ความคิดเห็นที่ 1 ฟังแล้วเซ็งแทนค่ะ โหวตให้ละกัน จากคุณ : pammap เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 17:40:53

ความคิดเห็นที่ 2 เจอแบบนี้คงอึ้งเหมืองกัน แรงงงงงงงงงงงงซะ จากคุณ : ตระเวนเที่ยว เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 17:45:33

ความคิดเห็นที่ 3 ผมรอฝ่าย Holiday Inn ชี้แจงก็แล้วกัน เรื่องแบบนี้เขาไม่น่าอยู่เฉย.... จากคุณ : กล้าที่จะรัก เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 17:50:58

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้าเป็น manager จริง ๆ โรงแรมนี้คงจะต้องเจ๊งแน่ ๆ ค่ะ เพราะขนาดผู้จัดการยังพูดจาอย่างนี้แล้วนับประสาอะไรกับพนักงานค่ะ จากคุณ : monkar เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 17:51:05

ความคิดเห็นที่ 5 สงสัยค่ะ คุณยังไม่รู้เลยว่าผลการขอย้ายห้องจะออกมายังไง  คุณก็ไปย้ายของซะแล้ว ซึ่งทางโรงแรมก็บอกแล้วว่าจะรับเรื่องให้  แต่ไม่ได้บอกว่าได้แน่นอน เพราะงั้น  จากที่เล่ามา  การต้องย้ายของถึงสามครั้ง  มันไม่ใช่ความผิดของทางโรงแรมเลยนะคะ ส่วนเรื่องการเข้าใจผิดกันเรื่องวันเข้าพัก  อันนี้อีกเรื่องนึง จากคุณ : ฟุมิ เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 17:51:44

ความคิดเห็นที่ 6 เห็นด้วยกับ คห 5 ตรงที่ว่าคุณตัดสินใจย้ายของเองก่อนแล้ว แต่เรื่องที่ผู้จัดการมาบอกว่า  เพราะเราไม่สามารถให้คุณลูกค้า "หุบปาก" เนี่ย ใช้ไม่ได้มาก ๆ ค่ะ ไม่ว่าจะน่ารำคาญ หรือโกรธมากเพียงใด ก็ไม่ควรพูดจากับลูกค้าแบบนี้ แย่ที่สุดค่ะ จากคุณ : มันคืออะไร เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 18:02:29

ความคิดเห็นที่ 7 เอาเฉพาะเรื่องทำความสะอาดห้องก่อนนะคะ โดยปกติพนักงานทำความสะอาดจะทำห้องที่ check out ก่อนเพราะต้องทำให้เสร็จก่อนที่แขกใหม่จะเข้าพักตามเวลาเชคอินบ่ายสอง ในช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์แบบนี้ ห้องจะเต็มหมดโดยเฉพาะมีงานอย่างพัทยา แขกใหม่ก็อยากเชคอิน ส่วนห้องที่พักต่อไม่ได้เชคเอาท์ ส่วนใหญ่แม่บ้านจะมาทำหลังจากทำห้องเชคเอาท์เสร็จแล้ว ยกเว้นแขกห้องนั้นแขวนป้ายให้ทำห้อง หรือแจ้งให้ทำห้อง เขาจะทำให้เป็นห้องๆไปเคยเจอช่วงเทศกาลแม่บ้านมาทำห้องเกือบสี่โมงเย็น และจะเป็นแบบนี้ทุกโรงแรม ถ้าเป็นเรา เราหยวนค่ะ เพราะรู้ว่าเขาทำงานกันไม่ได้หยุดมือ สำหรับเทศกาล กรณีของคุณเข้าใจว่ามาอยู่ต่อเพื่อนคงอยากให้เปลี่ยนผ้าปูทำห้องใหม่ แต่ไม่ทราบว่าคุณหรือเพื่อนคุณได้แจ้งทำห้องหรือเปล่า ถ้าต้องการทำห้องเร็วกว่าปกติก็ต้องแจ้งแต่ถ้าไม่แจ้งไม่แขวนป้าย เขาก็จะทำตามตารางของเขาค่ะ จากคุณ : Alone with out lonely เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 18:03:25

ความคิดเห็นที่ 8 เพราะเราไม่สามารถให้คุณลูกค้า "หุบปาก" เรื่องร้องเรียนใดๆได้ จริงๆด้วย...เครียดไปก็เท่านั้น จากคุณ : เครียดไปก็เท่านั้น เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 18:30:02

ความคิดเห็นที่ 9   ตามความเห็นส่วนตัวนะคะ พนัีกงานแจ้งว่าจะทำเรื่องให้ แสดงว่ายังไม่ได้ห้องแน่นอน คุณย้ายของลงมา ตรงส่วนนั้นน่าจะเป็นความรับผิดชอบของคุณเอง ซึ่งเห็นด้วยกับคุณความเห็๋นที่ห้าค่ะ รวมถึงการทำความสะอาดห้องพัก อ่านดูแล้ว ไม่แน่ใจว่าคุณได้แจ้งให้แม่บ้านมาทำความสะอาดเป็นพิเศษหรือไม่ เนื่องจากแขกยังไม่ได้เช็คเอาท์ ถ้าคุณไม่ได้แจ้ง ตรงส่วนนี้ก็ไม่น่าจะใช่ความผิดของทางโรงแรมค่ะ ในส่วนนี้เข้าใจว่า คุณพักต่อจากเพื่อนโดยไม่ได้เช็คเอาท์และเช็คอินใหม่อีกครั้ง ตามปกติแล้ว แม่บ้านจะมาทำความสะอาดตามเวลาค่ะ แต่ส่วนสำคัญคือ duty managerซึ่งดูเหมือนจะไม่มี service mindเลย เข้าใจว่าช่วงเทศกาล งานจะค่อนข้างยุ่ง อาจจะพึ่งเจอลูกค้าที่demandมากมา แต่ว่าไม่ใช่เรื่องเลย ที่จะมาพูดจากับลูกค้าแบบนี้เหมือนไล่ลูกค้าทางอ้อมเลยนะคะ หวังว่าholiday innคงมีคำตอบดีๆให้ค่ะ จากคุณ : merarain (merarain) เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 19:08:16

