ความคิดเห็นที่ 1 จริงๆ ข้อมูลต่างๆ มีพี่ๆ เซียนหลายท่านลงไปให้หมดแล้ว Bambie เอง ก็เคยใช้เวลาอยู่ในห้องนี้เก็บสะสมข้อมูลจากพี่ๆ เซียน และก็เพื่อนๆ ท่านอื่นอีกหลายท่าน ทั้งคุณ Mangkood คุณเจ้าแก้วฯ คุณลอร่าฯ ก็แอบตามอ่านข้อมูลจากเพื่อนๆ BP นี่แหล่ะค่ะ ก่อนอื่น ก็ต้องแนะนำบัตรสารพัดประโยชน์ "JR Pass" สะดวกสบายจริงๆ เมื่อใช้มันค่ะ  ^^ โปรแกรมของ Bambie เลือกใช้ JR Rail Pass ชนิด 7 วัน ราคาบัตรใบละ 28,300 เยน เป็นบัตรที่ใช้โดยสารรถไฟของบริษัท JR ทั้งรถไฟแบบธรรมดา แบบ Ltd. Express และแบบ Shinkansen (ยกเว้นรถไฟขบวน Nozomi) ซึ่งสามารถใช้ได้กับรถไฟของบริษัท JR ที่วิ่งทั่วทุกภูมิภาคในญี่ปุ่น ภายในระยะเวลาใช้งาน 7 วัน และไม่จำกัดจำนวนรอบ บัตร JR Rail pass นี้ เหมาะมาก ถ้าเพื่อนๆ มีโปรแกรมเดินทางแบบข้ามเมือง เช่น จาก Osaka -> Tokyo -> Osaka เพราะว่าราคาตั๋ว Shinkansen จาก Tokyo มา Osaka ราคาต่อเที่ยว ก็ประมาณ 13,000 กว่าเยนแล้ว ถ้าต้องนั่งไป-กลับ จะคุ้มมาก เพราะยังสามารถใช้บัตรนี้กับการเดินทางภายในเมืองได้อีกด้วย แต่ถ้าเพื่อนๆ ไม่ได้เดินทางไป-กลับ หรือไม่ได้ใช้รถไฟของ JR เป็นหลัก เช่น ใช้รถไฟใต้ดิน (subway) ก็อาจจะไม่คุ้ม อันนี้ต้องลองคำนวณค่าใช้จ่ายดูก่อนว่าเหมาะกับโปรแกรมการเดินทางของเพื่อนๆ หรือไม่นะคะ เพื่อนๆ ที่สนใจสามารถตรวจสอบขบวนรถไฟ เส้นทางการเดินทาง รวมถึงราคาค่าตั๋วโดยสารของ JR ได้จากเว็บไซต์นี้ค่ะ http://grace.hyperdia.com/en/ จากคุณ : Bambie เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 53 16:28:55

ความคิดเห็นที่ 2 เริ่มใช้ JR ตั้งแต่เคลื่อนตัวออกจากสนามบิน Kansai ได้เลยค่ะ ขึ้นไปแลก JR Pass ตัวจริง จาก JR exchange ได้ที่ชั้น 2 ของสนามบิน จากคุณ : Bambie เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 53 16:35:15

ความคิดเห็นที่ 3 สรุประยะเวลาในการเดินทางทั้งหมด นับตั้งแต่ Bambie ขึ้นรถไฟ Ltd. Express Haruka ที่ Kansai Airport เวลา 07:45 น. เรามาถึง Shin Osaka ใช้เวลาประมาณ 60 นาที แล้วเปลี่ยนมาขึ้น Shinkansen Hikari มาถึง Tokyo ใช้เวลาอีก 3 ชั่วโมง รวมแล้วทั้งหมดประมาณ 4 ชั่วโมง ตอนมาถึงที่สถานี Tokyo ก็ประมาณเที่ยงครึ่ง ต้องต่อรถไฟ Yamanote line มาที่สถานี Ueno อีก 3 สถานี สั้นๆ และเดินออกมาจากประตู Iriya Exit มาที่โรงแรม Sutton Place Hotel Ueno เพื่อฝากกระเป๋าเอาไว้ก่อนจะไปเที่ยวต่อ เพราะโรงแรมเปิดให้ check-in ได้ตอนบ่าย 3 โมง ซึ่งตอนนั้นก็บ่ายโมงกว่าแล้วค่ะ รูปหน้าทางเข้าโรงแรมค่ะ ดูสะอาดตาดี จากคุณ : Bambie เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 53 16:40:24

