http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E9452441/E9452441.html
เรื่องขำๆของไกด์พาฝรั่งเที่ยวไทย ตอน 1,2,3,4,5
ตอนนี้ดิฉันจะมาเล่าประสบการณ์แปลกใหม่ของดิฉันนะคะ หลังจากที่ดิฉันทำทรานสเฟอร์ไปเรื่อยๆ ภาษาก็พอจะคุยกับแขกได้เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง ก็ถูๆไถๆกันไป ผิดบ้างถูกบ้าง verb to เดาลูกเดียว ใครๆในบริษัทก็รู้ว่าดิฉันชอบไปกับแขกเพื่อฝึกภาษา จึงมีรุ่นพี่หลายคนให้ดิฉันไปกับแขกช่วยเหลือและฝึกภาษาไปในตัว โดยการเป็นเพื่อนพาไปส่งร้านอาหารบ้าง ตลาดนัดบ้าง เดินห้างบ้าง นวดแผนโบราณบ้าง ดิฉันยินดีบริการด้วยความเต็มใจ งานบริการก็เป็นแบบนี้แหละค่ะ
แขกสเปนเนี่ยจะต้องดูแลให้ดี เพราะว่าเขาพูดภาษาอังกฤษไม่เป็น มีอยู่ครั้งนึงแขกผู้หญิงนักช็อบปิ้งสองคนเรียกแท๊กซี่ว่าไปพัฒน์พงศ์ แต่แขกออกสำเนียงตัวพ.พานไม่ได้ แขกก็เลยพูดว่าไปปาตุง แท๊กซี่ก็ไม่เข้าใจได้ยินปาตุงๆก็นึกว่าแขกจะไปปทุม เพราะฝรั่งพูดไม่ชัดก็เลยพาไปปทุมนนทบุรีโน่น ระหว่างทางแขกทั้งสองคนคุยกันและก็คิดไปว่า ก็ไหนไกด์บอกว่าพัฒน์พงศ์อยู่ใกล้โรงแรมไง นั่งรถสิบนาทีก็ถึงแล้วนี่ปาเข้าไปจะชั่วโมงแล้วยังไม่ถึง รถก็ติด มืดก็มืด มันเกิดอะไรขึ้น
แขกทั้งสองคนเริ่มปรึกษากันเป็นภาษาต่างด้าว ทำไมไม่ถึงซะที นั่นน่ะสิ หรือว่าแท๊กซี่แกล้งขับวนจะหลอกเอาค่ามิเตอร์ นั่นน่ะสิ หรือว่าพาเรามาที่เปลี่ยวจะปล้นเรา นั่นน่ะสิ หรือว่าจะข่มขืนเราด้วย นั่นน่ะสิ แล้วถ้าข่มขืนเราแล้วฆ่าปิดปากล่ะ นั่นน่ะสิ สถาณการณ์ในขณะนั้นเครียดมาก จะขอความช่วยเหลือจากใครดี โทรศัพท์มือถือก็แบตหมด ไม่อย่างนั้นยังจะพอโทรหาไกด์หรือหาใครเพื่อแจ้งว่าตอนนี้เราอยู่ที่ไหน เผื่อว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นผู้ร้ายจะได้เปลี่ยนใจ คำแนะนำนะคะถ้าแบตหมดก็แกล้งทำเป็นพูดคนเดียวไปเลย ว่าเธอรออยู่ตรงไหนแล้ว ตอนนี้ฉันอยู่ที่... คอยสังเกตุดูนะรถสี...