ความคิดเห็นที่ 1 ก็คงต้องเอาใจเค้า มาใส่ใจเราหล่ะค่ะ ถ้าเป็นคุณ จองโรงแรมแล้ว แต่เพื่อความสบายใจลองโทรไปเช็คหน่อยซิ ว่ามีชื่อมั๊ย ปรากฏว่า ไม่มี ถาม agency ก็บอกว่าใช้ชื่อบริษัทจอง อ่ะไม่เป็นไร โทรไปถามที่โรงแรมใหม่ ปรากฏว่าไม่มีอีก แล้วทางคุณก็บอกไปว่า ใช้อีก agency จอง (แล้วใครจะรู้ได้หล่ะคะ คุณบอกว่าใช้ชื่อบริษัทจอง) สมมติลูกค้าท่านนี้ เธอสื่อสารภาษาอังกฤษไม่คล่อง คงไม่แปลก ถ้าเธอจะกังวลมากกว่าปกติ เพราะโรงแรมก็ไม่ได้ใช้ภาษาไทยในการสื่อสาร เธอก็คงอยากจะให้ทุกอย่างมัน ชัดเจน ถูกต้อง ก่อนจะถึงวันเข้าพักจริง ถ้าคุณได้แจ้ง booking no. กับลูกค้า และรายละเอียดทั้งหมดแต่แรก เหตุการณ์น่าจะจบได้สวยกว่านี้ค่ะ แค่หนึ่งความคิดเห็น จากคุณ : Dinie เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 03:48:48

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่เห็นว่าลูกค้าจะผิดตรงไหนเลย  เชื่อว่าถ้าลูกค้าได้รีเช็คแล้วไม่เจอ เป็นใครใครก็ต้องโวยค่ะ ตามหลักเวลาจองมันก็ต้องมีหลักฐานยืนยันการจองในนามของผู้จอง ไม่ใช่การจองยังเป็นชื่อเอเจนท์   หากเกิดการผิดพลาดไม่ว่าเกิดขึ้นจากเอเจนท์หรือซับเอเจนท์  มิโยนความรับผิดชอบกันให้วุ่นหรือคะ                                         และถ้าบริษัทของคุณยังคงดำเนินการแบบนี้  คงมีปัญหาเกิดขึ้นซ้ำๆ กันอีกแน่นอน   ฟังจากที่คุณเล่า คุณไม่ได้สร้างความมั่นใจให้ลูกค้าเลย ถ้าไม่อยากเสียลูกค้าปรับปรุงวิธีการเสียใหม่เถอะค่ะ จากคุณ : ไก่แก่แม่ปลาช่อน เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 04:21:07

ความคิดเห็นที่ 3 ปกติ แม้จะให้เอเย่นต์ทางสิงคโปร์จองห้อง  มันก็ต้องมีชื่อให้กับทางโรงแรมไม่ใช่หรือฮ้า เพราะเวลาเช็คอิน ทางโรงแรมเขาจะขอดูพาสปอร์ตว่าชื่อตรงกันหรือไม่  จึงจะเข้าห้องพักได้ หากจะใช้ชื่อบริษัทที่สิงคโปร์  เวลาเช็คอินก็ต้องให้บริษัทที่สิงคโปร์มายืนยันว่าเป็นผู้ทำการจองห้องพักนั้นๆ  ซึ่งมันผิดวิสัยการทำงานของเอเย่นต์นะฮ้า ชื่อและรายละเอียดของลูกค้าก็ให้มาหมดแล้ว แต่ไม่ทำการจองในชื่อนั้น(ไม่ว่าจะเป็นเอเย่นต์ไทยหรือสิงคโปร์ ก็ควรจะใช้ชื่อลูกค้าในการจอง) เป็นตัวนางฟ้าเอง นางฟ้าก็ไม่เชื่อใจเช่นกันนะฮ้า จากคุณ : นางฟ้านะยะ เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 06:37:10

ความคิดเห็นที่ 4 สงสารเจ๊แกเหมือนกัน เสียค่าโทรตรึมเลย คนทำธุรกิจต้องมีความรอบคอบครับ ต้องโทษคุณส่วนหนึ่งเหมือนกัน หวังว่าจะได้เป็นบทเรียน ดีที่เจ๊แกไม่เอามาโพสต์ลงในห้องนี้ กลายเป็นกระทู้แนะนำบริษัทคุณก็ไม่มีสิทธิ์เกิดเลย คุณอาจแค่เสียเวลาและเสียลูกค้ารายเดียว และเจ๊แกเสียทั้งความรู้สึกและค่าโทร ใครเสียมากกว่ากันครับ จากคุณ : mamao เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 07:11:30

