ความคิดเห็นที่ 1 แหะ แหะ อายแทนเลย จากคุณ : เจ้าหญิงขนมหวาน เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 53 01:53:10

ความคิดเห็นที่ 2   ฮ่าๆ ฮาดีครับ เป็นผมไม่ซื้อนะ ไม่ไหวจิงๆ จากคุณ : dosantos เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 53 01:58:04 A:125.24.119.135 X: TicketID:257504

ความคิดเห็นที่ 3 555555555 จากคุณ : aonlin เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 53 02:26:44

ความคิดเห็นที่ 4 คิดถึงตม eatliqu เนอะ ป่านนี้คงเป็นใหญ่เป็นโตไปแล้ว ไม่แวะมาแปะทู้มั่งเลย จากคุณ : แม่ค้าลูกชิ้นนึ่ง เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 53 03:35:52

ความคิดเห็นที่ 5 อ่านไปก็หัวเราะไปค่ะตลกมากๆๆ ตัวเองก็มีเรื่องจะเล่าเหมือนกันค่ะ อยากเล่าให้คนอื่นฟังมานานแล้ว แต่ไม่รู้ว่าจะเล่าได้สนุกเหมือนเจ้าของกระทู้หรือเปล่า เมื่อหลายปีก่อนไปเมืองไทยแล้วขับรถไปใต้ ขากลับแวะซื้อของฝากพวกขนมหม้อแกง แล้วก็ซื้อกล้วยกวน กาละแม สัประรดกวน กลับมาแล้วก็เอากลับมาเมกาด้วย หลังจากนั้นเราก็ำไปแบ็คแพคที่อเมกาใต้กัน เราก็จะแพ็คขนมไป และพวกอาหารแห้ง เราเป็นคนกินยาก บางครั้งไปถึงประเทศอื่นดึกก็จะได้หาอะไรกินได้ ลูกก็จะได้กินด้วย เราเริ่มต้นกันที่ประเทศ Ecuador แล้วไป Colombia แต่เรากลับมาขึ้นเครื่ิองที่ Ecuador เพื่อจะไป เปรู ที่สนามบิน Ecuador เขาก็ถามว่าเราไปไหนมา แล้วจะไปไหน เขารู้ว่าเราไปประเทศยาเสพติดมา แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร เขาปล่อยเราไป ตอนรอขึ้นเครื่องไป Peru เราได้ยินเขาประกาศชื่ิอเรา เราก็ตกใจรีบวิ่งไป เขาก็บอกให้ตามเขามา และมีผู้โดยสารอีกห้าคนที่ำไปกะเรา เีราก็ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น เขาำพาเราไปไกลลงไปข้างล่าง มีเจ้าหน้าที่เป็นสิบ หมาตัวใหญ่อีกห้าตัว แล้้้วเรามองเห็นกระเป๋าเราอยู่บนโต๊ะเพื่อที่จะรอการค้น เราตกใจและกลัวมากเพราะคิดว่าคงมีคนยัดโคเคนใส่กระเป๋าเรา เราคิดว่าคราวนี้เราติดคุกหัวโตแน่คิดไปไกล เรามายืนอยู่หน้ากระเป๋าแล้ว เขาก็ขอค้นกระเป๋าเรา เราก็ตกลงให้เขาค้น สามคนก็มาลุมรื้อทุกอย่างจนมาุถึงถุง กาละแม กล้วยกวนของเรา พวกเขาหน้าตาตื่น รีับแกะออกมาดู เราก็แอบหัวเราะอยู่ในใจ ดูไม่พอ ดม แล้วก็ชิมด้วย แกะออกมาทุกอัน แล้วเขาก็ถามเราว่าอะไร เราก็บอกเขาำไป หลังจากนั้นเขาก็เอาของเก็บใส่กระเป๋าแล้วให้เรากลับไปได้ เราขำมากๆๆ อยากจะถามเขาเหมือนกันว่าอร่อยใหมจะได้แบ่งไว้ให้กิน แต่ไม่เอาดีกว่า พอออกมาำได้เราก็โล่งอกมากที่ไม่ใด้โดนใครยัดยาเสพติด หลังจากทริปนั้นเราก็ไม่กล้าเอาของแปลกๆๆไปกินเวลาเที่ยวอีก กลัวจะไม่โชคดีเหมือนครั้งนั้น ถ้าเขียนตกหล่นก็ขออภัยด้วยนะค่ะ จากคุณ : Dolce & Gabbana เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 53 08:02:10

ความคิดเห็นที่ 6 มันขึ้นซ้ำค่ะ แก้ไขเมื่อ 10 มิ.ย. 53 08:03:56 จากคุณ : Dolce & Gabbana เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 53 08:02:27

