ความคิดเห็นที่ 1 ผมอ่านแล้วไม่เข้าใจ ใครรู้ช่วยขยายความหน่อย จากคุณ : Mukzaki เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 12:10:00

ความคิดเห็นที่ 2 พอดีnet หลุด ครับ ยังไงก็ดูกันให้ตาแฉะไปเลย 1 เขาใหญ่,เขาแผงม้า,ทับลาน,วิลเลจ ฟาร์ม ,วังน้ำเขียว  ver Thai แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 53 14:02:16 จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 12:37:39

ความคิดเห็นที่ 3 เขาใหญ่,เขาแผงม้า,ทับลาน ver 2 จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 12:38:24

ความคิดเห็นที่ 4 ที่พักบนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 12:38:49

ความคิดเห็นที่ 5 น้ำตกต่างๆบนเขาใหญ่ จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 12:39:16

ความคิดเห็นที่ 6 แหล่งน้ำตกใน อช.เขาใหญ่ จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 12:39:44

ความคิดเห็นที่ 7 แหล่งท่องเที่ยว อ.วังน้ำเขียว จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 12:40:08

ความคิดเห็นที่ 8 ระยะทางจากแยกกบินทร์บุรี-อ.วังน้ำเขียว และ นครราชสีมา-อ.วังน้ำเขียว จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 12:40:27

ความคิดเห็นที่ 9 ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ www.tistr.or.th/sakaerat หรือแหล่งสงวนชีวมณฑลสะแกราช ได้ก่อตั้งมาตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2510 โดยมีภารกิจการวิจัยทางด้านสิ่งแวดล้อมและนิเวศวิทยา จนถึงขณะนี้มีผลงานวิจัยในพื้นที่แห่งนี้มากกว่า 200 เรื่องขณะเดียวกัน ในปี พ.ศ. 2519 สถานีฯ สะแกราชได้รับการรับรองจาก UNESCO ภายใต้โครงการ MAB (Man and Biosphere Program) ให้เป็นแหล่งสงวนชีวมณฑลแห่งหนึ่งของโลกซึ่งเป็นแห่งแรก ของประเทศไทย และเป็น 1 ใน 7 แห่งของเอเซียในขณะนั้น ขณะนี้แหล่งสงวนชีวมณฑลมีจำนวน  529  แห่ง ใน  105  ประเทศ  (ข้อมูล 23 พฤศจิกายน  ปี  2550) 1.) เป็นสถานที่เพื่อการวิจัย ทางด้านสิ่งแวดล้อมและนิเวศวิทยาป่าเขต ร้อน (ป่าดิบแล้งและป่าเต็งรัง) จนถึงขณะนี้การวิจัยในพื้นที่แห่งนี้มีจำนวนไม่ น้อยกว่า 200 เรื่อง ซึ่งความรู้ดังกล่าว ได้สร้างสรรค์ภูมิปัญญาแก่นักวิชาการและยังได้นำไปช่วย เหลือในการ พัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคมของประชาชนอีกด้วย     2.) เป็นห้องปฏิบัติการธรรมชาติ สำหรับนักเรียน นักศึกษาที่ใช้พื้นที่ป่าไม้ ในเขตสถานีฯ เป็นสถานที่เพื่อการศึกษาและวิจัยทางด้านธรรมชาติของป่าไม้ นอกจากนั้น บริเวณโดยรอบของพื้นที่ป่าไม้ ของสถานีฯ ยังมีหมู่บ้านจำนวน 9 หมู่บ้าน ที่อยู่กับป่าไม้ ได้อย่างสมดุล ซึ่งเป็นสถานที่เพื่อการวิจัยทางด้านสังคมเศรษฐกิจกับป่าไม้ได้อีกด้านหนึ่ง ซึ่งปีหนึ่งมีจำนวนมาก         3.) เป็นแหล่งสงวนชีวมณฑล (UNESCO Biosphere Reserves) แห่งหนึ่งของ โลกที่ทำหน้าที่ดำเนินการอนุรักษ์พัฒนา และการสนับสนุนการศึกษาวิจัย ที่เชื่อมโยงกับเครือข่าย นานาชาติทั่วโลก      4.) เป็นสถานที่ศึกษาธรรมชาติและพักผ่อนหย่อนใจ ทางด้านธรรมชาติ ของป่าดิบแล้งและป่าเต็งรัง พรรณพืชและพันธุ์สัตว์นานาชนิด      5.) เป็นศูนย์การประชุมและสัมมนา เนื่องจากมีความพร้อมทั้งที่พัก สถานที่ประชุมและสิ่งอำนวย ความสะดวกต่างๆ -สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช-- 1 หมู่ 9 ต.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา 30370 ประเทศไทย โทรศัพท์ 0 4425 8642, 0 4424 2533, 0 4424 4474 โทรสาร 0 4424 2534 ผอ.สถานีวิจัยฯ(คุณทักษิณ) 089-8134101 E-mail: sakaerat@tistr.or.th, Website www.tistr.or.th/sakaerat จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 12:41:38

ความคิดเห็นที่ 10 กาญจนบุรี  เขื่อนเขาแหลม, ทองผาภูมิ, สังชละบุรี, ศรีสวัสดิ์, ไทรโยค จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 12:42:11

ความคิดเห็นที่ 11 จ.กาญจนบุรี จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 12:45:05

ความคิดเห็นที่ 12 จ.กาญจนบุรี จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 12:48:08

ความคิดเห็นที่ 13 ทุ่งใหญ่ฯ-ห้วยดงวี่-เสน่ผ่อง จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 12:48:28

ความคิดเห็นที่ 14 ราชบุรี, เขากระโจม จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 12:49:56

ความคิดเห็นที่ 15 แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 53 12:51:14 จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 12:50:42

ความคิดเห็นที่ 16 นครนายก,คลองมะเดื่อ,น้ำตกสาริกา จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 12:52:01

ความคิดเห็นที่ 17 ไปดูนกอ้ายงั้วที่สระแก้ว จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 12:52:29

ความคิดเห็นที่ 18 เมืองลพบุรี จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 12:53:00

ความคิดเห็นที่ 19 สระบุรี เจ็ดคต-โป่งก้อนเส้า จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 12:53:32

ความคิดเห็นที่ 20 มวกเหล็กเอทีวี... จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 12:54:05

ความคิดเห็นที่ 21 สระบุรี,มวกเหล็กAdventure จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 12:54:20

ความคิดเห็นที่ 22 สุพรรณ,พุเตย,เขื่อนกระเสียว จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 12:54:45

ความคิดเห็นที่ 23 สุพรรณ,แม่ขมิ้น จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 12:55:47

ความคิดเห็นที่ 24 อุทัยธานี จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 12:56:51

ความคิดเห็นที่ 25 เพชรบูรณ์,เขาค้อ จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 12:57:28

ความคิดเห็นที่ 26 แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 53 13:25:03 จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 12:58:09