ความคิดเห็นที่ 5 อ่านแล้วก็เข้าใจนะคะ...เข้าใจทั้งสองฝ่าย แต่ว่า ถ้าจะให้ดี....ก่อนตอบเจ๊แกก็ค้นหารายละเอียดทุกอย่างให้รอบคอบก่อนตอบค่ะ....และก็ค่อยโทรไปตอบทีหลัง เอาแบบให้เจ๊ตรวจสอบได้อย่างสบายใจ เจ๊จะโทรหรือไม่ ก็ได้ข้อมูลที่ตรง...คราวนี้ก็จะเป็นประโยชน์ทั้งสองฝ่ายค่ะ... เอาใจช่วยนะคะ เราทำธุรกิจบริสุทธิ์ใจ...เปิดข้อมูลไปให้กับผู้ที่สงสัยจะได้ไม่เสียลูกค้าค่ะ จากคุณ : auau_py เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 07:19:32

ความคิดเห็นที่ 6 จขกท ทำงานไม่รอบคอบ ตอบคำถามไม่ตรงแล้วยังคิดว่าตัวเองถูกอีก ผมว่าคุณกลับไปคิดทบทวนใหม่ละกัน ว่าลูกค้าถูกหรือผิด การ checkin ต้องอาศัยการยืนยันชื่อผู้เข้าพักนะครับ จากคุณ : Megatron (megatron) เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 07:38:14

ความคิดเห็นที่ 7 เห็นใจทั้งสองฝ่ายเช่นกันคับ แต่ขอติทาง Agency นิดนึงที่ให้ข้อมูลผิดพลาดเลยเป็นเหตุทำให้ลูกค้าไม่สบายใจ แต่ก็นับว่ามีความรับผิดชอบมากคับที่คืนเงินแบบเต็มจำนวน ไม่ได้หักค่าอะไร จากคุณ : Mr.Bosszaa เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 07:47:26

ความคิดเห็นที่ 8   ให้ข้อมูลเขาผิดตั้งแต่แรกเอง เขาเช็คแล้วไม่มีของขึ้นก็ถูกแล้ว คนสมัยนี้ไม่ใช่ตาสีตาสา ทีหลังพี่ก็ให้ข้อมูลเขาตามจริง ม่ายอย่างนั้นก็แค่รับรองไปตามเอกสารที่ให้เขา ไม่ต้องหยอดอะไรมากปากให้หนัก ชื่อหัวบริษัทเราเองก็มีใช้เป็นหลักประกันได้ก็ยืนยันไปตามนั้น ทำมาหากินแบบนี้เราขายแค่เป็นตัวแทนแท้ๆต้นทุนเรามาอย่างนี้จริง ลองพิจารณาดูครับ จากคุณ : ลองดู เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 07:48:37 A:116.58.231.242 X: TicketID:008482

ความคิดเห็นที่ 9 พลังแห่งความดี และพลังแห่งความจริง เท่านั้นที่จะพิสูจน์ สิ่งที่คุณพูดและปฎิบัติ เดินหน้าต่อไป ครับ จากคุณ : หนุ่มพุงใหญ่ เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 08:20:01

ความคิดเห็นที่ 10 อ่านกระทู้นี้แล้วทำไมนึกถึงกระทู้กาแฟ ห้องก้นครับ ลูกค้าชอบคิดว่าตัวเองเป็นพระเจ้าทำอะไรไม่เคยผิด เข้าใจผิดในบางอย่างก็ไม่ผิด ผู้ให้บริการทำอะไรผิดเสมอ อยากลองให้นึกถึงการซื้อตั๋วเครื่องบินผ่านเอเจ้น เวลามีปัญหาโทรหาสายการบิน ก่อนออกดินทาง สายการบินจะปัดให้ผิดต่อเอเจ้นตลอดโดยไม่ค่อยให้ข้อมูลใดๆ   ข้อเท็จจริงจากปัญหาของ จขกท ก็คือ ลูกค้าเค้าเสพพันทิปมากจนระแวง ไปหมด เป็นผมผมก็ไม่เอาหรอกลูกค้าแบบนี้ บอกตรงๆว่าเสียเวลาหนะครับ ถามนิดนึงว่าตอนที่เค้าจองจ่ายเงินคุณไม่ได้มี Booking No. ให้ ลูกค้าคุณเหรอครับ ถ้ามีลูกค้าก็ฉลาดน้อยที่ไม่ได้เอาเลข booking No. ไปเช็คแต่เอาชื่อเข้าเช็ค แต่ถ้าคุณไม่ได้ให้ Booking No. ไปคุณก็ผิดส่วนนึง ที่สะเพร่า เหตุการณ์แบบนี้ก็เคยเกิดขึ้นกับผม จองโรงแรมผ่านเอเจ้นเมื่อนานมามากแล้วโทรไปโรงแรมก่อนเดินทาง ให้ชื่อไปหาไม่เจอ แต่ให้ Booking No ไปก็หาเจอ แก้ไขเมื่อ 25 ก.ค. 53 08:26:58 จากคุณ : inven เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 08:26:23

