ความคิดเห็นที่ 1 ออนเซ็น Hokkaido มีแหล่งน้ำพุร้อนอยู่ทุกแห่งครับ ถ้าคุณไปพักในโรงแรมหรือเรียวกัง 90% จะมีออนเซ็นให้ครับ อยู่ที่ว่าจะดีแค่ไหนก็เท่านั้นเอง (อันนี้ผมไม่นับ Sapporo นะครับ เพราะในเมืองใหญ่จะให้มีออนเซ็นค่อนข้างลำบาก) ในเมื่อออนเซ็นเหมือนของตายของ Hokkaido อยู่แล้ว คน Hokkaido เค้าก็ไม่สนหรอกครับว่าจะมีออนเซ็นรึเปล่า แต่เค้าจะสนว่า ออนเซ็นที่ไหนถึงจะดีและน่าไปมากกว่าครับ ผมจะมาจัดอันดับความนิยมออนเซ็นให้นะครับ โดยชุดแรกจะอิงจากหนังสือนำเที่ยวก่อน แล้วค่อยแยกตามความเห็นของผมใส่ไว้ต่างหากอีกชุดนึง เพราะว่าสำหรับคนไทยอย่างเราไม่มีวัฒนธรรมการแช่ออนเซ็น ไอ้การจะถ่อไปที่ใดที่หนึ่งเพื่อแช่ออนเซ็นอย่างเดียวมันก็จะเกินไปหน่อย ดังนั้นเกณฑ์ของผมจะมองในมุมที่ว่า ถ้าเราไปที่นั่นแล้วจะมีอะไรเที่ยวบ้าง ประกอบกันไปด้วยนะครับ 1 – Jozankei – ถูกค้นพบเมื่อช่วงกลางศตวรรษที่ 18 โดยนักพรตท่านหนึ่งครับ (ชื่อ Jozan เลยเอามาตั้งเป็นชื่อสถานที่ซะเลย) ที่นี่เป็นที่นิยมมากที่สุดครับ เหตุผลก็คือเป็นแหล่งออนเซ็นที่ดีที่สุดที่อยู่ใกล้ Sapporo  ดังนั้นคน Sapporo ก็ไม่ต้องถ่อไปไกลให้เหนื่อย ขับรถไปชั่วโมงเดียวก็แช่ออนเซ็นดีๆ ได้ไม่ยาก ถ้านักท่องเที่ยวอย่างเราจะไปก็ต้องนั่งรถบัสไปครับ ขึ้นได้ที่ท่ารถบัสตรงสถานี Sapporo เลย (รถไฟไปไม่ได้) จะไปค้างหรือไปเป็นแพคเกจไป-กลับก็ได้ ข้อดีคือเป็นออนเซ็นดีๆ ที่ราคาไม่แพงเลย อาหารอร่อยอีกด้วย การเดินทาง : รถบัสจากสถานี Sapporo  ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. 15 นาที กิจกรรมอื่นๆ : เดินเขา (ซึ่งจะดีที่สุดต้องช่วงใบไม้แดงครับ สวยมาก) 2 – Noboribetsu – กลายเป็นอันดับ 2 ไป หลายคนคงจะผิดคาด แต่ไม่ผิดหรอกครับ แม้ออนเซ็นที่นี่จะดีกว่า แต่อยู่ไกลไปหน่อยเท่านั้นเองครับ อย่างไรก็ตาม ถ้าจัดอันดับออนเซ็นทั่วญี่ปุ่น ที่นี่ได้อันดับ 3 และเป็นอันดับที่สูงที่สุดของบรรดาออนเซ็นทั้งหมดใน Hokkaido ครับ ที่นี่ถูกค้นพบเมื่อช่วงกลางศตวรรษที่ 18 เช่นเดียวกับ Jozankei ครับ แต่จะก่อนหน้า Jozankei เกือบ 10 ปีได้ (ของที่นี่ค้นพบเมื่อปี 1858 ส่วน Jozankei เป็นปี 1866 ครับ) การเดินทาง : รถไฟมาลงที่สถานี Noboribetsu แล้วต่อรถบัสไปประมาณ 20 นาที ถ้านั่งรถบัสจาก Sapporo ก็ประมาณชั่วโมงครึ่งครับ กิจกรรมอื่นๆ : เดินเขาครับ ที่รู้จักกันดีคือ “หุบเขานรก” ชื่อก็น่ากลัวไปยังงั้นเองแหละครับ ความจริงเป็นแหล่งกำเนิดออนเซ็นนั่นเอง ใครไปเดินจะรู้สึกเหมือนเดินดูภูเขาไฟเลยล่ะครับ เพราะมีควันพวยพุ่งอยู่ตลอดเวลา ว่ากันว่ามีน้ำพุร้อนผุดออกมาถึง 3,000 ลิตรต่อวันเลยล่ะครับ นอกเหนือจากนี้ก็มีฟาร์มหมีพันธุ์หายาก, พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Marine Park Nix, แล้วก็หมู่บ้านนินจา Edo Wonderland ให้แวะชมกันด้วยครับ 3 – Toyako – ออนเซ็นน้องใหม่ครับ ปีนี้ก็ครบรอบ 100 ปีพอดีที่ถูกค้นพบ ระยะทางที่ไม่ไกลมากจนเกินไป บวกกับทะเลสาบที่สวยงาม ทำให้ออนเซ็นของที่นี่ติดอันดับต้นๆ ของชาว Hokkaido เลยทีเดียว เมื่อ 10 ปีก่อนภูเขาไฟ Nishiyama เกิดระเบิดขึ้นมา ทำเอาหมู่บ้านและโรงแรมบริเวณรอบๆ ทะเลสาบเสียหายไปหมด แต่แค่เวลาไม่กี่ปี ทางสมาคมท่องเที่ยวก็จัดการบูรณะขึ้นมาใหม่ จนทำให้ที่นี่โด่งดังขึ้นไปอีกครับ ใกล้ภูเขาไฟซะขนาดนี้แร่ธาตุในออนเซ็นคงเต็มเปี่ยมน่าดูล่ะครับ หุหุ (แร่ธาตุหลักๆ ของออนเซ็นที่นี่มาจากภูเขาไฟ Uzu ครับ) การเดินทาง : รถไฟมาลงที่สถานี Toya แล้วต่อรถบัสไปประมาณ 30 นาที ถ้านั่งรถบัสจาก Sapporo ก็ประมาณ 2 ชั่วโมงครับ กิจกรรมอื่นๆ : ล่องเรือทะเลสาบ, เก็บผลไม้ และที่ดังที่สุดคือเดินชมภูเขาไฟที่ยังไม่ดับครับ 4 – Yu no Kawa – ออนเซ็นชื่อดังของเมือง Hakodate ครับ ค้นพบมาตั้งแต่สมัยเอโดะโน่นแหละครับ โดยส่วนตัวผมไม่คิดว่าออนเซ็นที่นี่จะดีขนาดนั้น แต่ในแถบๆ Watarijima (ชื่อเรียก Hokkaido ล่าง ฝั่ง Hakodate) ที่นี่ถือว่าเป็นออนเซ็นที่ดีที่สุด บวกกับ Hakodate เป็นเมืองท่องเที่ยวด้วย เลยเป็นที่นิยมครับ การเดินทาง : รถไฟมาลงที่สถานี Hakodate ต่อรถรางไปฝั่ง Yu no Kawa อีกประมาณ 30 นาทีครับ กิจกรรมอื่นๆ : กิจกรรมทุกอย่างที่ทำได้ใน Hakodate 5 – Sounkyo – ค้นพบโดยนักปีนเขาที่มาปีน Daisetsuzan เมื่อประมาณ 150 ปีก่อนโน่นแหละครับ ปริมาณแร่ธาตุน้อยที่สุดในบรรดา 5 ที่ที่กล่าวมา แต่เพราะ Daisetsuzan เป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังครับ ที่นี่จึงเป็นที่นิยม การเดินทาง : รถไฟมาลงที่สถานี Kamikawa แล้วต่อรถบัสไปประมาณ 30 นาที กิจกรรมอื่นๆ : เดินเขา, ชมธรรมชาติที่ Daisetsuzan และ Kurodake บึงน้ำพุร้อนที่ Noboribetsu จากคุณ : be lonely เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 23:28:10

