาจากไหน 3,000 คน" เสียดายครับ นักดำน้ำคนไทยมากมาย ถ้าคิดจะช่วยจะสักกี่เปอร์เซ็นกันของนักดำน้ำ...... "ถ้าไทยไม่ช่วยไทย แล้วใครจะช่วยเรา" ดูๆแล้วคล้ายนักวิชาการวิจารณ์ การบริหารประเทศ ...พอมีโอกาสได้ไปบริหารหรือเป็นที่ปรึกษาบ้าง ก็ไม่ได้ความ... สมัยนี้คำว่า "สามัคคี" ยังมีความหมายอยู่หรือปล่าว เสียดายผมดำน้ำแค่ขั้นทารก ไม่งั้นไปแน่นอน ปล.ไปแล้วดูเฉยๆจะไปทำไม เกะกะ เปลือง...ถ้ามีใจไปแล้วก็น่าจะลุยให้ถึงที่สุด(แข่งแล้วแพ้ ดีกว่า แพ้เพราะไม่ยอมลงแข่ง) จากคุณ : supergreen เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 53 18:55:25

ความคิดเห็นที่ 28 ^ ^ ผมว่าเป็นเรื่องไร้สาระมากกว่านะ (ขออภัยที่อาจจะแรงไป) กิจกรรมที่ช่วยชาติช่วยธรรมชาติมากมาย มีให้ทำตั้งเยอะแยะ หน้าหาดท้ายเหมือง ผมเองคงไม่มีความจำเป็นต้องไปร่วมดำน้ำเพื่อ ทำสถิติโลกอะไรกับเขาหรอกครับ เพราะนับตั้งแต่เขาหน้ายักษ์ จนถึงสะพานสารสิน ดำน้ำสำรวจมาหมดแล้ว ขุดหลุมทราย วางท่อน้ำ ทำสมอทราย วางทุ่นจอดเรือ กู้เรือจม ดำน้ำงมของ วันหนึ่งดำน้ำหลายกิโลเมตร ผมก็ถือว่าเป็นกิจกรรมเพื่อชาติ เช่นเดียวกัน หรือนักดำน้ำหลายๆคน ที่เป็นอาสาสมัตร ดำน้ำค้นหาร่าง ผู้เสียชีวิตช่วงเหตุการณ์สึนามิ นั้นเป็นกิจกรรมที่น่าเก็บไว้ในควาทรงจำ และเป็นสถิติโลกด้วยซ้ำ ที่มีนักดำน้ำหลายชาติหลายภาษามาร่วมกันดำน้ำ อย่างเสียสละทั้งเงินและแรงกาย น่าประทับใจมากกว่า การที่คน 3,000 คน ดำน้ำ ลึก 10 เมตร นาน 1 นาทีเสียอีก ถ้าว่าเพื่อเหตุผลเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยว มันก็ไม่น่าจะไปได้รอด หน่วยราชการ รวมทั้งอุทยานเองต้องวิเคราะห์ด้วยว่า ศักยภาพด้าน การท่องเที่ยวดำน้ำของอุทยานแห่งชาตินี้ มีความพร้อมมากน้อยแค่ไหน ไม่ใช่เห็นว่า อุทยานสิมิลัน ทำรายได้หลายสิบหลายร้อยล้านจาก การท่องเที่ยว  อุทยานนี้ก็จะเอามั่ง ท่องเที่ยวกับเขามั่ง ทางจังหวัดเอง ถ้าจะพัฒนาการท่องเที่ยว ก็น่าจะบริหารจัดการเรื่องท่าเรือ ทับละมุให้เรียบร้อย สะอาดสวยงาม และเป็นระเบียบ มากกว่านี้ ให้สมกับเป็นประตูสู่สิมิลันแหล่งดำน้ำที่สวยงามติดอันดับโลกน่าจะดีกว่า นักดำน้ำไทย 3,000 คน ไม่ง่ายนะครับ ที่จะหานักดำน้ำที่มีเวลาว่างตรงกัน และพร้อมที่จะมารวมตัวกันขนาดนี้ เพราะแต่ละคนก็มีหน้าที่การงานกันแล้ว มันไม่ง่ายเหมือน การรวมพลลูกเสือชาวบ้านมาร้องเพลงชาติ, รวมพลกันมาประท้วงรัฐบาล โดยมีหัวคะแนนนักการเมืองท้องถิ่นพามาหรือจ้างมา, บางทีจ้างมาพวกยังหนีกลับบ้านเสียก็มี   ส่วนรายการโทรทัศน์ ก็คือรายการโทรทัศน์ กิมมิค ของรายการคือ การทำสถิติ เพื่อขายโฆษณา การดำน้ำเพื่อการอนุรักษ์ก็เป็นเพียงการตกแต่งหน้าตาของรายการให้ดูดีมีสกุล เพราะมันถูกเขียนไว้ใน proposal เวลาขายงานไปแล้ว อย่างที่อธิบายไว้ใน คห ข้างบน คือถ้าจะดำน้ำ ลึก 10 เมตร ต้องว่ายออกไปไกลมาก ถ้าดำกันแค่ชายหาด ความลึกมันแค่ 4-5 เมตรเท่านั้น ถ้าคน 3,000 คน ดำน้ำแค่บริเวณนั้น ถึงอย่างไรก็ไม่มีทางทำลายสถิติโลกได้ เพราะมันไม่ถึง 10 เมตร หรือหากจะโมเมเอาว่า  ถึง ความลึก 10 เมตรแล้ว ทำสถิติโลกได้แล้ว มันจะกลายเป็นการพร้อมใจกันลวงโลกมากกว่า แทนที่จะมีชื่อเสียงไปทั่วโลก มันจะน่าขายหน้ามากกว่า ปล. การนั่งรถตลอดคืน ย่อมหมายถึงการอดนอน การอดนอนเป็นศัตรูสำคัญของการดำน้ำแบบ Scuba แม้ว่าความลึกเพียง ไม่เกิน 10 เมตร ถ้าอดนอนตลอดคืน แล้วไปดำน้ำแล้วเกิดมีใครตายขึ้นมาสักคนล่ะ มันไม่ใช่แค่เน่าแค่ท้ายเหมือง เท่านั้น มันจะเน่าไปทั้งประเทศ รวมถึง การท่องเที่ยวโดยรวมของประเทศด้วย ที่น่าเป็นห่วงก็คือ อีกไม่กี่วันแล้ว แผนการดำน้ำใน เวบไซด์ ของรายการก็ยังไม่มีเลย ขนาดดำน้ำกับ Buddy ยังต้อง Plan and Dive, Dive as Plan เลย แล้วนี่ 3,000 คน ยังไงดีล่ะ ปล. (อีกที) กรณีนี้ มันแพ้ตั้งแต่ยังไม่ลงแข่งแล้วล่ะครับ คือ 1/รวบรวมนักดำน้ำได้ไม่ถึง 3,000 คน (ถ้าไม่โกง โดยการเอานักดำน้ำชาวบ้านที่ยังไมเป็น Certified Diver) 2/ เป็นไปไม่ได้ที่จะว่ายออกไป จากหาด 1.5 กม เพื่อไปดำน้ำที่ความลึก 10 เมตร นาน 1 นาที 3/ ถ้าเอาเรือออกจากทับละมุ ต้องใช้เรือกี่ลำสำหรับคน 3,000 คน กรณีนี้อาจจะเป็นไปได้ แต่ ในจำนวน3,000 คน ถ้าเป็นเรือหางยาวออกมาจากทับละมุประมาณ 40 นาที มีนักดำน้ำเมาเรือสัก 200 คนก็แย่แล้วครับ หมายเหตุ อาจจะได้นักดำน้ำจากหน่วยงานทางทหารและองค์กรภาครัฐต่างๆมาร่วมด้วย ถ้านักดำน้ำแบบสันทนาการ ทั่วไป แค่รวมกันออกทริปดำน้ำ Liveaboard ยังไม่ค่อยจะครบเต็มลำกันเลยครับ จากคุณ : q_cosmo เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 53 22:02:37

ความคิดเห็นที่ 29 ^ ^ ทำไมวรรคตอนมันมั่วอย่างนั้นอ่า ทำไม่เป็น ขออภัย ^^ จากคุณ : q_cosmo เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 53 22:05:12

ความคิดเห็นที่ 30 เห็นด้วยกะ #28 q_cosmo ปล. ไปแร๊ะส์ ไปดำน้ำแบบไม่ต้องทำสถิติดีกว่า และไม่เห็นด้วยว่า ประเทศไทยต้องดังไปทำไม (ในทางนี้) และยิ่งดัง (ธรรมชาติ)ยิ่งพัง **** อะ มาช่วยคิดอีกหน่อย กิจกรรมมันปนๆกันอยู่ 1. อยากทำสถิติดำน้ำ แต่เอาเรื่องอนุรักษ์โดยการเก็บขยะมาผูกไว้เพื่อเป็นข้ออ้าง?? จริงๆมันแยกกันอยู่ ก็ทำมันคนละที่ก็ได้นิ อยากทำสถิติดำน้ำ ก็ไปหาที่ที่มันเหมาะสำหรับทำสถิติ ที่จัดการกับคนหมู่มากได้ง่าย และให้แน่ใจว่า ไม่มีอันตราย ไม่ทำลายธรรมชาติ 2. เก็บขยะ ก็ไปเก็บในที่ๆมันมีขยะเยอะๆให้เก็บ แบบที่สงขลาเคยจัดกิจกรรมเก็บคราบน้ำมันที่ลอยมาเกยหาดเมื่อปี 2007 และที่กระบี่ คลองแห้ง ที่เคยจัดเมื่อปี 2009 ข้อดีคือ พยายามโปรโมทหาดท้ายเหมือง ให้เป็นที่สำหรับดำน้ำ ซึ่งต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่าง นอกจากความดังจากการทำสถิติ ไม่รู้อะ แต่ไม่เห็นด้วยกับงานนี้สักเท่าไร ยิ่งไปเจอข้อมูลเรื่องเต่าทะเล (ถึงแม้เขาว่า มันจะไม่เกี่ยวกัน) แต่ก็กลัวว่า มันจะเป็น butterfly effect ที่เรายังมองไม่เห็น **** ปล. 3 โพสท์แล้วมาเจอข้อความข้างล่างพอดี ขอเลิกพูดดีกว่าอะ เพราะเรื่องแบบนี้ทีไร ถูกไล่ให้เลิกดำน้ำทุ๊กกกก..ที.... แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 53 09:45:31 แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 53 09:42:44 แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 53 08:05:19 จากคุณ : *Cookies* เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 08:01:29

ความคิดเห็นที่ 31 มองต่างมุมกันครับ...จะทำลายหรือไม่ คนขนาดนั้นผมว่าต้องมีบ้าง แต่คิดว่าคนริเริ่มคงจะเตรียมการให้พังน้อยที่สุด โลกปัจจุบันนี้มีอะไรก็ต้องเริ่มที่โฆษณา มีโอกาสแล้วก็น่าจะพยายามทำให้ดีที่สุด และถ้า สี่ถึงห้าเมตร ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด คอนเซปเขาแค่ รวบรวมนักดำน้ำสคูบ้า ให้ได้สามพันคนมาดำพร้อมกัน 1.รวมนักดำน้ำสคูบ้าได้สามพันคน 2.ทั้งสามพันคนดำพร้อมกัน 3.ทั้งสามพันคนอยู่ใต้น้ำหนึ่งนาที โดยอาศัยอุปกรณืสคูบ้า หายใจโดยอากาศจากถัง 3.ไม่เห็นจะสนเรื่องความลึกนะ ขอให้ดำได้จำนวน+อุปกรณ์สคูบ้าก็พอ รายละเอียดไม่แน่ใจว่า ผมเข้าใจถูกหรืดป่าว แค่ต้องการทำลายสถิติทางจำนวนเท่านั้น เพื่อโปรโมต..และผลประโยชน์ในทางมหาภาคในวนข้างหน้าต่อไป ปล. ถ้ากลัวธรรมชาติพังนักก็ เลิกดำน้ำกันให้หมด ไม่ว่าดำน้ำเทพแค่ไหนก็ทำลายธรรมชาติอยู่ดี..แค่มากหรือน้อยเท่านั้น จากคุณ : supergreen เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 09:41:48

ความคิดเห็นที่ 32 สงสัยว่า... ต่อไป ถ้าเมื่อไรอยากดำน้ำ คงต้องไปดำนอกบ้าน แถวๆอินโด ฟิลิปปินส์ บอร์เนียว อย่างเดียวซะละมัง จะได้ไม่ถูกข้อหาทำลายธรรมชาติด้วยการดำน้ำในประเทศไทย แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 53 10:02:29 จากคุณ : *Cookies* เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 09:53:23