ความคิดเห็นที่ 27 เชียงใหม่,หน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน อ.เชียงดาว หน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน Review http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7390313/E7390313.html หน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลแม่นะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ที่พิกัด UTM 0482100 E 2136250 N อยู่บนแผนที่ภูมิประเทศ มาตราส่วน 1 : 50,000  ระวาง 4747 I (ชื่อระวาง อำเภอเชียงดาว) สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 1,525 เมตร มีพื้นที่รับผิดชอบประมาณ 324.25 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 202,656.25 ไร่ ครอบคลุมเขตการปกครองของตำบลแม่นะ อำเภอเชียงดาว ตำบลอินทขิลและตำบลกื้ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ครอบคลุมพื้นที่ลุ่มน้ำสาขา 2 ลุ่มน้ำ คือ ลุ่มน้ำสาขาแม่แตง เนื้อที่ 223.51 ตารางกิโลเมตร และลุ่มน้ำสาขาปิงส่วนที่ 1 เนื้อที่ 100.74 ตารางกิโลเมตร (ลุ่มน้ำย่อยของลุ่มน้ำสาขาแม่แตงจำนวน 2 ลุ่มน้ำย่อย ได้แก่ ลุ่มน้ำย่อยแม่ตะมาน เนื้อที่ 111.88 ตารางกิโลเมตร ลุ่มน้ำย่อยแม่กอก เนื้อที่ 111.63 ตารางกิโลเมตร และลุ่มน้ำย่อยของลุ่มน้ำสาขาปิงส่วนที่ 1 จำนวน  1 ลุ่มน้ำ ได้แก่ลุ่มน้ำย่อยแม่แมะ เนื้อที่  100.74 ตารางกิโลเมตร) สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูงชันสลับซับซ้อน มียอดเขาสูงหลายแห่ง เช่น ดอยผาแดง ดอยกิ่วคอหมา ดอยแม่กอก ดอยป่าเกี๊ยะ ดอยกิ่วลม มีที่ราบแคบ ๆ บริเวณหุบเขาและข้างลำห้วย หน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน ได้กำหนดหน่วยย่อยเพื่อเป็นที่ทำการสำหรับการดำเนินกิจกรรมในภาคสนาม ที่มีความห่างไกลจากที่ทำการหลัก และเนื่องจากที่ทำการหน่วยย่อยดังกล่าวมีที่ตั้งอยู่ใกล้ขอบเขตหน่วย จึงสามารถเป็นพื้นที่กันชนได้อีกด้วย ซึ่งหน่วยย่อยทั้งสามแห่งมีที่ตั้ง ดังนี้ 1)  หน่วยย่อย ที่ 1 (ดอยดินแดง) ตั้งอยู่ในเขตของบ้านแม่แมะ ตำบลแม่นะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่  พิกัดที่ตั้ง 0491450 E 2136650 N โดยมีกิจกรรมหลัก คือ งานป้องกันไฟป่า และทำแนวกันไฟ งานบำรุงป่าและงานเพาะชำกล้าไม้ 2) หน่วยย่อยที่ 2 (นพค.) ตั้งอยู่ในเขตที่หน่วยพัฒนาการทหารเคลื่อนที่ที่ 32 กองบัญชาการทหารสูงสุด ขอใช้ประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ท้องที่ตำบลเชียงดาว อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่  พิกัดที่ตั้ง 0497850E 2146100 N โดยมีกิจกรรมหลัก คือ งานบำรุงป่าและงาน  เพาะ ชำกล้าไม้ 3) หน่วยย่อยที่ 3 (ม่อนฟ้าผ่า) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของพื้นที่ท้องที่ตำบลกื้ดช้าง  อำเภอ แม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ พิกัดที่ตั้ง 0486500E 2127650 N โดยมีกิจกรรมหลัก คือ งานป้องกันไฟป่าและทำแนวกันไฟ งานบำรุงป่า เส้น ทางคมนาคม                   การเดินทางไป ยังหน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน สามารถเดินทางได้โดยใช้เส้นทาง 3 เส้นทาง คือ                   3.1  จาก จังหวัดเชียงใหม่ ไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 107 (เชียงใหม่ – ฝาง) แยกซ้าย ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 67-68 ก่อนถึงอำเภอเชียงดาวประมาณ 4 กิโลเมตร ไปตามถนนที่มีสภาพเป็นทางลำลองสลับกับคอนกรีตบ้างเล็ก น้อย ผ่านหมู่บ้านจอมคีรี,หมู่บ้านปางฮ่าง ตำบลแม่นะ อำเภอเชียงดาว ถึงที่ทำการหน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน ระยะทางประมาณ 21 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางเฉลี่ยประมาณ 3 ชั่วโมง                   3.2  จาก จังหวัดเชียงใหม่ ไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 107 (เชียงใหม่-ฝาง) แยกซ้ายระหว่าง หลักกิโลเมตรที่ 60-61 บ้านแก่งปันเต๊า ตำบลแม่นะ อำเภอเชียงดาว เลี้ยวซ้ายไปตามเส้นทางไปสวนชาของ บริษัท ชาสยาม จำกัด(ชาระมิงค์) ถึงที่ทำการหน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน ระยะทางประมาณ 29 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเส้นทางที่ทุรกันดารกว่าเส้นทางแรก โดยใช้เวลาเดินทางเฉลี่ยประมาณ 5 ชั่วโมง                   3.3  จากจังหวัดเชียงใหม่ ไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 107 (เชียงใหม่-ฝาง) แยกซ้ายระหว่างหลักกิโลเมตร ที่ 66-67 บ้านห้วยโจ้ ตำบลแม่นะ อำเภอเชียงดาว แยกซ้ายผ่านบ้านแม่แมะ บ้านปางใหม่ ตำบลแม่นะ อำเภอเชียงดาว ซึ่งการเดินทางในเส้นทางนี้รวมระยะทางประมาณ 21 กิโลเมตร แต่เนื่องจากซึ่งเป็นเส้นทางที่แคบและสูงชัน จึงไม่ควรใช้เส้นทางนี้หากไม่มีความจำเป็น โดยใช้เวลาเดินทางเฉลี่ยประมาณ 3 ชั่วโมง จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 12:59:09