ความคิดเห็นที่ 11 โกงหรือไม่โกง ความจริงมันพิสูจน์กันได้ ค่อยๆอธิบาย แก้ไข ปรับปรุงกันไป ก็ไม่น่ามีปัญหานะคะ จากคุณ : cultureclub เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 08:29:24

ความคิดเห็นที่ 12 ลูกค้าทุกคนใช่ว่าจะรู้ถึงวิธีการเช็คบุ๊คกิ๊งกับทางโรงแรม ว่าต้องใช้บุ๊คกิ๊งนัมเบอร์ในการแจ้งให้โรงแรมตรวจสอบ จขกท.ไม่แนะนำลูกค้าไปให้ครบนี่ครับ ว่าต้องถามยังไงกับทางโรงแรมที่สิงคโปร์  เมื่อลูกค้าโทรไป 2 รอบเสียเงินและเสียความรู้สึก เป็นใครก็คงขอยกเลิกหละครับเพราะขาดความเชื่อมั่นในตัวบริษัท จากคุณ : mementototem เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 09:30:37

ความคิดเห็นที่ 13   เห็นใจและเข้าใจคุณ จขกทครับ ส่วนหนึ่งคือลูกค้าอ่านเว็บมากไป เลยพาลวิตกจริต คิดไปต่างๆ นานา และอีกส่วนหนึ่งก็มักมีข่าวไม่ดีเกี่ยวกับเอเยนต์ที่โกงกันมากมาย และเห็นใจ และเข้าใจว่าลูกค้าไม่เข้าใจระบบการทำงานของเอเย่นต์ ซึ่งทางเอเย่น์ควรจะอธิบายให้ลูกค้าชัดเจน ผมเองเป็นคนหนึ่งตอนที่เข้ามาเล่นเว็บนี้แรกๆ อ่านๆ ก็งงๆ ว่าทำไมต้องโทรเช็ค booking โดยตรงกับโรงแรมให้วุ่นวาย โดยบางครั้งผมเห็นเขาจองผ่านเอเยนต์ที่น่าเชื่อถือเสียด้วยซ้ำ แต่อย่างว่าแหละ คนไม่ได้อยู่ในวงการ บางครั้งเขาก็ไม่เข้าใจ แต่ขออธิบายนิดนึงเกี่ยวกับระบบการจอง หรือการทำ booking ว่า มีบางเอเยนต์ หรือบางระบบ ขอย้ำว่าบางระบบเท่านั้นครับ มันเป็นการจองห้องในโควต้าห้อง (inside allotment) ที่ได้รับจากโรงแรม ซึ่งเอเยนต์แบบ wholesales เวลาเขารับจองจากเอเยนต์รายย่อย เขายังจะไม่ส่ง booking หรือชื่อลูกค้าไปให้กับโรงแรมทันที แต่เขาได้จองเข้าไปในระบบการจองของเขาแล้ว นั่นหมายความว่าได้ห้องแน่นอน และโรงแรมต้อง confirm ให้อย่างแน่นอน เพราะเป็นการจองห้องในโควต้า และระบบจะทำการตัด booking และส่งการจอง (ชื่อของลูกค้า)เข้าไปหาโรงแรมโดยอัตโนมัติเมื่อถึงวันตัด allotment ( cut off date) ฉะนั้นเมื่อเลยวันตัด allotment รับรองว่าเช็คชื่อของลูกค้าดูอีกทีกับโรงแรม มีชื่อโผล่แน่นอน ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อเป็นการลดกระบวนการการทำงานจุกจิก และค่าใช้จ่ายของบริษัทใหญ่ ซึ่งบริษัท wholesaler ใหญ่ๆ ส่วนใหญ่เขาจะทำแบบนี้ ไม่ใช่ว่ามี booking ทีนึง ก็โทรเข้าไปจองกับโรงแรมทีนึง ไม่งั้น วันๆ หนึ่งเขาจะต้องยกหูโทรศัพท์ หรือส่งอีเมล์เป็นร้อยเป็นพันฉบับกับการจองห้องที่เขารับมาจากเอเยนต์รายย่อยครับ อย่างกรณีของจขกท ผมคิดว่าคุณน่าจะบอก wholesaler ให้เขาส่ง booking ไปยังโรงแรมทันทีเป็นกรณีพิเศษ เพื่อที่คุณจะได้ไม่เสียลูกค้า และเสียเครดิต ปล. ถ้าผมจำไม่ผิด ผมเคยเห็นเอเยนต์ออนไลน์บางเอเยนต์ เขาจะเขียนในใบ confirm ของเขาประมาณว่า 'your booking will not appear at the hotel under your name until the date that we have sent your name to them. Please check your booking again when your travel date is near' หรืออะไรประมาณนี้แหละ จากคุณ : ทองเอก (อดีตชายขายบริการ) (ผมชอบกิน Nasi Lemak) เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 10:25:00