ความคิดเห็นที่ 33 ที่มีคนจำนวนไม่น้อยไม่เห็นด้วยและโดยมากจะเป็นนักดำน้ำที่มีประสบการณ์ เพราะว่าทางผู้จัดเอง ก็ยังไม่สามารถบอกรายละเอียดให้ชัดเจนได้ ว่ามี Dive Plan เป็นอย่างไร ที่จะไม่ใ้ห้ส่งผลร้ายต่อสิ่งแวดล้อม มีแผนความปลอดภัยในกรณีฉุกเฉินอย่างไร ตามที่ความเห็นข้างบน สงสัยนั่นนั่นล่ะครับ ส่วนผมเอง เห็นว่าผิดตั้งแต่คอนเซ็ปท์แล้ว เพราะที่มา มันมาจากรายการทีวี ที่ต้องการทำลายสถิติโลกใ้ห้ได้ 10 อย่าง โดยที่ดำน้ำเป็นหนึ่งในนั้น ยิ่งพิจารณาถึงการจัดการที่ไม่ชัดเจนและผลเสียต่อสถานที่แล้ว ยิ่งไม่อยากตกเป็นเครื่องมือทางการค้าของใคร นั่นล่ะครับเหตุผล ถามคนที่เป็นคณะกรรมการจัดงานด้วยคำถามที่ผมสงสัย ได้คำตอบมาแต่ว่า "เป็นนโยบายของผู้ว่า...." ยิ่งตอกย้ำคำตอบของตัวเองให้ชัดเจนขึ้นไปอีก แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 53 10:26:00 จากคุณ : zoopod เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 10:24:05

ความคิดเห็นที่ 34 เราคงจะปฎิเสธไม่ได้ว่า การดำน้ำ ไม่ว่าจะอย่างไร ก็ทำลายธรรมชาติทั้งนั้นแหละ มากน้อยเท่าไหร่เท่านั้นเอง  ไม่ว่าจะดำที่ไหนในโลกก็ไม่แตกต่าง... ผมก็กำลังรอผลการแถลงการอยู่เหมือนกัน.. ก็ต้องดูก่อนว่าการดำเนินการของผู้จัด มีการวางแผนไว้อย่างไร ที่ได้ยินจากเพื่อน เค้าบอกว่าจะให้นักดำน้ำลงจากเรือนะครับ ไม่ได้ว่ายจากหาดลงไป ทั้งเรือหางยาว แล้วก็เรือยกพลขึ้นบก.. ผมโทรไปขอรายละเอียด  ก็บอกว่ากำลังจะแถลงข่าวกันอยู่ เดี๋ยวโทรไปถามใหม่ อ่ะ..อ่ะ.. ถ้าฟังแล้วดูดี  ก็น่าจะไปร่วมงานกันนะผมว่า  ไม่ว่าใครจะเป็นผู้จัด ไม่ว่าจะจัดแล้วได้อะไร เพื่อผลอะไร ฯ  ผมว่าถ้าเราทำได้สำเร็จ และด้วยการจัดการที่ดี  ชื่อเสียงก็ตกอยู่กับประเทศไทยทั้งสิ้น... เป็นเรื่องธรรมดา ที่จะมีทั้งผู้ที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย เหอ..เหอ.. การนำข้อมูลมาชี้แจงกันในพันทิป ก็น่าจะเป็นประโยชน์กับผู้จัดบ้างละผมว่า ช่วยกันคนละไม่คนละมือ.. งานนี้จะสำเร็จได้หรือไม่ได้ ก็ขึ้นอยู่กับเราจะร่วมมือร่วมใจกันขนาดไหนเท่านั้นเอง.. จากคุณ : ตะวันลับฟ้า เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 13:57:27

ความคิดเห็นที่ 35 ^ ^ ช่ายแย๊ว ดำน้ำที่ไหน ก็ทำลายธรรมชาติเท่าๆกัน และทำให้เกิดรายได้ท้องถิ่นพอๆกัน แต่เราเป็นคนไทยนิ ถ้ามีคนกล่าวหาว่า การดำน้ำในประเทศไทย เป็นการทำลายธรรมชาติของเรา เราก็ไปดำที่อื่นยังงายล่ะ.....เพราะไม่ใช่บ้านเรา 55555+ เลิกโปรโมทการดำน้ำเสียเหอะ ทำไปทำไม ดำน้ำก็โดนด่า ไม่ไปดำน้ำ ก็โดนด่าอีกแฮะ จากคุณ : *Cookies* เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 14:55:46

ความคิดเห็นที่ 36 ^ ^ ไปดำบ้านคนอื่น เงินทองรั่งไหลนะ ดำทีไม่ใช่ถูกๆ จะหอบเงินไปให้เขาทำไม ยางไงซะ มนุษย์ก็ทำลายธรรมชาติที่สุดอยู่แว้ว ความเจริญทางวัตถุมันสวนทางกับความเจริญทางธรรมชาติ รถยนต์ เรือ เครื่องบิน ถุงพลาสติก เครื่องปรับอากาศ  ใกล้ตัวยิ่งก่าดำน้ำอีกและอีกจิปาถะ เอาเรื่องนี้มาอ้าง มีแต่จะเข้าตัวมนุษย์ทุกคน...คร้าบบบบบบ จากคุณ : supergreen เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 15:27:48

ความคิดเห็นที่ 37 รอคอยแผนการดำเนินงาน....กำหนดการ....สถานที่....การจัดการ....ฯลฯ ของผู้จัดงานที่แน่นอนอยู่นะคะ ไม่อย่างนั้น ไม่ทราบจะวิเคราะห์วิจารณ์อย่างไรถูก... แต่อ่านความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของหลายๆท่านแล้ว ก็ชื่นใจและใจชื้น,,,,ทะเลไทยไม่ไร้คนรักและรักษ์แล้วล่ะค่ะ..... จากคุณ : สายชล เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 15:40:27

ความคิดเห็นที่ 38 มีเพื่อนมาบอกข่าวเหมือนกันเรื่อง ดำน้ำจากเรือ ลำเลียงพล แต่กว่าจะขึ้นเรือลงเรือกันครบ 3,000 คน คงใช่เวลาไม่น้อย ปัญหาเรื่องดำน้ำที่ท้ายเหมือง ที่ส่งผลกระทบต่อธรรมชาติ ผมไม่คิดว่าจะเป็นผลเสียมากนัก แต่สิ่งที่น่าวิตกก็คือ   การฉวยประโยชน์ จากความรู้เท่าไม่ถึงการของเอกชน ที่มีต่อ หน่วยงานของรัฐ ไม่ว่าจะเป็น จังหวัดพังงา, กรมอุทยาน, ฐานทัพเรือ และอีกหลายหน่วยงาน โดยใช้ประเด็น "สนับสนุนการท่องเที่ยว" ก่อนอื่น ลองทำความเข้าใจพื้นที่หน้าหาดท้ายเหมืองกันก่อนนะครับ หาดท้ายเหมืองเป็นหาดเปิดความยาวตั้งแต่สะพานสารสิน เรื่อยไปจนถึง บริเวณเหนือสุดใกล้ที่ตั้งที่ทำการอุทยานแห่งชาตอเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง ช่วงบริเวณโคกกลอย ชาวบ้านใช้ประโยชน์จากพื้นที่หน้าหาด และแนวปะการัง ประกอบประชีพประมงเรือเล็ก และสูบน้ำทะเลมา ใช้ในการเพาะเลี้ยงลูกกุ้ง ทั้งที่เป็นของชาวบ้านในท้องถิ่นและ การลงทุนจากต่างชาติ การสูบน้ำทะเลนั้นใช้การวางท่อลงไปในทะเล ปลายท่อจะอยู่ห่างจากชายหาดตั้งแต่ 200-400 เมตร มีความพยายามจะใช้พื้นที่บริเวณบ้านโคกกลอยพัฒนาเป็นท่าเรือ เพื่อการท่องเที่ยว เมื่อหลายปีมาแล้ว แต่ปัจจุบันสะพานท่าเทียบเรือนั้น ใช้การไม่ได้เพราะโดนคลื่นลมในหน้ามรสุมพัดจนเสียหาย และการจอดเรือ ในเวลาลมสงบก็ทำไม่ได้ เพราะพื้นที่ไม่ได้เป็นอ่าวที่น้ำนิ่งพอสำหรับการจอดเรือ จังหวัดพังงา สูญเสียงบประมาณไปจำนวนมหาศาล ขณะเดียวกัน การขยายตัวข้องโรงแรม ก็มีเพิ่มมากขึ้นเพราะไม่ไกลจาก สนามบินภูเก็ต โดยกลุ่มลูกค้า จะเป็นกลุ่มชาวยุโรป สูงอายุที่ต้องการ ความเงียบสงบเป็นส่วนตัว ถัดจากบ้านโคกกลอย ก็เป็นท้ายเหมือง พื้นที่หน้าหาดเกือบร้อยละ 70 เป็นเขตอุทยานแห่งชาติ หาดทรายที่หาดท้ายเหมืองขาวสะอาด แต่ก็ มีความลาดชันมาก พอสมควร และด้วยความที่เป้นหาดเปิด และรับลม ทำให้คลื่นหน้าหาดท้ายเหมือง จะมียอดคลื่นที่สูง การจอดเรือหายาว เรือเล็ก ทำได้ลำบาก จากหน้าหาด ออกไปพื้นทะเลจะเป็นลานทราย ความลึกของน้ำประมาณ 4-5 เมตร จากนั้น จะเป็นแนวปะการังขนาดใหญ่ ที่เรียกว่า ปะการังพันไร่ ขนาดของแนวปะการัง จากเหนือจรดใต้ประมาณ 1.7 กิโลเมตร ทางฝั่งตะวันออกไปทางตะวันตกประมาณ 600-800 เมตร บางช่วง ก็กว้างมากกว่านี้   แนวปะการังนี้ชาวบ้านรู้จักดี เพราะเป็นพื้นที่ทำมาหากินของชาวบ้าน ที่ประกอบอาชีพประมงเรือเล็ก โดยใช้เบ็ดตกปลา ปลาที่ได้จะเป็นปลา ขนาดกลาง น้ำหนักประมาณตัวละ 7 ขีด จนถึง 1 กก ชาวประมงจาก จากหมู่บ้านทางเหนือและทางใต้ของอุทยานใช้พื้นที่นี้ทำประมงมานานแล้ว จากการที่เป็นแนวปะการังแข็ง จึงเป็นพื้นที่ชั้นดีในการเป็นแหล่งอนุบาล ลูกปลาวัยอ่อน หลายชนิดและเมื่อตัวโตขึ้นก็จะว่ายออกไปหากินใน ทะเลลึก ปลานกแก้วหัวโหนก ตัวขนาดกลางๆฝูงละไม่ต่ำกว่า 50 ตัว สามารถพบได้ที่นี่ เช่นเดียวกับ ปลาฉลามพยาบาล และฉลามเสือดาว ที่มักอาศัยซอกหินหลบนอน และพื้นทรายเป็นพื้นที่หาอาหาร ท้ายเหมืองกับการท่องเที่ยว มีความพยายาม ในการค้นหาแหล่งดำน้ำ ใหม่ๆใกล้ชายฝั่ง ของร้านดำน้ำและผู้ประกอบการท่องเที่ยว ในเขาหลัก เพื่อเป็นทางเลือกให้กับนักดำน้ำ นอกเหนือจากการไปดำน้ำ Day Trip ที่สิมิลันที่ต้องเดินทางไปกับเรือ speed boat มากกว่า 2 ชั่วโมง เพื่อดำน้ำ 2 ไดว์ ในราคาประมาณ 4,000-5000 บาท ท้ายเหมือง คือเป้าหมายของการค้นหา และการจัดการเรื่องการดำน้ำ เพื่อการท่องเที่ยว แต่ อุปสรรคของหาดท้ายเหมืองก็คือ 1 ความสมบูรณ์ของแหล่งดำน้ำ จากวิดิโอที่ทำ link เอาไว้ข้างบน  จะเห็นได้ว่า แนวปะการัง ยังไม่มีความโดดเด่นมากเพียงพอจนสามารถ  นำไปเป็นจุดขายของนักดำน้ำโดยเฉพาะชาวต่างชาติได้ง่ายนัก 2 ทัศนวิสัยใต้น้ำ ที่น่าจะเรียกได้ว่าไม่ค่อยดีนัก เพราะเนื่องจาก  อยู่ใกล้ชายฝั่ง มีตะกอนคลุ้งอยู่ทั่วไป นอกจากนั้น ช่วงหลังเที่ยง  น้ำจะ เสิรชมาก โยนขึ้นโยนลงตลอดเวลา 3 หลังจากบ่ายโมงเรื่อยไป คลื่นลมจะแรงมากขึ้น ไม่สะดวกต่อการดำน้ำ 4 ช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการดำน้ำ ไม่สามารถทำได้ในฤดูมรสุม  คลื่นหน้าหาดจะสูงมาก แต่ก็นับว่ายังดีที่ไม่มี ริปเคอรเร้นท์ 5 การเข้าถึงหมายดำน้ำ ระยะทางจากตัวเมืองภูเก็ตประมาณ 55 กม  จากเขาหลักประมาณ 25 กม ถ้าดำน้ำแบบ day Trip หากมีนักดำน้ำ  ในแต่ละทริปน้อยกว่า 6 คน จะไม่คุ้มต้นทุน เพราะต้องขายในราคา  ประมาณ 1,350 บาท รวมอาหารกลางวันและเครื่องดื่ม แทงค์ ตะกั่ว  อุปกรณ์ ไดว์ลีดเดอร์ คนขับรถ  5.1 หากเดินทางมาทางเรือที่สะดวกที่สุดคือ มาจากท่าเรือทับละมุ  ซึ่งต้องใช้เวลาอย่างน้อย 30 นาที หรืออาจจะถึง 45 นาที เวลาขนาดนี้  นานเกินไป สำหรับแหล่งดำน้ำท้ายเหมือง กล่าวคือ ไม่คุ้มค่าการเดินทาง  5.2 หากมาทางรถยนต์ แล้วใช้วิธี beach Dive แนวปะการังก็อยู่ห่างจากฝั่ง  มากเกินไป นั่นคือ ประมาณ 500 เมตร แต่ถ้าใช้เรือเล็กแบบเรือ ดิงกี้  การเข้าจอดหน้าหาดก็ไม่ค่อยสะดวกนักเพราะหาดจัดการดำน้ำเพื่อ  ธุรกิจท่องเที่ยว จากคุณ : q_cosmo เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 15:53:42