ความคิดเห็นที่ 2 ลองมาดูอันดับออนเซ็นในส่วนของผมบ้างละกันนะครับ 1 – Noboribetsu – ไหนๆ เราก็มาแช่ออนเซ็นแล้ว จะไม่ดูแหล่งกำเนิดเลยก็กระไรอยู่ ที่นี่เป็นที่เดียวใน Hokkaido ที่จะได้เห็นแหล่งกำเนิดออนเซ็นแบบเต็มตาที่สุดครับ แถมยังดูสายธารออนเซ็นได้ด้วย แหม่ มันช่างคลาสสิคจริงๆ นอกเหนือจากนี้ก็มีหมู่บ้านนินจา พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ฟาร์มหมีอีกด้วย นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมที่นี่ถึงเป็นออนเซ็นที่น่าไปที่สุดครับ 2 – Utoro – อันนี้ผมหักดิบไปหน่อยนะครับ เพราะมันไกลจาก Sapporo มาก แต่สำหรับคนที่มี Shiretoko เป็นดินแดนในฝันอย่างผม ยังไงก็ต้องที่นี่ครับ นอกจากออนเซ็นแล้วจะได้สัมผัสธรรมชาติที่งดงามมากๆ ของที่นี่อีกด้วย นั่งเรือชมคาบสมุทรชิเรโทโกะ, ทะเลสาบชิเรโทโกะ, ล่องเรือดูปลาวาฬ แมวน้ำ สิงโตทะเล เหยี่ยว, แล้วก็มีโอกาสได้เห็นหมี (ห้ามผวน) กวางแบบใกล้ชิด ยังไงผมก็เลือกที่นี่ครับ ลืมบอกไป ของแท้ต้องไปออนเซ็นกลางป่านะครับ หุหุ 3 – Kawayu – ออนเซ็นที่ดีที่สุดสำหรับสาวๆ ครับ (พูดแค่นี้หลายคนคงตาลุก) มีแร่ธาตุบำรุงผิวเต็มเปี่ยม บวกกับคอร์สของที่พักที่จัดให้สำหรับคนรักความงามโดยเฉพาะ อาหารที่เปี่ยมไปด้วยคอลลาเจน และกิจกรรมเดินป่า Kawayu ที่ว่ากันว่าเป็นประจุไฟฟ้าลบ ซึ่งช่วยผ่อนคลายให้กับร่างกายครับ คืออันนี้ผมก็อึ้งนะ ไม่คิดว่าจะมีถึงขนาดนี้ (แต่เค้าอาจจะโกหกเราก็ได้ ใครจะไปรู้ ฮ่าๆๆ) 4 – Toyako– สรรพคุณกล่าวไปข้างต้นแล้วนะครับ ธรรมชาติสวย กิจกรรมก็น่าสนใจ แถมการเดินทางไม่ลำบาก (แต่อาหารธรรมดาไปหน่อย) แวะไปไม่เสียเที่ยวครับ 5 – Tokachidake – ของดีที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักครับ ได้ชมธรรมชาติที่สวยงามที่ Furano แล้ว ก็ไปออนเซ็นชั้นดีซะด้วยเลย ขับรถจากสถานี Kamifurano ไปประมาณ 40 นาทีก็จะถึง Tokachidake ครับ ถ้าเข้าออนเซ็นกลางแจ้งก็จะได้เห็นธรรมชาติสวยๆ ของ Furano ด้วย หรือใครชอบของแปลกก็มีออนเซ็นกลางเขาด้วย (เข้าฟรีครับ) อยากลองก็ไปดูได้ครับ นอกเหนือจากที่บอกไปก็มีที่ดีๆ อีกเยอะครับ แต่ผมจะเน้นว่ามีกิจกรรมแบบไหนให้ทำกันมากกว่า ให้ออนเซ็นเป็นของแถม ยังไงทุกท่านลองเลือกดูละกันครับว่าสนใจแบบไหน (แต่ถึงจะไม่ไปก็ไม่น่าเสียดายหรอกครับ) ธารน้ำพุร้อนที่ Noboribetsu เหมือนกันครับ (มันก็ไหลมาจากบึงเมื่อกี๊นั่นแหละ) จากคุณ : be lonely เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 23:29:47

