ความคิดเห็นที่ 1 หลังจากฝากกระเป๋าและออกเดินทางจากคิวชูออกมา รถ Hikari จาก Hakata มาสู่ Hiroshima ใช้เวลาชั่วโมงเศษๆ ออกจากสถานี Hiroshima เดินข้ามแม่น้ำมาก็มาพบโรงแรมนี้ครับ "Hotel Flex" http://www.hotel-flex.co.jp/index_e.html มาถึงก็พบกับฝนตกหนัก (รูปนี้ถ่ายอีกวันนึง แต่ก็ฟ้าครึ้มไม่แพ้กัน) จากคุณ : Poppartacus เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 53 23:04:04

ความคิดเห็นที่ 2 ด้านหน้าโรงแรม ออกแบบเรียบง่ายแต่มีสไตล์ อยู่ติดแม่น้ำ บรรยากาศดีมากๆ จองทางอินเตอร์เนตราคาก็ไม่แพงครับ จากคุณ : Poppartacus เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 53 23:05:28

ความคิดเห็นที่ 3 ภายในมี Bar เล็กๆ บรรยากาศชิวๆ หรือจะเลือกนั่งจิบกาแฟริมแม่น้ำก็เพลินไปอีกแบบ จากคุณ : Poppartacus เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 53 23:12:57

ความคิดเห็นที่ 4 โรงแรมออกแบบโดย Miyazaki Hiroshi เน้นเรียบง่าย ได้ Relaxing และ inspiring atmosphere จากคุณ : Poppartacus เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 53 23:17:02

ความคิดเห็นที่ 5 โรงแรมยังใหม่ ห้องพักไม่กว้างนัก แต่ก็ไม่แคบจนเกินไป มีพื้นที่ใช้สอย รู้สึกสบาย และชอบมากกว่าโรงแรมที่ผ่านมา รู้สึกคุ้มราคามาก จากคุณ : Poppartacus เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 53 23:18:53

ความคิดเห็นที่ 6 มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน จากคุณ : Poppartacus เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 53 23:20:11

ความคิดเห็นที่ 7 ได้หมายเลขห้องเลขเดียวกับร้านสะดวกซื้อเลย ภายนอกไม่มีทีท่าว่าฝนจะหยุดตกเลย ประกอบกับห้องพักก็สบายๆ เลยชั่งใจว่าจะนอนตีพุงที่โรงแรมหรือว่าจะออกไปเที่ยวดี สุดท้ายเพื่อไม่ให้เสียเที่ยว เลยคว้าร่มหนึ่งคันแล้วมุ่งสู่จุดหมายที่ตั้งใจว่าครั้งหนึ่งในชีวิตต้องมาให้ได้ จากคุณ : Poppartacus เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 53 23:23:15

ความคิดเห็นที่ 8 Peace Memorial Park นั่งรถรางเบอร์ 2 หรือ 6 ลงที่ Genbaku-Domu mae station สิ่งก่อสร้างที่พบตั้งตระหง่านท่ามกลางสายฝนคือ "A-Bomb Dome" จากคุณ : Poppartacus เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 53 23:28:26

ความคิดเห็นที่ 9 อาคารของหอส่งเสริมอุตสาหกรรมฮิโรชิม่า เป็นอาคารที่ก่อสร้างด้วยความแข็งแรงและทันสมัยที่สุดในขณะนั้น ยังคงตั้งตรงอยู่ได้ แต่ยอดโดมก็เหลือแต่โครงเหล็กไว้เท่านั้น เพื่อไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย องค์การยูเนสโกจึงได้ขึ้นทะเบียนให้ซากอาคารหลังนี้เป็นมรดกโลกเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ปีพ.ศ.2539 เพื่อเป็นอนุสรณ์เตือนใจถึงความน่าสะพรึงกลัวของระเบิดปรมาณูเป็นสัญลักษณ์ แห่งสันติภาพของโลก และตั้งชื่ออาคารแห่งนี้เสียใหม่ว่า Atomic Bomb Dome จากคุณ : Poppartacus เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 53 23:30:01

ความคิดเห็นที่ 10 ใต้ร่มวันฝนพร่ำ ที่ Atomic Bomb Dome จากคุณ : Poppartacus เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 53 23:32:04

ความคิดเห็นที่ 11 ระฆังสันติภาพครับ จากคุณ : Poppartacus เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 53 23:33:30