ความคิดเห็นที่ 28 บ้านห้วยตอง-สถานีวิจัยฯแม่จอนหลวง สถานีทดลองเกษตรที่สูงแม่จอนหลวง ความเป็นมา               สถานีทดลองเกษตรที่สูงแม่จอนหลวง เป็นสถานีเครือข่ายภายใต้การดำเนินงานของศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2523 โดยได้รับความร่วมมือจากคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติให้ใช้พื้นที่ในเขตอุทยาน แห่งชาติดอยอินทนนท์ บริเวณดอยแม่จอนหลวงกว่า 1,250 ไร่ เป็นที่ตั้งของที่ทำการ สภาพพื้นที่เป็นที่ลาดชันอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,100 - 1,400 เมตร ซึ่งเดิมเป็นพื้นที่ปลูกฝิ่นของชาวไทยภูเขา มีสภาพภูมิอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี โดยอุณหภูมิต่ำสุดอยู่ในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนธันวาคม ราว 8 - 10 องศาเซลเซียส และสูงสุดในเดือนเมษายน ราว 31 - 34 องศาเซลเซียส ที่นี่ ได้ทำการค้นคว้าวิจัยพันธุ์พืชและเทคโนโลยีทางการเกษตรที่เหมาะสมกับสภาพ พื้นที่สูง ที่มีสภาพอากาศหนาวเย็น โดยเริ่มแรกได้ทดลองปลูกข้าวไร่ ข้าวบาเล่ย์ ชา และคัดพันธุ์ไม้ผลและไม้ดอกเมืองหนาวชนิดต่าง ๆ เช่น สะแตติส เยอบีร่า เบญจมาศ ลิลลี่ ท้อ พลับ สาลี่ มาปลูกในสถานี ต่อมา ได้ขยายขอบข่ายงานวิจัยเพิ่มขึ้น เน้นศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการปรับปรุงพันธุ์พืช การผลิต การขยายพันธุ์ เช่น การวิจัยพันธุ์มะคาเดเมียนัท เกาลัดจีน บ๊วย พลัม สตรอเบอรี่ แพสชั่นฟรุท เนคตารีน กาแฟอราบิก้า มันฝรั่ง นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาเทคโนโลยีการผลิตและแปรรูปชา โดยศึกษาเปรียบเทียบพันธุ์และกรรมวิธีการผลิตระหว่างชาจีนและชาญี่ปุ่น งาน ทั้งหมดทำขึ้นเพื่อส่งเสริมและถ่ายทอดเทคโนโลยีการปลูกพืชให้แก่เกษตรกรชาว ไทยบนที่สูง ข้าราชการ และนักศึกษา โดยจัดให้มีกิจกรรมการฝึกอบรมการสาธิตและให้ความรู้แก่เกษตรกร ผู้สนใจทั่วไปและหน่วยงานอื่น ๆ อยู่ในโครงการด้วย การเดินทาง สถานีเกษตรที่สูงแม่จอนหลวงตั้งอยู่ในเขตบ้านม้งขุนแม่วาก หมู่ที่ 6 ต. แม่นาจร อ. แม่แจ่ม จ. เชียงใหม่ การเดินทางไปสถานีเกษตรที่สูงแม่จอนหลวงนั้น ไม่มีรถประจำทางผ่านในเส้นทางนี้ นักท่องเที่ยวจำเป็นต้องใช้พาหนะส่วนตัวซึ่งควรเป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อ หรือไม่ก็เหมารถสองแถวจากปากทางขึ้นดอยอินทนนท์ รถยนต์ส่วนตัว สามารถเลือกใช้เส้นทางได้ 2 เส้นทาง เส้นทางแรก ออกจากตัวเมืองจังหวัดเชียงใหม่ไปบนเส้นทางสายเชียงใหม่-ฮอด ผ่านอำเภอจอมทองเลี้ยวขวาขึ้นดอยอินทนนท์ เมื่อถึง กม.ที่ 31 เลี้ยวขวาผ่านศูนย์พัฒนาโครงการหลวงดอยอินทนนท์ ผ่านทางลาดยางประมาณ 16 กิโลเมตร จะถึงศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง) ให้เลี้ยวซ้ายผ่านศูนย์ขุนวาง ไปอีกประมาณ 6 กิโลเมตรผ่านทางดินลูกรังจึงถึงสถานีเกษตรที่สูงแม่จอนหลวง รวมระยะทางประมาณ 120 กิโลเมตร ใช้เวลาราว 2 ถึง 3 ชั่วโมง เส้นทางที่ สอง จากจังหวัดเชียงใหม่ ผ่านอำเภอสันป่าตอง แยกขวาที่สันป่าตองเข้าสู่ทางหมายเลข 1013 ไปอำเภอแม่วาง เมื่อผ่านอำเภอแม่วางไปจะมีทางแยกซ้ายมือ ให้เลี้ยวซ้าย จากนั้นเส้นทางจะลัดเลาะขึ้นภูเขา ผ่านบ้านหนองเต่า บ้านป่ากล้วย บ้านโป่งลมแรง แล้วเลี้ยวขวาไปอีก 9 กิโลเมตร จึงถึงจุดท่องเที่ยวภายในสถานีฯ สถานีทดลองเกษตรที่สูงแม่จอนหลวง (เส้นทางระหว่างบ้านหนองเต่าจนถึงสถานียังเป็นทางเดินลูกรังราว 15 กิโลเมตร) ระยะทางรวม 92 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ถึง 2 ชั่วโมงครึ่ง การเที่ยวชมงานภายในสถานีบริเวณใกล้ ๆ ที่พักซึ่งเป็นพื้นที่ลาดชันที่ถูกปรับแต่งให้เป็นทางเดินนั้น นักท่องเที่ยวสามารถเดินเท้าเที่ยวชมได้ ส่วนจุดที่ไกลออกไปจำเป็นต้องใช้รถในการเดินทางไปเที่ยวชม จุดที่ 1    ศูนย์บริการข้อมูล เริ่มต้นด้วยการเข้าชมนิทรรศการและวีดีทัศน์เพื่อรับทราบข้อมูล เกี่ยวกับสถานีฯ โดยสังเขปที่ศูนย์ข้อมูลบริเวณลานเพลิน โดยมีการจัดแสดงภาพรวมเกี่ยวกับงานวิจัยที่สำคัญ ๆ ที่ลานกว้างหน้าที่ทำการสถานีฯ นี้ถูกตกแต่งด้วยไม้ดอกไม้ประดับนานาชนิดใช้ประกอบกิจกรรมได้หลายรูปแบบ อาทิ ก่อกองไฟ ตั้งเต๊นท์ ที่บริเวณลานเพลินนี้ได้ปลูกต้นหยางเหมย (พลัมชนิดหนึ่งผลสีแดงเข้ม) พันธุ์จากเมืองจีนไว้ต้นหนึ่ง จุดที่ 2 แปลงสาลี่ จากจุดที่ 1 ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือเป็นที่ตั้งของแปลงสาลี่ที่ปลูกอยู่บนเนินเขา สาลี่หรือแพร์ (pear) ที่ปลูกกันโดยทั่วไปนั้นมี 2 ประเภท คือ สาลี่ฝรั่ง เปลือกสีเขียว มีเนื้อนุ่มและสาลี่จีน เปลือกสีเหลือง มีเนื้อกรอบ คนไทยนิยมรับประทานสาลี่จีนมากกว่าเพราะคุ้นเคยมาก่อน แปลงทดสอบพันธุ์สาลี่ของที่นี่ จึงเป็นพันธุ์สาลี่จีนที่นำเข้ามาจากประเทศไต้หวัน สาลี่เป็นไม้เมืองหนาวที่ต้องการความหนาวเย็นพอสมควรปลูกง่ายกว่าแอปเปิล หากท่านได้มาเที่ยวชมที่นี่ในเดือนกุมภาพันธ์ ก็จะมีโอกาสได้ชมดอกสาลี่สีขาวผลิบาน อวดโฉมเต็มต้ จุดที่ 3 แปลงไม้ดอกเมืองหนาว สถานีเกษตรที่สูงแม่จอนหลวงได้ทำการทดลองขยายพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับเมือง หนาว มาตั้งแต่แรกเริ่มก่อตั้งสถานีฯ ไม้ดอกต่าง ๆ นั้น ได้แก่ เยอบีร่า ผีเสื้อ สะแตติส พิทูเนีย ซึ่งนอกจากจะเพาะพันธุ์ไว้เพื่อใช้ในการตกแต่งสถานที่แล้ว ยังมีเหลือพอแจกจ่ายไปตามศูนย์ต่าง ๆ อีกด้วย นอกจากไม้ดอกเหล่านี้แล้ว สถานีฯ ยังได้ทำการทดลองขยายว่านสี่ทิศ ซึ่งจะบานสะพรั่งอวดสีแดงสดของมันอย่างพร้อมเพรียงในยามหน้าหนาวนักท่อง เที่ยวสามารถ แวะชมแปลงเพาะพันธุ์ว่านสี่ทิศได้ข้างอาคารที่ทำการสถานีฯ น แต่หากมาตรงช่วงที่สาลี่ติดผล ในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ก็สามารถเด็ดชิมได้จากต้นเลยทีเดียว จุดที่ 4 แปลงสตรอเบอรี่และแปลงพืชผักปลอดสารพิษ หลายคนได้เห็นแปลงสตรอเบอรี่แล้ว คงอดไม่ได้ที่จะเกิดความรู้สึกอยากเด็ดชิมลิ้มรสสตรอเบอรี่ผลแดงสุกเหล่า นั้น ซึ่งหากมาถึงที่นี่แล้วก็จะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน แต่ทั้งนี้ท่านจะต้องมาในช่วงต้นปี ราวเดือนมกราคมถึงมีนาคม ซึ่งตรงกับช่วงผลสตรอเบอรี่สุก นักท่องเที่ยวสามารถเด็ดชิมสตรอเบอรี่ในแปลงทดลองนี้ได้โดยไม่ต้องกังวล เรื่องสารพิษตกค้างใด ๆ เพราะสตรอเบอรี่เหล่านี้ปลูกขึ้นโดยไม่ใช้ยาฆ่าแมลง เช่นเดียวกับแปลงพืชผักปลอดสารพิษที่บริเวณใกล้ ๆ กันนั้น หากผลผลิตจากแปลงพืชผักปลอดสารพิษนี้มีมากพอท่านสามารถแจ้งล่วงหน้ากับทาง เจ้าหน้าที่ โรงอาหารให้จัดเตรียมอาหารจากแปลงผักปลอดสารพิษตรงหน้านี้ให้ท่านได้ด้วย จุดที่ 5 แปลงวิจัยชา จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 13:00:03

ความคิดเห็นที่ 29 แผนที่แม่แจ่ม1 จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 13:00:49

ความคิดเห็นที่ 30 แผนที่แม่แจ่ม2 จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 13:01:30