ความคิดเห็นที่ 14 ทำไมคุณไม่พาลูกค้าไปเช็คด้วยตัวเองเลยล่ะครับ จะทางเน็ตหรือทางโทรก็แล้วแต่ ปล่อยเขาไปได้ยังไง ทำแบบนี้ เป็นผม ผมก็เข้าใจว่าคุณโกง แต่รีบคืนเงินเพื่อป้องกันปัญหาบานปลาย ประสบการณ์นำพามาซึ่งความเก๋าในการแก้เกม แต่ถ้าประสบการณ์เยอะ แต่ก็มิได้นำพา.... ผมก็ไม่รู้จะว่ายังไงเหมือนกัน จากคุณ : SuperTee (itCrazy) เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 10:37:08

ความคิดเห็นที่ 15   เออ กล้า ว่า ลูกค้าอีก เนอะ เขาโทรมา โวย คุณอธิบาย เขาก็เชื่อ แล้ว ไปเช็คอีกรอบ แต่ข้อมูลที่คุณ ให้เขา ผิดเอง แล้ว มานั่ง ด่า ลูกค้าอีก จากคุณ : ฟฟ เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 10:37:41 A:58.10.167.38 X: TicketID:263052

ความคิดเห็นที่ 16 ปลาเน่าตัวเดียวยังเหม็นไปทั้งข้อง นี่มันเน่าหลายตัว มันก็เลยเหม็นมากไปหน่อย ทำธุรกิจอะไรก็ตามถ้าเห็นแก่ประโยขน์ส่วนตัว ส่วนรวมมันก็จะเสียหายไปด้วยล่ะ จากคุณ : nukkid เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 10:44:50

ความคิดเห็นที่ 17 ถ้าหากคุณ จขกท. และเพื่อนๆ สมาชิกที่อยู่ในนี้มานานสักระยะหนึ่ง...(แต่ก็หลายปีและนะครับ).....  มีอยู่ช่วงหนึ่ง หลายๆ ธุรกิจท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็น บ.ทัวร์ /บ.เกี่ยวกับเดินทาง ขนส่ง /สถานที่พักผ่อน ที่พัก   มีลูกค้าบางท่านที่ไม่เข้าใจ หรือ ไม่ประทับใจอย่างแบบรุนแรง มาโพสแบบหนักๆ ติดๆ กันหลายๆ กระทู้ในช่วงนั้น  แต่หากด้วยสถานประกอบการนั้นๆ หากจริงใจ ซื่อสัตย์ ดูแลเอาใจใส่กับลูกค้า...........ผมกลับเห็นผู้ที่มาตั้งกระทู้โดนตอกกลับไปก็เยอะ  เพราะบางสถานประกอบการสร้างมาดีอยู่แล้ว และมีเพื่อนสมาชิกไปใช้บริการกันอย่างมากมาย ก็ไม่พบอย่างที่โดนกล่าวอ้าง     แต่ก็มีไม่น้อยที่สถานประกอบการที่เห็นแก่ตัว มักจะโดนอัด ตำหนิและโดนเป็นแผลใจในหลายๆ แห่งก็มีไม่ใช่น้อยๆ...........      หรือแม้กระทั้ง เคยมีไกด์ และผู้ประกอบการที่ทำทัวร์ เคยมาชี้แจง อธิบาย ถึงเรื่องราวบางอย่างที่อยากจะบอกเพื่อนๆ ในฐานะเป็นผู้ใช้และให้บริการ ก็ได้รับความเข้าใจ คำชมเชย จนเป็นกระทู้แนะนำมาแล้วก็มี     ซึ่งผมว่าที่สุดแล้ว อยู่ที่การกระทำ และเจตนา ของเราแหละครับ หากทำดี(ต่ออาชีพ ลูกค้า บริษัทและตนเอง)  อะไรก็ไม่ต้องไปกลัวอะไรเลย ที่สุดแล้วความจริงจะปรากฎเอง.........ครับ แก้ไขเมื่อ 25 ก.ค. 53 10:49:56 แก้ไขเมื่อ 25 ก.ค. 53 10:47:09 จากคุณ : torti เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 10:46:00