ความคิดเห็นที่ 4 Bambie เลือกพักที่ Sutton Place Hotel Ueno เพราะเหตุผลว่า อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ JR Ueno ซึ่่งในทริปนี้  ใช้บัตร JR Rail Pass เป็นหลัก ดังนั้น โรงแรมที่อยู่ใกล้กับสถานี JR จึงสะดวกที่สุดสำหรับเรา ทำให้ไม่ต้องลากกระเป๋าไกล และไม่ต้องเดินกลับมาที่พักไกล หลังจากเราเที่ยวเหนื่อยมาทั้งวัน แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสถานี Ueno ค่อนข้างกว้าง ดังนั้นการเดินภายในสถานีเราก็ว่า ถือว่าค่อนข้างไกลแล้วค่ะ และเสียตรงที่ไม่มีบันไดเลื่อนขาลงสถานี มีแต่ขาขึ้น ตอนเราลากกระเป๋าลงสถานี ซึ่งบันไดสูงมาก ขาเราช้ำหมดเลย เพราะกระเป๋ากระแทกต้นขา ทางไปโรงแรม จะต้องออกจากประตู Iriya Exit แล้วเดินข้ามถนนตรงไปเรื่อยๆ แล้วเลี้ยวซ้าย นิดเดียว ก็ถึงโรงแรมเลยค่ะ ห้องพักที่นี่ Bambie จองแบบ Superior Single Room-Non Smoking (SBN) สำหรับ 2 คน ขนาดห้องกว้างประมาณ 14 ตร.ม. ขนาดเตียง 140 cm. ราคารวมอาหารเช้า ซึ่งมีแค่ขนมปัง กาแฟ นม น้ำผลไม้ คืนละ 11,000 เยน อ้อ มี hi-speed internet ให้ใช้ฟรี โดยจะต่อสาย lan network ให้ไว้ที่โต๊ะวาง TV ค่ะ จองห้องพักผ่านเวบไซต์ของโรงแรมได้เท่านั้น โดยในการสมัครสมาชิกเพื่อจองห้องพัก โดยการลงทะเบียนผ่านเวบไซต์ในครั้งแรก จะได้ 1,000 เยน มาใช้เป็นส่วนลดในการจองห้องพักด้วยค่ะ เพื่อนๆ ที่สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากเวบไซต์นี้ค่ะ http://www.thehotel.co.jp/en/sutton_ueno/index.html จากคุณ : Bambie เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 53 16:43:28

ความคิดเห็นที่ 5 อ๊ะ โดนตามออกไปกินมื้อเย็นค่ะ เดี๋ยวค่ำ จะกลับมาต่อ เรื่องสถานที่ท่องเที่วที่แนะนำ และ link ที่น่าจะมีประโยชน์อีกนะคะ ^^ จากคุณ : Bambie เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 53 16:44:41

ความคิดเห็นที่ 6 สวัสดีจ้ะ แบมบี้ที่คิดถึง พี่ตามมาระลึกความหลังในช่วงเดียวกันจ้ะ จากคุณ : พระจันทร์อันเป็นที่รัก เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 53 16:54:28

ความคิดเห็นที่ 7 เดินตามมาด้วยคน ยังไม่มีแผนในระยะใกล้เหมือนกันจ๊ะ ปีหน้าต้นปีก็ทริปสารพัด...แต่ช่วงนี้กระทู้ญี่ปุ่นทำเอาใจเต้นไม่ได้ จากคุณ : เจ้าแก้วพิสดาร ณ เมืองปาย เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 53 18:20:46

ความคิดเห็นที่ 8 พระจันทร์อันเป็นที่รัก : สวัสดีค่ะพี่พระจันทร์ฯ ที่คิดถึงเช่นกัน อยากไปเที่ยวอีกจังเลยเนอะ เจ้าแก้วพิสดาร ณ เมืองปาย : พี่เจ้าแก้วฯ อยากมีแผนเที่ยวกะเค้าบ้างเนอะ เห็นเขาจัดแผนกันตอนนี้ แล้วแบบว่า ตื่นเต้นแทน และแอบอิจฉา อยากไปมั่งๆๆๆ >_<" -------------------------------------------------------------- กลับมาต่อนะคะ (อิ่มกลับมาแว้ว หากินแถวสวนหลวง ธงเจเพียบเลย ^^) ถ้าใครมีโปรแกรมเที่ยวใน Tokyo ช่วงซากุระ อีกสถานที่ที่แนะนำนอกจากสวนสาธารณะอุเอโนะ เราว่าที่ Shinjuku Kyoen ก็ดีนะคะ สถานที่กว้าง เดินสูดอากาศบริสุทธิ์ใจกลางเมืองได้เต็มปอด ที่ Shinjuku Kyoen เสียค่าเข้าเพียงคนละ 200 เยน เท่านั้น อยากจะเดินนานเท่าไร ตามใจชอบเลยค่ะ แต่เราเดินได้แค่ 2 ชั่วโมงก็เมื่อยและหนาวมากแล้ว แบบว่า รู้สึกอากาศวันนั้นหนาวมาก ลมพัดเย็นตลอด เลยยังเดินเล่นได้ไม่ทั่วสวนเลยค่ะ ^^" หน้าตาตู้กดบัตรเข้าชมค่ะ กดไม่ยาก เข้าไปมองๆ ที่ปุ่ม ก็พอจะเลือกได้ว่า ควรจะกดเลือก 2 คน ยังไง ไม่ได้ศึกษาไปก่อน ก็ทำได้ค่ะ เช่นเราเป็นต้น อิอิ จากคุณ : Bambie เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 53 19:21:03

ความคิดเห็นที่ 9 นี่คือวิธีการเดินทางไป Shinjuku Kyoen นะคะ จากคุณ : Bambie เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 53 19:32:02

