Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เรื่องขําๆของไกด์พาฝรั่งเที่ยวไทย ตอน 9  

http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E9492069/E9492069.html  เรื่องขำๆของไกด์พาฝรั่งเที่ยวไทย  ตอน  1,2,3,4,5,6,7,8


ตอนที่แล้วว่าด้วยการลืมสิ่งของ  ตอนนี้ดิฉันจะมาเล่าว่าแล้วถ้าเป็นคนล่ะ  ใครที่จะสามารถลืมคนกันได้  เรื่องก็มีอยู่ว่าดิฉันเวลาไปส่งแขกที่จะไปสนามบิน  ถ้ามีแขกหลายคนก็ต้องใช้รถบัสคันใหญ่  มีสองประตูตรงคนขับหนึ่งประตู  และตรงกลางรถบัสอีกหนึ่งประตู  ทุกครั้งก็จะมีเหตุการณ์อลหม่านมากน้อยก็แล้วแต่แขก  แต่ละกรุ๊ปจะมีพฤติกรรมอย่างไร  ไม่ค่อยจะมีหรอกค่ะที่จะเห็นทุกคนมานั่งรอเป็นระเบียบพร้อมกับสัมภาระ  และทำเช็คเอ้าท์เรียบร้อยแล้ว  ถ้ามีก็เหมือนกับถูกหวยรางวัลใหญ่ทีเดียวค่ะ



บางคนได้เวลาออกยังหลับอยู่บนห้องเลยค่ะ  บางคนก็ยังรับประทานอาหารเช้าอยู่เลย  บางคนก็หายสาบสูญไปไหนไม่รู้หาตัวไม่เจอ  มีแต่กระเป๋ามากองไว้  พอได้เวลารถออกถึงปรากฎตัว  บางคนแสนดีมานั่งรอก่อนพร้อมกระเป๋าทำเช็คเอาท์แล้ว  ประเภทนี้จะน่าสงสารที่สุด  เป็นคนดีตรงเวลาแต่ต้องมานั่งทำใจกับพวกไม่รู้จักเวลา  ก็อย่าโกรธกันเลยมาด้วยกันเหมือนลงเรือลำเดียวกันแล้ว  ไปไหนก็ต้องไปด้วยกัน  บางทีดิฉันก็แอบกระซิบเวลาออกที่แท้จริงไปเลย  ก็ยังเห็นคนกลุ่มนี้มานั่งรอก่อนเวลาเหมือนเดิมทุกที   เร็วก็แก้ไม่ได้  ช้าก็แก้ไม่ได้เหมือนกัน



เอาเป็นว่าทุกอย่างเรียบร้อย  เด็กรถช่วยนับแขกจนตาลายเพราะแขกวิ่งขึ้นวิ่งลง   ประตูหน้าประตูหลัง  ดิฉันก็ช่วยนับด้วย  โอเคครบออกได้   รถบัสออกมาได้สักระยะกำลังจะขึ้นทางด่วน  ก็มีเสียงโทรศัพท์กริ๊งมา " คุณไกด์คะแขกขอคุยด้วยค่ะ"  ดิฉันก็นึกว่าแขกที่ไหน  "ฮัลโหล  โซนิต้าพูดค่ะ"  เป็นเสียงผู้ชายพูดว่า  "เธออยู่ไหน  ฉันกับเมียยังอยู่ที่โรงแรมอยู่เลย"  ดิฉันคิดใครอยู่ที่โรงแรม  "นั่นใครน่ะ"  ผู้ชายคนนั้นก็ตอบมาว่า  "ฉันไงที่บอกเธอว่าจะไปเข้าห้องนํ้าให้เธอรอแป๊บนึงไง"  เออใช่จริงๆด้วย  ดิฉันนึกขึ้นมาได้  รีบสั่งรถบัส  "พี่หนูลืมแขกไว้ที่โรงแรมคู่นึงกลับด่วน"  แล้วดิฉันก็ประกาศทางไมค์  ขณะนี้เราจำเป็นต้องเลี้ยวรถกลับไปรับแขกอีกคู่หนึ่ง  ซึ่งไกด์ได้ลืมไว้ที่โรงแรม   พอไปถึงโรงแรมเจอแขกทุกคนดีใจกันใหญ่  วิ่งเข้ามากอดกัน  ปรบมือต้อนรับกลับขึ้นรถบัส  แล้วแขกก็หันมาฮึ่มๆใส่ดิฉันนิดหน่อย  ดิฉันก็ทำตาปริบๆแบมือให้ตีหนึ่งทีเป็นอันหายกัน  เกือบไปแล้ว ดิฉันเกือบต้องรับเลี้ยงฝรั่งคู่นั้นแล้ว