ความคิดเห็นที่ 18 คราวนี้ความเห็นของผมจากข้อมูลในกระทู้นี้........   พบว่า มันก็เป็นความประมาท ลืม ของคุณ จขกท. อยู่บ้าง ที่ไม่แจ้งรายละเอียดให้ลูกค้าทราบแต่แรก ถ้าเราอธิบายให้เขาทราบแต่แรกปัญหาคงไม่เกิดขนาดนี้นัก      ด้วยส่วนตัว ที่ทำงานด้านงานบริการที่ดูทั้งงานขายและลูกค้าสัมพันธ์ จึงพอจะเข้าใจทั้งคุณและลูกค้า......ลูกค้าเขาจะไม่ทราบถึงกระบวนการ การทำงานของเราหรอกครับ ว่าเราจะจัดการให้เขาอย่างไร........  เขาทราบแค่ว่าฉันจอง แล้วก็มีทีพักให้จบ....ซึ่งหากเหตุการณ์ปกติ  ก็แน่นอนครับไม่จำเป็นที่จะต้องแจ้งลูกค้าทราบถึงกระบวนการทำงานของเรา(หากลูกค้าไม่อยากรู้) แต่เหตุการณ์เช่นนี้เมื่อลูกค้าโทรมาสอบถามครั้งแรกแล้ว เราก็ต้องเริ่มเอะใจได้แล้วว่า ลูกค้าเป็นคนที่ละเอียด รอบคอบพอสมควร......   เราก็ควรจะตรวจสอบให้ดี และแจ้งลูกค้าว่าจะติดต่อกลับไปให้เร็วที่สุดขอเวลาเพื่อตรวจสอบข้อมูลอีกครั้งให้ชัดเจน เพื่อประโยชน์ต่อลูกค้าเอง ผมว่าลูกค้าท่านไหนๆ ก็ย่อมครับ........(ตามเวลาความเหมาะสมและต้องติดต่อกลับไปจริงๆ )  พอได้ข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน ก็โทรไปแจ้ง อธิบายพร้อมทั้งให้ข้อมูลต่างๆ แก่ลูกค้า ก่อนที่เขาจะโทรมาหาเราเอง...แค่นี้...  คุณจะได้ใจลูกค้าอีกมากมาย........และจะได้ลูกค้าที่ภักดีต่อคุณด้วยซ้ำครับ แก้ไขเมื่อ 25 ก.ค. 53 11:01:10 จากคุณ : torti เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 10:58:23

ความคิดเห็นที่ 19 เห็นใจทั้งสองฝ่ายครับ ถ้าไม่สบายใจก็ไม่ต้องรับลูกค้ารายนั้น ลูกค้าก็เช่นกัน ถ้าไม่สบายใจบริษัทนี้ ท่านก็ไปใช้บริษัทอื่นได้ จากคุณ : คน ไกลบ้าน เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 11:03:24

ความคิดเห็นที่ 20 ระบบการจองของ Agency จะเป็นอย่างไร ไม่ใช่เรื่องที่ลูกค้าต้องมาเข้าใจ ตัว Agency ต้องเป็นคนอธิบายให้ลูกค้าเข้าใจเอง ถ้าผมเป็นลูกค้า เช็คหนแรกไม่เจอชื่อ พอสอบถาม ก็บอกมาผิด เช็คไม่ตรงอีก มันก็น่าสงสัยในพฤติกรรมมากๆ เป็นผมก็ไม่เชื่อใจ เกิดไปถึงที่แล้วไม่มีที่พักทำไงหล่ะ ไม่ใช่บ้านเมืองตัวเองด้วย อาชีพที่ต้องใช้ความเชื่อใจลูกค้า ผมว่าคำพูดเป็นเรื่องสำคัญในการเจรจา ถ้าพูดไม่ตรงแล้วจะหาความน่าเชื่อถือได้ที่ไหน โดยส่วนตัวผมก็จะไม่เชื่อใจไปเลยและจะไม่ข้องแวะอีก จากคุณ : Finding Neverland เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 11:17:08

ความคิดเห็นที่ 21 สรุปว่าเรื่องนี้ จขกท ผิดค่ะ ทำงานไม่ได้เรื่องเอง อย่ามาอ้างพันทิป ... จากคุณ : เชอร์เบต จี๊ดด ด เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 13:34:05

ความคิดเห็นที่ 22   ตอบแบบง่ายๆตรงๆว่า..คุณทำงานแย่มากครับ   สงสารเจ๊แกที่ต้องมาตามเช็คคุณอีกสองรอบ แทนที่คุณจะจองเสร็จแล้วก็ส่งหลักฐานการจองห้องให้ลูกค้าที่จะไปพัก(ทางจม.หรืออีเมล์ก็แล้วแต่) เพื่อที่เขาจะได้มีเอกสารส่วนนึงในการถือติดตัวไปเช็กอิน  คุณทำงานแย่จริงๆครับ ...แล้วยังไม่รู้สึกว่าตัวเองผิดอีก จากคุณ : WittyNakhon เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 14:35:50

