ความคิดเห็นที่ 1 อ่านยากแต่ให้เกียรติคนอื่นบ้างก็ดีนะ จากคุณ : ค.คนไทย เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 53 10:22:41

ความคิดเห็นที่ 2 เจอแต่  ตล  ( ตาลาย )..... จากคุณ : โปรดฟังอีกครั้ง เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 53 10:32:40

ความคิดเห็นที่ 3 ที่ทาง ตม.ทำถือว่าเป็นเรื่องปกติค่ะ มันเป็นทางระเบียบของเค้าที่ต้องการทราบถึงรายละเอียดพวกนี้ เพราะแรงงานที่แอบหนีไปทำงานต่างประเทศเยอะมาก เค้าเลยต้องกันไว้ก่อน ก็ทำไปตามกฎเค้าเถอะค่ะ ถือว่าเข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตามค่ะ แก้ไขเมื่อ 23 ต.ค. 53 10:55:26 จากคุณ : ตัวลอย เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 53 10:54:39

ความคิดเห็นที่ 4 ไม่ใช่โง้นงี้ นะครับ สมควรที่ ตม เค้าจะต้องถาม แล้ว จขกท เคยเจอคนที่เชิญแค่ครั้งเดียว แล้วจำรายละเอียดส่วนตัว คนที่เชิญไม่ได้ด้วย เอออีกอย่าง แล้ว ตม เค้าไม่สนใจคุณหรอกว่า คุณอยู่เมืองไทย ทำอะไร รวยแค่ไหน  ถ้าเค้าพิจารณาแล้ว คุณ ไม่มีอะไรที่น่าเชื่อถือสักอย่าง คุณ มีสิทธิ์ถูกส่งกลับเมืองไทยง่ายๆน่ะ สรุป จขกท ไม่เตรียมพร้อมเอง ยังไปว่า ตม เค้าอีก ปอลอ เห็นด้วยกับ คห1 แถมภาษาก็น่ะ จากคุณ : dodoman เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 53 10:55:37

ความคิดเห็นที่ 5 ...ขอโทษนะคะ ตอนเขียนกำลังฮีทขึ้น ตอนนี้เปลี่ยนสรรพนามให้สละสลวยแล้ว ขอบคุณที่เตือนสติ...ขอให้มีความสุขทุกคนนะค่ะ จากคุณ : เจ้อ้อน เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 53 10:56:09

ความคิดเห็นที่ 6 ตอบคุณ dodoman ก็อยากจะเตือนคนอื่นที่เค้าอาจจะไม่ได้เตรียมเหมือนเจ้เท่านั้นหละค่ะ อย่าเพิ่งหมั่นใส้กันนะค่ะ รวยจนไม่ใช่กรณีสำคัญอันนี้ทราบดีค่ะ....เรื่องภาษาขอโทษและแก้ไขแล้วนะค่ะ ใจเย็น ๆ คะ (อันนี้เตือนตัวเอง) จากคุณ : เจ้อ้อน เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 53 11:00:48

ความคิดเห็นที่ 7 อ่านแล้วเกิดสงสัยค่ะว่า แล้วถ้ากรณีคนพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย แล้วอยากไปเที่ยวบ้าง จะไม่แย่เหรอเวลาโดนตม.รุมถามอย่างนี้อ่ะค่ะ จากคุณ : ChocoJosie เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 53 11:26:10

ความคิดเห็นที่ 8 555..เหตุการณ์ธรรมดาของโซนยุโรปเลยฮับ ถ้าเป็นผู้ชายก็ถามเล็กน้อยไม่เยอะพอเป็นพิธี แต่ถ้าเป็นหญิงไทย โดยเฉพาะที่สวิสขนาดมีสามีเป็นตัวเป็นตน พูดเยอรมันคล่องปรื๋อ เห็นแล้วยัง...เฮ้อ..เลยฮับ อะไรจะขนาดนั้น จากคุณ : พายุบ้าหมู เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 53 11:51:19