ทะเบียน.. แล้วให้ถามแท๊กซี่ไปเลยว่าอยู่ตรงไหน จะทำให้ผู้ที่คิดจะก่อการร้ายได้สติ และเปลี่ยนใจไม่ทำร้ายคุณเพราะคุณระวังตัวแล้ว คุณผู้หญิงเข้าใจใช่มั้ยคะว่าเวลาตกอยู่ในที่คับขันเราจะคิดอะไร รู้สึกอย่างไร คงไม่ต่างไปจากแขกผู้หญิงทั้งสองคนนั่นแน่ๆ แล้วแขกก็ทำใจกล้าไม่เอาน่าอย่าคิดมากถามแท็กซี่ไปเลยดีกว่าเพื่อความสบายใจ แขกจึงถามแท๊กซี่ว่า "ปาตุง ปาตุง เยส" แท๊กซี่ว่า "เยสๆ ไอ โนว ปทุม มายโฮมเอง" จนมาถึงปทุมแขกก็ถามว่า " where mercado" หมายถึงตลาดอยู่ไหน แท๊กซี่งงฝรั่งพูดอะไรไม่รู้เรื่อง จะเอาอะไร รู้แต่ว่ามาถึงแล้วนี่ล่ะปทุม จ่ายค่ารถมาซะดีๆ มันนี่ มันนี่ แขกก็ไม่จ่ายไหนล่ะพัฒน์พงศ์ ไอบอกให้ยูพาไปปาตุง ไม่ใช่ปาตุม
ในที่สุดก็ทะเลาะกันแท๊กซี่เลยทิ้งแขกไว้ที่ปั้มนํ้ามัน แขกทั้งสองคนโมโหมาก ไหนจะกลัวถูกลวงไปปล้น ไปข่มขืน ไหนจะหลงทางเสียเวลา ไหนจะอยากไปซื้อของปลอมที่พัฒน์พงศ์กลัวตลาดปิด กว่าแขกจะหาทางกลับมาโรงแรมได้ ทำเอาพนักงานปั้มนํ้ามันปั่นป่วนไปด้วย สมัยนั้นไม่ได้มีบริการโทรศัพท์เรียกแท๊กซี่เหมือนสมัยนี้ และแถวนั้นก็ยังเปลี่ยว แต่ที่สำคัญก็คือปัญหาเดิมแขกพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย จำชื่อโรงแรมก็ไม่ได้ นามบัตรของโรงแรมก็ไม่ได้เอามา เลยเรียกคุณตำรวจมาช่วยพาแขกทั้งสองคนกลับ ตระเวณหาโรงแรมแถวถนนสุขุมวิทกว่าจะหาเจอก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยงคืน
รุ่งเช้ามาเดือดร้อนไปทั้งบริษัทเพราะแขกจะเอาเรื่องแท๊กซี่ให้ได้ บอกว่าให้ตามหาที แท๊กซี่เป็นผู้ชายผิวสีดำแดง ไม่อ้วนไม่ผอม ตัวไม่สูงไม่เตี้ย มือไม่เล็กไม่ใหญ่ ใบหน้าก็เรียบๆเหมือนคนเอเชียทั่วไป คิ้วไม่ดกไม่บาง จมูกไม่แบนไม่โด่ง ตาไม่ตี่ไม่โต ปากไม่หนาไม่บาง ตำหนิที่ใบหน้าหรือร่างกาย ไม่เห็นมี ไม่ได้สังเกตุเพราะมัวแต่ทะเลาะกันอยู่ สีของรถแท๊กซี่ จำไม่ได้มันมืด ทะเบียนไม่รู้อ่านไม่ออกเพราะเป็นตัวอักษรไทย หมายเลขจำไม่ได้เพราะไม่ได้จดไว้ รุ่นของรถแท๊กซี่ ไม่รู้จัก รู้แต่ว่าเป็นรถเก๋ง มีพวงมาลัยอยู่ทางขวามือ (ที่สเปนอยู่ทางซ้ายมือ) ทุกคนได้ฟังข้อมูลจากแขกแล้วก็ถอนใจ จะหาแท๊กซี่คันนั้นเจอมั้ยเนี่ย ก็ต้องปลอบใจแขกกันไป