ความคิดเห็นที่ 1 แผนที่ครับ จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 00:15:59

ความคิดเห็นที่ 2 เรามาถึง Lima ตอนดึก แต่เครื่องบินที่จะบินต่อไปเมือง El Calafate ออกมืดๆของอีกวันนึง เราก็เลยมีเวลาไปเที่ยวเล่นใน Lima อีกหนึ่งวันครับ หลังจากตื่นนอนตอนสายๆ เวลาในช่วงบ่ายๆก็หมดไปกับการเดินเล่น หาของกินในเมือง ในรูปเป็นมื้อหนึ่งใน Lima ครับ อาหารญี่ปุ่นที่นี่ราคาไม่แพง แถมยังอร่อยอีกด้วย จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 00:20:37

ความคิดเห็นที่ 3 ตกเย็นก่อนไปสนามบิน อ่านเจอมาว่าที่นี่มีโชว์น้ำพุ The Magic Cuircuit of the Water สวนน้ำพุนี้มีความพิเศษตรงที่เป็น fountain complex ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในตอนนี้ครับ ทั้งสวนประกอบด้วยน้ำพุ 13 อัน มีทั้งที่เป็นแบบประกอบแสงสี แล้วก็แบบ interactive วันที่ไปเป็นวันสิ้นปีพอดีครับ ก็เลยได้สัมผัสกับบรรยากาศการ count down ที่นี่ จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 00:24:25

ความคิดเห็นที่ 4 ออกเดินทางจาก Lima ตอนห้าทุ่ม แล้วแวะเปลี่ยนเครื่องที่ Buenos Aires เสียเวลาเดินทางไปมากกว่า 12 ชั่วโมง ในที่สุดเราก็มาถึงเมือง El Calafate ตอนเที่ยงครับ แต่ El Calafate ก็หาใช่ปลายทางของเราในวันนี้ไม่ครับ เพราะเราจะนั่งรถรอบบ่ายโมงต่อไปยังเมือง El Chalten กัน El Chalten เป็นเมืองเล็กๆครับ ห่างจาก El Calafate 220 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง เดิมทีเมืองนี้สร้างขึ้นในระหว่างที่อาร์เจนติน่ามีข้อพิพาทเกี่ยวกับเขตแดนกับชิลี นัยว่าเป็นของข้าเพราะมีคนของข้าอยู่ แต่ปัจจุบันที่นี่ถือว่าเป็น trekking capital of Argentina เลยทีเดียวครับ ที่ El Chalten เราพักกันที่ Hostel นี้ครับ เหตุผลหลักๆก็คือรถที่เรานั่งมาจอดหน้าโรงแรมนี้ครับ เอาสะดวกเข้าว่า เพราะเรามีเวลาที่นี่น้อยไปหน่อยครับ อะไรประหยัดเวลาเราได้ก็ต้องเอาไว้ก่อน จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 00:28:41

ความคิดเห็นที่ 5 เช้าวันถัดมา แผนของวันนี้เราจะ trekking ไปดู Mount Fitz Roy กับ Laguna De Los Tres พระเอกกับนางเอกของที่นี่กันครับ ระยะทางไปกลับ 25 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินไปกลับประมาณ 10 ชั่วโมง ทางเดินในช่วงแรกจะเป็นทุ่งหญ้าตามแนวเชิงเขาครับ ยังไม่ชันมาก แต่ก็เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน มองลงไปเห็นเมือง El Chalten อยู่เบื้องล่าง จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 00:31:14

ความคิดเห็นที่ 6 เดินชมวิวสองข้างทางไปเรื่อยๆ อีกเรื่องที่ไม่พูดไม่ได้คือเรื่องแดดครับ รังสี UV ที่ซีกโลกใต้จะแรงมากเป็นพิเศษจากผลของ ozone hole ครับ ดังนั้นครีมกันแดดจึงเป็นสิ่งจำเป็นมาก จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 00:33:46

ความคิดเห็นที่ 7 เดินตัดเข้าไปในป่าก่อนจะออกมาเจอกับจุดที่มองเห็นพระเอกของเรา ยอดเขา Fitz Roy ที่แสนจะขี้อาย เพราะชอบซ่อนตัวอยู่หลังเมฆ เราไม่รอช้าครับรีบคว้ากล้องออกมาเก็บภาพเท่าที่อากาศจะเอื้ออำนวย เพราะอากาศที่นี่ได้ชื่อว่าเปลี่ยนแปลงได้เร็วมาก ถึงขนาดอาจมีหิมะหล่นลงมาในหน้าร้อนก็ได้ครับ จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 00:36:14