ความคิดเห็นที่ 12 Children's Peace Monument สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงเด็กหญิงซาดาโกะ ที่ได้รับกัมมันตรังสีตอนอายุ 2 ปี และเสียชีวิตจากมะเร็งในเม็ดเลือดขาวเมื่ออายุเพียง 12 ปี ก่อนเสียชีวิต เพื่อนสนิทของเธอเล่าเรื่องการพับนกกระเรียนพันตัวให้เธอฟัง เด็กน้อยพยายามพับนกให้ครบพันด้วย แต่ก็หาได้ช่วยชีวิตเธอได้ นอกจากนี้อนุสาวรีย์นี่ยังสร้างเพื่อระลึกถึงบรรดาเด็กๆทั้งหลายที่เสียชีวิตจากระเบิดปรมาณู และด้วยการสบทบทุนจากเด็กนักเรียนมากกว่า 3100 โรงเรียนทั่วญี่ปุ่น และอีก 9 ประเทศ "Children's Peace Monument" ก็ได้ฤกษ์เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ในปี 1958 , วันที่  5  พฤษภาคม  ซึ่งเป็นวันเด็กของประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง ส่วนบนของอนุสาวรีย์เป็นรูปเด็กผู้หญิง (ซาดาโกะ) ยืนชู "นกกระเรียนกระดาษสีทอง"ไว้เหนือหัว บนหินสีดำที่วางอยู่ตรงกลางฐานของอนุสาวรีย์ มีข้อความสลักไว้ว่า "This is our cry. This is our prayer. For building peace in this world." ปัจจุบันยังมีคนพับนกกระเรียนส่งมาที่นี่ทุกปีๆ จากคุณ : Poppartacus เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 53 23:39:13

ความคิดเห็นที่ 13 ปฏิมากรรม  "Flame of Peace" จากคุณ : Poppartacus เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 53 23:40:26

ความคิดเห็นที่ 14 ปฏิมากรรม  "Flame of Peace" บ่อน้ำ "Pond of Peace" และ อนุสรณ์ "Cenotaph for the A-bomb Victims" จากคุณ : Poppartacus เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 53 23:42:24

ความคิดเห็นที่ 15 "Cenotaph for the A-bomb Victims" ภายในอนุสรณ์หินนั้นบรรจุรายชื่อของผู้เสียชีวิตจากการระเบิดครั้งนั้นทุกคนทุกชนชาติ  ไม่ใช่แต่เฉพาะชาวญี่ปุ่น รายชื่อจะถูกเพิ่มลงไปเรื่อยๆ  เมื่อผู้ที่เกี่ยวข้องหรือได้รับผลจากการระเบิดเสียชีวิตลง จากคุณ : Poppartacus เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 53 23:44:36

ความคิดเห็นที่ 16 ด้านหน้า  Hiroshima Peace Memorial museum มีรูปปั้นแม่ลูกที่แสดงถึงความโหดร้ายของสงคราม ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์เพียงแค่ 50 yen แต่ที่คุ้มที่สุดคือเครื่องแปลภาษาราคา 300 yen มีภาษาไทยซึ่งบรรยายได้ดีมาก อยากให้เมืองไทยมีพิพิธภัณฑ์ที่ให้สาระ ความรู้ และปลุกจิตสำนึกให้กับคนในชาติแบบนี้บ้าง แก้ไขเมื่อ 14 ก.ย. 53 00:13:02 จากคุณ : Poppartacus เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 53 23:47:24

ความคิดเห็นที่ 17 เมื่อเวลา 08.15 น. ของเช้าวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ.2488 ระเบิดปรมาณูลูกแรกจะถูกลงที่เมืองฮิโรชิม่า เพื่อหยุดความเหิมเกริมของกองทัพญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จำนวนผู้ที่เสียชีวิตทันทีมีจำนวนสูงถึงสองแสนคน เมืองที่เคยเป็นเมืองท่าที่เจริญหายไปในพริบตา เหลือเพียงเศษซากของอาคารที่พังทลาย และผู้คนบาดเจ็บที่ร้องโหยหาความช่วยเหลือ จากคุณ : Poppartacus เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 53 23:50:32

