อู้งานมาถกเรื่องศาสนากันต่อ.. วันนี้นายไม่อยู่
ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า
"ความเชื่อ และแนวทางการใช้ศาสนากล่อมเกลาจิตใจ ของคนไทย กับ คนญี่ปุ่น นั้น คล้าย แต่ ไม่เหมือน กัน"
ศานาและความเชื่อในญี่ปุ่น เป็นการผสมผสานกันหลากหลาย และซับซ้อน แต่กลมกลืน และข้อขัดแย้งทางความเชื่อ(ถือว่า)น้อยที่สุด
บ้านเรา นับถือ พุทธเถรวาท จากอินเดีย + พราหมณ์จากเขมร + ลัทธินับถือภูตผีวิญญาณ ที่มีมาแต่เดิมของคนในพื้นที่
แต่ที่ญี่ปุ่น เค้าเป็น พุทธมหายาน จากจีน + ลัทธิชินโต นับถือเทพเจ้า + นิกายเซน ที่ปรับเปลี่ยนให้อยู่ในรูป "บุชิโด" + ลัทธิขงจื้อ นับถือคุณธรรมและครอบครัว
ก็อย่างที่คุณเกลกุ๊กบอกไว้ว่า ถ้าไปถามคนญี่ปุ่นโดยส่วนใหญ่ เค้าจะบอกว่าเค้าไม่มีศาสนา แต่คนญี่ปุ่นก็ไหว้เทพเจ้า(ชินโต) ทุกวันปีใหม่ แต่งงานในโบสถ์คริสต์ (บางคนก็แต่งในศาลเจ้า) พอเดือนสิงหาก็กลับไปไหว้บรรพบุรุษแบบขงจื้อ และ จัดบ้าน กับ ประพฤติตัว และทำการงาน โดยใช้หลักการของ "เซน" และ "บุชิโด" เวลาตายก็เชิญพระมาจัดงานศพแบบพุทธ
แถมที่เด็ดกว่านั้น ในรัฐธรรมนูญของญี่ปุ่นฉบับปัจจุบัน ยังห้ามไม่ให้ รัฐและหน่วยงานของรัฐ กระทำการที่เป็นการสอนศาสนา หรือ ให้กิจกรรมอื่นใดที่เกี่ยวกับการศาสนา อีกด้วย ในโรงเรียนไม่มีวิชาสอนศาสนา ดังนั้นทุกศาสนาและความเชื่อ จึงมีโอกาสเท่าเทียมกันทั้งหมด ที่จะโน้มน้าวให้คนมานับถือ
การนับถือศาสนาและความเชื่อของคนญี่ปุ่น จึงเป็น "อิสระ" อย่างแท้จริง บางคนก็ กราบเทวดา ไหว้เทพเจ้า บางคนก็ถือเซน บางคนก็ไหว้พระ และ อีกหลายคนทำทุกอย่างพร้อมกันได้ทั้งหมด ขอให้ทำแล้วสบายใจ ได้ความหวัง (อันนี้แหละที่คล้ายคนไทย)
ยิ่งคนญี่ปุ่นมีนิสัย จริงจัง มีวินัย เร่งรีบ เคร่งครัด นับถือคนที่ความสามารถ จากมรดกตกทอดของลัทธิบุชิโด ที่ผู้ปกครองสมัยเอโดะแปลงมาจากคติความเชื่อแบบเซน ปลูกฝังเอาไว้จนซึมเข้าเส้นคนญี่ปุ่นเกือบทุกคน
ทุกวันนี้ ซามุไร ยังไม่ตายนะครับ แต่เปลี่ยนจากการพกดาบ เป็น พกปากกา นั่งทำงานกันอย่างถวายชีวิตหามรุ่งหามค่ำ ทำทุกอย่างเพื่อบริษัท นั่นไง..