ความคิดเห็นที่ 8 เดินต่อมาถึงอีกจุดที่มองเห็น Mt. Fitz Roy เมฆบนยอดเขายังไม่มีทีท่าว่าจะหายไป จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 00:38:58

ความคิดเห็นที่ 9 ทางเดินช่วงสุดท้ายเป็นทางหินที่ชันมากๆ ที่สำคัญคือต้องเดินลัดเลาะไปจนถึงยอดแล้วข้ามลงไปครับ แล้วลมพาตาโกเนียนี่ก็แรงสมกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา บางช่วงผมว่าไม่น่าจะน้อยกว่า 80 km/hr พัดกระโชกมาทีแทบปลิวตกเขา ดูดีๆจะเห็นคนตัวเล็กๆอยู่ตรงกลางรูปครับ จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 00:45:24

ความคิดเห็นที่ 10 ปีนเขาอย่างทุลักทุเล ในที่สุดก็ได้เห็นภาพแรกของ Mt. Fitz Roy คู่กับ Laguna De Los Tres แม้ฟ้าจะไม่เปิดร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็สวยคุ้มค่าจริงๆครับ จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 00:47:40

ความคิดเห็นที่ 11 ไต่ลงไปอีกจนถึงเชิงเขาอีกด้านติดกับทะเลสาบ ในทะเลสาบมองเห็นก้อนน้ำแข็งที่แตกออกมาจากเชิงเขาฝั่งตรงข้ามลอยอยู่ทั่วไปครับ จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 00:50:39

ความคิดเห็นที่ 12   โอ้โห....ไม่คิดว่าอเมริกาใต้จะมีภูเขาหิมะด้วยค่ะ ขอถามหน่อยได้ไหมคะ ว่า คิดยังไงถึงได้ไปที่นี่ เพราะไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อนเลยค่ะ ขออภัย เนื่องจากความรู้น้อยค่ะ จากคุณ : pao_nowara เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 00:51:12

ความคิดเห็นที่ 13 คุณ pao_nowara: ผมเองก็ไม่รู้จักพาตาโกเนียมาก่อนเหมือนกันครับ พอดีว่าปีก่อนหน้าผมไปมาชูปิกชูมาครับ แล้วก็มาทราบเรื่องพาตาโกเนียโดยบังเอิญตอนที่หาข้อมูลมาชูปิกชู แต่ตอนนั้นเวลาไม่พอแล้ว ก็เลยยกยอดมาปีนี้ครับ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ เก็บทั้งรูป เก็บทั้งความทรงจำ จนสมควรกับเวลา ก็ต้องบอกลา Laguna De Los Tres กับ Mt. Fitz Roy เพื่อออกเดินทางกลับครับ เดี๋ยวจะมืดเสียก่อน ถึงที่พัก ได้กระเป๋า เอายามานวดขา แล้วก็หลับเป็นตายครับ จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 00:57:03

ความคิดเห็นที่ 14   อืมมม ค่ะ เป็นสถานที่น่าไปมากเลยนะคะ โดยส่วนตัวก็อยากไปมาชูพิชู ค่ะ เห็นแล้ว อลังการดีค่ะ การไปลำบากมากไหมคะ จากคุณ : pao_nowara เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:03:01

ความคิดเห็นที่ 15 เช้าวันต่อมาเราจะ trek ไปที่ Laguna Torre ครับ เส้นทางเดินวันนี้ประมาณ 22 กิโลเมตร และชันน้อยกว่าเมื่อวานจึงใช้เวลาน้อยกว่าครับ วันนี้ต้องรีบทำเวลาเพราะต้องขึ้นรถรอบหกโมงเย็นกลับ El Calafate เวลาน้อยอะไรก็ต้องรีบไปหมด เดินอยู่นาน เราก็มาถึง Laguna Torre ครับ วันนี้ฟ้าไม่เป็นใจ อากาศปิดสนิทแถมฝนก็ลงเม็ด มองไม่เห็นยอดเขาข้างหลังเลยครับ จริงๆจากจุดนี้มีทางให้เดินไปจุดชมวิวต่ออีกประมาณชั่วโมงกว่าๆ แต่เราตัดสินใจไม่ไปต่อครับ เพราะเป็นทางโล่งกับลมที่แรงมากแล้วก็คิดว่าคงไม่เห็นอะไรอยู่ดี จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:04:44