ความคิดเห็นที่ 9 ตอนนี้ประเทศอังกฤษ มีปัญหาเรื่องการหลบเข้าเมือง และแรงงานผิดกฏหมายเยอะมากๆครับ ไม่ใช่แค่คนเอเซียหรือคนไทยนะ แม้แต่คนในยุโรป อย่างสมาชิกอียู พวกยุโรปตะวันออกก็ต้องถูกสกรีนเหมือนกันครับ อย่างเพื่อนผมคนหนึ่งเป็นคนโปล..ตอนนี้เค้าทำงานอยู่ที่ลอนดอนแต่แจ้งว่ามาเรียน เวลาเค้าจะกลับบ้านทีก็กังวลว่าตอนเข้าจะโดนตม.อังกฤษถาม... นอกจากอังกฤษจะเป็นแหล่งขุดทองของแรงงานแล้ว ยังเป็นหนึ่งในสถานที่ ที่เสี่ยงต่อการก่อการร้ายอีก ดังนั้นจึงไม่แปลกครับที่ตม.ซึ่งถือเป็นด่านเข้าออกประเทศที่สำคัญต้องเข้มงวดกับการสกรีนคนเข้าประเทศ อยากให้เข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ว่าเค้าก็ต้องรักษาผลประโยชน์ของชาติเค้าแล้วก็ต้องปกป้องความปลอดภัยของประชากรเค้าด้วย จะว่าไปแล้วเศรษฐกิจของอังกฤษ ก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการท่องเที่ยวมากเท่ากับประเทศเรา ดังนั้นความเข้มงวดตรงจุดนี้อาจจะเปรียบเทียบกันได้ยาก (พูดง่ายๆก็คือเค้าง้อเงินนักท่องเที่ยวน้อยกว่าบ้านเราครับ ความยืดหยุ่นบ้านเราจึงค่อนข้างเยอะ) หลายๆประเทศในกลุ่มอียู เช่น ฝรั่งเศส อิตาลี กรีซ ก็มีปัญหาอาชญากรรม จากการที่ควบคุมการอพยพของคนในยุโรปไม่ได้ ขณะเดียวกัน สวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งไม่ได้เป็นสมาชิกอียู แต่เป็นกลุ่มประเทศในสัญญาเชงเก้น ก็เริ่มเจอปัญหาเหล่านี้บ้างแล้ว เพราะการอนุมัติวีซ่าเชงเก้นจากประเทศอื่น อาจจะไม่เข้มงวดเท่ากับสถานทุตสวิสฯ ทำให้ผู้ไม่ประสงค์ดีบางคน เลือกที่จะไปทำวีซ่ากับประเทศที่ได้วีซ่าง่ายๆแล้วใช้เข้าสวิสฯ ผมเคยไปอังกฤษหลายครั้งจนปัจจุบันถือวีซ่าแบบสิบปีอยู่ แต่ยอมรับว่าทุกครั้งผมก็กังวลใจกับการผ่านตม.ทุกครั้ง ผมก็คิดว่าตม.ก็กังวลใจกับผมเหมือนกันว่ามาทำไมบ่อยๆนะ ?? มีธุรกิจอะไรที่นี่หรือเปล่า? ทุกครั้งผมเลยเตรียมเอกสารทั้งการเดินทางเข้าออก ที่พัก และจดหมายรับรองจากที่ทำงาน(คือเป็นสำเนาที่เคยส่งให้สถานทูต) ทริปล่าสุด ไปกับเพื่อนสองคนเป็นหมอทั้งคู่ทำงานคนละที่ แต่เพื่อนบอกว่า มีพี่พยาบาลคนหนึ่งเค้าขอไปด้วย แต่ไม่ได้ร่วมทริป เค้าจะไปหาเพื่อนเค้าที่นั่น คือเข้าออกด้วยกันแต่แยกไปพักอีกที่หนึ่ง ผมไม่ได้เจอกับเค้าก่อน มาเจอที่สนามบินเลย พอไปถึงเค้ามีปัญหาว่าไม่สามารถแสดงเอกสารตั๋วเครื่องบินกลับและสำเนาจดหมายเชิญ ผมเลยต้องเป็นคนรับรองให้เค้าว่ามาด้วยกัน กลับด้วยกัน มีตั๋วเครืองบินแน่นอน ตม.เค้าถึงให้ผ่านได้ สรุปว่า ก็คงเป็นประสบการณ์หนึ่งว่า คราวหลังคงต้องเตรียมเอกสารไปเผื่อว่าตม.จะเรียกดู เป็นเรื่องที่น่าชื่นชมครับที่จขกท.เอาประสบการณ์มาแบ่งปัน เพื่อนๆคนอื่นจะได้เตรียมตัวให้พร้อม ในเวปไซด์ของ กองตรวจคนเข้าเมืองอังกฤษ มีบอกไว้ว่า การเข้าประเทศนั้น เป็นหน้าที่รับผิดชอบและอำนาจของตม. ถึงแม้ว่าเราจะได้วีซ่าแล้ว แต่ก็ต้องสามารถโชว์เอกสารเมื่อตม.ร้องขอได้ จากคุณ : MedicinePath เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 53 11:59:04

ความคิดเห็นที่ 10 การที่ขอวีซ่าผ่านไม่ได้หมายความว่าจะได้เข้าประเทศ 100% เป็นอำนาจของ ตม. ที่จะพิจารณา เค้าไม่สนใจหรอกว่าอยุู่เมืองไทยคุณจะรวยแค่ไหนหรือนั่งเครื่องชั้นไหนมา แล้วการที่คุณผ่านมาสิบประเทศโดยไม่โดนซักก็ไม่ได้หมายความว่าประเทศที่ 11 จะต้องไม่โดนด้วย เค้าทำตามหน้าที่นะครับอย่าไปว่าเค้าเลย อีตาฝรั่งคนนี้เราก็เจอกันครั้งเดียวที่เมืองไทย เค้าเชิญให้ไปฉันก็ไป ขนาดผมไม่มีหน้าที่ที่จะต้องระวังเรื่องพวกนี้ ผมอ่านปุ๊บผมมีคำถามในใจทันที่เลย ว่ามันง่ายขนาดนั้นเลยหรือ จากคุณ : okus เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 53 12:55:22