ความคิดเห็นที่ 10 เมื่อกีลืมลงแผนที่โรงแรม Sutton Place Ueno ให้ด้วย ขอลงเพิ่มตรงนี้แทรกไว้หน่อยนึง ^^ จากคุณ : Bambie เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 53 19:33:13

ความคิดเห็นที่ 11 ใน Tokyo ยังมีอีกที่ที่แนะนำอยากให้ลองไป คือ Odaiba ค่ะ เป็นเกาะเล็กๆ ที่ถมเป็นเกาะขึ้นเอง บนเกาะนี้มีสถานที่ที่น่าสนใจเยอะเลยค่ะ  ไม่ว่าจะเป็น Rainbow bridge หรือเดินช๊อปปิ้ง และชมศิลปะที่ Palette Town หรือแช่น้ำแร่ที่ Ooedo Onsen ที่จริงเรามีโปรแกรมจะไปครึ่งวัน แต่สุดท้ายยกเลิก เพราะเดินไม่ไหวค่ะ แหะแหะ เสียดายจนวันนี้ T^T แผนที่เส้นทางรถไฟที่เชื่อมมา Odiaba นะคะ จากสถานี Shimbashi สามารถต่อรถ Monorail สาย Yurikamome (ในภาพคือ สีส้ม) ไป Odaiba ซื้อตั๋ว one day ใช้ได้ไม่จำกัดครั้ง ราคา 800 เยน ค่ะ จุดเชื่อมต่อแบบเป็นนี้ จากคุณ : Bambie เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 53 19:44:40

ความคิดเห็นที่ 12 สถานที่ต่างๆ ภายใน Odiaba ค่ะ จากคุณ : Bambie เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 53 19:45:39

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้าไม่มีโอกาสไปออนเซนนอกเมือง ก็ลองแช่ออนเซนกลางเมืองที่ Odaiba  นะคะ สถานที่ที่นิยมมาก คือ Ooedo Onsen ภายในตกแต่งแบบย้อนยุค มีบ่อชาย - หญิง แยกกัน มีบ่อแช่ทั้งตัว หรือ แช่เฉพาะเท้า ด้วยค่ะ อ้อ Ooedo onsen ถ้าเข้าหลัง 6 pm. ราคา 2,000 เยน จากราคาปกติ 2,900 เยน ค่ะ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ http://www.ooedoonsen.jp/higaeri/english/index.html จากคุณ : Bambie เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 53 19:49:58

ความคิดเห็นที่ 14 สำหรับคุณๆ ผู้รักสวนสนุก หรือ ความหวาดเสียวจากเครื่องเล่น ก็ไม่ควรพลาด DisneyLand หรือ DisneySea นะคะ หากมีเวลา 2 วัน ก็ซื้อบัตรแบบเที่ยว 2 ที่ ใน 2 วันได้ ราคาจะประหยัดกว่าแบบซื้อแยกอย่างละวันนะคะ ถ้ายังไม่เคยเที่ยว Disney และอยากเห็นสีสันตามจิตนาการวัยเด็ก ก็แนะนำให้ไปที่ DisneyLand รับรองภาพปราสาท ตัวการ์ตูนต่างๆ ที่ชื่นชอบ ทำเอาเราตื่นตาตื่นใจมาก แต่ถ้าอยากได้แบบบรรยากาศเสมือนจริงของโลกตะวันตก เห็นเมืองโรแมนติกสวยงาม ก็ไปลอง DisneySea นะคะ รับรองสวยมาก สวยทุกมุม ราคาบัตรผ่านประตู สามารถเล่นเครื่องเล่นได้ทุกอย่าง และเล่นกี่รอบก็ได้ (ถ้ายืนรอคิวไหว) แบบวันเดียว ราคาผู้ใหญ่คนละ 5,800 เยน เด็กอายุ 12-17 ปี ราคาคนละ 5,000 เยน ส่วนเด็กเล็ก 4-11 ปี ก็ 3,900 เยน ค่ะ ดูรายละเอียดข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับ Tokyo Disney เพิ่มเติมได้จากเวบไซต์นี้ค่ะ http://www.tokyodisneyresort.co.jp/index_e.html ลองตามไปเที่ยว Disney นะคะ เราชอบมากกกก ^^ จากคุณ : Bambie เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 53 20:05:15