ความคิดเห็นที่ 16 ระหว่างทางเดินกลับก็เลยมีเวลาถ่ายดอกไม้ข้างทางมาได้หลายรูปครับ จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:05:50

ความคิดเห็นที่ 17 กล้วยไม้ดินชนิดหนึ่งชื่อ porcelain orchid ครับ จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:16:14

ความคิดเห็นที่ 18 คุณ pao_nowara: อเมริกาใต้ถ้าออกเดินทางจากเมืองไทย ที่ลำบากสุดเห็นจะเป็นการนั่งเครื่องบินครับ เพราะต้องนั่งกันหลายต่อมาก ส่วนการเดินทางไปมาชูปิกชูใช้เส้นทางรถไฟครับ ลงจากรถไฟก็ต่อรถบัสขึ้นเขา แล้วก็เดินอีกหน่อยครับ สรุปหมดเวลาไปกับการเดินทาง แต่ก็สวยคุ้มค่าครับ รูปที่ไปมาชูปิกชูปีก่อนครับ จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:20:25

ความคิดเห็นที่ 19 ตอนแรกนึกว่าจะไม่ได้เห็น Mt. Fitz Roy แบบเต็มๆเสียแล้ว แต่สุดท้ายฟ้าก็ยังปรานีกับเราบ้าง รูปนี้ถ่ายจากในเมือง El Calafate ครับ ไม่ต้องเดินไปไหนไกล จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:21:57

ความคิดเห็นที่ 20   แหม แหม ยั่วน้ำลายกันน่าดู อิอิ ขออนุญาต เอ่ เอ๊ ก่อนนะคะ แล้วจะมาเก็บต่อค่ะ   ฝันดี (ผีข้างเตียง) นะคะ     จากคุณ : pao_nowara เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:23:45

ความคิดเห็นที่ 21 เช้าวันรุ่งขึ้นเป็นอีกหนึ่งทริปที่รอคอยครับ วันนี้เราซื้อ day tour ไปเที่ยว Torres Del Paine National Park ในประเทศชิลีไว้ครับ รถมารับตั้งแต่หกโมงเช้า นั่งหลับๆตื่นๆบนรถบนทางที่ไม่ได้ราดยางอยู่ร่วมสี่ชั่วโมง เราก็มาถึงชายแดนอาร์เจนติน่า จัดการเรื่องออกจากประเทศ แล้วกลับขึ้นรถ นั่งรถต่อมาอีกสักพัก ก็ต้องลงจากรถเพื่อผ่าน ตม ของชิลีต่อครับ จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:24:40

ความคิดเห็นที่ 22 รถออกเดินทางต่อไปตามทางกรวด ระหว่างทางไกด์ก็บรรยายไปเรื่อยเป็นภาษาสเปนสิบคำ ภาษาอังกฤษหนึ่งคำ เพราะลูกทัวร์ส่วนใหญ่พูดสเปนกัน ได้ความว่า Torres del Paine แปลว่า blue tower ครับ และแล้วจุดแรกที่รถจอดก็ทำให้เราต้องตะลึงในความงามของ Torres del Paine ทอดอยู่เบื้องหลังของทะเลสาบ Sarmeinto สวยมากจริงครับ จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:26:22

ความคิดเห็นที่ 23 ระหว่างทางถ้ามีอะไรน่าสนใจไกด์ก็จะชี้ให้ดู หรือบางทีก็จอดรถลงไปถ่ายรูปกันเลย อย่างในรูปเป็นแร้งที่อยู่ไกลมากเลยซูมมาได้เท่านี้ครับ ไกด์ตาดีมากๆ จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:29:07

ความคิดเห็นที่ 24 ต่อด้วยตัว guanaco ครับ จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:31:18

ความคิดเห็นที่ 25 หนทางยังอีกยาวไกล ไปต่อกันดีกว่าครับ จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:34:40

ความคิดเห็นที่ 26 จุดที่สองที่แวะคือ Laguna Amarga ซึ่งหมายความว่าทะเลสาบที่เป็นด่างครับ สาเหตุที่น้ำในทะเลสาบเป็นด่างเกิดจากการที่ทะเลสาบไม่มีทางที่ระบายน้ำออกยกเว้นการระเหย ทำให้แร่ธาตุที่ถูกชะลงมาจากหินรอบๆเกิดการสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ น้ำจึงมีความเป็นด่างในที่สุดครับ ขนาดของทะเลสาบแห่งนี้ลองเทียบกับคนสามคนที่ยืนอยู่ริมหาดดูครับ จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:36:32