ความคิดเห็นที่ 10   จะย้ายของ ดดยพละการ หรืออย่างไร แต่ไอ้คำว่าหุบปากนี่อายแทนโรงแรมครับพี่ ถ้าพูดจริงให้ออกไปเถอะครับคนแบบนี้เสื่อมเสียเปล่าๆ โรงแรมจะอย่างไรพอฟังได้ แต่คำหยาบไม่สมควรออกจากปากกับลุกค้า จากคุณ : ลองดู เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 19:11:15 A:116.58.231.242 X: TicketID:008482

ความคิดเห็นที่ 11 จะอย่างไรก็แล้วแค่ manager ไม่ควรพูดจาแบบนี้ ต่อให้ลูกค้าจะ complain แค่ไหรก็เหอะ   แปลก เป็นได้ถึง manager จากคุณ : pice เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 19:18:13

ความคิดเห็นที่ 12 เท่าที่ผมอ่าน จขกท ถามว่า ขออยู่ห้องชั้น 20 เหมือนเดิมได้มั้ย พนง.กลับบอกว่า "ได้" แล้วจะทำเรื่องให้ การที่ตอบว่าได้ ในความเข้าใจผม ถ้าบอกว่าได้ ก็คือ ได้ ส่วน "ทำเรื่องให้" ถ้าเป็นผม ก็เข้าใจว่าเค้าคงต้องจัดกับระบบจองของเค้า ลงชื่อห้องให้เป็นชื่อเราต่อ อะไรทำนองนั้น ผมไม่คิดว่า จขกท ย้ายเร็วไปนะครับ เมื่อถามแล้วบอกว่าได้ เป็นผม ก็คงย้ายเลย ในกรณีเจ้าหน้าที่โรงแรมที่ไม่แน่ใจ ก็ควรจะเช็คก่อน แล้วค่อยบอกลูกค้า ว่าย้ายได้ไม่ได้อย่างไร ไม่ใช่รับปากส่งๆ จากคุณ : Finding Neverland เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 19:25:17

ความคิดเห็นที่ 13   เอาเรื่องย้ายของ จริง ๆ แล้ว ตามสถานการณ์ คุณย้ายของแค่ครั้งเดียวเท่านั้น คือย้ายจาก 20 ลงมาที่ 19 ตามที่ ทางโรงแรม แจ้งมาว่าชั้น 20 มีคนอื่นจองไปแล้ว ส่วนการที่คุณย้ายของเองก่อนหน้าที่จะไปคุยกับทางโรงแรม อันนั้นเป็นส่วนที่คุณต้องยอมรับเองนะคะ เพราะว่า คุณ ตั้งใจจะย้ายเข้าไปเอง ลองคิดดูว่าหากคุณได้อยู่ชั้น 20 ตามที่ขอจริง คุณก็ต้องย้าย 2 รอบ (มากกว่าที่โรงแรมให้คุณย้ายจาก 20 ลงมาที่ 19 ด้วยซ้ำ) แต่เรื่องของพนักงาน ที่ใช้คำพูดไม่สุภาพ อันนี้ก็เป็นเรื่องไม่สมควรค่ะ เค้าอาจจะให้ "คำพูด" ที่ไม่เหมาะสม แต่อันนี้ ก็ต้องดูด้วย ว่าตอนที่คุณ เดินขึ้น เดินลง ไปคุยกับพนักงาน โวยวายเรื่องย้ายของ แล้วก็โวยวายเรื่องเก็บห้องเนี่ย น้ำเสียง ท่าทาง คำพูดของคุณเป็นเช่นไร เค้าก็คน.... คุณก็คน.... เพียงแค่อยู่ในคนละบทบาท คนละอาชีพเท่านั้น ถึงเค้าจะเป็นพนักงาน เราก็ต้องให้เกียรติเค้า พูดจา น้ำเสียง และท่าทาง ที่ปฏิบัติต่อเค้า ด้วยการให้เกียรติ อย่างที่เราอยากได้รับเกียรติจากเค้าเช่นกัน พนักงาน ควรได้รับการตักเตือน ให้พูดจากับลูกค้า ด้วยวาจา ที่สุภาพกว่านี้ ถึงแม้ว่าเวลานั้น จะโมโหลูกค้าแค่ไหน อย่างไรก็ตาม ส่วนคุณ....ไม่อยากให้มองว่า ลูกค้า คือ พระเจ้า เพียงอย่างเดียวนะคะ ใจเขาใจเรา ช่วงที่คุณอยากมีความสะดวกสบายในช่วงเทศกาล มันคือช่วงเวลาที่พวกเค้าต้องทำงานอย่างหนัก ไม่ได้หยุดพัก อยากให้ มองอะไรให้กว้าง ๆ แล้วนึกถึงคนอื่น ๆ บ้างนะคะ ป.ล. เราไม่ได้ทำงานอะไรเกี่ยวกับโรงแรม เราไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับทางโรงแรมนี้ทั้งสิ้น แต่ว่า เราออกความเห็นในฐานะคน ๆ นึง ที่เข้ามาอ่าน แค่นั้นเองค่ะ จากคุณ : Princess 215D388E เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 19:32:48