ความคิดเห็นที่ 7 555555.......มาอเมริกาเมื่อไรบอกป้าด้วยนะคะ   จะได้ฝากซื้อมั่ง...    เอาแค่ห้าชุดก็พอ..... จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 53 08:06:32

ความคิดเห็นที่ 8 5..5..5.. ขำจริงๆด้วย แหม...เพื่อเพื่อน น้อยกว่านี้ (15ชุด) ได้ไง...เน๊อะ..อิอิ.อิ.. จากคุณ : พะยูนอ้วน เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 53 08:14:24

ความคิดเห็นที่ 9 จขกท.มีน้ำใจมากๆ ค่ะ ^^ ... ของเรา...ตอนไปมาเก๊าเมื่อปีที่แล้วค่ะ ได้เข้าไปดูการทำงานของศุลกากรใกล้ชิดเชียว เอิ๊ก เราพาพี่ๆ น้องๆ ที่ทำงานไปเที่ยวน่ะค่ะ ไปกัน 8 คน น้องคนนึงเอาแม่วัยเกษียณไปด้วย พี่อีกคนเอาลูกอายุสองขวบไปด้วย ทั้งหมดไม่มีใครพูดภาษาอังกฤษได้เลยนอกจากเรา ตอนผ่านตม.มาเก๊า เราก็เดินนำหน้าออกมาก่อน ไปๆ มาๆ พบว่า ออกมากันไม่ครบ มีพี่ผู้หญิงคนหนึ่งหายไป เราก็ตกใจมากค่ะ เพราะไม่รู้ว่าพี่เขาหายไปไหน ติดต่อเจ้าหน้าที่ข้างนอกก็บอกว่าข้างในไม่มีคนแล้ว ขอเข้าไปก็ไม่ได้ เพราะบอกว่าเราออกมาแล้ว ก็กระวนกระวายอยู่พักใหญ่ๆ เลยค่ะ ลูกของพี่คนหนึ่งอายุสองขวบก็เริ่มหิว คุณแม่ของน้องอีกคนก็วัยเกษียณ...เหนื่อย ในที่สุดเจ้าหน้าที่ตม.มาเก๊าก็เดินออกมาหาเรา แล้วบอกให้เราเข้าไปข้างในได้ ((เพราะดูๆ แล้วคงพูดกันไม่รู้เรื่องแน่ๆ 555 เลยเรียกเราที่พูดอังกฤษได้เข้าไป)) ปรากฎว่า พี่ผู้หญิงคนนั้นโดนกักตัวอยู่ในห้องเล็กๆ เพราะกระเป๋าที่ลากมา เป็นของคุณแม่วัยเกษียณของน้องอีกคน พี่คนนี้เขาช่วยลาก มันมีก้อนอะไรบางอย่างอยู่ข้างใน ข้างในมีนักวิทยาศาสตร์ เจ้าหน้าที่แล็ป น้องหมาอัลเซเชียนตัวโตๆ เดินกันขวักไขว่มากๆ แลดูเหมือนพี่เขาขนอาวุธร้ายเข้าไปเลย กร๊าก ปรากฎว่าของต้องสงสัยเป็นก้อนสารส้มขนาดประมาณกำมือน่ะค่ะ คุณแม่วัยเกษียณเป็นคนตจว. ติดที่จะเอาสารส้มไปด้วยเวลาเดินทาง เจ้าหน้าที่มาเก๊าก็ถามเราว่า มันก้อนอะไร หมาดมแล้วก็ไม่มีกลิ่น เอาไปทดสอบสารเคมีแล้วก็ไม่มีปฏิกิริยา เราก็ดันนึกชื่อภาษาอังกฤษของสารส้มไม่ออก อธิบายไปว่า มันเอาไปใช้แกว่งในน้ำเพื่อให้ตกตะกอน น้ำจะได้สะอาด เอาไปใช้ได้ เจ้าหน้าที่ก็ทำหน้าเหวอแล้วบอกว่า "น้ำที่มาเก๊าสะอาดนะ" ก็ติดอยู่ในนั้น รออยู่เกือบชั่วโมงได้มั้งคะ เราก็นั่งคุยกับเจ้าหน้าที่ที่มาเฝ้า นั่งดูคนหยิบกระเป๋าจากจอโทรทัศน์วงจรปิด เฮฮามากมาย จนกระทั่งเขาบอกว่าไปได้ แต่ขอสารส้มเอาไว้ เราก็ให้ไปอะค่ะ พอออกมาแล้วค่อยนึกออกว่า ภาษาอังกฤษของสารส้มคือ alum ^^" จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 53 08:30:05