ความคิดเห็นที่ 18 อาคารโดมจำลองเต็มไปด้วยโทรเลขที่นายกเทศมนตรีเมืองฮิโรชิม่าส่งหาประเทศที่มีการทดลองระเบิดนิวเคลียร์ ปัจจุบันมีโทรเลขนับหลายร้อยฉบับ แต่การทดลองระเบิดก็ยังไม่เคยจางหายไปจากโลกนี้ ชาวญี่ปุ่นตั้งปณิธาณไว้ว่าจะอยู่ร่วมโลกกับระเบิดนิวเคลียร์ไม่ได้ จากคุณ : Poppartacus เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 53 23:54:32

ความคิดเห็นที่ 19 “เจ้าตัวเล็ก” (Little boy) ระเบิดลูกเล็ก ๆ ความยาวเพียง 3 เมตร แต่มีน้ำหนักถึง 4 ตัน ภายในบรรจุแร่ยูเรเนียม 250 กิโลกรัม จากคุณ : Poppartacus เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 53 23:58:38

ความคิดเห็นที่ 20 เปลวไฟลูกโตๆ โหมเข้าท่วมเมืองอย่างไม่มีใครคาดคิด ทุกคนหาที่กำบังแต่ก็หาได้หลุดรอดไปจากทะเลเพลิงมรณะนี้ เปลวไฟลามไปอย่างรวดเร็วทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้า แม้แต่ผู้คนและสิ่งก่อสร้างที่อยู่ห่างจุดนี้ไป 2 กิโลเมตร ก็ยังหนีไม่รอด จากคุณ : Poppartacus เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 00:00:48

ความคิดเห็นที่ 21 เปลวไฟแผดเผาทุกอย่าง แม้กระทั่งแก้วจนหลอมรวมกัน จากคุณ : Poppartacus เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 00:02:26

ความคิดเห็นที่ 22 Shinichi Tetsutani อายุ 3 ขวบ ถูกระเบิดขณะขี่จักรยานอยู่ในสวนหน้าบ้าน เด็กน้อยเสียชีวิตในคืนนั้น Nobuo Tetsutani ผู้เป็นพ่อฝังร่างลูกชายไปพร้อมกับจักรยานด้วยความปวดร้าว 40 ปีต่อมาเค้าย้ายหลุมศพ และบริจาคจักรยานคันนี้ให้กับพิพิธภัณฑ์ จากคุณ : Poppartacus เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 00:08:03

ความคิดเห็นที่ 23 Shigeru Orimen เด็กชายชั้นม. 1 ถูกระเบิดขณะออกมาทำงานรื้อถอนอาคาร Shigeko ผู้เป็นแม่ออกตามหาร่างของเด็กชาย แต่หาเท่าไหร่ก็ไม่พบ พบเพียงแค่กล่องข้าวที่มีชื่อสลักอยู่ ข้าวซึ่งเด็กชายปลูกเองบนเขา และเป็นการเก็บเกี่ยวครั้งแรก เด็กน้อยนำข้าวกลับมาบ้านอย่างมีความสุข ก่อนที่วันต่อมาผู้เป็นแม่จะปรุงและบรรจุลงในกล่องข้าว แต่เด็กชายเสียชีวิตไปโดยที่ยังไม่ได้ทานข้าวในกล่องนั้นเลย จากคุณ : Poppartacus เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 00:20:46

ความคิดเห็นที่ 24 สิ่งของจากเหยื่อระเบิดอีกหลายชิ้น สามารถเข้าไปชมได้ที่ http://www.pcf.city.hiroshima.jp/virtual/VirtualMuseum_e/exhibit_e/exhi_fra_e.html ของแต่ละชิ้นทำน้ำตาผมแทบร่วงเลย จากคุณ : Poppartacus เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 00:29:06

ความคิดเห็นที่ 25 หลังจากโดนระเบิด นักวิชาการเชื่อว่าต้นไม้จะไม่สามารถขึ้นได้อีกเป็นเวลา 70 ปี แต่หลังจากนั้นไม่นานก็มีต้นไม้เล็กๆ งอกขึ้นมา เป็นชีวิตใหม่ที่เติบโตขึ้นมาได้แม้จะอยู่ท่ามกลางสภาพอันเลวร้าย นอกจากนี้ ต้น pheonix tree ที่ด้านนึงของต้นโดนระเบิดก็ยังสามารถเติบโตต่อไปได้ ต่อมาต้นไม้ต้นนี้ได้เป็นสัญลักษณ์ และนำไปปลูกในโรงเรียนต่างๆ ในญี่ปุ่น อีกทั้งยังมีบทเพลงเกี่ยวกับต้นไม้ต้นนี้เป็นกำลังใจอีกด้วย แม้จะผ่านบาดแผลอันแสนสาหัส ญี่ปุ่นก็ยังสามารถกลับมายืนหยัดเป็นผู้นำของเอเชียได้ในปัจจุบัน เมื่อ "ล้ม" แล้วสามารถ "ลุก" ขึ้นมาได้ยิ่งใหญ่กว่าเดิมได้ ช่างน่านับถือยิ่งนัก จากคุณ : Poppartacus เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 00:36:21