ไม่เป็นไรทางบริษัทจะช่วยประสานงานตามหาแท๊กซี่ให้ได้ เพื่อมาขอโทษแขกที่ทิ้งไว้กลางปั๊มนํ้ามัน (ไม่ทิ้งไว้กลางป่าก็บุญแล้ว) คิดว่าคงจะหาตัวได้ไม่ยากจากข้อมูลที่ให้มาชัดเจนมาก ขอให้คุณผู้หญิงทั้งสองคนกลับไปโรงแรมพักผ่อนให้เต็มที่ คืนนี้จะให้ไกด์โซนิต้าไปเป็นเพื่อนเดินซื้อของที่พัฒน์พงศ์ แขกจึงยอมกลับโรงแรม ดิฉันคิดเฮ้อก็ตัวเองก็ตัวพูดไม่ชัดเองนี่นา ปาตุง ปาตุง
หลังจากเกิดเหตุการณ์ครั้งนั้น โซนิต้าก็เลยงานเข้า รับอาสาบริการทุกที่ที่อยากไป ขอให้บอกโซนิต้ายินดีรับใช้ มาวันหนึ่งรุ่นพี่ให้ดิฉันพาแขกไปนวด แต่ไม่ใช่นวดแผนโบราณอย่างที่เคยไป แขกอยากจะนวดแผนปัจจุบัน ดิฉันก็ถามแผนปัจจุบันมันเป็นยังไงคะไม่รู้จัก พี่เขาก็บอกว่า ก็อาบอบนวดไง ฮ้า....จะให้ดิฉันพาแขกไปอาบอบนวดเนี่ยนะ ดิฉันไม่รู้จัก ไม่เคยไป เคยแต่ผ่านข้างหน้า เอ้าไปก็ไปอยากรู้เหมือนกัน ว่ามันเป็นอย่างไร คุณหมอนวดสวยมั้ย แล้วเค้านวดกันอย่างไร ความอยากรู้อยากเห็นทำให้ดิฉันรับปากรุ่นพี่ไป ได้ค่ะเดี๋ยวหนูไปกับคนขับรถ รุ่นพี่บอกว่าไม่ต้องทำอะไรมาก พอเข้าไปจะมีคนเชียร์มาดูแลแขกเอง เธอก็นั่งรอพอเสร็จก็พาแขกนั่งแท๊กซี่กลับโรงแรม รุ่นพี่ก็เลยให้เงินค่าแท๊กซี่กับค่าขนมดิฉัน
ในใจดิฉันคิดว่าอู้ย...เราจะได้ไปอาบอบนวดแล้ว กลัวก็กลัว อยากไปก็อยากไป ระหว่างทางก็คุยกับแขกคุณปู่อายุเจ็ดสิบกว่าแล้ว รูปร่างผอม ตัวเล็กนิดเดียว แต่ใบหน้าและลำตัวผิวหนังเหี่ยวย่นยับยู่ยี่ไปทั้งตัว ด้วยความสงสัยว่าทำไมถึงอยากมาอาบอบนวด คุณปู่ก็ตอบดิฉันว่า ภรรยาเสียไปนานแล้ว และเพื่อนที่เคยมาเที่ยวที่เมืองไทยบอกมาว่า ต้องมาอาบอบนวดให้ได้ไม่งั้นเสียเที่ยว ดิฉันถามต่ออีกแล้วไอ้นั่นของเธอยังเวิร์คอยู่เหรอ (ดิฉันเป็นคนเปิดเผยค่ะคุยกันตรงๆเลย) แขกก็หยิบไวอกร้ามาโชว์ดิฉันหนึ่งแผง ดิฉันถึงกลับตกใจร้อง "ฮ้าทำไมถึงเอามาเยอะขนาดนี้ ไม่กลัวตายคาอกเหรอ" คุณปู่หัวเราะดิฉันแล้วบอกว่า "โซนิต้าจำไว้นะ ถ้าฉันตายคาอกก็เป็นวันที่ฉันจะมีความสุขมาก ดีกว่าฉันไปเดินข้ามถนนแล้วถูกตุ๊กๆชนตาย" ดิฉันจำคำพูดคำนั้นได้จนถึงทุกวันนี้ ที่ต่างประเทศโดยเฉพาะแถบอเมริกาใต้ ไม่มีบริการอาบอบนวดนี้ (จริงๆนะคะเคยมีแขกติดต่อถึงขนาดจะให้ดิฉันเป็นเอเย่นต์จัดหาหมอนวดไปทำงานต่างประเทศ แต่ดิฉันปฏิเสธโดยสิ้นเชิง)
