ความคิดเห็นที่ 1 ด้านหน้าคุ้มจะมีอนุสาวรีย์เจ้าพิริยะเทพวงศ์ฯ ตั้งอยู่ มีข้อความจารึกไว้ว่า “เจ้าหลวงพิริยเทพวงศ์ (พระยาพิริยวิไชย) เจ้าหลวงองค์สุดท้ายผู้ครองเมืองแพร่ ระหว่าง พ.ศ 2432-2445” จากคุณ : old technician เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 53 21:41:07

ความคิดเห็นที่ 2 เจ้าพิริยะเทพวงศ์ฯ สืบเชื้อสายมาจากต้นตระกูลคือเจ้าเทพวงศ์ฯ เจ้าชายจากเมืองเชียงตุง กับเจ้าสุชาดา ซึ่งเป็นธิดาของพญามังไชยผู้ครองเมืองแพร่ในช่วงเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ต่อกับช่วงต้นกรุงธนบุรี  (ภาพเจ้าพิริยะเทพวงศ์ฯ และเจ้าบัวไหล ชายา) จากคุณ : old technician เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 53 21:42:17

ความคิดเห็นที่ 3 ภาพเจ้าบัวไหล ชายาเจ้าพิริยะเทพวงศ์ฯ จากคุณ : old technician เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 53 21:42:59

ความคิดเห็นที่ 4 เมื่อปี พ.ศ. 2442 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้ทรงประกาศยกเลิกระบบหัวเมืองประเทศราช งดประเพณีการถวายดอกไม้เงินดอกไม้ทอง มีการส่งข้าหลวงจากส่วนกลางมากำกับดูแลการปกครองหัวเมืองฝ่ายเหนือทั้งหมด เป็นการลดอำนาจของเจ้าหลวงลง โดยข้าหลวงที่ส่งมาประจำเมืองแพร่คนแรก คือพระยาสุรราชฤธานนท์ (โชค) ต่อมาก็ได้ให้พระยาไชยบูรณ์ (ทองอยู่ สุวรรณบาตร) มาเป็นข้าหลวงปกครองเมืองแพร่แทน ซึ่งเกิดเหตุการณ์สำคัญขึ้นก็คือ “เงี้ยวปล้นเมืองแพร่” ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2445 พอดี (ภาพพระยาไชยบูรณ์) จากคุณ : old technician เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 53 21:43:51

ความคิดเห็นที่ 5 หลังเหตุการณ์นี้เจ้าหลวงแพร่ ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกกบฎเงี้ยว ท่านจึงจำต้องลี้ภัยไปอยู่ที่หลวงพระบาง และไม่ได้กลับมาที่แพร่อีกเลย จนสิ้นชีวิต... จากคุณ : old technician เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 53 21:44:50

ความคิดเห็นที่ 6 คุ้มเจ้าหลวงกลายเป็นที่ตั้งของกองทหารม้าจากกรุงเทพฯที่ส่งมารักษาความสงบเรียบร้อยในเมืองแพร่อยู่ระยะหนึ่ง บริเวณใกล้ ๆ คุ้มเจ้าหลวงเคยมีคอกม้าขนาดใหญ่ตั้งอยู่ และสมัยรัชกาลที่ 6 มีการดัดแปลงเป็นโรงเรียนประจำจังหวัดชายคือ “โรงเรียนพิริยาลัย” เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่เจ้าหลวงแพร่องค์สุดท้าย เมื่อปี พศ. 2455  ต่อมาโรงเรียนนี้ก็ได้ย้ายไปอยู่ที่ถนนยันตรกิจโกศล ส่วนคุ้มเจ้าหลวงก็กลายเป็นจวนหรือบ้านพักของผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่มาเป็นเวลานาน จนเมื่อ 5 ธันวาคม 2547 ได้มอบให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ดูแล มีการจัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ขึ้นจนถึงปัจจุบัน จากคุณ : old technician เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 53 21:45:47

ความคิดเห็นที่ 7 เห็นแล้วอยากกลับบ้าน รูปสวยจังครับ จากคุณ : miniti เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 53 22:04:06

