ความคิดเห็นที่ 1 แย่มาก .. ทำไมพวกมีเงินถึงคิดกันได้แค่นี้นะ ..  >__<" จากคุณ : Jaruad เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 53 22:44:09

ความคิดเห็นที่ 2 เข้ามาโหวตค่ะ จากคุณ : บาร็อกอมยิ้ม เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 53 23:04:38

ความคิดเห็นที่ 3 อันตรายแก่ชีวิต จริงๆ จากคุณ : อ้วนน้อยศิษย์เจ้าแม่ เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 53 23:20:37

ความคิดเห็นที่ 4 เอาอาร์พีจียิงไล่ตูดเรือไปเลยครับ จากคุณ : David_kop เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 00:46:35

ความคิดเห็นที่ 5 เบื่อและเซ็งกับคนพวกนี้ จากคุณ : marzo เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 03:56:22

ความคิดเห็นที่ 6 โหวตเพราะต้องการคำตอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องค่ะ จากคุณ : powerploy เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 07:30:01

ความคิดเห็นที่ 7 อันตรายอ่ะ  เฮ้อ... จากคุณ : snas89Pink เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 08:21:47

ความคิดเห็นที่ 8 เรื่องแบบนี้มีให้เห็นทุกวงการในสังคมไทย ผมเคยเห็นสาววัยรุ่น(หลายคน)นุ่งสั้นสีสันสดใส โดยสารเรือรบไปเที่ยวหมู่เกาะสุรินทร์ (อันนี้ก็คงแหกกฎเหมือนกัน) พอเกิดเหตุก็ต้องเดือดร้อนคนอื่นไปช่วย... จากคุณ : zeids (zeids) เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 08:32:40

ความคิดเห็นที่ 9 เข้ามาหนับหนุน จขกท. ค่ะ  เห็นด้วยอย่างแรง จากคุณ : alway เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 09:00:31

ความคิดเห็นที่ 10 เขียนได้ดีมากๆๆๆเลยค่ะ ตรงใจมากกกกก จากคุณ : นิก (mayalino) เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 09:21:19

ความคิดเห็นที่ 11 อืม ... ถ้ามีข่าวเรือล่มเพราะพายุแถวนั้น ก็ต้องใช้คำว่า " สมควร" หรือเปล่านะ รักชีวิตกันบ้างไหมเนี่ย จากคุณ : แอนด้า เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 10:28:26

ความคิดเห็นที่ 12 คนบางกลุ่ม บางประเภท ไม่สนใจเรื่องกฏกติกามารยาท ถือว่า ถ้าฝึนกฏได้ แสดงว่า ตรูหย่าย เป็นปัญหากับ จนท ผู้ดูแลมาก อย่าไปว่า จนท เลยค่ะ น้ำท่วมปาก ท่วมจมูก ทำก็ตาย ไม่ทำก็ตาย(หยังเขียด) ทั่นๆๆใหญ่ๆโตๆ กันท้างน้านนนนน......... ในเมื่อทั่นๆคิดว่า ตรูจะทำอะไรก็ได้ การจะทำหรือไม่ทำ มันอยู่ที่สามัญสำนึกน่ะแหละ แก้ไขเมื่อ 03 พ.ย. 53 11:25:54 จากคุณ : *Cookies* เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 11:21:17

ความคิดเห็นที่ 13 ผลประโยชน์ของตัวเอง ยอมทำได้ทุกอย่าง บ้านเมืองถึงไม่พัฒนาเพราะคนแบบนี้ โหวตให้ครับ นึกแล้วโมโหจริงๆ พวกมักง่าย เห็นแก่ตัวเห็นแก่เงิน ขอว่าหน่อยละกัน ต้องช่วยกันประนามพวกเห็นแก่ตัว จากคุณ : suruchs เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 13:27:16

ความคิดเห็นที่ 14 .........เห็นด้วยอย่างยิ่ง.......... จากคุณ : เอ่ยรัก เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 13:48:05