พอรถมาถึงดิฉันกับแขกถึงกับตกตะลึง เดินเข้าไปใกล้ๆแล้วมองดูตึกสูงประมาณห้าชั้น ตกแต่งด้วยไฟกระพริบวิบวับ ดึงดูดความสนใจเชิญชวนให้เข้าไปข้างใน ดิฉันกับแขกหยุดยืนดูอยู่สักพัก ทำให้ดิฉันนึกถึงฉากภาพยนต์ไทยบ้านทรายทอง ที่นางเอกเดินผ่านรั้วบ้านเข้ามาแล้วพบกับความอลังการของบ้านทรายทอง ความรู้สึกของดิฉันในเวลานั้นไม่ต่างไปจากพจมานเลย ตกตะลึงในความใหญ่โตและกลัวบวกกังวล แต่นี่ไม่ใช่บ้านทรายทอง นี่มันเป็นอาบอบนวด แต่ด้วยหน้าที่การงานของดิฉันคือไกด์ ไกด์แปลว่าผู้นำ ผู้ที่อธิบายให้ความรู้ ด้วยเหตุนี้คำว่าผู้นำจะทำให้ดิฉันกลัวไม่ได้ วิตกกังวลไม่ได้ ลังเลไม่ได้ ถอยหลังก็ไม่ได้ ต้องเดินหน้าอย่างเดียว ถ้าผู้นำขาดประสิทธิภาพแล้ว จะทำให้ผู้ตามเกิดความกลัว ความกังวล ความลังเล ไม่แน่ใจ ไม่เชื่อมั่น ไม่ปลอดภัย
ดิฉันจึงทำเป็นใจกล้าพาแขกเข้าไปข้างใน เดินผ่านประตูอัตโนมัติที่มีสติ๊กเกอร์ติดคำว่า wellcome โอ้โห.. ตระการตาจริงๆเลย ภายในแบ่งเป็นโซนๆ มีค๊อฟฟี่ช็อบบริการอาหารเครื่องดื่มและมีดนตรีเล่นกันสดๆ ฝั่งตรงข้ามจะเป็นที่นั่งของคุณหมอนวดนั่งกันเต็มไปหมดเลย นั่งคุยกันบ้าง ดูโทรทัศน์บ้าง หันมายิ้มกวักมือเรียกแขกบ้าง ทั้งหมดที่เห็นเวลานั้นมีประมาณร้อยกว่าคนได้ สวยๆทั้งนั้น ขาวจั๊วะน่าเจี๊ยะ แต่ละคนก็โชว์ผลิตภัณท์ฟาร์มโคนมกันเต็มที่ อวบอัดขนัดแน่น บริเวณที่คุณหมอนั่งก็จะแบ่งเป็นสามโซนดังนี้ คือโซนแรกมีคุณป้าใส่ชุดปกติทั่วไป คอยบริการนวดแผนโบราณสำหรับผู้ที่ต้องการขจัดความปวดเมื่อยจริงๆ อีกโซนจะเป็นคุณหมอใส่ชุดยูนิฟอร์มบางเบาวาบหวิวปลิวลม โซนสุดท้ายคุณหมอจะใส่ชุดราตรีฟรีสไตล์ ที่สังเกตุดูบางคนขาสวยเน้นขาก็จะใส่ชุดสั้นเพื่อโชว์ท่อนขาขาวๆเรียวๆ บางคนขาคงไม่สวยมั้ง ใสชุดยาวแต่จะแหวกขึ้นมาถึงต้นขาสูงมากแบบให้เห็นกันวับๆแวมๆ อีกแบบนี่ชุดยาวปิดสนิทเลย