ความคิดเห็นที่ 1   ที่โถงใหญ่มีบันไดเลื่อนขึ้นทั้งด้านซ้ายมือและด้านขวามือ เราตัดสินใจไปด้านซ้ายมือเพราะคนส่วนใหญ่เดินไปขึ้นด้านนั้น ตัดสินใจไม่ผิด เหนือบันไดเลื่อนมีป้ายตัวโต Long Distance ... (อะไรทำนองเนี่ยะ จำข้อความแป๊ะๆไม่ได้ แต่เป็นทำนองว่า การเดินทางไกลขึ้นทางนี้) เมื่อขึ้นมาสุดบันไดเลื่อนจึงได้โล่งใจ เพราะมีป้ายไฟชัดเจนบอกขบวนT38 ให้เข้าแถวช่องไหน ขบวนไหนเข้าแถวช่องไหน คล้ายๆกับตอนcheck in ที่สนามบินเลย พร้อมกับต้องสแกนกระเป๋าเหมือนอย่างในสนามบินทุกประการ จากคุณ : Barnabas เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 11:16:30

ความคิดเห็นที่ 2   แอบคิดในใจว่า ดีน่ะที่เผื่อเวลาไว้ ไม่งั้นเสียเวลาตอนเข้าคิวและสแกนกระเป๋า  มีสิทธิ์ตกรถไฟได้ง่ายๆ ผ่านด่านสแกนมา ก็มานั่งรอเพราะเขาให้คนที่จะไปรถขบวน T96 ผ่านเข้าไปขึ้นรถไฟก่อน หลังจากนั้นห้านาทีไฟวิ่งก็เปลี่ยนเป็นT38ขบวนของเรา  แล้วก็มีเจ้าหน้าที่มาเปิดเหล็กกั้นให้พวกเราเข้าไปเพื่อขึ้นรถไฟ พวกเราลากกระเป๋าเดินมาเรื่อยๆผ่านโบกี้ตู้นอนแบบ Hard Sleeper ก็รู้ทันทีว่าพวกเราตัดสินใจถูกต้องแล้วที่ยอมจ่ายแพงซื้อแบบ Soft Sleeper ็Hard Sleeper เป็นแบบ 3 ชั้น ล็อคหนึ่งมี 6 เตียง และไม่มีประตูปิด แก้ไขเมื่อ 22 มี.ค. 53 00:47:14 จากคุณ : Barnabas เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 11:18:59

ความคิดเห็นที่ 3   เมื่อพบโบกี้ที่4 มีพนักงานยืนต้อนรับตรงทางขึ้นส่งยิ้มหวานให้กับพวกเรา เราก็ให้เธอตรวจตั๋วเพื่อความแน่ใจสุดท้ายจริงๆว่าพวกเราขึ้นถูกขบวน ไปกุ้ยหลินแน่ๆ โบกี้ของเราแบ่งเป็นห้องส่วนตัวได้ประมาณ 5 ห้อง(เหมือนรถไฟตู้นอนชั้นหนึ่งบ้านเรา) จากคุณ : Barnabas เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 11:20:23

ความคิดเห็นที่ 4   แต่ละห้องมีที่นั่ง(ที่นอน) 4 ที่ เป็นเตียงล่างสอง เตียงบนสอง  ส่วนของเตียงบนมีที่วางกระเป๋าตรงเหนือประตูด้วย มีห้องน้ำทั้งหัวตู้และท้ายตู้ ฟากหนึ่งจะเป็นแบบนั่งชักโครก อีกฟากหนึ่งเป็นแบบนั่งยองๆ   ด้านหัวตู้มีที่กดน้ำร้อนไว้บริการ แต่ไม่มีแก้วให้ต้องเตรียมมาเอง เตียง ที่นอน หมอน ผ้าห่ม สะอาดสะอ้านและนอนสบาย จากคุณ : Barnabas เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 11:21:37

ความคิดเห็นที่ 5   นี่ห้องน้ำรถไฟ จากคุณ : Barnabas เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 11:34:41