ความคิดเห็นที่ 3 Niseko Onsen – ที่นี่ช่วงหน้าหนาวก็มีเล่นสกี, สโนว์บอร์ด ถ้าเป็นหน้าร้อนก็มีอะไรให้เล่นเยอะเหมือนกันครับ ออนเซ็นแถว Niseko จะมีให้เลือกเยอะมาก แวะเข้าได้ตามใจชอบครับ Asari Onsen – อันนี้ก็ใกล้ๆ Otaru ครับ แต่โรงแรมที่นี่ค่อนข้างแพงเลยทีเดียว จัดอยู่ในหมวดหรูนิดๆ Shikaribetsu Onsen – ถ้าใครชอบกิจกรรมผจญภัย เดินเขา ผมได้พูดคำเดียวว่าที่นี่ “เด็ด” ครับ Shikotsuko Onsen – ทะเลสาบที่ลึกที่สุดใน Hokkaido  และเป็นลึกอันดับสองของญี่ปุ่น ธรรมชาติสวยงามแบบสงบครับ มีเรือให้ล่อง ออนเซ็นก็ถือว่าไม่เลวครับ Tokachigawa Onsen – ถ้าใครไปดูทุ่งดอกไม้ที่ Obihiro แล้ว ก็ควรแวะไปครับ เป็นออนเซ็นชั้นดีเลย เสียแต่ว่าแถวนั้นไม่มีอะไรให้เที่ยวนัก จึงไม่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเท่าไหร่ จากคุณ : be lonely เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 23:30:35

ความคิดเห็นที่ 4 ดูดอกไม้ พูดถึง Hokkaido  ทุกคนคงจะนึกถึงทุ่งดอกไม้ของที่นี่ แต่จริงๆ แล้วที่สวยๆ ก็มีไม่กี่แห่งหรอกครับ เพราะจุดเด่นของ Hokkaido คือธรรมชาติแบบแท้ๆ ไม่ใช่ทุ่งดอกไม้ครับ ถ้ามีไม่กี่แห่งก็จัดไม่ยากหรอกครับ เรามาดูกันเลยดีกว่า 1 – ทุ่งดอกลาเวนเดอร์: Tomita Farm, Furano อันนี้คงไม่ต้องอธิบายนะครับ  ดังที่สุดแล้วในบรรดาที่ชมดอกไม้ของ Hokkaido  สวยจริงสมคำร่ำลือครับ ชนะขาดไปเลย 2 – ปราสาทซากุระ: Matsumae Park, Matsumae จริงๆ ก็ลังเลนิดนึงนะครับว่าถ้าพูดถึงซากุระที่ Hokkaido  ต้องดูที่ไหนดี ที่ Matsumae จะดัง เพราะเป็นปราสาทแห่งเดียวใน Hokkaido  แต่ข้อเสียคือต้นซากุระจะมีไม่มาก และบานไม่พร้อมกัน แต่ถ้าเป็นสวนสาธารณะ 5 เหลี่ยมที่ Hakodate จะลานตากว่าครับ แล้วก็เปิดไฟสวยมากในตอนกลางคืน แต่ใน Hokkaido  วิวที่ Matsumae จะหาดูที่อื่นไม่ได้อีก ผมก็ยกให้ Matsumae ไปละกันครับ (แต่ถ้าไปแถวนั้นจริงๆ ก็มีโอกาสแวะไปได้ทั้งสองที่แหละครับ ถ้ามีรถ) 3 – ทุ่งทิวลิป: Tulip Park, Kamiyubetsu ความจริงทิวลิปนี่มีการปลูกในหลายพื้นที่เลยนะครับ แม้กระทั่งที่ Furano เอง แต่สวยที่สุดคือที่นี่ครับ เพียงแต่ว่าไม่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวนัก เพราะคนละช่วงเวลากับลาเวนเดอร์ครับ นักท่องเที่ยวจึงเลือกช่วงเวลามาดูลาเวนเดอร์มากกว่า ซึ่งตอนนั้นทิวลิปก็ไม่เหลือแล้วล่ะครับ เหตุผลที่ที่นี่เป็นที่นิยมมากว่า Takinoue  ก็คือ เดินทางมาสะดวกกว่า แล้วก็มีที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอยู่รอบๆ ครับ 4 – ชิบะซากุระ: Takinoue Park, Takinoue สวนดอกชิบะซากุระที่สวยที่สุดใน Hokkaido ครับ แต่ประสบชะตากรรมเดียวกับทิวลิป คืออยู่คนละช่วงเวลากับลาเวนเดอร์ อีกทั้งการเดินทางค่อนข้างลำบาก แล้วก็ที่ใกล้ๆ ก็ไม่มีอะไรน่าดูมากนัก นักท่องเที่ยวจึงไม่นิยมเท่าทุ่งลาเวนเดอร์ครับ โชคยังดีครับที่ชิบะซากุระจะบานพร้อมๆ กับทิวลิป ดังนั้นใครมาช่วงนี้ก็จะมีโอกาสได้ดูทั้งทิวลิปแล้วก็ชิบะซากุระเลยล่ะครับ 5 – ทุ่งดอกไม้หลากพันธุ์: Shichiku Garden, Obihiro ที่ดอกไม้หลากพันธุ์ประจำโซนกึ่งๆ ตะวันออกครับ มีพันธุ์ไม้กว่า 2,000 ชนิด มีให้ชมตลอดหน้าร้อน ถือว่าเป็นแหล่งดูดอกไม้ที่ดังที่สุดของแถบนั้นครับ นอกจากนี้ยังมีทุ่งดอกทานตะวันที่ Hokuryu, ดอกเบญจมาศที่ Nanae ชิบะซากุระที่ Ozora สวนกุหลาบบนภูเขาที่ Sapporo ด้วยครับ ที่เหล่านี้ไม่ใช่ที่ที่ต้องไป แต่ถ้าผ่านไปแถวๆ นั้นแล้วมีเวลา ก็น่าแวะไปดูครับ สำหรับคนที่ไปในช่วงเวลาที่ดอกไม้ในฤดูนั้นๆ บาน แต่ไม่มีเวลาเดินทางไปไกลๆ ผมแนะนำสวนธรรมชาติ Takino Suzuran ของที่ Sapporo ครับ ที่นั่นคุณจะได้ดูดอกไม้เกือบทุกประเภทในฤดูของมันด้วย เอาไว้ผมจะให้ข้อมูลเพิ่มเติมตอนแนะนำสถานที่เที่ยวนะครับ ทุ่งลาเวนเดอร์ที่ Furano เช่นเคยครับ จากคุณ : be lonely เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 23:32:07