ความคิดเห็นที่ 15 สำหรับแฟนๆ Animation ของ Studio Ghibi เราแนะนำให้ไปที่ Ghibli Museum ค่ะ อยู่ใน Tokyo วิธีเดินทางถ้าใช้ JR pass ให้นั่งไปลงที่สถานที่ Mitaka ถ้ามาจาก JR Yamanote Line (Outer loop) ก็มาเปลี่ยนเป็น Chuo Line (Rapid service) ที่สถานี Kanda ไปสถานี Mitaka ใช้เวลา 40 นาที ออกประตูใต้ เดินอีก 15 นาที หรือ นั่ง loop bus ค่ารถ 200 เยน ถ้าแบบไป-กลับ 300 เยน โหลดเส้นทางได้จากที่นี่ค่ะ http://www.ghibli-museum.jp/en/images/map-en012.pdf จะเข้า Ghibi musuem จะต้องซื้อตั๋วล่วงหน้าที่ตู้ขายตั๋วอัตโนมัติ Loppi จากร้านสะดวกซื้อ Lawson ในญี่ปุ่นเท่านั้น โดยจะเปิดให้ซื้อล่วงหน้า 3 เดือน และเวลาเข้าชมมีวันละ 4 รอบ คือ 10:00, 12:00, 14:00 และ 16:00 น. โดยราคาตั๋วผู้ใหญ่ ใบละ 1,000 เยน ศึกษาวิธีซื้อตั๋วจากตู้ Loppi ได้จากเว็บไซต์นะคะ http://www.ghibli-museum.jp/en/welcome/ คุณ Totoro ขวัญใจของเราค่ะ ยืนพุงยุ้ยอยู่ในร้านขายของเล่นแถว Ameyoko ^^ แต่รูปนี้ ไม่ได้ถ่ายมาจาก Ghibi นะคะ เพราะว่า เราหาซื้อตั๋วไป Ghibi ไม่ทันค่ะ ตัวเวลาที่เราต้องการ มันเต็ม อดเลย นี่ก็เรื่องเศร้าอีกเรื่องค่ะ T^T จากคุณ : Bambie เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 53 20:20:57

ความคิดเห็นที่ 16 BB ขอบคุณสำหรับเเผ่นพับเเละหนังสือที่ให้มา ยังไม่ได้อ่านเเต่ขอกอดให้อุ่นใจก่อน !!   เจ๊จะไป HK อยู่รอมร่อ ... เเต่ยังไม่ได้ print เเผนมาเตรียมรอบ Final เล้ย ...!! เเผนเที่ยวยังไม่ เสร็จ เเต่ list ของโดนฝากซื้อมาเต็มเเล้ว   เอิ๊ก... จากคุณ : aomnan เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 53 20:25:31

ความคิดเห็นที่ 17 เอาล่ะ มาที่ Osaka เราพักที่ โรงแรม Hotel Shin'Osaka เป็น Western Style Business Hotel มีห้องหลายขนาด หลายแบบ แต่ห้องที่เราอยู่เป็นแบบ Semi-Double room (non-smoking) สำหรับ 2 คน ขนาดห้องประมาณ 12 ตร.ม. ขนาดเตียงประมาณ 120 cm. x 205 cm. ราคารวมอาหารเช้า (มีข้าว มีกับข้าว เบ็ดเสร็จ) คืนละ 7,980 เยน เป็นราคาจองผ่านเวบ JapanHotel ที่ราคาถูกกว่าจองผ่านหน้าเวบไซต์ของโรงแรมโดยตรง จริงๆ แล้ว เราตั้งใจจะจองห้องแบบ Twin ค่ะ แต่ทาง JapanHotel แจ้งกลับมาว่า ห้องเต็ม เราก็เลยเปลี่ยนมาเป็นห้องนี้แทน แต่ก็ถือว่าโอเคนะคะ พื้นที่ non-smoking บริเวณระเบียงทางเดินก่อนเข้าห้อง มีน้ำหอมปรับอากาศหอมเชียว ภายในห้องพัก ขนาดห้องพักไม่กว้างมาก พอๆ กับที่ Sutton Place Hotel Ueno แต่ขนาดความกว้างของเตียงน้อยกว่าหน่อย ทำให้เหลือพื้นที่ข้างเตียงเยอะกว่า ห้องไม่ได้ออกแบบสวยเท่าที่ Sutton Place Hotel Ueno แต่ก็ไม่เก่า เราก็พักได้สบายๆ ค่ะ อ้อ มี hi-speed internet ใช้ฟรีด้วย จะมีสาย lan network ตอไว้ให้ที่โต๊ะวาง TV ค่ะ สำหรับเรา เราว่าโรงแรมนี้ สะดวกดี ถ้าใครจะใช้ Osaka เป็น Hub ในการเดินทางไปเที่ยวในเมืองอื่นใกล้ๆ เช่น kyoto และ Kobe เพราะว่า โรงแรมอยู่ฝั่งตรงข้ามกับสถานีรถไฟ Shin Osaka เดินออกจากประตู East Exit มองไปก็เห็นแล้ว สบายมากๆ แม้ว่าภายในสถานีรถไฟจะกว้าง ต้องเดินไกลกว่าจะถึงประตูทางออก แต่เราก็ว่า มันยังคงสะดวก และข้อดีอีกข้อ ก็คือ มีร้านอาหารในสถานี Shin Osaka เยอะแยะเลย ตอนลงจากสถานีก็มีลิฟท์ให้ใช้ ถ้ามีกระเป๋าเดินทางด้วย ก็ไม่ลำบากเลยค่ะ เพื่อนๆ ที่สนใจโรงแรม Hotel Shin'Osaka ดูรายละเอียดห้องพัก และ facility ต่างๆ ของโรงแรม ได้จากเวบไซต์นี้ค่ะ http://hso.hotwire.jp/index_e.html ส่วนถ้าจะจองห้องพัก แนะนำให้จองผ่านเวบไซต์นี้ค่ะ http://www.japanhotel.net/data/room_rates_and_information.asp?HotelID=383&area=OSAKA หน้าตาห้องพักค่ะ จากคุณ : Bambie เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 53 20:28:19

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณค่ะ น่ารักมากค่ะ จากคุณ : snas89Pink เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 53 20:28:21