ความคิดเห็นที่ 6   17:51 น.  รถไฟออกเดินทาง รถไฟจะจอด กวางโจว(Guangzhou), Shaoguan, Hengyang, Yongzhou , Quanzhou และถีงกุ้ยหลิน(Guilin) เช้าวันใหม่เวลา 6:42 น. สักพักเจ้าหน้าที่ก็มาตรวจตั๋ว แล้วเธอก็เก็บตั๋วของเราไปพร้อมกับยื่นการ์ดให้เราสามใบชี้ให้เราอ่านภาษาอังกฤษที่เขียนไว้บนการด์ว่า “จะเปลี่ยนตั๋วคืนให้เมื่อถึงสถานีปลายทาง”  พวกเราก็รับมาแบบงงๆ ผมได้จังหวะก็ถามเธอว่าอีกเตียงหนึ่งมีคนนั่งไหม เธอทำท่างงๆว่าไม่เข้าใจที่เราถาม ผมเลยตบไปที่เตียงว่างแล้วพูดว่า “anyone…here” เธอเข้าใจแล้วหันไปถามเพื่อนที่ถือชาร์จที่นั่งเป็นภาษาจีน แล้วตอบกลับมาว่า No เป็นอันว่าห้องนี้เป็นของเราอย่างสิ้นเชิง เมื่อพวกเธอไปแล้วเราจึงล็อคประตู แล้วเริ่มกลับมาสนใจกับการ์ดที่เธอแลกกับตั๋วของเราว่ามันคืออะไร สุดท้ายก็เดาว่ามันน่าจะเป็นคีย์การ์ด เอาไว้ใช้เปิดประตูโบกี้เมื่อเราต้องออกไปตู้เสบียง แต่พวกเราก็ไม่ได้ไปตู้เสบียงหรอกเพราะพวกเราซื้อของตุนไว้แล้ว ประตูระหว่างโบกี้รถไฟชั้นหนึ่งนี้มันจะล็อคเมื่อขบวนรถหยุด รวมถึงประตูห้องน้ำด้วย แต่เมื่อรถเคลื่อนตัวมันก็จะเปิดปิดได้ตามปกติ รถไฟเคลื่อนตัวออกจากหลอวู่ เสิ่นเจิ้น ผ่านตึกอาคารล้วนโอ่อ่าใหญ่โต ตั่วเฮียอดออกความเห็นไม่ได้ว่า เราไม่เห็นบ้านเดียวที่นี่เลย ไม่เห็นแม้แต่พวกอาคารพาณิชย์แบบบ้านเรา เห็นแต่ตึกอาคารใหญ่ๆ  ตลอดจนไม่เห็นตึกโทรมๆด้วย น้องเล็กค้านกรายๆว่าอาคารพาณิชย์น่าจะมี ก็อย่างร้านบะหมี่ที่เราไปนั่งกินก็เป็นแบบอาคารพาณิชย์ แต่หากไม่สังเกตมันก็ดูไม่เหมือนอาคารพาณิชย์เท่าไหร่นัก แต่ต้องยอมรับว่าเสิ่นเจิ้นเป็นเมืองที่เจริญจริงๆ (แถมตบท้ายด้วยว่า) คนเป็นล้าน  (เพราะเจอแต่คนบนถนน Hua Qiang และ ก็มีแต่คนที่ตลาดตงเหมิน หรือแม้แต่ที่หลอวู่ก็มีแต่คน) แล้วการสนทนาถึงเสิ่นเจิ้นเมืองจีนก็เริ่มขึ้น.... -คนจีนพวกเขาชอบคล้าก...:-)น้ำลาย เดินไปที่ใดก็มีคน:-)น้ำลาย แต่ทำไมบ้านเมืองเขายังสะอาดอยู่ได้??? -ถนนหนทาง เขาก็ปลูกต้นไม้เหมือนกรุงเทพแต่ทำไมต้นไม้ของเขาดูเขียวสด และไม่มีฝุ่นเกาะใบให้ดูสกปรก??? -.ในขบวนMTR ของเขามีไฟวิ่งให้เรารู้ว่ารถไฟฟ้ากำลังวิ่งไปทางใดและจะมีไฟกระพริบทำให้รู้ว่ากำลังจะถึงสถานีอะไร ที่ประตูก็มีไฟบอกว่าประตูด้านไหนจะเปิด -บ้านเมืองเขาดูเจริญมากๆจริงๆ  แต่ว่า...นั่นเป็นเพราะรัฐบาลจีนพยายามสร้างภาพหรือเปล่า เพราะคนของเขาก็ยังปากกัดตีนถีบอยู่เลย ดูจากนายหน้าขายโรงแรม หรือคนขายของตามตลาด -เมื่อก่อนเราจะได้ยินว่าคนจีนยึดหลักค้าขายต้องซื่อสัตย์ แต่เดี๋ยวนี้ดูเหมือนเมืองจีนมีแต่ของต้มตุ๋น... เมืองเขาเจริญจริงๆอย่างที่เราเห็นหรือปล่าว??? แล้วรถไฟก็ผ่านตึกเป็นเหมือนแฟลตเก่าๆ ...ตึกเก่าๆ..แม้มันยังดูดีแต่ในที่สุดพวกเราก็ได้เห็นอีกมุมหนึ่งของเสิ่นเจิ้นว่ายังมีอีกหนึ่งที่หลบซ่อนแอบตัวอยู่เงียบๆท่ามกลางตึกรามอาคารตระการตา.... แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 53 02:01:44 แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 53 02:00:57 แก้ไขเมื่อ 22 มี.ค. 53 18:33:49 จากคุณ : Barnabas เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 11:38:51

ความคิดเห็นที่ 7   ในรถไฟดูเหมือนห้องข้างๆ ชาวจีนกำลังเล่นไพ่และสูบบุหรี่ กลิ่นบุหรี่เล็ดลอดเข้ามาในห้องพวกเราบ้างเป็นระยะๆ สักพักเสียงใสๆของสาวเจ้าหน้าที่รถไฟก็ดังขึ้น คิดว่าเธอคงไปเตือนพวกเขาไม่ให้สูบบุหรี่ สักพักกลิ่นบุหรี่ก็หายไป ดึกๆ กลิ่นบุหรี่ก็ลอยเข้ามาใหม่ เสียงเตือนใสๆก็ดังอีกครั้ง กลิ่นบุหรี่ก็หายไป ดึกขึ้นมาอีก ก็กลับมีกลิ่นบุหรี่อีกครั้ง แต่ครั้งนี้ อาจดึกเกินไปแล้วจึงไม่มีเสียงเตือนของเจ้าหน้าที่สาวอีก จากคุณ : Barnabas เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 11:39:33

