|
ความคิดเห็นที่ 4 |
ตามที่กรมการขนส่งทางอากาศ ได้เริ่มมาตรการจำกัดการนำของเหลวติดตัวขึ้นเครื่องบินของผู้โดยสารทุก สัญชาติ ทั้งนี้ เพื่อให้ทุกท่านที่กำลังมีเตรียมการเดินทางไปต่างประเทศสามารถปฎิบัติตนได้ ถูกต้อง ทางคิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จึงมีข้อแนะนำดังนี้ (ในที่นี้ขอย้ำว่าเฉพาะของเหลวที่ขึ้นเครื่องบิน ไปยังจุดหมายปลายทางเท่านั้น)
คำนิยามของ“ของเหลว” จากคำในภาษาอังกฤษ 3 หมวด ได้แก่ ** Liquid คือ น้ำ **Aerosols คือ สเปรย์ **Gels คือ เจล หมายรวมถึง ครีม,ช๊อคโกแล็ต และโฟม(LAGs)
สิ่งที่ได้รับการยกเว้น : ยา , เครื่องดื่มสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน, นม และอาหารสำหรับเด็ก โดยทั้งหมดนี้ต้องอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม
ในที่นี้ ขอแบ่งประเภทของ ของเหลว ที่ท่านจำเป็นต้องนำติดตัวขณะนั่งบนเครื่องบินโดยสาร เป็น 2 ประเภท ดังนี้ 1. ของเหลวที่เป็นสัมภาระส่วนตัว คือ ข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน และจำเป็นต้องนำใส่กระเป๋าใบเล็ก เพื่อติดตัวเราขึ้นเครื่องบิน เพื่อใช้ขณะอยู่บนเครื่องบิน เช่น ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ครีม โฟม สเปรย์ใส่ผม เจลอาบน้ำ น้ำยาบ้วนปาก ลิปสติก ฯลฯ ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดนี้ผู้โดยสารสามารถนำติดตัวขึ้นเครื่องได้ โดยขนาดของแต่ละบรรจุภัณฑ์ต้องไม่เกิน 100 มิลลิตร (100CC) และที่สำคัญ ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดต้องบรรจุในถุงพลาสติกใสที่มีที่ปิดเปิดได้ หรือถุง Ziploc (ซิบล็อค) ที่มีจำหน่ายใน Supermarket ที่มีขนาด 20x20 ซม. โดยทั้งหมดเมื่อใส่ในถุงแล้ว จะต้องมีปริมาณไม่เกิน 1 ลิตร ต่อผู้โดยสาร 1 ท่าน และจำกัดท่านละ 1 ถุงเท่านั้น อย่างไรก็ตาม หากท่านเพิ่งจะทราบเกี่ยวกับข้อปฎิบัติดังกล่าว ระหว่างที่ท่านอยู่ที่สนามบิน ซึ่งคงหนีไม่พ้นในการวิ่งหาถุงใส Ziploc อย่างแน่นอน ขอแนะนำว่าท่านอาจสอบถามจากพนักงานของสายการบินที่ท่านจะเดินทาง แต่อย่างไรก็ตาม ควรจะศึกษารายละเอียดก่อนเดินทางจะดีที่สุด เนื่องจากบางสายการบินอาจมีถุงบริการให้ท่านในจำนวนจำกัด สำหรับ สัมภาระส่วนตัวที่ท่านบรรจุมากับกระเป๋าเดินทาง เพื่อโหลดเข้าใต้ท้องเครื่องบินนั้น ไม่อยู่ในข้อกำหนดนี้ จึงไม่จำกัดจำนวน และปริมาตร แต่อย่างใด
2. ของเหลวที่ซื้อจากร้านจำหน่ายสินค้าปลอดอากร (ภายในสนามบิน) ปกติ แล้ว เมื่อเราซื้อสินค้าจากร้าน Duty Free ที่สนามบิน พนักงานขายก็จะบรรจุใส่ถุงหิ้วให้เราตามปกติ จากนั้นก็สามารถถือขึ้นเครื่องติดตัวเราไปได้เลย แต่เมื่อมีมาตรการการ จำกัดการนำของเหลวขึ้นเครื่องเกิดขึ้น ท่านไม่ต้องกังวลกับมาตรการนี้ เพราะทางร้านจำหน่ายสินค้าปลอดอากรได้เตรียมการไว้ให้ท่านด้วยความเรียบร้อย แล้วดังนี้ 1. จำนวน และปริมาณของสินค้าประเภทของเหลวที่ซื้อจากร้านจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ไม่มีการจำกัดปริมาณ หรือจำนวนการซื้อแต่อย่างใด (บางประเทศมีข้อจำกัด Duty Free Allowance ในเรื่องเหล้า บุหรี่ และเครื่องสำอางอยู่ก่อนแล้ว) 2. พนักงาน ขายจะบรรจุสินค้าเป็นระเบียบ และรัดกุมมั่นคงยิ่งขึ้น โดยถุงที่บรรจุสินค้าจะต้องใส มองเห็นสินค้าภายในทั้งหมด รวมถึงแบ่งสินค้าประเภทของเหลว ออกจากสินค้าทั่วไป 3. จากนั้นสินค้า ประเภทของเหลวนี้จะถูก จัดแยกตามชนิดของสินค้าอีกครั้ง แล้วจึงบรรจุใส่ถุงใส เช่น เครื่องสำอางก็จะอยู่ในถุงใสของเครื่องสำอาง หรือผลิตภัณฑ์สปา ก็จะบรรจุในถุงใสเฉพาะสปา ฯลฯ พร้อมด้วยใบเสร็จที่มีรายการสินค้าตรงกันกับสินค้าที่บรรจุในถุงนั้นๆ 4. จากนั้นพนักงานจะทำการปิดผนึกตาย ยากต่อการหลุด หรือแกะออกได้
ข้อควรรู้เพิ่มเติม ก่อนซื้อสินค้าทุกครั้งพนักงานขายจะสอบถามลูกค้าก่อนว่า เดินทางไปประเทศใด จะทำให้ท่านได้รับข้อมูลชัดเจนยิ่งขึ้น * หาก จุดหมายปลายทางของท่านคือ 5 ประเทศต่อไปนี้ คือ แคนาดา อเมริกา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และ อินเดีย ท่านจะไม่สามารถนำสินค้าประเภทของเหลวดังที่ได้กล่าวมาแล้วติดตัวไปได้เลย ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น *หากการเดินทางของท่านจะต้องไปเปลี่ยน หรือต่อเครื่องบิน เพื่อไปยังประเทศปลายทาง ท่านไม่สามารถซื้อสินค้าประเภทดังกล่าวติดตัวไปได้เช่นกัน
*ถุงใสที่ บรรจุสินค้าอย่างแน่หนา จากร้านจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ท่านไม่สามารถแกะออกระหว่างการเดินทางได้ จนกว่าท่านจะถึงจุดหมายปลายทาง และผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรก่อน
อย่างไรก็ตาม บางประเทศที่ท่านจะเดินทางไปนั้น จะมีข้อกำหนดในการอนุญาตนำสินค้า เช่น เหล้า บุหรี่ น้ำหอม ในจำนวนที่จำกัดตามข้อกำหนดของ Duty Free Alliance อยู่ก่อนแล้ว จึงควรสอบถามรายละเอียดข้อจำกัดของแต่ละประเทศได้จากพนักงานขายสินค้าปลอด อากรได้
Credit : http://www.thailandwisdom.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=416464&Ntype=7
จากคุณ |
:
Galadriel
|
เขียนเมื่อ |
:
29 ส.ค. 53 00:34:19
|
|
|
|
|