ความคิดเห็นที่ 19 aomnan : ยินดีค่ะพี่อ้อม พวกแผนที่เส้นทาง JR ภายในโตเกียว มีครบหมดแล้วใช่ไหมคะ ตอนบีก็ใช้โหลด pdf และ print เอาไป แต่แบบว่าจำ link ไม่ได้แว้วอ่ะ ... แต่คิดว่าตอนนี้พี่อ้อมน่าจะยุ่งกับโปรแกรมฮ่องกงมากกว่านะคะเนี้ย 555+ แนะนำให้เดินเล่นบนเส้นนาธานไปเรื่อยๆ นะคะ มี shop เยอะเลย บีเดินจนไปเจอ Bossini Outlet แต่ถ้า G2000 ก็ยังแนะนำให้ช๊อปตรง outlet ที่หน่องปิงนะจ้ะ ร้านเยอะ ของเยอะมากมาย ได้เสียทรัพย์เยอะแน่เลยค่ะ อิอิ ^^ จากคุณ : Bambie เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 53 20:33:16

ความคิดเห็นที่ 20 BB เจ๊โชคดีได้รางวัล โรงเเรมที่เชียงใหม่ (เเลกเเต้มของ pantip เนี่ยเเหละ) สงสัยเสร็จ HK เเล้วต้องมาปวดตับ จอง air asia กับทำเเผนเที่ยวไทย(กระทันหัน)  ญี่ปุ่นคงค่อยทำปีหน้าเลยละกัน  มะรีบ เก็บตังค์ก่อน !!!! จากคุณ : aomnan เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 53 20:38:43

ความคิดเห็นที่ 21 และแน่นอนค่ะ มาถึง Osaka คนชอบสวนสนุกอย่าง Bambie ไม่พลาดที่จะเข้า Universal Studio แน่นอน 55+ สำหรับการเดินทางมาที่ Universal  จากที่พักของ Bambie ก็ต้องขึ้น JR Kyoto Line จากสถานี Shin Osaka มาสถานี Osaka แล้วเปลี่ยนมาขึ้น JR Osaka-Loop Line (Inner loop) ไปยังสถานี Nishi Kujo แล้วเปลี่ยน JR Yumesaki line ไป Universal City ใช้เวลาประมาณ 20 นาที โอ้ย แค่นี้ซำบายม๊ากค่ะ เดินตามเขาไปรับรองไม่มีหลง ฮิฮิ ราคาบัตรผ่านประตู รวมเครื่องเล่นทุกชนิด ไม่จำกัดจำนวนรอบ สำหรับผู้ใหญ่ ราคาใบละ 5,800 เยน และถ้าต้องการลดระยะเวลาเล่นเครื่องเล่น โดยไม่ต้องรอคิว ก็สามารถซื้อบัตรเพิ่มที่เรียกว่า Booklet Express มีทั้งแบบใช้เล่นเครื่องเล่นได้ 4 หรือ 7 อย่าง Bambie ซื้อบัตร Booklet Express 4 เพิ่มค่ะ ก็จ่ายเงินอีกชุดละ 3,400 เยน โดยในชุดบัตรจะมีคูปองให้ 4 ใบ สำหรับใช้เข้าเล่นได้เลย แต่ต้องเลือกเล่นตามนี้ ใบที่ 1 ใช้เล่น The Amazing Adventures Of Spider-Man ได้อย่างเดียว ใบที่ 2 ให้เลือกระหว่าง Hollywood Dream หรือ Shrek’s 4-D Adventure หรือ Sesame Street 4-D Movie Magic ใบที่ 3 ให้เลือกระหว่าง JAWS หรือ Back To The Future ใบที่ 4 ให้เลือกระหว่าง Jurassic Park หรือ TERMINATOR 2:3-D หรือ Backdraf เพื่อนๆ ที่สนใจรายละเอียดเครื่องเล่นแต่ละชนิด ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเวบไซต์นี้ค่ะ http://www.usj.co.jp/e/ แนะนำเลยค่ะ พลาดไม่ได้ Space Fantasy ข้างในสวยมากกก และก็ Spiderman ค่ะ ให้ความรู้สึกสมจริงดีมากกก จากคุณ : Bambie เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 53 20:42:12

ความคิดเห็นที่ 22 aomnan : ว้าย จริงหรือคะพี่อ้อม โชคดีมากๆๆๆ โอกาสได้เนี่ย บีว่ายากสุดๆ เลยนะ บีแลกอะไรไป ได้สำรองตลอด จนไม่รู้ว่าจะได้อะไรกับเค้าบ้างไม๊เนี่ย >_<" ขอให้แผนสำเร็จโดยเร็ววันนะคะ ไม่ยากเกินความสามารถพี่อ้อมอยู่แล้ว อิอิ จากคุณ : Bambie เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 53 20:44:07

ความคิดเห็นที่ 23 มาต่อแล้วหรอ รอตั้งนาน จากคุณ : inint&anant เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 53 20:53:28