ความคิดเห็นที่ 11 MedicinePath ขอบคุณมากค่ะ ไม่รู้จริง ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่เราต้องเตรียมพร้อม ในกรณีที่ขอไปเอง ไม่ได้ไปกับทัวร์...ตื่นเต้นแต่ก็ผ่านทุกอย่างไปได้ด้วยดี...ตอนแรกก็เกือบจะหลุดนะคะ แต่คิดว่าถ้าโดนส่งกลับ...เหนื่อยตาย อิอิ เราก็คิดว่า ในเล่มมีวีซ่าหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น เชงเกน หลายใบ ก็ไม่น่าจะมีปัญหา...เพื่อนที่อังกฤษเค้าบอกว่า ตอนนี้พวกยุโรปตะวันออกมาเยอะมาก เค้าเข้าได้เลยนี่ค่ะไม่ต้องขอวีซ่า หนำซ้ำตอนนี้แรงงานพวกโปแลนด์เยอะมาก...คนไทยคงชิดซ้ายเร็ว ๆ นี้นะค่ะ จากคุณ : เจ้อ้อน เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 53 12:59:31

ความคิดเห็นที่ 12 okus ที่เขียนมานี่ให้ประกอบการพิจารณา อย่าตำหนิกันเลยคะ มันจะกลายเป็นนอกประเด็นไปนะค่ะ คนเราคุยกันด้วยเหตุผลค่ะไม่ใช่อารมณ์...ก็แค่อยากเตือนใครที่จะไปให้เตรียมพร้อมเผื่อเค้าอยู่ในสถาณการณ์ประมาทเหมือนดิฉันเท่้านั้นเอง คำว่าร่ำรวยขอเถอะค่ะ...ไม่ได้อวดรวย แค่ประโยคว่านั่งบิสสิเนสไปนี่ เพราะจะบอกว่า การบินไทยให้สิทธิพิเศษเข้าฟาสแทรคได้แค่นั้นเอง ประเด็นอยู่ตรงไหน ทำไมไม่พยายามเข้าใจกันบ้างเลย.... จากคุณ : เจ้อ้อน เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 53 13:03:07

ความคิดเห็นที่ 13 ใช่แล้วจ้า พวกโปล.. ไม่ต้องขอวีซ่า ตามข้อตกลงของอียู แต่ว่า ยังไงก็ต้องผ่านตม.นะครับ  เหมือนคนอังกฤษเข้าออกบ้านตัวเอง ก็ต้องโดนตรวจตรงตมเหมือนกัน... ไม่เหมือนประเทศในกลุ่มข้อตกลงเชงเก้น (แต่อังกฤษไม่ยอมเข้า) ที่ตามสัญญา มีการยกเลิก internal border หรือเขตแดนระหว่างประเทศสมาชิก ดังนั้นประชากรในกลุ่มประเทศสมาชิกสามารถเดินทาง เคลื่อนย้ายถิ่นฐานได้โดยไม่ต้องรับการตรวจสอบ(และควบคุม) อังกฤษยอมรวมกับอียู เพื่อสิทธิประโยชน์ทางการค้า แต่ไม่ร่วมกับเชงเก้นเพราะเห็นตัวอย่างเยอรมัน ที่อยู่ใกล้ยุโรปตะวันออก และถูกยุโรปตะวันออกย้ายเข้ามาเยอะ สวิสเซอร์แลนด์ ไม่ร่วมอียู (ใครจะเครมภาษี จากการซื้อของระวังนะครับ ต้องทำที่สวิสฯถ้าซื้อของในสวิสฯ ถ้าซื้อมาจากนอกสวิสฯก็ทำที่นี่ไม่ได้) เพราะว่าเค้ามั่นใจในเสถียรภาพของเศรษฐกิจบ้านเค้า แต่ยอมร่วมเชงเก้น เป็นประเทศน้องใหม่ล่าสุด เพราะหวังผลทางการท่องเที่ยว แต่ของแถมที่ได้คือ การอพยพ อีกแล้ว..... จากคุณ : MedicinePath เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 53 13:27:19

ความคิดเห็นที่ 14 ทำไม บางความเห็นถึงใช้ภาษาที่ดูแรงกับ จขกท. จังเนี่ย ขอบคุณเจ้าของกรทู้ที่เอาเรื่องมาแบ่งปันครับ จากคุณ : นภาอากาศ (นภาอากาศ) เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 53 13:27:40

ความคิดเห็นที่ 15 ที่ฝรั่งเศส ช่องต่อตม. มี 2 ฝั่งคะ  ฝั่งของคนที่ถือพาสปอร์ตอียู แถวยาวเฟ้ยมาก  ส่วนฝั่งธรรมดาไม่ค่อยยาวเท่าไหร่  ระหว่างรอก็แอบชำเลืองมองฝั่งโน้น  เห็นยืนกันนานเหมือนกันนะคะ  น่าจะหลายคำถามอยู่ พอถึงเราเค้าถามแค่ว่า  มากี่วัน พักที่ไหน ตอบเสร็จก็ปั๊มให้เลย ไม่น่าจะเกิน 2 นาที ปล.พวกใบจอง รร จองตั๋วเตเจเวนั่งไปที่อื่นๆ  ตั๋วขากลับเราถือไว้พร้อมหมดนะคะเผื่อเค้าขอดู จากคุณ : frunky amy เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 53 14:00:37