ความคิดเห็นที่ 8 อยู่ตรงข้ามโรงเรียนเก่า แบบบ้านสมัยเก่าสวยมากๆ ชอบๆ จากคุณ : ptuengeun เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 53 22:17:39

ความคิดเห็นที่ 9   สวยจริงๆ แหล่ะ คุกใต้ถุน  คุ้มเจ้าหลวง ก็น่ากลัวมากเลย   เราเข้าไปดูยังรู้สึกกลัวเลย แล้ว เราไปดูบ้านวงศ์บุรี ด้วยนะ   บ้านของ ภรรยาคนแรก ที่เลิกรากันไป ก็มี เจ้าหน้าที่บรรยายเรื่องราวได้น่าสนใจมาก ๆ เลยค่ะ จากคุณ : อ้วนน้อยศิษย์เจ้าแม่ เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 53 22:26:11

ความคิดเห็นที่ 10 สวัสดีครับคุณ miniti, คุณ ptuengeun, คุณ อ้วนน้อยศิษย์เจ้าแม่ คุ้มเจ้าพิริยะเทพวงศ์ฯ ที่สร้างขึ้นนั้น เป็นอาคารแบบกึ่งตะวันตกที่นิยมสร้างในสมัยนั้น  ตัวอาคารก่ออิฐถือปูน 2 ชั้น จากคุณ : old technician เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 53 22:35:15

ความคิดเห็นที่ 11 หลังคาคุ้มเป็นแบบทรงปั้นหยา มีลวดลายขนมปังขิงประดับ เช่นที่หน้าจั่ว ช่องลม ประตู จากคุณ : old technician เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 53 22:43:07

ความคิดเห็นที่ 12 มีหน้าต่างทั้งหมด 72 บาน ไม่มีการฝังเสาเข็ม แต่ใช้ไม้ซุงที่เป็นไม้เนื้อแข็งรองรับฐานเสาทั้งหลัง ด้านหน้ามีมุขและทางขึ้นทั้งสองด้าน จากคุณ : old technician เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 53 22:50:45

ความคิดเห็นที่ 13 ด้านในถูกจัดเป็นพิพิธภัณฑ์ บริเวณห้องโถงทางเข้าด้านล่างมีการจัดนิทรรศการหมุนเวียนกันไป จากคุณ : old technician เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 53 22:54:15

ความคิดเห็นที่ 14 ห้องชั้นล่างทางด้านซ้ายมือ มีการจัดโต๊ะเป็นห้องประชุม จากคุณ : old technician เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 53 22:55:53

ความคิดเห็นที่ 15 บันไดขึ้นไปชั้นบน จากคุณ : old technician เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 53 22:57:11

ความคิดเห็นที่ 16 บนชั้นสองของตัวอาคาร ตรงหน้ามุข มีการจัดเป็นห้องรับแขก จากคุณ : old technician เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 53 22:58:16

ความคิดเห็นที่ 17 ระเบียงด้านหน้าบนชั้นสอง สามารถมองออกไปเห็นโรงเรียนนารีรัตน์ ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำจังหวัดหญิง ที่อยู่บนฟากถนนฝั่งตรงกันข้ามกันได้ จากคุณ : old technician เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 53 22:59:16

ความคิดเห็นที่ 18 ด้านบนนี้ยังมีห้องที่ใช้เป็นที่ประทับแรมของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีนาถฯ เมื่อคราวเสด็จเยี่ยมราษฎร์เมืองแพร่ เมื่อ พศ. 2501 จากคุณ : old technician เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 53 23:01:53

ความคิดเห็นที่ 19   งามมากครับ จากคุณ : ภูมิพัฒน์ เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 53 23:01:56