ความคิดเห็นที่ 27 ตามมาด้วย Lago Nordenskjold ที่มี Cuernos del Paine เป็นฉากอยู่เบื้องหลังครับ จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:38:26

ความคิดเห็นที่ 28 จุดต่อไปต้องเดินเข้าไปนิดหน่อยครับ เราจะไปชมน้ำตก Salto Grande กันครับ จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:41:52

ความคิดเห็นที่ 29 ยอด Cuernos del Paine ครับ จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:44:19

ความคิดเห็นที่ 30 นั่งรถเที่ยวมาทั้งวัน ได้เวลากลับแล้วครับ ขากลับรถจอดให้แวะเข้าห้องน้ำห้องท่าที่ Hosteria Pehoe’ ครับ โรงแรมตั้งอยู่บนเกาะเล็กๆริมทะเลสาบ Pehoe’ ต้องเดินข้ามสะพานข้ามไป น่าจะเหมาะกับคู่ฮันนีมูนนะผมว่า จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:45:37

ความคิดเห็นที่ 31 วันต่อมารถมารับตอนเจ็ดโมงเช้า เพื่อออกเดินทางไป Perito Moreno ธารน้ำแข็งที่มีชื่อเสียงที่สุดของอาร์เจนติน่ากันครับ ผมจำได้ว่าเห็นรูปของที่นี่ครั้งแรกจากรีวิวของคุณ Wonderful_Day เมื่อปี 2549 ครับ แล้วก็ตั้งใจว่าสักวันจะไปดูกับตาตัวเองบ้างให้ได้ จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:48:42

ความคิดเห็นที่ 32 ลงจากรถก็มานั่งเรือต่อเพื่อไปยังจุดที่จะเริ่ม trek จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:49:48

ความคิดเห็นที่ 33 นั่งเรือสักพักก็มองเห็นธารน้ำแข็ง Perito Moreno อยู่ข้างหน้าแล้วครับ จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:50:36

ความคิดเห็นที่ 34 ตื่นเต้นจริงๆกับแท่งน้ำแข็งสีฟ้าสดที่เห็นตรงหน้า จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:52:42

ความคิดเห็นที่ 35 บริเวณที่เรือมาจอดให้ผู้โดยสารลงเรียกว่า Peninsula Magallanes ครับ ไกด์ของเราแนะนำ Perito Moreno คร่าวๆว่า ธารน้ำแข็งอยู่บน ice field ที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลกรองจาก Antarctica และ Alaska เกิดจากหิมะบนยอดเขาเคลื่อนที่ลงมาแล้วอัดตัวกันแน่นขึ้นเรื่อยๆจนกลายเป็นก้อนน้ำแข็งอย่างที่เห็น Perto Moreno เคลื่อนที่มาเป็นระยะทาง 30 กิโลเมตร และมีหน้ากว้าง 4-5 กิโมเมตร ความสูงจากยอดถึงผิวน้ำประมาณ 60 เมตร ในขณะที่อีก 100 เมตรจมอยู่ใต้น้ำครับ Perito Moreno มีอัตราการไหลของธารน้ำแข็งกับอัตราการพังทลายที่ด้านหน้าพอๆกัน ทำให้ด้านหน้าของมันไม่ร่นเข้าไปเรื่อยๆเหมือนธารน้ำแข็งอื่นครับ มองไปที่ธารน้ำแข็ง ใหญ่แค่ไหนก็ลองเทียบกับขนาดของคนที่กำลัง trek อยู่ดูครับ จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:55:36

ความคิดเห็นที่ 36 เทียบกับเรือที่ล่องทะเลสาบพาชมธารน้ำแข็งดูบ้าง จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:57:23

ความคิดเห็นที่ 37 ก่อนจะไปเดินบนน้ำแข็งก็ต้องติดเจ้า crampon เข้ากับรองเท้าเพื่อกันลื่นครับ ส่วนวิธีการเดินไกด์บอกว่าให้เดินปลายขาแยกแบบเพนกวินเพื่อกันเหล็กที่ติดไว้กับรองเท้ามาเกี่ยวกันแล้วหกล้มครับ จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:58:25

ความคิดเห็นที่ 38 พร้อมแล้วก็ออกเดินทางกันได้เลยครับ การเดินไกด์จะให้เดินตามกันไปเป็นแถว โดยจะมีไกด์สองคนต่อหนึ่งกลุ่มครับ คนหนึ่งคอยนำทาง อีกคนคอยประกบข้างดูเรื่องความปลอดภัยว่าจะไม่มีใครตกไปในหลุมในร่อง จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:58:57