ความคิดเห็นที่ 39 หาดท้ายเหมืองกับการท่องเที่ยว ข้อจำกัดประการหนึ่งของเจ้าหน้าที่จากหน่ายงานของรัฐ ในการประเมินศักยภาพด้านการท่องเที่ยว ของแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ แหล่งท่องเที่ยวแต่ละแห่งจะมีลักษณะเฉพาะที่เหมาะสม ต่อกิจกรรมการท่องเที่ยวที่แตกต่างกัน เช่น บ้านบ่อท่อ ที่กระบี่ เหมาะสมกับการพายเรือคายัก ชมธรรมชาติในป่าโกงกาง ดอยอินทนนท์เหมาะสมกับการดูนก พัทยาเหมาะกับการท่องเที่ยว แบบกิจกรรมบันเทิง หลายครั้งหลายกรณี ที่มีการจัดกิจกรรมโดยความร่วมมือของ เอกชนและหน่วยงานของรัฐเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการท่องเที่ยว แต่การขาดความรู้เรื่องธุรกิจท่องเที่ยว, ความรู้เรื่องการบริหารจัดการ, และเหตุผลอันเนื่องมากจากผลประโยชน์แอบแฝงอื่นๆ ทำให้หลายๆงาน กลายเป็นงานที่ล้มเหลวอย่างน่าเสียดาย(งบประมาณ) ตัวอย่าง การจัดงานเปิดฤดูท่องเที่ยว (จำชื่องานไม่ได้) ไม่มีอะไรมากไปกว่า เชิญผู้ประกอบการเข้าร่วมงาน  มีขบวนพาเหรด แล้ว ท่านอะไรสักท่านหนึ่ง มากล่าวเปิดงาน แล้วก็มีการออกร้านขายของ สื่อมวลชนไทยไปทำข่าว (ก็เขาให้ไปฟรีนี่นา)  สื่อมวลชนต่างประเทศ ไม่มีเลย แล้วก้ไม่ทราบว่าจะประชาสัมพันธ์ให้ใครเขาไปเที่ยวกัน นักดำน้ำที่ไปเขาหลักพังงา ไม่จำเป็น ต้องอาศัยข่าวและการประชาสัมพันธ์ประเภทนี้ อีกงาน คือ งานรำลึกครบรอบเหตุการณ์สึนามิ มีการจุดโคมลอยจำนวนมาก อาจจะดูตื่นตาตื่นใจสำหรับนักท่องเที่ยวบ้าง แต่กิจกรรมในงานกลับเป็น ความเศ้าสร้อยและหดหู่ใจ นักท่องเที่ยวหลายคน ก็ไม่ได้สนใจกับกิจกรรม นี้มากนักและยังมีคำถามว่าต่ออีกว่า โคมมันตกลงทะเลแล้วใครไปเก็บ     ความเป็นไปได้ด้านการท่องเที่ยวของหาดท้ายเหมือง ทำเลที่ตั้ง เป็นพื้นที่ที่เป็นทางตัน เข้าออกได้ทางเดียว และเป็นพื้นที่อุทยาน เกือบทั้งหมด กิจกรรม ทางทะเลที่ทำได้ คือการเล่น กระดานโต้คลื่น วินเซิร์ฟ ดำน้ำแบบ Scuba ไม่เหมาะแน่นอน  แต่เมื่อ มีกิจกรรมเช่นนี้แล้ว สิ่งที่ต้องรองรับคือ ห้องพักและองค์ประกอบด้านการท่องเที่ยวอื่นๆ เช่น ร้านอาหาร, ธนาคาร, ร้านรับแลกเงิน, และผู้ประกอบการให้เช่าอุปกรณ์ การจัดการทำได้ในบริเวณพื้นที่ภายนอกอุทยาน หรือภายในอุทยานโดยการให้เอกชนเข้ามาใช้พื้นที่ได้บางส่วนโดยไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม อุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง มีจุดเด่นอยู่ที่ป่าฝนเขตร้อน และน้ำตกที่มีน้ำตลอดปี กิจกรรม การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ก็มีศักยภาพ อยู่มาก มีสวนยางที่ร่มครึ้ม สวยงาม และพรรณไม้ป่านานาชนิด แล้วเหตุใด การส่งเสริม กิจกรรมด้านการท่องเที่ยว จึงเกิดขึ้น ที่หาดท้ายเหมือง เพราะ เป็นหาดที่มีขนาดยาว สามารถรองรับนักดำน้ำได้จำนวนมาก และง่ายต่อการบริหารจัดการในการดำน้ำ ทั้งยังส่งผลกระทบต่อธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าหากไปจัดที่สิมิลัน ตรงนี้ไม่มีอะไรน่าติดใจ หากจะมีการทำสถิติ ทำได้หรือไม่ได้ ก็ว่ากันไป แต่ที่น่าติดใจ ก็คือ ประเด็นเรื่อง การสนับสนุนและส่งเสริม การท่องเที่ยวของหาดท้ายเหมือง ต่างหาก ที่ไม่ได้เกี่ยวกันเลย แต่ก็โยงมาให้เกี่ยวกันจนได้ จากคุณ : q_cosmo เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 16:23:38

ความคิดเห็นที่ 40 ขอหาดท้ายเหมืองให้เต่ามะเฟืองวางไข่ หาดท้ายเหมือง เป็นหาดที่หลงเหลืออยู่ไม่กี่แห่งที่เต่ามะฟืองใช้เป็นพื้นที่ สำหรับวางไข่ การวางไข่ของแม่เต่าจะวางหลายครั้ง แล้วก็กลับลงทะเลไปหากิน ในพื้นที่แนวปะการังพันไร่นี้เอง นี่คือลักษณะเด่นของหาดท้ายเหมือง ชาวบ้าน และชุมชนเข้าใจถึงความสำคัญของหาดท้ายเหมืองนี้เป็นอย่างดี จนกลายเป็นประเพณีเดินเต่า เต่ามะเฟืองกับการท่องเที่ยว สัตว์ และธรรมชาติ เป็นสิ่งดึงดูดใจในธุรกิจท่องเที่ยวอย่างไม่มีใครปฏิเสธ ปางช้าง, สวนเสือ,ฟาร์มจรเข้ ทำรายได้เข้าประเทศจำนวนมหาศาลเพราะ กลไกการสร้างคุณค่าและยกระดับสัตว์เหล่านั้นให้แตกต่างไปจากสัตว์ทั่วไป ฟาร์มแกะและการตัดขนแกะ ทำรายได้จากการท่องเที่ยวได้ ทำไมเต่ามะเฟือง จะช่วยชาติเรื่องการท่องเที่ยวไม่ได้ เส้นทางของเต่ามะเฟือง เพื่อยกระดับการท่องเที่ยว หาดท้ายเหมืองมีพื้นที่มากพอสำหรับการเป็นศูนย์เพาะเลี้ยงและอนุบาล เต่ามะเฟือง เพื่อการศึกษาและพัฒนาธุรกิจ   อยากฝากให้หน่วยราชการ(ที่มีวิสัยทัศน์) รับไปพิจารณาด้วยก็แล้วกัน ส่วนการทำสถิติของรายการโทรทัศน์ ก็เป็นเรื่องของธุรกิจโทรทัศน์ พอเอามาโยงเรื่อง ส่งเสริมการท่องเที่ยว พอฟังแล้ว อ่ารมณ์เสีย ^^ จากคุณ : q_cosmo เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 16:37:41

ความคิดเห็นที่ 41 ^ จิ้มไป #36 นั่นไง ตรูว่าแล้ววว... จากคุณ : *Cookies* เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 17:56:08

ความคิดเห็นที่ 42 คุณ q_cosmo วิเคราะห์ได้ตรงประเด็นจริงๆ... สมัยก่อน สมัยที่ยังมีบอร์ด "รักษ์ฉลามวาฬ" อยู่ มีพี่ท่านหนึ่ง (ที่จริงพวกในบอร์ดนั้นเรียกกันว่า "น้า") เป็นช่างภาพมืออาชีพ ที่เดินทางถ่ายภาพเพื่อการท่องเที่ยวมาแล้วทั่วประเทศไทย และเป็นท่านที่ทำให้พวกเราหลายๆ คนสมัยนั้น.. รู้ว่า พังงา เขาหลัก ไม่ได้มีแต่การดำน้ำ... จากคุณ : Wobbegong เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 21:57:30

ความคิดเห็นที่ 43 รอรายละเอียดก็ไม่มาซะที เหอ..เหอ..  เพิ่งจะโทรไปถามที่พังงา.. จนท.ที่อุทยาน ก็เล่ารายละเอียดให้ฟังว่า... บางส่วนจะเดินลงจากหน้าหาด จากหาดลงไป 200 ม. ก็จะเป็นน้ำลึก 10 ม. เป็นลานทราย อีกส่วนหนึ่งก็จะใช้เรือยกพลของทร. 2 ลำ @ 300 คน ไปลงในส่วนที่อยู่ด้านนอกสุด เพื่อประหยัดเวลา มีการตีกรอบไว้สำหรับนักดำน้ำ พร้อมแล้วก็ให้สัญญาลงพร้อมกัน เรื่องความเสียหายที่จะเกิดจากการทำลายปะการัง ก็คิดว่าไม่น่าจะมีเพราะจนท.อุทยาน เป็นคนกำหนดบริเวณเอง ย่อมจะรู้พื้นที่เป็นอย่างดี เรื่องที่ว่า.. จะเป็นการรบกวนเต่าก็ไม่น่าจะเป็นการรบกวน เพราะช่วงวางไข่ของเต่า จะเป็นช่วงเดือน พ.ย.-มี.ค.  รังสุดท้ายเพิ่งจะฟักเป็นตัวเมื่อไม่นาน ซึ่งจนท.อุทยานเป็นคนให้ข้อมูลเอง คิดว่าไม่น่าผิดพลาด ก็น่าจะสบายใจได้.. ในส่วนของเรื่องการทำลายปะการัง,  การรบกวนเต่าที่จะมาวางไข่   ตามที่หลายคนกำลังเป็นห่วงอยู่.. จากคุณ : ตะวันลับฟ้า เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 53 11:40:23