ความคิดเห็นที่ 26 เวลาผ่านไปกี่ชั่วโมงไม่ทราบ ผมมารู้สึกตัวอีกทีก็ถึงเวลาปิดพิพิธภัณฑ์แล้ว เข้าไปอยู่ในนั้นเหมือนตกอยู่ในพะวัง อารมณ์ต่างๆ มันช่างพรั่งพรูออกมาแบบบอกไม่ถูก ไม่สามารถเดินดูได้หมดทุกอย่างจริงๆ หลายคนออกมาแล้วบอกว่า ญี่ปุ่นมันทำพิพิธภัณฑ์ได้ "เอาดีเข้าตัว" มากๆ แต่ผมกลับไม่มองอย่างนั้น แม้นี่จะเป็นแค่มุมมองนึงของประเทศที่เป็น "ผู้ร้ายสงคราม" "ผู้แพ้สงคราม" แต่ผู้เคราะห์ร้ายที่เสียชีวิตนับแสนคน คือ "ผู้บริสุทธิ์" ผู้ที่ไม่รู้เรื่องแต่กลับต้องมาเสียชีวิต คนธรรมดาที่ต้องมาทุกข์ทรมานจากโรคร้ายผลของกัมมันตรังสี จนทุกวันนี้ผมกลับมามองใกล้ๆ ตัว บางครั้งเราตัดสินคนเพียงแค่ "ถูก-ผิด" มีเพียงแค่ "ขาว-ดำ" เท่านั้นหรือ คนที่มองต่างจากเราก็กลายเป็นศัตรู หรือคนที่เลวไป สงครามจึงมีให้เห็นอยู่ทุกวัน แม้ว่าเราจะมีตัวอย่างผลอันเลวร้ายของสงครามมีให้เห็นมาเป็นร้อยๆ ปีแล้วก็ตาม พูดมากแล้ว ไปหาอะไรทานกันดีกว่าครับ แก้ไขเมื่อ 14 ก.ย. 53 00:48:41 จากคุณ : Poppartacus เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 00:45:14

ความคิดเห็นที่ 27 อาหารที่ขึ้นชื่ออีกอย่างของ Hiroshima คือ Okonomiyaki ที่ Okonomimura เรียกได้ว่าเป็นศูนย์รวมอยู่อาหารเหล่านี้ ไม่ต่างกับ Ramen museum ที่ Yokohama เลย จากคุณ : Poppartacus เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 00:47:37

ความคิดเห็นที่ 28 Atomic Bomb Dome เป็นที่เดียวในญี่ปุ่นที่ผมไม่อยากไปเลยครับ ในขณะที่ดูที่อื่นแล้วต่อมอยากมันพรุ่งปรี๊ด ไม่ใช่อะไรหรอก ดูแล้วมันหดหู่ จิตตกกับสงครามในอดีตจัง เตรียมท้องรอหม่ำอยู่นะครับ :) จากคุณ : Coffee Blended เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 00:47:57

ความคิดเห็นที่ 29 คุณ Coffee Blended ของอร่อยมาแล้วครับ Okonomiyaki แบบ Hiroshima style ต่างกับแบบ Osaka ต้องที ไม่เอาส่วนผสมทุกอย่างผสมลงไปในแป้ง แต่ค่อยๆ ผัด แล้วเอาแป้งและไข่มาลงทีหลัง ผลที่ได้คือ เป็นพิซซ่าญี่ปุ่นแบบแห้งๆ และไม่เลี่ยน จากคุณ : Poppartacus เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 00:52:43

ความคิดเห็นที่ 30 วันนี้ทานน้อยหน่อยครับ (แค่นี้ก็จุกแล้วครับ) ระหว่างเดินกลับ ฝนก็หยุดตก อากาศเย็นสบาย มีหมอกเรี่ยๆไปกับแม่น้ำ สวยจนแทบหยิบกล้องมาถ่ายไม่ทัน จากคุณ : Poppartacus เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 00:54:59