ความคิดเห็นที่ 14   ทำงานให้บริการเหมือนกัน แต่ไม่ว่าลูกค้า (ผู้ป่วย) จะต่อว่าโดยไม่มีเหตุผลยังไง ก็ไม่เคยว่าลูกค้ากลับเลยแม้แต่ครั้งเดียว ในใจยังคิดว่าลูกค้าคือพระเจ้าอยู่น่ะค่ะ ถ้าเป็นเราได้ยินคำว่า "หุบปาก" คงโมโหมากแน่ๆ จากคุณ : phama1 เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 19:47:39

ความคิดเห็นที่ 15   คิดเหมือน คห 12 ค่ะ คนที่พูดแบบนั้นกับลูกค้า เขาไม่เหมาะกับงานบริการเลย จากคุณ : Badz2010 เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 20:22:34 A:125.24.207.157 X: TicketID:279700

ความคิดเห็นที่ 16 เข้าใจความรู้สึก จขกท นะคะ แต่จะขอพูดแบบกลางๆ ซึ่งไม่ได้หมายถึง จขกท นะคะ เพราะจากประสบการณ์ของเราที่ทำงานด้านบริการลูกค้าเหมือนกัน ลูกค้าร้อยละร้อยเวลามีปัญหาไม่พอใจ ก็จะระเบิดอารมณ์ น้ำเสียง สีหน้า วาจา ใส่กับผู้ให้บริการแบบที่เค้ามักไม่ค่อยรู้สึกตัว แต่เมื่อผู้ให้บริการมีการพูดที่ไม่เข้าหูกลับคืนมา ก็มักจะมีความรู้สึกว่าทำไมถึงมาพูดจาไม่ดีใส่เราแบบนี้ นี่เป็นงานบริการนะ คุณต้องนอบน้อม ห้ามตอบโต้ใดๆทั้งสิ้น แต่เวลาที่คุณระเบิดอารมณ์ใส่พวกเค้าล่ะ คุณไม่นึกถึงใจเค้าใจเราบ้างว่าพวกเค้ารู้สึกอย่างไร เค้าก็รู้สึกไม่ต่างกับที่คุณรู้สึกเวลาที่เค้าตอบโต้มานั่นแหล่ะ ยกตัวอย่าง บ่อยครั้งที่ได้รับโทรศัพท์จากลูกค้าเพื่อ complain รปภ ว่ามีพฤติกรรมที่ไม่ดีใส่เค้า  แต่เมื่อเรียก รปภ มาสอบสวนกลับได้รับคำตอบว่า เค้าขอให้ลูกค้าแลกบัตร visitor ตามปกติของระเบียบแต่ลูกค้าคนนั้นเค้าพูดใส่ผมว่า "มาที่นี่ทุกวัน จำไม่ได้เหรอ  ไอ้ควาย"   อยากจะบอกว่าไม่ว่าจะเป็น manager staff ช่าง แม่บ้าน รปภ คนเหล่านี้ก็มีความเป็นคนเท่าเทียมกับพวกคุณ  คุณที่ทุกคนเรียกว่า พระเจ้า นั่นแหล่ะคะ จากคุณ : งานเข้า เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 21:30:31

ความคิดเห็นที่ 17 "แล้วเธอก็พูดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมาแล้วเราไม่สามารถแก้ไข้ได้แต่เราจะชดเชยให้ลูกค้าแล้วกันนะคะ เพราะเราไม่สามารถให้คุณลูกค้า "หุบปาก" เรื่องร้องเรียนใดๆได้" ถ้าไม่มีประโยคหลัง ก็คงไม่น่าจะมีปัญหาอะไรกันมาก ก็ดูทางโรงแรมจะมีความรับผิดชอบที่ดี แต่พอมีประโยคหลังปั๊บ หมดกันครับ จากคุณ : David_kop เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 22:19:53

ความคิดเห็นที่ 18 เห็นด้วยกับ คห.13 ค่ะ เป็น 2 ฝ่าย ที่เป็นประเด็นทั้งคู่ ถ้ารู้จักคิดถึงใจเขาใจเรา อะไร ก็เบาบางกว่านี้ ไปพักที่ holiday Inn ไม่เคยมีปัญหา แต่เคยเจอที่อื่น แต่ก็ไม่ถือสา วิธีการอย่างหนึ่งที่ทำให้เราจิตใจสงบ มีความสุขได้คือ ไม่ตอแย และในขณะเดียวกันก็ไม่ถือสาหาความ ไม่ตอแย คือ เรื่องย้ายของ ย้ายห้อง ถ้าถามก่อน ได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ก็อาจทำให้ จขกท ไม่เสียอารมณ์ในการเที่ยว และเสียเวลาในการระบายเป็นกระทู้ ไม่ได้บอกว่า จขกท ผิดน่ะค่ะ แต่รู้สึกว่า จขกท เสียอารมณ์ กับเวลาไปกับสิ่งที่ไม่มีความสำคัญ ไม่ถือสา ก็คือ พนักงานที่พูดก็เหลือเกิน แต่เราได้ทำมาจนขนาดนี้แล้ว โรงแรมไม่ใส่ใจก็เรื่องของโรงแรมค่ะ โรงแรมมีเยอะ อย่าเสียอารมณ์เลย ให้ความเมตตาเขาเสียก็แล้วกัน ที่ต้องอยู่ในภาวะกดดันอย่างนี้อีกนาน เราพักแล้วก็กลับบ้าน ทำกิจกรรมอย่างอื่นต่อดีกว่า อยากให้ จขกท รู้สึกเบาบางลงค่ะ ขอโทษถ้าข้อความไม่ถูกใจ จากคุณ : the winged dragon of la (The Winged Dragon of La) เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 22:45:51