ความคิดเห็นที่ 8   วันที่ 6 มีนาคม 2010 ประมาณ 6:00 น. เจ้าหน้าที่รถไฟมาเคาะประตูห้อง พร้อมยื่นตั๋วคืนพวกเรา แล้วเอาการ์ดของเธอคืนกลับไป 7:00 น. ถึงกุ้ยหลิน พวกเราลากกระเป๋าลงรถไฟ ที่สถานีเราต้องลงบันไดประมาณยี่สิบขั้นเพื่อลอดใต้ชานชลา แล้วขึ้นบันไดอีกครั้งเพื่อขึ้นตัวอาคารสู่ภายนอก ตรงนี้ลากกระเป๋า(แบบมีล้อ)ไม่ได้ง่ะ ต้องใช้วิธียกอย่างเดียว  แต่พวกเรายังหนุ่มยังแน่น(แม้อายุอาจจะมากไปนิดนึง...นิดนึงจริงๆ) ก็เลยยกกระเป๋าแบบสบายๆ ออกมานอกอาคารรถไฟ...ปรื้อ...อากาศหนาวได้ใจ ต่างกับที่เสิ่นเจิ้นราวฟ้าดิน ที่นี่พูดแล้วมีไอออกมาเลยครับ น้องเล็กได้ใส่เสื้อหนาวที่เตรียมมาสมใจ ส่วนเรามีเพียงแจ็คแก็ตพอกันหนาวได้บ้าง จึงค้นเอาถุงมือที่เตรียมมามาใส่ มองไปหาที่ฝากกระเป๋าก็พบว่าปีกซ้ายของอาคารรถไฟ เดินผ่านห้อง Police ไปอีก 2 ห้องก็เป็นที่รับฝากกระเป๋า ใบเล็ก(เป้สะพายหลัง) 10 หยวน  กระเป๋าใบใหญ่ขึ้นมาหน่อย 15 และ 20 หยวน ตามลำดับ ของพวกเรา 3 ใบ 20 , 20 และ 15 หยวน พร้อมรับslip เป็นหลักฐานเอาไว้สำหรับยื่นเมื่อมารับกระเป๋าคืน ตอนที่เราไปฝากกระเป๋ายังเช้าอยู่และอากาศหนาว ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ผู้ชายมาตรวจกระเป๋า แต่ตอนที่เรามารับกระเป๋าพบว่ามีเจ้าหน้าที่ผู้ชายตรวจกระเป๋าโดยเปิดดูทุกใบยกเว้นพวกเป้สะพายที่เขาให้ผ่านเข้าไปฝากกระเป๋าได้เลย ด้านหน้าสถานีมีรถแท็กซี่ และรถตู้รุ่นเก่าที่เหมาไปได้ จากคุณ : Barnabas เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 11:43:47

ความคิดเห็นที่ 9   ที่ฝากกระเป๋า จากคุณ : Barnabas เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 11:44:38

ความคิดเห็นที่ 10   ที่กุ้ยหลินจะมีสถานีรถไฟ 2 แห่ง คือ North Guilin Railway Station และ Guilin Railway Station หรือ South Guilin ถ้าเป็นไปได้ให้เลือกลง South Guilin เพราะใกล้เมืองและสถานีรถบัส  สำหรับรถไฟขบวนT38/39 จะไม่จอด North Guilin แต่มาจอดที่ South Guilin เลย จากคุณ : Barnabas เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 11:45:55

ความคิดเห็นที่ 11   ขอยืมภาพคำอธิบายตั๋วรถไฟจาก www.data4thai.com มาแสดงครับ จากคุณ : Barnabas เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 14:36:55

ความคิดเห็นที่ 12   สำหรับที่สถานที่น่าเที่ยวของกุ้ยหลิน ได้แก่ Elephant Trunk Hill, Reed Flute Cave, Seven-Star Park สามารถหาข้อมูลได้จาก www.travelchinaguide.com จะมีรายละเอึยดพร้อมแผนที่ครับ แต่ข้อมูลอาจจะไม่อัพเดทเท่าไหร ก็เลยถือโอกาสขอบคุณ Web Site ต่อไปนี้ที่ช่วยให้พวกเราเที่ยวเมืองจีนได้สนุกสมใจ...ขอบคุณครับ www.travelchinaguige.com          -ข้อมูลรถไฟ ,guilin และอื่นๆ www.yangers.com            หยางซั่วและล่องแพ www.yangshou-travel-guide.com     -เส้นทางจักรยาน bicycle trail http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8347821/E8347821.html   คุณมูมูฮาคุโช www.guilinchina.net        - ข้อมูล xingping town www.visitguilin.org www.travelpod.com        - ข้อมูล yangshou hostel www.data4thaicom         - link พยากรณ์อากาศ และอื่นๆ www.chinahotels.org       -จองโรงแรมเสิ่นเจิ้นและแผนที่โรงแรม จากคุณ : Barnabas เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 14:53:14

ความคิดเห็นที่ 13 โปรแกรมคล้ายๆกันครับ ไปเมื่อปีก่อน ได้้ข้อมูลจากกระทู้คุณ k.j ไปเซินเจิ้นแล้วนั่งรถไฟไปกุ้ยหลินหยางซั่ว จากคุณ : เจอร์ เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 14:55:47

ความคิดเห็นที่ 14   แผนที่สถานที่ท่องเที่ยวกุ้ยหลินครับ ที่ผมป้านสีแดงคือ สถานีรถไฟกุ้ยหลิน สีเหลือง คือสถานีรถบัสหลัก (Cheif Bus station, กุ้ยหลินมีสถานีรถ 3 แห่งครับ) จากสถานีรถไฟเดินมาได้ครับ สีเขียวคือ Elephent trunk hill รูปเหมือนช้างกำลังใช้งวงดูดน้ำ สีแดงคือ seven star park ส่วนสีน้ำตาลคือพระราชวังหมิง (Ming Prince Mansion) แผนที่อาจจะไม่ชัด แต่สามารถดูเต็มๆที่ www.travelchinaguide.com จากคุณ : Barnabas เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 15:04:29