ความคิดเห็นที่ 31 บรรยากาศโรแมนติกมากๆ เสียดายมาคนเดียว ไม่มีขาตั้งกล้องด้วย จากคุณ : Poppartacus เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 00:59:04

ความคิดเห็นที่ 32 เดินกลับไปที่โดม สวยมากๆ จากคุณ : Poppartacus เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 01:00:43

ความคิดเห็นที่ 33 ริมแม่น้ำมีคนนั่งร้องเพลง เล่นกีตาร์ บวกกับบรรยากาศแบบนี้ ตกหลุมรักฮิโรชิม่าเลยครับ จากคุณ : Poppartacus เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 01:01:54

ความคิดเห็นที่ 34 ถ่ายรูปเพลินจนหมอกลอยสูงจนคลุมตัวจนมิด ลืมไปว่าแถวนี้มีคนตายเยอะ  อยู่ๆ ก็กลัวขึ้นมาเลยรีบกลับที่พัก จากคุณ : Poppartacus เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 01:04:39

ความคิดเห็นที่ 35 นั่งรถรางกลับไปตอนกลัวต่อที่โรงแรมครับ ราตรีสวัสดิ์กันไปด้วยรูปนี้ครับ ขอบคุณทุกท่านที่มาเยี่ยมชมนะครับ จากคุณ : Poppartacus เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 01:07:48

ความคิดเห็นที่ 36 โอโคโนมิยากิน่าทานมากครับ ฮิโรชิมาเป็นอีกเมืองหนึ่งที่สวยงาม แต่เมื่อย้อนคิดถึงเหตุการณ์ในอดีต ก็เศร้าน่าดูเชียวครับ จากคุณ : tataweb เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 01:24:58

ความคิดเห็นที่ 37 สงสาร Hiroshima มากๆครับ จากคุณ : Dr.DJ เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 01:30:28

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณมากครับกับข้อมูลดีๆและรูปสวยๆ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 01:41:30

ความคิดเห็นที่ 39 ภาพสวย ข้อมูลแน่น ขอบคุณครับ จากคุณ : pukkhom เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 02:27:23

ความคิดเห็นที่ 40 ภาพสวยดีค่ะ ชอบ จากคุณ : Happi SiS เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 07:02:07

ความคิดเห็นที่ 41 รร.เปิดใหม่ สะอาดดีจัง รู้สึกกว้างพอใช้ได้เลยนะคะ โอโคฯน่าหม่ำๆ ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ จากคุณ : แมวน้อยใส่ทูพีช เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 08:01:12

ความคิดเห็นที่ 42 ผมไปที่นี่มา 2 ครั้ง ภายในพิพิธภัณฑ์หดหู่ก็จริง แต่บรรยากาศรอบนอกผมชอบมากๆ มีคนญี่ปุ่นขี่จักรยาน จูงสุนัขมาเดินเล่น ไม่ก็นั่งพักผ่อนกันเป็นกลุ่มๆ แทบไม่น่าเชื่อว่ามันเคยเป็นขุมนรกที่สร้างขึ้นจากฝีมือมนุษย์ด้วยกันเองมาก่อน จากคุณ : Leopaul เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 08:30:17

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณมากครับ จากคุณ : LIFE AFTER DEATH เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 09:27:15

ความคิดเห็นที่ 44   ขอมาตามชมภาพสวยๆ และรีวิว 80 days in Japan ของคุณ Pop ด้วยคนนะค่ะ อ่านรีวิว Hiroshima ก็เศร้าไปด้วยคนเลยค่ะ ทำไมอเมริกาถึงได้โหดร้ายแบบนี้ ฆ่าคนบริสุทธิ์ที่ไม่รู้เรื่องลงไปได้อย่างไร ขอบคุณค่ะ จากคุณ : Jibachan เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 10:13:46

ความคิดเห็นที่ 45 บรรยากาศกลางคืนนี่แอบหลอนๆ นะคะเนี่ย... โชคดีวันที่เราไปอากาศแจ่มใสมาก ถึงมากที่สุด.... ขอบคุณที่ร่วมถ่ายทอดเรื่องราวดีๆ ค่ะ จากคุณ : MaNgKoOd เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 10:19:58

ความคิดเห็นที่ 46 คห.34 ดูวังเวงพิกล มีเงาๆด้วย กลัวง่ะ จากคุณ : Tree Rose เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 11:42:31

