 |
แหะๆ มาช้าอีกตามเคย ทุกความเห็นตอบไปครบถ้วนสมบูรณ์หมดแล้ว ขอเป็นจัดทริปให้แทนนะคะ ^_^
ถ้าตั้งใจจะพักแถวหนานจิงตะวันออก (Nanjing dong lu = หนานจิงตงลู่) อยู่แล้ว
- ถ้าไม่รีบร้อน เดินทางด้วยรถไฟใต้ดินสาย 2 ได้เลย มีเปลี่ยนรถครั้งเดียวที่สถานีก่วงหลาน (Guanglan road = ก่วงหลางลู่) แต่ถ้ากลัวเสียเวลาก็นั่ง Maglev ซึ่งต้องมาต่อรถสาย 2 ที่สถานีหลงหยาง (Longyang road = หลงหยางลู่) เหมือนกันค่ะ
ค่า Limo ที่เคยนั่ง (ปี 2004) ราคา 700 RMB ส่วนแท็กซี่อยู่ที่ราวๆ ร้อยกว่าหยวน (ขาเข้าเมือง ไป People's Square ไม่เคยต่ำกว่า 150 RMB เลยค่ะ แต่ขากลับจะถูกกว่าเสมอ ซึ่งไม่ว่าจะตัดสินใจพักที่ไหน ขอให้พิมพ์ชื่อภาษาจีนพร้อมอังกฤษ และแผนที่ของโรงแรมสำหรับให้แท็กซี่ดูด้วยนะคะ และเวลาไปเที่ยวให้พกนามบัตรโรงแรมที่มีแผนที่และภาษาจีนกำกับเสมอ ก่อนออกจากโรงแรมอาจจะให้พนักงานโรงแรมช่วยเขียนภาษาจีนกำกับให้สำหรับสถานที่ที่จะไปด้วย
- แลกเงินไปแต่พอใช้ตามร้านข้างถนนก็พอค่ะ แลกเยอะไป กลับมาแลกคืนก็ขาดทุน ค่าโรงแรมสินค้าในห้างหรือร้านใหญ่ กับร้านอาหารระดับกลางขึ้นไปใช้บัตรเครดิตจ่ายได้เลย ส่วนที่แลกเหรียญ แนะนำให้เข้าไปซื้อของกระจุกกระจิกตามร้านสะดวกซื้อ สตาร์บัคส์ หรือ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ด้วยธนบัตรใบละ 100 RMB เพื่อแตกเป็นสตางค์ย่อยๆ ค่ะ เวลารับใบละ 50 RMB มา ขอให้ดูตัวเลขที่มุมธนบัตรว่าเปลี่ยนสีได้หรือเปล่า (ขยับไปมาจะเป็นทองสลับเขียว)
- ที่เที่ยว ถ้าไป 3-4 วัน ก็สามารถไปสถานที่เที่ยวหลักๆ ได้เกือบครบแล้วค่ะ ช่วงปลายพ.ย. ถ้าเป็นคนขี้หนาว (เปิดแอร์ 24-25 องศาแล้วรู้สึกหนาว) ก็จัดว่าหนาวเอาเรื่องเลย ควรมีผ้าพันคอและถุงเท้าหนาๆ ติดไปด้วย แต่ถ้าเป็นคนขี้ร้อน เสื้อกันหนาวปกติตัวเดียวสวมทับเสื้อแขนยาวขายาวเนื้อหนาๆ ก็ใช้ได้อยู่นะคะ
ทำแผนเที่ยวไว้เผื่อให้ตัดสินใจวางแผนค่ะ (เขียนทั้งภาษาอังกฤษ จีน และคำอ่านจีนให้ไว้ เผื่อไว้ถามทางกับคนจีน เห็นว่าไปคนเดียว แต่แผนเที่ยวปรับเปลี่ยนได้ตามความสะดวกนะคะ)
วันที่ 1 ช่วงเช้า