ความคิดเห็นที่ 39 สวยมากๆ เลยครับ เพิ่งจะเคยได้ยินชื่อที่นี่จากคุณ ชราชน นี่แหล่ะครับ ซีกโลกใต้ สวยไม่แพ้ซีกโลกทางเหนือเลยนะครับ ขอบคุณนะครับ ที่พามาชม จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:58:58

ความคิดเห็นที่ 40 ตามช่องหรือร่องต่างๆเราจะเห็นน้ำแข็งเป็นสีฟ้าเข้มชัดเจนครับ จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:00:01

ความคิดเห็นที่ 41 สาเหตุที่เห็นเป็นสีฟ้าเพราะน้ำแข็งบริเวณนั้นอัดตัวกันอย่างหนาแน่นทำให้ไม่มีช่องอากาศแทรกอยู่ ปกติเจ้าอากาศที่แทรกอยู่นี่แหละครับที่คอยสะท้อนหรือกระเจิงแสงออกมา แสงที่ตกกระทบยังไงก็สะท้อนออกมาอย่างนั้น เราจึงเห็นหิมะมีสีขาวโพลนแสบตา แต่ในกรณีของธารน้ำแข็งนี้แสงไม่ถูกสะท้อนออกมา ตรงกันข้ามกลับเดินทางผ่านเข้าไปในก้อนน้ำแข็งซึ่งสามารถดูดกลืนแสงสีแดงได้ดี ทำให้เหลือแสงสีฟ้ามาเป็นพอเศษเราจึงมองเห็นมันเป็นสีฟ้าเข้มครับ จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:00:56

ความคิดเห็นที่ 42 ศิลปะจากน้ำแข็งครับ จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:01:34

ความคิดเห็นที่ 43 ที่นี่เราได้เจอกับ Andiperla willinki แมลงเจ้าบ้านของธารน้ำแข็งนี้ครับ ไม่รู้อยู่ไปได้ยังไง จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:02:04

ความคิดเห็นที่ 44 ขอบคุณสำหรับรูปสวยๆครับ ชอบมากแล้วก็อยากไปมากเลยครับ แต่ติดปัญหาว่าค่าใช้จ่ายในการเดินทางคงสูงมากแน่เลยใช่ไหมครับ ไม่ทราบพอบอกได้ไหมว่าต้องต่อเครื่องกันกี่ทอดครับ จากคุณ : panicboyz เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:02:12

ความคิดเห็นที่ 45 มองไปอีกทาง เจอใครมาตั้งโต๊ะอะไรไว้ จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:03:13

ความคิดเห็นที่ 46 ถึงบางอ้อเมื่อคุณไกด์ทั้งสองเข้าประจำที่ครับ วิสกี้ใส่น้ำแข็งจาก glacier ผู้ปกครองควรชี้แนะ แต่ตอนนั้นไม่มีผู้ปกครองเลยรับไปหนึ่งแก้ว ร้อนเลย จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:03:49

ความคิดเห็นที่ 47 เดินบนน้ำแข็งอยู่ชั่วโมงกว่าก็ลงครับ ระหว่างรอเรือมารับกลับก็นั่งดูธารน้ำแข็งต่อ แล้วก็ได้ยินเสียงโครมดังมาก ปรากฏเป็นก้อนน้ำแข็งก้อนใหญ่มันแตกลงน้ำ แต่ผมคว้ากล้องไม่ทัน คราวนี้เลยนั่งเฝ้าหวังว่ามันจะแตกอีกสักอัน ก็มีแต่อันเล็กๆครับ เสียดายจริงๆ จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:04:22

ความคิดเห็นที่ 48 พูดถึงเรื่องแตกๆพังๆ เข้าวิชาการนิดนึงครับ สิ่งขึ้นชื่ออีกอย่างของที่นี่ก็คือการถล่มของ ice bridge ครับ ลองดูรูปแผนที่จาก google map ของบริเวณนี้ประกอบนะครับ ธารน้ำแข็งเมื่อไหลลงมาถึงจนชนกับปลายแผ่นดินของ Magallanes Peninsula มันก็จะกลายเป็นเหมือนเขื่อนกั้นน้ำทั้งสองด้านเอาไว้ จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:05:11