ความคิดเห็นที่ 44 โครงการ The One รวมไทยใจเดียวกัน   รวมพล 3000 คนเพื่อสะท้อนเสียงคนไทยให้คนทั้งโลกได้ร่วมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมทางทะเลพร้อมทำสถิติโลกใหม่  “ดำน้ำพร้อมกันมากที่สุดในโลก” ในวันเสาร์ที่ 3 เม.ย. นี้ ณ อุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง จ.พังงา   ทั้งนี้ ทางคณะผู้จัด ได้แก่ จังหวัดพังงา ,รายการ The One รวมไทยใจเดียวกัน, กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช, กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง  การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, กองทัพเรือ หน่วยงานต่างๆ และชมรมดำน้ำ ได้มีการประชุมเพื่อหารือ และพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการหาสถานที่เพื่อจัดกิจกรรมดำน้ำหลายครั้ง และสรุปลงตัวที่ "หาดท้ายเหมือง" ที่มีความยาวชายหาดถึง 13 ก.ม. ซึ่งเพียงพอต่อการรองรับนักดำน้ำ 3000 คนได้จริง และเป็นสถานที่ๆ ได้มีการค้นพบปะการังแนวใหม่ ซึ่งทางจังหวัดพังงาเห็นควรที่จะส่งเสริมให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวดำน้ำใหม่   ในการทำสถิติโลกใหม่นั้น พื้นที่ที่จะลงดำน้ำนั้น จะถูกกำหนดให้อยู่ในบริเวณที่พื้นล่างเป็นหาดทรายโดยรอบ เพื่อความปลอดภัยของนักดำน้ำเอง และเพื่อแนวปะการังด้วย หลังจากการบันทึกสถิติใหม่เรียบร้อยแล้ว ทางผู้จัดจึงจะแบ่งเป็นกลุ่มย่อย เพื่อที่จะไปทำกิจกรรมต่างๆ :  ปล่อยปลาการ์ตูน / ปล่อยหอยมือเสือ / Fun Dive / เก็บขยะ (ต้องการคนเก็บ ประมาณ 500 คน / Reef Check) **** สำหรับกิจกรรมย่อยต้องแบ่งกลุ่มตามระดับนักดำน้ำ และประสบการณ์ เพื่อความปลอดภัยของนักดำน้ำ และทรัพยากรธรรมชาติ   สำหรับการรองรับนักดำน้ำ 3000 คน ทางอุทยานแห่งชาติเขาลำปี - หาดท้ายเหมือง ได้จัดเตรียมห้องอาบน้ำเพิ่มเพื่อรองรับนักดำน้ำ พร้อมทั้งทางเทศบาลจังหวัดพังงา ภูเก็ต และจังหวัดใกล้เคียงจะนำรถสุขามาเพิ่มให้อีกด้วย ทั้งนี้ภายในบริเวณอุทยานจะไม่อนุญาตให้ใช้โฟมหรือถุงพลาสติก วัสดุสำหรับใส่อาหารจะต้องเป็นวัสดุที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ทางเทศบาลจังหวัดพังงาและอาสาสมัครจากรายการ The One รวมไทยใจเดียวกัน จะช่วยกันดูแลตั้งแต่ก่อนงานเริ่มจนจบงาน จึงมั่นใจได้ว่า ทุกๆท่านที่ไปที่หาดท้ายเหมืองจะได้รับความประทับใจในความสวยงามของชายหาดและแนวปะการังความยาว 2 ตารางกิโลเมตร และได้เป็นส่วนหนึ่งในการรักษาความงดงามของสถานที่แห่งนี้ให้คงอยู่ต่อไป   เพื่อความปลอดภัยของนักดำน้ำ ทางผู้จัดจะจัดกลุ่มนักดำน้ำเป็นกลุ่มย่อยกลุ่มละ 25 คน ในแต่ละกลุ่มจะมี Dive Master / Rescue / Advance และOpen Water อยู่รวมกัน  จะมีเรือใหญ่ 2 ลำบรรทุกคนได้ 300 คน ต่อลำ และเรือหางยาว 30  ลำ บรรทุกคนได้  10 คน ไปส่งนักดำน้ำที่จุดดำน้ำทำลายสถิติโลก ซึ่ง ณ จุดดำน้ำนั้นจะทำเป็นราวเชือก 15 เส้น ให้นักดำน้ำใช้ประคองตัว ระหว่างแนวเชือกจะมีเรือแคนนูเพื่อคอยช่วยนักดำน้ำที่อาจจะเกิดเหตุฉุกเฉินต่างๆ และจะมีเรือพยาบาลที่มีอุปกรณ์ Life chamber 1 ลำเพื่อช่วยเหลือในทะเล และมีรถพยาบาลที่มีอุปกรณ์ Life chamber คอยช่วยเหลืออยู่บนบก พร้อมเตนท์พยาบาล ทางผู้จัดยังได้ขอความร่วมมือจากทางกองทัพเรือและตำรวจน้ำ เพื่อดูแลนักดำน้ำในครั้งนี้   ทั้งนี้ ทางผู้จัดทุกท่านมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะเรียนขอเชิญนักดำน้ำผู้รักปะการังและทะเลทุกท่าน ได้มาร่วมในกิจกรรมครั้งนี้ เนื่องจากทางผู้จัดมีความตั้งใจดีเป็นอย่างยิ่งที่จะทำให้การดำน้ำครั้งนี้ เกิดผลที่ดีแก่ทุกๆ ฝ่าย หากมีความคิดเห็นเพิ่มเติมที่อาจเป็นประโยชน์ หรือข้อสงสัยอื่นๆ กรุณาส่งมาได้ที่ pr@haveagooddream.co.th  หรือ โทร. 02-658-0899 จากคุณ : สายรุ้งบนฟ้ากว้าง เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 53 19:11:28

ความคิดเห็นที่ 45   อ่านรายละเอียดแล้วก็อยากไปค่ะ แต่น่าจะตรงกับวันมอบตัวของนักเรียนมัธยมทั่วประเทศนะคะ สงสัยต้องไปเซ็นชื่อมอบตัวลูกค่ะ จากคุณ : moddy เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 53 21:20:15 A:112.142.28.146 X: TicketID:226429

ความคิดเห็นที่ 46 "แล้วเหตุใด การส่งเสริม กิจกรรมด้านการท่องเที่ยว จึงเกิดขึ้น ที่หาดท้ายเหมือง เพราะ เป็นหาดที่มีขนาดยาว สามารถรองรับนักดำน้ำได้จำนวนมาก และง่ายต่อการบริหารจัดการในการดำน้ำ ทั้งยังส่งผลกระทบต่อธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าหากไปจัดที่สิมิลัน" "ถูกต้องนะคร้าบบบบบบบบ" และเรื่องนี้คงไม่ไร้สาระเท่าไร ผมไม่ได้มองแค่ การประชาสัมพันธ์หาดท้ายเหมือง แต่คือ         "ประเทศไทย"  "ความสามัคคีของคนไทย" ที่อินเดียทำได้ เน้นไหมว่าหาดไหน แต่ที่แน่ๆ คนทั่วโลกรู้จักอินเดียมากขึ้น อยากไปเที่ยวอินเดียมากขึ้น ประเทศไทยเราได้รายได้จากการท่องเที่ยวเท่าไร และถ้าคุณๆมีโอกาสที่จะช่วยประชาสัมพันธ์ประเทศ...คุณจะไม่ช่วยเชียวหรือ ปล.คนไทยทุกคนคงไม่มีใครอยากทำลายทรัพยากรอันมีค่าของประเทศเราเอง แก้ไขเมื่อ 24 มี.ค. 53 22:13:40 แก้ไขเมื่อ 24 มี.ค. 53 22:12:44 จากคุณ : supergreen เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 53 22:11:56

ความคิดเห็นที่ 47   ดำน้ำทำลายสถิติ ใครได้ ใครเสีย ? งานนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อช.หาดท้ายเหมืองมีหวังรับเละ !!! สนง.จังหวัดพังงารับลูกไอเดียจาก บ.ทีวีอะไรซักอย่างที่ลอยตัวอยู่เบี้องหลังปัญหา แล้วจังหวัดก็รับงานมาโยนให้อุทยานฯโดยที่ยังไม่เห็นการสนับสนุนอะไรซักอย่างจากทางจังหวัดนอกจากลมปากที่บอกว่าให้จัดๆไปเถอะ ถ้างานสำเร็จก็ โอเค สำเร็จร่วมกัน... แต่..ถ้าไม่สำเร็จล่ะ คนต้นคิดก็ลอยตัว แต่คนที่โดนโยนงานมาให้ (อ.ช.) ก็โดนด่าเละแต่เพียงผู้เดียว เชื่อเหอะ.. เพราะคนส่วนใหญ่ยังไม่รู้ว่าผู้ใดเป็นเจ้าของไอเดีย ซึ่งทุกคนก็ต้องพุ่งประเด็นไปที่อุทยานฯอยู่แล้วเพราะเป็นคนที่ทุกคนเห็นตัวชัดที่สุด เพราะมีเจ้าหน้าที่ อช.บางท่านได้มาปรึกษาปัญหาชีวิตให้ฟัง ว่างานนี้เป็นงานที่ต้องจำใจจัดเพราะขัดเบื้องบนไม่ได้ และเมื่อทำแล้วก็ต้องทำให้ดีที่สุด ซึ่งก้ไม่รู้ว่าจะถูกใจใครบางคนหรือเปล่า แต่ก็ต้องทำใจ งานนี้ตูโดนอีกแหงๆ(ใจจริงก็อยากให้งานนี้มันล้มๆไปซะ)เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง แถมไม่เป็นผลดีกับทรัพยากรในบ้านเกิดตัวเองอีกต่างหาก จริงๆผมก็อยากให้เห็นใจทาง อช.หาดท้ายเหมืองบ้าง เพราะเขาไม่ได้เป็นคนเสนอตัวเองแต่ต้องมาจัดในระยะเวลาที่ฉุกละหุกเต็มทีแต่ก็ต้องทำ หากเห็นไปได้ คนที่เห็นควรว่าจะต้องจัดควรช่วยระดมความคิดว่าจะทำอย่างไรจึงจะให้งานผ่านไปได้โดยไม่เกิดผลกระทบกับทรัพยากรและความรู้สึกของคนทั่วไป ส่วนคนที่ไม่เห็นด้วยและมีโอกาสที่จะตำหนิหากเกิดความล้มเหลว ก็ขอให้แบ่งใจไว้สักส่วนหนึ่ง และควรพุ่งเป้าไปยังคนต้นคิดจริงๆเถอะ สงสารเจ้าหน้าที่ในระดับปฎิบัติเค้า..ที่ต้องโดนสับเละทั้งปี ส่วนเจ้าของไอเดีย(บรรเจิด!!!!) และผู้ที่โยนงานให้เขาทำกลับลอยตัวอยู่เหนือปัญหา.... ซึ่งในที่สุดเรื่องแบบนี้ก็จะเกิดขึ้นอีกเรื่อยๆเพราะคนต้นคิดไม่เคยต้องมารับผิดชอบอะไรเลยแถมพองานออกมาดีตัวเองก็ได้หน้าได้ตาไปกับเค้าอีก ที่ต้องออกมาแสดงความคิดห็นเพราะผมเห็นใจเจ้าหน้าที่บางท่านที่มีความตั้งใจจริง เนื่องจากเคยร่วมงานกับเจ้าหน้าที่บางท่านที่มีบ้านเกิดอยู่ในจังหวัดนี้ และมีความตั้งใจจะทำงานรับใช้ให้บ้านเกิดตัวเองจริงๆ แต่ด้วยความที่เป็นเจ้าหน้าที่ตัวเล็กๆจึงต้องจำใจทำบางสิ่งที่เขาเองก็ไม่อยากทำ ทีนี้คงพอจะลำดับได้แล้วนะครับว่าใครจะได้ใครจะเสียจากงานนี้ จากคุณ : งานเข้าอีกแว้ว เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 53 00:20:19 A:192.168.0.240 X:113.53.233.162 TicketID:210939

ความคิดเห็นที่ 48 ขอบคุณคุณสายรุ้งบนฟ้ากว้าง ที่กรุณานำรายละเอียดมาบอกกล่าวกัน (แต่เราไม่เข้าใจว่า ทำไมต้องไปเปรียบกับสิมิลัน เพราะยังไงก็ไปทำที่สิมิลันไม่ได้อยู่แล้ว) ในเมื่อมันถูกจัดให้เป็นนโยบาย หรือกิจกรรมที่จะ "ต้องทำ" ไปเสียแล้ว ป่วยการพูดต่อเรื่องสิ่งที่ว่า เป็นสิ่ง "ควรทำ" หรือ "ไม่ควรทำ" ดังนั้น ก็ได้แต่เอาใจช่วยให้ จนท อช. มีอำนาจในการควบคุมสิ่งต่างๆให้เป็นไปอย่างถูกต้อง ไม่ใช่เป็นแค่ "เบ๊" (ขออภัย) ที่ให้คนนอกพื้นที่ไปใช้ทำงานโน่นนี่ โดยไม่มีสิทธิออกความเห็นหรือโต้แย้ง สิ่งที่เบืั้องบนสั่งมา ยังไง จนท ก็ต้องรับนโยบายมาทำอยู่แล้ว ถ้าเราจะไป ก็คงไม่ไปเป็น นักดำน้ำ แต่อยากไปเป็นผู้ช่วย จนท อช. ในการดูแลนักท่องเที่ยว หรือช่วยเป็นมือเป็นเท้าในการดูแลสิ่งต่างๆมากกว่า เพราะงานของ อช. น่าจะหนักหนาเอาการ ปล.2 ไม่มีใครอยากทำลายทรัพยากรของประเทศหรอก รู้ๆกันอยู่ แต่ก็มีการทำลายไป "โดยไม่ตั้งใจ" และ/หรือ "โดยไม่รู้" เสียเยอะ ถ้ามีคนที่ "รู้" มาทักท้วง ก็จะไม่ฟังกันมั่งเชียวหรือ? แก้ไขเมื่อ 25 มี.ค. 53 07:35:47 แก้ไขเมื่อ 25 มี.ค. 53 07:11:23 จากคุณ : *Cookies* เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 53 07:10:11