ความคิดเห็นที่ 16 อิอิอิ..เข้าใจอารมณ์นั้นเลยค่ะ ปรกติเราเข้าๆๆออกๆๆอังกฤษปีละ 2-3 ครั้ง แต่งงานแล้ว ก็ยังโดนคำถามเดิมๆๆค่ะ มากับใคร อยู่ที่ไหน มากี่วัน ทำงานอะไร เคยมากี่ครั้ง บ้านเป็นยังไง มาทำอะไร มีตั๋วขากลับไม๊ มานี่คิดจะทำงานด้วยหรือเปล่า......... โหอีกเยอะค่ะ ........ ยิ่งถ้าพูดภาษาอังกฤษไม่คล่องนะคะ รับรองโดนกระหน่ำค่ะ อีกทั้งถ้าพักบ้านฝรั่งผู้ชายนี่ยิ่งโดนจับตามองถามแบบสุดๆๆ ขนาดนักเรียนยังโดนเข้าห้องสัมพาษเดี่ยวเลยค่ะ พอดีที่อังกฤษตอนนี้มีชนชาติอื่นพยายามทำว่ามาเที่ยวแล้วหลบอยู่ในประเทศเยอะมากๆ ทำให้ ตม. เข้มสุดๆค่ะ เพราะหลายๆๆคนขนญาติพี่น้องเข้ามาเป็นคนอังกฤษเลยก็ว่าได้ อีกทั้งผู้หญิงยุโรปและหลายๆๆประเทศที่จะเข้ามาทำงานก็เยอะ ตอนนี้เค้าเลยพยายามกันๆๆไว้ค่ะ ง่ายๆๆ ลองดูในลอนดอน .... แทบจะไม่มีใครเป็นคนอังกฤษแท้ๆเลย  ยกเว้นตำรวจจราจร !! เดี๋ยวนี้ usa ก็คล้ายๆกันค่ะ วีซ่า 10 ปีนี่ไม่มีความหมาย ถ้าข้อมูลไม่แน่นพอ ตม. ก็ไม่ให้เข้าประเทศซะเฉยๆค่ะ ดังนั้นไม่ต้องหัวเสียนะคะ.............. :) จากคุณ : ~ k E t S y ~ เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 53 15:13:54

ความคิดเห็นที่ 17 ~ k E t S y ~ ขอบคุณมากค่ะ หัวเสียตอนนั้น ตอนนี้ก็มาแชร์กันไม่ให้คนที่จะไปตามหลังเราหัวเสีย ให้เค้าได้เตรียมตัวให้พร้อมไงค่ะ... จากคุณ : เจ้อ้อน เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 53 15:33:19

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณ จขกท. ที่มาแชร์ประสบการณ์...เข้าใจอารมณ์ตอนนั้นค่ะ เคยโดนเหมือนกัน แต่ไม่มากเหมือน จขกท. ***จขกท.ใจเย็นมาก แก้ไขเมื่อ 23 ต.ค. 53 21:45:04 จากคุณ : july 19 เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 53 19:50:38

ความคิดเห็นที่ 19 เคยรู้จักคนนึง สามีเป็นอเมริกัน ลูกเรียนอยู่ที่อเมริกา จะไปเยี่ยมลูก ตัวเองรวยสุดๆ มีบ้านหรูพร้อมที่ทางให้เช่ามากมายในเมืองกรุง ถูก ตม. ที่นั่นส่งกลับมาเรียบร้อยโรงเรียน US ค่ะ จากคุณ : Bpearl เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 53 20:44:02

ความคิดเห็นที่ 20 ..วันนี้คุยกะน้าสาวไปเมกา โดน ตม เมกาเอาเข้าห้องเลย เพราะไปสามนางเกษียณทั้งหมด น้าพูดอังกฤษได้คนเดียวแต่อีกสองคนที่ไปด้วยพูดไม่ได้เลย ทั้งๆ ที่คนหนึ่งเป็นซิติเซ่นต์ ส่วนอีกคนเป็นกะเหรี่ยงไทย ก็โดนซัดไปเยอะเหมือนกัน พวกเค้าก้เพิ่งรู้จักกันแต่เป็นเพื่อนร่วมเดินทางกันไป สรุปว่ารอดมาได้ในที่สุด...ปีหน้าจะไปอีกแต่จะแวะที่ี่ฝรั่งเศสก่อนแล้วค่อยกลับไปที่อังกฤษ ไม่รู้ว่า ตม ที่ฝรั่งเศสจะเป็นไง เคยไปกะทัวร์สองครั้ง เค้าก็ไม่เห็นถามอะไรเราเลย ปั้มแล้วก็ให้ไป แต่ปีหน้าจะเป็นไงไม่รู้นะ รู้แต่ว่าเชงเกนเขี้ยวมากแทบจะให้ตามวันที่เราเดินทางเลย....ใครมีประสบการณ์แชร์บ้างนะค่ะ ขอบคุณและขอโทษด้วยถ้ากระทู้นี้รบกวนจิตใจใครค่ะ... จากคุณ : เจ้อ้อน เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 53 22:14:38