ความคิดเห็นที่ 49 เห็น รูปของคุณ เจ้าของกระทู้แล้ว อึ้งครับ... สวย มาก มาก อเมริกาใต้ เป็น สถานที่ในฝันอีกที่ ที่อยากจะไปให้ ได้....ครั้งนึงในชิวิต... เห็น รูปแล้วเข้าใจอารมณ์เลยครับ ว่าของจริงเนี่ย สวยมาก กว่าในรูปเป็น หลาย หลาย เท่า... เหมือนกับว่า ต้องไปเห็น ด้วยตาตัวเอง อะครับ อย่างไร ก้อ ชอบ ครับ ชอบมาก..... จากคุณ : เด็กตาดำดำ เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:06:10

ความคิดเห็นที่ 50 สวยมากๆๆ ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ จากคุณ : เด็กหญิงคิดถึงญี่ปุ่น (Piglet_p) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:06:53

ความคิดเห็นที่ 51 กระแสน้ำที่ไหลอยู่ด้านล่างก็จะเซาะน้ำแข็งจนเป็นโพรง และด้วยน้ำหนักของน้ำแข็งเองบวกกับกระแสน้ำ ในที่สุดเจ้า ice bridge ก็จะพังลงมาครับ ครั้งล่าสุดที่เกิดปรากฏการณ์นี้ขึ้นคือปี 2008 ครับ จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:06:57

ความคิดเห็นที่ 52 วันต่อมาโปรแกรมเรายังเป็นเที่ยวธารน้ำแข็งอยู่ครับ แต่คราวนี้เป็นแบบล่องเรือเที่ยวบ้าง เริ่มจากรถบัสมารับเราไปส่งที่ท่าเรือครับ ระหว่างทางนอกจากวิวสวยๆก็เห็นจะเป็นก้อนน้ำแข็งรูปทรงต่างๆที่ลอยอยู่นี่แหละครับที่น่าตื่นตาตื่นใจ จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:09:36

ความคิดเห็นที่ 53 มีให้ตื่นตาตื่นใจตลอด จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:11:08

ความคิดเห็นที่ 54 สีดำๆที่เห็นเรียกว่า moraine ครับ เป็นพวกฝุ่นและหินที่ธารน้ำแข็งพาลงมาด้วยระหว่างการไหลลงมา จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:13:11

ความคิดเห็นที่ 55 มีอะไรแปลกตา เรือก็จะพาเข้าไปดูใกล้ๆครับ อย่างอันนี้เป็นอุโมงค์น้ำแข็ง น่าจะมีเรือเล็กพาลอดไปนะเนี่ย จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:14:26

ความคิดเห็นที่ 56 จริงๆตามโปรแกรมเราต้องไป Glacier Upsala กัน แต่เนื่องจากน้ำแข็งที่แตกออกมาทำให้เรือไม่สามารถล่องผ่านไปได้ครับ รูปนี้มองเห็น Glacier Upsala อยู่ไกลๆ จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:16:03

ความคิดเห็นที่ 57 วันที่ไป ฟ้าสวยเทพจริงๆครับ จากคุณ : pleassure เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:16:21

ความคิดเห็นที่ 58 สุดยอดมากๆครับ ครั้งหนึ่งในชีวิตกับการเดินทางไปสุดซีกโลกใต้แบบนี้เลยนะครับเนี่ย ชอบมากๆครับ จากคุณ : fuente (fuente) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:16:49

ความคิดเห็นที่ 59 จุดหมายต่อไปคือ Glacier Spegazzini ครับ ธารน้ำแข็งแห่งนี้มีความพิเศษอยู่ที่เป็นธารน้ำแข็งที่สูงที่สุดใน national park ครับ สูงถึง 80-125 เมตรเลยทีเดียว จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:18:00

ความคิดเห็นที่ 60 จาก El Calafate เราเดินทางโดยเครื่องบินต่อไปยัง Ushuaia เมืองสุดท้ายของทริปนี้ครับ เช้านี้ที่ Ushuaia เราซื้อทัวร์ไปดูนกเพนกวินเอาไว้ บริษัทนี้เป็นบริษัทเดียวที่ได้สัมปทานขึ้นไปบนเกาะได้ครับ จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:22:31

ความคิดเห็นที่ 61 รถที่ใช้เป็นรถตู้ มีนักท่องเที่ยวสัก 15 คนได้ครับ นั่งรถประมาณ 1 ชั่วโมงก็มาถึงท่าเรือครับ จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:24:02

ความคิดเห็นที่ 62 นั่งเรือต่อไปอีกสัก 15 นาที ก็ถึงเกาะ Martillo กับภาพเพนกวินภาพแรกที่ถ่ายได้ จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:27:28