ความคิดเห็นที่ 23 ไม่รู้เป็นคนเดียวหรือเปล่า ไม่เคยใช้ Booking No. ในการเช็คข้อมูลกับโรงแรมเลยครับ ใช้ขื่อเพื่อเช็คตลอดเลยครับ จากคุณ : Mr.heem เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 15:16:43

ความคิดเห็นที่ 24   เข้ามาอ่านแล้วครับ ... แงๆๆๆ เขียนกระทู้ ไม่เคลีย โดนอีกแล้วครับอ่าน เอามาแบ่งปัน ความรู้สึกกันครับ ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นผมเอง สัพเพร่า เองล่ะครับ ไม่ได้ ชี้แจงให้ละเอียด แต่ ลูกค้าท่านนี้ ไม่ฟังอะไรเลย เมื่อ เช็คไม่เจอ ชื่อเธอ ไม่เจอ ชื่อเอเจ่น ก็ หาว่าเรา โกง แล้วต่อว่าเรา สารพัด จนผม ไม่อยากให้บริการ ลูกค้าท่านนี้ อีก เลยตัดปัญหาโดย คืนเงินไปดีกว่า ขออธิบาย การ จองโรงแรม ผ่านเอเจ่น แบบนี้นะครับ ในกรณี จองโรงแรมผ่านเอเจ่น ในไทยนั้น ทางซับเอเจ่น ไทย จะ ส่ง รายละเอียดลูกค้า ไปทางเอเจ่น ต่างประเทศ ซึ่ง จะมีโควต้า ห้องพัก ที่ทางโรงแรม นั้น ล๊อคไว้ให้ เอเจ่นต่างประเทศขาย ซึ่ง เหมือนตาม ที่ คุณทองเอกบอก (ความคิดที่ 13)บอกนะครับ และทางเอเจ่น ที่สิงคโปร์ ก็จะออก บุกกิ้งนัมเบอร์ให้ แต่ นัมเบอร์ตัวนี้ ยัง จะไม่ส่งเรื่อง ให้ทางโรงแรม ที่สิงคโปร์ เพราะยังไงๆ เอเจ่น ก็มีห้องให้ลูกค้าอยุ่แล้ว จนกว่าจะถึง ดิวเดจ เอเจ่น ถึงจะส่ง รายละเอียดให้ ทางโรงแรมครับ เพราะฉะนั้น กรณีลูกค้า จองผ่านเอเ่จ่นไทย แล้ว ไปเช็คกับทางโรงแรม ต่างประเทศ ทันที นั้น ย่อมไม่มี รายละเอียดการจองใดๆแน่นอนครับ เพราะรายละเอียดยังอยุ่ที่เอเจ่นที่สิงคโปร์ ลูกค้า บางท่านไม่เข้า ใจระบบการจอง ผ่านเอเจ่น ซึ่งจะต่างกับการจองโดยตรงกับทางโรงแรมนะครับ จากคุณ : ไกด์อ่อนหัด เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 16:15:22

ความคิดเห็นที่ 25 เหมือน คห 23 ค่ะ เวลาโทรไปเช็ค หรือติดต่อกับโรงแรม โรงแรมมักจะถามชื่อผู้เข้าพักค่ะ เคยได้คุยกับโรงแรมแห่งหนึ่งในพัทยา (จำชื่อไม่ได้) เราจะให้ booking No. แต่โรงแรมบอกว่า ขอเป็นชื่อผู้เข้าพักดีกว่าค่ะ เพราะปกติ Booking No. ที่ลูกค้าได้รับจาก agency กับที่ โรงแรมได้รับ มักจะเป็นคนละ Code No. หรือตัวเลขคนละตัวกันค่ะ เราได้ข้อมูลมาอย่างนี้ แต่ไม่รู้ในทางปฎิบัติเป็นอย่างไรเหมือนกัน แก้ไขเมื่อ 25 ก.ค. 53 16:33:53 จากคุณ : SweetRainbow เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 16:32:36

ความคิดเห็นที่ 26 ลูกค้าไม่ผิดครับ จขกท.ไม่ยอมอธิบายให้เคลียร์เองว่าระบบของคุณเป็นยังไง คุณต้องขอโทษลูกค้า แล้วถ้าลูกค้าต้องการก็ต้องคืนเงินไปถูกต้องแ้ล้วครับ แก้ไขเมื่อ 25 ก.ค. 53 16:56:13 จากคุณ : dmesg เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 16:55:44