แต่เปิดไหล่เกาะอกบ้าง แต่ที่เห็นส่วนใหญ่จะใส่แบบมาริลีนคือคอวีกว๊านลึกมีสายคล้องคอ ชุดนี้เกิดมากๆ เพราะเป็นชุดที่ได้รับความนิยม เรียกว่าทั้งฟาร์มมีผลิตภัณท์เท่าไหร่ขนมาโชว์กันหมด สมกับสโลแกนที่ว่า ขาวจั๊วน่าเจี๊ยะ อวบอัดขนัดแน่น ดิฉันคิดในใจนี่ละนะที่เค้าเรียกกันว่าตายคาอก มันคงเป็นเพราะโดนแม่โคเอานมมาอุดจมูกตายนี่เอง
พนักงานเชียร์เดินเข้ามาหาดิฉันแล้วถามว่า แขกอะไรพี่ อ๋อแขกสเปนค่ะ เค้าพูดภาษาอังกฤษได้มั้ยพี่ ดิฉันก็ตอบไปไม่ได้เลยค่ะ งั้นพี่ช่วยแปลให้ผมหน่อยนะ ได้ค่ะ แล้วพนักงานก็ให้แขกเลือกโดยบรรยายสรรพคุณของแม่โคแต่ละตัวว่ามีดีอะไร ดิฉันก็เลยต้องแปลไปจินตนาการตามไปด้วย คนนี้ไม่สวยแต่ลีลาเด็ด คนนี้เน้นบริการเอาอกเอาใจ คนนี้นะสุดยอดพนักงานทำท่ากินไอติม (อย่าว่าดิฉันทะลึ่งนะคะ ) แขกถามว่านวดยังไง พนักงานก็ตอบว่า กู๊ดๆ น้องจะพายูไปอาบนํ้าก่อน ดูแลยูเหมือนยูเป็นเบ่บี๋เลย สระผม ทำความสะอาดให้ทั้งตัวหัวจรดเท้า ลงไปในอ่างด้วยกันเลย (พร้อมกับเอารูปสาวๆนั่งฟองฟ้อดเหมือนอยู่ในกาละมังซักผ้ามาให้ดู) นวด รีแล็กซ์ๆ แล้วจากนั้นจะเอาโฟมมายูก็ลงไปนอน หมอจะขึ้นไปสไลด์อยู่บนหลังยู ขัดๆถูๆ ขัดๆถูๆ โตร่าดิฉันแปลไปก็นึกตามไป มันเป็นยังไงนะไอ้สไลด์ ขัดๆถูๆ ขัดๆถูๆ โตร่าเนี่ย (แล้วเอาอะไรมาขัด เอาฟองนํ้าเหรอ ดิฉันได้แต่คิดแต่ไม่กล้าถามเพราะอาย) หลังจากนั้นก็แฮ๊ปปี้ ๆ เซเว่นพาราไดซ์ อันนี้พอจะเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
แขกก็ตกลงเลือกน้องหนูคนหนึ่งหน้าตาน่ารัก จมูกแบนแป้ด ก็อย่างที่บอกแขกชอบพันธ์เปอร์เซีย แต่เธอมีดีตรงที่ฟาร์มโคนมของเธอใหญ่โตมโฬารเกินคำบรรยายจริงๆ ดิฉันหวังว่าแขกคงไม่โดนแม่โคเอานมมาอุดจมูกตายซะก่อนนะ ไม่อย่างนั้นจะเกิดคดีใหม่แน่ๆ พนักงานพาแขกไปจ่ายเงิน แล้วก็ไปกับน้องเหมียวพันธ์เปอร์เซียไม่หันมามองดิฉันเลย ฮึได้ใหม่แล้วลืมเก่าความรู้สึกมันเป็นอย่างนี้นี่เอง แขกไปแล้วดิฉันจะทำยังไงดีอยู่คนเดียวอายก็อายเพื่อนก็ไม่มีแล้วจะให้ไปนั่งรอตรงไหน มองไปทางไหนก็มีแต่ผู้ชายเต็มไปหมด