ความคิดเห็นที่ 15   ทริปนี้ผมตั้งใจจะล่องเรือที่หยางซั่ว เลยไม่ได้เที่ยวกุ้ยหลิน วางแผนเพียงไปที่ seven star park เท่านั้น เช้านี้วางแผนว่าจะไป seven star park ถ่ายรูป camel hill ก่อนแล้วค่อยนั่งรถบัสไปหยางซั่วตอนสายๆ แต่ไม่แน่ใจว่าเช้าๆอย่างนี้ seven star park เปิดให้เข้าแล้วหรือยัง (ลืมดูเวลา ที่จริงมัน 8 โมงแล้วแต่อากาศยังดูเหมือนมืดๆ) หลังทานข้าวเช้า ก็พอดีมีไกด์ท้องถิ่น ชื่อ Mr. Jame มาเสนอตัวเป็นไกด์ให้ พูดภาษาอังกฤษได้ดีทีเดียว เขาพยายามจะให้เราซื้อตั๋วล่องเรือไปหยางซั่วแทนไปรถบัสคนละ 200 หยวน แต่ที่เราอ่านมาก็พอรู้ว่าถ้าล่องเรือจะใช้เวลาสามชั่วโมง เราคิดว่ามันนานไปและน่าเบื่อ เพราะขนาดนั่งเรือกินข้าวล่องเจ้าพระยา 2 ชั่วโมงครึ่งก็ยังเบื่อๆเลย เลยปฎิเสธไป เขาก็พยายามเสนอทัวร์กุ้ยหลิน one day trip แต่เราบอกว่าเรามีเวลาครึ่งวัน แล้วสรุปกับเขาว่า พวกเราอยากจะไปดูตลาดสดของที่นี่ แล้วไป seven star park หลังจากนั้นจึงแวะ Elephent Trunk Hill แล้วส่งเราที่ Bus Station รวมค่าไกด์และค่ารถครึ่งวัน 90 หยวน เขาก็ตกลง (วีรกรรมของนายคนนี้ดูได้จากlink http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8944997/E8944997.html เราบอกเขาว่าขอโทรศัพท์ไปเลื่อนเวลาเช็คอินกับโรงแรมที่หยางซั่วก่อน เพราะตอนจองบอกเขาว่าเที่ยงๆจะไปถึง ตอนนี้พวกเราจะทัวร์กุ้ยหลินคงถึงช่วงบ่ายๆ นายJame ตัดบทว่าไม่ต้องโทรเดี๋ยวเขาหาโรงแรมที่หยางซั่วให้ด้วย แล้วรีบพาพวกเรามานั่งรถตู้รุ่นเก่าทันที ตั่วเฮียอยากเที่ยวจึงตามเขาไปทันที พวกเราก็ตามขึ้นรถนั่งไปตลาดสด ระหว่างทางนาย Jame ก็พยายามขายทัวร์เพิ่มโดยอยากให้เราไปขึ้นกระเช้า  แต่เราก็ยืนยันคำเดิมว่าไม่มีเวลา ถึงตลาดสดพวกเราเข้าไปเดินดู แม้เป็นเวลาเกือบ8โมงแล้ว แต่ดูเหมือนพวกเขาเพิ่งจะทยอยกันมาตั้งแผง คงเป็นเพราะอากาศหนาว ธุรกิจเลยเริ่มสายตามสภาพอากาศไปด้วย แวะชิมเนื้อแพะและหมูแดงเลยซื้อมาอย่างละ 30 หยวน และแสดงน้ำใจโดยซื้อเนื้อแพะให้นายเจมส์ด้วยเพราะเขาบอกว่าอร่อยดี คิดว่าเขาคงมีน้ำใจตอบ...แต่เราคิดผิด แก้ไขเมื่อ 22 มี.ค. 53 18:30:19 จากคุณ : Barnabas เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 15:12:32

ความคิดเห็นที่ 16   ก่อนออกจากตลาดนายเจมส์ขอค่าไกด์ 90 หยวน แต่เราให้ไป 50 หยวนก่อน กลับออกจากตลาดขึ้นรถ..คิดว่าจะไป seven star park แต่ไม่ใช่..นายเจมส์พาเราไปพระราชวังหมิงซึ่งไม่มีในข้อตกลง (พระราชวังหมิงหรือ Jingjiang Price Palace หรือ Ming Price Mansion) หลอกเราให้ซื้อตั๋วแบบมีไกด์แนะนำประวัติศาสตร์หมิง คนละ 70 หยวน ทั้งๆที่รู้ว่าเราไม่เข้าใจภาษาจีน (รวมตั๋วของนายเจมส์ด้วยก็เป็น 70 x 4 , นายเจมส์เป็นคนไปซื้อตั๋วให้พวกเรา ตอนผ่านประตูเจ้าหน้าที่เอาป้ายคล้องคอสีน้ำเงินให้แค่พวกเราสามคน ขณะที่กลุ่มคนจีนร่วมกรุ๊ปบรรยายเดียวกับเราเป็นป้ายสีแดง เราจึงเดาว่าอย่างน้อยนายเจมส์ได้เงินฟรีจากเราไปแล้ว 70 หยวน)   ผู้หญิงที่ถือธงคือไกด์ของพระราชวัง พวกเราต้องเดินตามกลุ่มทัวร์คนจีนที่อยู่ด้านหน้า ฟังไกด์ไม่รู้เรื่องเพราะพูดภษาษจีน จากคุณ : Barnabas เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 15:17:42

ความคิดเห็นที่ 17   เดินตามไกด์ได้สักแป็บนึง นายJameก็พาพวกเราผละออกมาแล้วพาขึ้นชมวิวบนยอดเขา ตอนนี้แม้โดนหลอกก็พอปลอบใจตัวเองได้บ้างเมื่อขึ้นไปบนยอดเนินในบริเวณพระราชวังทำให้เห็นเมืองกุ้ยหลินจากมุมสูงทั้งหมด สวยทีเดียว เดินขึ้นเขา ไม่รู้ว่าใช่ยอด Solitary Beuty Peakหรือเปล่าก็ไม่รู้ จากคุณ : Barnabas เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 15:21:28

ความคิดเห็นที่ 18   ถึงยอด จากคุณ : Barnabas เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 15:22:10

ความคิดเห็นที่ 19   Top View จากคุณ : Barnabas เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 15:22:46

ความคิดเห็นที่ 20   ป้ายแผนผังที่น้องเล็กถ่ายไว้ เพื่อยืนยันว่า มาเองไม่ต้องพึ่งไกด์จะเที่ยวได้คุ้มกว่า จากคุณ : Barnabas เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 15:25:33