ความคิดเห็นที่ 5 ของกิน ผมว่าต้องมีคนรออันนี้อยู่ล่ะครับ มาถึงที่นี่ทั้งที ต้องซัดมันให้หมด เขาว่าของกิน Hokkaido อร่อยนักหนา มาแล้วก็ต้องลอง แน่นอนครับ ผมเชียร์ให้กินให้เต็มที่เลย 1 – เนื้อแกะย่าง (เจงกิสข่าน): Sapporo ผิดคาดใช่ไหมล่ะครับ ว่าทำไมไม่เป็นปูขนหรือซูชิ แต่ขอโทษครับ อันนี้ผมจัดอันดับตามใจตัวเอง ฮ่าๆๆ ใครจะไปคิดล่ะครับว่าเนื้อแกะย่างของที่นี่มันจะอร่อยได้ปานนี้ กว่าผมจะรู้ว่ามันอร่อยก็ตอนที่ไปกินร้านที่มันขายเป็นเรื่องเป็นราวนั่นแหละครับ ปกติซื้อจากซุปเปอร์มาย่างกินเอง ไม่ก็ตอนกินบุฟเฟท์เนื้อย่าง ซึ่งจะได้แต่เนื้อเห่ยๆ มากิน แล้วก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันอร่อยตรงไหนเลย มาตรัสรู้เอาทีหลังเนี่ยแหละ อีกเหตุผลนึงที่ผมให้เนื้อเจงกิสข่านเป็นอันดับหนึ่งเพราะว่าราคาไม่แพงมากครับ หากินง่ายด้วย ใครไป Hokkaido แล้วไม่ได้กินล่ะเสียดายแย่ 2 – ซูชิ: Otaru อยู่เมืองไทยนี่ตั้งแต่ซูชิชิ้นละห้าบาท ไปจนถึงของขึ้นห้างอย่าง Zen หรือร้านอาหารญี่ปุ่นดีๆ ในกรุงเทพ ผมก็กินมาหมดแล้วครับ แต่กว่าจะรู้ว่าซูชิของแท้ที่อร่อยมากๆ (เหมือนเวลาอ่านการ์ตูน) มันอยู่ไม่ไกลเลย แค่ Otaru นี่เอง ผมไป Otaru บ่อยมากครับ แต่ไม่เคยเหยีบเข้าไปในร้านซูชิเลย ก็ใครจะไปคิดละครับว่า 2 พันเยนที่จ่ายไปจะกลับมาเป็นซูชิแค่ 7 ชิ้น!! เอาไปกินซุชิร้อยเยนดีกว่าไหม รสชาติก็คงไม่แตกต่างกันมาก แล้วผมก็มาตรัสรู้ทีหลัง (ตามเคย) ว่าของแท้มันเป็นยังไง ถ้ามีโอกาสไปคราวหน้า ผมต้องกินแน่นอนครับ ไอ้เจ้าซูชิเนี่ย... 3 – หอยโฮตาเตะ: Otaru ใครไม่เคยกิน ขอเชิญทดลองด่วนครับ จะแบบย่างร้อนๆ หรือเสียบไม้ปิ้ง หรือกินสดๆ ก็ได้ไม่ว่ากันครับ โดยเฉพาะที่ Otaru ถ้าคุณเดินชมเมืองไปเรื่อยๆ จะเจอร้านนึงที่มีคนยืนต่อคิวเยอะๆ คุณพี่คนขายแกจะย่างสดๆ ให้กินตรงนั้นเลย อย่าลังเลครับ บุกเข้าไปเลย มันจะมีของอร่อยขายหลายอย่างมาก แต่โฮตาเตะเนี่ยล่ะครับ ถูก อร่อย รสชาติถูกปาก ที่สำคัญคือ ซื้อกลับมากินเองมันไม่อร่อยเท่ายืนกินตรงนั้นครับ ดังนั้นห้ามพลาดเด็ดขาด 4 – ซุปแกงกะหรี่: Sapporo หลายคนคงจะคิด ว่าไอ้เจ้า be lonely จะมาแนว indy อีกแล้วเหรอเนี่ย มันแนะนำอะไรของมันวะ ซุปแกงกะหรี่คืออะไรไม่เห็นรู้จัก ผมอยู่ Sapporo มาปีนึง อาทิตย์นึงต้องกินซุปแกงกะหรี่อย่างน้อย 1 มื้อ ก็ไม่เคยคิดหรอกครับว่ามันจะเป็นอาหารหายากขนาดนี้ เพราะไอ้เจ้าซุปแกงกะหรี่นี่หากินที่ไหนไม่ได้นอกจาก Hokkaido ครับ (ถึงตอนนี้จะเริ่มมีขายบ้างที่โตเกียวและโอซาก้าก็เถอะ) เดิมทีมันก็เป็นข้าวราดแกงกะหรี่เหมือนที่อื่นๆ ของญี่ปุ่นนั่นแหละครับ แต่เพราะอากาศมันหนาว เค้าเลยมาประยุกต์ให้มันเป็นซุปซะ เรื่องรสชาติผมไม่ยืนยันนะครับว่าอร่อย เพราะเป็นรสที่คนไทยน่าจะไม่ค่อยได้กิน แต่ถ้ามาถึง Hokkaido แล้วก็ถือเป็นของที่น่าจะลองกินดูซักครั้งครับ 5 – ปู: Eastern Hokkaido อันนี้ผมขี้เกียจจะมาแยกว่าเป็นปูขนหรือปูทาราบะน่ะครับ ก็รวมๆ ไปเป็นปูละกัน หลายคนคงงงว่าทำไมอันดับมันมาอยู่ท้ายสุด ผมไม่กล้ายกเหตุผลว่ามันแพง (กลัวทุกท่านจะรู้ว่าผมไม่มีตัง ฮ่าๆๆ) ก็ยกเหตุผลว่ามันไม่ถูกปากคนไทยแทนละกันครับ ถึงเนื้อมันจะนุ่มเหมือนละลายในปากแค่ไหน แต่ปัญหาคือ มันจืดไปนิดนึงครับ!! ดังนั้นถ้าทุกคนคิดจะกิน ผมแนะนำให้เตรียมน้ำจิ้มทะเลหรือน้ำจิ้มสุกี้ไปด้วย อันดับมันอาจจะกระโดดไปอยู่ที่หนึ่งก็ได้! นอกเหนือจากที่ว่ามาข้างต้นแล้ว ก็มีพวกราเมง, สเต๊กเนื้อวัว, ปลาฮอกเกะ ที่อร่อยๆ ครับ (จริงๆ ก็อร่อยแทบทุกอย่าง) แต่ผมถือว่าไม่ได้กินก็ไม่เสียหาย อย่างราเมงผมยังไม่เคยเจอคนไทยกินแล้วโพล่งออกมาว่า “อร่อย” เลยล่ะครับ ส่วนมากจะประมาณว่า “ก็อร่อยดีนะ” ทำนองนี้ ก็เลยไม่แนะนำว่ายังไงก็ต้องกิน ยังไงก็ตาม สถานที่ที่ผมเขียนประกอบไว้คือที่ที่เราจะกินได้อร่อยที่สุดนะครับ แต่ถึงจะไม่ได้ไปกินถึงที่นั่นก็ไม่เป็นไร รสชาติก็ไม่ต่างกันมาก แต่ถ้าที่ใกล้ๆ อย่าง Otaru ผมแนะนำให้กินที่นั่นจะดีที่สุดครับ นอกเหนือจากนี้ก็มีของอร่อยที่หาได้เฉพาะในพื้นที่นั้นๆ อย่างเช่นข้าวหน้าเนื้อหมูย่างที่ Obihiro, ข้าวหน้าปลาดิบที่ Yoichi ปลาดิบและแซลมอนที่ Shiretoko ซึ่งไม่ถึงขนาดต้องถ่อไปกิน แต่ถ้าไปบริเวณนั้นก็ไม่อยากให้พลาดครับ ต้องร้านเล็กๆ ควันโขมงแบบนี้ครับ ถึงจะอร่อย (อันนี้คือร้านเนื้อแกะย่าง) จากคุณ : be lonely เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 23:34:01