ความคิดเห็นที่ 21 หุหุ ขอบคุณนะคะ คิดซะว่าซ้อมๆ ภาษาอังกฤษก่อนไปเที่ยว อิอิ จากคุณ : snas89Pink เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 53 00:00:25

ความคิดเห็นที่ 22 คุณสามีเคยพูดเล่นๆตอนเราเล่าขั้นตอนขอวีซ่าว่า  เออ...คนขอวีซ่าถูกต้องดันได้ยากเย็นแสนเข็น คนมันเลยไม่ทำมาอยู่ซะงั้นไม่นีสวีซ่า (เค้าประชดรัฐบาลเค้าที่ไม่จัดการปัญหาคนหนีเข้าเมืองนะคะ) ที่อังกฤษเค้ามีปัญหาเยอะ เรื่องหนีเข้าเมือง ยังเรื่องผู้ก่อการร้ายอีก คงตรวจกันเข้มหน่อย ใจเขาใจเรา (ว่าแล้วเดี๋ยวเตือนเพื่อนเราพกหนังสือเชิญมาด้วย เผื่อเจอการซักถาม) ขอบคุณที่มาแชร์ประสบการณ์คะ จากคุณ : marzo เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 53 02:32:37

ความคิดเห็นที่ 23 ผมว่า จขกท กลับไปอ่านที่คุณพิมพ์อีกทีละกันว่าวิธีการเขียนของคุณมันอย่ากจะแชร์ประสพการร์หรือต้องการอะไรกันแน่   เท่าที่ผมอ่านไม่ว่าเค้าจะถามอะไรไม่ว่าจะเป็นคำถามพื้นฐานแค่ไหนผมเห็นคุณสวนเค้าทุกคำถามเลย จากคุณ : okus เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 53 10:34:39

ความคิดเห็นที่ 24 okus ที่สวนนะอยู่นอกเครื่องหมายคำพูด หมายถึงความคิดของฉันเองไม่ได้เกี่ยวกะสวน ตม ถ้าสวนแบบนั้นก็คงได้กลับมาเมืองไทย แต่ไงก็ตามนะคะ เอาส่วนที่ดีแล้วกัน ส่วนที่คุณคิดว่าไม่ดีก็อย่าไปเก็บให้รกสมองเลยนะค่ะ ฉันว่าคนเรามีสิทธิ์ที่จะคิด เหมือนคุณก็คิดต่างไปตามทางของคุณ ซึ่งฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรค่ะ มุมมองมีสองมุม แล้วแต่จะมองกันเอาก็แล้วกัน ป่วยการที่จะตอบแล้ว ถ้าคุณคิดว่าสิ่งที่เล่ามาไม่มีสาระก็ไม่ต้องเพียรมาโต้ตอบดีกว่าค่ะ เสียเวลาคุณเปล่า ๆ นะค่ะ อยากให้คุณเจอเองแล้วคุณจะรู้สึกยังไงแล้วมาแชร์กันดีกว่าค่ะ จากคุณ : เจ้อ้อน เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 53 12:29:14

ความคิดเห็นที่ 25 เราก็เคยโดนถามเหมือนกันค่ะที่อังกฤษ "หน้าอกของคุณเท่าไหร่ ?? "36" ใส่คัพ อะไร "คัพติ้ว" ขอจับได้ไหม "ได้ แต่ของปลอมนะ" ทำไมพูดอย่างนั้นหละ "ก็ ฉันใช้คำนำหน้าว่า MR. นิ ดูดี ๆ Look at this !!"  เชิญ !! แล้วเขาก็เชิญดิฉันไปแบบรีบด่วนทันพลัน ค่ะ แก้ไขเมื่อ 24 ต.ค. 53 12:50:10 จากคุณ : ThaiRoyalsilk เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 53 12:45:56