ทั้งคนไทยคนต่างชาติ จะให้ไปนั่งรอในคอฟฟี่ช็อบก็กลัวจะหาว่าดิฉันเป็นหมอนวดต่างถิ่นเข้ามาแย่งแขก อย่าเข้าใจผิดนะไม่ใช่นะเป็นไกด์มาส่งแขกเฉยๆ และที่สำคัญดิฉันก็มีเงินไม่มากพอ กลัวสั่งอาหารมาไม่มีเงินจ่าย แล้วให้ดิฉันไปนวดแขก นวดก็ไม่เป็น สไลด์ก็ไม่เป็น ทำอะไรก็ไม่เป็น ยังไม่ได้เทรนมาเลยดีไม่ดีเตรียมนํ้าร้อนไม่เป็นทำนํ้าร้อนลวกแขกไอ้นั่นพองไปจะทำยังไง หรือใส่สบู่มากไปจนฟองล้นไปทั่วห้องหาทางออกไม่เจอดิฉันกับแขกไม่สำลักฟองตายเหรอ แล้วไอ้ตอนที่ดิฉันจะต้องไปสไลด์บนหลังแขกนี่สิ ขัดๆ ถูๆ ขัดๆ ถูๆ ทำไม่เป็นเลยฟองนํ้าก็ไม่ได้เตรียมมา ถ้าให้เหยียบหลังยังพอไหว และถ้าดิฉันทับแขกแบนตะแล๊ดแต๊ดแต๋ตายไปล่ะ คุณก็น่าจะพอเดาได้นะว่าดิฉันมีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร ก็คิดดูแล้วกัน กินกล้วยหมดไปหนึ่งหวีเพื่อรองท้อง จะได้มีแรงไปทำกับข้าวต่อ
ดิฉันมองหาที่นั่งฟรีๆแบบไม่ต้องเสียเงิน อ๊ะ..นั่นไงตรงนั้นไง ดิฉันเห็นแล้วว่านั่งรอตรงไหน เป็นที่นั่งเหมือนขั้นบันไดสี่ห้าขั้น ปูพรมสีแดงเหมือนด้านในที่หมอนวดเค้านั่งกัน อยู่ตรงทางเข้า มุมเล็กๆ เอาตรงนี้แหละนั่งตรงนี้สบายดีมีที่พิงหลังด้วย มีโทรทัศน์ให้ดูด้วย พอดีเลยละครที่ดิฉันชอบดูมาพอดี จะได้ไม่เบื่อเพราะต้องรอแขกถึงสองชั่งโมง ระหว่างที่ดิฉันนั่งรอแขกนั้น ก็มีอาเฮีย อาแปะ อาบังเดินมามองดิฉันไม่ขาดสาย ดิฉันก็ได้แต่ยิ้มๆ เพราะเขินไม่รู้จะทำอะไร มีแขกที่มาใหม่เปิดประตูเดินเข้ามาก็จ้องดิฉัน ใครที่เดินเข้ามาจะเห็นดิฉันก่อนเลย เพราะที่นั่งมุมนั้นเด่นมาก แถมมีข้อความข้างบนเขียนไว้ด้วยว่า super star ในใจดิฉันก็คิดว่าสงสัยพวกนี้คงชอบของแปลก มามองดิฉันทำไม ไม่กลัวหลังหักหรือแบนเป็นกล้วยปิ้งก็มา ข้างในค่ะ มีคุณหมอนวดสวยๆตั้งเยอะ โน่นอยู่โน่น เชิญทางโน้นค่ะ