ความคิดเห็นที่ 15 ขึ้นชื่อเรือชัดเจนขนาดนี้ ทางผู้ถูกกล่าวหาน่าจะมาชี้แจงสักหน่อยนะครับ เขาอาจจะมีภารกิจสนับสนุนงานผูกทุ่นที่ริเชลิวก็ได้ o_O แต่ถ้ามาทริปดำเที่ยว ก็คาตาล่ะครับ จากคุณ : zoopod เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 15:03:16

ความคิดเห็นที่ 16 เอ่อ.... ตัดชื่อเรือออกไปซะแล้วหรือครับ.... ยังไงทางเรือเขาก็ทราบเรื่องแล้วนะครับ... จากคุณ : Wobbegong เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 23:30:25

ความคิดเห็นที่ 17 เรือเขาไปจอดเพื่อผูกทุ่นหรือว่าพาคนไปดำน้ำล่ะครับ จุดผูกทุ่นที่กองริเชริว ก้อมีน้อยนะ บางทีร้านดำน้ำที่ชำนาญแถบนั้น อาจจะไปผูกทุ่นหรือทำหมายดำน้ำเพิ่มขึ้น (อันนี้มองในแง่ดีไว้ก่อนนะครับ) แต่ถ้าพาไปดำนอกฤดูกาล ที่จริงเรือลำที่เห็นน่าจะมีการสอบถามทางวิทยุไปที่กัปตันเรือ และแจ้งเตือนว่ามีหลายคนที่เห็นการกระทำเห็นแก่ตัวครั้งนี้ และขุ่ว่าจะนำเรื่องนี้ไปดำเนินการต่อไป คราวหน้าทางเรืออาจจะไม่กล้าทำอีกก้อได้ล่ะครับ จากคุณ : sunofsea เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 53 02:12:13

ความคิดเห็นที่ 18 พี่สะน๊อฟฟี่ ครับ ในตารางทริป เค้าก็ระบุเอาไว้ว่าช่วงนั้นเป็นทริปอันดามันเหนือ จากคุณ : Conundrum เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 53 10:33:13

ความคิดเห็นที่ 19 อ้าว มาไม่ทันชื่อเรือ = = จากคุณ : Armani Man เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 53 16:25:52

ความคิดเห็นที่ 20 เรือ"หรือ"ร้านดำน้ำ"หรือ ครูสอนดำน้ำ"ที่เหมาะเรือไปล่ะนั่น จากคุณ : q_cosmo เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 53 10:45:40

ความคิดเห็นที่ 21 ผมเห็นด้วยกับจขกท. นะครับ ต้องช่วยกันดูแลหน่อย ผืนน้ำนี้แผ่นดินนี้เป้นของพวกเราชาวไทยทุกคน  ธรรมชาติต้องมีการซ่อมแซ่มฟื้นฟู ถ้าเจ้าของเรือบางแห่งจัดทริบแบบนี้ ออกพาดำน้ำในช่วงยั งไม่เปิดใช้นี้ โดยหวังผลประโยชน์ และยอมเสียค่าปรับจากการใช้ผืนน้ำนี้ เป็นการไม่เหมาะสมนะครับ และทำบ่อยมาก ผมก้ชอบดำน้ำ ผมก้ต้องรอวันเปิดซีซั่น คนอื่นเค้าก็รอ นักดำน้ำคนอื่นๆเค้าก็รอ นักท่องเที่ยวต่างชาติอื่นก็รอเหมือนกัน เรือลำอื่นๆที่ภูเก็ต และจังหวัดอื่นก็รอเหมือนกัน ไม่มีใครฝ่าฝืนระเบียบนี้ และทุกคนก็เคารพกฏระเบียบกัน ประเทศอื่นๆ ก็มีระเบียบแบบนี้ และยึดถือกันอย่างเคร่งครัด แต่กิจการเรือบางเจ้าถือโอกาสทำแบบนี้ ยอมเสียค่าปรับแล้วพานักดำน้ำออกทริปในช่วงปิดซีซั่นนี้แย่มาก คุณยอมเสียค่าปรับแต่ตามหลักแล้วคุณเสียแล้วคุณต้องออกจากพื้นที่ด้วยไม่ใช้ยังพาดำต่อ ใช้ไม่ได้นะครับ ถ้าทางการปรับด้วยเงินที่มากขึ้นสัก 1แสนบาท คุณคงไม่ออกทริปแบบนี้ใช่ไหม คงขาดทุนแน่ แต่นี้คุณคงได้กำไรละซิ แล้วคนอื่นที่เค้ารอ นักดำน้ำคนอื่นที่เค้ารอ เรือลำอื่นๆที่ภูเก็ตและจังหวัดเอื่นๆค้าก็รอ เค้าจะคิดอย่างไรที่คุณทำแบบนี้ สมควรหรือ พวกเราทุกคนต้องช่วยกันดูแลนะครับ ผืนน้ำนี้แผ่นดินนี้ ของพวกเราคนไทยทุกคน อุทยานภูกระดึง และอื่นๆก็มีวันเปิดปิดเหมือนกัน เพื่อฟื้นฟูธรรมชาติให้กลับมาให้พวกเราได้ชื่นชมได้ตลอด คุณเป็นเจ้าของเรือใหญ่ ออกทริปประจำยิ่งได้เห็นได้สัมผัสทุกวัน ควรจะดูแลและเป็นหูเป็นตาให้ด้วย ไม่ใช้มาทำแบบนี้เสียเอง . จากคุณ : rambutri เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 08:43:16