ความคิดเห็นที่ 49 ตอบคุณ Cookies ครับ แรกเริ่มเดิมที น่ะ เกือบๆจะไปจัดที่สิมิลันอยู่แล้วครับ แต่ ใครจะยอม สิมิลัน เปราะบางสำหรับการ ดำน้ำแบบ Event แบบนี้ หวยเลยมาออกที่ท้ายเหมือง  ผสมโรงกับการขาดวิสัยทัศน์ของหน่วยราชการ ที่ยัดขาดการประเมินศักยภาพด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะ อย่างยิ่งการท่องเที่ยวดำน้ำ แบบ Scuba ซึ่งเป็นการท่องเที่ยวที่มีลักษณะ เฉพาะ และมีความซับซ้อนเรื่องการจัดการ มากกว่าการท่องเที่ยวแบบอื่นๆ เจ้าหน้าที่อุทยาน ก็ต้องรับหน้าเสื่อ ดูและกันไป จัดการกันไป อย่างที่บัตรผ่านว่า  ถ้าออกมาดี ทางจังหวัดได้หน้าไป ถ้าไม่ดี อุทยานรับเละ ทั้งจากสังคมและหน่วยงานต้นสังกัด ------------------------------------------------------ ปล. ถึงบัตรผ่าน หวังว่า ดำน้ำคราวนี้คงสามารถจัดหาตะกั่ว 12,000 ก้อน     ได้ครบนะครับ ^^ แก้ไขเมื่อ 25 มี.ค. 53 09:23:12 จากคุณ : q_cosmo เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 53 08:37:42

ความคิดเห็นที่ 50 คราวนี้มาพิจารณาข้อมูลจากคุณสายรุ้งบนฟ้ากว้าง ซึ่งน่าจะทำหน้าที ประชาสัมพันธ์โครงการนี้นะครับ ข้อแรก ได้มีการค้นพบปะการังแนวใหม่ ซึ่งทางจังหวัดพังงาเห็นควรที่จะส่งเสริมให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวดำน้ำใหม่ (แนวปะกางรัง แห่งนี้ไม่ใช่แนวปะกางรังที่ค้นพบใหม่ แต่เป็นแนวปะการังที่ชาวบ้านใช้ประโยชน์ในการทำประมงพื้นบ้านมานานแล้ว เจ้าหน้าที่อุทยาน รู้จักแนวปะกางรังนี้ดี เพราะอยู่ตรงหน้าที่ทำการ มีการสำรวจ ร่วมกับเจ้าหน้าที่จาก หน่วยงานเอกชน หลายครั้งแล้ว รวมทั้งผู้ประกอบการดำน้ำที่เขาหลัก และมีการประเมิน ความคุ้มค่าในการส่งเสริมให้เป็น แหล่งดำน้ำแห่งไม่นั้น ไม่สามารถทำได้ ไม่คุ้มค่า) แหล่งดำน้ำใกล้ชายฝั่งที่สุด จะเป็นเรือจมบุญสูง ออกเรือจากแหลมปะการัง ด้วยเรือหางยาวประมาณ 30 นาที ผู้ประกอบการดำน้ำย่านเขาหลัก ทำกันมานานแล้วมีนักดำน้ำไปดำน้ำที่นั่นทุกวัน อีกแห่งหนึ่งเป็นเรือจมเหมือนกัน อยู่ทางทิศเหนือของอุทยานท้ายเหมือง ตรงบริเวณนั้นเรียกว่า เรือจมเขาหน้ายักษ์ แต่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมมากนัก เพราะว่าใกล้เกินไป แต่ค่าใช้จ่ายก็ยังสูงอยู่ ข้อที่สอง ทุกๆท่านที่ไปที่หาดท้ายเหมืองจะได้รับความประทับใจในความสวยงามของชายหาดและแนวปะการังความยาว 2 ตารางกิโลเมตร แนวปะกางรังหน้าหาดท้ายเหมือง ความสวยงาม ถึงขั้นที่เรียกว่าประทับใจ คงจะไม่ได้ การประชาสัมพันธ์ด้านการท่องเที่ยว วัตถุประสงค์ที่สวยหรู เพื่อให้กิจกรรมนี้ "ครบองค์ประกอบ" เท่านั้น ข้อที่สาม การปล่อยปลาการ์ตูน ตลอดแนวปะการังพันไร่ มีพื้นที่ให้ปลาการ์ตูน ได้อาศัยน้อยมากครับ อยากให้ย้อนกลับไปดู vdo ที่ link ไว้ครับ การปล่อยปลาการ์ตูนแต่ละครั้ง โอกาสรอด มีไม่มาก หากพื้นที่ไม่เหมาะสม แล้วปล่อยลงไปตาย ทำบาปเปล่าๆ ข้อที่สี่ จะมีเรือใหญ่ 2 ลำบรรทุกคนได้ 300 คน ต่อลำ และเรือหางยาว 30  ลำ บรรทุกคนได้  10 คน (แล้วนักดำน้ำจะครบ 3,000 คนได้อย่างไร เรือที่ไปดำน้ำ มีนักดำน้ำ ประมาณ 20 คน กว่าจะลงจนครบ ก็ใช้เวลาไม่น้อย แล้วสามร้อยคน กว่าจะลงครบ นักดำน้ำที่ลงไปก่อน อาจจะต้องรอนานเมาคลื่นไปก่อน ^^ โดยส่วนตัว รายการทีวี ทำรายการประเภทนี้ เป็นเรื่องปกติ กิจกรรม หรือ Task ที่ถูกบรรจุไว้ในรายการ จึงต้อง Extreme และ Extotic มากๆเพื่อ ดึงดูดคนดู (ตัวผมเองก็ทำรายการทีวีด้วยเช่นกัน เข้าใจประเด็นนี้) แต่ที่ ไม่ค่อยเข้าใจคือการ พ่วงเอา การส่งเสริมการท่องเที่ยวประชาสัมพันธ์ แหล่งดำน้ำแห่งใหม่ คิดว่า มันไม่เหมาะสม และไปด้วยกันไม่ได้สำหรับ รายการทีวี นอกเสียจากว่า จัดขึ้นมาเพื่อ ดึง หรือ ชักจูง ให้หน่อวยงานของรัฐได้เข้ามามีส่วนร่วม และจะได้รับความช่วยเหลือในกิจกรรมที่ทำขึ้น กรณีนี้ผมคิดว่าไม่ยุติธรรม ต่อเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการในพื้นที่ เหมือนที่ บัตรผ่าน ความเห็นข้างบนกล่าวไว้ แต่ถ้า Task ของรายการ เปลี่ยนเป็น ระดมพลคนอาสา 3,000 คน ร่วมกันปล่อยเต่ามะเฟือง หรือเต่าอะไรสักอย่าง จำนวน 3,000 ตัว น่าจะสอดคล้องกับการอนุรักษ์ และการส่งเสริม การท่องเที่ยวของหาดท้ายเหมือง มากกว่า เพราะ จุดเด่นของหาดท้ายเหมือง คือ เต่ามะเฟือง ใช้ทรัพยากรการท่องเที่ยวที่ศักยภาพสูง น่าจะเหมาะสมกว่า แต่ไหนๆก็ไหนๆ  จัดแล้วก็จัดไป การประกาศต่อสาธารณชน ว่า นี่คือรายการโทรทัศน์ Gimmic ของรายการเป็นแบบนี้ เท่านั้นเอง จากคุณ : q_cosmo เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 53 09:10:10

ความคิดเห็นที่ 51 เรื่อง ความสามัคคี ของคนในชาติ ต้องยอมรับกันก่อนว่า ประวัติศาสตร์ชาติไทยไม่ได้ดำรีงอยู่บนพื้นฐานของ ความสามัคคี สังคมไทยดำรงอยู่อย่างมีดุลยภาพ (Equilibrium) บนพื้นฐาน ของการเยและแบ่งปันผลประโยชน์ เมื่อใดก็ตาม ที่เกิดสถานการณ์ที่ เหมาะสม กิจกรรมที่แสดงความสามัคคีจะเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ ผมยังไม่เห็นเหตุผลอันใดที่ นักดำน้ำ 3,000 คน ไปดำน้ำแล้วแสดงว่า คนไทยสามัคคีกันเป็นอย่างดี และผมก็ไม่เชื่อว่า กิจกรรมนีจะทำให้คนไทย สามัคคี กันได้ มันคนละเรื่องกันเลย แต่หากจะมองในแง่ของสัญญลักษณ์ หรือ ภาพลักษณ์ ก็พอได้อยู่ แต่ 3,000 คน นั้น สามัคคีกันจริงหรือ เหมือนกับการร้องเพลงชาติ แต่ละจังหวัด ตอนเย็นๆ ถ่ายทอดสด แต่ละจังหวัด อาจจะได้ภาพของคนจำนวนมากมาร้องเพลงชาติร่วมกัน แสดงให้เห็นความสามัคคีของคนไทย แต่เบื้องหลัง ก่อนจะเป็นภาพที่ออกอากาศ ผู้ที่มาเข้าร่วมกันนั้นสามัคคีกันจริงหรือ ก็ไม่ต่างจากนักดำน้ำ 3,000 คน ที่จะออกอากาศทางโทรทัศน์ต่อไปนั้น สามัคคีกันจริงหรือ  ถ้าจะเกี่ยวข้องกับ สถานการณ์บ้านเมืองปัจจุบัน ที่มีความ "ที่เชื่อกันว่าคนไทยขาดความสามัคคี" แล้ว ดำน้ำ 3,000 คน ไปเกี่ยวข้องกันได้อย่างไร สถานการณ์ที่แสดงให้เห็นความสามัคคีของคนไทย ที่ชัดเจนมากที่สุด คือช่วงเหตุการณ์ สึนามิ ถ้าใครที่อยู่ในเหตุการณ์ นั้นน่าจะคงยังจำภาพ ความสามัคคีของคนไทยได้ โดยไม่ลืม การสร้างสัญญลักษณ์ "ความสามัคคี" ไม่เกิดประโยชน์อะไร ถ้าคนในสังคมไม่สามัคคีกันจริงๆ จากคุณ : q_cosmo เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 53 09:22:21

ความคิดเห็นที่ 52 ความอยากดัง....หวังจะมีชื่อเสียง เกียรติยศ และเงินทอง ของมนุษย์บางคนนั้น ทำให้คนประเภทนี้ ไม่รู้สึกรู้สมกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับทรัพยากรธรรมชาติ สภาพแวดล้อม  หรือความเดือดเนื้อร้อนใจของผู้คนรอบข้าง... สถิติโลกมีไว้ให้ทำลาย.....เราทำสถิติได้ในวันนี้  อีกไม่นานจะมีผู้มาลบล้าง และทำลายสถิติโลกขึ้นมาใหม่.... แต่ธรรมชาติ หรือจิตใจของผู้คนที่ถูกทำลายไปแล้วนั้น....เป็นการยาก และอาจจะต้องใช้เวลาอีกนาน กว่าจะทำให้กลับฟื้นคืนดีได้ดังเดิม  หรืออาจจะไม่สามารถทำให้กลับฟื้นคืนดีได้อีกเลยชั่วนิรันดร์ งานที่เกิดขึ้นอย่างฉุกละหุกกระทันหัน ย่อมขาดการวางแผน  การจัดการ และการดำเนินงานที่ดีมีประสิทธิภาพได้.... ถ้างานนี้ยังไม่พร้อมจริงๆ เลื่อนออกไปก่อนดีไหมคะ....   สายชลเชื่อว่า งานนี้ถ้าเลื่อนได้....ไม่มีใครเขาตำหนิติเตียนหรอกค่ะ  มีแต่จะพากันชื่นชมยินดี และโล่งอกโล่งใจมากกว่า   และเมื่อพร้อมจริงๆเมื่อไร....ค่อยมาว่ากันใหม่ น่าจะดีกว่านะคะ.... แก้ไขเมื่อ 25 มี.ค. 53 09:26:17 จากคุณ : สายชล เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 53 09:24:49

ความคิดเห็นที่ 53 กิจกรรม นี้ ผมไม่ค่อยวิตกกังวลเรื่องผลกระทบต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพราะ ผมไม่ใช่นักอนุรักษ์สุดขั้ว และผมเชื่อว่าการจัดการ ให้มีผลกระทบต่อธรรมชาติให้น้อยที่สุดนั้นสามาถจัดการได้ แต่ที่ผมไม่ค่อยชอบใจก็คือ การฉวยประโยชน์ และ การสมประโยชน์ ของเอกชน และหน่วยงานของรัฐ โดยอาศัย Proposal ที่สวยหรู เช่น อนุรักษ์, ประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยว, ปลูกจิตสำนึก,สามัคคี ฯลฯ แล้วที่สุด ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ ก็รับกรรมไป ผู้เข้าร่วม ก็กลายเป็นเครื่องมือของการสมประโยชน์และฉวยประโยชน์ ทางธุรกิจไป แล้วหาดท้ายเหมืองก็อยู่ในสภาพเหงาหงอย หลังจากเสร็จงาน การต่อยอดเรื่องการท่องเที่ยวก็ไม่เกิดขึ้น อย่างแน่นอน จากคุณ : q_cosmo เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 53 09:33:18