คราวนี้ดิฉันลืมแขกไว้ที่สนามบินค่ะ    ส่วนใหญ่แขกสเปนจะเดินทางมากับการบินไทยเพราะมีไฟล์ทที่บินตรงมาจากมาดริด  ถึงกรุงเทพเวลาหกโมงเช้า  ธรรมดาเวลากลางวันดิฉันก็ค่อนข้างเอ๋ออยู่แล้ว  และนี่ต้องตื่นเวลาตีสี่เพื่อมานั่งรถตอนตีห้า  มาถึงสนามบินตอนตีห้าสี่สิบ  กรอกเอกสารเข้าห้องนํ้า  ดื่มกาแฟนิดหน่อยก็ปาเข้าไปหกโมงกว่าพอดี  ไปยืนชูป้ายต้อนรับแขก  กรุ๊บนั้นมีแขกประมาณสิบแปดคน  พอแขกมาถึงก็มารายงานตัวว่านี่คือฉันนะ  ดิฉันก็จะติ๊กชื่อ  เอ้าเซ็นยอร์  กราเซีย  เซ็นยอร์เฟอรนันเดส  เซ็นยอร์โลเปซ  เซ็นยอร์มาติเนซกับครอบครัว  เอาเป็นว่าครบทุกคนก็แล้วกันค่ะ  ระหว่างที่รอแขกนั้นบางคนก็จะถือโอกาสไปแลกเงิน  ไปสูบบุหรี่  มีครอบครัวมาติเนซบอกดิฉันว่าขอตัวไปสูบบุหรี่หน่อยนะ  ดิฉันก็ว่าเชิญค่ะด้านนอกเสร็จแล้วมาเจอกันตรงนี้นะคะ  



พอดิฉันดูที่ติ๊กไว้ในกระดาษอ้าวครบแล้วดิฉันก็เรียกทุกคนรวมตัวกัน  มุ่งหน้าไปที่ลานจอดรถ  ขนกระเป๋าแยกกันไว้ใครอยู่โรงแรมอะไร  ใครต้องลงก่อนลงหลัง   ระหว่างทางดิฉันก็จะอธิบายโปรแกรมทัวร์ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนบ้าง  ต้องแต่งตัวอย่างไร  เวลาเข้าวัดให้ใส่มิดชิดหน่อย  สงสารพระบ้างเถิดเปิดนู่นเปิดนี่พระท่านเห็นแล้ว  เวลาหลับตาท่านจะสมาธิไม่ได้  เห็นภูเขาลอยมาอยู่ตรงหน้าสองลูก  หรืออย่าใส่สั้น  ใส่บาง  ให้ใส่ปิดมิดชิดตั้งแต่คอลงไปถึงถึงตาตุ่มกันเลยทีเดียว  พอช่วยแขกเช็คอินเรียบร้อยก็แยกย้ายไปพักผ่อน  ตอนบ่ายต้องไปทัวร์คลองแวะชมวัดอรุณ   ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี  แขกประทับใจพระปรางค์วัดอรุณที่ประดับด้วยจานกระเบื้องและเปลือกหอย  และตามแม่นํ้าลำคลองมีบ้านทรงไทย  มีวัดเล็กๆ  เห็นเด็กกระโดดนํ้ากันอย่างสนุกสนาน   ต้นไม้ร่มรื่นไปตลอดทาง  แขกบางคนบอกสวยมากแต่ดิฉันเห็นว่าเขานั่งหลับไปเกือบจะตลอดทาง  โถ..น่าสงสารคงจะเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง  เพราะแขกหลายคู่มาฮันนีมูนคือพอเสร็จพิธีในโบสถ์จูบกันโยนดอกไม้จบงานเลี้ยงกลางดึกแล้วก็บินมาเมืองไทยเลย  พอถึงห้องแทนที่จะนอนหลับพักผ่อนก็ไม่ใช่  หลายครั้งที่ดิฉันต้องเอาเอกสารที่หลงอยู่ไปส่งแขกบนห้อง  พึ่งจากกันไม่ถึงห้านาที  พอแขกเปิดประตูมาเท่านั้นแหละ  โป๊กันทั้งคู่แล้วไม่เหลืออะไรเลย  ดิฉันคิดแหมรีบทำประตูกันเลยนะ