ความคิดเห็นที่ 6 ขนมสำหรับของฝาก กินของอร่อยกันไปแล้ว ก็คงต้องแวะดูของฝากไปเผื่อพ่อแม่พี่น้อง มิตรรักชาวเพลงซะหน่อย 1 – Shiroi Koibito: Sapporo ขายดีที่สุดใน Hokkaido ครับ เพราะหาซื้อที่อื่นไม่ได้เลย ซื้อได้เฉพาะที่นี่ แต่ไม่ต้องห่วงครับ ถ้ายังอยู่ใน Hokkaido  ที่ไหนก็มีขายครับ 2 – Royce: Sapporo คงรู้จักกันดีว่าช็อคโกแลตของเขาอร่อยมาก ถ้าตีตราว่า Royce แล้ว หลับตาซื้อยังอร่อยเลยครับ จริงๆ เรื่องรสชาตินี่กิน Shiroi Koibito ขาดด้วยซ้ำ เพียงแต่ดังสู้ไม่ได้เท่านั้นเอง (จริงๆ ก็ถือว่าดังเป็นอันดับสองล่ะนะ) ช็อคโกแลตของที่นี่ก็หาซื้อได้ทั่วไปเหมือน Shiroi Koibito แหละครับ ว่ากันว่ามี Shiroi Koibito ที่ไหน ก็ต้องมี Royce ที่นั่น (ยกเว้นที่ Ishiya Chocolate Factory นะครับ ฮ่าๆ) 3 – Rokkatei: Obihiro บอกได้คำเดียวว่า “โคตรอร่อย” ครับ ใครไม่กินนี่เสียดายแทน ไม่ต้องถ่อไปถึง Obihiro ก็ได้ครับ หาซื้อได้ตามซุปเปอร์มาร์เก็ตในห้างทั่วไป (ที่ Sapporo ก็มีขาย) อันนี้ก็เหมือน Royce ครับ หลับตาหยิบอันไหนก็อร่อย 4 – Le Tao Chocolate: Otaru หาซื้อได้เฉพาะที่ Otaru และ Sapporo ครับ (ตามสนามบินผมไม่แน่ใจว่าที่ไหนมีขายบ้าง) ดังที่สุดคือช็อคโกแลต แต่สิ่งที่ทำให้ Le Tao ไม่เป็นที่รู้จักในต่างประเทศนักเพราะไม่ค่อยได้กินกันครับ เหตุผลก็คือ มันจะละลายซะก่อน ถ้าซื้อกินที่ญี่ปุ่นก็ยังไหวอยู่ แต่จะเอากลับมาเมืองไทยนี่ ยากครับ จริงๆ Le Tao มีสินค้าอย่างอื่นขายด้วย ที่อร่อยๆ ก็มีพุดดิ้ง ส่วนอย่างอื่นผมเฉยๆ ครับ ธรรมดาไปเลยถ้าเทียบกับช็อคโกแลตของเขาน่ะนะ 5 – Snaffle Cheese Omelet: Hakodate เขียนว่าชีสออมเล็ต แต่ความจริงก็คือชีสเค้กนั่นแหละครับ ชิ้นเล็กๆ กินง่ายๆ ที่สำคัญคือ อร่อยมาก เหมาะกับการเป็นของฝากนักแล แต่ข้อเสียคือจะละลายเร็วเหมือนช็อคโกแลต Le Tao แล้วก็กินมากๆ ไม่ได้ครับ เลี่ยน อันนี้นอกจากที่ Hakodate แล้ว ที่ Sapporo ก็มีขายเหมือนกันครับ เวลาที่ไปเที่ยวตามที่ต่างๆ เราจะเห็นของฝากที่เป็นขนมใส่ห่อตามแต่ละพื้นที่เต็มไปหมด ผมบอกไว้ก่อนเลยว่ารสชาติส่วนใหญ่จะคล้ายๆ กัน แค่อาจจะเอาวัตถุดิบของพื้นที่นั้นๆ มาใช้ทำเฉยๆ หรือบางอย่างก็ไม่มีอะไรเด่นๆ เลยครับ แค่บรรจุห่อที่เป็นภาพของสถานที่ท่องเที่ยวนั้นๆ ผมจึงไม่แนะนำให้ซื้อครับ ของที่น่าซื้อจริงๆ เป็นพวกของสดหรือของแห้งของพื้นที่นั้นๆ ซึ่งก็ไม่เหมาะที่จะเอากลับประเทศด้วย ของฝากที่น่าซื้ออีกอย่างก็คือ พวกขนมที่มีร้านเป็นของตัวเองครับ ถ้าไป Otaru หรือ Hakodate จะสังเกตเห็นร้านพวกนี้ได้ไม่ยาก ลองไปชิมๆ แล้วตัดสินใจดูจะดีที่สุดครับ (อย่างที่ Otaru นี่ขนมอร่อยทุกร้านแหละครับ) อันนี้ล่ะครับ เจ้า Rokkatei อันโด่งดัง จากคุณ : be lonely เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 23:35:21