ความคิดเห็นที่ 21   อยู่บนยอดไม่ถึง 5 นาที ยังไม่ทันหายเหนื่อย นาย Jame ก็รีบพาเราลงมาเพื่อจะให้ไปที่ใดก็ไม่รู้  ที่จะให้พวกเราไปนั่งกระเช้า ที่เขาพยายามพูดมาตลอด ดูเหมือนไกด์ไหนๆก็จะรีบๆเร่งๆ ลูกทัวร์กันหมด ...เพราะอะไรนะเหรอ ก็เพราะเขาจะรีบทำเงินด้วยค่าคอมของแต่ละสถานที่ที่พาเราเข้าชมไง...ดังนั้นหากเขาพาเราไปได้มากที่เท่าไหร เขาก็ได้ค่าคอมมากแห่งเท่านั้น เลยพยายามเร่งพวกเราตลอดโดยไม่สนว่าเราเดินทั่วแล้วหรือยัง ที่จริงที่พระราชวังหมิงยังมีอีกหลายจุดที่พวกเราไม่ได้ไป เช่นมีที่คล้ายๆถ้ำหลังหน้าผา ซึ่งพวกเราเห็นนักท่องเที่ยวเดินออกมา ซึ่งพวกเราก็ไม่ได้เข้า ได้เพียงถ่ายรูปด้านหน้าเท่านั้น ถ้ำนี่ไง เห็นไหมมีคนเดินออกมา จากคุณ : Barnabas เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 15:29:41

ความคิดเห็นที่ 22   พวกเราได้แต่ถ่ายรูปด้านหน้า ก็สวยดี จากคุณ : Barnabas เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 15:30:36

ความคิดเห็นที่ 23   ตกลงแม้นาย Jame จะเชียร์ยังไงผมก็บอกว่าเราจะไป seven star park เพื่อถ่ายรูปกับสัญลักษณ์ของกุ้ยหลิน camel hill นาย Jame ยังหลอกพวกเราอีกว่า ถ้าจะถ่ายรูป camel hill เราต้องเสียสองต่อคือค่าเข้า park และค่าลอดถ้ำ แต่ที่ผมอ่านมาเราไม่จำเป็นต้องลอดถ้ำ นายเจมส์ก็ยังยืนยันว่าต้องเสียสองต่อ และค่าเข้าpark คือ 45 หยวน ไม่ใช่ 35 หยวนอย่างที่ผมทราบมา พร้อมกับจูงใจเราว่าล่องเรือกับเขาไปหยางชั่วคุ้มกว่าได้เห็น camel hill ด้วย พวกเราไม่เชื่อยังยืนยันว่าไป seven star park   เมื่อนายเจมส์มาถึงที่นั่น เขาแนะนำให้เราติดต่อช่องแรกที่มีเจ้าหน่ที่นั่งอยู่แต่ไม่ใช่ช่องขายตั๋ว โดยบอกให้เราไปถามเจ้าหน้าที่ได้ว่าต้องเสียสองต่อหรือไม่ แต่น้องเล็กของเราไม่เชื่อเขา    เดินไปเองที่ช่องขายตั๋ว ขอโบว์ชัวร์ของเขามาดูก็พบว่า camel hill สามารถเดินไปได้โดยไม่ต้องลอดถ้ำ ไม่ต้องซื้อตั๋วเพิ่ม  เราก็ถามคนขายตั๋วอีกครั้งโดยชี้รูปที่ camel hill เขาก็พยักหน้าแล้วให้ตั๋วราคา 35 หยวนมา เราหันไปถามนายเจมส์ว่าเขาจะเข้าไปด้วยไหม  นายเจมส์ส่ายหน้า...คงเริ่มอายแล้วที่พวกเราจับโกหกได้...แต่เราคิดผิด… หมอนี่ด้านจริงๆ จากคุณ : Barnabas เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 15:34:20

ความคิดเห็นที่ 24   นายเจมส์ให้เวลาเรา หนึ่งชั่วโมง แล้วต้องออกมาเจอกัน เมื่อเข้าไปในสวนต้องบอกว่าคุ้มครับกับ 35 หยวน ตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกหนาวมากแล้วเลยแวะซื้อหมวกไอ้โม่งคุมหัวกันลมหนาวกับแม่ค้าในสวน ตั่วเฮียและน้องเล็กก็ซื้ของฝาก ต่อราคากันสนุกสนาน จากคุณ : Barnabas เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 15:36:34

ความคิดเห็นที่ 25   เอาหมวกไหมพรมมาใส่คลุมหัวทันที จำไม่ได้ว่าราคาเท่าไหร่น่าจะอยู่ที่ 25 หยวนต่อใบ จากคุณ : Barnabas เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 15:38:15

ความคิดเห็นที่ 26   ในสวนมีป้ายบอกทางชัดเจน  เป็นระยะๆครับ จากคุณ : Barnabas เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 15:39:53

ความคิดเห็นที่ 27   เดินตามทางมีป้ายชัดเจนสักพักก็ถึง camel hill ที่ซึ่งประธานาธิยดีสหรัฐ บิล คลินตัน ก็เคยมาเยือน ตลอดรายทางพวกเราถ่ายรูปกันว่าเล่น มุมนั้นก็สวย มุมนี้ก็ดี รูปนี้คือcamel hill เหมืออูฐจริงๆ จากคุณ : Barnabas เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 15:44:13

ความคิดเห็นที่ 28   น้ำตกจำลอง จากคุณ : Barnabas เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 15:45:33