ความคิดเห็นที่ 22 เรืออะไรครับ ใครรู้บอกหน่อยได้ไหม จากคุณ : q_cosmo เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 13:31:54

ความคิดเห็นที่ 23 ^ ^ ^ ผมคิดว่าคุณ Q ก็เป็นผู้ใหญ่ในวงการนี้นี่ครับ เรือหรูๆ มีกาแฟสด อร่อยๆ บนเรือด้วย.. ในไทยจะมีสักกี่ลำ ที่จะกล้าทำ คุณ Q ลองคิดดูซิ่ครับ แก้ไขเมื่อ 08 พ.ย. 53 15:24:03 จากคุณ : เรือเค้าหรูนะ (supergreen) เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 15:22:33

ความคิดเห็นที่ 24 ฮ่าๆงานเข้าจนได้ บังเอิ๊ณณ บังเอิญ ผมก็อยู่ในเรือที่ไปทำกิจกรรมผูกทุ่นซะด้วยแหละ ณ วินาทีที่เห็น เรือ Liveaboard (ลำหนึงพูดชื่อเด่วโดนฟ้อง เอาเป็นเรือสีขาวผสมน้ำเงินละกัน เอิ๊กๆ) ที่กองหินริเชริว ก็แปลกใจเหมือนกันว่ามาได้ไง อุทยานเปิดวันที่ 1/11/53 มิใช่หรอ แถมก่อนลงน้ำ เรือลำนั้นยังส่งสัญญาณ ว่าเจอแมนต้าช่วงdiveเช้า กระผมเลยจัดแจงเตรียมกล้องลงน้ำ เฮ้ย !! มิใช่  ทั้งนี้ผมว่าจรรยาบรรณของการประกอบอาชีพของผู้ประกอบการดำน้ำนั้นก็มีส่วนสำคัญที่จะช่วยกับการอนุรักษ์ธรรมชาติให้ฟื่น จากคุณ : Moopupae เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 53 04:38:15