ความคิดเห็นที่ 7 ตามมาให้กำลังใจต่อครับ จากแฟนคลับ Hokkaido คนนึง อิอิ จากคุณ : สรุปไม่ได้เลย เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 23:38:32

ความคิดเห็นที่ 8 ธรรมชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของ Hokkaido อันนี้ผมถือว่าเป็นหัวข้อพิเศษนะครับ  ประมาณว่าถ้าคุณไม่มีเวลาหรือไปไม่ตรงกับช่วงของมัน ก็ไม่ต้องไปก็ได้ แต่ถ้าคิดจะไปจริงๆ ล่ะก็ ในกลุ่มนี้มีอย่างน้อยหนึ่งที่ที่คุณต้องไปครับ 1 – ล่องเรือตัดทะเลน้ำแข็ง: Monbetsu, Abashiri ช่วงเวลา: ปลายเดือนมกราคมถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ถ้าธรรมชาติเพียวๆ ล่ะก็ ผมมั่นใจว่าประเทศไทยบ้านเราสวยไม่แพ้ที่ไหนในโลกครับ แต่ถึงจะว่าอย่างนั้น มันก็ยังมีอะไรที่บ้านเราหาดูไม่ได้อยู่ดี หนึ่งในนั้นคือก้อนธารน้ำแข็งจากขั้วโลกเหนือนั่นเอง ที่นี่เราจะได้นั่งเรือบดธารน้ำแข็งไปบนทะเลครับ นอกจากธารน้ำแข็งแล้วคุณมีอาจจะได้เห็นสัตว์ขั้วโลกทั้งหลายอย่างแมวน้ำหรือสิงโตทะเลด้วยครับ เหตุผลที่เรือบดน้ำแข็งเป็นที่นิยมมาก เพราะมันตรงกับช่วงเทศกาลหิมะของที่นี่พอดีครับ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็จะมาล่องเรือบดน้ำแข็งกันทั้งนั้น 2 – คาบสมุทรชิเรโทโกะ: Utoro, Rausu ช่วงเวลา: ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม มรดกโลกทางธรรมชาติแห่งเดียวของ Hokkaido ครับ สถานที่ชาวไอนุเชื่อว่าเป็น “ดินแดนที่อยู่สุดขอบโลก” ตามตำนานของเขา ถ้าคุณจะหาดูธรรมชาติที่พิเศษที่สุดใน Hokkaido  ผมจิ้มไปที่ชิเรโทโกะนี่แหละครับ โดยที่นี่จะมีสองฝั่ง ฝั่ง Shari เน้นชมคาบสมุทร ส่วนฝั่ง Nemuro (Rausu) เน้นชมธรรมชาติทางทะเล ซึ่งไม่ว่าจะฝั่งไหน คุณจะได้สัมผัสสุดยอดความงดงามแห่งธรรมชาติแน่นอน ปัญหาของที่นี่คือ เดินทางลำบากนิดนึงครับ โดยเฉพาะฝั่ง Rausu ในหน้าหนาว เพราะจะไปเส้นทางปกติไม่ได้ หากจะไปจะต้องอ้อมไปไกลมาก แต่ Rausu ในหน้าหนาวก็จะมีสุดยอดความงดงามรออยู่เช่นกันครับ 3 – ทะเลสาบมะชู: Teshikaga ช่วงเวลา: หน้าร้อนและหน้าหนาว ทะเลสาบขี้อายประจำ Hokkaido ครับ เจ้าทะเลสาบแห่งนี้ต่างจากที่อื่นคือ เราจะลงไปใกล้ๆ ไม่ได้ครับ ได้แต่ดูอยู่จากบนยอดเขา จุดเด่นของที่นี่คือ จะมองเห็นตัวทะเลสาบได้เพียงไม่กี่วันในหนึ่งปี ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและระดับความชื้น พูดง่ายๆ คือถ้าคุณไปแล้วไม่ได้เห็นหรือเห็นไม่ชัดก็ไม่ต้องเสียใจครับ มันเรื่องปกติ ถ้าอากาศเย็นๆ คุณก็จะได้ดูทะเลหมอกแทนครับ ถ้าเป็นหน้าหนาว คุณจะได้เห็นทะเลหมอกตรงหุบเขา และก็ทะเลดาวบนท้องฟ้าครับ เป็นธรรมชาติที่หาดูได้ยากแม้จะเป็นที่ Hokkaido เองก็ตาม 4 – ใบไม้แดง: Daisetsuzan ช่วงเวลา: ปลายกันยายนถึงกลางเดือนตุลาคม ถ้าจะดูใบไม้แดงที่สวยที่สุดก็ต้องมาที่นี่เท่านั้นครับ อากาศเย็นสบาย นั่งกระเช้าชมใบไม้แดง ดูน้ำตก แช่ออนเซ็น และเดินทางไม่ลำบาก ข้อเสียคือ ช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่ไม่ค่อยมีอะไรน่าเที่ยวนักสำหรับ Hokkaido  อย่างไรก็ตาม ที่นี่เป็นที่ที่แนะนำมากๆ ที่นึงครับ 5 – เกาะริชิริ – Rishiri Island ช่วงเวลา: พฤษภาคมถึงตุลาคม พูดถึงเกาะนี้ ผมก็ไม่รู้ว่าจะยกอะไรมาพูดดี เพราะมันงดงามแบบสงบ ทะเลสาบใสแจ๋วเหมือนกระจก ความสวยงามของภูเขา ยอดเขาที่มองเห็นทั่วทั้งเกาะ อีกความพิเศษหนึ่งที่คุณจะเห็นได้ที่นี่เท่านั้นครับ ปัญหาก็คือ ที่นี่ไปลำบากมากครับ แล้วก็ไม่มีที่ใกล้ๆ ให้เที่ยวเท่าไหร่ด้วย ดังนั้นถ้าคุณไม่รักการเดินเขาจริงๆ คงไม่เหมาะที่จะไปครับ นอกจากนี้ก็มีที่เด่นๆ อย่างเช่น หมู่บ้านนกกระเรียนที่ Kushiro, ที่ราบลุ่ม Kushiro, แหล่งกำเนิดออนเซ็นที่ Noboribetsu, แหลม Shakotan, ทุ่งหญ้าที่ Kamishihoro, ทะเลสาบ Saroma เป็นต้น มหัศจรรย์แห่งธรรมชาติที่ Shiretoko ครับ จากคุณ : be lonely เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 23:40:51