ความคิดเห็นที่ 29   ผมว่าหากมาสบายๆให้เวลาที่นี่สักชั่วโมงครึ่งก็น่าจะเป็นเวลาที่พอเหมาะดี จริงๆแล้วจากข้อมูล seven star park จะมีจุดเที่ยวที่น่าสนใจคือ The main sights contain Flower Bridge, Putuo Mountain, Seven Stars Cave(เสียเงินเพิ่ม), Camel Hill, Crescent Mountain, Guihai Stele Forest and Light of China Square. แต่เราไม่ได้ดูทั้งหมด เพราะนายเจมส์ให้เวลาเราชั่วโมงเดียว 11:00 น. หนึ่งชั่วโมงพอดี เราก็รีบออกมาเจอนายเจมส์ เพราะกลัวเขาจะหนีไปและอ้างได้ว่าเราผิดเวลาเอง นายเจมส์เมื่อเจอหน้าเราก็บอกหน้าตาเฉยว่า เขาไปคุยกับ manager เราจึงได้ค่าผ่านประตู 35 หยวนแทนที่จะเป็น 45 หยวน ไอ้...ผมแอบด่าในใจ ..ไอ้ส่วนที่เกินมา 15 หยวนมันจะเอาเข้ากระเป๋าตัวเองต่างหากล่ะ เราบอกว่าเราจะกลับสถานีรถไฟแล้วจะไปทานข้าว ไม่ไป Elephent trunk Hill แล้ว นายเจมส์ก็พูดกับคนขับรถ..ดูเหมือนว่าให้ขับรถแบบอ้อมทางเพื่อถ่วงเวลา แล้วเริ่มเสนอร้านอาหารให้เรา..พร้อมพยายามขายทัวร์นั่งเรือ 200 หยวนอีกครั้ง นั่งรถอ้อมก็ดีเหมือนกัน เพราะได้ชมรอบเมืองผ่านแม่น้ำลี่ เจดีย์เงิน เจดีย์ทองด้วย สุดท้ายเขาก็มาส่งเราที่สถานีรถไฟ เมื่อเห็นว่าขายเรือไม่ได้แล้ว เขาก็เปลี่ยนเป้าหมายขายตั๋วรถบัสไปหยางซั่วให้เราแทน พร้อมเสนอโรงแรม และรถsleeper bus จากหยางซั่วไปจูไห่ในวันที่เราจะกลับด้วย แต่ถ้าเราซื้อของมัน...ก็คงเรียกว่าโง่สุดๆแล้ว เลยบอกนายเจมส์ว่าเรายังไม่ไปหยางซั่วตอนนี้ เพราะอยากจะเดินชมเมืองกุ้ยหลินก่อน แล้วจ่ายเงิน 40 หยวนส่วนที่เหลือให้เขาไป... จะเที่ยงอยู่แล้วแต่อากาศที่นี่ก็เย็นสบายน่าจะราวๆ เหมือนอยู่บนภูกระดึงเลย จากคุณ : Barnabas เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 15:51:56

ความคิดเห็นที่ 30   ถนนด้านหน้าสถานีรถไฟกุ้ยหลินจัดว่าเป็นถนนหลักชื่อถนนZhongshan  ถ้าหันหน้าเข้าหาสถานีรถไฟกุ้ยหลิน ทางด้านซ้ายมือจะเป็นทางออกนอกเมือง seven star park ก็ไปทางนี้   ส่วนทางขวามือเป็นทางเข้าเมืองและเดินไปประมาณ 500 เมตรก็จะถึงสถานีรถบัสกุ้ยหลิน(ถ้าจำไม่ผิดจะผ่านสี่แยกหนึ่งแยก) กุ้ยหลินมีสถานีรถบัส 3 แห่ง คือ Chief Bus Station บนถนนZhongshan ใกล้สถานีรถไฟนี่เอง , Chengnan Bus station และ Beimen Bus Station ส่วนรถบัสที่จะไปหยางซั่วสามารถขึ้นที่หน้าสถานีรถไฟได้เลย แต่รถบัสนี้จะจอดตรงปั๊มน้ำมันทางเข้าเมืองของหยางซั่วต้องเดินอีกนิดหน่อยจึงจะถึง West Street (Xi Jie Road)หรือถนนคนเดินของหยางซั่ว และเป็นรถที่วิ่งรับคนตามรายทางด้วย ราคาถูก   แต่หากไปซื้อตั๋วที่ Bus Station รถจะวิ่งทางด่วน ไม่รับคนรายทาง ไปจอดที่สถานีรถบัสของหยางซั่วที่อยู่ติดกับwest street เลย ราคาแพงกว่า แต่ใช้เวลาเดินทางเท่าๆกันเพราะขับช้ามาก 11:20 น.  หลังสลัดนายJame ออกไปได้แล้ว ตั่วเฮียกะน้องเล็กขอเดินชมเมืองตามถนนZhongshan ส่วนเราขอเข้าห้องน้ำและโทรศัพท์แจ้งโรงแรมที่หยางซั่วก่อน   ห้องน้ำอยู่หน้าอาคารสถานีรถไฟเกือบติดฟุตบาทริมถนนทางด้านซ้าย(หันหน้าเข้าหาตัวอาคาร) ก้ออย่างที่ทุกคนทราบกันห้องน้ำสาธารณะเมืองจีนสุดยอดของประสบการณ์แปลกๆเลย  แต่ไอ้เราเป็นผู้ชายก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมาก มาคิดอีกทีว่าฉิ้งฉ่องตามสุมทุมพุ่มไม้อาจจะสะดวกและสะอาดกว่าด้วยซ้ำ 55 ออกมาที่ตู้โทรศัพท์สาธารณะ..อ้าวไม่มีแบบหยอดเหรียญมีแต่แบบเสียบการ์ดง่ะ เลยเดินกลับมาสมทบตั่วเฮียกะน้องเล็ก สังเกตเห็นว่ามีผู้ชายสองคนเดินประกบตามตั่วเฮียกะน้องเล็กอยู่ เลยเข้าไปกระซิปบอกให้ระวังโดนล้วงกระเป๋า ก่อนหน้านี้น้องเล็กได้เข้าไปถามซื้อซิมในร้านสาขาโทรศัพท์แล้วเจอเจ้าหน้าที่ผู้หญิงวัยรุ่นพูดภาษาอังกฤษได้ เลยพาเราเข้าไปถามว่าจะหาซื้อการ์ดโทรศัพท์สาธารณะได้ที่ไหน น้องสาวใจดีหยิบเครื่องของบริษัทมาให้เราโทรเลย โทรไป River View Hotel แจ้งว่าเราจองห้องแบบสามเตียงไว้ ตอนนี้เราถึงกุ้ยหลินแล้วน่าจะไปถึงหยางซั่วเย็นๆ หลังวางสายหันไปถามสาวน้อยว่าคิดค่าบริการโทรศัพท์เท่าไหร่ เธอบอกพร้อมรอยยิ้มว่า ฟรี ก่อนจากมาเรากับน้องเล็กจึงส่งภาษาจีนให้เธอ....ตั่วเซียะ ตั่วเซี่ยะ เธอและเพื่อนหัวเราะชอบใจ...นี่นับเป็นมิตรภาพแรกๆที่เราได้รับในเมืองจีน (อาซิ้มบะหมี่เกี้ยว เจ้าหน้าที่รถไฟ พวกเธอก็ให้มิตรภาพที่ดีต่อพวกเรา) หน้าร้านโทรศัพท์ของสาวใจดี จากคุณ : Barnabas เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 15:58:22