ความคิดเห็นที่ 54 และเมื่อพร้อมจริงๆเมื่อไร....ค่อยมาว่ากันใหม่ น่าจะดีกว่านะคะ.... ตอบคุณ สายชลครับ ไม่น่าจะเลื่อนได้นะครับ รายการทีวี มันมีกำหนดการถ่ายทำ การออกอากาศ แล้วยังมีช้วง Post  Production อีก ไหนจะค่าตัวพิธีกร คิวพิธีกร คิวกล้อง และอุปกรณ์พิเศษของ production อีก ถ้าเลื่อน คงเสียหายหลายล้าน ถ้าเป็นผมผมก็คงไม่เลื่อนหรอกครับ แต่ที่สงสัยคือ จะกลายเป็นสถิติ ลวงโลกให้ขายหน้าเสียมากกว่า ครับ ^^ จากคุณ : q_cosmo เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 53 09:37:32

ความคิดเห็นที่ 55 เกรงจะเป็นอย่างที่คุณ q_cosmo ว่าไว้ค่ะ.....ถึงบอกว่าเลื่อนได้ก็เลื่อนเสียเถอะ เลิกตอนนี้...เสียเงินแต่ไม่เสียหน้า....ไม่เสียชื่อเสียง แต่ถ้าทำไปแล้ว.....ทำไม่ได้ หรือไปลวงว่าทำได้ มิต้องเสียทั้งเงิน...เสียทั้งหน้า....อับอายเขาไปทั่วทั้งพารานี่ จะเสียหายมากกว่านะคะ... จากคุณ : สายชล เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 53 10:26:18

ความคิดเห็นที่ 56 ...แรกเริ่มเดิมที น่ะ เกือบๆจะไปจัดที่สิมิลันอยู่แล้วครับ ... โอ แม่จ้าวววว.... สิมิลันที่รัก จากคุณ : *Cookies* เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 53 10:36:43

ความคิดเห็นที่ 57 ใครได้ใครเสียจากงานนี้...  ประเทศไทย ยังไงล่ะครับที่ได้ เสีย.. แล้วที่บอกว่าจนท. ไม่อยากให้จัดงานเพราะกลัวว่าจะจัดได้ไม่ดี ผมว่าก่อนจัดงานอช.คงได้ประชุมกับผู้จัดงานแล้วละ ว่าต้องการอะไร และจะป้องกันการเสียหายยังไง, รวมถึงบางคนที่บอกว่างานนี้ยังไม่พร้อม.. ตามคห. 44 ออกมาชี้แจงถึงการเตรียมงานนี้ ว่าจะมีหน่วยงานต่างๆ ที่เข้ามา support รวมถึงสิ่งต่างๆ ที่ได้จัดเตรียมไว้ ถึงระยะเวลาจะสั้นแต่การเตรียมการต่างๆ ผมก็ว่าน่าจะยอมรับได้นะ.. คห. 48 บอกว่า..""แต่ก็มีการทำลายไป "โดยไม่ตั้งใจ" และ/หรือ "โดยไม่รู้" เสียเยอะถ้ามีคนที่ "รู้" มาทักท้วง ก็จะไม่ฟังกันมั่งเชียวหรือ?" คนกลุ่มอื่น เค้าก็ต่อว่าๆ นักดำน้ำนี่ละที่ทำลายธรรมชาติใต้น้ำ... แล้วนักดำน้ำฟังกันมั่งหรือเปล่า แล้วจะเลิกดำน้ำกันหรือเปล่าครับ.. งานนี้ก็คงเหมือนกันนะ ผมว่า.. "ถ้าเราจะไป ก็คงไม่ไปเป็นนักดำน้ำ แต่อยากไปเป็นผู้ช่วย จนท อช.ในการดูแลนักท่องเที่ยว หรือช่วยเป็นมือเป็นเท้าในการดูแลสิ่งต่างๆมากกว่า เพราะงานของ อช. น่าจะหนักหนาเอาการ" เป็นความคิดที่น่าชื่นชมมาก.. ผมอยากได้ยินแบบนี้จากคนที่ไปร่วมงานนี้มากๆ เลย (โดยเฉพาะพวกมืออาชีพ) ผมเองที่จะไปร่วมงานนี้.. ก็เพราะตั้งใจที่จะเข้าไปช่วยดูแล ช่วยเหลือนักดำน้ำ มากกว่าที่จะเข้าไปร่วมทำลายสถิติ อะไรนั่น มันไม่ได้อยู่ในความคิดผมเลยนะ ตั้งแต่ได้ข่าว.. ก็รู้แล้วละว่างานนี้ไม่มีล้มอยู่แล้ว นักดำน้ำใหม่ๆ คงเข้าร่วมงานกันจำนวนมากพอสมควร ปัญหาที่เกิดใต้น้ำก็คงมีแหละ คิดว่าผมเอง ถึงแม้จะเป็นเพียงส่วนเล็กๆ แต่ก็คงช่วยได้ไม่มากก็น้อย ดีกว่าที่เรารู้แล้วไม่ช่วยอะไรเลย... อย่ามัวแต่ถกเถียงกันเลยครับ..ถ้างานมันเกิดแล้ว สิ่งที่หลายๆ คนห่วง หรือกังวลในด้านต่างๆ ก็ได้แสดงความคิดเห็นไปแล้ว ผมว่าผู้ที่ได้เข้ามาอ่านเข้าใจอยู่แล้ว.. รวมถึงผู้จัดงานเองก็คงรู้ถึงผลเสียแหละผมว่า แต่คิดว่าเค้าก็พยายามทำดีที่สุดแล้วนะ.. ไปช่วยกันดูแล แก้ไขกันดีกว่าครับ ถ้ายังมีจิตสำนึกที่ดีต่อวงการดำน้ำ... จากคุณ : ตะวันลับฟ้า เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 53 11:55:27

ความคิดเห็นที่ 58 คห. 53 บอกว่า.. "และผมเชื่อว่าการจัดการให้มีผลกระทบต่อธรรมชาติให้น้อยที่สุดนั้นสามาถจัดการได้" นั่นก็น่าจะเพียงพอแล้วไม่ใช่เหรอครับ สำหรับการจัดงาน "แต่ที่ผมไม่ค่อยชอบใจก็คือ การฉวยประโยชน์ และ การสมประโยชน์ ของเอกชน และหน่วยงานของรัฐฯแล้วหาดท้ายเหมืองก็อยู่ในสภาพเหงาหงอย หลังจากเสร็จงาน การต่อยอดเรื่องการท่องเที่ยวก็ไม่เกิดขึ้น อย่างแน่นอน" ผมว่าเรื่องการประชาสัมพันธ์ การโปรโมต ของอช. น่าจะมีบ้างนะ ถึงแม้ว่าเอกชนบางคนจะได้ผลประโยชน์ไปบ้าง ถ้าคนได้รู้จักแล้ว ผมว่าอีกหน่อยคนคงไปกันมากขึ้นนะผมว่า.. ผมเองก็ไม่เคยได้ยิน หรือสนใจหาดท้ายเหมือง, เต่ามะเฟือง ฯลฯ มาก่อน เพิ่งจะรู้ก็จากการจัดงานนี่แหละ ตัวอย่างที่เกิดกับผมเอง เมื่อเดือนธค. ผมมีโอกาสไปเที่ยวอช.ตากสิน มหาราช จ.ตาก ซึ่งผมเองไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนเลยนะ (สงสัยมัวแต่ดำน้ำไม่เที่ยวป่า หุหุ) ผมได้ทราบจากคนที่แวะเติมน้ำมันที่ปั๊มเล่าให้ฟัง แล้วผมก็ขับรถเข้าไปเที่ยว.. อยากบอกว่าที่นี่สวยมาก สถานที่ก็เป็นระเบียบเรียบร้อย จนท.ต้อนรับด้วยอัธยาศัยที่ดีมาก อาหารอร่อย ไม่แพง ไม่คิดจะไปทำกินเอง 55 นี่เป็นแค่ตัวอย่างที่ผมว่าอช. ขาดการประชาสัมพันธ์ (หรือโปรโมตมากไป คนก็คงจะไปกันแน่นอีกแหละ เหอ เหอ) จะมีความพอดีมั๊ยเนี่ย จากคุณ : ตะวันลับฟ้า เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 53 12:17:35

ความคิดเห็นที่ 59 ถึงแม้ว่าเอกชนบางคนจะได้ผลประโยชน์ไปบ้าง ตรงนี้ขอแสดงความเห็นแย้งครับ ขอเปลี่ยนเป็นว่า ถึงแม้ว่าเอกชนบางคนจะได้ผลประโยชน์ไป "มาก" ---------------------------------------------------------------------- ในธุรกิจวงการทีวี ตัวเลขไม่ใช่แค่หลักล้าน นะครับ มันเกินกว่านั้นมากนัก แต่ที่ผมไม่ค่อยถูกใจก็คีอ เหมือนเรากำลังถูกหลอก ไปแสดงพลัง อะไรสักอย่าง โดยมีวัตถุประสงค์ที่สวยหรู แล้วสุดท้าย หาดท้ายเหมืองก็หงอยเหงาเมือนเดิม มีเจ้าหน้าที่ทำงานอย่างซึมๆ กับเต่ามะเฟืองไม่กี่ตัวในบ่ออนุบาล แล้ว การท่องเที่ยวก็ไม่เกิดขึ้นจริง ----------------------------------------------------------------------- การประชาสัมพันธ์ อุทยาน บางครั้งก็ไม่จำเป็นนะครับ บางอุทยานไม่เหมาะสมกับการเป็น สถานที่ท่องเที่ยวเลยด้วยซ้ำ  ตัวอย่างเช่น อช.กุยบุรีครับ ไปกางเต๊นท์ค้างแรมใน พื้นที่ อช. อาจโดนช้างเหยียบตาย บางอุทยาน เหมาะสมแค่ระดับจุดแวะจอดพักรถ เช่น อช. ภูซาง เพราะส่วนอื่นๆเป็นป่าที่พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ยาก การท่องเที่ยวใน อช. เป็นเรื่องภาระกิจ รองมากจากการอนุรักษ์ การจัด Zone ในเขตอุทยานและพื้นที่อุทยานมีความจำเป็น ไม่อย่างนั้นแล้ว อช. จะกลายเป็น ภูกระดึง, ภูชี้ฟ้า ที่ต้องรองรับ นักท่องเที่ยวหลายหมื่นคนหรือลายแสนคนในแต่ละปี อช. ท้ายเหมือง ไม่ได้มีจุดเด่นอยู่ที่การดำน้ำ  Scuba การโยงเอา สองเรื่องนี้ มาไว้ด้วยกัน ก็น่าจะเรียกว่า เป็นการลากเข้าความ เพื่อให้ครบองค์ประกอบของ วัตถุประสงค์ที่สวยหรูมากกว่า ประชาสัมพันธ์ได้ แต่ไม่ควรประชาสัมพันธ์ เรื่องการเป็นแหล่งดำน้ำแห่งใหม่ เพราะ ตีลังกาดู ดำน้ำดู ขุดทรายดู มันก็ยังไม่เหมาะกับ Scuba อยู่ดี น้ำตก กับ  Trecking ในป่า เหมาะสมกว่าหลายสิบเท่าเลยครับ ---------------------------------------------------- ถ้าอยากทำสถิติ เรื่องดำน้ำ พรุ่งนี้ขอเชิญที่ท่าเรือ บาหลีไฮ เวลา เจ็ดโมงครึ่งครับ ดำน้ำทำสถิติโลก ครับ 20 ไดว์  ต่อวัน  ความลึก ตั้งแต่ 10-18 เมตร ระยะทาง รอบเกาะล้านครับ ภาระกิจ จัดเรียงแท่งปูนแนวปะการังเทียม สำหรับการปลูกปะการังในอนาคต จำนวน 1,000 แท่งครับ ปล.ต้องการแรงงานหลายคนครับ ใครอยากดำน้ำ ขอรับรองว่า ดำน้ำกันหายอยากไปนานเลยครับ ^^ จากคุณ : q_cosmo เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 53 20:43:35

ความคิดเห็นที่ 60 "แต่ที่ผมไม่ค่อยถูกใจก็คีอ เหมือนเรากำลังถูกหลอกไปแสดงพลังอะไรสักอย่าง โดยมีวัตถุประสงค์ที่สวยหรู....." คำพูดของคุณ q_cosmo ทำให้นึกถึงเพลงนี้จริงๆเลยค่ะ.... "รู้ว่าเขาหลอก".....ของ ศิรินทรา นิยากร "ถึงเขาหลอก แต่เต็มใจให้หลอก ยิ้มข้างนอก ช้ำใน น้ำคำหวาน ที่รินรดใจ เขาหลอกใช้ ก็รู้. ของสูงค่า แต่ราคา แสนต่ำ ช้ำหรือเปล่า คิดดู น้ำใจรัก ที่ให้เขาอยู่ หรือจะสู้ น้ำเงิน เป็นบันได เป็นเรือจ้าง เป็นหนทาง ให้เดิน เขาพบบ่อทอง เขาพบบ่อเงิน เขาจะเมิน ไม่ว่า รักเขามาก เราก็ให้เขาหมด เหลือแต่ หยดน้ำตา หัวใจหวิว ก็ปลงเสียว่า เราเกิดมาใช้เวร" แก้ไขเมื่อ 25 มี.ค. 53 21:52:14 จากคุณ : สายชล เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 53 21:51:19