ความคิดเห็นที่ 63 บรรยากาศบริเวณชายฝั่ง เพนกวินเต็มเลย จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:28:20

ความคิดเห็นที่ 64 เพนกวินหลักของที่นี่เป็นพันธุ์ Magellanic ครับ จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:29:32

ความคิดเห็นที่ 65 เป็นเพนกวินขนาดกลาง โตเต็มที่จะสูงประมาณ 60-70 เซนติเมตรครับ จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:30:48

ความคิดเห็นที่ 66 ส่วนอีกพันธุ์ที่เป็นประชากรส่วนน้อย เห็นอยู่ไกลๆเป็นพันธุ์ Gentoo ครับ ตัวที่เห็นน่าจะเป็นเด็กน้อย จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:31:40

ความคิดเห็นที่ 67 ขนาดค่อนข้างใหญ่ เป็นรองแค่ Emperor และ King penguin ครับ จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:33:03

ความคิดเห็นที่ 68 บนเกาะจะมีการทำเส้นทางไว้ชัดเจนครับ และไกด์จะเป็นคนพาเราเดิน ที่มีมีกฎอยู่ว่าห้ามเข้าใกล้เพนกวินเกิน 3 เมตร แม้ว่าบางครั้งเพนกวินจะเข้ามาใกล้เราเองก็ตาม จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:34:01

ความคิดเห็นที่ 69 คุณแม่ลูกสอง จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:36:04

ความคิดเห็นที่ 70 เพนกวินเป็นสัตว์ที่มีคู่เดียวตลอดชีวิตครับ จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:36:47

ความคิดเห็นที่ 71 เราใช้เวลาอยู่บนเกาะประมาณชั่วโมงนิดๆ เมื่อเรือพานักท่องเที่ยวรอบถัดมามาถึงก็แปลว่าเราต้องกลับแล้วครับ จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:37:47

ความคิดเห็นที่ 72 คนรวยหน่อยก็มาด้วยเรือยอร์ช แต่เสียใจขึ้นเกาะไม่ได้จ้ะ จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:38:20

ความคิดเห็นที่ 73 ระหว่างนั่งเรือกลับ ไกด์ก็ชี้ให้ดูสิงโตทะเลที่นอนอืดอยู่บนเกาะข้างทาง จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:39:05

ความคิดเห็นที่ 74 หลับอุตุ จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:39:57

ความคิดเห็นที่ 75 ตอนนั่งรถกลับ รถจอดแวะอีกสองที่ครับ ที่แรกเป็นค้นไม้พลิ้วลมที่ลงในหนังสือ Lonely Planet ไกด์บอกมาอีกทีครับ จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:42:06

ความคิดเห็นที่ 76 กับอีกจุดนึงเป็นชายฝั่งตรงข้ามกับเมือง Puerto Williams ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆในประเทศชิลีที่อยู่ใต้ลงไปกว่า Ushuaia แต่ด้วยความที่ Ushuaia เป็นเมืองใหญ่กว่าเลยได้ตำแหน่ง The southernmost city of the world ไปแทน จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:42:47

ความคิดเห็นที่ 77 ปิดท้ายเรามาดูในเมือง Ushuaia เมืองที่อยู่ใต้สุดของซีกโลกใต้กันครับ เมืองนี้เป็นเมืองท่าตั้งอยู่บนอ่าวเหนือช่องแคบ Beagle ครับ จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:44:41

ความคิดเห็นที่ 78 เมืองท่าก็ต้องคู่กับเรือครับ จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:45:13

ความคิดเห็นที่ 79 และเนื่องจากตำแหน่งที่ตั้งทำให้เมืองนี้เป็นเมืองท่าสำหรับเรือที่ล่องไปยังทวีป antarctica ครับ ราคาค่าทัวร์เริ่มตั้งแต่ประมาณ 4000 USD สำหรับ 11 วันจนถึงเป็นหมื่นเหรียญครับ ใจน่ะอยากไปมากๆ เพราะมาถึงเรียกได้ว่าปากทางแล้วห่างออกไปแค่ 1000 กิโลเมตร แต่ก็ทำใจไม่ได้กับ 4000 USD สุดท้ายก็เลยเอาไว้ก่อนดีกว่า จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:46:17

ความคิดเห็นที่ 80 มีเวลาครึ่งวันก่อนกลับสำหรับเดินชมเมืองครับ บรรยากาศริมฝั่ง จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:46:58