ความคิดเห็นที่ 25 supergreen ดีใจด้วยครับ ที่ยังมีชีวิตอยู่ (ล้อเล่นครับ) ทายตำแหน่งผมเกือบถูกนะครับ แต่ผมเป็นสารวัตรกำนันครับ ไม่ได้เป็นผู้ใหญ่ฯ ช่วยงานน้ำท่วมตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน็อตอยู่ครับ --------------------------------------------------------------- จากประเด็นนี้ ข้อใหญ่ใจความก็คือ การละเมิดกฎการเข้าพื้นที่อุทยาน ขออนุญาตอภิปรายเรื่องนี้ก่อนครับ การละเมิดกฏข้อนี้ไม่ใข่มีเรือลำนี้เพียงลำเดียว (คิดว่าผมเดาถูกเพราะกาแฟสดและสีขาวผสมสีน้ำเงิน) เรือทุกลำที่ประกอบกิจการดำน้ำในฝั่งอันดามันนั้นละเมิดกฏทุกลำครับ อย่างน้อย ๑ ข้อที่ละเมิดคือ "การแจ้งขออนุญาตนำเรือเข้าเขตพื้นที่อุทยาน โดยขอแบบฟอร์มได้ที่ สำนักงานของอุทยาน ทั้งสิมิลันและสุรินที่บนฝั่ง" ดังนั้นการละมิดกฏจึงกลายเป็นเหตุการณ์ปกติไปแล้ว ส่วนการละเมิดกฏอื่นๆก็มีอยู่หลายกรณี อย่างง่ายที่สุดคือ ครูสอนดำน้ำ เช่าเหมาเรือ พานักดำน้ำออกไปดำน้ำ ซึ่งเข้าข่าย การประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยไม่ได้รับอนุญาตจาก สำนักพัฒนาการท่องเที่ยว แต่ก็เห็นมีการดำน้ำรูปแบบนี้อยู่บ่อยครั้ง และได้รับความนิยมจากนักดำน้ำชาวไทยไม่น้อย นี่ก็คือการละเมิดกฏ และการละเว้นการชำระภาษีเพราะไม่ได้ เป็นรูปบบของบริษัท ดังนั้น เพื่อให้เกิดความถูกต้อง จึงไม่ควรสนับสนุน รวมทั้งผู้ประกอบการเรือก็ต้องไม่สนับสนุนนักดำน้ำก็ไม่ควรไปดำน้ำ กับการจัดทริปดำน้ำรูปแบบนี้ ....แต่....ใครจะสนใจกันล่ะครับ สิ่งสำคัญก็คือ ร้านดำน้ำ ในพื้นที่อันดามันเหนือ ได้มีข้อเสนอ หลายครั้ง ว่า น่าจะมีการ ปรับเปลี่ยนเวลา การเปิดของอุทยานให้เร็วกว่ากำหนดเดิม ประมาณ ๑๕ วัน ในกรณีนี้ คงต้องทำความเข้าใจในส่วนของผู้ประกอบการด้วยเช่นกันว่า ในแต่ละปี