คนญี่ปุ่นจะเครียดง่าย คิดมาก และต้องการพลังใจในการต่อสู้ แต่เป็นคนปากหนัก ขี้เกรงใจ ไม่กล้าพูดกับใคร แม้กระทั่งพ่อแม่หรือลูกเมียตัวเอง
วิธีที่จะได้กำลังใจมาง่ายที่สุด คือไป ไหว้พระ ซื้อเครื่องราง ไหว้เทพเจ้า เคารพเจ้าที่
การนับถือศาสนาของคนญี่ปุ่น จะออกแนวใช้ศาสนา เป็น "เครื่องมือสร้างกำลังใจ" มากกว่าจะยกให้เป็น "สิ่งที่ต้องเทอดทูนบูชา" เหมือนบ้านเรา
ที่เค้าทำขนมเป็นรูปพระ ผมว่านัยยะไม่ใช่การลบหลู่แน่นอน
แต่เค้าคิดว่า พระเป็นของที่น่าเคารพ อยู่ใกล้ตัว(ในใจเรา) ซึ่งทุกคนสามารถ และมีสิทธิที่จะ เคารพ เข้าถึง ระลึก และใช้ประโยชน์ ได้เท่าเทียมกัน
ผมว่าจะไปคล้ายกับใน พิธิมิสซาของศาสนาคริสต์ ที่ให้กิน ขนมปังกับเหล้าองุ่น ที่เป็นตัวแทนของเลือดและเนื้อของพระเยซู นั่นไง
การวาดรูปพระเป็นการ์ตูน หรือ ทำเป็นของที่ระลึกน่ารัก ๆ แจก ก็มีแนวคิดแบบเดียวกัน
ไม่ได้บอก หรือจะเปรียบเทียบ ว่าใครถูกใครผิด ไทยดีกว่าหรือญี่ปุ่นดีแล้ว แต่อยากจะบอกว่า.. อย่าตัดสินการกระทำและความเชื่อของคนชาติอื่น ด้วยสายตาและความเชื่อของชาติเรา
ต้องดูที่วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และ ความเชื่อของคนชาตินั้นประกอบไปด้วย
การกระทำของบ้านเราหลายอย่าง การไปถูต้นไม้ขอหวย หรือ ไหว้หมูสองหัว วัวสามเขา คนญี่ปุ่นเค้าเห็นก็อเมสซิ่งไทยแลนด์สุดสุด เหมือนกันนะครับ
ความสนุกของการท่องเที่ยวต่างประเทศ ก็คือ การได้เรียนรู้ความหลากหลาย นี่แหละ
รู้แล้วจะได้เข้าใจกันมากขึ้นไงครับ
ขอตบท้ายด้วยนิทานเซนเรื่องนึง อาจจะไม่เกี่ยวข้องนัก แต่อ่านแล้วจะพออธิบายแนวคิดในเรื่องของ "ความเชื่อ" และ การปฎิบัติตน ของคนญี่ปุ่น ที่ได้รับอิทธิพลของ "เซน" แบบซึมลึก มากขึ้น
พระเซน 2 รูป กำลังเดินธุดงค์เลียบริมคลองตื้น ๆ สายนึง
ระหว่างทางเจอผู้หญิงขาพิการคนนึง กำลังพยายามข้ามข้ามคลอง โดยที่ไม่มีใครมาช่วยเลย
พระรูปที่อาวุโสกว่า มองดูอยู่พักนึง เห็นว่าทำยังไงผู้หญิงคนนี้ก็ข้ามคลองด้วยตัวเองไม่ได้แน่ ๆ และตอนนั้นก็เย็นใกล้ค่ำแล้ว
ท่านจึงเดินเข้าไปอุ้มหญิงพิการคนนั้น เดินข้ามฟากไปฝั่งตรงข้าม
เมื่อท่านเดินข้ามกลับมา พระที่อ่อนอาวุโสกว่า ก็ถามว่า
"ท่านเป็นบรรพชิต ทำไมถึงไปแตะต้องสตรีเล่า?"
พระอาวุโสได้ยินก็ยิ้มเล็กน้อยด้วยความเอ็นดู แล้วกล่าวว่า..
"เราวางสีกาคนนั้นไว้ที่ฝั่ง ตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว ไฉนท่านยังอุ้มเธอเอาไว้อยู่"
แก้ไขเมื่อ 06 ส.ค. 53 16:18:08
แก้ไขเมื่อ 06 ส.ค. 53 16:14:48
แก้ไขเมื่อ 06 ส.ค. 53 16:09:57
แก้ไขเมื่อ 06 ส.ค. 53 16:09:14