ความคิดเห็นที่ 19   ตอนแรกคุณย้ายของลงมาก่อนที่จะไปถามพนักงาน แต่เมื่อถามแล้วคุณก็ย้ายกลับขึ้นไป อันนี้คิดว่าไม่น่าจะนับนะคะ เพราะคุณย้ายก่อนที่จะทราบว่าห้องที่จะอยู่ต่อคือห้องใด ส่วนเรื่องพนักงานพูดจาไม่ดีนั้น อันนี้ต้องเคลียค่ะ เพราะงานบริการ ยังไง ลูกค้าก็คือลูกค้าค่ะ จะถูกหรือผิด พนักงานก็ต้องพูดด้วยภาษาและกิริยาที่สุภาพ ค่ะ อยากฟังจากทางโรงแรมด้วยจัง เพื่อจะได้เคลียกันค่ะ จากคุณ : pao_nowara เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 22:56:29

ความคิดเห็นที่ 20 ว่ากัน 2 เรื่อง เรื่องพนักงาน ถ้าพูดอย่างนั้นจริง ก็ไม่ไหว น่าจะอดทนหน่อย เรื่องผู้ใช้บริการ ทำไมเดี๋ยวนี้ความอดทนของลูกค้าต่ำจังเลย บางครั้งเรื่องก็ไม่ได้ยิ่งใหญ๋อะไร แต่ก็ทำให้เป็นเรื่องได้ จากคุณ : โดดเดี่ยวในบ้านหลังใหญ่ เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 23:09:33

ความคิดเห็นที่ 21 อ่านๆแล้ว ทำไมผมรู้สึกอยู่ข้างเดียวกับโรงแรมก็ไม่รู้สิ ไม่ได้เกลียดอะไร จขกท นะ แต่อ่านๆไปแล้วมันรู้สึกขึ้นมาเอง จากคุณ : Certain_Shade_of_Green เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 00:43:22

ความคิดเห็นที่ 22 คำว่า หุบปาก และ ตะเกียกตะกาย ไม่น่าหลุดออกมาจากปากของผู้ที่ทำงานด้านนี้เลยนะ     อย่างนี้ยังไม่ใช่มืออาชีพ  อนาคตคงไปไม่ไกล จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 01:33:46

ความคิดเห็นที่ 23 check in เข้าไปแล้ว แต่เข้าใจผิดเรื่องห้องพัก (วัน Check out ) เกิดได้ด้วยเหรอครับ ตรงนี้ไม่ค่อยเข้าใจครับ จากคุณ : jerry-t เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 01:37:12

ความคิดเห็นที่ 24   ขออยู่ห้องชั้น 20 เหมือนเดิมได้มั้ย พนง.กลับบอกว่าได้ แล้วจะทำเรื่องให้ ถ้าดูจากคำพูดที่พนักงานพูดนำจะเข้าใจได้ว่าตกลงย้ายได้ เดี๋ยวจะทำเรื่องให้ เนื่องจากพนักงานไม่ได้ปฎิเสธหรือบอกว่าขอเช็คดูก่อน ซื่งเข้าใจว่าสาเหตุหลักน่าจะมาจากจำนวนลูกค้าที่ต้องรองรับในแต่ละวันมีจำนวนมาก ทำให้เกิดความเครียด ความผิดพลาด ความล่าช้าขี้นมาได้ ควรจะต้องเพิ่มพนักงานหรือแม่บ้านให้เพียงพอเหมาะสมกับจำนวนลูกค้า แล้วปัญหาก็จะน้อยลงไปเอง จากคุณ : kim5002 เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 02:57:52 A:58.8.96.30 X: TicketID:282878

