|
ความคิดเห็นที่ 4 |
เห็นเเผนมีไปเกียวโต....
ตค.ใบไม้ มันยังไม่เเดงเท่าไร ไปพย น่าจะดีกว่านะ
อ้อ 2 เเสน 2 คน 9 วัน เราว่าพอสบายๆ เลยล่ะ
อ่านเเล้ว ดูเหมือนเพิ่งจะไปเมืองนอกครั้งเเรกใช่ไหม ? เเถมโพยให้ละกัน คุณสามีเคยเขียนให้กะเหรียงอย่างเราตอนไปเมืองนอกครั้งเเรก คงประยุกต์ได้
ขั้นตอนการออกประเทศไทย-เข้าประเทศญี่ปุ่น
สนามบินสุวรรณภูมิ 1. ถึงสนามบินก่อนเวลา Departure 3 ชั่วโมง
2. ดู Board ว่า Flight เราออกกี่โมง,Delay หรือเปล่า, Check-incounter อะไรและเปิด Check-in ได้หรือยัง
3. Check-in, เลือกที่นั่ง, Load กระเป๋า (เอาของเหลวและโลหะใส่กระเป๋าก่อน Load), แจ้งเลข ROP (ถ้ามี), รับ Boarding Pass ตรวจสอบรายละเอียดว่าถูกต้องครบหรือไม่ ชื่อ-นามสกุล, Flight no., Gate no., Seat no., Departure time, ROP no. (เคยเจอหมายเลขประตูทางออกไม่ print ออกมา คุณก็ต้องถามเจ้าหน้าที่ เพราะประตูทางออกอาจเปลี่ยนแปลงได้ อันเนื่องมาจากเครื่อง Delay หรือเหตุผลอื่นๆ) เจ้าหน้าที่ Counter Check-in การบินไทยอาจให้ใบ Immigration มาเลย ซึ่งถ้าไม่ให้มาเราต้องไปเอาที่หน้า Passport Control แทน สำหรับตั๋วขากลับ (ถ้ามี) ให้แยกเก็บให้เรียบร้อยไว้กับตัวเพราะต้องใช้กรอกในใบ Embak-Disembak Card บนเครื่องบินระวังหาย
4. Passport Control กรอกรายละเอียดในใบ Immigration ทั้ง 2 ส่วนเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด (ไม่ยากเหมือนของญี่ปุ่น) ยื่นพร้อม Passport และ Boarding Pass
5. เข้าไปที่ Duty Free Zone ก่อน Shopping ให้ดู Board อีกครั้งเพื่อยืนยัน Gate no., Departure time ว่าตรงใน Boarding Pass หรือไม่ (เคยเจออยู่ 1-2 ครั้ง ที่ Gate no. ไม่ตรง เป็นไปได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงโดยปรกติให้เชื่อใน Board เพราะ update กว่า ถ้าเกิดกรณีนี้ให้ไปที่ Gate เร็วหน่อยเพื่อถามเจ้าหน้าที่หากผิดพลาดจะได้แก้ไขทัน) ใน Duty Free Zone เราอาจใช้บริการ Lounge ได้ในนี้ (บางครั้งอาจอยู่ไกลจาก Gate ก็ต้องเผื่อเวลาเยอะขึ้น)
6. ควรเผื่อเวลาไปถึง Gate ก่อนเวลาที่ระบุใน Boarding Pass ประมาณ 20 นาที เผื่อมีการเปลี่ยนแปลงอะไรจะได้ไป Gate ใหม่ได้ทัน เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย เตรียม passport และ Boarding Pass ไว้
7. ขึ้นเครื่อง
จากคุณ |
:
aomnan
|
เขียนเมื่อ |
:
10 พ.ค. 53 18:37:46
|
|
|
|
|