ความคิดเห็นที่ 31 ตาก อุทยานแห่งชาติแม่เมย อุทยานแห่งชาติแม่เมย จ ตาก ที่ใช้ชื่อว่า อุทยานแห่งชาติแม่เมยนั้น เพราะว่ามีแม่น้ำเมย ซึ่งกั้นระหว่างประเทศไทย และประเทศพม่า เป็นเขตด้านทิศตะวันตกเกือบ 50 กิโลเมตร จากทิศเหนือจรดทิศใต้ อีกทั้ง แม่น้ำเมยนั้นเป็นแม่น้ำที่แปลกคือ จะไหลมาทางทิศใต้ ขึ้นไปทางทิศเหนือ พื้นที่ที่ทำการสำรวจ จัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ ส่วนหนึ่งเป็นพื้นที่ของวนอุทยานถ้ำแม่อุสุ และรวมพื้นที่ของ ป่าสงวนแห่งชาติป่าท่าสองยางบางส่วน เป็นแนวเทือกเขาถนนธงชัย โดยเริ่มจากตำบลแม่ต้าน ผ่านตำบลแม่สอง จนถึงตำบลท่าสองยาง อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 713,750 ไร่ หรือ 1,142 ตารางกิโลเมตร อุทยานแห่งชาติแม่เมย ได้รับการประกาศจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ ตามพระราชกฤษฎีกา กำหนดบริเวณที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ ป่าท่าสองยาง ในท้องที่ตำบลแม่สอง และตำบลแม่อุสุ อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 116 ตอนที่ 40 ก ลงวันที่ 20 พฤษภาคม 2542 มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 115,800 ไร่ หรือ 185.28 ตารางกิโลเมตร ในท้องที่ตำบลแม่อุสุนั้น เดิมเป็นวนอุทยานถ้ำแม่อุสุ มีอาณาเขตทิศเหนือจดแม่น้ำเมย ทิศใต้จดห้วยโป่งและห้วยม่วง ทิศตะวันออกจดห้วยพูลซะ ห้วยพอนอโก ตามทางหลวงสายแม่สอด-แม่สะเรียง ทิศตะวันตกจดแม่น้ำเมย ในท้องที่ตำบลแม่สอง เดิมเป็นพื้นที่ป่าสัมปทานเก่า อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าท่าสองยาง มีอาณาเขตติดต่อดังต่อไปนี้ คือ ทิศเหนือจดทางหลวงสายแม่สลิด – อมก๋อย ทิศใต้จดลำน้ำแม่สอง และทางหลวงสายแม่สอด–แม่สะเรียง ทิศตะวันออกจดห้วยแม่หลุยและลำน้ำแม่สอง ทิศตะวันตกจดแม่น้ำเมย :: ลักษณะภูมิประเทศ :: ส่วนมาก เป็นภูเขาสลับซับซ้อนมีที่ราบน้อยมาก โดยมีความสูงเฉลี่ย 680 เมตร จากระดับน้ำทะเล จุดสูงสุด 1,250 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ปกคลุมไปด้วยป่าไม้ที่ค่อนข้างสมบูรณ์ แต่ไม้ใหญ่มีน้อย เป็นแหล่งต้นน้ำที่สำคัญ ของลำน้ำแม่สอง ลำน้ำแม่อุสุ ลำน้ำแม่สลิดหลวง และแม่น้ำเมย :: ลักษณะภูมิอากาศ :: จะมีฝนตก ชุกมากในฤดูฝนตั้งแต่เดือนพฤษภาคม - เดือนตุลาคม ซึ่งไม่เหมาะสมต่อการท่องเที่ยว ฤดูร้อนอากาศค่อนข้างอบอุ่น และจะหนาวถึงหนาวจัดในฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงที่เหมาะแก่การท่องเที่ยว ชมทะเลหมอก และสภาพทิวทัศน์ทั่วไป เป็นอย่างมาก พื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่เมย อยู่ในบริเวณร่องลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ จากทะเลอันดามันพัดผ่าน ประกอบกับ อยู่ในตำแหน่งด้านหน้าเขา ทำให้ได้รับลมมรสุมมากกว่าบริเวณอื่น มีฝนตกชุกเหมือนภาคใต้ฝั่งตะวันตก จะมีฝนตกชุกมากในฤดูฝน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม - เดือนตุลาคม ซึ่งไม่เหมาะสมต่อการท่องเที่ยว ฤดูร้อนอากาศค่อนข้างอบอุ่น และจะหนาวถึงหนาวจัดในฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงที่เหมาะแก่การท่องเที่ยว ชมทะเลหมอก และสภาพทิวทัศน์ทั่วไปเป็นอย่างมาก :: ที่ตั้งและการเดินทาง :: อุทยานแห่งชาติแม่เมย ต.แม่สอง อ. ท่าสองยาง จ. ตาก  63150 โทรศัพท์ : 0 5557 6452 (สนง.), 08 5272 1171 (จนท.) รถยนต์ จาก จังหวัดตาก มาอำเภอแม่สอด และอำเภอท่าสองยาง ประมาณ 84 กิโลเมตร จากอำเภอท่าสองยาง ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 105 (แม่สอด – แม่สะเรียง) ระยะทางประมาณ 33 กิโลเมตร ถึงทางแยกแม่สลิดหลวง เลี้ยวขวาตามทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1267 (แม่สลิด-อมก๋อย) ระยะทางประมาณ 11 กิโลเมตร ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่เมย ถ้ำแม่อุสุอยู่ห่างจากอำเภอ ท่าสองยาง ตามทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 105 (แม่สอด – แม่สะเรียง) ระยะทางประมาณ 13 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายตามถนน รพช. ผ่านบ้านทีโนะโคะ ระยะทาง 2 กิโลเมตร ถึงถ้ำแม่อุสุ :: แหล่งท่องเที่ยว :: ม่อนกระทิง ม่อนกิ่วลม และม่อนพูนสุดา เป็นจุดชมทิวทัศน์ของขุนเขา และทะเลหมอก ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดี ในหมู่นักท่องเที่ยว และนักถ่ายภาพธรรมชาติมานาน หลายสิบปี ปัจจุบันยอดดอยเหล่านี้ รวมทั้งถ้ำแม่อุสุ ซึ่งมีความงดงามมาก อยู่ในความดูแล ของอุทยานแห่งชาติแม่เมย ท้องที่อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ :: ด้านธรรมชาติที่สวยงาม :: ถ้ำแม่อุสุ   เป็นถ้ำหินปูนที่มีขนาดกว้างใหญ่ มีลำน้ำแม่อุสุไหลเข้าสู่ปากถ้ำ ซึ่งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ แล้วไหลเวียนไปออกด้านหลังถ้ำ ลงไปสู่แม่น้ำเมย ซึ่งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ มีระยะทางโดยประมาณ 450 เมตร ปากถ้ำกว้างประมาณ 20 เมตร สูงประมาณ 6 เมตร ภายในของถ้ำมีคูหาใหญ่ๆ อยู่ 3 คูหา มีหินงอกหินย้อยที่สวยงามมาก เวลากลางวัน แสงอาทิตย์ส่องลาดผ่านปล่องถ้ำลงมากระทบหินทราย เกิดประกายแวววาว บริเวณปากทางเข้าถ้ำมีเจ้าหน้าที่นำเที่ยวชมภายใน ทางเดินในถ้ำค่อนข้างสะดวก มีเพียงบางช่วงที่ต้องปีนป่ายก้อนหินบ้าง ใช้เวลาเที่ยวชมประมาณ 1 ชั่วโมง ในช่วงฤดูฝนระดับน้ำในถ้ำ จะขึ้นสูง จนไม่สามารถเข้าไปในถ้ำได้ ถ้ำแม่อุสุจึงเที่ยวได้เฉพาะในช่วงฤดูหนาว และฤดูแล้ง ถ้ำแม่อุสุอยู่ห่างจากอำเภอท่าสองยาง ตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 105 สายแม่สอด - แม่สะเรียง ระยะทางประมาณ 13 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายตามถนน รพช. ผ่านบ้านทีโนะโคะ ระยะทาง 2 กิโลเมตร ถึงถ้ำแม่อุสุ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลข 08 5732 2532 น้ำตกแม่สลิดน้อย   อยู่ด้านหลังที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ต้องเดินทางเท้าลัดเลาะไปตามลำห้วยแม่สลิด ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ระหว่างทางจะมีพันธุ์ไม้ที่น่าสนใจให้ศึกษา เช่น ดอกเทียน หงอนเงือกเล็ก แววมยุราเล็ก ดอกไม้เถา เห็ดป่าสีสวยสดใส และเฟิร์น ใช้ชมตลอดทาง ถึงน้ำตกชั้นแรก แยกเป็นสองสายตกจากหน้าผาสูงราว 40 เมตร ส่วนชั้นที่ 2, 3 และ 4 ต้องปีนป่ายไปตามไหล่เขาที่สูงชัน ชั้นบนสุดจะพบน้ำตกอีกสองชั้นใหญ่ๆ มีสายน้ำทิ้งตัวไหลลงสู่เบื้องล่างติดต่อกันลงมาถึงสองชั้น จากหน้าผาสูงชันไม่น้อยกว่า 80 เมตร ลงสู่แอ่งน้ำใหญ่ด้วยความแรงของสายน้ำทำให้เกิดละอองเป็นฝอยฟุ้งกระจายไป ทั่ว ทางอุทยานแห่งชาติได้จัดทำ เส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกแม่สลิดน้อย สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเดินท่องธรรมชาติ ฟังเสียงสายน้ำ และศึกษาพรรณไม้นานาชนิด อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 1.8 กิโลเมตร ระหว่างเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติมีน้ำตกขนาดเล็กมากมายให้ได้ชม น้ำตกชาวดอย   อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ตามถนนแม่สลิด-แม่ระเมิง ประมาณ 5 กิโลเมตร ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 17-18 มีเส้นทางเดินเท้าประมาณ 500 เมตร ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที จะพบกับน้ำตกชาวดอย ที่ไหลจากหน้าผาสูงราว 25-30 เมตร ลักษณะเป็นน้ำตกขนาดกลาง ชั้นเดียว ที่ทิ้งลงสู่เบื้องล่าง รวมตัวเป็นสายธาร ไหลลัดเลาะไปตามโขดหิน ที่ระเกะระกะกลางลำห้วย แลดูสวยงามแปลกตา จุดชมทะเลหมอก   จุดชมทะเลหมอกนี้ อยู่หลังที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่เมย มีความสูงประมาณ 1,100 เมตร เป็นจุดที่มองเห็นทะเลหมอกได้กว้างไกลมาก รวมทั้งพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก อีกทั้งเป็นจุดชมวิว ที่ต้อนรับผู้ที่นิยมการเดินป่า เพราะจะต้องเดินเท้าเข้าไปประมาณ 3-4 ชั่วโมง และต้องพักค้างแรม 1 คืน เพื่อชมทิวทัศน์ที่สวยงาม ม่อนครูบาใส   อยู่ใกล้เคียงกับม่อนพูนสุดา ห่างกันประมาณ 200 เมตร สามารถชมทะเลหมอกยามเช้าและชมพระอาทิตย์ตกดินได้ ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่เมย ประมาณ 7 กิโลเมตร ม่อนกิ่วลม   ที่ใช้ชื่อว่า ม่อนกิ่วลม ก็เพราะที่แห่งนี้มีช่องหรือกิ่ว ที่มีลมพัดผ่านอยู่เสมอ เป็นจุดชมดวงอาทิตย์ขึ้น ยามเช้า ที่สวยที่สุด บนเส้นทางสายสายแม่สลิดน้อย-แม่ระเมิง ม่อนกิ่วลมอยู่บนความสูง 940 เมตรจากระดับน้ำทะเล มองเห็นทะเลหมอกปกคลุมหุบเขาเบื้องล่าง โดยมียอดเขาสูงต่างๆ โผล่พันสายหมอก แลดูราวกับเกาะใหญ่น้อย กลางทะเลสีขาว อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี สภาพป่าโดยรอบเป็นป่าดิบเขา เดินทางต่อจากม่อนกระทิง ลัดเลาะไปตามไหล่เขา อีกประมาณ 8 กิโลเมตร จุดชมทิวทัศน์ม่อนกิ่วลม อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแงชาติ ประมาณ 12 กิโลเมตร ม่อนพูนสุดา   เป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงามมากอีกแห่งหนึ่ง อยู่ห่างจากม่อนกระทิง 2 กิโลเมตร ชื่อม่อนตั้งขึ้นตามชื่อของนักถ่ายภาพชั้นครูของเมืองไทย คือ อาจารย์พูน เกษจำรัส และภรรยาของท่านชื่อ สุดา เพื่อเป็นเกียรติแด่อาจารย์พูน ในฐานะที่เป็นผู้เดินทางมาถ่ายภาพบนหม่อนนี้เป็นคนแรก ม่อนกระทิง   เป็นจุดชมทะเลหมอกที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่ง คำว่า “ม่อน” หมายถึง เนินดินหรือเนินเขาเตี้ยๆ ชื่อม่อนกระทิงมีที่มาจากว่าบริเวณนี้เคยมีกระทิงอาศัยอยู่ชุกชุมจนมีพราน ป่าขึ้นมาล่าอยู่เสมอๆ เดินทางจากถ้ำแม่อุสุ ต่อไปจนพบกับทางหลวงจังหวัด หมายเลข 1267 สายแม่สลิดหลวง - แม่ระเมิง ให้เลี้ยวขวา ขึ้นสู่ดอยแม่ระเมิง ช่วงนี้เป็นทางขึ้นเขาชัน ระยะทางประมาณ 11 กม. จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ม่อนกระทิงอยู่ห่างออกไปอีกไม่ไกล น้ำตกแม่ระเมิง   น้ำตกแม่ระเมิง จากที่ทำการของอุทยานแห่งชาติ ตามเส้นทางสู่ม่อนกิ่วลม อยู่บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 20 ทางด้านขวามือจะพบน้ำตก ลักษณะเป็นน้ำตกขนาดเล็กสูงราว 15 เมตร ตกลงมาเป็นสองชั้นไหลลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 53 13:05:14 จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 13:02:29