ความคิดเห็นที่ 9 เมืองท่องเที่ยวที่ควรแวะ อันนี้จะตรงข้ามกับหัวข้อข้างบนนะครับ สำหรับคนที่แวะไป Hokkaido เฉยๆ มีเวลาไม่มาก ก็คงอยากรู้ว่าควรจะไปที่ไหนบ้างถึงจะเรียกว่าได้มาเหยียบ Hokkaido แล้ว เรามาดูกันครับ 1 – ทิวทัศน์บนภูเขาฮาโกดาเตะ: Hakodate อันนี้คงไม่ต้องมีคำบรรยายนะครับ เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็น Night view ที่สวยติด 1 ใน 3 ของโลก โดยจะดูวิวที่นี่ควรจะเป็นตั้งแต่ช่วงพระอาทิตย์ใกล้จะตกครับ ท้องฟ้าสีแดง ไฟในเมืองเริ่มเปิด จนกระทั่งฟ้ามืดสนิทเห็นไฟในเมืองระยิบระยับ ผมไม่รู้จะบรรยายยังไงว่ามันสวยขนาดไหน เสน่ห์ของที่นี่ก็คือ ต้องเห็นด้วยตาตัวเองครับถึงจะรู้ว่ามันสวยแค่ไหน ผมดูมาหลายสิบภาพ มีภาพทุกฤดู ก็ยังไม่ประทับใจเท่าดูด้วยตาสองข้างของตัวเองเลยล่ะครับ 2 – คลองโอตารุ และเมืองแห่งเครื่องแก้วและกล่องดนตรี: Otaru เมืองเล็กๆ น่ารัก มีความคลาสสิคอยู่ในตัว ที่สำคัญคือของกินอร่อยมากกกก ผมเชื่อว่าใครที่มาที่นี่ (โดยเฉพาะสาวๆ) ต้องหลงเสน่ห์เมืองนี้แน่นอนครับ 3 – เดินเล่นในเมืองหลวงของจังหวัด: Sapporo จริงๆ แล้วเป็นเมืองที่มีที่ให้เดินเล่นเยอะ (แต่อาจจะไม่ได้สวยอลังการ) ที่ควรแวะไปดูคือห้างตรงสถานี Sapporo  แล้วก็โซนช้อปปิ้งอย่าง Susukino ครับ ถึงผมจะไม่ชอบการช้อปปิ้ง แต่สองที่นี้ถือว่าเป็นศูนย์กลางสินค้า แฟชั่น และทุกๆ อย่างของ Hokkaido ครับ ถ้าได้เดินดูที่นี้แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องไปดูอาเขตหรือห้างที่เมืองอื่นๆ อีกเลย 4 – แหล่งกำเนิดออนเซ็นธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น: Noboribetsu มา Hokkaido แล้วไม่ได้แช่ออนเซ็นนี่เหมือนมาไม่ถึงครับ ถ้าเราไปพักตามเมืองต่างๆนอกเหนือจาก Sapporo ล่ะก็ มีโอกาสได้แช่ออนเซ็นอยู่แล้ว แต่ถ้าอยากเห็นแหล่งกำเนิดของมัน แล้วก็ได้แช่ออนเซ็นไปด้วย ก็ต้องเป็นที่ Noboribetsu นี่ล่ะครับ 5 – สวนสัตว์ที่ทำรายได้สูงสุดในญี่ปุ่น: Asahikawa สวนสัตว์ Asahiyama เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ทำรายสูงสุดใน Hokkaido  และทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่นครับ (รองจาก Disneyland และ Universal Studio) อย่างคนไทยไปก็น่าไปดูสัตว์เมืองหนาวเช่น เพนกวิน หมีขาว แมวน้ำ อะไรเทือกๆ นี้ ส่วนคนญี่ปุ่นก็ไปดูทั้งสองอย่างเลย ที่ดังๆ ก็มีหมีขาว เพนกวิน สิงโต เสือ แรคคูน ฯลฯ ครับ ใน 5 ที่นี้ ถ้าคุณไปไม่ถึง 2 ที่ก็อย่าพูดเลยครับว่าได้มาเหยียบ Hokkaido แล้ว ดังนั้นเวลาคุณจัดแผน ต่อให้เวลาน้อยแค่ไหน คุณก็ต้องยัดพวกนี้เข้าไปให้ได้ครับ อย่างอื่นค่อยว่ากันทีหลัง (จะมาแก้ตัวอีกรอบก็ไม่ว่ากันครับ อิอิ) Hakodate night view ครับ จากคุณ : be lonely เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 23:42:44

ความคิดเห็นที่ 10 ที่เหลือผมจะจัดอันดับสิ่งที่น่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติม แต่ไม่ใส่รายละเอียดนะครับ เพราะจะพูดถึงอีกทีตอนแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวครับ ผลไม้ 1 – เมลอน 2 – เชอรี่ญี่ปุ่น (คนละแบบกับเชอรี่อเมริกานะครับ) 3 – ลูกพลับ 4 – องุ่น 5 – สตรอเบอรี่ ชมสัตว์ 1 – Asahiyama Zoo – Asahikawa 2 – Noboribetsu Tsukinowa Farm – Noboribetsu 3 – Aquarium Park Nix - Noboribetsu 4 – Otaru Aquarium – Otaru 5 – Maruyama Zoo – Sapporo ทะเลสาบ 1 – Mashu Lake – Teshikaga 2 – Shiretoko Five Lakes - Utoro 3 – Himenuma Lake – Rishiri 4 – Shikotsu Lake – Eniwa 5 – Toya Lake – Toya วนอุทยานและอุทยานแห่งชาติ 1 – Shiretoko Peninsula 2 – Daisetsu Moutain 3 – Kushiro Wetland 4 – Rishiri Island 5 – Onuma Night view 1 – Hakodate Moutain – Hakodate 2 – Tengu Moutain – Otaru 3 – Moiwa Moutain – Sapporo สถานที่เล่นสกี 1 – Kiroro Snow World – Otaru 2 – Niseko – Niseko 3 – Rusutsu Resort – Rusutsu 4 – Sahoro Resort – Sahoro 5 – Furano – Furano คราวหน้าผมจะมาพูดถึงพื้นที่ใน Hokkaido และการเดินทางครับ (ช่วงนี้ผมจะยุ่งๆ เล็กน้อย อาจจะต้องรอซักหน่อย แต่จะพยายามครับ) จากคุณ : be lonely เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 23:44:25