ความคิดเห็นที่ 31   ออกจากร้านโทรศัพท์มา เห็นตั่วเฮียกำลังซื้อเนื้อปิ้งกระเทียมพริกไทยที่ข้างทางไม้ละ 2 หยวน แต่ไม่รู้ว่าเนื้ออะไรเหมือนกัน ซื้อมา 5 ไม้ กินกันรวดเดียวหมดเลย...อร่อยดี เลยซื้ออีก 5 ไม้ เราเห็นผู้หญิงจีนสองคนก็มาซื้อต่อจากเรา แล้วเธอก็เดินตามมาทางเดียวกันด้วย เลยหันไปถามโดยชี้ไปที่ไม้เนื้อปิ้งของเธอ แล้วเปิดหนังสือภาษาจีนชี้ที่ข้อความราคาเท่าไหร่ หยิบเครื่องคิดเลขมาให้เธอกด ปรากฏว่าราคาไม้ละ 1 หยวนเอง  ...โดนโก่งราคาอีกแล้วพวกเรา จากคุณ : Barnabas เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 16:01:40

ความคิดเห็นที่ 32   บรรยากาศทางเท้าใกล้ๆสถานีรถไฟ ยังไม่ค่อยมีคน แต่แป็บเดียวแน่นถนนเลย ไม่รู้มาจากไหนกัน แก้ไขเมื่อ 20 มี.ค. 53 17:39:00 จากคุณ : Barnabas เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 16:05:03

ความคิดเห็นที่ 33   เดินผ่านมาได้อีกสองสามร้าน ยังไม่ห่างจากสถานีรถไฟเท่าไหร่ ก็เป็นร้านขายเสื้อเห็นเสื้อหนาวสวยดีเลยเข้าไปซื้อ ต่อราคาได้ที่ 50 หยวนคุ้มสุดๆ  (250 บาท—คือเสื้อตัวนอกสุดที่ต่อมาจะเห็นในรูปถ่ายเพราะใส่มันตลอดเนื่องจากอากาศหนาว) กำลังจะจ่ายเงิน หันมาทางตั่วเฮียที่ดูเสื้ออยู่นอกร้าน เห็นผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาประชิดตั่วเฮียแล้วผละจากไป ตั่วเฮียรู้สึกตัวจึงล้วงไปในกระเป๋าเสื้อตัวเอง ผมเห็นสีหน้าตั่วเฮียก็รู้ว่าถูกล้วงกระเป๋าแล้ว ทั้งผมและตั่วเฮียวิ่งออกมาจากร้านดักหน้า ดักหลังผู้ชายนักล้วงไว้ ตั่วเฮียไม่รอช้าเข้าจู่โจมพยายามจะล้วงไปที่กระเป๋าเสื้อผู้ชายคนนี้  มันปัดมือปัดไม้ไม่ยอม น้องเล็กวิ่งออกมาสมทบพร้อมตะโกน Police  Police อาซิ้มที่ขายของข้างถนนก้อด่ามันเป็นภาษาจีน มันจึงยอมคืนเงินให้ตั่วเฮีย  แต่คืนไม่หมด  ตั่วเฮียต้องล้วงเข้าไปในกระเป๋ามันจึงจะได้มือถือและเงินที่เหลือทั้งหมดกลับมา แล้วโจรนักล้วงก็รีบเดินหลบจะเข้าไปในซอยข้างๆ จะจบแค่เนี่ยะเหรอ..เราไม่ยอม วิ่งตามมันไป สายตาสอดส่องมองหาตำรวจ ก็เห็นคนหนึ่งแต่งชุดคล้ายตำรวจเดินมา น้องเล็กวิ่งตามมาตะโกน Thief Thief  Police Police เราก็ทำท่าว่าโดนล้วงกระเป๋า นายตำรวจผู้นั้นส่ายหน้า...โจรวิ่งเข้าซอยหนีไป ตอนหลังมานั่งเดากันว่านายตำรวจนั่นส่ายหน้าทำไม...เขาต้องการบอกว่าผมไม่ใช่ตำรวจ ผมเป็นแค่ยาม หรือ จะบอกว่า ไม่มีหลักฐานจับเขาไม่ได้  หรือส่ายหน้าบอกว่าผมไม่เข้าใจที่คุณพูด ก็เดาไม่ถูกเหมือนกัน ตลอดเหตุการณ์นี้ทุกคนที่เดินไปมามากมายล้วนยืนนิ่งเฉยหมด  ไม่มีใครสนใจแล้วทุกอย่างก็คืนสู่สภาพปกติเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น พวกเราเดินกลับเข้าไปร้านเสื้อเพื่อจ่ายเงิน อาซิ้มตามมาบอกว่าให้เอาเงินใส่ไว้ในกระเป๋าด้านในแจ็คแก็ต พวกเราเชื่อฟังแต่โดยดี จากคุณ : Barnabas เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 16:08:43