ความคิดเห็นที่ 10   น่าจะบอกไปว่า  เอาไว้ดับกลิ่นเต่า จากคุณ : Minowa เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 53 09:09:12

ความคิดเห็นที่ 11 สุดยอดจริงๆ ครับ สำหรับวีรกรรมผ่าน ตม.ต่างประเทศ ของแต่ละท่าน หากเป็นผม คงอยู่ในสถานะลำบากกว่านี้แน่ๆ ภาษาอังกฤษที่ใช้ได้ก็แค่งูๆ ปลาๆ เต็มใจแจก give ให้กับทุกท่านครับ จากคุณ : owl2 เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 53 09:25:43

ความคิดเห็นที่ 12 ขำอะ จากคุณ : nu_aorr เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 53 09:50:46

ความคิดเห็นที่ 13 เจอหน้ากันอีกวันนึง เฮ๊ย วันนี้มรึงใส่ตัวไหนว่ะ บอกมาเหอะ... กรูจำได้ทุกตัว จากคุณ : SuperTee (itCrazy) เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 53 10:03:59

ความคิดเห็นที่ 14 อ่านแล้วนั่งหัวเราะคคนเดียว คุณกล้ามากครับ กล้าตั้งแต่ เดอะมอล์ลปางกะปิเลย จากคุณ : Zurg เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 53 10:09:56

ความคิดเห็นที่ 15 แค่ไปซื้อให้เพื่อนก็สุดยอดแล้ว ตั้ง 15 ชุดเลยค่ะ จากคุณ : kizz_j เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 53 10:39:38

ความคิดเห็นที่ 16 คือตม.เค้าคงอยากแน่ใจว่าคุณใช้เองหรือเปล่า 55555 แต่ที่ Australia ชุดชั้นในมันแพงจริงๆ อีกอย่างสำหรับสาวไทยบางคนหาขนาดยากด้วย จากคุณ : Stila is Style เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 53 10:48:24

ความคิดเห็นที่ 17   ความคิดเห็นที่ 9 ผมกำลังจะไปมาเก๊าซ่ะด้วยซิ่ จากคุณ : tottui เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 53 11:40:51

ความคิดเห็นที่ 18 มาเล่านิดนึงครับ แต่เป็นเรื่องของเพื่อนผมนะครับ (แอบเอามาเผา) เพื่อนผมต้องเดินทางไปดูงานที่ญี่ปุ่นครับ ช่วงที่ไข้อะไรซักอย่างมันระบาดทั่วโลก แล้วก็อย่างที่รู้ๆ กันดีว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เข้มงวดเรื่องแบบนี้มาก ทีนี้พอเพื่อนผมถึงนาริตะ ก็เดินไปถึงตม. แต่ก่อนจะได้ตรวจเท่านั้นแหละครับ เจ้าหน้าที่แห่มา 3-4 คนมาลากเข้าอีกห้องไป เพือนผมก็ตกใจดิว่าเห้ย นี่มันอะไรวะ ทำไมตรูโดนลากเข้าห้องอยู่คนเดียว เจ้าหน้าที่แกก็ชี้ให้ดูวิดีโอเทปที่ถ่ายจากกล้องรักษาความปลอดภัยตรงทางเดินน่ะครับ เหมือนเป็นภาพถ่ายแบบเอ็กซ์เรย์หรืออะไรซักอย่างเนี่ยแหละ ปรากฎว่าหน้าผากเพื่อนผมเป็นสีแดงจัดๆ เค้าเลยตกใจ ไปลากมาสอบสวนก่อนจะปล่อยให้เข้าประเทศ ก็นั่งถามกันอยู่ตั้งนานว่าเป็นหวัดรึเปล่า ก่อนมาไปกินอาหารที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงรึเปล่า และอีกมากมาย ก็ไม่ได้สาเหตุซะทีว่าทำไมในกล้องหน้าถึงแดงขนาดนั้น แล้วจู่ๆ เจ้าหน้าที่คนนึงก็ถามว่า "คุณทำอะไรบนเครื่องบินรึเปล่า" "กินอาหารแล้วรู้สึกเหมือนท้องเสีย เลยไปขี้" เพื่อนผมตอบ เท่านั้นแหละครับ ทุกคนก็ดีใจเหมือนว่า เออ กรูหาสาเหตุเจอแล้ว แล้วก็ปล่อยเพื่อนผมไป... สรุปว่าผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าที่กล้องจับได้ว่าหน้าแดงนี่ เพราะท้องเสีย หรือเพราะขี้บนเครื่องบินกันแน่น่ะครับ หุหุ จากคุณ : be lonely เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 53 12:00:12