ความคิดเห็นที่ 61 มีข่าวดีมาจากเกาะล้านครับ หลังจากวางแท่งปูนเป็นแนวปะกรังเทียมจำนวนหนึ่ง บริเวณหน้าหาดแสม เมื่อ 4 วันก่อน เมื่อวานนี้ ทีมงาน ได้พบเต่าตนุ 3 ตัวมาอาศัยเป็นพื้นที่หลบภัยและแอบนอนแล้วครับ อีกทั้งมีปลามาอาศัยอยู่โดยรอบเพิ่มมากขึ้นด้วย จากคุณ : q_cosmo เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 53 22:03:22

ความคิดเห็นที่ 62 ข่าวดีจริงๆ...ขอบคุณคุณ q_cosmo และทีมงานมากๆค่ะ สายชลเคยร้องขอปะการังเทียมแบบแท่งปูนไปลงที่พัทยามาหลายปี....เพิ่งจะได้สมใจก็คราวนี้เอง ถ้าเป็นไปได้....ขอทุ่นผูกเรือแบบแข็งแรงทนทานรอบๆเกาะล้าน เกาะสาก ด้วยนะคะ สรรพชีวิตใต้ทะเลแถวนั้นจะได้ไม่ถูกรบกวนหรือถูกทำร้ายจากสมอเรือที่ถูกทิ้งโครมๆลงไปเสียทีค่ะ อยากไปร่วมด้วยช่วยกันค่ะ.....เสียดายที่ไม่ว่าง (เพราะไม่ทราบล่วงหน้า) ไว้โอกาสหน้า ถ้ามีอะไรให้ช่วยได้บ้าง ช่วยแจ้งล่วงหน้าด้วยนะคะ จากคุณ : สายชล เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 53 22:47:08

ความคิดเห็นที่ 63 ตอบคุณ สายชลครับ เรื่อง ทุ่นผูกเรือ มีโครงการทำอยู่แล้วครับ แต่ปัญหาคือ แบบของทุ่น ทำให้เกิดความเสียหายได้ง่าย เพราะเป็นโซ่ สนิมขึ้น และรูปทรงของทุ่นเป็นทรงกรวย เนื่องจากแบบที่ออกมาคราวแรก (จากไหนก็ไม่ทราบเหมือนกัน) กำหนดไว้แบบนั้น ซึ่งน้ำคงซึมเข้า ตามตะเข็บรอยต่อ และเสียหายในที่สุด  แต่ก็แจ้งไปทางผู้เกี่ยวข้อง แล้วว่า การออกแบบและจัดสรรงบประมาณคราวหน้า ขอให้ออกเป็นเป็นทุ่นกลม และใช้เชือกแทนโซ่เพราะน้ำหนักน้อย และทนทานการกัดกร่อนได้ดีกว่า   แต่ก็ไม่ทราบว่าจะมีการทำทุ่นอีกเมื่อไหร่ ทุ่นผูกเรือ ชุดนี้ จะมีประมาณ เกือบ 100 ทุ่น รอบเกาะล้านและเกาะสาก นอกจากนั้นยังมี บ้านปลา ที่ทำจากท่อน้ำขนาดใหญ่หลายๆท่อ ทิ้งลง เป็นกองๆ ใต้น้ำ 3 จุด น้ำลึกประมาณ 20 เมตร ห่างออกมาจากชายหาด พอสัมควร เพื่อให้เป็นปะการังเทียมสำหรับชาวประมงเรือเล็ก ได้อาศัยจับปลา ส่วนแนวปะการังเทียมนั้นจะทำท่อเล็กเอาไว้ เผื่อในอนาคต หากปะการัง ยังไม่มาเกาะและเติบโต ก็คงจะใช้ประโยชน์ในการเป็นแปลงปลูกปะการัง ต่อไป ตามโครงการของเมืองพัทยาที่สนับสนุนและส่งเสริมกิจกรรม การท่องเที่ยวดำน้ำ และยังเป็นสร้างแหล่งอนุบาลปลา เพื่อเติบโตต่อไปด้วยครับ โครงการต่อไปของเมืองพัทยา ก็คือ การจัดพื้นที่สำหรับเป็นช่องทางให้ เรือสปีดโบ้ท วิ้งไปส่งนักท่องเที่ยวที่ชายหาด โดยการซ่อมแซมและล้อม รั้วเป็นทุ่นไข่ปลา ให้ชัดเจนขึ้นครับ เพื่อป้องกันอันตราย โครงการทั้งหมดนี้คงต้องยกเครดิตให้กับ นายกเมืองพัทยา นายอิทธิพล คุณปลื้ม ครับที่ริเริมโครงการนี้ขึ้นมา เพื่อพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวดำน้ำแบบ Scuba สำหรับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวต่องชาติ ครับ นอกเหนือจาก การเล่นน้ำ ชายหาด เล่นร่ม บานานาโบ้ท และการอาบแดด โครงการนี้เริ่มมาตั้งแต่ปีที่แล้ว และค่อยๆทำมาเรื่อยๆครับ มีความคืบหน้าอย่างไร จะแจ้งให้ทราบต่อไปครับ ถ้าทำสถิติโลกผมว่า น่าจะทำสถิติเก็บขยะใต้น้ำ รวมน้ำหนักได้มากที่สุดในโลกมากกว่านะครับ ผมว่าประเทศไทย น่าจะได้แช้มป์โลก หรือย่างน้อย ก็ติด 1 ใน 5 ของโลก ^^ จากคุณ : q_cosmo เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 53 22:51:41

ความคิดเห็นที่ 64 ขอบคุณคุณq_cosmo สำหรับคำตอบค่ะ.... เรื่องทุ่นรูปทรงกรวย และสายทุ่นเป็นโซ่เหล็กนี่ จากการได้คุยกับเจ้าของเรือในพื้นที่นั้น ทราบว่าทางเมืองพัทยาไม่ได้ตั้งใจจะให้เป็นทุ่นผูกเรือ  แต่ตั้งใจจะมีไว้กั้นขอบอาณาเขตที่ทางเมืองพัทยาไม่อยากให้เรือใหญ่ หรือเรือที่เราใช้ไปดำน้ำเข้าไปมากกว่าค่ะ (แต่เรือใหญ่ที่ใช้จอดเรือประกอบการ Sea Walker สามารถจอดได้สบายๆ) นอกจากทุ่นรูปกรวยจะใช้ผูกเรือไม่สะดวกแล้ว...โซ่เส้นโตที่ใช้เป็นสายทุ่นนั้นทั้งหนักทั้งยาวเกินไป พอน้ำลงโซ่จะกวาดไปตามพื้นทราย ทำให้เกิดตะกอนฟุ้งแขวนจนน้ำขุ่นมัวไปทั่ว แถมโซ่ยังกวาดสัตว์น้ำที่อาศัยอยู่โดยรอบ เช่น ม้าน้ำ ดาวทะเล เม่นทะเล ดอกไม้ทะเล (ที่เป็นบ้านของปลาการ์ตูนและกุ้ง) ฯลฯ จนกระจัดการจายและเป็นอันตรายถึงชีวิต ฉะนั้น ถ้าจะเปลี่ยนเป็นทุ่นกลมและสายทุ่นเชือกได้ ก็ยินดีมากๆค่ะ สายชลอยากได้อะไรอีกมากมายหลายอย่างจากพัทยาค่ะ.....คุณ q_cosmo กรุณาอ่านเรื่องจาก link เหล่านี้ แล้วช่วยแจ้งให้นายกเมืองพัทยา นายอิทธิพล คุณปลื้ม ทราบ เพื่อพิจารณาดำเนินการด้วย ซึ่งจะเป็นพระคุณยิ่งค่ะ http://www.saveoursea.net/forums/showthread.php?t=563 http://www.saveoursea.net/boardapr2007/index.php?topic=272.0 ส่วนเรื่องการแข่งขันเก็บขยะใต้ทะเลนั้น สายชลคิดว่า...ทำได้ก็ดีค่ะ (ถ้าผู้แข่งขันจะไม่มีการแอบนำขยะไปทิ้งในทะเลไว้ก่อนล่วงหน้า เพื่อตอนแข่งขันจะได้เก็บขยะได้มากๆจนชนะได้รางวัล)   อย่างไรก็ตาม...ถ้าจะให้ดีจริงๆ ไม่อยากให้พวกเราเก็บขยะเพราะเห็นแก่รางวัล ชื่อเสียง เกียรติยศ แต่อยากให้เก็บขยะ ด้วยใจ....คือเก็บขยะเพราะอยากเก็บ ทั้งนี้เพื่อให้ท้องทะเลกลับมาสะอาดสวยงามอีกครั้ง... และสิ่งที่อยากให้ปฏิบัติกันอย่างจริงๆจังๆก็คือ ควรจะแก้กันที่ ต้นเหตุ โดยการรณรงค์ไม่ทิ้งขยะหรือสิ่งปฏิกูลลงในทะเลหรือแม่น้ำลำคลองที่ไหลลงสู่ทะเล....ไม่ลากอวนหรือทิ้งลอบดักปลาบนแนวปะการัง....หรือไม่ลากอวนในเขต 3 กิโลเมตรจากแผ่นดินหรือเกาะ ถ้าทำได้อย่างนี้....เราก็ไม่ต้องเก็บขยะกันให้เหนื่อยเปล่าๆปลี้ๆนะคะ... แก้ไขเมื่อ 28 มี.ค. 53 09:32:41 จากคุณ : สายชล เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 53 09:30:29

ความคิดเห็นที่ 65 . แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 53 16:14:04 จากคุณ : zoopod เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 53 16:08:53

ความคิดเห็นที่ 66 ได้แผนการเตรียมงานมาจากเพื่อนครูสอนดำน้ำที่เป็นกรรมการงานนี้มาครับ ลองดูแล้วพิจารณา หรือเพื่อเตรียมตัว สำหรับคนที่จะไปร่วมงานนี้ แผนผัง จากคุณ : zoopod เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 53 16:10:50

ความคิดเห็นที่ 68 Dive Plan จากคุณ : zoopod เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 53 16:23:33

ความคิดเห็นที่ 69 ข้อปฏิบัติ จากคุณ : zoopod เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 53 16:24:54

ความคิดเห็นที่ 70 หมดแล้วครับ จากคุณ : zoopod เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 53 16:25:21

ความคิดเห็นที่ 71 สงสารเต่าครับ จากคุณ : pooktoon เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 01:45:01

ความคิดเห็นที่ 72 ขอบคุณค่ะ ที่เอารายละเอียดมาบอก สงสัยว่า จะได้สามพันคนจริงเหรอ จากคุณ : *Cookies* เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 07:06:20

ความคิดเห็นที่ 73 ไปอ่านความคิดเห็นคนต่างชาติเขาบ้าง ว่าเขาคิดอย่างไรกับกิจกรรมนี้ http://www.phuketgazette.net/news/detail.asp?id=8430 จากคุณ : SSAR (darasamuth_hiso) เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 09:08:09

ความคิดเห็นที่ 74 ฮัลโหลพี่ *Cookies* ค่ะ ^-^ นั่นน่ะสิคะ น้ำผึ้งก็สงสัยอยู่ว่าจะถึง 3,000 เหรอ? ปล..แต่เด๋ยวน้ำผึ้งไปศุกร์เสาทิตย์นี้มาแล้วจะกลับมาเล่าให้พี่ฟังนะคะ ว่าตกลงยังไง คิดถึงค่าา จากคุณ : เงือกน้อยแห่งท้องทะเล เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 10:56:45

ความคิดเห็นที่ 75 wow.....3000 คนในทีเดียว ,ระดับโลก,เก็บขยะ,อนุรักษ์,ท่องเที่ยว,นักดำน้ำ,นักท่องเที่ยว,ท้ายเหมือง,นักท่องเที่ยวต่างชาติ,นักการเมือง,ชาวบ้าน,ครูสอนดำน้ำ,เต่า,ไข่เต่า,วางไข่,เงิน,กินเนส เรคคอร์ด,ธรรมชาติ,ขัดแย้ง,สามัคคี,organizer,เกาะเต่า,ฟรี,ผลประโยชน์,ชาติ,ปากท้อง,ปะการัง,ราชการ,เงิน,.......เพื่อใคร? แก้ไขเมื่อ 30 มี.ค. 53 11:45:56 จากคุณ : ชะโดทะเล เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 11:44:44