ความคิดเห็นที่ 26 เรื่องโดนซักเคยเจอครับ visa ผมก็หลายประเทศ ไปมาก็หลายที่รวมทั้งที่ uk  ก็ไม่ค่อยโดนถามอะไรมากมายเหมือนกันอย่างมากก็มากี่วัน พักที่ไหน โดนซักมากๆผมเคยเจอที่ฮ่องกง (ประเทศที่ผมคิดว่าเข้มงวดน้อยที่สุดแล้ว) ครั้งนั้นผมเพิ่งกลับจากเยอรมันได้ไม่กี่วัน และทั้งๆที่ในพาสปอร์ตผมก็ไปฮ่องกงไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง วันนั้นโดนหนักเลย ซักละเอียดยิบ มากับใคร พักที่ไหน มาทำไมหลายครั้ง เพิ่งไปเยอรมันมาไม่ใช่เหรอไปทำอะไร ขอดูเอกสารงตั๋วขากลับ เอกสารการจองโรงแรม  ผมก็ตอบไปตามที่เค้าอยากรู้  เพราะผมรู้ว่านั่นคือหน้าที่เค้า ถ้าคุณเข้าใจว่ามันคือหน้าที่ ความคิดคุณจะเป็นอีกแบบนึง ความคิดที่คุณคิดต่างๆในใจแต่ไม่ได้สวนเค้าก็คงจะไม่เกิดขึ้น ส่วนประเด็นที่หลายๆคนรวมทั้งผมอ่านแล้วมองคุณในแง่ไม่ดีก็พิจารณาเองครับ คุณอาจไม่ตั้งใจแต่ตัวหนังสือมันออกมาอย่างนั้น จากคุณ : okus เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 53 14:11:33

ความคิดเห็นที่ 27 เคยโดนที่อังกฤษเหมือนกัน เขาก็ถามแบบคุณ มีเพิ่มก็คือทำงานอะไร ได้เงินเดือนเท่าไร พอเราบอกเป็นบาทไป เขาให้คำนวณเป็นเงินปอนด์ คำนาณนานไปหน่อยเจ้าหน้าที่เริ่มหน้าเข้ม ยิงคำถามมาอีก แล้วพกเงินมาเที่ยวเท่าไร ขอดูเงินด้วย แต่เขาไม่ได้เอามือมาแตะเงินเรานะ เขาให้เราหยิบแล้วนับให้ดู เราบอกเขาว่าเราแยกเก็บเงินไว้หลาย ๆ มุมของกระเป๋า เขาก็บอกให้หยิบออกมา ไม่เป็นไรจะคอยจ้า ก็ไม่มีอะไรซีเรียส ตอบไปตามความจริง หลาย ๆ ประเทศที่ผ่านก็เป็นแบบนี้ ยกเว้นประเทศไทยหรือเปล่าไม่รู้ อยากให้ถามให้หนักแบบนี้บ้าง แต่เท่าที่เห็นไม่มีใครถามเลย ประทับตราปล่อยกันไปง่าย ๆ จากคุณ : Worldwide Backpacker เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 53 15:24:48

ความคิดเห็นที่ 28 ...ฮ่องกงเข้าออกบ่อยๆ น่าจะโดนถาม เพราะว่ามีคนไทยไปทำงานคาราโอเกะเยอะ ทั้งชายหยิงค่ะ...ที่เอามาคุยเพราะไปหลายประเทศแล้วไม่เคยโดนซักครั้งค่ะ ก็เลยเป็นเรื่องแปลกที่สุดสำหรับตัวเอง เรื่องใครจะคิดยังไงก็ดิฉันไม่เป็นไรค่ะ ขอแชร์แค่ประสบการณ์แล้วกันนะค่ะ...ใครจะไปก็เตรียมตัวให้พร้อมด้วย อย่างหลาย ๆ คนที่ตอบในกระทู้นี้ก็ไม่เห็นเค้าแสดงความเห็นอะไรในเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องการเขียน เจ้อาจจะเป็นคนตรงไปตรงมาเกินไป คิดอย่างไรพูดอย่างนั้น ความเห็นเราแตกต่างกันได้ค่ะ ความคิดคนเราก็ใช่ว่าจะต้องตรงกันเสมอไป แต่ทุกอย่างอยู่ที่เหตุผลกับความถูกต้อง ในเมื่อเจ้บริสุทธิ์ใจคิดอย่างไรตอนนั้น เขียนไปตามนั้น และก็ไม่ได้เดือดร้อนใครด้วย แต่ถ้าทำให้ใครเดือดร้อนจริงๆ เจ้ก็ขอโทษด้วยนะค่ะ...เพราะเป้าหมายเพื่อมาแบ่งปันไม่ได้คิดจะมาทะเลาะเบาะแว้งกับใครค่ะ จริง ๆ จากคุณ : เจ้อ้อน เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 53 16:55:35

ความคิดเห็นที่ 29 Worldwide Backpacker โห โดนขนาดนี้เป็นเจ้คงลมจับ...ไม่ก็ยัวะจนขอกลับเองเลย....ถือว่าคุณใจเย็นมากมาย ทำไมอยากให้เมืองไทยถามแบบนี้หละค่ะ จากคุณ : เจ้อ้อน เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 53 16:58:41