ความคิดเห็นที่ 81 ขักยาวแฮะ ปิดท้ายด้วยเรื่องกินดีกว่าครับ ด้วยความที่เราทำการบ้านมาดี เลยมารู้เอาตอนที่มาถึงแล้วว่าของขึ้นชื่อที่นี่ที่ไม่ควรพลาดคือปูทะเล Ushuaia king crab ครับ เอาล่ะสิจะกินปูทั้งทีจะขาดน้ำจิ้มซีฟู้ดได้ยังไง เราเลยรวบรวมพลังทั้งหมดผสมน้ำจิ้มขึ้นมาเองตามอัตภาพครับ เริ่มด้วยใช้เลมอนแทนมะนาว ใช้พริกป่นแทนพริกสด แล้วก็ใช้เกลือแทนน้ำปลาครับ จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:49:15

ความคิดเห็นที่ 82 ออกมาหน้าตาอย่างที่เห็น ส่วนรสชาติก็พอกล้อมแกล้มไปได้ครับ จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:49:46

ความคิดเห็นที่ 83 ขั้นตอนต่อไปก็คือหาร้านเด็ดครับ ได้รับคำแนะนำจากคนที่นั่นให้ไปร้านในรูปครับ จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:51:32

ความคิดเห็นที่ 84 หน้าตาของเจ้า king crab ครับ จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:52:32

ความคิดเห็นที่ 85 เห็นแล้วสงสาร ไม่อยากกินแบบจัดการสดๆ เลยเปลี่ยนเป็นอีกร้านแถวนั้นครับ สั่ง king crab แบบไม่ปรุงมาทานกับน้ำจิ้มสูตรเด็ดที่พกมาเอง จนบ๋อยต้องแอบมาดูครับ จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:54:10

ความคิดเห็นที่ 86 ปิดท้ายรีวิวนี้ด้วยดอกลูปินหลากสีซึ่งพบได้ทั่วทั้งเมือง สำหรับทริปพาตาโกเนียครั้งนี้บอกได้คำเดียวว่าประทับใจมากจริงๆครับ เจอกันโอกาสหน้าครับ จากคุณ : ชราชน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 02:56:28

ความคิดเห็นที่ 87 เป็นอีกหนึ่งความฝันเลยครับที่อยากไปเห็นด้วยตาตัวเอง พาตาโกเนีย จากคุณ : toytrip เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 03:18:43

ความคิดเห็นที่ 88   ตามมาเที่ยวครับ จากคุณ : tottui เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 03:40:20

ความคิดเห็นที่ 89 Argentina เจ้าเอ๋ย อีก 6 ปี เราได้เจอกันแน่ ฮึ่มๆๆๆ (ขอเก็บตังค์ก่อนนะ) จากคุณ : nickyblood เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 05:30:59

ความคิดเห็นที่ 90 กรี๊ดกร๊าดดดด เป็นที่ที่เราอยากไปมากๆ เลยล่ะค่ะ อิจฉาจังน้า >_< จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 08:13:34

ความคิดเห็นที่ 91 ขอบคุณสำหรับรีวิวสวย ๆ ค่ะ นกเพนกวิน น่ารักมากมายเลย ภูเขาน้ำแข็งก็สวยไปอีกอย่าง จากคุณ : sa_bkk เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 08:14:17

ความคิดเห็นที่ 92 สนุกมากครับ จากคุณ : j und n เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 08:17:49

ความคิดเห็นที่ 93 สวยสุดยอดเลยค่ะ กับสีฟ้าของน้ำแข็ง น่าไปมากๆ แต่คงไม่มีโอกาส - -" ขอบคุณมากๆ นะคะ สำหรับรีวิว ประทับใจมากค่ะ จากคุณ : route rover เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 08:19:02

ความคิดเห็นที่ 94 เป็นทริปที่น่าประทับใจมากจริงๆ ค่ะ ไม่เคยได้ทราบข้อมูลเหล่านี้มาก่อนเลยค่ะ จากคุณ : หน้ากลมผมม้า เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 08:24:12

ความคิดเห็นที่ 95 สวยมากๆเลยครับ น่าไปจัง จากคุณ : One Light One Shadow เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 08:27:26

ความคิดเห็นที่ 96 สวยสุด ๆ เลยครับ สวรรค์บนดินจริง ๆ จากคุณ : MemoryDust เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 08:44:21

ความคิดเห็นที่ 97 สวยมากๆๆ จากคุณ : phuketian เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 10:06:26