ความคิดเห็นที่ 19 เอาเรื่องน้องสาวมาเผาด้วยคน เราไปเที่ยวฮ่องกง 9 คน ประกอบด้วยครอบครัวเรา(พ่อ+แม่+ลูกชาย2คน) พ่อแม่แฟนเรา น้องสาว 2 คนกับเพื่อนน้อง 1 คน ตอนผ่านต.ม.ที่สนามบินฮ่องกงก็แยกกันเข้า2ช่อง เราและครอบครัวเข้าช่องหนึ่ง เราให้น้องๆดูแลพ่อแม่แฟนเราซึ่งเข้าอีกช่องหนึ่ง พอผ่านออกมาจากต.ม.น้องสาวเล่าให้ฟังว่าเค้าถามว่าเป็นอะไรกันกับคุณย่า น้องตอบไม่ถูก เค้าก็เลยถามว่า Your friend? น้องตอบว่า Yes. คุณย่าก็ได้เพื่อนใหม่อายุคราวลูกไปเที่ยวด้วย จากคุณ : oarsa เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 53 12:06:40

ความคิดเห็นที่ 20 นึกออกละ เรื่องภาษาอังกฤษไม่แข็งนี่ล่ะ ตอนจะตรวจคนเข้าเมือง ก็เดินไปออที่เคาน์เตอร์พร้อมเพื่อน ตม.ก็ถามว่า Are you two together? อิฉันก็คิดมาก นึกว่าเขาถามว่าเป็นเผียมัวกันหรือเปล่า ก็ละล่ำละลักตอบว่า บ่แมน ตม.มองหัวจรดเท้า 1 รอบแล้วชี้ไปที่เส้นว่า Please step back. เลยอายมาก มันต้องว่าเราในใจแน่เลยว่าไม่รู้จักต่อคิว พออิฉันได้รับอนุญาตให้เหยียบแดนแล้ว ก็เดินเลยเคาน์เตอร์มาหน่อยนึง ก็ก้มลงงกๆเงิ่นๆรูดซิบกระเป๋าเก็บพาสปอร์ตอยู่ เห็นคนที่ต่อหลังอิฉันมาที่เคาน์เตอร์ เป็นผู้ชาย แล้วที่แถวต่อก็มีเด็กกับผู้หญิงชรายืนอยู่ด้วย ตม.ก็ถามว่า Are they with you? แกก็ตอบว่า แมนแล่ว ตม.ก็กวักมือเรียกให้มาออรวมกัน อ้าว เฮ่ย รู้งี้ต่อรวมกับเพื่อนดีฝ่า จะได้ไม่เสียเวลาซักทีละคน ยังนึกอนาถตัวเองอยู่เลยว่า ก้าวแรกภาษาอังกฤษตูก็ไม่เวิร์คซะแล้ว วันเวลาที่เหลือตูจะรอดไหมเนี่ย จากคุณ : แม่ค้าลูกชิ้นนึ่ง เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 53 12:23:57

ความคิดเห็นที่ 21 มีเพื่อนแบบ จขกท เนี่ย ต้องสงวนไว้อย่างดีเลย คราวหน้าซื้อให้ใหม่นะ ซะ20 ชุดพอ จากคุณ : mumu_i เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 53 12:30:35

ความคิดเห็นที่ 22 เห็นคนอื่นเล่าเรื่อง ตม.ต่างประเทศกันมาเยอะแล้ว เราเอาประสบการณ์ ตม.ประเทศไทยมาเล่าสู่กันฟังดีกว่า เป็นเรื่องของเพื่อนเราที่เป็นคนญี่ปุ่นค่ะ เค้าหน้าตาโหดๆ ออกแนวยากูซ่า แล้วเดินทางมาเที่ยวไทยบ่อยมากๆ แทบทุกเดือนเลยก็ว่าได้ และทุกครั้งเค้าจะโดน พี่ตม.ไทยสกัดขอตรวจตลอด ทำให้เค้ารู้สึกเสียความมั่นใจและอายมากๆว่าทำไมมีเค้าคนเดียวที่โดน จนครั้งนึงเค้าตัดสินใจทดลองโดยการใส่สูท ผูกไทด์เข้าประเทศค่ะ ปรากฏว่าไม่มีตม.คนไหนมาสกัดเหมือนครั้งก่อน ทำให้เค้าได้ข้อสรุปว่า ถ้าจะมาไทยและไม่อยากมีปัญหากับตม. ต้องใส่สูท -*- จากคุณ : chocoholic girl เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 53 13:23:21