ถ้าโรงแรมไม่มีอาหารเช้าให้ ถนนแถวนั้น (เดินมุ่งหน้าถนนใหญ่ชื่อ Xizang = 西藏路 = ชีจ้างลู่) ช่วงเช้าๆ มีพวกปาท่องโก๋ ขนมจีนๆ โจ๊กขาย ถ้าสายๆ ห้างเปิด มีร้านชื่อ หย่งเหอคิง ขายน้ำเต้าหู้ ปาท่องโก๋ โจ๊กเหมือนกัน ไม่งั้นก็เดินหาร้าน Family mart มีพวกลูกชิ้นในซุปเผ็ดให้ทานแก้หิวได้
หลังอาหารเช้า
ถ้ายังเช้าอยู่ เลือกได้ว่าจะเดินไปถ่ายรูปที่ The bund (外滩 = ว่ายทัน) ก่อนหรือไปสวนอวี้ (Yuyuan = 豫园 = อวี้หยวน) ถ้าชอบช้อปปิ้ง ไป The Bund ก่อน เพราะมือยังว่างพอที่จะถ่ายรูป 
The Bund เดินจากโรงแรมไปได้เลย (ถ้าแข็งแรงนะคะ อากาศเย็นๆ เดินไม่เหนื่อย) จากนั้นจะนั่งแท็กซี่หรือเดินย้อนกลับไปที่ถนนหนานจิง เพื่อขึ้นรถไฟใต้ดินสาย 10 (สถานี Yuyuan ทางออก 1) ไปสวนอวี้ก็ได้ค่ะ
หลังจากชมสวน และไหว้พระวัดเฉินหวงเมี่ยว (Chenhuangmiao = 城隍庙) แล้ว จะลองชิมเสี่ยวหลงเปาเจ้าดังที่ชื่อ หนานเสียงหม่านโถวเตี้ยน (Nanxiang mantoudian = 南翔馒头店 ) ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าไม่ถูกปากเท่าของร้าน Dintaifung ค่ะ เพราะแป้งหนาเกิน แต่เห็นคนจีนและนักท่องเที่ยวตะวันตกชอบกัน และอยู่ในร้านแนะนำของหนังสือนำเที่ยว ถ้าจะทานที่ร้าน ไม่ต้องรอคิวนะคะ เดินขึ้นไปเลย ปัญหา คือ ถ้าพูดจีนไม่ได้ การสั่งอาจจะลำบากหน่อย (ไม่มีคำแนะนำสำหรับร้านนี้ เพราะตอนไปชิมมีคนพูดจีนนำไปทุกครั้งค่ะ) ของทานเล่นแถวนั้นมีเยอะ ตั้งแต่เสี่ยวหลงเปายักษ์ ผลไม้เสียบไม้เคลือบน้ำตาลที่เรียกว่า ถังหูลู (Tanghulu = 糖葫蘆) เต้าหู้เหม็น (Chou doufu = 臭豆腐 = โช่วโต้วฝู)
ถ้าจะไปช้อปปิ้ง แนะนำที่ถนน Fuyou (福佑路) ตรงนั้นจะมีของที่ระลึกแบบจีนๆ รวมถึงของกระจุกกระจิกขายในราคาส่ง ตึกที่ขายหลักๆ มี 2 ตึก คือ Fu yuan shang sha (福源商厦) กับ Fu you men shang sha (福佑门商厦)
หากของที่ซื้อมาไม่มากนัก ไปเที่ยวต่อได้สะดวก แนะนำให้ไปเดินเล่นที่ซินเทียนตี้ (Xintiandi = 新天地) ช่วงกลางวันก่อน 1 รอบ ที่นี่มีทั้งร้าน Dintaifung (鼎泰丰 = ติ่นไท่เฟิง) และ Crystal Jade (Feicuijiujia = 翡翠酒家 = เฝ่ยชุ่ยจิ่วเจีย) จะไปโดยเดิน (ซึ่งไกลเอาเรื่อง) หรือนั่งแท็กซี่ก็ได้ค่ะ)
หลังเที่ยง