ความคิดเห็นที่ 32 สะเมิง - วัดจันทร์ - แม่ฮ่องสอน จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 13:03:27

ความคิดเห็นที่ 33 หน่วยป่าไม้แม่หยอด แม่อูคอ บ้านวัดจันทร์ ดอยแม่อูคอไปดูดอกบัวตอง แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 53 13:32:37 จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 13:04:21

ความคิดเห็นที่ 34 โขงเจียม อำเภอโขงเจียม เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดอุบลราชธานี ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกสุดของประเทศไทย สถาน ที่ท่องเที่ยว อำเภอโขงเจียมมีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง เช่น ผาแต้ม อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติผาแต้ม น้ำตกสร้อยสวรรค์ น้ำตกลงรู เถาวัลย์ยักษ์ รอยพระ พุทธบาทบ้านท่าล้ง เขื่อนปากมูล แก่งตะนะ จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 13:06:33

ความคิดเห็นที่ 35 อำเภอโขงเจียม 1 จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 13:07:35

ความคิดเห็นที่ 36 แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 53 13:12:33 จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 13:09:42

ความคิดเห็นที่ 37 อำเภอโขงเจียม2 จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 13:13:50

ความคิดเห็นที่ 38 เข้าใจแล้ว โหวตให้แล้วนะ จากคุณ : Mukzaki เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 13:14:09

ความคิดเห็นที่ 39 มุกดาหาร. จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 13:15:31