ความคิดเห็นที่ 30 เมี๊ยวเหมี่ยว ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันค่ะว่า ทีเวลาฝรั่ง ๆแก่ ๆ วัยปลดประจำการบ้าน มานหนีมาฝังรากฝังตัวที่เมืองไทยนี่ไม่ยักกะเป็นปัญหา เพราะลำพังวัยเกษียณ แล้วจะอยู่ทำมาหาแดรกบ้านตัวเองก็คงไม่ไหวค่าครองชีพสูง จึงต้องหนีมาอยู่ ประเทศที่กำลังพัฒนา มาอยู่แล้วก็สร้างความวุ่นวาย ไหนจะทะเลาะกัน ชกต่อย กัน ยาเสพติด และอาราย ๆอีกมากมาย แต่พอพวกกรูจะเข้าบ้านพวกเมิงทีนี่ทำเป็นถามโน้น ถามนี่ให้วุ่นวาย เป็นเมี๊ยวเหมี่ยวให้ไปอยู่ก็ไม่อยู่หรอกค่ะน้ำเปล่าขวดละ 150 บาท แบบนั้น อีกอย่าง ลูกและผัว ก็อยู่เมืองไทย คงไม่อยากจะเป็นหญิงไทย ค้าขายไกลกว่าชาติใดในโลกหรอก แต่เมี๊ยวเหมี่ยวก็ขอบคุณเจ๊อ้อนนะค่ะพี่ แชร์ประสบการณ์ให้ฟัง แต่ก็อย่าคิดไรมากค่ะ นานาจิตตัง เราต้องการแบ่ง ปันประสบการณ์และเตือนคนอื่นไว้ให้พร้อมก่อนเดินทาง แต่บางคนเขาอาจ จะไปสะดุดตรงที่ความที่เป็นคนมีกะตังค์ของคุณพี่เลยหาเรื่องดื้อ ๆ ซะงั้น จริง ๆก็อิจฉาเหมือนกันนะค่ะ แต่ได้แค่ทำตาปริบ ๆ เจียมตัวและหัวนมค่ะ มี ประสบการณ์อะไรใหม่ ๆนำมาเล่าสู่กันฟังอีกนะค่ะเจ๊ ส่วนใครจะไม่ฟังอะไรก็ ช่างหัวมานค่ะ สวยและรวยมากอย่าได้ใส่ใจ จากคุณ : ThaiRoyalsilk เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 53 21:02:53

ความคิดเห็นที่ 31 ใช่ค่ะ อยากให้ ตม ไทย เข้มงวดกับคนเข้าประเทศไทยบ้างอะ จากคุณ : Freedom of Life เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 01:05:53

ความคิดเห็นที่ 32 ของเราเจอโหดกว่า จขกท เป็นไหนๆ ค่ะ เพราะคราวนั้นไปอังกฤษครั้งแรก และเปนการเดินทางไกลที่สุดด้วยตัวเองคนเดียว ตอนนั้นก็แทบไม่ได้เตรียมตัวเหมือนกันค่ะ พอดีไปพักกับเพื่อนที่เรียนอยู่ที่นั่น ตม. ถามว่าเพื่อนเรียนที่ไหน ที่อยู่อยู่ทีไหน คือตอนนั้นเก็บเอกสารทุกอย่างไว้ไหนก็ไม่รู้ค่ะ จำอะไรไม่ได้เลย จำได้อย่างเดียวคือเบอร์โทรเพื่อน พอผ่านตม. ปุ๊บ นึกว่าจะลิงโลดผ่านได้สบาย ที่ไหนได้ล่ะคะ โดนให้รื้อกระเป๋าออกมาต่อหน้าประชาชีเลยค่ะ แต่เราบริสุทธ์ใจซะอย่างอยากจะรื้อก็รื้อไปแล้วก็ให้พวกเค้าช่วยเก็บกลับเหมือนเดิมค่ะ โมโหอย่างเดียวคือตอนเก็บกลับมันเก็บเข้าไม่เหมือนเดิมไงละคะ จากคุณ : preppie_ploy เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 12:58:36

ความคิดเห็นที่ 33 หนูก้อเคยโดน ตม ฮ่องกงจับเข้าไปในห้องค่ะ แล้วถามว่า มาขายตัวหรือ เปล่า... อึ้งเรยค่ะ ดีที่พกบัตร นศ กะ เงินสดอย่างมากมายไป เรยได้เข้าค่ะ จากคุณ : mercipians เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 16:36:21

ความคิดเห็นที่ 34 ไปอังกฤษคราวที่แล้ว เป็นการไปประชุม เจ้าหน้าที่ต.ม. ก็ถามอย่างละเอียด ขอดูหนังสือเชิญ ซึ่งเราทำสำเนาไว้ พอเจ้าหน้าที่ต.ม. เอาหนังสือเชิญไปดู ยังขอเอาไปถ่ายเอกสารเลยเก็บไว้ด้วย แปลกดีเหมือนกัน จากคุณ : สาวญี่ปุ่น เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 53 15:36:27

