Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
บทเรียนราคา 40000 จาก บังกะโลสุโขทัย ชะอำ  

ถึง...เพื่อนๆนักเดินทางทุกคน (ฉบับแก้ไขค่ะ เว้นวรรคให้ใหม่แล้ว)

     วันที่ 14 - 15 เมษา 53 ที่ผ่านมา  ครอบครัวของเราหลบหนีความวุ่นวายในเมือง แล้วไปทะเลที่ชะอำกัน
การจองที่พักในช่วงสงกรานต์ ทุกคนก็น่าจะทราบกันดีว่า มันหายากมาก ได้ที่ไหนก็ต้องรับไว้ก่อน
ยิ่งถ้าเป็นที่ที่เคยไปแล้ว แล้วมาจอง ถ้าได้ที่เดิมก็ถือว่าดีมาก เพราะเราก็รู้สภาพที่พักอยู่แล้ว ว่าเป็นยังไง  
ทีนี้ เราเลยตัดสินใจ จองที่พักที่เดิม ที่เคยมากับเพื่อนๆที่ทำงาน ที่พักนี้ชื่อ " สุโขทัย บังกะโล "  อยู่แถวๆชะอำเหนือ ใกล้ๆกับโรงแรมแก่นจันทร์ ที่ทุกคนรู้จักกันดี  
บ้านที่ต้องการจอง เป็นบ้านสองชั้น  มีทั้งหมดสี่หลัง  
เราเคยไปแล้ว เลยจะรู้ว่า บ้านหลังไหนดี  (มารู้ทีหลังมารู้ มาไม่ดีซักหลังเลย เพราะสภาพบ้าน 1 ปีที่ผ่านมา มันโทรมมาก)  
ตอนโทรไปจอง ก็เลยเจาะจงบ้านหลังกลาง เพราะมันโอเคสุด  
แต่เจ้าของ ชื่อ "พี่อ้อย" บอกว่า บ้านไม่ว่างแล้ว เราก็เลยบอกว่า งั้นไม่เป็นไร  
ก่อนจะวางสาย ปลายสายพูดเข้ามาว่า "คนที่จองไว้ เค้ายังไม่โอนเงินมาให้ แต่ถ้าน้องจะเอาแล้วโอนเงินมาให้พี่ตอนนี้เลย พี่จะเอาหลังนี้ให้น้อง"
เราก็เริ่มคิดละ "โคตรจะเห็นแก่เงินเลย"  แต่เราก็โอเค พร้อมโอนเงินค่ามัดจำบ้านทันที 1500 บาท
วันที่ 14 เราเดินทางออกจาก กทม. แล้วก็แวะเที่ยวตามทางเรื่อยเปื่อย
จนกระทั่งเวลาประมาณ 16.30 เจ้าของที่ชื่อ "อ้อย" ก็โทรมาตาม ว่าจะเข้าบ้านมาเมื่อไหร่ เพราะมันเย็นมากแล้ว  
เราก็เลยบอกว่า "กำลังจะเข้าไป"  
พอไปถึงบังกะโล ปรากฎว่า  บ้านที่เราจองเอาไว้ แอร์สองห้องพัดลมหนึ่งห้อง อยู่หลังกลาง กลับมีคนอื่นเข้าไปอยู่แล้ว
เลยไปถามเจ้าของว่า มันเกิดอะไรขึ้น เราจองไว้แล้วไม่ใช่หรอ
คำตอบที่ได้คือ "น้องเข้ามาช้า ลูกค้ากลุ่มนี้จึงเขาไปก่อน"
เราก็ "อ้าว...ได้ไงวะ  จองไว้แล้วนะ"    
เลยถามเจ้าของว่า แล้วจะให้เรานอนหลังไหน เค้าก็ชี้ไปหลังริมสุด ซึ่งสภาพเก่ามาก แล้วก็รกมาก เป็นห้องพัดลมทั้งหมด  
เราก็บอกว่า "อ้าวพี่ แล้วอย่างงี้ไม่ได้ห้องแอร์ แล้วราคาบ้านล่ะ"  
เจ้าของบอกว่า "สามพันเท่าเดิม อยู่ได้มั้ย"  แน่ะ...มีการมาย้อนเราอีกว่า อยู่ได้มั้ย
เราก็บอกว่า "อยู่อ่ะอยู่ได้ แต่สามพันอ่ะ ไม่โอเคนะ เพราะไม่ได้ห้องแอร์จะให้แค่ 2000 โอเคมั้ย"
เจ้าของเค้าก็เริ่มทำหน้าไม่พอใจ  แต่ก็บอกว่าโอเค  (ทีเรากะว่า ถ้าเค้าไม่ยอมแล้วจะเอาสามพันนะ เรายอมทิ้ง 1500 ที่จองไว้ แล้วไปหาโรงแรมนอนดีกว่า)  