ความคิดเห็นที่ 40 บุรีรัมย์,อุทยานแห่งชาติตาพระยา อุทยาน แห่งชาติตาพระยา ตู้ ปณ.9 ปท.โนนดินแดง  อ. โนนดินแดง  จ. บุรีรัมย์   31260 โทรศัพท์ 0 3755 6667 (VoIP), 0 4561 9214   โทรสาร 0 3724 6056   อีเมล reserve@dnp.go.th รถยนต์ ใช้ทาง หลวงหมายเลข 348 เส้นตาพระยา - โนนดินแดง ถึงหลักกิโลเมตรที่ 22 ก่อนขึ้นเขาช่องตะโก จะพบที่ทำการอุทยานแห่งชาติตาพระยาอยู่ริมถนนเส้นนี้ ลานกระเจียว เป็นลานหินที่มีดอก กระเจียวขึ้นสวยงามและมีสภาพป่าอุดมสมบูรณ์เป็นแหล่งท่องเที่ยวแหล่งหนึ่ง ตั้งอยู่ตำบลปราสาท อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ การเดินทางเข้าถึงใช้เส้นทางหลวงสาย 2121 และแยกไปตามถนนสายตรี อ่างเก็บน้ำเมฆา เป็นอ่างเก็บน้ำ ขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลหนองไม้งาม อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ มีประชาชนสนใจไปพักผ่อน เนื่องจากสภาพป่าดิบแล้งสมบูรณ์ มีนักท่องเที่ยวตลอดปี การเดินทางเข้าถึงใช้เส้นทางหลวงสาย 3068 อ่างเก็บน้ำลำจังหัน เป็นอ่างเก็บน้ำ ขนาดใหญ่ อยู่ในท้องที่ตำบลสำโรงใหม่ อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ มีทิวทัศน์สวยงามมาก สภาพป่าเป็นป่าดงดิบแล้งอุดมสมบูรณ์มีประชาชนไปพักผ่อนหย่อนใจจำนวนมาก การเดินทางเข้าถึงใช้เส้นทางหลวงสาย 3068 แล้วไปแยกที่ทางหลวงจังหวัด ระยะทางประมาณ 13 กิโลเมต อ่างเก็บน้ำลำนางรอง เป็นอ่างเก็บน้ำ ขนาดใหญ่ อยู่ในท้องที่ตำบลลำนางรอง อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ มีทิวทัศน์รอบอ่างสวยงามมาก สภาพป่ายังอุดมสมบูรณ์มีประชาชนให้ความสนใจเข้ามาท่องเที่ยวพักผ่อนตลอดปี มีชายหาดสำหรับเล่นน้ำเหมาะสำหรับท่องเที่ยวในวันสงกรานต์ การเดินทางเข้าถึงใช้เส้นทางหลวงสาย 3068 อ่างเก็บน้ำลำปะเทีย เป็นอ่างเก็บน้ำ ขนาดกลาง ตั้งอยู่ที่ตำบลหนองแวง อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ มีทิวทัศน์ที่สวยงาม ประชาชนสนใจไปพักผ่อนเป็นจำนวนมากตลอดทั้งปี การเดินทางเข้าถึงใช้เส้นทางหลวง 3068 และเดินทางต่อโดยเส้นทาง ร.พ.ช อ่างเก็บน้ำห้วยยาง เป็นอ่างเก็บน้ำ ขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลทัพราช อำเภอตาพระยา จังหวัดปราจีนบุรี มีทิวทัศน์รอบบริเวณอ่างสวยงามมากโดยเฉพาะสภาพป่าดิบแล้งที่ยังอุดมสมบูรณ์ มีประชาชนให้ความสนใจเข้าไปท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อนหย่อนใจตลอดทั้งปี การเดินทางเข้าถึงใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินสาย 3198 ช่องโอบก เป็นพรมแดนระหว่าง ประเทศไทยกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยกัมพูชา ตั้งอยู่ตำบลปราสาท อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ มีสภาพป่าดิบแล้งที่อุดมสมบูรณ์มากมีลำธารไหลตลอดปี สันนิษฐานว่ามีน้ำตกและมีสัตว์ป่าชุกชุม แต่สถานการณ์ปัจจุบันไม่เหมาะแก่การท่องเที่ยว เนื่องจากอาจจะได้รับอันตรายจากวัตถุระเบิด เป็นเส้นทางติดต่อระหว่างคนไทยและคนกัมพูชา เมื่อ พ.ศ. 2518 เป็นต้นมา กัมพูชาได้เปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบบสังคมนิยมและได้ใช้ช่องโอบกเป็นช่อง ทางลำเลียงกำลังพล และอาวุธยุทโธปกรณ์ข้ามมาก่อการร้ายในประเทศได้มีการสู้รบอย่างต่อเนื่อง ตลอดมา โดยยึดเอาช่องโอบกเป็นเนิน 472 และเนิน 538 เป็นฐานที่มั่นในการสู้รบ เมื่อ พ.ศ. 2528 กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 โดย ฉก.ร. 23 ได้เข้าผลักดัน และยึดเนิน 472 ไว้ได้จนถึงปัจจุบัน เมื่อปี พ.ศ. 2530 กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 โดย ฉก.ร.8 ได้เข้าผลักดัน และยึดเนิน 538 ไว้ได้จนถึงปัจจุบัน เมื่อปี พ.ศ. 2531 กองกำลังสุรนารี โดย ฉก.ร.3 ได้เข้าผลักดันและยึดฐานปฏิบัติการปากช่องโอบกแห่งนี้ไว้ได้ เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2531 ปัจจุบันมีหน่วยทหารพรานคอยดูแลพื้นที่ ทางเข้าอยู่ตรงนิคมบ้านกรวด เข้าไปประมาณ 11 กิโลเมตร จะถึงจุดชมทิวทัศน์ ปราสาทเขาโล้น เป็นปราสาทเก่าแก่ สมัยขอมโบราณตั้งอยู่ตำบลทัพราช อำเภอตาพระยา จังหวัดปราจีนบุรี เป็นโบราณสถานซึ่งประชาชนให้ความสนใจไปเยี่ยมชมจำนวนมาก การเดินทางเข้าถึงใช้เส้นทาง ร.พ.ช. ปราสาททอง เป็นโบราณสถานสมัย ขอม มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมจำนวนมาก ตั้งอยู่ตำบลปราสาท อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ มีนักท่องเที่ยวมาชมยอดปราสาททองที่มีความงดงามมาก การเดินทางเข้าถึง ใช้เส้นทางหลวงสาย 2121 ปราสาทบายแบก เป็นประสาทหินเก่า แก่สมัยขอมตั้งอยู่ตำบลจันทบเพชร อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ นักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวชมมากตลอด เดินทางตามถนนทางหลวง แผ่นดินสาย 2121 และมาแยกที่ถนนสายโท 5 ลานหินตัด เป็นแหล่งหินทราย ที่ปรากฏร่องรอยถูกตัดเป็นสี่เหลี่ยม เพื่อนำไปสร้างประสาทหิน มีเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ อยู่เชิงเขาพนมดงรัก มีนักท่องเที่ยวสนใจไปเที่ยวชมมาก ลานหินตัดตั้งอยู่ในท้องที่บ้านทัพไทย ตำบลปราสาท อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ การเดินทางเข้าถึงใช้เส้นทางหลวงสาย 2121 และเดินทางตามถนนตรี 4 อยู่ห่างจากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ตย.1 (ทัพไทย) ประมาณ 3 กิโลเมตร ศาลมีอักษร เขียนลงบนแผ่นดิน แปรลายพระหัตถ์ของรัชกาลที่ 5 ไว้ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่แวะมาสักการะและชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามมาก ตั้งอยู่บริเวณตำบลทัพราช อำเภอตาพระยา จังหวัดปราจีนบุรี ศูนย์เขมรอพยพไซท์ทู เป็นศูนย์รับ ประชาชนเขมรตั้งอยู่บริเวณบ้านทัพไทย ตำบลทัพเสด็จ อำเภอตาพระยา จังหวัดปราจีนบุรี มีประชาชนสนใจไปท่องเที่ยวภายในศูนย์เขมรอพยพไซท์ทู การเดินทางเข้าถึงใช้เส้นทางหลวงสาย 3068 แล้วไปแยกที่อำเภอตาพระยา หลังจากนั้นจึงเดินทางต่อไปตามทางหลวงจังหวัด แหล่งโลหะกรรม เป็นแหล่งวัฒนธรรม สมัยขอมโบราณ ตั้งอยู่ตำบลจันทบเพชร อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ ประชาชนสนใจไปเที่ยวชมวัตถุโบราณกันมาก การเดินทางเข้าถึง ใช้เส้นทางหลวง 2121 และมาแยกถนนสายโท 7 อนุสาวรีย์เราสู้ เป็นอนุสาวรีย์ที่ สร้างขึ้นด้วยความพร้อมใจของประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งสละชีพเพื่อชาติไทยป้องกันประเทศ นักท่องเที่ยวมักจะมาเยี่ยมชมและสักการะ ตั้งอยู่ตำบลโนนดินแดง อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ การเดินทางใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินสาย 3068 จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 13:16:22

ความคิดเห็นที่ 41 ตลาด 100 ปี คลองสวน จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 13:16:55

ความคิดเห็นที่ 42 ประจวบ,ท่าเรือไปเกาะทะลุ อ.บางสะพาน จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 13:17:29

ความคิดเห็นที่ 43 พิษณุโลก,อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 13:18:02

ความคิดเห็นที่ 44 แถม โปรแกรมถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2010 จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 13:19:00

ความคิดเห็นที่ 45 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : MoMMaMjAnG เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 13:40:54

ความคิดเห็นที่ 46 ขอบคุณมากมายเลยค่ะ จากคุณ : yernpeaw เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 13:48:07

ความคิดเห็นที่ 47 เยี่ยมครับ จากคุณ : Dr.J.Ro เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 14:00:09

ความคิดเห็นที่ 48 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : แก้วตาดวงใจ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 14:40:05

ความคิดเห็นที่ 49 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : woratar เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 17:10:53

ความคิดเห็นที่ 50 เพียบเลยย... ขอบคุณนะคะ ได้ที่เที่ยวอีกจมเลยอ่ะ จากคุณ : BadGaL Xi6 เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 17:55:29