พอเสร็จทัวร์ดิฉันก็ส่งแขกไปนวดแผนโบราณ  จะได้ยืดเส้นยืดสายคลายปวดเมื่อย  แนะนำร้านอาหารให้แขกไปทานกันเอง  เดินเล่นพัฒน์พงศ์  จบหมดวันกลับโรงแรมนอน  รุ่งเช้าดิฉันจะพาไปทัวร์วัด  จนดิฉันกลับบ้านก็นึกขึ้นได้แขกไปกับเราทั้งหมดสิบห้าคน  แล้วครอบครัวมาติเนซล่ะหายไปไหนไม่ยอมมาออกทัวร์กับดิฉัน  เดี๋ยวพรุ่งนี้จะถามซักหน่อยมีไกด์น่ารักขนาดนี้แล้วยังจะหนีไปไหนอีกฮึ  พอรุ่งเช้าแขกก็มารอออกทัวร์  ดิฉันเห็นแล้วนั่นไง  ครอบครัวมาติเนซ  ดิฉันรีบวิ่งเข้าไปต่อว่าแขกทันที   " นี่เธอเมื่อวานหนีไปไหนกัน  ทำไมไม่มาเที่ยวกับฉัน  ทุกคนเขามากันหมดไปเที่ยวทัวร์คลองนั่งเรือหางยาวเจมส์บอนด์  แล้วก็ยังไปนวด  ทานข้าวที่ร้านอาหารไทยนะอร๊อยอร่อย  แล้วยังไปเดินเล่นพัฒน์พงศ์ต่อเลย  ฮึไหนบอกมาซิว่าเธอหายไปไหนกันคะ"  แขกได้ฟังที่ดิฉันพูดมาแล้วก็ทำหน้างง   แล้วพูดว่า  "พวกเราไม่ได้ไปไหนเลย"  ดิฉันถาม " อ้าวทำไมไม่ไปไหนเลยล่ะ"  แขกก็ตอบว่า  "ก็พวกเราไม่รู้จักกรุงเทพพวกเราไม่กล้าไปไหนกลัวหลง"   ดิฉันก็ว่า  "อ้าวแล้วทำไมไม่ไปกับฉันล่ะ  เมื่อวานนี้พอเช็คอินที่โรงแรมเสร็จพวกเธอก็หนีฉันไปเลยนี่ "  แขกได้ฟังก็ทำหน้างงหนักเข้าไปอีก  "พวกเราทิ้งอะไรเธอ  เธอนั่นแหละที่ทิ้งพวกเราไว้ที่สนามบิน  ฉันออกไปสูบบุหรี่แป๊บเดียวกลับมาทุกคนหายไปกันหมดแล้ว"  ดิฉันเมื่อได้ยินดังนั้นแทบจะไม่เชื่อหูตัวเองเลย  "อะไรน๊า  จริงเหรอ"



 ดิฉันเริ่มทบทวนเหตุการณ์   ใช่แขกบอกว่าจะไปสูบบุหรี่แล้วก็....  อ้าวไม่ได้เดินตามเรามาหรอกเหรอ  มิน่าเมื่อวานไม่เห็นแขกเลย  พอนึกได้ดังนั้นจากบทบู้ลุยล้างผลาญ  ต้องเปลี่ยนเป็นบทเศร้าเคล้านํ้าตา " เซ็นยอร์ฉันขอโทษ  ฉันไม่ได้ตั้งใจทิ้งเธอไว้เลย  ฉันเสียใจ  ฉันผิดเองลงโทษฉันเถอะ  จะให้ฉันทำอะไรก็ได้  บอกมาเลย  อ้าว แล้วเธอมาได้ยังไง"  แขกก็ตอบว่าหลังจากที่ยืนรอจนแน่ใจแล้วว่าถูกไกด์ทิ้งแน่ๆ  ในใจก็คิดไปว่า  เป็นไปไม่ได้  เป็นไปไม่ได้  เป็นไปไม่ได้  ดิฉันได้ยินแขกเล่าดังนั้น   ดิฉันอยากจะบอกว่าสำหรับดิฉันเป็นไปได้ค่ะ     ดิฉันยังจำได้คนอะไรไม่รู้น่ารักไม่โกรธดิฉันเลย  จะจ่ายค่าแท๊กซี่ให้ก็ไม่ยอม   บอกว่าเป็นความผิดของเค้าเองที่ออกไปสูบบุหรี่  โธ่....เวรกรรม