ความคิดเห็นที่ 20 สวัสดีครับคุณ ภูมิพัฒน์ นอนดึกเหมือนกันนะครับ.. นอกจากห้องต่าง ๆ ที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว อาคารแห่งนี้ยังมีห้องใต้ถุน ซึ่งใช้เป็นที่คุมขังนักโทษในสมัยก่อน มีความสูงไม่น่าจะเกิน 160 ซม. ทำให้เวลาเข้าไปเยี่ยมชม ต้องก้มตัวตลอดเวลา มีเสียงร่ำลือกันว่า “ผีดุ” ทำให้ต้องมีการย้ายจวนผู้ว่าราชการจังหวัดไปสร้างไหม่ ทางด้านหลังของคุ้มหลวงแห่งนี้... จากคุณ : old technician เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 53 23:04:57

ความคิดเห็นที่ 21 เวลาเข้าไปอยู่ในห้องใต้ถุนนี้แล้ว ทำให้ความรู้สึกถึงความทุกข์ทรมาณของบรรดานักโทษ ที่ต้องอยู่ในที่คับแคบ อึดอัด ได้มองเห็นโลกภายนอก ผ่านทางช่องหน้าต่างเล็ก ๆ เท่านั้น รอความหวังว่าเมื่อไหร่ประตูจะเปิดออก ให้ได้ออกไปสู่อิสรภาพภายนอกเสียที จากคุณ : old technician เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 53 23:07:26

ความคิดเห็นที่ 22 ออกมาสู่ภายนอกกันดีกว่า.. คุ้มเจ้าหลวงแห่งนี้ได้รับรางวัลสถาปัตยกรรมดีเด่นประเภทอาคารสถาบันและสาธารณ จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ในปี พ.ศ. 2536 ด้วยนะครับ.. ขอจบการเที่ยวด้วยภาพนี้นะครับ สวัสดีครับ.. จากคุณ : old technician เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 53 23:10:03

ความคิดเห็นที่ 23 สวยมากค่ะ สวยมากจริงๆ เมื่อก่อนเรียนที่นารีรัตน์ ถึงแพร่เป็นจังหวัดเล็กๆแต่ก็เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ที่น่าจดจำค่ะ แก้ไขเมื่อ 24 ก.ย. 53 23:17:18 จากคุณ : A~aey เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 53 23:15:44

ความคิดเห็นที่ 24 ดูแล้วย้อนยุค รีวิว ภาพสวยค่ะ จากคุณ : snas89Pink เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 53 23:23:33

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณครับ ที่อนุรักษ์ไว้ให้ชนรุ่นหลังได้ศึกษา จากคุณ : Frankly เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 53 11:33:00

ความคิดเห็นที่ 26 ภาพสวยจริงๆ  ขอบคุณมากครับ จากคุณ : owl2 เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 53 11:35:36

ความคิดเห็นที่ 27 ไปถ่ายมาเหมือนกันแต่เป็นตอนกลางคืน เค้าปิดหมดละ จากคุณ : rotta_a เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 53 18:53:47

ความคิดเห็นที่ 28 ชอบตัวอาคารมากเลยค่ะ สวยและดูมีมนต์ขลัง แต่อยากให้มีคนบรรยายเวลาไปเยี่ยมชมจัง อย่างบ้านวงศ์บุรี มีคนบรรยายตลอดก็ทำให้เข้าใจได้ดี ที่คุ้มเจ้าหลวงใหญ่กว่า และมีของเยอะกว่า แต่ไม่มีคนบรรยาย น่าเสียดายนะคะ อย่างน้อยก็ให้เด็กๆ มาฝึกเล่าเรื่องก็ได้ จะได้สำนึกรัก และเห็นคุณค่าของสถานที่อีกด้วย จากคุณ : syr_girl เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 53 23:16:02

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ จากคุณ : tataweb เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 53 19:59:24

ความคิดเห็นที่ 30 เป็นคนแพร่เองแท้ๆยังไม่เคยได้เข้าไปเลยค่ะ  เคยเรียนที่นารีรัตน์ด้วย  แต่ก็ผ่านไป ผ่านมา ^^ ขอบคุณที่พาเที่ยวค่ะ จากคุณ : หมีน้อยเทวดา เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 53 21:04:12

ความคิดเห็นที่ 31 สวยทั้งในบ้านนอกบ้านเลยค่ะ   น่าไปเที่ยวจัง จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 53 20:14:24