ความคิดเห็นที่ 51 เจ๋งมาก จากคุณ : อินเดียนแดงหัวฟู เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 17:58:49

ความคิดเห็นที่ 52 อำเภอเชียงคาน พลาดไปหา แผนที่ให้  เลยติดข้อมูล มาให้อย่าง เพียบ อำเภอเชียงคาน เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดเลย สถานที่ท่องเที่ยว ได้แก่ - แก่งคุดคู้  ที่ตั้ง  บ.น้อย ม.4 ต.เชียงคาน - พระใหญ่  ที่ตั้ง  วัดปากน้ำเหือง บ.ท่าดีหมี ม.4 ต.ปากตม - ทิวทัศน์ริมฝั่งแม่น้ำโขง  ที่ตั้ง ม11 ต.เชียงคาน - หมู่บ้านวัฒนธรรมไทดำ  ที่ตั้ง  บ.นาป่าหนาด ม.4,12  ต.เขาแก้ว - หมู่บ้านวัฒนธรรมผีขนน้ำ  ที่ตั้ง  บ้านนาซ่าว  ม.1,14  ต.นาซ่าว - วัดพระพุทธบาทภูควายเงิน บ.ผาแบ่น ม.6 ต.บุฮม - จุดชมวิวภูทอก บ.เชียงคาน ม.2 ต.เชียงคาน - จุดชมวิวทะเลหมอกภูทอก บ.เชียงคาน ม.2 ต.เชียงคาน   เดือนพฤศจิกายน-มกราคม ห่างจากอ.เชียงคาน 6 กม. - จิตรกรรมฝาผนังวัดศรีคุณเมือง วัดศรีคุณเมือง ถ.ชายโขง ม.1 ต.เชียงคาน - โครงการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตฯ บ.คกงิ้ว ม.5 ต.ปากตม - วัดถ้ำผาแบ่น บ.ผาแบ่น ม.6 ต.บุฮม - ต้ำตกตาดซ้อ บ.แก่งมี้ ม.6 ต.นาซ่าว เทศกาลประเพณี ชื่อเทศกาลที่สำคัญ.  ประเพณีออกพรรษาที่เชียงคาน วันที่/เวลา: ช่วงเดือนตุลาคม (ช่วงวันออกพรรษาของทุกปี) ชื่อเทศกาลที่สำคัญ.งานประเพณีสงกรานต์ วัน ที่/เวลา: 13 -15 เมษายน ของทุกปี ชื่อเทศกาลที่สำคัญ.งานบุญเดือนหก และการละเล่นผีขนน้ำ วันที่/เวลา: - ชื่อเทศกาลที่สำคัญ.ประเพณี การไหลเรือไฟ วันที่/เวลา: วันพระขึ้น 15 ค่ำ เดือนตุลาคมของทุกปี ช่วงเทศกาลออกพรรษา การเดินทาง รถยนต์ จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1(พหลโยธิน) ผ่านตัวเมืองสระบุรี ตรงเข้าทางหลวงหมายเลข 21 ผ่านจังหวัดเพชรบูรณ์ ตรงเข้าทางหลวงหมายเลข 203 ผ่านอำเภอหล่มสัก หล่มเก่า เข้าเขตจังหวัดเลย ที่อำเภอด่านซ้าย อำเภอภูเรือ ถึง ตัวจังหวัดเลยใช้เวลาเดินทางประมาณ 7-8 ชั่วโมง หรือจะใช้เส้นทาง จากสระบุรี ใช้ทางหลวงหมายเลข 2 มิตรภาพ ผ่านจังหวัดนครราชสีมา ถึงจังหวัดขอนแก่น แล้วเลี้ยว ซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 12 ผ่านอำเภอชุมแพ แล้วใช้เส้นทางหมายเลข 201 เข้าเขตจังหวัดเลย ที่อำเภอภูกระดึง อำเภอวังสะพุง ถึงตัวจังหวัดเลยได้เช่นเดียวกัน รถโดยสารประจำทาง บริษัท ขนส่ง จำกัด มีรถโดยสารประจำทางวิ่งระหว่าง - กรุงเทพฯ-เลย ทุกวัน ทั้งรถธรรมดาและรถปรับอากาศ ใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมง แล้ว นั่งรถสองแถวจากท่ารถ จ.เลยมายังเชียงคานใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง ขา ไป- กรุงเทพฯ - เชียงคาน จะมีวันละ 1 เที่ยว         โดยจะมีทั้ง ป.2 และ VIP เวลาออกจะไม่เท่ากัน         ป.2 จะออกจากกรุงเทพฯ 20.00 น.    ค่ารถ 372 บาท   ถึงเชียงคานไม่เกิน 06.00 น.*         VIP จะออกจากกรุงเทพฯ 22.00 น.    ค่ารถ 7--  บาท   ถึงเชียงคานไม่เกิน 06.00 น. ขากลับ- เชียงคาน - กรุงเทพฯ จะมีวันละ 1 เที่ยว        โดยจะมีทั้ง ป.2 และ VIP เวลาออกจะไม่เท่ากัน        ป.2 จะออกจากเชียงคาน 18.30น.    ค่ารถ 372 บาท   ถึงกรุงเทพฯไม่เกิน 05.00 น.*        VIP จะออกจากเชียงคาน18.00 น.    ค่ารถ 7--  บาท   ถึงกรุงเทพฯไม่เกิน 05.00 น. ภูกระดึงทัวร์ ขาไป- กรุงเทพฯ - เชียงคาน จะมีวันละ 1 เที่ยว         ม2 จะออกจากกรุงเทพฯ 19.00 น.    ค่ารถ 372 บาท   ถึงเชียงคานไม่เกิน 06.00 น.*(มีบัตรอาหาร)        โทรจองกรุงเทพฯ 02-9360511 ขากลับ- เชียงคาน - กรุงเทพฯ จะมีวันละ 1 เที่ยว         ม2 จะออกจากเชียงคาน 18.30น.    ค่ารถ 372 บาท   ถึงกรุงเทพฯไม่เกิน 05.00 น.*(มีบัตรอาหาร)         โทรจอง ร้านแสงทอง เจ้ใจ(ข้างๆๆร้านไอเดีย ดีดี)042-821305 แอร์เมืองเลย ขาไป- กรุงเทพฯ - เชียงคาน จะมีวันละ 1เที่ยว         ป.1จะออกจากกรุงเทพฯ 19.30 น.    ค่ารถ 4xx บาท   ถึงเชียงคานไม่เกิน 06.00 น.* ขากลับ- เชียงคาน - กรุงเทพฯ จะมีวันละ 2 เที่ยว        ป.1จะออกจากเชียงคาน 08.00น.    ค่ารถ 4xx บาท   ถึงกรุงเทพฯไม่เกิน 20.00 น.*        ป.1จะออกจากเชียงคาน18.00 น.    ค่ารถ 4xx บาท   ถึงกรุงเทพฯไม่เกิน 05.00 น. รายละเอียดสอบถามที่สถานีขนส่งสายอีสาน ถนนกำแพงเพชร 2 (หมอชิต 2) โทร. (02) 936-0667, 936-0657 รถไฟ การ รถไฟแห่งประเทศไทย มีรถไฟไปจังหวัดหนองคายและต่อรถโดยสารจาหนองคายมาจังหวัดเลยได้อีกต่อหนึ่ง รายละเอียดสอบถาม หน่วยบริการเดินทาง สถานีรถไฟกรุงเทพฯ โทร. 233-7010, 223-7020 เครื่องบิน บริษัท การบินไทย จำกัด มีเที่ยวบินกรุงเทพฯ-อุดรธานี ทุกวัน วันละ 3 เที่ยว แล้วสามารถต่อรถยนต์ไปจังหวัดเลย อีกประมาณ 140 กม. รายละเอียดสอบถาม โทร. 280-0060, 628-2000 และที่จังหวัดอุดรธานี โทร. (042) 243222, 246697 Credited ;  http://www.idea-deedee.com/board/index.php?PHPSESSID=e3fa205768da732ac54b07b099a288b5&topic=2.0 จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 21:40:08