ความคิดเห็นที่ 34   มาตอนนี้ถึงรู้ว่าโจรล้วงกระเป๋าไม่ได้มีแค่สองคนแต่เป็นสิบคน ที่เดินประกบซ้ายขวาหน้าหลังพวกเราอยู่ มิน่าล่ะตอนเกิดเรื่องจึงดูเหมือนไม่มีใครสนใจ ก็เพราะพวกมันทั้งนั้น หลังเหตุการณ์นี้สังเกตพวกนี้ได้ง่ายๆ คือหากใครชำเลืองมองกระเป๋าถือของพวกเรา กระเป๋าด้านหลังกางเกง หรือกระเป๋าเสื้อ นั่นล่ะพวกโจร (วิธีสังเกตคือ ปล่อยให้เพื่อนเดินไปข้างหน้าสองคน แล้วเราเดินทิ้งช่วงมองห่างๆ จะเห็นได้เลยว่า คนที่เดินผ่านไปมาชำเลืองมองกระเป๋าเพื่อนของเราหรือไม่) แล้วเมื่อสงสัยว่ากำลังเป็นเป้าหมายที่จะถูกล้วงกระเป๋า ให้หยิบกล้องขึ้นมาทำเป็นถ่ายรูปโดยแพนให้เห็นมุมกว้าง พวกนักล้วงจะรีบหยิบมือถือมา ก้มหน้าทำเป็นกำลังกดโทรศัพท์ แต่แท้จริงกำลังหลบการถ่ายรูปของเรา หากค่อนข้างมั่นใจว่าเป็นคนไหน ไม่ต้องทำเป็นแกล้งถ่ายรูปพวกเรากันเอง  แต่ให้เอากล้องถ่ายมันตรงๆ ทำเป็นเหมือนกับว่าเราถ่ายวิวถนนทั่วๆไป  มันจะรีบหายตัวไปทันที เพราะมันรู้แล้วว่าเรารู้ตัว จากคุณ : Barnabas เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 16:10:33

ความคิดเห็นที่ 35   ออกมาจากร้านเสื้อ   ตั่วเฮียยังมีอารมณ์กินเนื้อย่างอีก เลยแวะซื้ออีกเจ้าหนึ่งซึ่งเป็นผู้หญิง ทำมือ 5 ไม้ พร้อมให้ไป 5 หยวน ขณะเจ๊ กำลังย่าง  เจ้าผู้ชายที่ขายโก่งราคาสองหยวนเราก็วิ่งมาบอกเจ๊แกเป็นภาษาจีน คงจะบอกว่าให้ขายไม้ละ 2 หยวน เจ๊ผู้หญิงเลยตอบกลับไปพร้อมโชว์แบงค์ 5 หยวนว่า พวกเขารู้แล้วว่าไม้ละหยวน นี่ไงให้มา 5 หยวน เจ้าผู้ชายขี้โกงก็เลยหันหลังกลับไปขายของตัวเองตามเดิม ปรากฏว่า เนื้อย่างของเจ๊ผู้หญิงอร่อยกว่าด้วย เดินกลับมาที่สถานีรถไฟเพื่อจะรับกระเป๋า เข้าไปถามแท็กซี่ว่าไปขนส่งตรงนี้คิดเท่าไหร่ เธอบอก 20 หยวน เราไม่ตกลงเธอจึงลดมา 15 หยวน เราก็ไม่ตกลง เธอทำท่าว่าเธอต้องขับรถวน มาถึงตอนนี้พวกเราจึงได้สังเกตว่าถนนหน้าสถานนีรถไฟมันเป็น one way เธอต้องขับรถวนจริงๆ แต่เราก็ว่า 15 หยวนแพงไป เพราะใกล้แค่นี้เอง ไปเอากระเป๋าแล้วก็ลังเลว่าจะเดินไปเองผ่านด่านนักล้วงกระเป๋า หรือจะนั่งรถไปดี ตั่วเฮียเห็นสามล้อเครื่องจอดอยู่เลยเข้าไปต่อรองได้ราคา 10 หยวน เขาก็ตกลงไปส่งพวกเรา โดยขับรถสวนเลนขึ้นไปเลย ทำพวกเราหวาดเสียวเล็กๆ แต่ก็ถึงที่หมาย จากคุณ : Barnabas เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 16:13:40

ความคิดเห็นที่ 36   ถึงสถานีต่อคิวซื้อตั๋วไปหยางซั่ว คนละ 15 หยวน ค่าประกันภัยอีก 2 หยวน  รวมคนละ 17 หยวน พวกเราเดินไปขึ้นรถที่ท่าด้านใน รถก็ออกทันที เข้าใจว่ารถออกทุกครึ่งชั่วโมง จำข้อมูลไม่ได้แล้ว ยังไงค้นจาก web site ที่อ้างถึงด้านบนก็จะรู้เวลา ที่ซื้อตั๋ว จากคุณ : Barnabas เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 16:18:10

ความคิดเห็นที่ 37   รถขับช้ามากน่าจะราวๆ 60-80 กม./ชม. ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.ก็ถึงหยางซั่ว จากคุณ : Barnabas เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 16:21:17

ความคิดเห็นที่ 38   ตอนที่1   http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E9008435/E9008435.html  เสิ่นเจิ้น ตอนที่3   http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E9011879/E9011879.html  หยางซั่ว ตอนที่4   http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E9014935/E9014935.html  ล่องเรือซิงพิง ตอนที่5   http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E9019376/E9019376.html  มาเก๊า สามทหารเสือตะลุยเมืองมังกร หยางซั่ว น้องใหม่BPหัดรีวิว แก้ไขเมื่อ 21 มี.ค. 53 22:53:20 จากคุณ : Barnabas เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 53 22:39:38

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณค๊าบบบบ มาเก็บข้อมูลเหมือนเดิม 555 จากคุณ : dodoman เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 53 00:38:43