ความคิดเห็นที่ 27 การทำธุรกิจท่องเที่ยว สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ความน่าเชื่อถือ ครับ ถ้าคุณไม่สามารถทำให้ลูกค้าคุณ "เชื่อถือ" คุณได้ อันนี้ เหนื่อยครับ (ลำพังกว่า จะมีลูกค้า หลุด มาสักคน ก็เหนื่อยแล้ว) ปัญหา ของคุณ หรือ คนทำธุรกิจ คือ "มุมมอง" ครับ คุณ คิด คุณ มอง แบบเจ้าของธุรกิจ คุณไม่ได้มองภาพ แบบสองฝ่าย หรือ มุมมองของลูกค้า ลูกค้า ไม่ทราบหรอกครับ ว่าระบบการจองของคุณจะเป็นอย่างไร ใช้วิธีไหน แต่อย่างที่เห็น คือ คุณไม่ได้แจ้งให้ลูกค้า "เข้าใจ" หรือแจ้งได้ไม่ดีพอ เมื่อตรวจสอบครั้งแรก ไม่พบ แจ้งคุณมา อีกครั้ง ก็ยังไม่พบ "ความเชื่อถือ" มันหมดทันทีครับ เอาไว้เป็นข้อคิดครับ ป.ล. มุมมองของหลาย ๆ ท่านในห้องนี้ เป็นแนวทางเดียวกันครับ เพราะส่วนใหญ่ พูดในภาษา ของ "ผู้ใช้บริการ" หรือลูกค้า ของคุณนั่นแหล่ะครับ จากคุณ : สุกรสยาม เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 17:30:39

ความคิดเห็นที่ 28 เค้าก็คงวิตกกำลังวลค่ะว่า กลัวไปแล้วไม่มีที่พัก อีกอย่างไปต่างประเทศด้วย จากคุณ : Kriscy_Navy เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 18:16:25

ความคิดเห็นที่ 29 ค่อนข้างเห็นใจจขกท.เหมือนกันนะ เพราะเราก็ทำงานสาขานี้เหมือนกัน ลูกค้าก็108ประเภทนะ บางคนก็พูดง่าย บางคนก็จู้จี้จุกจิก นู่นนี่ สารพัด แต่อย่างที่คห.27บอกค่ะ สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเอเจ้นท์คือ "ความน่าเชื่อถือ" ซึ่งคุณไม่ได้ทำให้ลูกค้าเห็นตั้งแต่แรก พอเค้าเกิดฟิลเตอร์ขึ้นมา ทีนี้จะอธิบายยังไงเค้าก็ยังตะขิดตะขวงใจอยู่ดีแหละ ยังไงเคสนี้ก็เก็บเป็นบนเรียนละกัน สู้ๆค่ะ อย่าจิตตก ปล. เปลี่ยนชื่อล็อกอินเหอะ จากคุณ : SPEED STAR เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 20:12:29

ความคิดเห็นที่ 30   ชื่อล๊อกอินก้อรู้แล้วนะครับ พยายามต่อไป จากคุณ : กองรบวีรบุรุษ เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 20:50:48

ความคิดเห็นที่ 31   เรียนคุณน้องไกด์อ่อนหัด เดี๋ยวน้องก็โดนอีกดอกหนึ่งหรอกสำหรับ คห 24 อย่างที่ผมแนะนำในคห บนของผมว่ากรณีแบบนี้ให้บอกเอเยนต์ให้รีบส่ง booking ไปทางโรงแรมโดยพลัน เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับลูกค้าครับ และเป็นการสร้างเครดิตความน่าเชื่อถือให้คุณด้วย คุณไปง๊องแง๊งเง้างอนกับเอเยนต์ทางโน้นดีกว่ามางุงิโงนเงนกับทางลูกค้าครับ แต่อ่ะนะ ผมเข้าใจคนสิงคโปร์ดีนะว่า ออกแนว ego สูงสักหน่อย แต่คุณเป็นลูกค้าของเขา คุณมีสิทธิต่อรองมากกว่า อย่างที่คห 27 บอกครับ กว่าจะได้ลูกค้ามาสักคนหนึ่งมันยากลำบาก ฉะนั้นทำอะไรก็ได้ให้เรื่องมันจบ ปิดเคสโดยเร็ว โดยลูกค้ายังซื้อกับคุณอยู่ ในฐานะผู้ให้บริการคุณต้องทำอะไรก็ได้ที่ทำให้ลูกค้าพอใจ (แต่ต้องไม่ขัดศีลธรรมจรรยาและความถูกต้องนะครับ) และคุณน้องก็ไม่ควรเอาเรื่องของคุณน้องมาโพสต์ในเว็บบอร์ดสาธารณะ ถ้าอยากระบายแนะนำให้เขียนใน blog แทนครับ ท้ายนี้ผมยังเห็นใจ และเข้าใจสำหรับคนหัดเดินครับ หัดเดินแรกๆ ก็งี้แหละ มีล้มบ้าง สะดุดบ้าง แต่หวังว่าคุณจะเรียนรู้จากความผิดพลาด เพื่อเป็นเจ้านาย(เ้จ้าของกิจการ)ที่เก่งในอนาคต จากคุณ : ทองเอก (ผมชอบกิน Nasi Lemak) เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 20:54:09