ความคิดเห็นที่ 25   เห็นด้วยกับ #5 & #7 เช่นกันครับ ลักษณะแบบนี้ ถ้าพูดแบบตรงๆ นะครับ เป็นการเอาแต่ใจมากเกินไป ไม่คำนึงถึงความถูกต้อง และหลักการกันก่อน สิ่งที่เป็นปัญหา มันคือเรื่องของการเปลี่ยนห้องพักแบบกระทันหัน ซึ่งผู้ที่ไปพัก ก็ย่อมคิดว่า คงต้องได้เปลี่ยนห้องแบบสบายๆ คงไร้ปัญหาอื่นๆ จุดแบบนี้ของคนเราไงครับ มักจะคำนึงไว้ล่วงหน้านิดหน่อยว่า "ก็น่าจะได้ห้อง..ละนะ" ในเมื่อ ฉันค้างคืนไปแล้ว..นิ  ความคิดของคนเราๆ มักคิดกันแบบนี้ กันซะส่วนใหญ่ ส่วนตรงที่ย้ายข้าวของต่างๆ นาๆ นั้น  ซึ่งผมก็มีความคิดคล้ายๆ กับ #7 ซึ่งเธอก็พูดเรื่องตรงนี้ แบบเต็มเปี่ยม และชัดเจนไปแล้ว ผมก็ไม่ขอพูดเรื่องนี้อีก ก็ต้องยอมรับ กฏ ของทางโรงแรมไว้บ้างครับ เพราะสิ่งที่เค้าปฏิเสธ คุณนั้น มันก็อาจจะเป็นเพราะว่า ทาง จนท. เค้าก็ต้องโทรเช็คลูกค้ารายนั้น (คนที่จอง) ว่าจะมาชัวร์ไหม ถึงกี่โมง พอเค้าทราบตรงนี้ เค้าก็ถึงมาแจ้งต่อคุณอีก อย่า..เอาแต่ใจกับเรื่องแบบนี้เลยครับ เพราะมันเป็นความผิดพลาดของคุณเอง ที่คุณคิดเปลี่ยนแผนกระทันหัน และต้องยอมรับคนอื่นๆ ด้วย เพราะเค้าก็จองห้องพักไว้ล่วงหน้า และเราก็อย่าไปนึกคิดว่า เราต้องได้ห้อง เค้าต้องบริการเราเต็มที่  และบางที จนท. เค้าก็อาจจะเอือมละอากับคนแบบนี้ก็ได้ครับ แต่เค้าก็พูดไม่ได้ ว่าทำไมคุณถึง ไม่มีเหตุผล เชื่อเถอะครับ เค้าต้องคิดแบบนี้กันบ้างแหละ เพียงแต่ เค้าต้องใจเย็นให้ได้ หรือไม่นะ คุณลองคิดกลับกัน ถ้าหากคุณเป็น พนง. แบบเค้า คุณจะทำอย่างไร ผมว่า คุณก็คงตอบลำบาก ได้เช่นกัน จากคุณ : Greenapple1 เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 10:04:59

ความคิดเห็นที่ 26   ไม่ได้หรอกพี่ ฮอลิเดย์อินน์ เขามีมาตราฐานของเขา ลองผู้จัดการไปบอกให้ลูกค้าหุบปากพี่ลองอีเมล์ไปบอกที่เมืองนอกดีไหม แปลตรงตัวเลยนี่แหละครับ ลองดูว่าออลิเดย์อินน์จะว่าอย่างไร วันที่ว่ามีงานใหญ่ คนร้อยพ่อพันแม่ตกลงดิวตี้อินชาร์จใช่ไหม เกิดมีเรื่องใหญ่กว่านี้ ไฟไหม้ ซึนามิเข้า ม๊อบลุย ผู้จัดการคุมอารมณ์ไม่ได้จะมีตายกันบ้างไหม อย่าไปคิดแค่ง่ายๆแม่บ้านทำห้องนะพี่ พิจารณาให้มันลึกกว่านั้น จากคุณ : ลองดู เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 10:37:41 A:116.58.231.242 X: TicketID:008482

ความคิดเห็นที่ 27 ที่เจ้าของกระทู้โพสมาทั้งหมดมีเรื่องที่ผู้จัดการใช้คำว่าหุบปากนี่แหละที่ติดใจที่สุด เพราะระดับ supervisor หรือ management ไม่สมควรจะหลุดแบบนี้ออกมา ถ้าเป็นความจริงทางโรงแรมสมควรส่งพนักงานท่านนี้กลับไปเทรนกันใหม่เพราะเขาไม่มีวุฒิภาวะพอจะทำงานในตำแหน่งนี้ ลืมถามเจ้าของกระทู้ไปว่าคำว่าหุบปากนี่เขาพูดภาษาไทยชัดๆหรือแปลมาจากภาษาอื่น เพราะในความจริงๆลองนึกดูว่าขนาดแคชเชียร์ในห้าง หรือรปภจะมีใครกล้าว่าลูกค้าให้หุบปากหรือเปล่า กระทู้นี้ทางโรงแรมได้รับทราบแล้ว และก็หวังว่าทางโรงแรมจะเข้ามาชี้แจงว่ามันเกิดอะไรขึ้น ส่วนประเด็นอื่น คิดว่าชัดเจนในขอบเขตของสิทธิของผู้รับบริการแล้ว ส่วนคหที่บอกว่า วันหยุดงานเยอะทำไมไม่หาคนมาทำงานเยอะนั้น ต่อให้คนเยอะแค่ไหน เครื่องมือมันก็จำกัดเช่นกัน  ที่สำคัญปัญหาความไม่พึงพอใจในบริการของลูกค้านั้นมันไม่ใช่ทำไม่ทันหรือช้า แต่ส่วนใหญ่มันเป็นทำอย่างไรก็ไม่พอใจมากกว่า ต้องรอดูว่าทางโรงแรมจะเข้ามาตอบในกระทู้นี้หรือไม่เท่านั้นเอง จากคุณ : Alone with out lonely เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 10:48:25