ความคิดเห็นที่ 47 สงครามก่อเกิดแต่ความสูญเสียค่ะ เป็นสิ่งที่เศร้ามากที่คนบางคนทำให้มันเกิดขึ้นเพียงเพราะต้องการให้ตัวเองมีอำนาจและยิ่งใหญ่ ขอบคุณจขกท.ค่ะ เดี๋ยวขอแวะไปชิวชิวที่คิวชูต่อค่ะ จากคุณ : Baby_I Know_U Know เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 14:18:18

ความคิดเห็นที่ 48 tataweb : Okonomiyaki ของ Hiroshima เป็นอะไรที่เหมาะสำหรับคนไม่ชอบเลี่ยนครับ Dr.DJ : ไปแล้วก็สงสารเหมือนกัน แค่ถ้าไม่มีวันนั้นบ้านเมืองเค้าอาจไม่เจริญและผู้คนไม่ชาตินิยมขนาดนี้ก็ได้ครับ เล็กทาโร่ : ขอบคุณครับ ข้อมูลเล็กน้อยครับ แบบเต็มๆ เคยมีคนรีวิวไปแล้ว pukkhom : ขอบคุณครับ Happi SiS : ขอบคุณครับ แมวน้อยใส่ทูพีช : โรงแรมนี้แนะนำเลยครับ ใหม่ สะอาด ราคาไม่แพง Leopaul : ผมก็ชอบครับ เป็นเมืองที่มีแม่น้ำเยอะ ผู่คนดูไม่เร่งรีบมาก โรแมนติคดี LIFE AFTER DEATH : ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมครับ Jibachan : อดีตเก็บไว้เป็นบทเรียนครับ อนาคตซิสำคัญกว่า ว่าเราจะทำยังไงไม่ให้มีสงครามอีก MaNgKoOd : ตอนแรกก็ชิวครับ ตอนหลังก็เริ่มหลอนเหมือนกัน ต้องเปิดไฟนอนทั้งคืนเลย Tree Rose : อันนั้นเงาคนครับ แต่ถ้าเดินมาใกล้ๆแล้วเป็นอย่างอื่นก็ตัวใครตัวมันล่ะ Baby_I Know_U Know : ยินดีครับ จากคุณ : Poppartacus เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 17:53:34

ความคิดเห็นที่ 49 ไปเที่ยวด้วยคน รูปสวยคมชัดมากเลยครับ ว่าแต่โอโคโนมิยากิ น่ากินมากๆๆ จากคุณ : Paksabuy เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 18:06:42

ความคิดเห็นที่ 50 ที่พักน่าพักมากมายครับ ชมภาพเมืองหายไปทั้งเมืองนี่ช่างน่าเศร้ามากๆ ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ กำลังคิดถึงญี่ปุ่นอยู่พอดีเลย จากคุณ : inint&anant เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 18:20:57

ความคิดเห็นที่ 51 ดูรีวิวฮิโรชิม่าทีไร ก็รู้สึกเศร้าใจทุกที ขอบคุณสำหรับรีวิวสวยๆนะคะ จากคุณ : Smiley_Season เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 18:47:11

ความคิดเห็นที่ 52 รูปสวยมากครับ .. ขอ RIP ให้เมืองนี้ด้วยครับ จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 19:01:19

ความคิดเห็นที่ 53 ตามไปเที่ยวด้วยคนนะคะ จากคุณ : ลาวียา เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 19:53:13

ความคิดเห็นที่ 54 / ตามมาอีกคนค่ะ รูปสวยมากๆ เห็นแล้วอินตามเลยค่ะ รอชมตอนต่อไปนะคะ จากคุณ : gig_gigg เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 22:06:50

ความคิดเห็นที่ 55 ดูเสร็จแล้วก็เศร้ามากเลย เป็นที่ที่ไม่ค่อยอยากไปเท่าไหร่ แค่อ่านอย่างนี้ก็ยังเศร้า ถ้าไปดูด้วยตาตัวเองจะหดหู่ขนาดไหน พวกค่ายกักกันนาซีอีกอย่างที่ไม่อยากไป จากคุณ : toytrip เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 53 11:12:47

ความคิดเห็นที่ 56 แวะเข้ามาชมภาคต่อครับ.. สิ่งที่เหลือไว้หลังสงคราม.. ก็คือความสูญเสีย.. จากคุณ : เจ้าชายแวมไพร์ เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 53 04:42:33