ความคิดเห็นที่ 76 ตกลงไม่เลื่อนจริงๆหรือคะ......!!! ถ้าไม่เลื่อนจริงๆ.....ก็ขอให้ข้อมูลเรื่องสภาพทั่วไปของอากาศ....กระแสน้ำ ให้ผู้จัดงานไว้พิจารณานะคะ สภาพอากาศจาก www.accuweather.com ท้องฟ้ามีเมฆบางส่วน อากาศร้อน อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส (แต่อาจรู้สึกจริงๆถึง 40 องศาเซลเซียส) ช่วงแดดจัด UV 11 (ร้อนมากๆ) ลมตะวันออก ความเร็วลมปกติ 11 กม./ชม. ลมกระโชกแรง 32 กม./ชม. ในช่วงบ่ายมีโอกาสที่จะเกิดฝนตกและฝนฟ้าคะนองได้ 40 % ตามปกติทะเลที่หน้าชายหาดของอุทยานเขาลำรู่ - หาดท้ายเหมือง บริเวณผิวน้ำจะมีคลื่นสูงชนิด Surf อยู่แล้ว เพราะมีแนวปะการังน้ำตื้นอยู่ใกล้ชายฝั่ง ส่วนใต้น้ำจะเป็นกระแสน้ำโยกที่เรียก Surge หากลมแรงความสูงของ Surf และความแรงของ Surge ในช่วงน้ำลง น่าจะรุนแรงขึ้น ถ้าเป็นอย่างที่คาดไว้จริงๆ....นึกภาพนักดำน้ำ 600 คนแรกและกลุ่มถัดๆมา ที่ต้องไปเกาะสายทุ่นลอยคอในน้ำทะเล เพื่อคอยให้เพือนๆนั่งเรือมาลงน้ำจนครบ 3,000 คน จะมีสภาพถูกคลื่นโยนและถูกแดดเผาขนาดไหนนะคะ แก้ไขเมื่อ 30 มี.ค. 53 16:55:35 จากคุณ : สายชล เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 12:55:00

ความคิดเห็นที่ 77 จากมาตราน้ำของกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ วันที่ 3 เมษายน 2553...ที่ทับละมุ พังงา....น้ำจะเริ่มขึ้นเมื่อเวลาราว 8.00 น. ความสูงของน้ำทะเลเหนือระดับน้ำลงต่ำสุด 0.8 เมตร แลระดับน้ำจะขึ้นไปสูงสุดเมื่อเวลา 13.00 น. ความสูงของน้ำทะเล 2.6 เมตรเหนือระดับน้ำลงต่ำสุด ช่วงเวลา 8.00 - 12.00 น. มวลของน้ำที่ไหลถ่ายเทในแต่ละช่วงหนึ่งชั่วโมงที่ทับละมุจะรุนแรงมาก เพราะระดับน้ำในแต่ละช่วงชั่วโมงมีการเปลี่ยนแปลงมาก คือ 4....5....และ 6 เด(ซิเมตร) ซึ่งนักดำน้ำทั้งหลายย่อมรู้ดีว่า กระแสน้ำที่เกิดขึ้นจากระดับน้ำที่เปลี่ยนแปลง 4 - 6 เด. นั้นจะรุนแรงเพียงใด อนึ่ง.....ร่องน้ำระหว่างชายหาดของอุทยานฯ กับแนวปะการังที่ขนานกันในแนวเหนือใต้นั้น ไม่ว่าน้ำจะขึ้นหรือลง จะเกิด Rip Current ได้เป็นประจำอยู่แล้ว เมื่อมาประจวบกับช่วงเวลาที่ระดับน้ำเปลี่ยนแปลงสูงระดับ 4 - 6 เด. นั้น กระแสน้ำจะยิ่งแรงเป็นทวีคูณ ก็ขอให้นักดำน้ำทั้งหลายที่จะไปร่วมงานในช่วงเวลาดังกล่าว (ไม่ว่าในหน้าที่ใดก็ตาม) โปรดใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษด้วยนะคะ ฮย่างไรก็ตาม มาตราน้ำได้ชี้ให้เห็นว่า...ช่วงที่กระแสน้ำน่าจะอ่อนที่สุดของวันนั้น คือช่วง 12.00 - 13.00 น. คือระดับน้ำเปลี่ยนแปลง (ลดลง) เพียง 1 เด.เท่านั้น จากนั้นก็จะเปลี่ยนแปลงรุนแรงมากถึงระดับสูงสุด 7 เด. ในเวลา 17.00 -18.00 น. จากคุณ : สายชล เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 13:25:12

ความคิดเห็นที่ 78 สองสายเองได้รับการเชิญชวนจากน้องยุ้ย....ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่ง พังงา ให้ไปช่วยเรื่องการดำน้ำปล่อยหอยในงานนี้ (ไม่ใช่ไปร่วมดำน้ำทำลายสถิติโลก) แต่เราเกิดติดธุระต้องเตรียมการเรื่องงาน "เปิดโลกทะเลชุมพร 2010 Save Our Future....Save Our Sea" ที่จะมีขึ้นในอาทิตย์หน้านี้แล้ว จึงไม่สามารถไปช่วยงานได้ค่ะ ต้องขออภัยมา ณ.ที่นี้นะคะ.... จากคุณ : สายชล เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 13:40:30

ความคิดเห็นที่ 79 ผมว่าจะเข้าไปช่วยเหลือเรื่องการรักษาความปลอดภัยทางน้ำ เท่าที่จะช่วยได้ครับ ใครไปในงาน เจอยูนิฟอร์มแบบนี้ รหัส24 ทักทายกันได้นะครับ จากคุณ : SSAR (darasamuth_hiso) เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 15:42:41

ความคิดเห็นที่ 80 กำลังนึกอยู่ว่า ถ้าแดดแรงมาก และกระแสแรง หรือมีคลื่น และถ้ามีอากาศเต็มถัง ลงไปนั่งรออยู่บนทรายใต้น้ำ น่าจะสบายกว่าและเหนื่อยน้อยกว่าลอยรออยู่บนผิวน้ำ (ประมาณครึ่งชั่วโมง??) ละมัง ใส่ตะกั่วเพิ่มไปอีกสักก้อน ให้ตัวหนักขึ้นอีกหน่อย นั่งสบายเลย อิอิอิ เดี๋ยวให้น้องน้ำผึ้งกลับมาเล่าให้ฟังละกัน ว่าดำปี๋ไปอีกแค่ไหน จากคุณ : *Cookies* เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 19:08:20

ความคิดเห็นที่ 81 ยังไงก็ขอใ้ห้ปลอดภัยทุกคนครับ ไม่ว่าจะทำหน้าที่ใด เป็นกำลังใจให้พี่หนึ่ง SSAR ด้วยคน อย่าใ้ห้ได้ต้องออกแรงเลยนะงานนี้ จากคุณ : zoopod เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 19:15:56

ความคิดเห็นที่ 82 3000 คนนี้ ต้องงด ทาครีมกันแดด ทุกคนนะครับ เพราะ ปริมาณ ของ ครีมกันแดด ต่อคนที่ทา x 3000 นี่ ปะการังจะตายหมดหลังจากที ทำลาย สถิติกันเสร็จนะ ผมว่านะ งานนี้ เริ่มช้าไปกระชั้นไป เสียมากกว่าได้นะ จากคุณ : เจ้าหญิงน้อยแห่งอันดามัน เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 15:05:44

ความคิดเห็นที่ 83 เมื่อสักครู่ โทรไปถาม จนท ของ the one ครับ เค้าบอกว่า พายุเข้า แผ่นดินไหว ทางการกลัวสึนามิ และคนมากมาย จึงขอเลื่อนไปก่อน ส่วนจะเป็นเมื่อไร จะแจ้งให้ทราบอีกที ขอบคุณครับ จากคุณ : mohicann เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 16:52:28

ความคิดเห็นที่ 84 เลื่อนไปก่อน เป็นความคิดที่ดีครับ ช่วงนี้ฝั่งอันดามัน มีลมกรรโชกแรง และคลื่นสูง ฝนตกทุกวันด้วย เลื่อนไปก่อนจะได้คิดวางแผนและเตรียม งานให้ดีกว่านี้ครับ จากคุณ : SSAR (darasamuth_hiso) เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 18:33:48

ความคิดเห็นที่ 85 ขออนุญาต ไชโย ครับ ^^ จากคุณ : q_cosmo เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 18:38:12

ความคิดเห็นที่ 86 ขอคารวะทุกฝ่ายที่ได้ประกาศเลื่อนงานนี้ออกไปค่ะ.... ดูจากสภาพภูมิประเทศของสถานที่จัดงาน....ดินฟ้าอากาศ....กระแสน้ำ...กำลังคน....และความพร้อมอื่นๆแล้ว สายชลจึงได้แสดงความเห็นว่าควรจะเลื่อนงานนี้ออกไป ซึ่งน่าจะปลอดภัยกว่าค่ะ พร้อมเมื่อไร.....ว่ากันใหม่นะคะ... แก้ไขเมื่อ 31 มี.ค. 53 20:12:58 จากคุณ : สายชล เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 20:12:25

ความคิดเห็นที่ 87 มีการเลื่อนวัน แต่นักดำน้ำที่จะไปร่วมงานยังไม่ทราบว่าเลื่อน O_o??? งง เหลือหลาย ... จากคุณ : KoPoK เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 20:59:02

ความคิดเห็นที่ 88 จากคุณ : *Cookies* เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 21:07:19

ความคิดเห็นที่ 89 ดีแล้วครับที่เลือนออกไป....... เข้าไปดูรายการ The One หลายอย่าง...... เล่นกีต้าร 2000 คนพร้อมกัน..... ผมว่าทำง่ายกว่า หานักดำน้ำ 3000 คนอีก......... (ใครเป็นคนคิดว่าจะดำน้ำทำลายสถิตเนี้ย) ผมว่าหา concept อย่างอื่นดีกว่าที่จะทำลายสถิตนะ มันจะง่ายกว่าการจัดดำน้ำ 3000 คน แน่นอน แบบว่า เก็บขยะใต้น้ำทั่วประเทศไทย ภายในหนึ่งวัน น้ำหนักกี่ตัน อะไรก็ว่าไป...... แก้ไขเมื่อ 31 มี.ค. 53 22:27:03 จากคุณ : Arson เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 22:26:33

ความคิดเห็นที่ 90 เห็นด้วยกับคุณ Arson มากมายค่ะ จากคุณ : KoPoK เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 53 08:42:52

ความคิดเห็นที่ 91 http://theone.mthai.com/?p=1186 ประกาศเลื่อน อย่างเป็นทางการ จากคุณ : mohicann เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 53 11:23:38

ความคิดเห็นที่ 92 แต่ที่แน่ๆ ช่อง 3 ข่าวเพิ่งออกเมื่อไม่เกิน5นาทีนี้เลยครับ ว่า งานดำน้ำเก็บขยะ ทำลายสถิติโลก3000คน นั้น ยังเดินหน้า ในวัน พรุ่งนี้ 3/4/2553 อยู่ครับ จากคุณ : alcatel547 (ALCATEL547) เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 53 17:40:46

ความคิดเห็นที่ 93 ไปดูข่าวทีวีย้อนหลัง....ผู้ดำเนินรายการทีวี 360 องศา ทางช่อง 3 ให้ข่าวว่างานนี้ยังมีอยู่ตั้งแต่เช้าถึงเย็นวันที่ 3 เมษายน นี้ จริงๆด้วยค่ะ...!!! เขาตกข่าวหรือว่างานยังมีอยู่จริงๆคะ....??? จากคุณ : สายชล เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 53 21:01:43

ความคิดเห็นที่ 94 ขอให้เป็นตามข่าวตามลิงค์นี้ด้วยเถอะค่ะเพี้ยงๆ ^-^ เก็บขยะ เก็บขยะ http://www.c2phuket.com/misc/detail.php?post_id=34106 จากคุณ : น้ำผึ้ง (เงือกน้อยแห่งท้องทะเล) เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 53 00:29:54

ความคิดเห็นที่ 95 แม้งานจะยกเลิก...แต่จะยังคงมีการเก็บขยะทั้งบนบกและใต้น้ำในบริเวณที่จัดงานเดิมกันอยู่ ดีค่ะน้องทูล....ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์....แม้ที่นั่นจะไม่ค่อยมีขยะใต้น้ำให้เก็บนัก ก็ถือโอกาสนี้สำรวจสภาพแนวปะการังใต้ท้องทะเลแถวนั้นไปด้วยเลย เผื่อจะได้หาแนวทางดูแลรักษาแนวปะการังแห่งนี้ให้คงความสมบูรณ์อย่างยั่งยืนสืบไป ถ้าคลื่นลมแรง และกระแสน้ำแรง โปรดดำน้ำอย่างระมัดระวังเพื่อความปลอดภัยด้วยนะคะ จากคุณ : สายชล เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 53 10:32:08