ความคิดเห็นที่ 28 เข้าใจความรู้สึกของ จขกท แต่เราว่ามันเป็นความเข้าใจผิดที่คุณต้องย้ายข้าวของจึงทำให้โมโห หงุดหงิด ประกอบกับพนักงานไม่มาทำความสะอาดให้ จึงต้องคุยกับผู้จัดการ ทีนี้หากเค้าแสดงความรับผิดขชอบให้ไปแล้ว แต่คุณยังมีอารมณ์อยู่ คราวนี้ล่ะค่ะที่เป็นเรื่อง อีกฝ่ายก็คงโมโหคุณเช่นกันเพราะในเมือเค้าก็พูดจาดีๆกับคุรแล้วอย่างที่คุณบอกมา ให้บัตรกำนัลกับคุณแล้วคุณก็ยังประกาศว่าจะไม่มาโรงแรมนี้อีกแล้ว (คาดว่าตอนพูดคงมีอารมณ์มากๆ) ทีนี้พนักงานก็คนค่ะคุณ เค้าก็คงคิดว่าอะไรนักหนาวะคะ เลยต้องพูดอย่างนั้น ซึ่งไม่สมควรพูดเพราะไม่สุภาพมากๆ แต่อย่างว่าค่ะคนมันมีอารมณ์เหมือน จขกท.ก็มีอารมณ์เพราะต้องย้ายห้อง แถมมาเจอคนพูดแบบนี้อีกก็ไปกันใหญ่ หากลองคิดในทางกลับกัน หากใจเย็นๆอีกนิด คิดซะว่ายังดีกว่าไม่มีห้องให้คุณเปลี่ยน ยังดีกว่าพนักงานไม่ให้บัตรกำนัลเพื่อแสดงความรับผิดชอบ อย่างน้อยเค้าก็แสดงความรับผิดชอบให้ในระดับหนึ่งแล้ว เราว่าคราวหน้าหากไปพักที่ไหนอีกก็ให้ใจเย็นๆ คิดในทางบวกเค้าไว้ อย่าคาดหวังว่าพนักงานจัะสามารถรองรับอารมณ์ลูกค้าอย่างใจเย็นและมีสติทุกครั้งทุกคน เราควบคุมอารมณ์คนอื่นไม่ได้แต่เราควรควบคุมอารมณืเราให้มาก และให้มันสมเหตุสมผลไม่งั้นเราจะกลายเป็นคนที่พูดไม่รู้เรื่อง อะรก็ไม่เอาสักอย่าง ที่ร่ายมาทั้งหมดเราก็เคยประสบค่ะแต่คนละโรงแรม พนักงานย้ายให้ด้วยซ้ำสองสามรอบ ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมานี่แหละค่ะ ตอนจองไม่ได้คิดเลยจองชั่นล่างๆ แต่แฟนนึกได้ว่าช่วงปีใหม่เค้าจะจุดพลุเลยขอย้ายไปชั้นสูงๆ พนักงานติดต่อดำเนินการให้ แล้วก็มาย้ายของให้อย่างดี พอไปถึงยังไม่ได้ทำอะไรเด็กมาเคาะก้องบอกว่า ขอโทษทางเค้าผิดพลาดย้ายห้องให้ผิดฝั่ง เราก็อาวเหรอ ย้ายอีกรอบไปอีกฝั่ง แต่คราวนี้ผิดห้อง ก็ย้ายกันอีกรอบ พนักงานตอนนั้นหน้าเสีย ลนลานมากเพราะกลัวเราวีนแตก เราก็หงุดหงิดนะคะเพราะเซ้งกับการบ้ายไปย้ายมา แต่เห็นหน้าเค้าแล้วสลดไม่อยากต่อว่า บอกว่าแคว่าทีหลังอย่าทำอย่างนี้อีกนะ เพราะลูกค้าไมได้เหมือนพี่กันทุกคน โอเค๊ โห ตอนนั้นหน้าน้องคนยกกระเป๋า บานขึ้นมาทันทียกมือไหว้้เราปลกๆๆ แล้วทริปนั้นก็เป้นทริปที่มีความสุขที่สุดทริปนึงค่ะ ปล.แต่เราก็ไปคอมเมนต์ที่เคาน์เตอร์นะคะ ใช่ว่าจะหาเรื่องแต่ติเพื่อก่อเพื่อให้ระดับสูงได้รับรู้ความรู้สึกลูกค้าจะได้ปรัยปรุงให้้ดีขึ้นค่ะ แก้ไขเมื่อ 15 ส.ค. 53 13:16:47 จากคุณ : loveTRAVEL1977 เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 12:46:40

ความคิดเห็นที่ 29 ไม่ทราบว่าที่คุยเป็น Manager แน่หรือค่ะ เพราะภาษาที่ใช้ ไม่น่าจะเป็นคนที่ได้รับการศึกษาหรืออบรมมาเลย เป็นภาษาที่พูดตรง เข้าใจง่ายก็จริง แต่ผู้พูดไม่ควรอยู่ในสถานะ manager ที่มาอธิบายกับลูกค้า ถ้าเป็นเรานะ เรื่องนี้อีกยาว และใหญ่มาก เพราะรับไม่ได้ กับการพูดจาแบบนี้ ในเมื่อคุณเป็นฝ่ายบริการ จากคุณ : puttikrai (puttikrai) เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 18:31:47

ความคิดเห็นที่ 30 ไม่มีคอมเม้นท์อื่นค่ะ แต่ดิฉันอ่านแล้วรู้สึกสะดุดใจและคิดคล้าย ๆ คุณ alone with out lonely ในคห.ที่ 27 ค่ะ   ว่าภาษาที่ใช้มันแปลกมาก  ฟังเหมือนเป็นการพูดแบบแปลจากภาษาอังกฤษมาแบบทื่อ ๆ   และคำต้นแบบในภาษาอังกฤษมันก็เป็นคำที่ใช้แบบไม่เป็นทางการ  ใช้กันในเฉพาะกลุ่ม  หรือประชุมกันเองในโรงแรม  แต่เผลอหลุดปากมาใช้กับลูกค้าแบบนั้นหรือเปล่า จากคุณ : ป้าทุยบ้านทุ่ง เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 19:56:34