ความคิดเห็นที่ 24 inint&anant : มาแล้วค่ะ คุณ inintฯ มีแผนพาสองคุณนายไปญี่ปุ่นอีกไหมคะปีหน้า ^^ ----------------------------------------------------------------- มาต่อค่ะ Osaka ยังมีที่สวยงาม น่าสนใจที่อยากแนะนำ อีก 2-3 แห่ง เริ่มจากที่นี่ค่ะ Osaka Museum of House and Living นะคะ เป็นพิพิธภัณฑ์จำลองเมืองโอซาก้าสมัยเอโดะค่ะ และยังมีส่วนของยุค modern ด้วย การเดินทางก็ไม่ยากค่ะ ถ้ามาด้วย JR ก็มาลงที่สถานี Tamma เรามาจาก Shin Osaka ก็นั่ง JR มาที่ Osaka ก่อน แล้วก็เปลี่ยนขบวนมาที่ Tamma อีกแค่สถานีเดียวค่ะ พอเดินออกจากสถานี ก็จะเจอ Tamma Market street ซึ่งเป็นย่านขายของมากมาย ก็ให้เดินไปทางซ้ายมือเรื่อยๆ จนเจอสี่แยกในตลาด ก็เลี้ยวขวา เดินจนสุดซอย จะเจอปากทาง ตึกที่เป็นที่ตั้งของ museum อยู่ริมถนน ที่ชั้น 8 อ้อ ค่าเข้าชมคนละ 600 เยนค่ะ อ่านรายละเอียดของ Osaka Museum of House and Living คร่าวๆ ได้จากที่นี่ http://www.osaka-info.jp/en/search/detail/sightseeing_3194.html เว็บนี้ภาษาญี่ปุ่นค่ะ http://house.sumai.city.osaka.jp/museum/frame/0_frame.html ที่นี่ม่ชุดยูกาตะให้ลองใส่เดินเล่นภายในส่วนของพิพิธภัณฑ์จำลองสมัยเอโดะฟรีด้วยนะคะ :) แก้ไขเมื่อ 10 ต.ค. 53 21:50:01 จากคุณ : Bambie เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 53 21:29:46

ความคิดเห็นที่ 25 บรรยากาศภายในนี้ค่ะ พื้นที่ไม่ใหญ่มากนะคะ เดินวนไปวนมา แป๊บเดียวก็รอบค่ะ หยุดดูนี่นิดนั่นหน่อย ก็เพลินดีค่ะ จากคุณ : Bambie เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 53 21:42:44

ความคิดเห็นที่ 26 ที่ต่อมา พลาดไม่ได้เมื่อมาโอซาก้า คือ Osakajo หรือ ปราสาทโอซาก้า ค่ะ ยิ่งใหญ๋ สวยงาม ควรไปเยี่ยมชมนะคะ ถ้าเดินทางต่อจาก Tamma station มาที่ Osakajo-koen Station แค่สถานีเดียว ไม่ลำบากเลยค่ะ ปราสาทโอซาก้า มีเนื้อที่กว้างขวางมาก ขาเข้าไป Bambie เลยนั่งรถไฟของทางปราสาท จะได้ดู Nishinomaru Garden ด้วยค่ะ ค่ารถไฟคนละ 200 เยน จากคุณ : Bambie เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 53 21:48:44

ความคิดเห็นที่ 27 ความยิ่งใหญ่ ของปราสาทโชกุนอันยิ่งใหญ่ค่ะ จากคุณ : Bambie เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 53 22:03:01

ความคิดเห็นที่ 28 และสำหรับที่แนะนำสุดท้ายใน Osaka คือ ถนน shopping พร้อมแสงสี และของกิน ย่าน Shinsaibashi และ Dotonbori นี่เอง พลาดไม่ได้เลยค่ะ ถ้าใครมาที่ Osaka จะต้องมาเดินเที่ยว และกิน กิน กิน ที่นี่ให้ได้ มีทั้งขาปูยักษ์เผาอันเลื่องชื่อ ทาโกะยากิ และขนมของกูลิโกะ หลากหลายชนิด ให้เลือกซื้อเป็นของฝากกลับบ้านด้วยนะคะ จริงๆ ยังมีที่อื่นอีกมากที่น่าสนใจ เช่น ที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง  ล่องเรือ Santa maria ชมอ่าวสวยๆ ในโอซาก้า และ Floating Garden ชมวิวเมืองโอซาก้าบนตึกสูงแสนจะโรแมนติก และมีบัตรท่องเที่ยวภายในโอซาก้าราคาประหยัด ใช้นั่งรถใต้ดิน และเข้าสถานที่บางอย่างได้ฟรี วม 25 แห่ง หรือบางที่ก็เอาไปเป็นส่วนลดได้ด้วย บัตรนี้มีชื่อว่า Osaka Unilimited Pass มีแบบ 1 วัน และ 2 วัน ค่ะ อ่านรายละเอียดของบัตรนี้ได้จาก http://www.pia-kansai.ne.jp/osp/en/05a.php บรรยากาศจากถนนกิน ช๊อป Dotonbori ค่ะ จากคุณ : Bambie เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 53 22:06:38

ความคิดเห็นที่ 29 จุดถ่ายรูปที่บอกให้รู้ว่า มาถึง Osaka และ Dotonburi แล้วจ้า จากคุณ : Bambie เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 53 22:09:40