ความคิดเห็นที่ 53 รายชื่อโรงแรม  เกสท์เฮ้า ราย ชื่อร้านค้า ร้านอาหาร ร้านของฝาก แถมไปด้วยละกัน รายชื่อโรงแรม  ได้แก่ โรงแรมสุขสมบูรณ์  โทร. 0-4282-1064 โรงแรม พูนสวัสดิ์  โทร. 0-4282-1114 โรงแรมเชียงคานฮิลรีสอร์ท  283/2  แก่งคุดคู้ ม.4 ต.เชียงคาน โทร.0-4282-1414, 0-4282-1285 โรงแรมแม่โขง คัลเจอร์แอนด์เนเจอร์ทัวร์  407 ม.1 ต.เชียงคาน โทร. 0-4282-1457 โรงแรม เรือนแรมลูกไม้เกสท์เฮาท์  โทร.  0-9210-0447 โรงแรมต้นโขงเกสท์เฮาท์  โทร. 0-4282-1187 โรงแรมยูโรเฟรนชิฟเกสท์เฮาท์  โทร.0-1263-9068 โรงแรม ริมโขงผับเกสท์เฮาท์  โทร. 0-4282-1125 โรงแรมน้ำฮายรีสอร์ท  โทร. 0-4282-1496 รายชื่อเกสท์เฮ้า ได้แก่ เชียงคาน เกสท์เฮ้าส์ 2822 ถ.ชายโขง โทร.042-8221691(พี่พิม) ต้นโขงเกสท์เฮ้าส์ 299/3 ถ.ชายโขง โทร.072-821187 ลูกไม้เกสท์เฮ้าส์ 112 ม.1 ต.เชียงคาน บ้าน ดอกฝ้าย (นายปุย)   ร้านแสงทอง ถ.ชายโขง โทร.042-821305 (พี่เทพ เจ้ใจ ) ราย ชื่อร้านค้า ร้านอาหาร  ได้แก่ ระเบียงริมโขง  ถ.ชายโขง  โทร. 0-4282-1532 ร้านเฟื่องฟ้า  ถ.ศรีเชียงคาน  โทร.0-4282-1296 ร้านลุก โภชนา   ถ.ศรีเชียงคาน ร้าน Wild Orchid  155 ถ.ศรีเชียงคาน โทร.09-4224187,06-9072632 ร้านลุงสุกัน  ถ.ศรีเชียงคาน (ระหว่างซอย 4-ซอย 5) ร้านน้อยเนื้อย่าง ใกล้สี่แยกไฟแดง ร.ร.วิจิตรวิทยา ถ.ศรีเชียงคาน ร้านโกสิทธิ์ ซอย 9 บน ร้านเหลียวแล ถ.ศรีเชียงคาน ร้าน ต.เนื้อย่าง ถ.ศรีเชียงคาน ร้านคิดโภชนา  เยื้องวัดสันติวนาราม ถ.เลย-เชียงคาน ร้านมิตรชัย (สินค้าเบ็ดเตล็ด) ถ.ศรีเชียงคาน ร้านศรี ชาวนา (สินค้าเบ็ดเตล็ด) ถ.ศรีเชียงคาน ร้านแสงแก้ว (กิ๊ฟช็อป) เยื้องวัดป่ากลาง ถ.ศรีเชียงคาน ร้านสุวรรณี (เครื่องเขียนแบบเรียน) ใกล้สี่แยกไฟแดง ร.ร.วิจิตรวิทยา ถ.ศรีเชียงคาน ร้านไมโครวิทยาภัณฑ์ (เครื่องเขียนแบบเรียน) ถ.ศรีเชียงคาน ร้านรวมมิตรโอสถ (ยาแผนปัจจุบัน) สี่แยกไฟแดง ปากซอย 9 บน ร้านนิวแสงทอง (ยาแผนปัจจุบัน) ซอย 9 บน ร้าน เอส.มอเตอร์เซลล์ (รถจักรยานยนต์) ปากซอยร้านดวงดี ใกล้ธนาคารออมสิน ร้าน พัฒนชัยยนต์ (รถจักรยานยนต์) เยื้องธนาคารออมสิน ร้านเชียงคานมอเตอร์ (รถจักรยานยนต์) ถ.เลย-เชียงคาน ร้านสหภัณฑ์ซีเมนต์ (วัสดุก่อสร้าง) เยื้องวัดสันติวนาราม ถ.เลย-เชียงคาน ร้านสหภัณฑ์อิฐมอญ (วัสดุก่อสร้าง) ถ.เลย-เชียงคาน ร้านพรชัยการไฟฟ้า (เครื่องใช้ไฟฟ้า) ซอยร้านดวงดี ร้าน ประสิทธิ์การไฟฟ้า (เครื่องใช้ไฟฟ้า) ถ.ศรีเชียงคาน ร้าน ทีเจ โมบาย (โทรศัพท์เคลื่อนที่) ถ.ศรีเชียงคาน OLD COUNTRY Resturant  301 Chaikong Road  Tel 06-8549456 ร้านนาทีทอง  (ขายไข่กะทะ กาแฟสด ส้มหมู(แหนม) ) สอบถามจากร้านไอเดีย ดีดี ได้ครับ ร้านนิยมไทย (ขายผ้าห่ม) ถ.ชายโขง ร้านซาลาเปาปุยฝ้าย (ขายซาลาเปา) ถ.ชายโขง ข้างๆๆร้านไอเดีย ดีดี ร้านแสงทอง (ขายอาหารตามสั่ง แจ่วฮ้อน และอื่นๆๆ) ถ.ชายโขง ข้างๆๆร้าน ไอเดีย ดีดี ร้านของฝาก ร้านไอเดีย ดีดี (ขายของที่ระลึก โปสการ์ด เสื้อ เข็มกลัด อื่นๆๆ )158 ถ.ชายโขง (โทร 083-0843314-5) Credited :  http://www.idea-deedee.com/board/index.php?PHPSESSID=e3fa205768da732ac54b07b099a288b5&topic=4.0 จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 21:42:36

ความคิดเห็นที่ 55 เชียงของ credited  http://board.trekkingthai.com/board/show.php?forum_id=5&topic_no=131949&topic_id=133588 จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 21:53:37

ความคิดเห็นที่ 56 เชียงของ credited  http://board.trekkingthai.com/board/show.php?forum_id=5&topic_no=131949&topic_id=133588 จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 21:55:34

ความคิดเห็นที่ 57 เชียงของ credited  http://board.trekkingthai.com/board/show.php?forum_id=5&topic_no=131949&topic_id=133588 จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 21:57:20

ความคิดเห็นที่ 58 เชียงของ credited  http://board.trekkingthai.com/board/show.php?forum_id=5&topic_no=131949&topic_id=133588 จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 21:57:42

ความคิดเห็นที่ 59 เชียงของ credited  http://board.trekkingthai.com/board/show.php?forum_id=5&topic_no=131949&topic_id=133588 จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 21:58:10

ความคิดเห็นที่ 60 แผนที่ท่องเที่ยวอยุธยา จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 13:53:31

ความคิดเห็นที่ 61 แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 53 13:54:32 จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 13:54:09

ความคิดเห็นที่ 62 แผนที่ท่องเที่ยวอยุธยา จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 13:54:59

ความคิดเห็นที่ 63 ขออนุญาตเก็บข้อมูลนะคะ จากคุณ : pchamaip เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 07:25:01

ความคิดเห็นที่ 64   save save ขอบคุณมากมายค่ะ จากคุณ : ตุ๊กกะแตน เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 08:38:42

ความคิดเห็นที่ 65 เดี๋ยวตุ๊กตาหน้ารถขอเก็บข้อมูลไปให้คุณแฟนก่อน ขอบคุณมากนะคะ สำหรับข้อมูล มีประโยชน์จังค่ะ จากคุณ : Elmony เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 10:42:43

ความคิดเห็นที่ 66 เยี่ยมมากค่ะ จากคุณ : บัวนลิน เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 16:48:49

ความคิดเห็นที่ 67 ขอ save เก็บไว้แล้วนะคะ ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : dowhen เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 08:45:21

ความคิดเห็นที่ 68 เก็บ เก็บ เก็บ save save save ขอบคุณนะคร้า สำหรับความใจดี จากคุณ : น้องอ้วนกะพี่ผอม เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 00:24:47

ความคิดเห็นที่ 69 ขอบคุณมากมายสำหรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากๆ ครับ จากคุณ : white koala (white koala) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 08:29:44

ความคิดเห็นที่ 70 ยอดเยี่ยมเลยค่ะ ขอบคุณมากๆ จากคุณ : Najenjira เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 02:12:55