ความคิดเห็นที่ 11 ไปออนเซน คงหวิวๆ น่าดูนะครับ อิอิ ขอบคุณครับ จากคุณ : One Light One Shadow เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 23:53:56

ความคิดเห็นที่ 12 มาดึก ๆ อีกละ ขออนุญาตเซฟนะคะ จากคุณ : Travellor เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 53 00:23:04

ความคิดเห็นที่ 13 แอบเข้ามา ดูเผื่อหลงรัก ด้วยอีกคน แฮะ ๆ ขอบคุณครับสำหรับการแบ่งปัน ฮิ๊ว ๆ จากคุณ : นายฟ้าใส เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 53 00:23:33

ความคิดเห็นที่ 14 ให้ กีบ และ เก็บเข้าคลังให้เรียบร้อยแล้วค่ะ ขอบคุณมากที่มารีวิว ดี ๆ ค่ะ จากคุณ : ซี-love เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 53 00:43:36

ความคิดเห็นที่ 15 เมื่อก่อนถ้าพูดถึงฮอกไกโดนึกถึงสีขาวของหิมะกับขาปู... จากคุณ : เจ้าแก้วพิสดาร ณ เมืองปาย เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 53 03:19:57

ความคิดเห็นที่ 16    >>>  be lonely .... ขออนุญาตเก็บข้อมูลครับ.... จากคุณ : LVP@HEART เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 53 08:05:42

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ  เป็นอีกที่ ที่วางแผนจะไปค่ะ  ขอเก็บข้อมูลไว้นะคะ จากคุณ : junejungja เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 53 09:17:22

ความคิดเห็นที่ 18 ชอบมากครับ ข้อมูลแบบนี้ ไม่ว่าจะซื้อหนังสือเล่นไหนก็ไม่มี จากคุณ : tan_www เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 53 10:00:31

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณมากค่ะ...สำหรับข้อมูล ถ้าพูดถึง Hokkaido ก็จะนึกถึงหิมะ และทุ่งลาเวนเดอร์ค่ะ... ซักวัน (ไม่รู้ตอนไหน) คงจะได้ไปเยือน... จากคุณ : ดอกโสนบานเช้า เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 53 10:41:05

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณครับสำหรับข้อมูลดี ๆ จากคุณ : Civict2003 เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 53 10:59:09

ความคิดเห็นที่ 21 เป็นกระทู้ที่มีประโยชน์มากๆๆๆ จากคุณ : realp** เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 53 13:18:37

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณมากค่ะ มีประโยชน์จริงๆ จากคุณ : พีนัตบัทเตอร์ เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 53 13:49:05

ความคิดเห็นที่ 23 อยากไปจัง ฮอกไกโด จากคุณ : ลอดช่องแตงไทย เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 53 14:37:59

ความคิดเห็นที่ 24 อยากไปเหมือนกันค่ะ  ดีเลยมีข้อมูลมาเพียบขนาดนี้ ขอบคุณนะคะ จากคุณ : Red-Rose-14Feb เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 53 16:36:22

ความคิดเห็นที่ 25 ฮอกไกโด เป็นทริปต่อไปที่อยากไปมากๆ ค่ะ   ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ เช่นนี้ รออ่านต่อนะคะ จากคุณ : พระจันทร์อันเป็นที่รัก เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 53 16:50:58

ความคิดเห็นที่ 26 มาให้กำลังใจ จขกท.ค่ะ จากคุณ : ฟูฟ่องล่องลอย เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 53 17:51:33

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีดีที่เอามาฝากกันนะครับ จากคุณ : tataweb เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 53 21:04:02

ความคิดเห็นที่ 28 กระทู้ดีมีประโยชน์มากๆเลยค่ะ ^^ ขอลิ้งตอนแรกด้วยได้ป่าวคะ ^^ จากคุณ : k i m m i e z เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 53 22:09:29

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณมากค่ะ กำลังเก็บรวบรวมข้อมูลสำหรับ trip ญี่ปุนคราวหน้าอยู่พอดี จากคุณ : Ashley เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 53 22:51:03

ความคิดเห็นที่ 31 ลิงค์ตอนแรกตามคำเรียกร้องครับ ^^ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E9281122/E9281122.html จากคุณ : be lonely เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 53 00:30:41

ความคิดเห็นที่ 32 แวะเก็บข้อมูลครับ   จากคุณ : NumAromDee เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 53 00:46:43

ความคิดเห็นที่ 33 มาตามดูเรื่องราวค่ะ  เผื่อจะได้ไป อิอิ จากคุณ : มิคกี้เม้ง เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 53 01:06:47

ความคิดเห็นที่ 34   จากคุณ : แม่ซากานะ เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 53 10:15:39

ความคิดเห็นที่ 35 อ่านสนุกได้ความรู้เยอะเลยค่ะ จากคุณ : ก่วยก๊วยตาลสด เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 53 20:14:16

ความคิดเห็นที่ 36 ข้มูลดึๆแบบนี้ bookmark ไว้เรียบร้อย  ขอบคุณที่ตั้งใจทำมาฝากกันมากๆค่ะ จากคุณ : ลอร่า อิงกัลส์ ~* เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 53 10:10:50

ความคิดเห็นที่ 37 ขอเกาะกระทู้ตามไปเรื่อยๆนะครับ ชอบ Hokkaido ซะจริงๆเลยผม จากคุณ : Leopaul เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 11:58:39

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ จากคุณ : pandababuni เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 53 18:39:04

ความคิดเห็นที่ 39   ขอบคุณมากๆๆ สำหรับข้อมูลและความรู้นะคะ :D เพิ่งได้ตั๋วมาเลย มาเจอกระทู้นี้ทันเวลาพอดี (ไปเดือนหน้าค่ะ) จะเฝ้ารอตอนต่อไปนะคะ ขอบคุณอีกทีค่ะ ^^ ปล. ตอนเเรกตัด Noboribetsu ออกไปเเล้ว เลือก Toya แทนเพราะเห็นว่าจัด G8 น่าจะมีอะไรดีๆ เห็นทีต้องคิดหนัก lol จากคุณ : Big Bear's Journee เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 53 02:05:26