มีเวลาให้ผู้ประกอบการ ได้ทำธุรกิจ เพียง ๖ เดือน เท่านั้น การเพิ่มเวลาอีก ๑๕ วันจึงมีความหมายมากสำหรับเจ้าของเรือ ในท้องถิ่น, ร้านดำน้ำ, ลูกเรือและแรงงานที่เกี่ยวขอ้งกับธุรกิจดำน้ำ ซึ่งในอีก ๖ เดือนที่เหลืออยู่ของแต่ละปี นั้นพวกเขาจะไม่มีงานทำ หลายๆครั้งที่เจ้าของเรือ ขนาดกลางและขนาดเล็กจำเป็นต้องออกเรือ ทั้งที่ต้องขาดทุนหรือจำเป็นต้องทำผิดกฏเพราะอย่างน้อยที่สุด ก็ทำให้ ลูกเรือมีรายได้ มีค่าเทอมให้ลูกที่ต้องเปิดเรียนในข่วงเวลานีพอดี ในกรณีของเรือลำนี้ที่ทำผิดกฏ แน่นอนที่เป็นสิ่งที่ไม่สมควรและเรือลำอื่นๆ ก็ไม่สมควรทำ แต่ทั้งนี้ เรือทุกลำในฝั่งอันดามันก็คงต้องทำหากเป็นความต้องการของนักดำน้ำ ดังนั้นนักดำน้ำที่ดีมีคุณภาพก็ไม่สมควรที่จะไปดำน้ำ ในช่วงเวลานี้ ไม่ว่าจะเป้นการเหมาลำโดยครูดำน้ำ,ร้านดำน้ำ เจ้าของเรือ ที่ขายทริปเอง   จากข้อความของ จขกท เหมือนจะมุ่งเป้าไปที่เรือ(เจ้าของเรือ) แต่ตัวผมเองมองว่า ผู้ที่สมควร ได้รับการตำหนิ มากที่สุด น่าจะเป็น "นักดำน้ำที่ไร้จิตสำนึกเหล่านั้นมากกว่า" เพราะ ถ้าไม่มีลูกค้านักดำน้ำ หรือมีไม่มากพอ เจ้าของเรือคนไหนเขาจะไป ยิ่งไปกว่านั้น เรือลำที่ว่านี้ เป็นหนึ่งในเรือไม่กี่ลำ ที่ให้ความช่วยเหลือด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและแนวปะการัง ของทะเลไทย ไม่ว่าจะเป็นการผูกทุ่น สำรวจแนวปะการัง ซึ่งกิจกรรมของเรือและเข้าของเรือลำนี้ ผมมีโอกาส ได้เห็นโดยที่ไม่มีสื่อมวลชน บริษัทเอกชน และ นักดำน้ำมายืนเป็นวอลเปเปอร์ถ่ายภาพประชาสัมพันธ์ทางหนังสือพิมพ์ และทางโทรทัศน์ โดยที่เบื้องหลังคือการผลาญงบประมาณแผ่นดิน โดยไร้ประโยชน์ต่อทะเลแต่มากประโยชน์ต่อกระเป๋าสตางค์ จากคุณ : q_cosmo เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 53 20:46:28