พอตกกลางคืน เรากับครอบครัว ก็นั่งทำอาหารกินกันหน้าบ้าน
แต่ระหว่างนั้น ก็จะมีผู้ชายที่เป็นคนดูแลบ้าน เดินวนไปวนมาตลอด ไม่รู้หาอะไร แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร  
พอตอนดึก เรานั่งทำงานอยู่ข้างล่างของบ้าน  หางตาเราก็เหลือบไปเห็นเหมือนมีใครมองเข้ามาในบ้าน แต่ก็ไม่แน่ใจ แล้วก็คิดว่า มันคงไม่มีอะไร
เพราะวันนี้  คนมาพักที่นี่เยอะมาก ไม่น่ามีใครกล้าเข้ามาขโมย
อีกอย่าง ประตูรั้วของที่พักก็กันทุกด้าน แถมยังมีคนเฝ้ารั้วอีก  
พอเราทำงานเสร็จ ก็ล็อคทุกอย่างประตูหน้าต่าง แล้วเราก็ขึ้นไปนอน
ส่วนกระเป๋า เราก็เอาวางไว้กลางบ้านเพราะคิดว่า ล็อคทุกอย่างแล้วไม่น่ามีอะไร
พอเช้ามืด พี่ชายเอะอะโยวาย แล้วก็มาเคาะประตูเรียกเรา น้ำเสียงเหมือนมีเรื่องอะไรซักอย่าง  
คำถามแรกที่พี่ชายถามคือ "โน้ตบุ๊คยังอยู่ไหม"
เราบอกว่า "อยู่ เพราะเอาขึ้นมาด้วย"  
พี่ชายบอกว่า "เราโดนยกเค้าหมดแล้วรีบลงไปดู ว่าอะไรหายบ้าง"  
เราตกใจมาก เรียกว่า ซีดไปเลย  วิ่งลงมาดูข้างล่าง
ปรากฎว่า กระเป๋าที่วางไว้กลางบ้าน ถูกลากออกมาไว้ข้างนอกบ้านทุกใบ เรางงมาก  
ปรากฎว่า ประตูหลังบ้านที่ว่าล็อคน่ะพวกเราก็ไม่ได้เปิดตั้งแต่แรก แต่เห็นแล้วว่ามันล็อค
ที่จริงแล้วมันคือประตูที่พัง มันสามารถดึงออกได้ถ้าเดินอ้อมไปหลังบ้าน  แต่เจ้าของบ้านกลับไม่บอกอะไรเราเลย ว่ามันพัง
เราตรวจดูของทุกอย่าง ปรากฎว่า เงินทุกกระเป๋า รวมๆแล้วเกือบสี่หมื่น หายไปหมด  (ยังดีที่กระเป๋าของแม่ + กล้องถ่ายรูป + อยู่ในห้องของแม่)
เราตกใจมาก รีบวิ่งไปบอกเจ้าของบ้าน  
แต่สิ่งที่เราได้รับกลับมาคือ "เราโดนด่า"  
ยายแก่ๆคนนึง(เข้าใจว่าเป็นแม่ของเจ้าของรีสอร์ท) ชี้หน้าเรา แล้วพูดว่า "คุณแน่ใจแล้วหรอว่าคุณล็อคทุกบาน  แล้วประตูที่เสีย เราจำเป็นต้องบอกคุณหรอว่ามันเสีย คุณมันสะเพร่าเอง ของหายก็สมควรแล้ว"  
เราหน้าชาเลย  พอเจ้าของออกมา รู้เรื่องเข้า  เค้ากลับไม่มีท่าทางตกใจแม้แต่น้อย ได้แต่พูดว่า "หรอ แล้วจะให้พี่ทำยังไง"  
เราก็อึ้งอีก "เฮ้ยยยย นี่ของบ้านตูหายนะ หายที่บังกะโลเอ็งนะ สี่หมื่นนะ ไม่ตกใจเลยหรอ" นิ่งเกินไปป่าว
แล้วเค้าเดินหน้ามึนตามหลังเราเข้ามาในบ้าน แล้วถามพ่อเราว่า "จะให้เค้าทำไง แจ้งความมั้ย"
พ่อเราก็โมโหและบอกว่า "เฮ้ยย เรื่องมาเกิดในบังกะโลคุณ ยังมีหน้ามาถามอีกหรอว่าจะให้แจ้งความมั้ย"  แล้วเจ้าของก็เดินหน้ามึนๆออกไป  