มีหลายครั้งเหมือนกันที่ดิฉันต้องเดินทางไปต่างจังหวัด  ก่อนออกจากโรงแรมดิฉันจะสั่งให้ลูกทัวร์ทุกคนตรวจเช็คสัมภาระในการเดินทางให้ดี  ไม่ลืมของไว้ที่โรงแรม  ตั๋วเครื่องบิน  พาสต์ปอร์ต  กระเป๋าสตางค์  และก่อนขึ้นรถทุกครั้งให้ชี้กระเป๋าดูว่ากระเป๋าอยู่ในรถครบทุกใบแล้ว  เรียบร้อยเดินทางได้  โปรแกรมขึ้นเหนือก็ต้องไปเที่ยวอยุธยา  ลพบุรี  ผ่านนครสวรรค์  แวะพักที่พิษณุโลก  พอถึงโรงแรมก็เช็คอินเรียบร้อย  แยกย้ายกันไปดิฉันก็ไปนั่งรอกระเป๋าอยู่ในห้อง  รอจวนจะครึ่งชั่วโมงแล้วกระเป๋าก็ยังไม่มา  ดิฉันโทรลงไปที่เบลด้วยนํ้าเสียงที่ไม่พอใจ  "คุณคะกระเป๋าของไกด์ยังไม่มาส่งเลยค่ะ"  เบลก็ตอบว่า  "ของกรุ๊บพี่ผมส่งให้หมดแล้วนี่ครับ"  ดิฉันได้ยินดังนั้นก็คิดว่าสงสัยคนขับรถเอากระเป๋าลงไม่หมดลืมของดิฉันไว้บนรถแน่  เลยโทรไปหาคนรถ  "นี่คุณเห็นกระเป๋าสีเหลืองของหนูรึเปล่าคะ  เบลบอกว่าไม่เห็นที่โรงแรม  สงสัยคุณคงเอาลงมาไม่หมด"  คนขับรถตอบว่า  "เอาลงมาหมดแล้วคุณ  แต่ผมเห็นกระเป๋าสีเหลืองเมื่อเช้าที่โรงแรมวางไว้หน้าประตูไม่เห็นมีคนมาชี้ผมยังนึกเลยว่าสงสัยของแขกกรุ๊ปอื่นมั้ง"  ใช่แล้ว  ดิฉันนึกออกแล้ว  ดิฉันมัวแต่ยุ่งกลัวแขกจะลืมของ  เลยมัวแต่สั่งแขกให้เช็คกระเป๋าให้ดี  จนลืมของตัวเองไว้กรุงเทพ  แล้วจะทำยังไงดี  พรุ่งนี้จะเอาเสื้อผ้าที่ไหนใส่  แง  แง  แง  อยากร้องไห้



สรุปก็เดือดร้อนแฟนดิฉันจนได้  ต้องเอากระเป๋าไปทิ้งไว้ที่บริษัท  พรุ่งนี้จะมีแขกขึ้นมาอีกบัสโปรแกรมเดียวกัน  แต่กว่าจะได้เสื้อผ้าก็นู่นค่ะเชียงราย  คิดแล้วก็  แง๊  อยากฆ่าตัวตาย  ไม่ได้เป็นครั้งเดียวนะคะ  แฟนของดิฉันชินแล้ว  บางทีลืมกระเป๋าไว้ที่บ้านก็มีเหมือนกัน  ต้องตามเอาไปส่งที่อยุธยา  กาญจนบุรี   บางทีก็ลืมโทรศัพท์บ้าง  ที่ชาร์ตแบตบ้าง  ลืมเอกสารไม่รู้ชื่อแขก  ชื่อโรงแรม  ต้องโทรไปขอออพฟิศให้แฟกซ์เข้ามาใหม่  แต่ทุกคนเขาชินกับดิฉันกันหมดแล้วค่ะ  



ตอนหน้าดิฉันจะมาเล่าต่อเรื่องคนขี้ลืมนะคะ  ดูซิคะลืมกันเยอะจริงๆสองตอนยังไม่จบเลย  แต่คราวหน้าเป็นเรื่องตื่นเต้นค่ะ  คุณจะทำอย่างไรคะ  ถ้าไกด์ไปลืมคุณทิ้งไว้กลางป่า


ขอบคุณที่ติดตามนะคะ   โซนิต้า

จากคุณ : kittyx
เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 53 00:54:59




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com