ความคิดเห็นที่ 26 .ผมไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับเรือที่ว่านี้นะครับ เพียงแต่บางครั้งได้รับความอนุเคราะห์ ในการทำงานทางทะเล หลายครั้ง โดยเฉพาะงานซ่อมแซมทุ่น (ที่ส่วนมากห่วงหักหมดแล้ว) เพื่อให้เรือได้มีที่จอดเรือโดยไม่รบกวนแนวปะการัง ส่วนหรืออีกลำที่ต้องกล่าวถึงคือเรือ สกูบาเทค ครับ ที่มักจะอาสาขนส่งเชือก ลูกทุ่นและร่วมงานด้วยหลายครั้ง จากคุณ : q_cosmo เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 53 20:51:11

ความคิดเห็นที่ 27 ^ ทำงาน.. ก็ส่วนทำงาน.. ละเมิดกฎ.. ก็ส่วนของการละเมิดกฎ.. (แก้ไข..ข้อความหายอ่ะ) "ยิ่งไปกว่านั้น เรือลำที่ว่านี้ เป็นหนึ่งในเรือไม่กี่ลำ ที่ให้ความช่วยเหลือด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและแนวปะการัง ของทะเลไทย ไม่ว่าจะเป็นการผูกทุ่น สำรวจแนวปะการัง" ถ้าเจ้าของเรือ เป็นคนที่ให้ความอนุเคราะห์ในเรื่องเหล่านี้... ผมว่า..  เจ้าของน่าจะเป็นคนที่มีสำนึกที่ดีต่อท้องทะเลขนาดนี้.. ยิ่งต้องเข้าใจในเรื่องของกฎ ระเบียบของอุทยานที่มี.. เค้ายิ่งไม่น่าจะทำเรื่องที่ไม่ถูกต้องแบบนี้ด้วยซ้ำไป... ถ้าเรือลำหนึ่งลำใด.. เคยช่วยเหลือทำกิจกรรม ให้กับหน่วยงานของอช. แล้วต่อไป  ก็เข้าไปดำน้ำได้ตลอดเวลาหรือไงครับ.. ผมคงไม่พุ่งเป้าที่ใครเฉพาะ..  ผมก็ตำหนิทั้งหมดนั่นแหละ.. (ลองอ่านดูใหม่ก็ไ้ด้ครับ) "สิ่งสำคัญก็คือ ร้านดำน้ำ ในพื้นที่อันดามันเหนือ ได้มีข้อเสนอ หลายครั้งว่า น่าจะมีการ ปรับเปลี่ยนเวลา การเปิดของอุทยานให้เร็วกว่ากำหนดเดิมประมาณ ๑๕ วัน" ปัจจุบัน ก็เลื่อนขึ้นจากเมื่อก่อนเปิดวันที่  15.11  มาเป็น  1.11 แล้วนี่ครับ "เรือทุกลำที่ประกอบกิจการดำน้ำในฝั่งอันดามันนั้นละเมิดกฏทุกลำครับอย่างน้อย ๑ ข้อที่ละเมิด คือ...." ไม่จริงมัง.. เท่าที่เห็น.. ผมเห็นเรือลำนั้นลำเดียวเอง คห.ข้างบนก็เห็น ใครๆ ที่อยู่บนเรือที่ไปตัดอวนที่ริเชริว ก็เห็นกันทั้งนั้นละครับ ถ้าบอกว่าเรือทุกลำ.. ทำผิดเหมือนกันหมด.. ผมก็ต้องเห็นเรือลำอื่นด้วยซิ่.. แต่ที่เห็นนี่ลำเดียวเลยนี่นา...  ??? ร้านดำน้ำในพื้นที่..คงไม่มีใครกล้าทำมังผมว่า.. ตัดทางทำมาหากินของตัวเองมากกว่า  ทั้งๆ ที่ทุกร้าน เรือทุกลำ เค้าก็อยากจัดทริป ในช่วงเวลานั้นทั้งนั้นละ ผมว่า.. (ทำไมเค้ารอกันได้ล่ะ) การอ้างช่วงเวลาทำมาหากิน.. คงอ้างไม่ได้.. กฎต้องเป็นกฎ.. ที่เค้าออกกฎ.. ก็เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงฤดูมรสุม.. หากเกิดอะไรขึ้น ใครจะมารับผิดชอบล่ะ..  ผมว่าฟังไม่ขึ้น.. คนทำธุรกิจ.. ก็รู้เรื่องระยะเวลามรสุมทั้งนั้น.. ไม่ว่าร้านฝรั่ง  ไทย สงสัยค่าปรับ.. คงจะไม่เท่าไหร่.. ถึงไ่ด้ยอมฝ่าฝืนกฎกัน (คนที่ไปเค้าไม่สนหรอกเรื่องเงินแค่นั้น) ต่อไปอช. น่าจะเปลี่ยนแปลงค่าปรับ ให้สูงขึ้นเป็น 100,000.- หรือ 200,000.-  ดูซิว่าต่อไปยังกล้ากันอีกหรือเปล่า ถ้ามีกฎ ระเบียบ กำหนดไว้แล้วไม่ทำตาม จะออกมาทำไมกันล่ะ สังคมจะอยู่กันได้อย่างไร  ถ้าคนยังขาดวินัยขนาดนี้ ที่ผ่านมา.. ก็มีให้เห็นกันอยู่บ่อยๆ เวลาไปเที่ยวทะเลนั่งเรือทัวร์ไปเที่ยว ขากลับนั่งเรือรบกลับ.. ก็มีให้เห็นอยู่ประจำ   เรือล่ม..  ก็มีให้เห็นอยู่.. จะรอให้เกิดเรื่องแบบนี้.. กันอีกหรือไงล่ะครับ... แก้ไขเมื่อ 11 พ.ย. 53 00:24:03 จากคุณ : ตะวันลับฟ้า (ตะวันลับฟ้า) เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 53 00:06:48