ไปชมบ้านดร.ซุนยัดเซ็น (上海孙中山故居 ถ้าเวลามีจำกัดหรือไม่สนใจแนวนี้ ข้ามได้) และวัดหลงหัว (Longhua temple = 龙华寺 = Longhuasi = หลงหัวซึ) วัดหลงหัวไปได้ด้วยรถไฟใต้ดินสาย 1 จากสถานี South Huangpi road (黄陂南路站 = Huangpi nan lu zhan = หวงผีหนานลู่จ้าน) ลงสถานี Caobao road (漕宝路 = เฉาเป่าลู่) แล้วต่อแท็กซี่ค่ะ (จริงๆ มีสาย 3 วิ่งไปใกล้วัด แต่ไม่เหมาะถ้าไปตามแผนนี้)
* ถ้าทำเวลาไม่ทันที่จะไปวัดหลงหัว สามารถย้ายไปวันที่ 3 แทนได้ *
หากชอบช้อปฯ เสื้อผ้า รองเท้า (โดยเฉพาะบู๊ทสวยๆ ราคาไม่แพง) หลังไปวัด นั่งสาย 1 ไปลงที่ถนน South Shanxi (陕西南路 = ส่านชีหนานลู่) สำหรับแฟน H&M เดินจากสถานี South Shanxi ไปถนน Huaihai มุ่งหน้าทางตะวันออก จะเจอร้านอยู่ตรงหัวมุม เดินกันได้หลายชม. ค่ะ
ถ้าหิว แนะนำร้านอาหารแถวนี้ คือ ร้าน Grape (Putaoyuan = 葡萄园 = ปู้เท่าหยวน) อยู่ที่ 55A Xinle Lu, Xiangyang Bei Lu (55A 新乐路, 襄阳北路 = อู่สืออู่ฮ่าว ชินเล่อลู่ เซียงหยางเป่ยลู่)
หากไม่ช้อปฯ กลับจากวัดหลงหัว ไปต่อที่วัดจิ้งอัน (Jing an temple = 静安寺 = จิ้งอันซึ) เดินไปที่สถานีรถไฟสาย 3 ชื่อ Longcao station (龙漕路站 = หลงเฉาลู่จ้าน) นั่งสาย 3 ไปลงสถานี Zhongshan Park (Zhongshan gongyuan = 中山公园站 = จงซานกงหยวนจ้าน) ต่อสาย 2 ไปลงสถานี Jing an
การไปวัดไม่ควรเกิน 16:00 หากคิดว่าไปไม่ทันก็เลื่อนไปวันอื่นแทนได้
หลังจากไปวัดจิ้งอันเสร็จ ถ้าเวลาอยู่ที่ประมาณบ่ายสามกว่า สามารถไปวัดพระหยก (Jade Buddha temple = Yufosi = 玉佛寺 = อวี้โฝซึ) ต่อได้ นั่งสาย 2 จากจิ้งอันไปลงสถานี West Nanjing road (Nanjing xi lu zhan = 南京西路站 = หนานจิงชีลู่จ้าน) แล้วต่อแท็กซี่ที่หน้าห้าง Westgate mall (Meilongzhen = 梅龙镇广场 = เหม่ยหลงเจินก่วงฉ่าง) โดยบอกแท็กซี่ว่าไป อวี้โฝซึ เจียงหนิงลู่ ไห่ฝางลู่ (Jade Buddha temple, Jiangning road, Haifang road = 玉佛寺, 江宁路, 海防路)
จากวัด ถ้าพระอาทิตย์ยังไม่ตกดิน (แต่ส่วนใหญ่ช่วงนั้นจะมืดเร็ว) จะไปหอไข่มุก (Shanghai Oriental Pearl tower = Dongfang mingzhuta = 东方明珠塔 = ตงฟางหมิงจูถ่า) ต่อก็ได้ แนะนำให้ขึ้นไปชมวิวก่อนเพื่อถ่ายรูปทั้งแสงกลางวันและแสงไฟ แล้วจึงลงมาเข้าพิพิธภัณฑ์ (Shanghai Municipal History Museum = 上海市历史博物馆 = Shanghai Shi Lishi Bowuguan) ด้านล่าง เดินทางด้วยรถไฟใต้ดินสาย 2 จากสถานี West Nanjing road ไปลงที่ Lujiazui (陆家嘴 = ลู่เจียสุ่ย)