ความคิดเห็นที่ 23 กล้ามากๆ ผมแค่เดินผ่านแผนกนี้ยังต้องรีบเดินเลย    ขนไปเต็มกระเป๋า เยี่ยมมากๆ จากคุณ : ผู้ใหญ่หาผ้าใหม่ เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 53 13:26:41

ความคิดเห็นที่ 24 เอ๊...จะว่าเราโชคดีมั๊ยหว่า ไม่เคยโดนต.ม.เรียกเลย เคยโดนแต่ ศุลากรเรียกอ่ะค่ะ กระเป๋าหนักเกินไป ขน คสอ. มาเพียบเลย แต่มาใช้เองนะคะ ไม่ได้ขายอ่ะ จากคุณ : nongmi เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 53 16:57:20

ความคิดเห็นที่ 25 นึกภาพออกเลยว่าตรวจยังไง เพราะดูจากรายการเรียลลิตี้ ตม.ออสฯ ช่องทีวีไทยทุกอากาศ แบบว่าของมันจะออกมากองตรงหน้า แล้วผู้โดยสารคนอื่นก็จะเห็นด้วยน่ะ จากคุณ : Hermy เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 53 17:33:20

ความคิดเห็นที่ 26 ขอร่วมด้วยคะ สิบกว่าปีก่อน เดินทางไปเที่ยวฮ่องกงกับกลุ่มเพื่อน เพื่อนคนหนึ่งพึ่งไปทำพาสปอร์ต  โชว์ให้เพื่อนๆดู รูปในพาสปอร์ตหน้าตาโทรมมาก  บอกว่าเข้าคิวอยู่ชั่วโมงกว่าร้อนมากด้วย วันเดินทางคุณเธอแต่งหน้ามาอย่างสวย  ถ้าเทียบดูกับรูปในพาสปอร์ตนึกว่าเป็นคนละคน พอไปถึงตม ฮ่องกง  โดนซักอยู่เกือบสิบนาที  นึกว่าจะโดนส่งกลับซะแล้ว  โชคดีพูดภาษาอังกฤษได้พอสมควร  เลยหลุดออกมาได้ เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าถ้ารูปในพาสปอร์ตหน้าตาโทรม  ตอนเดินทางต้องโทรมเหมือนกัน  อย่าสวยเกินหน้าเกินตา  จะลำบากได้คะ จากคุณ : สาธุซอย58 (สาธุซอย58) เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 53 18:14:11

ความคิดเห็นที่ 27 รุ่นพี่เคยฝากซื้อ playboy ฉบับพิเศษ ที่อเมริกา ตอนเข้าไปซื้อก็เขินๆ แถมเพื่อนๆตัวดีก็ไม่มีใครยอมเข้าไปเป็นเพื่อน เห็นว่าไหนๆก็ไหนๆ เลยซื้อมาฝากคุณแฟนด้วยอีกหนึ่งเล่ม ตอนผ่านตม เขาเปิดกระเป๋าเห็นหนังสือ playboy ก็ยิ้มๆ เลยบอกว่า for my boyfriend เจ้าหน้าที่ยิ้มกันใหญ่บอก he's lucky แล้วเก็บหนังสือ ปิดกระเป๋าให้อย่างดี เราเขินมาก ประกาศไปแล้วไม่รับซื้ออีกแล้ว อยากได้ให้ไปฝากคนอื่นเอาเอง จากคุณ : Ashley เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 53 18:14:17

ความคิดเห็นที่ 28 มีครับ ย้อนไปเมื่อ 5ปีก่อน ไป สิงค์โปร์ครั้งแรก ตม เจอหน้าผม พูดภาษาปากิด เป็นฝืน เป็นไฟ แล้วทำท่าทางหัวเราะ ไอ้เราก็พยักหน้า ยิ้ม ในใจก็นึก มรึงจะหยุดพูดได้หรือยังนี้ เขาก็ยังพูดไม่หยุด ไอ้เราก็รักษา มารายาท พยักหน้ายิ้มอีก ประมาณ 10นาทีได้ สรุปตอนท้าย ผมพูดว่า " ซอรี่ ไอ ดู น้อท อันเดอสะแตน " เท่านั้นแหละ แกหยุดยิ้ม ลงทันที่ แล้ว รีบปั้มๆๆ ไปแบบอารมเสีย เขาคงนึกมังว่า อุส่าห์คุยมาตั้งนาน ฟังไม่ออก 55555 จากคุณ : SG007 เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 53 02:15:31

ความคิดเห็นที่ 29   โชคดีที่ยังไม่มี  อย่า่งมากก็แค่โดนตรวจกระเป๋า จากคุณ : WittyNakhon เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 20:26:20