ความคิดเห็นที่ 30 มาถึง kyoto กันบ้าง แนะนำให้ลองชมความงามของธรรมชาติที่ Arashiyama นะคะ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ขึ้นชื่อมากในกรุง Kyoto จริงๆ นอกจากธรรมชาติ ประเภท ป่าเขา หุบเขา แม่น้ำ หรือต้นไม้ แล้ว Kyoto ยังมีวัด Tenryuji ศาลเจ้า หรือแม้แต่หสวนหิน สิ่งปลูกสร้างทางวัฒนธรรมสวยๆ มากมาย แต่สำหรับ Arashiyama ที่นี่ได้รับการพูดถึงว่า เป็นสถานที่ที่โรแมนติก ในฤดูใบไม้ร่วง ที่มีต้นไม้ใบสีแดง ก็สวยมาก หรือจะเป็นฤดูใบไม้ผลิ ที่มีซากุระบานสะพรั่ง ก็สวยงามเช่นกัน ที่สำคัญ เขาว่าจะชมความงามของธรรมชาติเหล่านี้ ก็ให้นั่งรถไฟสายโรแมนติก หรือ ชื่อว่า SAGANO ROMANTIC TRAIN ซึ่งมีรอบให้จองในแต่ละวันหลายรอบ แต่ในฤดูท่องเที่ยว ตั๋วก็มักเต็มเร็วเช่นกัน (แต่โดยส่วนตัวนะคะ แอบคิดว่าคนเยอะมาก ตอนนั่งรถไฟคนก็ลุกขึ้นแย่งกันดูวิว แบบว่า เลยหมดความโรแมนติกไปเยอะเลยล่ะค่ะ >_<") ตรงจุดซื้อตั๋ว จะมีกระดานแสดงเวลาของรอบรถไฟและสถานะของตั๋ว คือ ถ้าขึ้นสีแดง แสดงว่าตั๋วเต็มหมดไม่ว่าจะนั่งหรือจะยืน ถ้าเป็นสีเหลือง หมายถึง ยังมีตั๋วแบบยืนเหลืออยู่ และถ้าเป็นสีเขียวล่ะก็ สบายค่ะ ยังมีที่ให้นั่งแน่นอน ราคาตั๋วรถไฟต่อรอบ (ไปหรือกลับเที่ยวเดียว) ราคาใบละ 600 เยน จากคุณ : Bambie เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 53 22:18:09

ความคิดเห็นที่ 31 เส้นทางนั่งรถไฟ SAGANO ROMANTIC TRAIN ค่ะ จะนั่งขาเดียว อีกขาใช้ JR pass ฟรีก็ได้ ประหยัดเงินดีค่ะ จากคุณ : Bambie เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 53 22:22:16

ความคิดเห็นที่ 32 ส่วนนี่เป็นแผนที่ภาพรวม เกียวโต ฝั่งตะวันตก ได้มาจากพี่ตู่ค่ะ จากคุณ : Bambie เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 53 22:24:34

ความคิดเห็นที่ 33 ส่วนนี่ภาพรวม เกียวโต ฝั่งตะวันออก จากพี่ตู่เช่นกันค่ะ จากคุณ : Bambie เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 53 22:27:11

ความคิดเห็นที่ 34 ลืมค่ะ ภายใน Arashiyama ยังมีพื้นที่ Bamboo Forest ให้เดินชมบรรยากาศป่าไผ่ สวยๆ สีเขียวๆ ร่มรื่นด้วยค่ะ เพื่อนๆ ที่สนใจ Arashiyama และแผนที่การเดินทาง สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากเวบไซต์นี้ค่ะ http://www.japan-guide.com/e/e3912.html จากคุณ : Bambie เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 53 22:37:01

ความคิดเห็นที่ 35 สำหรับการท่องเที่ยวใน Kyoto ขอให้ลืม JR ไปได้เลยค่ะ วิธีเดินทางที่เข้าถึงสถานที่ท่องเที่ยวได้ดีที่สุด ก็คือ การนั่งรถบัส โดยการใช้งานก็ไม่ยากเลย เพราะว่า ญี่ปุ่นนี่เขาทำระบบคมนาคมได้ดีมากๆ ทั้งรถไฟ รถไฟใต้ดิน มาจนถึงรถบัส แม้ว่าจะมีหลายสาย แต่มีความเป็นระเบียบ และใช้งานง่าย การดูแผนที่เส้นทางรถบัส ก็ไม่ยากเย็น คนไม่เคยเดินทางเองอย่างเรา ยังสามารถอ่านแผนที่รถบัสได้สบายเลยค่ะ ถ้าคิดจะเดินทางไปในหลายที่ การซื้อตั๋วรถบัสแบบใช้ได้ทั้งวัน ไม่จำกัดจำนวนครั้ง จึงเหมาะเป็นอย่างมาก เราก็ซื้อมาใช้ในวันนี้ด้วย 1 วัน ราคาตั๋ว Kyoto All day Bus ราคาใบละ 500 เยน ถ้านั่งไปหลายๆ ที่ รับรองคุ้มค่ะ เพื่อนๆ ที่สนใจรายละเอียดรถบัส และแผนที่เส้นทางรถบัส สามารถดูายละเอียดเพิ่มเติมได้จากเวบไซต์นี้่้ค่ะ http://www.city.kyoto.jp/koho/eng/access/transport.html ออกจากสถานีเกียวโต มองมาทางขวามือจะมีห้องกระจกขายตั๋วรถบัสอยู่ข้างนอก หน้าตาแบบนี้ค่ะ จากคุณ : Bambie เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 53 22:44:28