แต่ถ้ามืดก่อน แนะนำให้เอาของไปเก็บที่โรงแรม แล้วไปเดินเล่นที่ถนนคนเดิน หาของอร่อยๆ ทาน ตามกระทู้นี้ค่ะ http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2009/12/E8660634/E8660634.html
ทานเสร็จแล้ว ก็เดินเล่น (หรือนั่งรถรางนำเที่ยวบนถนนหนานจิง) เพื่อไปถ่ายรูป The bund วิวกลางคืนต่อได้
วันที่ 2
หลังอาหารเช้า
เริ่มที่พิพิธภัณฑ์เซี่ยงไฮ้ (Shanghai museum = 上海博物馆 = ชั่งไห่โป๋อู้ก่วน) ต่อด้วย Shanghai Urban planning exhibition center = 上海城市规划展览馆 = Shanghai Chengshi Guihua Zhanlan Guan = ชั่งไห่เฉิงชึกุยฮั่วจ่านหล่านก่วน)
อาหารเที่ยง (อาจจะบ่าย ถ้าชอบเดินพิพิธภัณฑ์) ดูตามกระทู้ที่ให้ลิ้งค์ไว้ด้านบนค่ะ หรือจะทานอาหารง่ายๆ ก็มีพวกเบอร์เกอร์คิง แม็คโดนัลด์ ไก่ทอด อาหารชุด ก๋วยเตี๋ยว ให้เลือกได้ที่ใต้ห้างนิวเวิลด์ (New world department store = 新世界百货) ตรงทางออกที่ 7 สถานีรถไฟใต้ดิน People's Square (จากถนนคนเดิน เดินลอดข้ามถนนเข้าสถานีไป ห้างอยู่ทางขวามือ)
ช่วงบ่าย ถ้าวันแรกไปหอไข่มุกไม่ทัน ให้ไปวันนี้แทน โดยกะเวลาให้ถึงก่อนฟ้ามืด (เผื่อรอคิวเข้าด้วย) แล้วขึ้นไปชั้นบนสุด รอบนนั้นจนทุกตึกเปิดไฟ ถ่ายรูปเสร็จแล้วจึงลงมาเข้าพิพิธภัณฑ์ด้านล่าง
มื้อเย็นทานที่ห้างซุปเปอร์แบรนด์มอลล์ (Super Brand mall = 正大广场 = เจิ้งต้าก่วงฉ่าง) ฝั่งตรงข้ามได้เลย
ถ้าวันแรกเข้าหอไข่มุกไปแล้ว จะไปเที่ยวชม และช้อปปิ้ง ที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ต่อก็ได้ค่ะ ส่วนมื้อเย็นก็เลือกได้ว่าจะเป็นที่ห้างซุปเปอร์แบรนด์หรือแถวๆ โรงแรม
วันที่ 3
หลังอาหารเช้า
ถ้าไม่มีรายการอื่นที่อยากไป แนะนำให้ไปชมเมืองน้ำใกล้ๆ อย่าง ชีเป่า (Qibao = 七宝古镇 = ชีเป่ากู่เจิ้น) นั่งรถสาย 1 จาก Peoples Square ลง Shanghai Indoor stadium ต่อสาย 4 ลง Yishan ต่อสาย 9 ลง Qibao ออกจากสถานีมา เดินเลี้ยวซ้าย ตรงไปเรื่อยๆ ถึงสี่แยกแล้วเลี้ยวซ้ายอีกครั้ง เดินไปซักพักจะเห็นป้ายชีเป่าอยู่ด้านบน (หรือจะไปขึ้นสาย 2 ลง Zhongshan park ต่อสาย 3 หรือ 4 ลง Yishan ต่อสาย 9 ลง Qibao ก็ได้ค่ะ)