ความคิดเห็นที่ 32 ผมกลับเห็นต่างจากความเห็น 31 มาลงเว็บบอร์ดนี่หละครับดีแล้ว เป็นบทเรียนทั้งผู้ให้บริการและลูกค้าได้อย่างดีครับ จากคุณ : mamao เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 53 09:09:09

ความคิดเห็นที่ 33 คุณทองเอกอธิบายได้ดีมากๆ ครับ เป็นการแก้ปัญหาที่น่าจะบัวไม่ช้ำ น้ำไม่ขุ่นที่สุดแล้วครับ จากคุณ : David_kop เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 53 10:54:18

ความคิดเห็นที่ 34 อย่างอื่นไม่รู้ รู้แต่ว่า customer is a king ง่ะ จากคุณ : ross reel เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 11:56:06

ความคิดเห็นที่ 35 ก็น่าเห็นใจทั้งสองฝ่ายครับ ... แต่ก็ต้องเอาใจช่วย พนง. อย่าเพิ่งท้อนะครับ แก้ตัวใหม่ เราอธิบายได้ ทุกอย่าก็จบครับ เหตุการ์นี้ ลูกค้าไม่รับฟังอะไรเลย เหตุก็เพราะเขาไปเช็คมาแล้ว จึงทำให้เขาเชื่อแบบนั้น บวกกับชื่อเสียง บ. ที่อาจจะถูกมองไปแบบนั้นด้วย ดังนั้น เราต้องลบภาพนั้นออกให้ได้ครับ สู้ๆ ครับ จากคุณ : kito_hunsamu เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 22:25:32

ความคิดเห็นที่ 36 คุณนั่นแหละผิด โธ่จองโรงแรมภาษาอะไร ไม่มีชื่อลูกค้า บอกใช้ชื่อ บรนิษัทตัวเองจอง โทรไปถามไม่มี บอว่า ใช้ชื่อเอเจนซี่ที่สิงคโปร์จอง เป็นผม ไม่เอาแค่เงินคืนอย่างเดียวหรอก จะเรียกค่าเสียหายส่วนอื่นเพิ่มด้วย ฐานทำให้เสียเวลา และค่าใช้จ่าย โดยใช่เหตุ อีกทั้งต้องหาโรงแรมและบริษัทรายใหม่อีก จากคุณ : TheFootball เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 53 13:22:22

ความคิดเห็นที่ 37 ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นผมเอง สัพเพร่า เองล่ะครับ ไม่ได้ ชี้แจงให้ละเอียด แต่ ลูกค้าท่านนี้ ไม่ฟังอะไรเลย เมื่อ เช็คไม่เจอ ชื่อเธอ ไม่เจอ ชื่อเอเจ่น ก็ หาว่าเรา โกง แล้วต่อว่าเรา สารพัด จนผม ไม่อยากให้บริการ ลูกค้าท่านนี้ อีก เลยตัดปัญหาโดย คืนเงินไปดีกว่า ^ ^ ^ เป็นการแก้ไขปัญหาที่สิ้นคิดสิ้นดี โดยไม่แคร์ความรู้สึกลูกค้า ผมเคยไปซื้อกล้องนะ ปรากฎว่า กล้องรุ่นนี้หมด ทางร้านเลยบอกว่า งั้นสั่งมาให้ก็ได้ แต่ต้องมีมัดจำนะ ภายในสามวันได้ ผมถามว่า ถ้าผมมัดจำแล้วผมได้แน่นอนภายในสามวันนะ ร้านตอบว่า ถ้าไม่ได้ก็คืนเงิน ผมเลยบอกว่า โธ่พี่ งั้นผมขอค่าเดินทาง ค่าเสียเวลาด้วย พูดอย่างนี้ได้อย่างไร จะให้ผมมัดจำ(เพื่อจะกันไม่ให้ลูกค้าไปหาเจ้าอื่น) แต่หาของให้ไม่ได้ แค่คืนเงิน ผมเสียทั้งค่าเดินทาง ทั้งเวลา จากคุณ : TheFootball เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 53 13:38:47