ความคิดเห็นที่ 35 เคยเจอมาตั้งแต่สาวยันตอนนี้กลางสาวไปแล้ว ตอนเป็นสาวนะคะ เคยโดนตม.ที่เนเธอร์แลนด์ถามว่า มาำทำงานพิเศษหรือเปล่า เพราะตอนนั้นเราอายุประมาณ 22-23 แล้วบริษัทส่งเราไปทำงานปีนึง ....... ขนาดว่ามีจดหมายรับรองอย่างดี บริษัทใหญ่โต เค้าก็ยังจ้องแล้วจ้องอีก ยังมาถามเราเลยว่าบริษัทเราให้คนไทยมาทำงานที่ยุโรปทำไม (คิดในใจว่า หนอยตรูมาบ้างไม่ได้เหรอ ที่กทม. พวกฝรั่งออกเยอะแยะ) แต่เราโปรยยิ้มสยามไป พร้อมบอกว่า ก็บริษัทฉันเป็นบริษัทอินเตอร์เนชั่นแนล เค้ามีการโยกย้ายพนักงานไปโน่นมานี่ ตลอดแหละ เพื่อนฉันคนดัชยังไปทำงานเมืองไทย ฉันก็ไม่เห็นว่า ตม.ไทยจะว่าอะไรนะ เจ้าหน้าที่หันมายิ้ม แล้วบอกว่า "That's fine for me to ... welcome lady!!) แล้วเราก็เดินเชิดออกมา เจอคนขับรถของบริษัทที่รอรับอยู่แล้ว ล่าสุดเพิ่งกลับมาเมื่อวันอังคาร ไปทำงานที่อังกฤษสองวัน ตม.ยังถามเลยค่ะ ว่ามาทำไมสองวัน เราบอกว่ามาประชุมกับลูกค้าสองวันก็พอ และจริง ๆ ฉันอยู่ในช่วง vacation จ๊ะ เพียงแต่ฉันเห็นว่าฉันอยู่ยุโรปและลูกค้ามีปัญหาอยากให้ไปคุยตกลงกันพอดี ฉันก็เลยบินจากสวิตฯ มาเนี่ยแหละ แล้วเค้าก็ถามอีกสามสี่คำประมาณว่าบริษัททำอะไร เป็นยังไง เว็บไซด์อะไร (แอบไปเช็คเว็บบริษัทเราอีกต่างหาก) แล้วก็ให้เราผ่าน ปูลู ตม. อังกฤษตอนนี้เข้มมาก เพราะปัญหาอย่างที่คุณ medicinepath บอกค่ะ แถมตอนนี้เพื่อนเราบอกว่า เค้าจะระวังพวกคนรวย ๆ ด้วยนะคะ เพราะเหมือนแบบว่า มีคนฐานะดีประเทศอื่น แอบมาอยู่อังกฤษเพื่อใช้สิทธิประโยชน์เรื่องการประกันสุขภาพ อะไรเทือกนี้แหละ (เราก็ไม่ทราบในรายละเอียดเหมือนกัน) ขนาดคนอเมริกัน เค้าก็โดนไม่ต่างจากเรานั่นแหละคะ คนอเมริกันโดนให้ตอบคำถาม จนไม่รู้จะตอบยังไงมั้ง ไปถามเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่มองหน้า แล้วถามว่าเป็น american หรือเปล่า ทำไมไม่เข้าใจภาษาอังกฤษ (ซะงั้น) จากคุณ : Travel Animal เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 53 23:48:33

ความคิดเห็นที่ 36 ไปอังกฤษ กลับมาแล้ว วีซ่าเยี่ยมแฟน ครั้งแรกไม่ผ่าน หลักฐานไม่แน่นพอ ครั้งที่2 ยื่นใหม่ จัดเอกสารเองทุกอย่าง เพราะบางคนให้บริษัททำให้ แต่ยังไงก็ต้องไปสแกนนิ้วมือ หรือโชว์ตัวอยู่ดี จะบินไปอีกเดือนหน้า ตอนไปครั้งแรก นึกในใจว่า....สาธุอย่าติดตม.อังกฤษ เหมือนติด ตม.ที่ฮ่องกง เป็นไงล่ะ แป๊ะๆๆเลย นั่งรอพาสอยู่เกือบชั่วโมง ไม่รู้เอาไปทำไรที่ออฟฟิศ เจ้าหน้า ตม.เข้มงวดมากค่ะ ถามทุกอย่างน่ะค่ะ ถามจนหมดคำถามที่จะถาม แล้วยังให้เขียนชื่อแฟน ถามเกี่ยวกับเราทุกอย่าง แต่พอดีว่าเราเอาเอกสารตอนที่ขอวีซ่าติดไปด้วย รูปถ่ายตัวเอง+แฟน ที่ต้องเตรวจและเข้มงวด เพราะบางคน รุ่นก่อนๆๆไปเป็นโรบินฮูดกันเยอะ คนหลังๆอย่างเราๆเลยลำบาก โดนไปเหมารวม กลัวขอวีซ่ามาเที่ยว แล้วมาแอบทำงาน เพราะพลเมืองประเทศเค้าตกงานยังมี หรือวีซ่าหมดไม่กลับประเทศตัวเองซะงั้น ขอไม่ยากน่ะค่ะ เอกสารทุกอย่างพร้อม ถ้าทำงานบริษัท มีจดหมายรับรอง ทุกอย่าง หลักฐานแน่น มีเงินพร้อม วีซ่าไม่ยากอย่างที่คิดหรอกค่ะ ใครที่อยากไปเที่ยวอังกฤษ สู้ๆน่ะค่ะ ขอให้โชคดีค่ะ จากคุณ : go on เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 53 06:08:13 A:183.89.248.69 X: TicketID:294249