มื้อเที่ยง แถวนั้นอาหารเยอะค่ะ เดินซื้อโน่นนี่ชิมดูก็อิ่มแล้ว
ช่วงบ่าย
ถ้าไม่ได้วัดหลงหัววันแรก ให้ไปวันนี้แทน
หากไปมาแล้ว แนะนำให้เดินเล่นแถว Xujiahui (徐家汇 = สวีเจียฮุ่ย) แถวนั้นมีโบสถ์เก่า ชื่อ St. Ignatius Cathedral ให้ชม และสถานีรถไฟใต้ดินที่นั่นเป็นช้อปปิ้งที่ใหญ่มากอีกจุดหนึ่ง รวมถึงมีห้างขายอุปกรณ์ดิจิตัลทั้งหลายด้วย แต่เวลาไปถามทาง ถามชื่อ Xujiahui cathedral (徐家汇天主教堂 ) คนจีนจะเข้าใจมากกว่า
ช่วงเย็น ย้อนกลับไปดูแสงสียามค่ำคืนที่ซินเทียนตี้ นั่งรถสาย 1 ไปลงที่สถานี South Huangpi road (ตัวจีนอยู่ด้านบน) วิธีกลับโรงแรม ถ้าไม่ดึก นั่งสาย 1 ลง Peoples Square ถ้าเกินสี่ทุ่ม นั่งแท็กซี่ค่ะ หรือจะไปดูกายกรรมก็เลือกได้ มีทั้งที่ Shanghai centre และที่ Shanghai circus world
วันที่ 4 (ไม่แน่ใจว่าเที่ยวบินกี่โมง)
หลังอาหารเช้า
แนะนำให้เดินเล่นแถวๆ ถนน Fuzhou (福州路 = ฝูโจวลู่)
เก็บตกที่ยังไปไม่ครบในวันแรกๆ แล้วเตรียมตัวไปสนามบิน ใช้เส้นทางเดียวกับขาเข้าเมืองค่ะ
เวลามีคนมาเสนอขายอะไรก็ตาม ถ้าไม่ต้องการ บอกเค้าไปเสียงแข็งๆ ว่า หว่อปู๋เย่า เชี่ยเฉี่ย แล้วเดินออกมา โดยเฉพาะของก๊อปฯ ที่บอกให้เดินตามไปดูสินค้าที่บ้าน ห้ามไปเด็ดขาดนะคะ
บอกเผื่อไว้สำหรับผู้ชายด้วยว่า ห้ามรับคำชวนของสาวๆ ไปดื่ม ไปเที่ยวเด็ดขาด เพราะอาจจะโดนตบทรัพย์แบบซึ่งหน้าได้ เพราะเคยมีคนตามไปเที่ยวคาราโอเกะ แล้วโดนขู่กรรโชกทรัพย์ด้วยค่าบริการที่แพงกระเป๋าฉีก แม้เงินสดไม่พอ ก็จะถูกบังคับให้กดเอทีเอ็มออกมา
เรื่องการทำร้ายร่างกายกันไม่มี แต่จะเป็นพวกลักขโมย เช่น ล้วงกระเป๋า หยิบของไปจากโต๊ะ ฉะนั้นขอให้เก็บทรัพย์สินไว้ในระยะที่ปลอดภัย และอย่าให้พ้นสายตาค่ะ ถ้าเทียบความปลอดภัยในการเที่ยวเซี่ยงไฮ้กับที่อื่นๆ ส่วนตัวรู้สึกว่า ปลอดภัยกว่าเดินเที่ยวคนเดียวในปารีสอีกค่ะ
เผื่อจะติดต่อสถานกงสุลไทย หมายเลขโทรศัพท์ 6288 3030
เที่ยวให้สนุกนะคะ
แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 53 02:55:57
| จากคุณ |
:
L@st love   
|
| เขียนเมื่อ |
:
1 พ.ย. 53 02:53:58
|
|
|
|
|
รบกวนแนะนำการไปเที่ยวเซี่ยงไฮ้คนเดียวหน่อยค่ะ