นั่งรอแขกอยู่เกือบชั่งโมงกว่าๆ ก็มีไกด์ที่ดิฉันรู้จักพาแขกเข้ามาพอดี พอส่งแขกเสร็จเรียบร้อยก็เดินตรงมาหาดิฉันแล้วพูดว่า นี่รู้มั้ยมานั่งทำอะไรตรงนี้ ดิฉันก็ตอบว่าก็นั่งดูโทรทัศน์น่ะสิ ไกด์คนนั้นก็พูดต่อว่า บ้าเหรอตรงนี้เป็นที่นั่งสำหรับหมอนวด ดิฉันสงสัย หมอนวดอะไร หมอนวดเค้านั่งกันอยู่ข้างในโน่น ไกด์คนนั้นตกใจแล้วก็พูดว่า ต๊าย...เธอไม่รู้จริงๆหรือว่าตรงนี้เค้าเป็นที่นั่งสำหรับหมอนวดที่เป็นsuper starน่ะ ที่เค้าเรียกว่าดาวน่ะ รู้จักมั้ยดาวต้องเป็นคนที่สวยที่สุด เอ๊าะที่สุด เด็ดที่สุด ถึงจะมานั่งตรงนี้ได้ ดิฉันได้ฟังแล้วก็ตกใจไปด้วย ตายละหว่า มิน่าถึงมีคนเดินมาดูเราไม่ขาดสาย คงจะสงสัยว่ายายอ้วนนี่มีดีอะไรถึงได้เป็นดาวประจำอาบอบนวด เอ๊ะแต่ไม่เห็นมีใครมาเรียกดิฉันเลยนี่นา ว่าแล้วดิฉันก็ยังนั่งต่อทำหน้าทำตาเฉย ยิ้มแย้มเข้าไว้ ยิ้มแย้มเข้าไว้ (อายก็อายแต่ต้องยิ้มแย้มเข้าไว้) เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะว่าต้องรักษาฟอร์มกลัวหน้าแตก กลัวคนหัวเราะเยาะดิฉัน จับได้ว่าดิฉันซื่อบื้อ ไม่รู้อะไรเลย เพื่อนไกด์ของดิฉันก็เลยเดินหนีไปทำเป็นไม่รู้จักดิฉัน จนแขกลงมาพอดี ดิฉันดีใจมากแขกของดิฉันรอดตายแล้วรวมทั้งตัวดิฉันด้วย ดิฉันถามแขกว่าเป็นอย่างไร แขกบอกว่าพรุ่งนี้จะมาอีก จะมากินแซนด์วิช ดิฉันก็งงแซนด์วิชที่โรงแรมก็มี ทำไมจะต้องมากินที่นี่ด้วย พาแขกนั่งแท๊กซี่กลับโรงแรม
ถ้าคืนนั้นอาบอบนวดต้องเสียชื่อเสียงเพราะดิฉัน ดิฉันก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ที่ต้องไปที่นั่นก็เพราะกลัวแขกหลงทางเป็นอันตราย ดิฉันไม่ได้มีเจตนาทำลายชื่อเสียง หรือหลอกลวงลูกค้าที่มาใช้บริการ อย่าว่าเค้านะที่ไปนั่งรอตรงนั้น ก็เค้าไม่เคยไปนี่ตัว ไม่รู้จัก ขอโทษจริงค่ะ
โซนิต้า แก้ไขคำผิด เพิ่มเติมข้อความเพื่ออรรถรสในการอ่าน และไม่ได่มีเจตนาดูถูกลูกผู้หญิงด้วยกัน มีแต่ความชื่นชมค่ะ
แก้ไขเมื่อ 14 ก.ค. 53 09:29:52
แก้ไขเมื่อ 14 ก.ค. 53 08:48:00
แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 53 16:29:04
แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 53 13:41:17
แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 53 13:37:43
แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 53 13:32:27