พอตรวจมา  เราทราบจากตำรวจว่า ลักษณะการขโมย คงจะใช้อะไรเขี่ยกระเป๋าออกไป  เพราะถึงดึงประตูออกมา มันก็จะติดลูกกรงอีกชั้น เข้ามาเองไม่ได้ แต่ลูกกรงมีรู น่าจะใช้อะไรเขี่ยออกไป
แถมตำรวจยังกระซิบบอกอีกว่า ที่นี่เคยมีแบบนี้หลายหนแล้ว ทั้งสี่หลังเลย  
แต่เราแปลกใจที่ว่า ขโมยมันฉลาดนะ มันไม่เอาบัตรเครดิตไปด้วย
เหมือนกับรู้ว่า เราทำงานธนาคาร (ต้องบอกว่า เราเป็นเจ้าหน้าที่ไอทีของธนาคาร ถ้ามีใครเอาบัตรเราไปใช้ ไม่ใช่เรื่องยากที่เราจะอายัติเอง และตรวจสอบถึงตัวคนร้ายได้"  
ตำรวจต้องการให้เจ้าของบังกะโลรับผิดชอบ  แต่เจ้าของบังกะโลไม่ยอมท่าเดียว  
เค้าบอกว่า ครอบครัวเราสะเพร่าเอง "
ตั้งแต่เกิดเรื่อง เรายังไม่ได้ยินคำขอโทษจากปากเจ้าของบังกะโลนี้เลย"  พอเราเลยบอกว่า ขอแจ้งความไว้ แต่จะไม่เอาเรื่อง เพราะถึงเอาเรื่องก็ไม่มีเวลามาดู เงินน่ะไม่เสียดายหรอก แต่เสียความรู้สึก ที่เจอเจ้าของบังกะโลแย่ๆแบบนี้ แล้วถ้ายังมีแบบนี้อีก อย่าหวังว่ากิจการบังกะโลนี้จะเจริญไปได้เลย (พ่อพูดต่อหน้าเลยเจ้าของเลย)
ครอบครัวเราเลยเก็บของกลับทันที
ก่อนกลับ ตำรวจบอกว่า คงเป็นคนในแน่ๆ
เพราะคนพลุกพล่านขนาดนี้ไม่น่ามีใครกล้าทำ แล้วก็น่าไม่มีใครกล้ามาเดินเปิดประตูบ้านแน่ๆ
เราก็เลยบอกว่า ทีแรกรู้สึกเหมือนมีคนมาด้อมๆมอง แต่ไม่คิดอะไร
ตำรวจเลยบอกว่า ก็น่าจะเป็นคนใน เพราะถ้าเป็นคนนอกน่าจะผิดสังเกตมากกว่านี้
อีกอย่าง บ้านเราก็อยู่ใกล้ๆยาม ถ้ามีไรผิดปกติ หรือถ้ามีใครมามองๆหน้าบ้าน ยามต้องสงสัยแล้ว
ตำรวจขอความร่วมมือ ถ้าจับคนร้ายได้ จะรบกวนให้มาเปนเจ้าทุกข์  (เจ้าทุกข์ ทุกข์จริงๆ ทุกข์ไกลด้วย)  
ก่อนกลับ เจ้าของบ้านยืนโบกมือลา แถมส่งยิ่มแบบว่า กูแฮบปี้มาก

เราจึงอยากบอกทุกคนว่า...ใครที่เคยไปพักแล้วไม่เคยเจอแบบนี้ ถือว่าคุณโชคดีมาก  
เพราะก่อนกลับเราแวะไปนั่งกินข้าวที่ "ครัวเม็ดทราย"  พอดีว่าเราคุ้นเคยกับเจ้าของ ก็เลยเล่าให้เค้าฟัง  
ประโยคแรกที่เจ้าของร้านพูดคือ "คุณรู้ไหม คนแถวนี้เค้ารู้กันหมด ว่าที่นั่นมันเปนยังไง จะมีแต่คนไม่รู้เท่านั้นแหละ ที่จะเข้าไปพัก"  
สุดท้าย เราอยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์  ไม่มีอะไรปลอดภัยเท่าบ้านเรา และอย่าไว้ใจอะไรทั้งสิ้นกับที่ที่ไม่ใช่บ้านเรา....

แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 53 00:44:15

จากคุณ : Talent เดินทาง
เขียนเมื่อ : วันคุ้มครองโลก 53 18:25:19




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com