|
ความคิดเห็นที่ 33 |
สวัสดีค่ะคุณนิชา
พี่ไปรฯที่เดนมาร์กถ้าส่งจดหมาย,พีซี หรือพัสดุออกนอกประเทศต้องมีสติกเกอร์สีฟ้าติดค่ะ ของที่เดนมาร์กจะเขียนว่า A Prioritaire ค่ะ เมื่อสองวันก่อนแวะไปไปรษณีย์แถวๆบ้านมาค่ะเพื่อไปขอเจ้าสติกเกอร์นี้โดยเฉพาะ ขอเชิงอ้อนวอนว่าฉันขอแยะๆได้ไหมเพราะใช้มาก ทีแรกก็คิดว่าเธอจะให้มาแค่ปึกเดียวค่ะ ซึ่งปึกนึงน่าจะมีราวๆ 40 สติกเกอร์ได้ เธอเดินไปที่เคาเตอร์ถัดไปพร้อมหยิบเจ้าสติกเกอร์นี้มาให้หนึ่งม้วนค่ะซึ่งมีราวๆ 100 สติกเกอร์ได้ ดีใจสุดๆค่ะ
เรื่องเคร่งครัดของที่นี่เห็นจะเป็นเรื่องของขนาด,น้ำหนักและระยะทางค่ะ และต้องจ่าชื่อและที่อยู่ของผู้ส่งทุกครั้งค่ะ (ในกรณีส่งพัสดุค่ะ) ดิฉันเคยส่งพัสดุไปไทยครั้งนึงและไม่ได้จ่าชื่อและที่อยู่ของตัวเองตรงมุมซ้ายมือ โดนคุณลุงไปรฯดุเลยค่ะ
เรื่องการติดแสตมป์ว่าจะใช้ขนาดเท่าไหร่ นอกจากเรื่องน้ำหนักแล้วยังขึ้นอยู่กับขนาดของซองจดหมาย,ขนาดของพีซีและขนาดของกล่องพัสดุค่ะ เพราะฉะนั้นใครที่ได้พีซีจากเดนมาร์กใหญ่ๆยาวๆอันนี้ดิฉันลงทุนเป็นพิเศษค่ะ 555 เพราะราคาแสตมป์จะแพงกว่าปกติ เวลาส่งพีซีขนาดที่มันใหญ่กว่าปกติก็จะคว้าไม้บรรทัดมาวัดก่อนทุกครั้งค่ะเพื่อความแน่ใจว่าปลายทางจะไม่โดนปรับถ้าติดแสตมป์ไม่ถึงขนาดพีซีใบนั้นๆ
เรื่องจ่าชื่อมาถึงเดนมาร์กอีกค่ะ เคยมีเพื่อนๆจ่าหน้าพีซีชื่อดิฉันมาเป็นล็อคอิน,ชื่อจริงภาษาไทยและเป็นชื่อเล่นภาษาไทย อันนี้มันก็ถึงนะคะและไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่โตอะไร แต่พี่ไปรฯอ่านภาษาไทยไม่ออกและไม่รู้จักล็อคอินค่ะเลยไม่แน่ใจว่าชื่อล็อคอินอันนี้เป็นใครและอยู่ที่นี่จริงหรือปล่าว พี่ไปรฯก็จะแปะกระดาษแนบชื่อจริงและนามสกุลของสามีมาค่ะ สงสัยแกต้องกลับไปเปิดสมุดหน้าเหลืองดูก่อนว่าใครเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้
เรื่องซื้อแสตมป์ที่เดนมาร์ก ที่นี่จะมีแสตมป์หลายแบบหลายราคาให้เลือกค่ะเพราะฉะนั้นเลือกได้ตามใจชอบเลยค่ะ ส่งไปอังกฤษจะใช้แสตมป์ราคา 8.50 โครนเดนิชค่ะ แต่ถ้าส่งไปไทยจะใช้แสตมป์ราคา 9.50 โครนเดนิชค่ะ แต่บางทีดิฉันก็ติดแสตมป์ไปหาคุณนิชาราคาเดียวกับไทยเพราะจำไม่ค่อยได้ค่ะว่าราคาถูกกว่า อีกอย่างเวลาซื้อแสตมป์จะซื้อที่ราคา 9.50 โครนซะส่วนมากด้วยค่ะ ราคาค่าส่งจดหมายของเดนมาร์กปรับเพิ่มขึ้นทุกปีเลยค่ะ ถ้าปีหน้าปรับขึ้นอีกมีหวังว่าดิฉันจะเริ่มอาการดองพีซีบ้างแน่ๆค่ะ