ความคิดเห็นที่ 28 ต้องแยกแยะนะครับ ช่วยเหลือสังคมผมเห็นด้วยนะครับ แต่ไม่ได้หมายความจะสามารถมาละเมิดกฎระเบียบบ้านเมืองได้นะครับ บ้านเมืองมีกฎมีระเบียบต้องเข้าใจด้วยนะครับมันคนละเรื่องกันครับ เหมือนกับว่า เช่นคุณช่วยสังคมขุดลอกท่อระบายน้ำ แล้วทำให้คุณมีบัตรเบ่งสามารถทำผิดกฎหมายได้หรือ ไม่ใช่หรอกครับ และทุกคน ทุกสังคมก็มีภาระ ลูก ครอบครัว เหมือนกันทั้งนั้นไม่ใช้เฉพาะคนทำงานที่เกี่ยวข้องกับกิจการดำน้ำเท่านั้น ยิ่งคนที่ถูกน้ำท่วมรายได้ไม่มี แต่ก็ไม่ทำผิดกฎหมายนะครับ ถ้าคุณเห็นว่าระยะเวลายังไม่เหมาะสมก็รวมตัวกันทำเรื่องเสนอไปซิครับ ได้รับอนุมัติแล้วค่อยออกเรือ ไม่ใช่มาละเมิดกฎเกณฑ์แบบนี้ครับ จากคุณ : rambutri เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 53 12:34:09

ความคิดเห็นที่ 29 เรื่องนี้เป็นเรื่องปกติครับที่เรือจะวิ่งเข้าไปก่อนช่วงเวลาเปิด หรือวิ่งไปหลังช่วงที่ปิดแล้ว ผมบอกได้เลยครับว่าเรือแทบทุกลำทำแบบนั้นแน่นอนครับ มันขึ้นอยู่กับว่าใครที่เป็นคนเช่าเรือในช่วงนั้นด้วย ในส่วนทางเจ้าของเรือส่วนมากไม่รู้เรื่องหรอก เพราะการจัดการเรือส่วนมากทางทีมงานที่ขายทริปจะเป็นคนจัดการ  จะมีก็ส่วนน้อยที่เจ้าของลงมาจัดการขายทริปเอง ที่จริงช่วงเวลาเปิดปิดอุทยานทั้งสิมิลันและสุรินทร์มันตรงกับช่วงมรสุม ทางอุทยานเลยต้องประกาศปิด มันไม่ได้เกี่ยวกับปิดเพื่อฟื้นฟูสภาพปะการัง หรืออะไร ๆที่อ้างมา ลองถ้าสภาพอากาศในเขตนั้นไม่มีมรสุม ผมรับประกันว่าเค้าก็เปิดให้เข้าไปดำจนพังกันข้างนึง เหมือนอย่างจุดดำน้ำบางจุด ต้องรอให้เน่าก่อนแล้วถึงจะปิด  ผมเองก็ทำงานพวกนี้อยู่ แล้วเรื่องที่เรือเอกชนให้ความช่วยเหลือผูกทุ่นหรือสำรวจอะไรก็แล้วแต่ บอกได้เลยไม่มีไคทำฟรี ๆหรอก เบิกงบกันมาอยู่แล้ว เรื่องทุ่นที่ผูกก็เหมือนกันครับ เห็นอุทยานเก็บเงินกันจัง แต่ทุ่นที่มีมันก็ยังมีอยู่เท่าเดิม ยิ่งที่ริชิริว จะกี่ปีกี่ปีก็มีอยู่แค่นั้น ถามเจ้าหน้าที่ที่เอาเรือออกมาไล่เก็บเงินเรือที่เข้ามาดำน้ำก็ใบ้กิน ทั้งหมดมันอยู่ที่ตัวบุคคลมากกว่า คนส่วนมากเห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ ยิ่งเป็นคนที่มีอำนาจด้วยแล้วก็เป็นเรื่องง่าย  มันก็เหมือนกับเรื่องอื่น ๆในสังคมปัจจุบันนี้ เพราะมีคนจำพวกนี้อยู่ บ้านเราเมืองเราถึงได้เป็นแบบนี้ คงจะยากซักนิดที่จะทำให้อะไรๆถูกต้อง จากคุณ : mindcontrol (mindcontrol) เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 07:41:23

ความคิดเห็นที่ 30 ทำดีส่วนทำดีครับ ทำไม่ดีก็ส่วนทำไม่ดีครับ ติและชมแยกกันชัดเจน จากคุณ : Rey เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 53 18:50:15