ความคิดเห็นที่ 31 ระดับ ผจก ไม่น่าของขึ้นง่ายๆ  จขกท.ไม่ได้เล่าว่าต่อว่าอย่างไรด้วยสิ ท่าทางจะแรงไม่น้อยเลยถึงเจอสวนกลับมาดอกใหญ่   แต่อย่างไร ผจก ไม่ควรพูดกับลูกค้าแรงๆ แบบนี้ จากคุณ : คิงเพนกวิน เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 23:42:03

ความคิดเห็นที่ 32   ตอนที่โรงแรมจัดห้องให้ 2 ห้อง  ได้ถามเขาไหมคะว่า  ห้องเบอร์อะไรพักได้ 2 คืน ถ้าได้คำตอบ เราจะจัดการเองเลยค่ะว่า เราจะนอนห้องเบอร์นั้น เพราะเราจะอยู่ 2 คืน   ส่วนเพื่อนก็ให้นอนห้องที่พักได้คืนเดียวไปซะ แต่ถ้า ห้องที่โรงแรมจัดให้ 2 คืน   ไม่ใช่ฝั่งที่มองเห็นพลุ   เราก็จะขอให้เขาสลับเบอร์ห้องค่ะว่า    พี่ขอให้ห้องเบอร์ที่เห็นพลุ  ได้นอน 2 คืนนะคะ พอจะจัดให้ได้ไหมคะ อ่านแล้ว งงหรือเปล่า ส่วนคำพูด ว่า หุบปาก  กับคำว่า  ลูกค้าตะเกียกตะกาย  เราว่าไม่น่าเป็นไปได้เลยที่เขาจะพูดจาเสียดสี ประชดประชันเยี่ยงนั้น ถ้าพูดจริง  พนักงานคนนั้นก็ขาดวุฒิภาวะทางอารมณ์ แต่สิ่งที่เราไม่รู้คือ   "ถามจริงๆ เถอะค่ะว่า  จขกท พูดจาอย่างไรกับ พนักงานคนนั้น" จากคุณ : อ้วนน้อยศิษย์เจ้าแม่ เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 01:21:05

ความคิดเห็นที่ 33 จขกท.เองคะ เรื่องที่บางท่านสงสัยว่าทำไมสับสนเรื่องการ check out วันไหน เพราะเราไปสัมนาที่ถูกจัดขึ้นโดยหน่วยงานอื่นคะ เราเลยไม่ทราบว่าห้องเราได้พักถึงเมื่อไหร่ เพราะตอนแรกทางผู้จัดแจ้งว่าออกวันอา. เพิ่งมาทราบว่าห้องที่อยู่ได้ถึงวันอา.เป็นห้องอื่นที่ไม่ใช่ห้องที่เราพักอยู่ เราเองรีบย้ายของลงมาชั้น 19 เพราะตอนนั้นเที่ยงครึ่งแล้ว ถึงทราบว่าห้องที่พักอยู่ต้อง check out วันส.ไม่ใช่วันอา. พอย้ายของลงมาแล้วเราลงมาเคาเตอร์เพื่อถามพนง.ว่าเราขอเปลี่ยนห้องเป็นห้องเดิมได้หรือไม่เขาบอกว่า ได้ครับจะจัดการให้เรื่องเปลี่ยนห้อง check out เราถึงได้ย้ายของกลับขึ้นไปคะ พอเพื่อนเราลงไป check out ห้องชั้น 19 ทางเพื่อนเราถึงบอกว่าพนง.แจ้งว่าย้ายไม่ได้แล้ว เราก็เลยงงว่า เราลงไปถามแล้วนี่นาทำไมตอนนี้ถึงไม่ได้แล้วละ ตอนนี้เราเลยย้ายของลงมาจากชั้น 20 เป็น 19 ที่หลายๆคนสงสัยเรื่องทำความสะอาดห้องที่เป็น over night ก็ใช่คะเขาต้องทำห้อง check out ก่อน แต่เราเปิดประตูไปบอกแม่บ้าน 2-3 รอบ ว่าทำห้องให้เราหน่อย เขาก็รับปากแค่ คะ กับ ครับสักครู่ ขอทำห้อง check out ก่อน เราบอกไปด้วยว่าเราเพิ่งย้ายเปลี่ยนห้องมาห้องเลอะมากเลย ที่เราลงไปคุยกับพนง.เพื่อแจ้งเครื่องคอมแพลน คร่าวๆก็ตามกกระทู้ด้านบนคือความผิดพลาดของพนง.ที่เขาบอกเราว่า จะเปลี่ยนห้องที่ check  out ให้เพื่อที่เราจะได้อยู่ห้องเดิมได้ เพราะถ้าบอกไม่ได้ตั้งแต่แรกก็ไม่มีปัญหาอะไร long week end กับมีงานพลุเราเข้าใจดีว่าใครๆก็ได้อยากห้อง ซึ่งเราเองก็อยากได้แต่เรารู้ว่าเราไม่ได้ืจองห้องเองตั้งแต่แรก ไม่ได้ระบุอะไรไว้ ถ้าได้ก็ถือว่าโชคดี ก็ไม่ได้คาดหวังอะไรตอนลงไปคุยเพื่ออยากได้ห้องเดิม ประเด็นคือพนง.บอกว่าได้ห้องเดิมแต่สุดท้ายกลายเป็นไม่ได้ เรื่องการทำความสะอาดห้องเราก็บอกพนง.ทำความสะอาดที่เดินผ่านไปมาด้านหน้าห้องไปแล้วเช่นกันว่าทำห้องให้ด้วยนะ ไม่ใช่ไม่แจ้งคะ ตอนที่เราคุยกับพนง.หญิงคนนั้น ต่างฝ่ายต่างใช้คำพูดสุภาพต่อกันคะ เรายอมรับมาเราโมโหน้ำเสียงและหน้าตาคงแย่แน่นอน ซึ่งอันนี้เรารู้ตัวว่าเวลาโกรธหลายๆท่านอาจจะเป็นเหมือนเรา แต่มาติดคำพูดที่เราได้แจ้งไว้เนี่ยละที่ทำเอาเราอึ้ง ซึ่งคืนนั้นหลังจากดูพลุเขาก็ได้เข้ามาขอโทษและปรับความเขาใจกับเราอีกครั้งหนึ่ง เขายอมรับว่าใช้คำพูดไม่เหมาะสมกับเราซึ่งตอนนั้นเราก็ไม่คิดอะไรแล้ว อย่างน้อยๆเขาก็มาขอโทษด้วยตัวเองแล้วยอมรับว่าหลุดปากใช้คำพูดที่อาจจะรุนแรงเกินไปหน่อยในความรู้สึกของคนที่ได้ฟัง กดดันกับลูกค้ามาตั้งแต่วันที่ 12 จนถึงวันนี้(14) เขาเองยอมรับว่ารู้สึกผิดที่หลุดคำพูดนั้นออกมาก แต่เรื่องก็เกิดขึ้นไปแล้วเขาเองไม่ได้หมายความว่าการให้Voucher จะให้เราหุบปากไม่ร้องเรียนอะไรใดๆได้ เธอแค่หมายความว่าเธอทราบว่าการให้นั้นไม่ได้แค่อยากให้เราหยุดร้องเรียนเรื่องที่เกิด ซึ่งเราเข้าใจดีแต่แค่พอมีคำว่า หุบปาก เราเลยอึ้งกับคำพูดคำนั้น แค่อยากอธิบายเพิ่มเติมให้กับทางรร.ว่า ทางพนง.ท่านนั้นก็ยังออกมาขอโทษเราเป็นการส่วนตัวอีกครั้งหนึ่ง อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้นิ่งนอนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เราเองก็ไม่คิดว่าจะมีคำถามหรือความคิดเห็นในเรื่องของเรามากขนาดนี้ เลยชี้แจงเพิ่มเติมไปด้วยคะ จากคุณ : Still Chubby เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 11:38:41