แต่ปัญหาเวลาซื้อแสตมป์ของดิฉันก็คือดิฉันไม่เก่งเรื่องตัวเลขค่ะ ขนาดคำนวณตัวเลขง่ายๆให้บวกกันได้ 9.50 โครนยังบวกผิดประจำเลยค่ะทำเอาพี่ไปรฯปวดหัวไปด้วย
ถ้าต้องการซื้อแสตมป์หลากหลายแบบและย้อนหลังไปประมาณไม่เกิน 5 ปีที่แล้ว ดิฉันจะไปซื้อที่พิพิธภัณฑ์ไปรษณีย์และโทรเลขค่ะ ที่นั่นจะมีกระดาษให้กรอกรหัสของแสตมป์และจำนวนว่าต้องการเท่าไหร่ อันนี้จะสะดวกคนคำนวณตัวเลขไม่เก่งอย่างดิฉันมากๆเลยค่ะเพราะมีเวลาให้คิดนานหน่อย แฮ่ะๆ
เวลามีแสตมป์ออกใหม่วันแรก ถ้าไปที่พิพิธภัณฑ์ไปรษณีย์จะได้รับตราประทับพิเศษค่ะซึ่งทำออกมาเหมือนรูปบนแสตมป์เลย แต่ถ้าเป็นวันปกติธรรมดาที่พิพิธภัณฑ์ก็จะมีตราประทับพิเศษของพิพิธภัณฑ์เองให้ใช้บริการค่ะ ตราประทับพิเศษทั้งสองแบบนี้สวยดีค่ะ แต่ข้อเสียคือต้องส่งพีซีออกวันนั้นที่ประทับตราเลยค่ะเพราะบนตราประทับจะมีระบุวันที่มาด้วย ดิฉันเลยถามว่าถ้าส่งวันถัดไปหรืออาทิตย์ถัดไปจะเป็นอย่างไร เจ้าหน้าที่บอกว่าเวลาพีซีใบนั้นเข้าเครื่องคัดแยกจดหมายก็จะถูกตีออกมาค่ะเพราะตราประทับวันที่ลงไม่ตรงกับวันที่ส่ง อันนี้แย่เลยค่ะเพราะดิฉันยังมีพีซีที่เอาไปประทับตราที่พิพิธภัณฑ์มาแล้วยังไม่ได้ส่งออกไปอีกตั้งหลายใบเลยค่ะ ตอนนั้นไม่ทราบกฎของเจ้าตราประทับพิเศษนี้ค่ะ....ไม่น่าเลยจริงๆ
ถ้ามีพัสดุหรือจดหมายลงทะเบียนมาที่บ้านแล้วบังเอิญไม่มีใครอยู่เซ็นชื่อรับ อันนี้พี่ไปรฯก็จะทิ้งโน้ตไว้ให้ค่ะและจะระบุไปรษณีย์ที่จะไปรับได้ และมีการกำหนดวันมาด้วยค่ะว่าต้องไปรับภายในวันที่เท่าไหร่ โดยปกติจะประมาณภายใน 7 วันค่ะ ถ้าไม่ไปรับตามกำหนดจดหมายหรือพัสดุชิ้นนั้นก็จะถูกตีกลับค่ะ เวลาไปรับของก็ต้องเอาบัตรประจำตัวประชาชนหรือพาสปอร์ตไปรับค่ะ กฎนี้คิดว่าน่าจะเหมือนๆกันเท่าโลกนะคะ
ตอนนี้คิดออกแค่นี้ค่ะ
แก้ไขเมื่อ 02 เม.ย. 53 20:36:06
แก้ไขเมื่อ 02 เม.ย. 53 20:31:40
จากคุณ |
:
sunisaogkim
|
เขียนเมื่อ |
:
2 เม.ย. 53 20:24:10
|
|
|
|
|