ความคิดเห็นที่ 36 แค่นี้เองค่ะ จากนั้นจะเลือกไปเที่ยวที่ไหน ก็แล้วแต่ใจชอบนะคะ ส่วนตัว Bambie เลือกไปวัดน้ำใส เพราะอยากไปชมวิวสวยๆ ที่นี่ และก็ศาลเจ้ายาซากะ และข้างๆ กันนี้ ก็มีสวนสาธารณะให้ชมซากุระสวยๆ ด้วยค่ะ อย่างไรลองชมภาพตัวอย่างจากที่เคยรีวิวเอาไว้ได้ตาม link ด้านบน ภาพนี้ วัดน้ำใส หรือ Kiyomizu ค่ะ แก้ไขเมื่อ 10 ต.ค. 53 22:57:47 จากคุณ : Bambie เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 53 22:56:09

ความคิดเห็นที่ 37 ส่วนสถานที่อื่นๆ ก็ แนะนำ วัดเงิน ทางเดินสายนักปราชญ์ ซึ่งอยู่ฝั่งตะวันออก เช่นเดียวกับวัดน้ำใสค่ะ ส่วนทางตะวันตก จริงๆ ถ้าไป Arashiyama แต่เช้า ก็มีเวลาบ่ายไปเที่ยววัดทอง และวัดเรียวอันจิ ได้ค่ะ แนะนำคิดออกเท่านี้ก่อนนะคะ หวังว่า พอจะเป็นประโยชน์บ้างสำหรบเพื่อนๆ ที่ยังทำการบ้านเรื่องสถานที่สวยๆ ใน 3 เมือง นี้ค่ะ ^__^ ลาด้วยภาพ ด้านหน้าทางเข้าศาลเจ้ายาซากะค่ะ ลงรถเมล์ ข้ามถนน มองไปริมถนนเห็นศาลเจ้าแดงๆ ก็ใช่เลยค่ะ จากคุณ : Bambie เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 53 22:59:24

ความคิดเห็นที่ 38 รีวิวนี้นางแบบน่ารักจริงๆ ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ ปูลู อาจจะไปชมซากุระครับ อิอิ จากคุณ : inint&anant เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 53 09:40:45

ความคิดเห็นที่ 39 มาดูคนน่ารัก... หนุ่มๆ อาจจะมัวแต่ดูรูป จขกท จนไม่อ่านก็ได้นะเนี่ย เห็นโตโตโระแล้วใจละลายอ่ะ งี๊ดดดดดดดดด อยากได้ๆๆๆๆๆ จากคุณ : MaNgKoOd เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 53 11:24:56

ความคิดเห็นที่ 40 inint&anant : ว้าย อิจฉาค่ะ อย่างไรขอฝากเก็บเกี่ยวบรรยากาศด้วยนะคะ รอชมสองคุณนายตะลุยแดนปลาดิบภาคต่อไปค่ะ ^__^ MaNgKoOd : พี่มังคุด ขอบคุณค่ะ อย่าลืมไปเที่ยวเผื่อบีด้วยนะคะ แบบว่า อยากได้นาฬิกา ToToRo มากเลย ถ้าไม่เกรงใจพี่เนี่ย บีต้องรบกวนฝากซื้อแน่ๆ ค่ะ ^^" จากคุณ : Bambie เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 53 19:01:20

ความคิดเห็นที่ 41 ชอบรูปใน คห.ที่ 24 มาก ขอบคุณข้อมูลของ ODAIBA   ปีหน้าจะได้แวะไปเที่ยวบ้าง ปีนี้อาศัยโปรบางกอกแอร์เวย์ ปีหน้าพึ่งรูทของแอร์เอเชียไปฮาเนดะ ปีถัดไปจะได้โปรของใครเอ่ย จากคุณ : EMBOI เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 53 21:44:09

ความคิดเห็นที่ 42 คิดถึงญี่ปุ่นจังค่ะ รถไฟสายโรแมนติกนี่ ไปมาตอนปลายเมษา สองข้างทางเป็นป่าเขียว ๆ ฝนตกพรำ ๆ ตลอด อากาศเย็นเจี๊ยบ นั่งไปที่เก้าอี้ไม้ในรถไฟแทบร้องจ๊ากเลย ขนาดเก้าอี้ยังเย็นซะ ดูวิวไปยังรู้สึกเลยว่าหากเป็นช่วงซากุระหรือใบไม้เปลี่ยนสี ต้องสวยมากแน่เลย :-) จากคุณ : Ganit เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 53 22:04:00

ความคิดเห็นที่ 43 EMBOI : ปีหน้าไปเที่ยวอีกหรอคะ ดีจังค่ะ อยากไปมั่งจัง >_<" Ganit : ถ้าเจอซากุระบานสะพรั่ง หรือ ใบไม้แดงแจ๋ รับรองต้องสวยมากขึ้นกว่าเดิมอีกแน่ๆ ค่ะ ^__^ จากคุณ : Bambie เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 53 23:25:22