ความคิดเห็นที่ 34 ผมคิดเหมือนหลายคนว่า ภาษาที่พนักงานใช้ไม่ใช่ภาษาไทยของผู้ให้บริการเลยครับ " หุบปาก " " ตะเกียกตะกาย " ผมเลยสรุปเอาเองว่า ทางโรงแรมพนักงานไม่พอ เลยใช้หุ่นยนต์มาทำงาน แล้วหุ่นยนต์คงแปลคำพูดโต้ตอบด้วยโปรแกรมแปลภาษา รุ่น " ซับนรก " จากคุณ : thiefcat เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 12:27:14

ความคิดเห็นที่ 35   อืมม พนักงานผู้ให้บริการก็เป็น "คน" นะครับ ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วโดนต่อว่าอะไรไปบ้าง ยังอยากฟังความอีกข้างด้วยอ่ะ จากคุณ : เคยเห็น เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 12:59:47 A:125.24.21.26 X: TicketID:269264

ความคิดเห็นที่ 36 อิอิ ผมสงสารโรงแรมมากกว่าครับ เพราะลูกค้าสมัยนี้ require สูงมากจนลืมตัว ดูแค่กรณี แม่บ้าน เค้ารับปากว่าจะทำห้องให้ แต่ขอทำห้อง check out ก่อน (หรือเรียกง่ายๆว่าตามคิว) คุณยังไม่ค่อยพอใจ จะให้แม่บ้านรีบมาทำซะตอนนั้นเวลานั้น รอคิวหน่อยสิครับ ลูกค้าทุกคนเค้าบริการเหมือนกันหมดแหละครับ เป็นลุกค้า แต่อย่านึกว่าตัวเองเป็นพระเจ้า (เพราะพระเจ้าท่านไม่เคยเรียกร้องอะไร) จากคุณ : หมวยสลัม เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 14:06:48

ความคิดเห็นที่ 37 ขอบคุณ จขกท ที่ช่วยออกมาชี้แจงเพิ่มเติมนะคะ สรุปสุดท้ายว่า พนักงานโรงแรมมาขอโทษ ซึ่งตอนนั้น จขกท เองก็ไม่ได้คิดอะไรแล้ว และ จขกท เองก็ยังชื่นชมที่พนักงานคนนั้นเค้าไม่ได้นิ่งนอนใจในสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วใช่มั้ยคะ  เห็นที่เกริ่นในหัวกระทู้ไว้ว่าอยากจะร้องเรียนพนักงานคนนี้ สรุปว่าก็แปลว่าไม่ต้องร้องเรียนแล้วเนอะ จบได้ด้วยดีก็ดีคะ แค่ งงๆ ว่าไอ้ที่จั่วหัวไว้ กับ ที่มาอธิบายใหม่นั้น ฟังแล้วแตกต่างทางด้านอารมณ์กันอย่างสิ้นเชิง แต่ก็ขอบคุณอีกทีคะที่ช่วยเข้ามาไขความกระจ่าง จากคุณ : งานเข้า เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 16:34:43

ความคิดเห็นที่ 38 ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ พอเหลาลงไป ไหง เป็น happy ending หว่า จากคุณ : สลัก ลูกสูบ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 13:22:34